ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
18-04-2024, 19:40
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  บทพิสูจน์ว่าใครใหญ่ในแผ่นดินนี้ระหว่าง........................ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: 1 [2]
บทพิสูจน์ว่าใครใหญ่ในแผ่นดินนี้ระหว่าง........................  (อ่าน 4767 ครั้ง)
ssa
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 68


« ตอบ #50 เมื่อ: 01-09-2008, 17:41 »

ป.วิ.พ ม.79 พิมพ์ให้เห็นทนโท่

หัดค้นหาความรู้หน่อย ไม่มีสติปัญญาหาข้อมูลมาโต้ ก็ดำน้ำลูกเดียว
น่าสมเพชเวทนา


บันทึกการเข้า
ssa
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 68


« ตอบ #51 เมื่อ: 01-09-2008, 17:49 »

อย่าว่าแต่คำวินิจฉัยคุ้มครองชั่วคราวที่ยังไม่มีคดีความเกิดขึ้นเลย
 ต่อให้เป็นคำพิพากษาชี้ขาดคดี ก็ต้องรอและขึ้นอยู่กับวิธีการส่งหมาย

ไม่ใช่แค่ศาลตัดสินแล้วยึด/อายัดทรัพย์ผู้แพ้คดีได้

ที่คุณว่าไม่เคยได้ยินเพราะคุณไม่รู้เรื่อง ไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่อยากอวดรู้นั่นเอง

คดีแพ่งในประเทศไทยทุกคดีต้องเป็นไปตามป.วิ.พ.ทั้งสิ้น

ก่อนจะออกความเห็นหรือลอกตัดแปะใครมาให้ค้นดูก่อนว่าที่เห็นที่อ่านมาจริงหรือไม่จริง
อย่างคุณแค่อยากเชื่อเท่านั้น ไม่สนว่าจริงหรือไม่จริง ถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง ชอบหรือกฎหมายหรือไม่

นายสมัครอยากอ้างกฎหมายมากนักนี่
หามาให้แล้ว นี่แหละกฎหมายไทยที่ใช้อยู่ทุกคดีทั่วประเทศมานานหลายสิบปีแล้ว
บันทึกการเข้า
Angel_narok
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 70


« ตอบ #52 เมื่อ: 01-09-2008, 17:53 »

มาให้กำลังใจเจ้าของกระทู้ค่ะ

เห็นใจค่ะ

เพราะต้องเลี้ยงปากเลี้ยงท้องอะเนอะ..

อุดมการณ์ และความถูกต้องมันอิ่มที่ไหน...

สุ้ๆๆ นะคะ....หลายโพส คงหาบทความเหนื่อยแย่...

วันนี้ตั้งเป้าไว้ที่เท่าไหร่เหรอค่ะ..

อ่อ แล้ววานบอกเพื่อนๆ ที่พันทิป ที่เฝ้าห้อง เฉลิมไทยด้วยนะ

ขยันกันทุกคน.....คุณแจ๊ค ~JacK_ThE GodfatheR~ อ่า  ก็อยู่ซะดึกเชียว

รักษาสุขภาพด้วยนะ....

เดินตามทั่นนายกเลยเชียว...เราถามไรไม่ยักกะตอบ ไปตอบอะไรก็ไม่รู้...

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-09-2008, 18:20 โดย Angel_narok » บันทึกการเข้า
ssa
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 68


« ตอบ #53 เมื่อ: 01-09-2008, 18:06 »

อย่าว่าแต่คำวินิจฉัยคุ้มครองชั่วคราวที่ยังไม่มีคดีความเกิดขึ้นเลย


แก้ไขคำผิดประโยคข้างบน ที่จริงพิมพ์ผิดหลายที่ แต่คนอ่านพอเดาได้ว่าที่ถูกคืออะไร
แต่ตรงนี้พิใพผิดอาจทำให้เข้าใจผิด คือพิมพ์ตกไปคำหนึ่ง ประโยคนี้ต้องเป็น.....

อย่าว่าแต่คำวินิจฉัยคุ้มครองชั่วคราวที่ยังไม่มี"คำตัดสิน"คดีความเกิดขึ้นเลย


ตกคำว่า"คำตัดสิน"ไป
บันทึกการเข้า
RiDKuN
Administrator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,015



เว็บไซต์
« ตอบ #54 เมื่อ: 01-09-2008, 18:19 »

คนที่เชียร์คนหนีคดีหนีประกันอย่างไม่ลืมหูลืมตา กล้าตั้งกระทู้แบบนี้เลยหรือนี่
น่าจะรู้สึกละอายแก่ใจบ้างนะ
บันทึกการเข้า

คนไม่มี "อุดมคติ" ไม่ใช่ "นักการเมือง"
หาเพื่อนหยิงคุยแก้เหงาครับ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,131


กูรู้มึงต้องอ่าน ฮ่าๆ ขำขำนะจ๊ะ


เว็บไซต์
« ตอบ #55 เมื่อ: 01-09-2008, 18:20 »


ใครเคยได้ยินบ้างว่าหลังคำวินิจฉัย...จำเลยมีเวลา 15 วันในการเตรียมตัว/เตรียมใจว่าจะเอาอย่างไร? เห็นมีแต่คำวินิจฉัยของศาลมีผลบังคับใช้ทันที กรุณาอย่าเบี่ยงเบนประเด็นเลยคู้นนนนน

เค้าให้ไปติดหมาย  ไม่ใช่ให้ ไป รื้อถอน  



ใช้แรงงานหนุ่มหล่อโคดๆแบบพี่จ๊ะนี่ผิดศีลน๊า

ไม่ผิดหรอก ไม่งั้นดิฉันจะไม่นั่งลงนะคร้า  
บันทึกการเข้า

ขอมอบ เพลงนี้ให้กับพี่น้อง พันธมิตรทุกคนฮะ


http://www.imeem.com/sakujo/music/04_GaHIQ/09_avenged_sevenfold_strength_of_the_worldmp3/

strength of the world
jumjim
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 82


« ตอบ #56 เมื่อ: 01-09-2008, 21:19 »

ไอ้จ๊ะ มีงจะแปะหาพ่อ หาแม่เมิงเหรอไอ้เหรี้ย   บทความส้นตรีน พวกนั้น กูอ่านแล้วปวดท้องเยี่ยวทุกที  มาเร้ว อ้าปาก กว้าง ๆ เดี๋ยวกูจะเยี่ยวทะลวงเส้นเลือดในสมองเมิงหน่อย แล้วตกลงเมิงไปดูแดดอีอ้อมายัง แมร่งเหมือนเต่า 100 ปีป่าว ว๊ะ  ไอ้จ๊ะเอ๊ย แม่ง อย่ากะโอ่งเลยน๊ะเมิง เลียเข้าไป เลียเข้าไป  ไอ้ควาย   

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-09-2008, 21:21 โดย jumjim » บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #57 เมื่อ: 02-09-2008, 13:42 »

The Last Emperor

 ยึดทำเนียบเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายหรือไม่? ต่อไปกลุ่มการเมืองก็จะใช้วิธีแบบเดียวกันนี้ได้ใช่ไหม?

******************

อ่า...ทุกอย่างมันมีสาเหตุนะครับ อย่างเปรียบเทียบเหมือน ลูกไม่ยอมทำการบ้าน.....ดังนั้น พ่อยึดเกมส์ ไม่ให้ลูกเล่น
(เพราะพ่ออยากเล่นมานานแล้ว ไม่ช่าย!!)

ก็เพราะรัฐบาลนี้ทำไม่ถูกไม่ควร ประชาชนจึงมาเรียกหาความถูกต้อง...
เอาอย่างล่าสุด รร.เค้าอยู่ดีๆ จะไปย้ายรร.เค้าไปสร้างทำเนียบใหม่ สร้างไมค้าบ ทำเนียบเดิมก็ดีๆ อยู่
แต่เพื่ออยากผลาญงบหารายได้เข้าตัวมากกว่ามั้ง....

กลับบ้านแล้วคับ 5 โมงแว๊ววว เซ็ง
 


ตกลงสังคมไทยจะใช้ความรู้สึกในการตัดสินปัญหาของบ้านเมืองงั้นซิ? กฎหมาย/รธน.กให้ยกเลิกไปดีไหมงั้นก้อ!?!
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #58 เมื่อ: 02-09-2008, 14:04 »

มาให้กำลังใจเจ้าของกระทู้ค่ะ

เห็นใจค่ะ

เพราะต้องเลี้ยงปากเลี้ยงท้องอะเนอะ..

อุดมการณ์ และความถูกต้องมันอิ่มที่ไหน...

สุ้ๆๆ นะคะ....หลายโพส คงหาบทความเหนื่อยแย่...

วันนี้ตั้งเป้าไว้ที่เท่าไหร่เหรอค่ะ..

อ่อ แล้ววานบอกเพื่อนๆ ที่พันทิป ที่เฝ้าห้อง เฉลิมไทยด้วยนะ

ขยันกันทุกคน.....คุณแจ๊ค ~JacK_ThE GodfatheR~ อ่า  ก็อยู่ซะดึกเชียว

รักษาสุขภาพด้วยนะ....

เดินตามทั่นนายกเลยเชียว...เราถามไรไม่ยักกะตอบ ไปตอบอะไรก็ไม่รู้...


Thank you คร้า...อิชั้นยึดคติว่าคนดีอยู่บ้าน คนชั่วอยู่ถนน เพราะใครๆก็ทราบดีว่าการใช้กฎหมู่ประกาศยึดทำเนียบของเหล่าพันธมารเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ ไม่ช้า..พวกนั้นก็ต้องจำนนยอมให้ 9 แกนนำถูกจับขังคุก

อิชั้นฟันธงคร้าคุณขา!!
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #59 เมื่อ: 02-09-2008, 14:10 »

มาดูคลิปลับว่าด้วยเรื่องความป่าเถื่อนของพันธมารกันดีกั่วว่าพวกมันเลวชั่วขนาดไหน!!

http://www.france24.com/en/20080901-thailand-protests-deadly-pad-police-bangkok-pm-Samak-Sundaravej&navi=MONDE
บันทึกการเข้า
นายดอกเข็ม
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 423



« ตอบ #60 เมื่อ: 02-09-2008, 14:16 »

นปช. อยู่สนามหลวงดี ๆ เดินถืออาวุธมาถึงมัฆวานทำไม

พอเกิดมีคนตาย

แกนนำ นปช. พร้อมใจกันพูดพร้อมกันว่า "ผมไม่เกี่ยว"
บันทึกการเข้า

...ความชอบธรรมต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นธรรม...
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #61 เมื่อ: 02-09-2008, 16:28 »

นปช. อยู่สนามหลวงดี ๆ เดินถืออาวุธมาถึงมัฆวานทำไม

พอเกิดมีคนตาย

แกนนำ นปช. พร้อมใจกันพูดพร้อมกันว่า "ผมไม่เกี่ยว"



มันก็ทั้ง 2 ฝ่านอ่ะน๊ะที่มีอาวุธ ฝ่ายนปช.เค้าจะไปแค่ตีหนูแถวๆหน้าทำเนียบ...แต่พธม.หาเรื่องสร้างสถานะการณ์ขึ้นมาเองนี่นา
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #62 เมื่อ: 02-09-2008, 16:38 »

"คนไทยในอังกฤษ ร่อนจม.สนับสนุนรัฐบาลปราบกบฎ

วันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2551
เรื่อง สนับสนุนรัฐบาลในการรักษากฎหมาย กติกาประชาธิปไตย และนำพาความสงบสุขกลับคืนสู่สังคมไทย
เรียน พี่น้องประชาชนไทยทุกท่าน

ตามที่มีคณะบุคคลที่เรียกตัวเองว่า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้รวมตัวชุมนุมเรียกร้องตั้งเงื่อนไขให้รัฐบาลลาออก เสนอแนวทางการเมืองใหม่แบบแต่งตั้ง 70% และเลือกตั้ง 30% โดยสร้างเงื่อนไขการชุมนุมด้วยวิธีการข่มขู่ให้รัฐบาลกระทำตามคำเรียกร้อง โดยใช้ยุทธวิธีที่ละเมิดกฎหมายอย่างร้ายแรง ต่างกรรม ต่างวาระ อาทิ การปิดถนนสายหลักในเมืองหลวง และต่างจังหวัด การบุกรุกเข้ายึดสถานที่ราชการต่าง ๆ รวมทั้งการบุกยึดสถานีโทรทัศน์ NBT การหยุดเดินรถไฟอย่างไม่มีเหตุผลอันสมควร การปิดล้อมสนามบินนานาชาติหลายแห่ง จนกระทั่งการบุกเข้ายึดทำเนียบรัฐบาล โดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชน การกระทำดังกล่าวส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ชื่อเสียง และความเชื่อมั่นของประเทศไทยในสายตาประชาคมโลก ทั้งนี้ยุทธวิธีการเคลื่อนไหวเรียกร้องของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ส่อเค้าลางว่ามีความพยายามยั่วยุให้เกิดความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง และเป็นที่น่าวิตกว่าสถานการณ์อาจลุกลามขยายตัวกลายเป็นวิกฤตที่จะดึงสังคมไทยลงสู่ห้วงเหวแห่งความหายนะในที่สุด กลุ่มคนไทยรักประชาธิปไตยในสหราชอาณาจักรเห็นด้วยกับการใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นอันหลากหลาย ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ทั้งนี้ การใช้สิทธิในการแสดงความคิดเห็นโดยสงบ สันติ ปราศจากอาวุธ และไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่นจะต้องได้รับการคุ้มครอง แต่เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งว่ากลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไม่ได้ยึดถือแนวทางการแสดงความคิดอย่างสงบสันติดังกล่าวเลยแม้แต่น้อย ในทางตรงข้ามเป็นที่ประจักษ์ชัดว่ากลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้เลือกกระทำการเรียกร้องข้อเสนอของตนด้วยการใช้ความสงบสุขของประชาชนเป็นเครื่องมือต่อรอง มีการกระทำอันเป็นการละเมิดกฎหมายต่างกรรม ต่างวาระอย่างต่อเนื่อง ท้าทายอำนาจรัฐ ละเมิดสิทธิของผู้อื่น แม้กระทั่งการท้าทายขัดขืนคำสั่งของศาลยุติธรรม

กลุ่มคนไทยรักประชาธิปไตยในสหราชอาณาจักรร่วมกับพี่น้องประชาชนชาวไทยในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ขอให้กำลังใจรัฐบาล ในการรักษากฎหมาย กติกาประชาธิปไตย และนำความสงบสุขคืนสู่สังคมไทย และขอเรียกร้องให้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยุติการกระทำฝ่าฝืนกฎหมาย แสดงความเคารพกติกาในระบอบประชาธิปไตย และสิทธิของประชาชนที่มีความคิดแตกต่าง ทั้งนี้เพื่อร่วมกันสร้างบรรยากาศแห่ง ความสมัครสมาน สามัคคีของคนในชาติ และนำพาความสงบสุขกลับคืนมาสู่สังคมไทย

ขอแสดงความนับถือ

วัฒนา เอ็บเบจช์

กลุ่มคนไทยรักประชาธิปไตยในสหราชอาณาจักร
อีเมล์: doublezero1@hotmail.co.uk"
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #63 เมื่อ: 02-09-2008, 16:51 »

"บทความ: จากคอมมูนมัฆวาน ถึง ยุทธการไทยคู่ฟ้า


เทอดสยาม ชูธรรม
ที่มา เว็บบอร์ดชมรมฟ้าใหม่
26 สิงหาคม 2551

ปฏิบัติการยึดเมืองในนามยุทธการไทยคู่ฟ้าอย่างอุกอาจของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทั้งในกรุงเทพ และต่างจังหวัด ตั้งแต่เช้าวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2551 สะท้อนให้เห็นพฤติกรรมของผู้นำอย่างสนธิ ลิ้มทองกุล และจำลอง ศรีเมืองที่ชัดเจนว่า พร้อมจะใช้รูปแบบของการยึดอำนาจแบบเดียวกันกับที่กลุ่มบอลเชวิกในรัสเซียใต้การนำของลีออน ทรอตสกี้กระทำในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 1917 ซึ่งตรงกันข้ามกับคำประกาศ”อารยะขัดขืน”ที่เคยชูขึ้นมาเป็นกลยุทธ์การต่อสู้ตั้งแต่แรกอย่างสิ้นเชิง
การกระทำดังกล่าว ยืนยันชัดเจนถึงการยกระดับทางยุทธศาสตร์ของการต่อสู้จากคอมมูนมัฆวานฯ(สร้างรัฐซ้อนรัฐ) มาสู่การยึดอำนาจรัฐโดยตรง(โค่นรัฐบาลจากการเลือกตั้ง เพื่อสร้างการเมืองใหม่) ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอย่างหมดเปลือก

เดือนมิถุนายนกลุ่มพันธมิตรฯได้ประกาศยกระดับการชุมนุมจากต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาเป็นการโค่นล้มรัฐบาลสมัคร โดยจัดกำลังเพื่อชุมนุมยืดเยื้อโดยใช้เขตยึดครองที่ถนนราชดำเนินแถวสะพานมัฆวานรังสรรค์ เป็นเมืองพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นมหาวิทยาลัยราชดำเนิน) โดยจำลอง ศรีเมือง ได้ขยายความว่าเป็น "สถานที่ชุมนุมเริ่มเข้าสู่ยุคพระศรีอาริย์" ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อยู่ร่วมกันด้วยระเบียบวินัย การทำอะไรต้องฟังเสียงคนหมู่มาก ทุกคนสามารถทำอะไรได้อย่างอิสระเสรี ปลอดจากอำนาจรัฐบาลสมัคร

การตั้งเขตอำนาจรัฐใหม่ดังกล่าว ได้รับการยกยอจากนายสุรพงศ์ ชัยนาม อดีตนักการทูตที่ยืนอยู่ข้างเดียวกันว่า คล้ายคลึงกับ New Harmony Society เมืองอุดมคติของสังคมนิยมเพ้อฝันโดยโรเบิร์ต โอเวนใน ค.ศ. 1817 ที่อเมริกา (โดยไม่ยอมพูดถึงข้อเท็จจริงว่า ชุมชนดังกล่าวล้มตั้งแต่เริ่ม)

โดยสาระ เมืองพันธมิตรฯนี้ มีลักษณะสำคัญคือ

- เกิดขึ้นภายใต้สถานการณ์สู้รบทางการเมืองชั่วคราว
- เป็นเขตปลอดอำนาจรัฐที่สมัคร สุนทรเวชเป็นนายกรัฐมนตรี
- เป็นรัฐชั่วคราวที่ปราศจากชนชั้น และต้องการสร้างระบบพึ่งพาตนเองชั่วคราวเพื่อตรึงสถานการณ์ต่อสู้เอาไว้ให้ครบครัน
- เป็นเครื่องมือในการเผยแพร่แนวทางของกลุ่มพันธมิตรฯต่อสาธารณะอื่นๆ หากได้รับชัยชนะในการต่อสู้ เพื่อขยายผลออกไปในระยะยาว

หากเทียบเคียงกับชุมชนในประวัติศาสตร์แล้วเมืองพันธมิตรฯถือว่า มีลักษณะใกล้เคียงกับ ปารีส คอมมูน (หรือ คอมมูน ปารีส La Commune de Paris หรือ Paris Commune) ที่ฝรั่งเศสใน ค.ศ. 1871 ถือเป็นรัฐรูปพิเศษที่ปกครองเขตยึดครองของตนเองในกรุงปารีสในเวลาแสนสั้น คือระหว่างวันที่ 18 มีนาคม – 28 พฤษภาคม

คาร์ล มาร์กซ ให้คำอธิบาย คอมมูนปารีสว่า คือ ต้นกำเนิดในอุดมคติของชาวคอมมิวนิสต์ในอนาคตที่แท้จริง ในขณะที่กลุ่มอนาธิปัตย์ก็ยกย่องเช่นกันว่า นี่คือสังคมไร้รัฐที่เป็นอุดมคติหลัก

ปารีส คอมมูน เกิดขึ้นในขณะที่สังคมฝรั่งเศสยุคหลังนโปเลียน กำลังปั่นป่วนรุนแรงเนื่องจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมที่ทำให้เกิดชนชั้นกรรมกรจำนวนมหาศาล

ปารีส คอมมูน มีองค์กรปกครองสูงสุดได้แก่ กองกำลังแห่งชาติ หรือ national guard ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกที่เข้าร่วมในฐานะโล่มนุษย์ (รวมทั้งผู้หญิงและเด็ก) โดยจะแบ่งหน่วยกองกำลังออกเป็นส่วนย่อยๆเท่ากัน เพื่อทำหน้าที่ฝึกฝน เตรียมความพร้อม ผลิต ส่งกำลังบำรุง ฯ

กองกำลังย่อยนี้ จะส่งตัวแทนเข้าร่วมกำหนดยุทธศาสตร์และยุทธวิธีร่วมกันกับคณะกรรมการส่วนกลางผ่านสภาคอมมูน

การจัดตั้งที่เข้มแข็ง คอมมูนสามารถเข้ายึดหน่วยทหารหลักในปารีส และยึดเอาอาวุธออกมาใช้ในเขตปกครองตัวเองที่ย่านมองมาร์ต อันเป็นย่านคนจนและชนชั้นกลาง

ต่อมาทหารชั้นผู้น้อยบางส่วนได้ละทิ้งผู้บัญชาการ เข้ามาร่วมสมทบเป็นส่วนหนึ่งของคอมมูน แล้วจับตัวผู้บัญชาการในขณะนั้นมายิงเป้า

เมื่อทหารประจำการเข้ามาร่วมสมทบ คอมมูนจึงจัดขบวนใหม่ จัดตั้งสภาคอมมูนขึ้นมาจากการเลือกตั้งของสมาชิกทุกเขตเป็นจำนวน 97 คน และให้ตัวแทนเหล่านี้ เลือกคณะกรรมการคอมมูนสูงสุดขึ้นเสมือนหนึ่งรัฐบาลของคอมมูน

คอมมูนได้สร้างสัญลักษณ์แห่งรัฐใหม่ขึ้นมาหลายประการ เช่น ธงแดง (ต่อมากลายเป็นธงของพวกคอมมิวนิสต์) และอื่นๆ แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ รัฐธรรมนูญของคอมมูนที่มีมีเป้าหมายหลักคือ สร้างสังคมไร้ชนชั้น และรัฐที่มีความเสมอภาคและอิสระเบ็ดเสร็จ และมีสาระล้ำยุค เช่น การแยกรัฐออกจากศาสนจักร ส่งเสริมสิทธิสตรี การยกเลิกทำงานกะกลางคืนของคนงาน บำนาญให้กับคนงานที่ไม่มีคู่หรือหย่าร้าง ยกเลิกดอกเบี้ยโรงรับจำนำ เลื่อนชำระหนี้คนยากจนที่รายได้ต่ำกว่าระดับยากจน ให้สิทธิคนงานได้เข้าร่วมครอบครองกิจการในฐานะหุ้นส่วนแต่ต้องให้ผลตอบแทนเจ้าของเดิม ฯ

ความสำเร็จในช่วงแรก ทำให้ชาวคอมมูนฮึกเหิม และพยายามใช้แผนดาวกระจาย สร้างพันธมิตรกับชนชั้นกรรมกรในเมืองต่างๆทั่วฝรั่งเศส แต่ไม่สำเร็จเพราะถูกปิดล้อมอย่างหนัก ท้ายสุดคอมมูนล่มสลาย ผู้คนที่เข้าร่วมถูกสังหารไปประมาณ 5 หมื่นคนในช่วงเวลาปราบครั้งสุดท้ายที่เรียกว่า อีก 2 หมื่นกว่าคนถูกประหารชีวิต 3.5 พันคน ถูกโยนเข้าคุกมืด และอีก 4 พันคนถูกเนรเทศปล่อยที่หมู่เกาะทะเลใต้

รูปแบบของคอมมูนมัฆวาน ในนามเมืองพันธมิตรฯหรือมหาวิทยาลัยราชดำเนิน ที่สามารถสร้างรัฐซ้อนรัฐในรูปแบบที่คล้ายคลึงกัน แต่ไปไกลกว่าคือสามารถสร้างพันธมิตรเครือข่ายกับเมืองต่างๆในประเทศไทยได้มากพอสมควร น่าจะส่งผลทำให้กลุ่มแกนนำพันธมิตรฯฮึกเหิมมากขึ้น จนหลงเชื่อว่า สามารถจะยกระดับการต่อสู้ให้เข้มข้นมากขึ้นโดยประสานกับเครือข่ายการเมืองอื่นๆทั้งในและนอกระบบ อันเป็นที่มาของยุทธการไทยคู่ฟ้าเพื่อยึดเมือง โดยมุ่งเป้าว่าจะสร้างปรากฏการณ์ปฏิวัติประชาชน เพื่อโค่นล้มทุนสามานย์ที่มี”ระบอบทักษิณ”เป็นตัวแทน แล้วสร้างการเมืองใหม่ที่ปฏิเสธการเมืองแบบเลือกตั้งในรูปแบบเดิม

นั่นหมายความว่า ยุทธการไทยคู่ฟ้า ก็คือ ส่วนหนึ่งของประเด็นการต่อสู้เพื่อชิงอำนาจนำระหว่าง”ทุนสามานย์” กับ”ศักดินาที่ก้าวหน้า”ที่ยังค้างคาและยังไม่รู้ผลแพ้ชนะกันของคนในสังคมไทยในช่วง 3 ปีนี้

สิ่งที่น่าเวทนาอย่างยิ่งก็คือ การต่อสู้ของสิ่งที่เรียกว่า “ทุนสามานย์” และ”ศักดินาที่ก้าวหน้า”นั้น ล้วนเป็นมายาคติที่ไม่เคยดำรงอยู่จริง ไม่ว่าจะพิจารณาจากชุดความคิดทางสังคมใดๆของนักคิดทั่วโลก แม้กระทั่งวัตถุนิยมวิภาษหรือวัตถุนิยมทางประวัติศาสตร์

หากย้อนไปทบทวนข้อเขียนทั้งหมดของมาร์กซ-เองเกลส์-เลนิน-เหมา หรือมาร์กซิสท์ทุกสำนัก คำว่า ทุนสามานย์ จะไม่เคยปรากฏที่ไหนๆเลย เพราะถือว่า ระบบเศรษฐกิจใดๆ ล้วนแล้วแต่มีด้านบวกและลบในตัวเองทั้งสิ้น คำว่า ทุนสามานย์ เพิ่งจะมาโผล่ขึ้นในสังคมไทยเมื่อ 3 ปีเศษนี้เอง โดยเป็นคำประดิษฐ์ขึ้นมาใหม่ของณรงค์ เพชรประเสริฐ แห่งจุฬาฯ(จากคำสารภาพของเจ้าตัวเอง)โดยแปลงอย่างผิดๆจากคำภาษาอังกฤษว่า robber baron ซึ่งเจ้าของคำที่ให้ความหมายถูกต้องตั้งแต่แรก
(วิลเลียม โจเซฟสันนักหนังสือพิมพ์อเมริกัน) หมายถึง ทุนผูกขาดตัดตอนโดยใช้อำนาจรัฐเป็นเครื่องมือ

ในขณะที่นักคิดเสรีนิยมหรือทุนนิยมขวาจัด เรียกพฤติกรรมผูกขาดตัดตอนโดยอาศัยอำนาจรัฐดังกล่าวว่าการแสวงหาค่าเช่าส่วนเกินทางเศรษฐกิจ(economic rent- seeking)ซึ่งถือว่าเป็นข้อบกพร่องอันเกิดจากความไม่สมบูรณ์ของทุนนิยม ไม่ถือว่าเป็นความชั่วร้ายของทุนนิยมแต่อย่างใด

คำว่าทุนสามานย์ จึงไม่มีความหมายและไม่มีอยู่จริง นอกจากในคำนิยามที่ประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อกล่าวหาทางการเมืองเท่านั้น

ในทำนองเดียวกันคำว่า ศักดินาที่ก้าวหน้า ก็ไม่เคยปรากฏมาก่อนไม่ว่าจะเป็นในหน้าประวัติศาสตร์ ตำราวิชาการ หรือ อุดมการณ์ทางการเมืองใดๆในโลก แต่เป็นคำประดิษฐ์ขึ้นมาในเมืองไทย ไล่เรี่ยกันกับคำว่า ทุนสามานย์ และ ระบอบทักษิณ เท่านั้น

คำว่า ศักดินา ในโลกตะวันตก มาจากคำว่า Feudalism หรือ Feudal System เป็นคำที่มองเตสกิเออ นักคิดฝรั่งเศสในคริสต์ศตวรรษที่ 18 ประดิษฐ์ขึ้นมา เพื่อพูดถึงระบบสังคมในยุคกลางของยุโรป ที่มีรากฐานบนสังคมเกษตร และมีระบบควบคุมแรงงานในที่ดินบนฐานของความไม่เท่าเทียมกันของบุคคล

มาร์กซ ให้คำนิยามคำว่า ศักดินาบนพื้นฐานของรูปแบบการผลิต(mode of production) ที่ตั้งบนรากฐานของการควบคุมแรงงานทำการผลิตบนที่ดินเป็นสำคัญโดยมีอภิชนาธิปัตย์เป็นผู้ปกครองครอบงำอุดมการณ์ที่เน้นความไม่เสมอภาคของบุคคลโดยวัดจากการถือกำเนิดทางชนชั้น

สำนักคิดมาร์กซิสท์ และสำนักคิดทางประวัติศาสตร์โดยทั่วไป ถือว่า นับแต่สังคมย่างเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจแบบตลาด และมีระบบการผลิตแบบอุตสาหกรรม ในขณะที่ชุดความคิดของผู้คนเปลี่ยนเป็นเน้นความเสมอภาคกันของผู้คน คำว่า ศักดินาก็ไม่ใช่ระบบอำนาจอีกต่อไป แต่อาจจะยังคงเหลือซากทางด้านอุดมการณ์ตกค้างเป็นตะกอนอยู่บ้างในคนบางกลุ่ม

สังคมไทย ก็มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากนับแต่การยกเลิกสมบูรณาญาสิทธิราชตั้งแต่ พ.ศ. 2475 เป็นต้นมา และโครงสร้างการผลิตของสังคมก็เปลี่ยนจากเกษตรกรรม มาเป็นอุตสาหกรรมและบริการเป็นหลัก ดังนั้นรูปแบบการผลิตหลักของสังคมไทยปัจจุบัน จึงไม่ใช่ระบบศักดินาอีกต่อไปแล้ว เพียงชุดความคิดบางส่วนที่ยังตกค้างในชนชั้นปกครองเช่น เทวราชา หรือ ทศพิธราชธรรม ก็ยังมีบทบาทที่โดดเด่นเป็นที่ปรากฏ

คำว่า ศักดินาที่ก้าวหน้า จึงเป็นคำที่ไร้ความหมาย และเป็นคำประดิษฐ์ที่ใช้เป็นอาวุธทางการเมืองของไทยชั่วขณะเท่านั้น ไม่อาจถือเป็นสรณะอะไรได้

การต่อสู้เพื่อแย่งชิงอำนาจนำในสังคมไทยยามนี้ เป็นการต่อสู้ระหว่างกลุ่มทุน 2 กลุ่มที่อ้างอิงอุดมการณ์หรือชุดความคิดที่แตกต่างกัน เพื่อนำมาแย่งชิงมวลชนเพื่อไปเอาชนะกันในการต่อสู้ช่วงชิงผลประโยชน์จากการผูกขาดตัดตอน หรือ ค่าเช่าส่วนเกินทางเศรษฐกิจ เท่านั้นเอง มิใช่เรื่องของ “ทุนสามานย์” กับ”ศักดินาที่ก้าวหน้า”แต่อย่างใด

ความเข้าใจที่ชัดเจนต่อความหมายของคำว่า “ทุนสามานย์”กับ”ศักดินาที่ก้าวหน้า”เท่านั้น จะช่วยให้เราเข้าใจถึงกระบวนการเคลื่อนไหวที่ฮึกเหิมของกลุ่มพันธมิตรฯที่ยกระดับจากคอมมูนมัฆวาน(ในนามเมืองพันธมิตรฯหรือมหาวิทยาลัยราชดำเนิน)มาสู่ยุทธการไทยคู่ฟ้าได้อย่างกระจ่างชัด"
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #64 เมื่อ: 02-09-2008, 16:53 »

"เวทีสนามหลวง มวลชนต้านพันธมิตรเพื่ออภิชนาธิปไตยด่านสุดท้าย


โดย คุณHomo erectus
ที่มา บอร์ดฟ้าเดียวกัน
1 กันยายน 2551




ผมอยากเรียกร้องในฐานะ เสรีชนคนหนึ่ง หลังๆมา ผมมักนิยมการเข้าร่วมกลุ่มชุมนุมในฐานะเสรีชนครับ ผมเรียกร้องให้เพื่อนๆ ในเว็บบอร์ด ปัญญาชน ชนชั้นกลาง ที่มีสถานภาพสังคม มีศักยภาพในด้านเศรษฐกิจและเวลา เข้าร่วมกับฝ่ายที่ยืนยัน "หลักการ" ประชาธิปไตย

1.

...ผมไปถึงสนามหลวงประมาณ 5 โมงเย็น มีการตั้งเวทีขนาดใหญ่พอๆ กับเวทีนปก.เดิม บริเวณสนามหลวงด้านตีนสะพานปิ่นเกล้า หันหน้าเข้าหาวัดพระแก้ว และเมรุ 300 ล้าน

5 โมงเย็น แดดยังร้อน แต่มีผู้คนมานั่งจับจองที่หน้าเวทีกันพอสมควรแล้ว ส่วนใหญ่จะเตรียมร่มบังแดดและเสื่อมาด้วย ส่วนผู้คนอีกจำนวนหนึ่ง จะจับกลุ่มกันอยู่บริเวณด้านข้างเวทีทั้งสองด้าน เพราะมีร่มเงามากกว่า ร้านค้าขายของตั้งเรียงอยู่บริเวณถนนทางเดินตัดผ่านสนามหลวงด้านธรรมศาสตร์ พื้นที่สำหรับการชุมนุม เป็นพื้นที่สนามด้านธรรมศาสตร์ กินอาณาเขตประมาณ 1 ใน 4 ของสนามหลวงทั้งหมด (ขณะนี้พื้นที่ครึ่งหนึ่งของสนามหลวงตั้งเมรุอยู่ เมื่อแบ่งพื้นที่ชุมนุมโดยทางเดินตัดผ่านสนามหลวงที่มีร้านรวงตั้งขายของ ด้านหลังจะเป็นพื้นที่จอดรถของผู้มาร่วมชุมนุม รวมทั้งรถสุขาของกรุงเทพมหานครฯ)

ช่วงเย็น เวทียังไม่เรียบร้อยดีนัก ป้ายผ้าใบฉากหลังเวทียังไม่ได้เอาขึ้น ยังเป็นโครงเหล็กล้วนๆ ช่างเวทีกำลังจัดการกันอยู่ ได้ยินว่าเริ่มตั้งเวทีตั้งแต่ช่วงบ่ายแล้ว บนเวทีให้ผู้ดำเนินรายการจำเป็นขึ้นพูดกับผู้ชุมนุมที่เริ่มทะยอยเข้ามาเรื่อยๆ ด้านหลังเวทีมีเต็นท์สำหรับกลุ่มทีมงานที่มาร่วมกันขับเคลื่อนในวันนี้ ด้านขวาเวที

กลุ่มผู้มาชุมนุมกว่า 80% ผมเข้าใจว่ามาโดยตั้งใจมากๆ โดยสังเกตจากการใส่เสื้อ "สีแดง" หรือ "ดำ" มาอย่างค่อนข้างพร้อมเพรียง แต่เป็นแดงแบบของใครของมัน ทั้งนี้สังเกตจากการพูดคุยทั่วไป และกับพ่อค้าแม่ค้าบริเวณนั้น ส่วนใหญ่บ่นถึงความอึดอัดของสถานการณ์การเมือง ที่พันธมิตรก่อความวุ่นวายขึ้น

ขณะที่ผู้คนยังคงเดินทางมาเข้าร่วมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เบื้องต้นพวกเขาอาจจะยืนอยู่รอบๆ ด้านข้างและด้านหลัง ต่อมาก็จะซื้อหาผ้าพลาสติกมาปูรองนั่ง ผู้คนเหล่านี้ มีความแตกต่างมากจากการชุมนุมก่อนนี้ กล่าวคือ มีลักษณะของ "ชนชั้นกลาง" ในกรุงเทพฯ เพิ่มมากขึ้น ต่างคนต่างมา เป็นคนหนุ่มสาว วัยกลางคนเพิ่มขึ้นด้วย

ผมตั้งข้อสังเกตเอาเองว่า การที่อัตลักษณ์ของผู้คนดูเหมือนจะมีปริมาณชนชั้นกลางเพิ่มขึ้น มีสาเหตุจากผู้คนเหล่านี้ อึดอัดจากปัญหาพันธมิตรฯ ที่ผ่านมาไม่มีช่องทางระบายออก พวกเขาจึงออกมาในวันแรกของการชุมนุมอย่างเข้มข้น แต่อย่างไรก็ตามคนชั้นล่าง ชาวบ้านสามัญยังคงมีจำนวนมากเช่นเดิม

เมื่อเปรียบเทียบมวลชนของสนามหลวงกับพันธมิตร พันธมิตรจะเป็นพวกคนแก่ไฮโซมีฐานะมากกว่า พวกนี้มีเวลาอยู่กับบ้านร้านค้าดูเอเอสทีวี มีลูกจ้างสามารถทิ้งงานเป็นเวลานาน เพื่อร่วมชุมนุมได้ แต่คนชั้นกลางในสนามหลวง มีลักษณะเป็นคนชั้นกลางระดับล่างเยอะกว่ามาก คนเหล่านี้แม้จะเป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัวร้านค้าต่างๆ แต่ก็เป็นธุรกิจขนาดย่อม ที่ไม่สามารถทิ้งงานได้เป็นเวลานาน ดังนั้นพวกเขาจึงมาร่วมชุมนุมได้เป็นครั้งคราวเท่านั้น แม้ว่าจะมีจำนวนมากที่เป็นฐานสนับสนุนอยู่ก็ตาม

คนรุ่นหนุ่มสาววัยรุ่น ก็มีให้เห็นมากกว่าที่ผมเคยเห็นในสนามหลวงช่วงก่อนๆนี้ แต่ยังมีปริมาณน้อยกว่าคนกลุ่มอื่น สาวๆ หน้าตาแฉล้มแบบที่เจอกันต้องเหลียวหลัง ก็พอมีให้เห็นอยู่บ้าง แต่น้อย ใช้เวลานานหน่อยก็จะหาเจอ (อิอิ) ดังนั้นหากกลุ่มปัญญาชนนักศึกษา ซึ่งอาจจะมีเวลานอกการเรียน และมีอัตลักษณ์ชนชั้นกลาง ที่จะเชื่อมต่อกับชนชั้นกลางในเมืองอื่นๆ เข้ามาร่วมเพิ่มปริมาณขึ้นในมวลชนเหล่านี้ ก็จะเป็นประโยชน์มาก เพื่อปรับเปรียนอัตลักษณ์ของกลุ่มมวลชน ร่วมหารค่าเฉลี่ยของกลุ่ม ซึ่งย่อมมีกลุ่มคนหลากหลาย และได้ทางการเมืองภาพลักษณ์ต่อสังคมเพิ่มขึ้น ...เรื่องนี้ซีเรียส หากตัดสินใจจะต้านพันธมิตรรัฐประหาร ผมว่าก็ควรตัดสินใจ กล้าแปดเปื้อนบ้างได้แล้ว!


2.

ก่อน 6 โมงเย็น ทางเวทีให้คุณวิภู แถลง 1 ในแกนนำนปก.เก่าที่เข้าคุกพร้อมกันทั้ง 9 คน เป็นผู้ดำเนินเวที คุณวิภูเป็นนักปราศรัยที่มีมุขตลกขบขัน ผสมกับแนวคิดทางการเมืองที่สร้างบรรยากาศ "ประชาธิปไตย" ได้มากทีเดียว เรื่องหนึ่งที่น่าสนใจ คือ ข่าวลือในช่วงกลางวัน (ซึ่งผมก็ได้ยินจากวิทยุ) ว่าม็อบนปก. เคลื่อนไปที่บ้านพระอาทิตย์ ... เรื่องนี้ ไม่เป็นความจริง คุณวิภูบอกว่าขนาดเรายังไม่ทำอะไร มันก็กล่าวหากันแล้ว เรื่องนี้มีการตกลงในเวทีสนามหลวงกันชัดเจนถึงสถานการณ์ว่า พวกพันธมิตรกำลังต้องการสร้างสถานการณ์ความรุนแรงให้เกิดขึ้น ดังนั้นการเคลื่อนไหวของมวลชนสนามหลวง จะไม่ใช้ความรุนแรงแน่นอน และขอให้ผู้ร่วมชุมนุมระวังหากมีการยั่วยุจากอีกฝ่าย (บรรยากาศการป้องกัน การสร้างสถานการณ์จากอีกฝ่าย ดีพอควรครับ มีการตกลงกันชัดเจน)

เมื่อถึงเวลาเคารพธงชาติ คุณวิภูเชิญผู้ร่วมชุมนุมยืนตรงร้องเพลงชาติพร้อมกัน ไม่มีเครื่องขยายเสียงหรือแบ็กกิ้งแทร็คครับ ร้องกันสดๆ ได้บรรยากาศมากครับ เป็นบรรยากาศของมวลชน ที่มาร่วมเรียกร้องประชาธิปไตยแท้จริง เสียงร้องเพลงชาติประสานกันดังพอประมาณ เยียบเย็นแต่สะท้านไปทั่วบริเวณ เรียบร้อย สงบ มั่นคง

ผู้ที่มาร่วมกันเพิ่มขึ้น จนทำให้บริเวณพื้นที่ด้านหน้าเวทีไปจนด้านหลังที่ติดกับร้านค้า และทางเดินผ่านสนามหลวงค่อนข้างเต็ม ตอนแรกนั่งกันแบบมีช่องว่าง แต่พอยิ่งดึกขึ้นพื้นที่นั่ง จะชิดแน่นกันจนเดินค่อนข้างลำบาก งานนี้ รัตนพล ส.อรพิน ก็มาขายบะหมี่อีกเช่นเคย

ผมคิดว่าส่วนที่ขาดไปของเวทีสนามหลวง คือ "สื่อ" ผมไม่เห็นสื่อมาถ่ายทอดเลย อาจจะมีอยู่บริเวณอื่นหรือเปล่าผมไม่ทราบได้ (ผมเดินสำรวจทั่วๆไม่เห็น) แต่คิดว่าอย่างน้อยก็คงมีนักข่าวจากเอ็นบีที นำเสนอภาพอยู่บ้าง แต่นั่นก็แสดงให้เห็นว่า พื้นที่สื่อของมวลชนสนามหลวงยังมีค่อนข้างน้อยมาก แสงไฟสปอต์ไลต์ มีเฉพาะบนเวทีสนามหลวง มวลชนสนามหลวงตอนดึกจะค่อนข้างนั่งกันในที่มืด เมื่อเทียบกับม็อบพันธมิตรแล้ว ฝ่ายพันธมิตรเป็นม็อบไฮโซ อุปกรณ์พร้อมกว่าเยอะครับ เรื่องนี้มีผลต่อการรับรู้และการสร้างบรรยากาศของการอยากเข้าร่วมชุมนุมอยู่เช่นกัน

ระบบป้องกันจากการ์ด มีเพียงบริเวณด้านหลังเวที ซึ่งป้องกันการแทรกซึมจากภายนอก มีการจัดเตรียมการ์ดกันอยู่ หลังเวทีมีแกนนำหลายกลุ่มและผู้ที่จะขึ้นปราศรัยบนเวทีรอต่อคิวกันอยู่

ผู้ปราศรัย จากวิภู แถลงที่ดำเนินรายการ ก็สับเปลี่ยนกันหลายคน หลายคนจัดรายการวิทยุแท็กซี่ กับคลื่นแนวร่วมอื่นๆ ผมไม่ค่อยรู้จักจำชื่อไม่ได้ แต่เห็นว่า ทั้งหมดเป็นผู้ปราศรัยที่ค่อนข้าง "โอเค" มากๆ สำหรับผม กล่าวคือ ไม่หลุดจากคอนเซ็ปต์ เรียกร้องประชาธิปไตยและต่อต้านระบอบเผด็จการอำมาตย์เลย ...หลายคน นำอารมณ์ของผู้ชุมนุมได้ดีพร้อมมีมุขตลกขำๆ มาเล่น การยืนยันจากบนเวที ถึงการชุมนุมเพื่อแสดงพลังของมวลชนต่อสังคมภายนอก ว่ามีมวลชนจำนวนมากยังสนับสนุนรัฐบาลจากการเลือกตั้งอยู่ ทั้งนี้มีการแจ้งว่ามวลชนจากต่างจังหวัดจะเข้ามาสมทบในวันต่อๆ ไป เพราะการรวมกลุ่มวันนี้ ค่อนข้างกระทันหัน และด้วยการสไตท์ของสหภาพแรงงานรถไฟ ซึ่งเป้าหมายแท้จริงก็คือ การตัดมวลชนที่เข้ามาสนับสนุนรัฐบาลจากภาคอีสานนั่นเอง

คนที่ขึ้นเวทีปราศรับที่ผมรู้จัก ก็มีนปก.เก่า อย่าง อ.เมธาพันธุ์ , อ.จรัล ดิษฯ , คุณวีระ มุสิกพงษ์, ชูพงษ์ ถี่ถ้วน , ชินวัฒน์ (เหมือนจะขึ้นนะแต่ไม่แน่ใจ) , สก.เขตบางกะปี (ไม่แน่ใจเขต แต่เป็นนักจัดการการ), คุณสมยศ 24 มิ.ย. ฯลฯ รวมทั้งกวี ไม้หนึ่ง ก. กุนที จากมติชนด้วย ผมเพิ่งชมสดก็วันนี้เอง กลุ่มแนวร่วมด้านวัฒนธรรมของเวที นปก. ยังคงมีน้อยและเป็นจุดอ่อนของการเคลื่อนไหว ที่จะดึงมวลชนชั้นกลางเข้าร่วม หากมีแนวร่วมด้านวัฒนธรรมเพิ่มขึ้น ผมคิดว่าจะเป็นการสร้างพลังได้มากกว่านี้ ใครมีความสามารถด้านนี้น่าจะไปเสนอตัวช่วยหน่อย

รอบๆ เวที มีร้านค้าขายของ จำพวกหนังสือแฉ จำลอง ศรีเมือง , แฉการลอบสังหารทักษิณ, ซีดีทักษิณและการเคลื่อนไหวของนปก. , รวมทั้งโต๊ะขายสติกเกอร์ "เบื่อม็อบพันธมิตร" ของกลุ่มบก.ลายจุดด้วย (บ.ก.ก็อยู่ด้วยเช่นกัน) , สำหรับนักวิชาการนอกจากที่กล่าวไปแล้วบนเวที ด้านล่างวันนี้ ที่ผมรู้จักและเห็นก็มีอยู่บ้างแต่ไม่เอ่ยนามดีกว่า เพราะ อาจารย์เขาอาจจะต้องการเป็นผู้สังเกตการณ์มากกว่า แต่อยากให้ทุกคนรู้ว่า ผู้ออกมาต่อต้านเผด็จการประชาชน+ทุนศักดินา ก็มีหลากหลายครับ

ผมคุยกับพี่คนขับแท็กซี่คนหนึ่ง แกบอกว่าถึงรัฐบาลจะยุบสภา แล้วถามว่า พันธมิตรจะเลิกไหม? แกบ่นอย่างอึดอัดว่า "เราก็ไม่ได้เลือกรัฐบาลมาคนเดียวเสียเมื่อไหร่ คนเขาเลือกกันมาทั้งประเทศ" คนขายลูกชิ้นบ่นว่าเรื่องแก๊สน้ำตาว่า "ทำไมตอนที่ตำรวจใช้หน้าบ้านเปรม ไม่เห็นมีใครพูดอะไรเลย" ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน รู้แต่ว่าบ้านเมืองนี้ มันก็พิกลพิกาลอย่างนี้ เพราะไอ้ชนชั้นนำโบราณยำยำกลุ่มหนึ่ง

ในช่วง 3 ทุ่ม เป็นเวลาก่อนคุณวีระ จะขึ้นพูด ผมคิดว่าเป็นช่วงพีคสุดแล้ว สำหรับการนับจำนวนผู้ร่วมชุมนุม ผมประเมินคร่าวๆไปแล้วในอีกกระทู้ว่า ไม่น่าจะเกิน 5 พันคน ถ้าให้ระบุชัด ผมก็จะบอกว่า 4 พันคน บวก/ลบ 500 ครับ (ได้ยินเช้านี้ว่า มีสื่อเสนอว่าประมาณ 8 พันคน และผู้ร่วมชุมนุมพูดในรายการวิทยุชุมชนเป็นหลักหมื่น..อันนี้ก็แล้วแต่สายตาครับ แต่ผมว่าเวอร์ไป)

สุดท้ายนะครับ ผมอยากเรียกร้องในฐานะ เสรีชนคนหนึ่ง หลังๆมา ผมมักนิยมการเข้าร่วมกลุ่มชุมนุมในฐานะเสรีชนครับ ผมเรียกร้องให้เพื่อนๆ ในเว็บบอร์ด ปัญญาชน ชนชั้นกลาง ที่มีสถานภาพสังคม มีศักยภาพในด้านเศรษฐกิจและเวลา เข้าร่วมกับฝ่ายที่ยืนยัน "หลักการ" ประชาธิปไตยนี้ ไม่ว่าคุณจะเห็นพวกเขา มองเขาในสายตาต่ำต้อย ลดทอนความเป็นมนุษย์ของพวกเขา จากการมองว่าพวกเขาเป็นเพียง กลุ่มคนรักทักษิณ, คนโง่ , ได้รับผลประโยชน์เฉพาะหน้า ฯลฯ แต่สิ่งที่พวกเขาเรียกร้องเป็น "เป้าหมาย" ที่ถูกต้องและดีงาม ต่อกระบวนการประชาธิปไตย ไม่ได้ดัดจริตถอยหลังเข้าคลองแบบชนชั้นกลางจำนวนมากในม็อบพันธมิตร และบรรดานักวิชาการดัดจริตโหนกระแสต่างๆ

พวกเขาต้องการกำลังเสริมจากปัญญาชน เปลี่ยนเคมีของกลุ่มให้มีภาพลักษณ์ในทางคุณภาพของแนวร่วมยิ่งขึ้น พวกคุณอาจช่วยในด้านต่างๆ แก่พวกเขาได้ โดยไม่ต้องขึ้นเวทีก็ตาม เพียงแค่เข้าไปร่วมชุมนุม ให้อัตลักษณ์ของมวลชนมีความหลากหลายของตัวตน สามารถเชื่อมต่อสื่อสารต่อสังคมชนชั้นกลางได้มากขึ้น หรือการผลิตสื่อใบปลิว บทกวี บทความ แจกในท้องสนามหลวง เพื่อเป็นการให้ความรู้แก่ผู้คนเหล่านี้ นี่น่าจะเป็นคุณปการที่พวกเราทำได้ใช่ไหมครับ?

บางครั้ง เราอาจต้องกล้าที่จะแปดเปื้อน ...เพื่อดำรงไว้ในสิ่งที่เราเชื่อว่าถูกต้องดีงาม ผมเชื่ออย่างนั้น"
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #65 เมื่อ: 03-09-2008, 09:47 »

"ศาลปกครอง กำลังท้าทายฝ่ายบริหาร.. หากรับพิจารณาการออกประกาศ การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน!!!!  


โดย คุณ Alchemist
ที่มา เวบบอร์ด ประชาไท
4 กันยายน 2551

ศาลปกครอง ไม่มีอำนาจพิจารณาการใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งได้ผ่านกระบวนการนิติบัญญัติมาแล้วโดยชอบ

หากพิจารณาและมีคำสั่งใดๆ ออกมา ถือว่า ศาลปกครอง กำลังทำการขัดขวางอำนาจของฝ่ายบริหาร อันเป็นหนึ่งในสามอำนาจอธิปไตย

จะเป็นเครื่องชี้พฤติกรรมพฤติการณ์ว่า นายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด กำลังเป็นปฏิปักษ์ต่อฝ่ายบริหาร อย่างชัดแจ้ง ด้วยการลอบส่งสัญญาณให้ฝ่ายกบฏ PREM (People Rebel Endangering Mission)ให้ทำคำร้องเข้ามา

จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า การดำเนินการของฝ่ายกบฏ PREM มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง เชื่อมโยงกับอำนาจนอกระบบอย่างที่เข้าใจกัน โดยเฉพาะการเข้าพบของ นายอัคราทร จุฬารัตน กับบุคคลนี้ ในงานวันคล้ายวันเกิด

ถามว่า แล้วจะทำอย่างไร หากมีการละเมิดอำนาจฝ่ายบริหารอย่างนี้?

ตอบอย่างเอากำปั้นทุบดินได้ว่า ฝ่ายบริหารก็สามารถใช้อำนาจของตน ที่จะไม่ยอมรับคำสั่ง หรือการพิจารณาอรรถคดีใดๆ จากฝ่ายตุลาการอีกต่อไป และไม่ให้ความร่วมมือหรือจัดสรรงบประมาณให้เพียงตามควรแก่อัตภาพ

ถามว่า จำเป็นต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความหรือไม่?

ตอบได้ว่า ไม่จำเป็น เพราะเมื่อพฤติกรรมพฤติการณ์ ออกมาในรูปแบบนี้ ประกอบกับพฤติกรรมพฤติการณ์ของศาลรัฐธรรมนูญเองที่ผ่านมา จะเห็นได้ชัดว่า ได้วินิจฉัยคำร้องในทางที่จะขัดขวางต่อการดำเนินงานของฝ่ายปกครองแทบทั้งสิ้น

มีการพิจารณาเกินจากขอบเขตของอำนาจศาล ดังกรณีแถลงการณ์ร่วม การขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก โดยละเลยที่จะพิจารณาการไปผูกมัดประเทศไทยไว้กับแผนที่ ฝรั่งเศส-สยาม ค.ศ.๑๙๐๔ (แทนที่จะยึดแผนที่ แอล ๗๐๑๗ ของสหรัฐอเมริกา)มิหนำซ้ำยังชี้ทางให้ดำเนินการถอดถอน นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศขณะนั้น อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

อย่าลืมว่า นายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด เป็นกรรมการสรรหาตุลาการรัฐธรรมนูญด้วย และตุลาการรัฐธรรมนูญที่ได้รับการสรรหา ล้วนเป็นพวกที่อยู่ในเครือข่ายทั้งสิ้น อย่าง นายจรัญ ภักดีธนากุล บุคคลที่ได้รับการวิพากษ์กลับอย่างรุนแรงในพฤติการณ์ ปากว่า ตาขยิบ (hypocrite) ในคดีฉ้อโกงที่ดินของผู้มีพระคุณของผู้เป็นภริยา อันอื้อฉาว

ทางเดียวที่รัฐบาลจะทำได้ในขณะนี้ คือ การกวาดล้างโครงสร้างพื้นฐานทางกฎหมาย ด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในขณะที่ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ยังประกาศใช้อยู่ แม้ในเขตที่จะก่อหวอดคัดค้านอย่างใน กรุงเทพมหานคร"
บันทึกการเข้า
jumjim
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 82


« ตอบ #66 เมื่อ: 03-09-2008, 11:22 »

\\\"คนไทยในอังกฤษ ร่อนจม.สนับสนุนรัฐบาลปราบกบฎ

วันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2551
เรื่อง สนับสนุนรัฐบาลในการรักษากฎหมาย กติกาประชาธิปไตย และนำพาความสงบสุขกลับคืนสู่สังคมไทย
เรียน พี่น้องประชาชนไทยทุกท่าน

ตามที่มีคณะบุคคลที่เรียกตัวเองว่า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้รวมตัวชุมนุมเรียกร้องตั้งเงื่อนไขให้รัฐบาลลาออก เสนอแนวทางการเมืองใหม่แบบแต่งตั้ง 70% และเลือกตั้ง 30% โดยสร้างเงื่อนไขการชุมนุมด้วยวิธีการข่มขู่ให้รัฐบาลกระทำตามคำเรียกร้อง โดยใช้ยุทธวิธีที่ละเมิดกฎหมายอย่างร้ายแรง ต่างกรรม ต่างวาระ อาทิ การปิดถนนสายหลักในเมืองหลวง และต่างจังหวัด การบุกรุกเข้ายึดสถานที่ราชการต่าง ๆ รวมทั้งการบุกยึดสถานีโทรทัศน์ NBT การหยุดเดินรถไฟอย่างไม่มีเหตุผลอันสมควร การปิดล้อมสนามบินนานาชาติหลายแห่ง จนกระทั่งการบุกเข้ายึดทำเนียบรัฐบาล โดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชน การกระทำดังกล่าวส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ชื่อเสียง และความเชื่อมั่นของประเทศไทยในสายตาประชาคมโลก ทั้งนี้ยุทธวิธีการเคลื่อนไหวเรียกร้องของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ส่อเค้าลางว่ามีความพยายามยั่วยุให้เกิดความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง และเป็นที่น่าวิตกว่าสถานการณ์อาจลุกลามขยายตัวกลายเป็นวิกฤตที่จะดึงสังคมไทยลงสู่ห้วงเหวแห่งความหายนะในที่สุด กลุ่มคนไทยรักประชาธิปไตยในสหราชอาณาจักรเห็นด้วยกับการใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นอันหลากหลาย ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ทั้งนี้ การใช้สิทธิในการแสดงความคิดเห็นโดยสงบ สันติ ปราศจากอาวุธ และไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่นจะต้องได้รับการคุ้มครอง แต่เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งว่ากลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไม่ได้ยึดถือแนวทางการแสดงความคิดอย่างสงบสันติดังกล่าวเลยแม้แต่น้อย ในทางตรงข้ามเป็นที่ประจักษ์ชัดว่ากลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้เลือกกระทำการเรียกร้องข้อเสนอของตนด้วยการใช้ความสงบสุขของประชาชนเป็นเครื่องมือต่อรอง มีการกระทำอันเป็นการละเมิดกฎหมายต่างกรรม ต่างวาระอย่างต่อเนื่อง ท้าทายอำนาจรัฐ ละเมิดสิทธิของผู้อื่น แม้กระทั่งการท้าทายขัดขืนคำสั่งของศาลยุติธรรม

กลุ่มคนไทยรักประชาธิปไตยในสหราชอาณาจักรร่วมกับพี่น้องประชาชนชาวไทยในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ขอให้กำลังใจรัฐบาล ในการรักษากฎหมาย กติกาประชาธิปไตย และนำความสงบสุขคืนสู่สังคมไทย และขอเรียกร้องให้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยุติการกระทำฝ่าฝืนกฎหมาย แสดงความเคารพกติกาในระบอบประชาธิปไตย และสิทธิของประชาชนที่มีความคิดแตกต่าง ทั้งนี้เพื่อร่วมกันสร้างบรรยากาศแห่ง ความสมัครสมาน สามัคคีของคนในชาติ และนำพาความสงบสุขกลับคืนมาสู่สังคมไทย

ขอแสดงความนับถือ

วัฒนา เอ็บเบจช์

กลุ่มคนไทยรักประชาธิปไตยในสหราชอาณาจักร
อีเมล์: doublezero1@hotmail.co.uk\\\"

ไอ้คนที่เขียนจดหมาย มีงอยู่ที่อังกฤษ ไปเลียแดด จากเต่าตัวใหญ่ อีอ้อ เรื่อย ๆ แล้วก็อย่าลืมเผื่อไอ้เอี้ยจ๊ะ มันมั่ง มันกำลังอยากจิ๊บหายอยู่แล้ว  เรื่องบุกยึด สถานี เอ็นไอ้ห้อย  มีงกับไอ้จ๊ะ ไปถามไอ้เสธ.รุ่นเดียวกับไอ้เอี้ยเหลี่ยมดู  โง่จิ๊บหาย เสือกไม่รู้  กรูล่ะสงสารไอ้หมักจริง ๆ ไม่อยากเซ็นต์ พรก.ฉุกเฉิน แมร่งก็บังคับให้เซ็น เอี้ยจริง ๆ พวกไอ้ห้อยกับพวกไอ้เสธ.นั่นแหละ  ไอ้หมัก มันอยากอยู่นาน ๆ โว้ย  มีความรุนแรง เดี๋ยวตูดตกเก้าอี้เร็ว ถ้าเมิงยังไม่เข้าใจ ก็อ้าปากกว้าง ๆ รอไว้ เดี๋ยวกรูว่าง ๆ จะไปเยี่ยวทะลวงสมองให้  จ๊าก ๆ


 

ปล.นี่กรูไม่ได้โกรธมึงน๊ะเนี่ยไอ้จ๊ะ  เมิงเอาบทความเอี้ยมาแปะบ่อย ๆ ก็ดี กรูจะได้หาเรื่องเอาเยี่ยวกรอกปากมีง  ฮ่า ฮ่า ฮ่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-09-2008, 11:25 โดย jumjim » บันทึกการเข้า
ลูกหินฮะ๛
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,099


เสียเข็มขัด อย่าเสียกุงเกง


« ตอบ #67 เมื่อ: 03-09-2008, 11:30 »

นิดนึง...

นิดนึง.. ขอขัดจังหวะ...แป๋บ
 
อ้างถึง
มีจดหมายน้อย.. ฉบับ 2 แจ้งพี่จ๊ะ(เจ้าของกระทู้) มาว่า  อย่าฟลัดกระทู้มากไป
เดี๋ยวกระทู้ลูกหิน หายจากจอ.. เผื่อลูกหิน โชว์อ๊อฟ สาวๆ มั่ง
 


อ่ะเชิญ ..สนุกกันต่อฮะ 
บันทึกการเข้า

  ... ... ... 
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #68 เมื่อ: 03-09-2008, 13:07 »

ปล.นี่กรูไม่ได้โกรธมึงน๊ะเนี่ยไอ้จ๊ะ  เมิงเอาบทความเอี้ยมาแปะบ่อย ๆ ก็ดี กรูจะได้หาเรื่องเอาเยี่ยวกรอกปากมีง  ฮ่า ฮ่า ฮ่า

เมื่อ'จิ๋มเน่า'ร้องขอ...ท่านจ๊ะก็เลยใจดีจัดหั้ยปายยยยยยยยยยยยย



"ไม่ยุบสภา ไม่ลาออก ไม่ยอมแพ้"


โดย คุณ panitaan
ที่มา เวบบอร์ด ประชาไท
4 กันยายน 2551

คิดกันบ้างไม๊ครับ ทำไมเ่ขาไม่ปฏิวัติ แต่จะให้นายกฯออก?

สองปีที่้ คมช. นักชกฝ่ายอำมาตย์ปฏิวัติสำเร็จ มันวางขุมกำลังของมันในสื่อ ในสาน ในพรรคการเมือง ในประชาชน แม้กระทั่งในรัฐธรรมนูญ ไว้อย่างเข้มแข็งมากกกกกก มากเสียจนว่ามันจะปฏิวัติรัฐบาลอีกซะเมื่อไหร่ก็ได้

ก็รัฐบาลติดอาวุธครบเครื่อง อย่างทักษิณ ก็ยังโดยมันเล่นทีเผลอ ปล่อยหมัดตรงเข้าคางหงายท้องไปแล้ว รํฐบาลมือเปล่า แถมถูกมัดตราสังอย่างนายสมัคร จะไปเหลืออะไร

แล้วทำไมมันยังไม่ปฏิวัติ?
หรือว่ามันใจดี
หรือว่ามันเกิดรัก ปชต.ขึ้นมาเฉยๆ
หรือว่ามันเป็นสุภาพบุรษกลับใจ

ไม่ใช่ทั้งเพ แต่เป็นเพราะมันรู้แล้วว่า ปฏิวัติแล้วก็อยู่ได้ไม่นาน เพราะจะถูกถล่มด้วยพายุศอกและเข่าจาก ทั้งในและนอกประเทศ

ฝ่ายอมาตย์ จึงเก็บการปฏิวัติเป็นวิธีสุดท้าย และหาทางให้รัฐบาลสมัคร "สมัครใจ ลาออกเอง" เพื่อมันจะได้ส่งรัฐบาลใหม่ (ในคาถา) เข้ามาทำเต้นในสังเวียนได้อย่าง "สง่างาม" และยาวนาน รวมทั้งสามารถให้รัฐบาลในคาถาแก้ รัฐธรรมนูญ ให้เป็น "อมาตย์ 70 ประชาชน 30" ได้ด้วย เพื่อเพิ่มความ "ยาวนาน" ในการขี่หัวเข้าบ้านเข้าไปอีก ..... ประชาชนจูบลาประชาธิปไตย และก้มหน้ารับใช้มันไปตลอดกาล

ในเหตุการณ์ปัจจุบันนี้ รัฐบาลสมัคร ตัวแทนปวงชนอย่างชอบธรรม กำลังอยู่ในเวทีแบบไม่มีแรง แถมยังถูกมัดตราสัง ท่ามกลางพายุหมัด ศอก เข่า ที่เกิดจากการ "จงใจล้มเหลว" และ"ถูกกดดันให้ล้มเหลว" (ล้มมวย) ของ อำนาจตุลาการ อำนาจบริหาร อำนาจนิติบัญญัติ รวมทั้ง อำนาจตำรวจ อำนาจกฏหมาย อำนาจทหาร กกต. พรรคการเมืองเก่าแก่

นักชกประชาธิปไตยอาจจะไปไม่รอดในยกนี้ แต่หากจะยังมีความหวังว่า จะให้กลับมาชนะได้ในยกหน้า นอกจากจักต้องทน ยอมโดนอาวุธที่ฝ่ายอมาตย์ประเคนไม่ยั้ง จนเป็นที่เห็นใจของกรรมการแล้ว สิ่งที่รัฐบาลนายสมัครต้องท่องไว้การชกยกนี้คือ "ไม่ยุบ ไม่ลา ไม่แพ้"

"ไม่ยุบสภา ไม่ลาออก ไม่ยอมแพ้" สิ่งนี้คือสิ่งที่ฝ่ายอมาตย์ กลัว ที่สุด เพราะ

1) การ "ไม่ยุบ ไม่ลาออก ไม่ยอมแพ้" จะกดดันให้ฝ่ายอมาตย์ ต้อง แสดงตัว ออกลาย หางโผล่ โชว์ความน่ารังเกียจ และแสดงความเลว ทำลายความสงบสุขประเทศ ให้กรรมการ คือประชาชน และประชาคมต่างประเทศ จะได้เห็นธาตุมารของมัน และพวกเขานี่แหล่ะ จะตัดคะแนน กดดันให้รัฐบาล(ในคาถา)ของฝ่ายอำมาตย์ชะตาขาด และอายุสั้น หากมันสามารถตั้งได้สำเร็จ

2) การ "ไม่ยุบ ไม่ลาออก ไม่ยอมแพ้" จะบีบให้อมาตย์ต้องอ่อนแรง ยุบยอมแพ้ หรือ ไม่ก็ต้องชกใต้เข็มขัด โดยบุกบังคับจับนายกฯให้เซ็นต์ลาออก หรือไม่ก็ใช้สนับมือชก คือปฏิวัติอีกรอบ

วิธีสกปรกเหล่านี้ จะทำให้รัฐบาลในคาถาที่มันตั้งขึ้นมา ก็จะเป็นรัฐบาลลูกมาร ในสายตากรรมการ ชะตาขาด อายุสั้น เพราะโกงเขามา และคราวนี้แรงกดดันจากจากประชากรรมการ ทั้งภายในและนอกเวที จะรุนแรงยิ่งกว่าเดิม เต้นบนเวทีได้ไม่นาน ต้องเลือกตั้งใหม่ และประชาชนผู้เป็นกรรมการในสนาม จะชูมือให้คนของฝ่ายประชาธิปไตยกลับมาชนะอย่างถล่มทลายยิ่งกว่ายกที่แล้ว

พวกเราต้องจำไว้ นอกจากจะช่วย จะเชียร์ให้กำลังใจ รัฐบาลของเราแล้ว ต้องไม่ท้อ ไม่หมดหวัง อย่าไปกดดันให้รัฐบาลเผด็จศึก(เขาถูกมัดตราสังอยู่) ดึงเวลาไปเรื่อยๆ

เวลาผ่านไปเราอาจลำบาก แต่ฝ่ายอมาตย์ ยิ่งลำบากกว่าเรา

สิ่งที่อมาตย์กลัวที่สุด คือ "จิตใจประชาธิปไตยในหัวใจประชาชน"

เราต้องไม่ท้อ ไม่ยอมแพ้ กาลเวลา และความถูกต้องอยู่ข้างเรา!!

"ไม่ยุบ ไม่ลา ไม่ยอมแพ้"
"ไม่ยุบ ไม่ลา ไม่ยอมแพ้"
"ไม่ยุบ ไม่ลา ไม่ยอมแพ้"
"ไม่ยุบ ไม่ลา ไม่ยอมแพ้"
"ไม่ยุบ ไม่ลา ไม่ยอมแพ้""
บันทึกการเข้า
กระบี่ที่ 15
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 22



« ตอบ #69 เมื่อ: 03-09-2008, 13:19 »

panitaan
 

มันจะแถไปถึงไหน เอาที่ไม่เป็ประเด็นมาเป่าให้พองใหญ่ ทำไมว้า




ประเด็นใหญ่ คือ เอาทักษิณเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และสร้างการเมืองใหม่ได้ไง โดยไม่มีโกง



 
บันทึกการเข้า
ssa
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 68


« ตอบ #70 เมื่อ: 03-09-2008, 13:33 »

น่าสมเพช
ตั้งชื่อล็อคอินก็รู้ว่าเป็นสาวกอยากแบกเกี๊ยวให้กลุ่มต้องการล้มของสูง
แต่ในหัวไม่มีอะไรเลย โล่ง กลวง ยังเรียนหนังสือไม่จบด้วยซ้ำ
อ่านหนังสือมากี่เล่ม และหากจะกล่าวหาพันธมิตรเป็นคอมมูน
พวกที่คุณสังกัดเป็นสาวกอยู่นั่นแหละใช่ รวมถึงกลุ่มบางกลุ่มในรัฐบาล
แม้กระทั่งการเดินงาน นั่นแนวทางเหมาอิสต์ทั้งนั้น
ฝากกลับไปบอกสมศักดิ์ เจียมฯกับเพื่อนคนปี 19 อีกหลายคนด้วย
พวกเอ็งแพ้อีกว่ะ
ยุทธวิธีแนวทางเหมาฯใช้กับเมืองไทยไม่ได้ผลหรอก
มีคนเตือนแล้วหลายคนหลายครั้ง แต่พวกเอ็งซื่อบื้อ ดำน้ำอย่างเดียว

ช่วงเวลานี้ คือวาระสุดท้ายของพวกเอ็ง รวมไปถึงทักษิณด้วย
ไม่ใช่โอกาสสุดท้าย โอกาสสุดท้ายหมดสิ้นไปตั้งแต่หลังเลือกตั้งทั่วไปล่าสุดที่ผ่านมา
ย้ำอีกที นี่คือวาระสุดท้ายของพวกเอ็ง

บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #71 เมื่อ: 03-09-2008, 14:27 »

panitaan
 

มันจะแถไปถึงไหน เอาที่ไม่เป็ประเด็นมาเป่าให้พองใหญ่ ทำไมว้า




ประเด็นใหญ่ คือ เอาทักษิณเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และสร้างการเมืองใหม่ได้ไง โดยไม่มีโกง

 


การเมืองใหม่แบบแต่งตั้ง 70% น๊ะหรือไม่โกง!?!  ทั้งโกงและล้าหลังสุดๆยิ่งกว่าลาว+เขมรด้วยซ้ำ  หรือว่าอยากมีสถานะเทียบเท่าพม่าก็ว่ามา!!
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #72 เมื่อ: 03-09-2008, 14:30 »

น่าสมเพช
ตั้งชื่อล็อคอินก็รู้ว่าเป็นสาวกอยากแบกเกี๊ยวให้กลุ่มต้องการล้มของสูง
แต่ในหัวไม่มีอะไรเลย โล่ง กลวง ยังเรียนหนังสือไม่จบด้วยซ้ำ
อ่านหนังสือมากี่เล่ม และหากจะกล่าวหาพันธมิตรเป็นคอมมูน
พวกที่คุณสังกัดเป็นสาวกอยู่นั่นแหละใช่ รวมถึงกลุ่มบางกลุ่มในรัฐบาล
แม้กระทั่งการเดินงาน นั่นแนวทางเหมาอิสต์ทั้งนั้น
ฝากกลับไปบอกสมศักดิ์ เจียมฯกับเพื่อนคนปี 19 อีกหลายคนด้วย
พวกเอ็งแพ้อีกว่ะ
ยุทธวิธีแนวทางเหมาฯใช้กับเมืองไทยไม่ได้ผลหรอก
มีคนเตือนแล้วหลายคนหลายครั้ง แต่พวกเอ็งซื่อบื้อ ดำน้ำอย่างเดียว

ช่วงเวลานี้ คือวาระสุดท้ายของพวกเอ็ง รวมไปถึงทักษิณด้วย
ไม่ใช่โอกาสสุดท้าย โอกาสสุดท้ายหมดสิ้นไปตั้งแต่หลังเลือกตั้งทั่วไปล่าสุดที่ผ่านมา
ย้ำอีกที นี่คือวาระสุดท้ายของพวกเอ็ง




ขอบคุณคร้า...ดีใจจังที่จะได้อยู่ภายใต้การเมืองใหม่ 70:30  แต่เอ๊ะ...จะเรียกการปกครองชนิดนี้ว่าอะไรดีเอ่ย? เพราะปชต.ในโลกนี้มีแต่การเลือกตั้งเท่านั้นนี่นา

หรือจะเรียกว่าอนาธิปไตยดีหล่ะ!!
บันทึกการเข้า
noohin_2550
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 67


« ตอบ #73 เมื่อ: 03-09-2008, 15:00 »

พธม. Vs. กระบวนการตุลาการ  ประเด็นก็คือ คำสั่งศาลที่วินิจฉัยออกมาไม่ได้รับการปฏิบัติจากพธม.แม้แต่น้อย พธม.ยังยึดม.63ว่าด้วยเรื่องสิทธิในการชุมนุม แต่ไม่สนใจว่าการยึดทำเนียบเป็นสิ่งที่ผิดกฏหมายตามคำวินิจฉัยของศาล

ดังนั้น ประชาชนคนไทยจึงเฝ้ามองว่าฝ่ายไหนจะใหญ่กว่ากัน!!
[/quote

 
จขท.รู้เรื่อง กม ดีแค่ไหนหรือคุณ เขายึดทำเนียบผิดกม ตรงไหนหรือ ถ้าผิดป่านนี้เขาออกหมายจับไปแล้ว แน่นี่เขามาชุมนุมตามสิทธิไม่ผิดกม.
ส่วนหมายจับ 9 แกนนำนั้น เดี่ยวเขาก็ไปสู้กันเองในศาล ข้อหา กบฏนี่มันใหญ่ แต่ดูเหมือน รัฐมารจะตั้งข้อหาเกินจริงไปหน่อยนะ คนที่มากู้ชาติ
กลับโดนข้อหา กบฏ แต่คนขายชาติ ยกเขาพระวิหารให้เขมรไปแล้ว ทั้งๆ ที่ทำผิดกม. รัฐธรรมนูญ กลับนั่งลอยนวลแถมยังมาออกคำสั่งบัญชาการ
จับคนโน้นคนนี้ มันทำเกินไปหรือเปล่าคุณ ถ้าเรื่องแค่นี่คุณยังแยกแยะไม่ออก ก็อย่าอยู่ให้รกแผ่นดินเลย เพราะสงสารประเทศไทยวันนี้ที่คนโง่และควาย
เต็มประเทศ ยอมให้คนชั่วจูงจมูกเพราะเงินตัวเดียวน่าสมเพทนะ รวมทั้งตัวคุณด้วย
 
บันทึกการเข้า
หาเพื่อนหยิงคุยแก้เหงาครับ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,131


กูรู้มึงต้องอ่าน ฮ่าๆ ขำขำนะจ๊ะ


เว็บไซต์
« ตอบ #74 เมื่อ: 03-09-2008, 15:36 »

คนที่ตายไม่ใช่จ๊ะหรอ เสียใจจังT_T
บันทึกการเข้า

ขอมอบ เพลงนี้ให้กับพี่น้อง พันธมิตรทุกคนฮะ


http://www.imeem.com/sakujo/music/04_GaHIQ/09_avenged_sevenfold_strength_of_the_worldmp3/

strength of the world
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #75 เมื่อ: 03-09-2008, 16:15 »


จขท.รู้เรื่อง กม ดีแค่ไหนหรือคุณ เขายึดทำเนียบผิดกม ตรงไหนหรือ ถ้าผิดป่านนี้เขาออกหมายจับไปแล้ว แน่นี่เขามาชุมนุมตามสิทธิไม่ผิดกม.
ส่วนหมายจับ 9 แกนนำนั้น เดี่ยวเขาก็ไปสู้กันเองในศาล ข้อหา กบฏนี่มันใหญ่ แต่ดูเหมือน รัฐมารจะตั้งข้อหาเกินจริงไปหน่อยนะ คนที่มากู้ชาติ
กลับโดนข้อหา กบฏ แต่คนขายชาติ ยกเขาพระวิหารให้เขมรไปแล้ว ทั้งๆ ที่ทำผิดกม. รัฐธรรมนูญ กลับนั่งลอยนวลแถมยังมาออกคำสั่งบัญชาการ
จับคนโน้นคนนี้ มันทำเกินไปหรือเปล่าคุณ ถ้าเรื่องแค่นี่คุณยังแยกแยะไม่ออก ก็อย่าอยู่ให้รกแผ่นดินเลย เพราะสงสารประเทศไทยวันนี้ที่คนโง่และควาย
เต็มประเทศ ยอมให้คนชั่วจูงจมูกเพราะเงินตัวเดียวน่าสมเพทนะ รวมทั้งตัวคุณด้วย
 


ฮ่าๆๆๆๆ...ยึดทำเนียบผิดตรงไหน? สงสัยสาวกพันธมารคงถูกล้างสมองกลวงๆเสียจนไม่รู้กฎหมายพื้นๆว่าด้วยข้อหาบุกรุกและกระทำความเสียหายต่อสถานที่ราชการ หรือว่าท่านพ่อแป๊ะลิ้มทูลหัวแปรญัตติข้างถนนว่าการกระทำดังกล่าวเนียน ถูกกฎหมาย และอารยะขัดขืน?!? เดี๊ยนว่าพวกลื๊อน่าจะทำความเข้าใจในเรื่องอารยะขัดขืน หน้าที่พลเมือง และหลักของกฎหมายให้ชัดก่อนจะมาลอยปากแถวๆนี้ดีก่าน๊ะ

อันนี้เดี๊ยนแค่ขยี้เบาๆน๊ะเนี่ยยยยยย
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #76 เมื่อ: 03-09-2008, 16:31 »

"สหภาพวิสาหกิจแตกเป็นเสี่ยง ศิริชัยด่ากราด43สรส.ทรยศไม่ตัดน้ำตัดไฟตามนัดที่ดีเดย์ไว้3กันยายน  


โดย รายการเก็บตกจากเนชั่น
ที่มา เนชั่นแชแนล
3 กันยายน 2551



"ศิริชัย ไม้งาม"ประธานสหภาพกฟผ.แกนนำพันธมิตรรุ่น2เสียหน้า โดนพรรคพวก43รัฐวิสาหกิจหักหลัง ที่เคยบอกจะหยุดงานร่วมม็อบ2แสนคน ดีเดย์ตัดน้ำตัดไฟ3กันยาฯ เอาเข้าจริงหลบกันวูบวาบ ท้อใจอยากทบทวนการทำหน้าที่เป็นผู้นำสหภาพแล้ว ด่าเพื่อนรัฐวิสาหกิจเอาด้วยแต่ปากถึงเวลาไม่ยอมร่วมป่วนเมือง กนก-ธีระเนชั่นเอาใจช่วยเต็มที่ เลยโดนถามหากอยากสะใจจะตัดไฟให้เอง แต่ห้องส่งเนชั่นจอมืดด้วยเอามั๊ย?


นายศิริชัย ไม้งาม ประธานสหภาพ กฟผ. ในฐานะแกนนำพันธมิตรรุ่นที่2 ให้สัมภาษณ์รายการเก็บตกจากเนชั่น กับกนก วงศ์รัตน์สกุล-ธีระ เนชั่น โดยบ่นว่า ไม่ได้รับความร่วมมือจากสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ43องค์กรที่ตกลงกันจะผละงานเข้าร่วมชุมนุมกว่า2แสนคนในวันนี้(3ก.ย.) และตัดน้ำตัดไฟตามที่ตกลงกันไว้และแถลงข่าวไปก่อนหน้านี้ จนอยากทบทวนตัวเองในการทำงาน

ส่วนการที่ไม่มีการตัดน้ำตัดไฟในวันนี้ นายศิริชัยบนด้วยความน้อยใจว่าแม้แต่กฟผ.ที่ผมเป็นพนักงาน ผมก็ไปอธิบายว่าผมยืนหยัดต่อสู้ วันนี้ผมเดินชักชวนตอนเช้า ได้รับการตอบสนองน้อย เขาหบหนีแววตาผมหมด ผมคงต้องทบทวนการเป็นสมาชิกสหภาพ เพราะคนรัฐวิสาหกิจรู้ว่าอะไรเป็นอะไร "เอาด้วยเหมือนกันแต่เอาด้วยแต่ปาก" อย่างกฟผ.มีพนักงานอยู่13,000คน ก็มีเอาด้วยน้อย เกินครึ่งที่เขายังทำงานปกติ

ผมไม่ได้พูดเพื่อให้แตกแยก แต่เสร็จศึกนี้ต้องมาพูดกัน พนักงานรัฐวิสาหกิจมีนอนหลับไม่รู้ ทำมาหากินกันเป็นปกติ

พนักงานรัฐวิสาหกิจที่เข้าร่วมก็คงเกือบครึ่งของทั้งหมด และที่มาร่วมชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลตอนนี้ก็หมื่นกว่าคน ส่วนใหญ่ก็ยังมีจิตสำนึกยังไม่ถึง

ทั้งนี้นายกนกได้ถามว่าเจ็บปวดไหมที่โดนทรยศหักหลัง และพยายามแก้ตัวให้ว่าที่สหภาพรัฐวิสาหกิจไม่ยอมร่วมมืออาจเป็นเพราะเห็นพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ออกมาแสดงท่าทีว่าจะไม่ใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม เลยไม่ออกมาก็ได้ แต่นายศิริชัยตัดพ้อว่า แล้วถ้าเช่นนั้นทำไมประชาชนที่ชุมนุมอยู่ที่ทำเนียบเขาจึงยินดีชุมนุมกันต่อ แสดงวาสหภาพรัฐวิสาหกิจใจยังไม่ถึง ไร้จิตสำนึก

นายกนกพยายามบอกว่าน่าจะทำตามนัด ไม่น่าโดนเพื่อนทรยศแบบนี้ รู้สึกอย่างไร นายศิริชัยตอบด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดว่า หากอยากให้สะใจ ผมจะตัดไฟให้ก็ได้คุณกนกคุณธีระเอาไหม แต่หากกฟผ.ตัดไฟจะดับมืดทั้งประเทศ รวมทั้งห้องส่งเนชั่นแชแนลด้วย เอาไหม ทำให้นายกนกกับธีระหัวเราะแหะๆบอกว่า ไม่ได้อยากสะใส
......................
ดูคลิปคำสัมภาษณ์http://www.nationchannel.com/detailnews.php?newsid=1905"   
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2]
    กระโดดไป: