ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
18-04-2024, 18:35
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  สงครามหลังอิงกำแพง แค่โหมโรง-พังทั้งคู่ บ้านเมืองต้องบอบช้ำ ต้นเหตุจากคนๆเดียว 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
สงครามหลังอิงกำแพง แค่โหมโรง-พังทั้งคู่ บ้านเมืองต้องบอบช้ำ ต้นเหตุจากคนๆเดียว  (อ่าน 1299 ครั้ง)
wincha
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 123


« เมื่อ: 30-08-2008, 23:02 »



Saturday, 30 August 2008 

สัปดาห์เลือดกำลังจะผ่าน...แต่สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร เพราะเกมนี้เป็นการพิสูจน์ความอดทน-ความหน้าด้าน...ว่าใครจะ “อย่างหนา-ตราช้าง” มากกว่ากัน แต่ที่สุดแล้ว...ที่เสียหายสุดๆ ก็คือ “ประเทศชาติ”


จะเห็นได้ว่า...การต่อสู้เชิงความคิดที่สองฝ่ายต่างไม่ยอมซึ่งกันและกัน ชนิดที่ใครถอยก็ “เสียฟอร์ม-หน้าแตก” และกลัวจะตกเป็นฝ่าย “ถูกกระทำ”

ดังนั้นจึงต้องงัดทุกกลยุทธ-ทุกกลวิธีมาเล่นงานฝ่ายตรงข้าม...ให้เพลี่ยงพล้ำลงให้ได้

ฝ่าย Gang Street 5+1 เดินหน้ากระชากความชั่วร้ายของ “ขั้วอำนาจเหลี่ยม” ชนิดต้องจัดการแบบถอนรากถอนโคนให้สิ้นซาก โดยเน้นความอึด ไม่สนใจต่อเสียงติติง-เสียงวิจารณ์ของใคร

ฝ่าย “จมูกบานปากมาก” ที่ถืออำนาจรัฐอยู่ ก็ชูเรื่อง “ที่มา” ซึ่งมาตามตรอก-ออกตามประตู และที่สำคัญคนเขียนกฎเกณฑ์การเข้า-ออก...ก็เป็นคนของฟาก Gang Street 5+1 เองด้วย

จะเห็นว่า...ความชอบธรรม Gang Street 5+1 ที่อ้างเรื่อง “อหิงสา” นั้นถูกปูทาง...มาตลอดระยะเวลา 90 กว่าวัน ที่ปักหลักอยู่บนถนนราชดำเนิน

ที่แม้ใครต่อใครจะรำคาญใจ-อึดอัดใจ...กับการดื้อด้าน แต่ก็ต้องเคารพในสิทธิของการชุมนุม ที่ “รัดทำมะนวย” ฉบับปีศาจคาบไปบ์ เปิดช่องให้

แต่ความชอบธรรมนั้น...กลับมลายหายไปในพริบตา...เมื่อมีการบุกยึดสถานที่ราชการ โดยเฉพาะกับ 2 จุดใหญ่สำคัญคือ ทีวีโนบิตะ กับ ทำเนียบปากมาก

ยิ่งภาพที่ปรากฏในภายหลัง...ในการบุกยึดทีวีโนบิตะ ซึ่งเต็มไปด้วยความก้าวร้าวและอันธพาล ยิ่งทำให้ใครหลายต่อหลายคน “รับไม่ได้”

ขณะที่การบุกยึดพื้นที่ “ทำเนียบปากมาก” นั้น...ใครๆ ก็รู้ว่าเป็น “สงครามสัญลักษณ์” ที่หวังทำให้ขายขี้หน้า-หมดความชอบธรรมในการบริหาร!!!

โดยไม่คำนึงเลยว่า...ผิดกฎหมายหรือไม่!!!

เพราะหากต่อไป...มีคนอีกกลุ่มหนึ่ง ยึดรูปแบบเดียวกัน-กระทำแบบเดียวกัน แล้วนึกอยากจะไปยึดพื้นที่ไหนในประเทศไทยก็ได้ โดยอ้างว่า “รัดทำมะนวย” ให้สิทธิอันชอบธรรมไว้

แล้วประเทศนี้จะอยู่กันอย่างไร!!!

ลองคิดในมุมกลับ...หากบ้านนี้เมืองนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบที่ฟาก Gang Street 5+1 ต้องการจริงๆ คือ “การเมืองใหม่ 70:30-ประชาภิวัฒน์” แล้วพวกพ้องตัวเอง หรือ นอมินีของตัวเอง ขึ้นมาบริหารแผ่นดิน

ไม่คิดหรือว่า...เหตุการณ์เช่นนี้ก็จะเกิดขึ้นแบบเดียวกัน จะมีการบุกยึดสถานที่ราชการ เพื่อให้บริหารงานไม่ได้

ความสงบสุขในบ้านนี้ก็จะไม่มีวันจบสิ้น!!!

ที่สำคัญ...เมื่อกระบวนการเปาบุ้นจิ้น มีความเห็นมาอย่างไร...แม้จะไม่เห็นด้วย แต่ก็ควรปฏิบัติตาม และจะหาวิธีต่อสู้กันอย่างไรต่อไปนั้น...เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

แต่การอารยะขัดขืนคำสั่งของเปาบุ้นจิ้น!!! แล้ว

ถือว่าเป็นการทำให้ “สถาบันท่านเปา” เสื่อมตามไปด้วย และที่สำคัญ...เหมือนกับไปเพิ่มความชอบธรรมให้กับ “ชายหน้าเหลี่ยม” ที่เขียนแถลงการณ์อ้างเรื่องการแทรกแซงก่อนหน้านี้...ก็เป็นได้

เพราะเมื่อ “อาญาสิทธิ์ท่านเปา” ไร้มนต์ขลัง

แล้วจะรับประกันได้อย่างไรว่าจะ “ไร้อคติ” ต่อคดีความของชายหน้าเหลี่ยม

ถือเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องกลับมาตระหนักกันให้ดีว่า...จะยึดถือหลักการ-ยึดถือระบอบ หรือจะยึดถือตัวบุคคล...เท่านั้น

นี่ยังไม่นับรวมถึงการอ้าง “กำแพงใหญ่” ของทั้งสองฝ่าย

ที่ฝ่ายหนึ่ง...พยายามชูเรื่อง “ผ้าพันคอสีฟ้า” ที่เป็นเหมือนน้ำทิพย์ชโลมจิตใจ

อีกฝ่ายหนึ่ง...ก็อ้างในเรื่อง “เลือดสีน้ำเงิน” และเอ่ยอ้างถึงคำว่า “เจ้านาย” อยู่บ่อยครั้ง!!!

โดยเฉพาะกับคำพูดคลาสลิคกลางครม.ที่ว่า “ผมจะจัดการได้เรียบร้อย เพราะมั่นใจว่า “เจ้านาย” อยากให้ผมทำงานต่อไป เพราะผมมาโดยถูกต้องตามกฎหมาย”

ซึ่งถือว่า...ไม่ควรเอ่ยอย่างยิ่ง!!!

เพราะการกระทำจะเป็นเครื่องพิสูจน์...ได้ดีกว่า “คำพูด” ที่จะหยิบอะไรมาอ้างถึงก็ได้ เพื่อให้ “ฝ่ายตัวเอง” ได้เปรียบ

โดยเฉพาะกับการกระทำที่ป่าเถื่อนในการบุกยึด “ทีวีโนบิตะ” นั้น ส่งผลสะเทือนอย่างยิ่งที่ทำให้ปฏิบัติการนี้ล้มเหลว ไม่เป็นท่า...และรู้กันหรือยังว่า ทำไมถึงมีรายการ “ใครบางคน” ไม่มาตามนัด???

ทำให้แผนเชื่อมสัญญาณ...แท้ง!!!

เพราะหลังจากภาพป่าเถื่อนปรากฏไปทั่วนั้น เสียงลึกลับจากสายที่ทรงพลัง...ก็มีไปถึง “บางคน” ในฟาก Gang Street 5+1 ว่า “ทำไมต้องไปทุบ ไปยุ่งกับสื่อทำไม และอย่าเอาชื่อฉันไปอ้างอีกนะ”

เล่นเอา Gang Street 5+1 พลิกตำราตั้งรับแทบไม่ทัน...จนเป็นที่มาว่า...ทำไมในเย็นวันนั้น...ถึงจำต้องถอยออกมารวมตัวกันที่ทำเนียบฯจุดเดียว!!!

ส่วนฟาก “จมูกบานปากมาก” ก็มักเล่นบท...ทำตรงกันข้ามกับที่พูด!!!

ก่อนหน้านี้ออกมายั่วหลายครั้งว่า...จะจัดการม็อบ จะสลายม็อบ...แต่สุดท้ายก็ไม่มี-ไม่ทำ

แต่พอปากมากบอกว่า “จะไม่สลาย-ไม่จัดการ” แต่ดันมีการสลายเมื่อวันศุกร์...หน้าตาเฉย ส่งผลให้ความชอบธรรมหมดตามไปทันทีเช่นกัน

และพิสูจน์ได้ดีว่า “การกระทำ” สำคัญกว่า “คำพูด” จริงๆ

เรียกว่า “ความอึด” ก็พ่ายแพ้... “ความชอบธรรม” ก็หมดสิ้น!!!

เพียงเพราะไปเชื่อลมปาก “โกหน่อมแน้ม” ที่ใครๆ ก็รู้ว่า “ไร้น้ำยา”

เพราะขนาดตัวเองถูกปลดสมัยอยู่ในเก้าอี้ใหญ่คับเมือง ก็ยังดื้อไม่ลาออก

ที่ยังจำติดตาได้ดีคือ...การไม่รับผิดชอบต่อเหตุบึ้มทั่วกรุงฯในวันปีใหม่ ก็แสดงให้เห็นว่า “ศักยภาพ” มีเพียงพอขนาดไหน

แถมงานนี้...ยังปล่อยบางคน “ลักไก่” ทำเกินกว่าเหตุที่ไปทุบตี-ปืนจ่อหัว-รื้อเต้นท์-รื้อเวทีที่สะพานมัฆวานฯ

อยากรู้หรือไม่ว่า...เด็กๆ สีกากีในพื้นที่เค้าบ่นกันอย่างไร...ก็แหม โดนด่ามาตลอด พอได้คำสั่งให้ลุย...กำลังมันส์ๆ เข้าด้ายเข้าเข็ม ดันมีโทรลึกลับมาบอกให้หยุดหน้าตาเฉย...555

เรียกได้ว่า...จากที่ “ชายปากมาก” ยังมีแต้มต่อ...ก็กลายเป็น “ชายแก่สิ้นท่า” ทันที

เพราะจะอะไรก็แล้วแต่...การทุบตี-ปืนจ่อหัว...เป็นใครก็รับไม่ได้ แม้ว่าม็อบจะกระทำผิดก็ตาม

อาการวิ่งพล่าน...ของ “ชายจมูกบานปากมาก” ในค่ำคืนเลือดนั้น...ส่อให้เห็นเป็นอย่างดีว่า “อนาคต” จะเป็นอย่างไร???

เพราะมีไม่บ่อยครั้ง...ที่จะแบกหน้า-แบกน้ำหนักตัว...ขึ้นเครื่องบินเล็กของทหาร ถ่อสังขารไปถึง “หัวหิน” แดนดินอันศักดิ์สิทธิ์ ในกลางดึก โดยไม่ได้มีการนัดหมาย!!!

แถมข่าวอินไซด์ระดับลึกสุดใจขาดดิ้น...ก็ส่งสัญญาณมาว่า...นั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋อ...ได้แต่รออยู่ด้านนอกตลอดทั้งคืน

ทำให้เช้าวันถัดมาคือวันเสาร์...ต้องถ่อสังขารกลับเมืองกรุงฯ เพื่อมาร่วมงาน “จากวันแม่ถึงวันพ่อ” ก่อนที่มีข่าวว่า หลังเสร็จงานนี้...ก็จะกลับไป “หัวหิน” อีกครั้ง

ไม้ตายสุดท้ายที่เหลือของ “ชายจมูกบานปากมาก” ที่ใครๆ คิดว่า มีแต้มต่อเรื่อง “ยุบสภา” นั้น

ได้โปรดตระหนักไว้ว่า...อำนาจไม่ได้อยู่ที่ “ชายจมูกบานปากมาก” เหมือนกับที่ใครต่อใครรู้กันนะ...จะบอกให้

ถ้าอยากรู้...อยากให้ไปเปิด “รัดทำมะนวย” ฉบับล่าสุด ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 124 ตอนที่ 47 ก วันที่ 24 ส.ค. 2550 หน้า 38 ตรง “มาตรา 108” แล้วก็จะรู้เองว่า อำนาจการยุบสภาอยู่ที่ใคร???

พูดถึงเรื่องนี้ทำให้อดคิดถึงใครบางคน “หน้าเหลี่ยมๆ” ไม่ได้...เพราะครั้งนึงก็เคยคิดเหมือนกันว่า ตัวเองมีอำนาจล้นฟ้า...ใครก็หือไม่ได้

เพราะมีไพ่ยุบสภาอยู่ในมือ...แล้วคิดจะทำเช่นนั้น

แต่เมื่อเจอ “คำพูดอันศักดิ์สิทธิ์” ที่ว่า “ไหนบอกว่าจะลาออกงัย”...อาการหน้าแตกแบบยับเยิน ชนิดที่ “ซีดเผือก” แล้วเดินกลับจันทร์ส่องหล้าไม่ถูกเลย

จนเป็นที่มาของการต้องมา “เก็บของ” ออกจาก “ทำเนียบบ้านทรายทอง” และมีรายการ “ลูกชายปากห้อยคนโต” โผเข้าไปกอด...ก่อนลูกชายตัวจริงและเมีย...เสียอีก

นี่ถ้ายอมเลิกตั้งแต่คราวนั้น...ไม่ส่งท่อน้ำเลี้ยง...ยาวนานมาจนบัดนี้

สงครามสัญลักษณ์...ก็คงไม่ยืดเยื้อจนมาถึงเวลานี้

เรื่องวุ่นๆ ของบ้านเมืองที่เกิดความแตกแยก 2 ขั้ว...ก็เพราะ “เพียงชายคนนี้ที่หน้าเหลี่ยมๆ” นั่นเอง...555

หรือว่าคำพูดเรื่อง “รัฐบาลแห่งชาติ” จะใกล้เป็นจริง...เสียแล้ว!!!
.............................
คอลัมน์...ซุบซิบไทยอินไซเดอร์
โดย...ไต่กอ

 
ที่มา http://thaiinsider.info/
บันทึกการเข้า

"ความดีของมนุษย์จะสิ้นสุดลงเมื่อมาเป็นนักการเมือง" อริสโตเติ้ล
หน้า: [1]
    กระโดดไป: