มันเลวจริงๆครับพี่น้อง

รัฐบาลทำพิลึกปิดเงียบหมายกำหนดการจัดงานสโมสรสันนิบาตถวายพระกระยาหารค่ำฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ที่ทำเนียบฯ และการทูลเกล้าฯถวายเงินพันล้านบาทแด่ในหลวง เพื่อทรงใช้ในมูลนิธิชัยพัฒนาตามที่ “ทักษิณ” เคยประกาศก่อนหน้านี้ แถมระบุเวบไซต์กรมประชาฯ ระบุ จัดงานถวายเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

วันนี้ (15 มิ.ย.) รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่ารัฐบาลจะสามารถจัดงานสโมสรสันนิบาตที่ทำเนียบรัฐบาล รวมทั้งกรณีจะมีการทูลเกล้าฯถวายเงินจำนวน 1,000 ล้านบาท เพื่อทรงใช้ในภารกิจของมูลนิธิชัยพัฒนาตามที่เคยระบุเอาไว้ก่อนหน้านี้ได้หรือไม่

รายงานยังระบุอีกว่า หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติ 60 ปี ที่มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งมีการประชุมแล้วถึง 2 ครั้ง และมีมติที่จะจัดงานสโมสรสันนิบาตที่ทำเนียบรัฐบาล รวมทั้งยังได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการฝ่ายจัดทำของที่ระลึกสำหรับรัฐบาลทูลเกล้าฯ ถวายในงานสโมสรสันนิบาต เนื่องในโอกาสพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มีนายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช รักษาการเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน

นอกจากนั้น ยังมีความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี รับทราบรายงานเมื่อวันที่ 2 พ.ค.2549 ให้เป็นกิจกรรมที่ 17 ที่จะต้องมีการจัดงานสโมสรสันนิบาต ทำเนียบรัฐบาล ขณะเดียวกัน ในเว็บไซต์งานฉลองสิริราชสมบัติของกรมประชาสัมพันธ์ ยังเผยแพร่ว่า งานสโมสรสันนิบาต ถวายพระกระยาหารค่ำ เนื่องในวโรกาสฉลองสิริราชสมบัติ ครบ 60 ปี จะมีขึ้นในวันพุธที่ 14 มิถุนายน พุทธศักราช 2549 เวลา 19.30 น.ณ ทำเนียบรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด มีรายงานว่า ทางทำเนียบรัฐบาล โดยคณะกรรมการอำนวยการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติ 60 ปี ได้ส่งเรื่องไปยังสำนักราชเลขาธิการ เพื่อทูลเกล้าฯหมายกำหนดการเสด็จพระราชดำเนินของทุกพระองค์แล้ว ก่อนการจัดงานพระราชพิธี แต่ยังไม่มีการส่งกลับมายังทำเนียบรัฐบาล ทั้งนี้ นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงษ์ลี รักษาการโฆษกประจำสำนักนายกฯ เคยระบุว่า รัฐบาลยังไม่ได้หมายกำหนดการที่ชัดเจนในการจัดงานสโมสรสันนิบาตเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีคนงานเข้ามาทำความสะอาด และประดับประดาโคมไฟภายในตึกสันติไมตรีแล้ว รวมทั้งมีเจ้าหน้าที่มาดูรายละเอียดการจัดงานหน้าตึกไทยคู่ฟ้า

นอกจากนี้ ยังรายงานข่าวแจ้งด้วยว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ระบุด้วยว่า จะเป็นตัวแทนของคนไทยทั้งประเทศ ถวายเงินให้กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในงานสโมสรสันนิบาตฯ จำนวน 1,000 ล้านบาท เพื่อทรงใช้ในมูลนิธิชัยพัฒนานั้น ขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันว่า รัฐบาลจะจัดสรรเงินจำนวนนี้มาจากที่ไหน โดยเงินจำนวน 1,000 ล้านบาท จะไม่เกี่ยวกับเงินที่ได้จากการจำหน่ายเสื้อหรือเข็มที่ระลึกแต่อย่างใด

ขณะที่มีรายงานข่าวจากกองคลัง สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ซึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นผู้เผยแพร่ตราสัญลักษณ์งานฉลองฯ นั้น ได้รับการจองเข็มที่ระลึกฯ จากประชาชนทั่วไป หลังจากที่เปิดให้จองเมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2549 จนถึงวันที่ 15 มิ.ย.2549 ในราคา 260 บาทต่อชุด มียอดการจองมากกว่า 600,000 ชุด คิดเป็นมูลค่า 156 ล้านบาทเศษ จากเดิมที่ สปน.ตั้งเป้าไว้ที่ 500,000 ชุด โดยจะนำเงินทูลเกล้าฯถวาย จำนวน 60 ล้านบาท ภายหลังจากหักค่าใช้จ่ายต่างๆ แล้ว

เจ้าหน้าที่ สปน.รายหนึ่ง ยืนยันว่า ขณะนี้ประชาชนที่สั่งจองสามารถรับเข็มที่ระลึกไปแล้วกว่า 100,000 ชุด ส่วนผู้ที่ยังไม่รับจะสามารถรับของได้อย่างช้าภายใน 1 เดือน คือ ประมาณเดือนกรกฎาคม 2549 เนื่องจากขณะนี้มีความล่าช้าในขั้นตอนการผลิต นอกจากนี้ ระดับผู้บริหารของ สปน.ได้สั่งการทุกครั้งที่มีการประชุมให้แก้ไขปัญหา ทั้งนี้ ทาง สปน.ยังจะปิดรับการจองวัดสุดท้ายจนถึงวันที่ 30 มิ.ย.นี้ด้วย เนื่องจากมียอดจองเกินกว่าที่จะผลิตได้กว่า 100,000 ชุด นอกจากนั้น ยังเตือนด้วยว่า ขณะนี้มีเข็มที่ระลึกทำเลียนแบบออกมาจำนวนมาก ซึ่งเข็มที่ระลึกสามารถจองได้ที่ สปน.แห่งเดียวเท่านั้น

สำหรับการจำหน่ายเสื้อสีเหลืองตราสัญลักษณ์นั้น ขณะนี้ สปน.ได้ยกเลิกการสั่งจองและจำหน่ายเสื้อทุกชนิดตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย.2549 ที่ผ่านมา เนื่องจากทางกระทรวงพาณิชย์ ได้นำไปดำเนินการทั้งหมดแล้ว รวมทั้งขณะนี้กำลังเกิดวิกฤตเสื้อสีเหลืองขาดแคลนด้วย อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้สังเกตว่า ยังมีประชาชนรวมทั้งเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานอื่นๆ ที่รับจองเสื้อได้โทรศัพท์เขามาสอบถาม รวมทั้งบางรายเดินทางมาสอบถามด้วยตัวเอง แต่ก็ได้ผิดหวังกลับไปเนื่องจาก สปน.ได้ยกเลิกการจองทั้งหมดไปแล้ว และล่าสุด ในวันที่ 15 มิ.ย.ทางฝ่ายรับผิดชอบกำลังจัดทำสรุปยอดจำนวนเงินทั้งหมดอยู่ ซึ่งคาดว่า จะสูงหลายล้านบาท

ด้าน นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รักษาการรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้พิจารณาถึงการเสด็จพระราชดำเนินท่องเที่ยวและไปพำนักตามสถานที่ต่างๆ ของพระประมุขที่มาร่วมงานฉลองสิริราชสมบัติ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต พระนครศรีอยุธยา ตลาดน้ำ รวมถึงตลาดนัดสวนจตุจักร เห็นว่า บรรยากาศแนวโน้มการท่องเที่ยวของประเทศไทยจะดีมากขึ้น ดังนั้น จึงจะนำแผนต่อเนื่องของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มาประชาสัมพันธ์ต่อเนื่อง โดยจะเสนอ ครม.เพื่อเพิ่มเติมงบประมาณให้อีกประมาณ 900-1,000 ล้านบาท