ใช่
มติชน + ข่าวสด แอบเลียทักษิณมานานแล้ว
ถึงเวลาเปิดตัวจริง ๆ ซะที
ลองสังเกตดี ๆ สิว่า บรรดาคอลัมนิสต์ของมติชนส่วนใหญ่ เป็นพวกมหาบรรลัยเที่ยงคืน"นักรัฐศาสตร + นิติศาสตร์ซีปังโต้ว ซีปังเท้า / พวกลอยตัวอยู่บนหอคอยงาช้าง" แทบทั้งนั้น
ตั้งแต่นิธิ เอียวศรีวงศ์, ชาญวิทย์ เกษตรศิริ, เกษียร เตชะพีระ, ไำชยันต์ หนุ่มผมยาว, ใจ อึ๊งภากรณ์ ฯลฯ
...การ์ตูนิสม์นางหนึ่ง เขียนการ์ตูนด่าแกนนำพันธมิตรฯ สัปดาห์ละ 5 วัน ( อีก 2 วันหยอกเอินสมัครเบา ๆ )
..."หน้า 4" อย่าง "หนุ่มเมืองจันทร์ ( สรกล )" หรือวิหคเหินฟ้า ก็เลียทักษิณอย่างสุด ๆ
..."หน้า 3" อย่างเสถียร จันทิมาธร คอลัมน์ "วิภาคแห่งวิภาค" ก็ขยันหมั่นเพียรเขียนด่าพันธมิตรประชาชน + สร้างความชอบ "หลัก" ( หลักใครชนะเลือกตั้งก็ต้องได้อำนาจไป และจะทำอะไรก็ถูกไปหมด...ไม่ใช่ "ชอบธรรม" ) ให้แก่ทักษิณ ทรท. และ พปช
...วาณิช จรุงกิจอนันต์ นั่นก็ "เพื่อเลิฟของอากู๋แกรมมี่" แล้ว อากู๋แกรมมี่ล่ะ...ฝ่ายไหน ?
เดิมทีมติชนเป็นกลุ่มคนทำหนังสือพิมพ์ที่เริ่มต้นจากความเกลียดชังระบอบทหาร
เป็นพวก "แอบต่อต้านเจ้า" และ "เอาใจนายทุน ( เพื่อให้งัดคานกับเจ้า )"
ต่อมาก็ค่อย ๆ แปรเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ "ตามกระแสทุนนิยม"
เด็กที่เข้ามาใหม่ ๆ ตั้งหน้าตั้งตาทำมาหาเิงินและ "หาช่องทาง" โดยอาศัย "รากฐานลูกค้ากลุ่มเดิม ๆ" ซึ่งอุดหนุึนมติชนมาก่อน
ไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ - นิตยสารในเครืออย่าง "ข่าวสด - ประชาชาติธุรกิจ - ช่องทางเศรษฐี - ศิลปวัฒนธรรม"
หรือ "หนังสือในเครือมติชน" ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็คืิอผลงานการเขียนของ นิธิ - ชาญวิทย์ - วาณิช
ที่สุดแล้วมติชนก็ทึกทักว่าตัวเองเป็น "สถาบัน"
เสียแต่ว่าภาพของ "สถาบันสื่อมวลชน" กลับ "เลอะเลือน - เลือนลาง" ลงไปเรื่อย ๆ
ในขณะที่ภาพของความเป็น "กิจการทำการค้า" กลับโดดเด่นขึ้นมาทดแทน !
ถึงตรงนี้แล้ว ถ้าใครจะแย้งว่า "แล้วคนเก่า ๆ อย่้างคุณบุญเลิศ ช้างใหญ่ หรือคุณโอภาส เพ็งเจริญ ฯลฯ ล่ะ...หายไปไหน ?"
ก็ต้องตอบว่า "ยังอยู่" แต่ "อยู่ในสภาพของคนเก่าแก่ที่ต้องรักษษไว้เพื่อขวัญและกำลังใจของคนรุ่นหลัง"
...ไม่ต่างจาก "หัวหลักหัวตอหรือต้นไม้แก่ ๆ" ทีีมีใครเอาผ้าแพรไปพัน เอาพวงมาลัยไปแขวน
แล้วก็บอกกันต่อ ๆ ไปว่า "เฮ้ย ๆๆๆ ต้นไม้นี่ศักดิ์สิทธิ์นะเว้ย" เพื่อจะได้ไม่ต้องไป "ทำอะไรกับมัน"
รอจนกว่าจะมี "เด็กรุ่นใหม่ไฟแรง* สักคนเข้ามาบอกว่า "ไอ้ไม้ปลวกกินพวกนี้ยังจะเก็บไว้ทำไมวะ ตัด ๆ แม่งไปซะเหอะ"
( * เคยมีความพยายามมาแล้ว โดยการ "ขายหุ้นให้แกรมมี่" เพื่อที่จะได้มีผู้บริหารใหม่เข้ามาทำการ "กวาดล้าง" )
ผลจากการ "เสื่อมถอย" ทางความเป็นสื่อมวลชน สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน
ก็คือ "พฤติกรรมโง่ ๆ" หลายอย่างของนักข่าวรุ่นใหม่ในเครือมติชน
ตั้งแต่
#"ตั้งคำถามโง่ ๆ" แก่แหล่งข่าวแล้วก็โดนตอกกลับมาหน้าหงาย สุดท้ายก็ "โชว์ง่อย - ต้องขอย้ายไปหากินกับข่าวแนวอื่น"
จากหนังสือพิมพ์ที่มีความเข้มข้นและค่อนข้างเป็นกลางทางการเมือง ก็กลายเป็นหนังสือพิมพ์หน่อมแน้ม หน้าบันเทิงและ "ปริทรรศน์" แซง "ความเป็นมติชนแบบเดิม ๆ" จนแทบไม่เหลืออะไร
...รอเพียงว่าวันไหนจะเอานิยายหรือบทละคร TV มาลงเท่านั้น
#ไม่เคยกล่าวถึง "หลักธรรม" หรือ "จริยธรรม" ขาดความกล้าหาญที่จะตำหนิติเตียนหรือชี้บ่งว่าอย่างไรคือถูกผิด - เหมาะ/ไม่เหมาะสม
...กล้อม ๆ แกล้ม ๆ อ้างหลักการประเภท "ฟังแล้วรื่นหู + คนพูดก็ดูดี" อย่าง "แล้วแต่ผู้อ่านข่าวจะพิจารณาเอง" หรือ "เราต้องรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง"
...แล้วก็แถกสีข้างเอาตัวรอดไปตามร่องน้ำตื้น ๆ ถือเป็นการหาแดกไปได้อีกวัน
#แสดงความโง่เง่าไม่รู้สึกไม่รู้สา "เห็นว่าตัวเองเป็นสื่อ + เป็นนักข่าวแล้วอยากจะเอาอะไรก็ต้องได้" เช่น ในสถานการณ์การประท้วงของ พธม. ที่นักข่าวทุกสำนักพิมพ์เข้าไปนั่งทำข่าวในพื้นที่ ก็ดูเหมือนว่ามีแต่ "มติชน" เจ้าเดียวที่ทำตัวงี่เง่า - ขวางมือขวางเท้า และ ไม่รับรู้สถานการณ์ของใครทั้งนั้น
...กูเป็นนักข่าว ซึ่งมรึงคือแหล่งข่าว ถ้ามรึงอยากเป็นข่าว...มรึงต้องเอาใจกรูสิวะ......เทียบได้กับนักข่าวสงคราม "เสร่อเฟอะฟะ" ทีีมักจะ "เอาให้ได้ทุกอย่าง" ถึงขนาดเข้าใจว่าผู้บัญชาการทหารในหน่วยจะต้องดูแลเอาใจใส่ตน และ "จัดวาง - เตรียมการ - จัดการพื้นที่และความสะดวกสบาย" ให้ตน อย่างน้อยก็ต้องพอสมควร - เพื่อที่จะให้ได้ภาพสวย ๆ ดี ๆ
...ไม่มีสามัญสำนึกที่จะรับรู้ว่าเวลานั้น ขณะนั้นสำหรับคนอื่นเขาคือ "ความเป็นความตาย"
#นักข่าวหนุ่ม ๆ สาว ๆ ( บางคนก็ไม่หนุ่มไม่สาวแล้ว - เข้าวัยกลางคนแล้ว ) ของมติชนสมัยนี้ ยินดีที่จะ "
ใช้มติชนเพื่อเกื้อหนุนนายทุน หรือแหล่งข่าวของตน" แถมกว่าครึ่งหนึ่งของคนเหล่านี้ก็เป็น "ลูกหลานคนมีสตังค์" เป็นพวกเด็กนิเทศน์ - วารสาร ที่สมัยเรียน "ขี่รถไปเรียน" และใช้เครื่องมือเครื่องไม้แบรนด์เนม - ราคาแพง ยิ่งเสียกว่าผู้บริหารมติชน
...ซึ่งสามารถสังเกตุได้จาก "พื้นที่จอดรถ" อาคาร สนง.มติชน จะพบว่า "ผู้ไปติดต่อธุระ" มักจะต้องอาศัยถนนของชาวบ้านแถวนั้น ( เทศบาลรังรักษ์ใต้ - ประชานิเวศน์ 1 ) เป็นประจำ ส่วนพื้นที่จอดรถของ "ท่าน ๆ ทั้งหลาย" จะได้รับการ "จับจองและสงวนสิทธิไว้อย่างแข็งแรงแข็งขัน"จากยามหน้าตึก ถึงขนาด "ตวาดใส่คนอื่นแว้ด ๆๆๆ"
...ทั้งที่ไอ้คนที่โดนตวาดแว้ด ๆๆๆๆ นั้น คือ คนที่กำลังจะเอาเงินไปให้ท่านใช้ !
สุดท้่าย
ถึงขนาดมีคำครหานินทาว่า เพราะมติชนเสียพื้นที่ตลาดให้ "ผู้จัดการ - คมชัดลึก - ไทยโพสต์ - แนวหน้า" เยอะมาก
จึงทำให้ "ชิงชัง" จนกระทั่งออกอาการ "แอนตี้" ไอ้พวก "ไม่เอาทักษิณ" ซึ่งมักเป็นแฟนาติคของ "ผู้จัดการ - คมชัดลึก - ไทยโพสต์ แนวหน้า"
...แอบกัดแอบแทงข้างหลังเขามาก ๆ และทำกันให้เห็นจนชินภายในสำนักพิมพ์ ที่สุดแล้ว "คนมติชน" จึง "เลือกข้าง"
...เอาทางทักษิณซะ
...แม้จะยังแอบ ๆ กัดด้วยสันดาน "ลูกเศรษฐีกลัวมีเรื่อง" แต่ก็ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย "รู้สึกปลอดภัยดี" ภายใต้เงาของนักวิชาการแอบแฝงทั้งหลายแหล่ ที่อาศัยมติชนเป็นแหล่งซ่องสุม
รับไม่ไหวแล้วครับ
"บริษัททำมาหากินจากการขายข่าว" ที่ชื่อมติชน...แม้แแต่ตัวรูปเล่มก็ขนาดเล็กลงไม่ได้เพิ่มจำนวนหน้า

...เมื่อไม่มีคุณค่าในเชิงบรรณสาร
...เมื่อไม่มีความคมคาย หรือลึกซึ้งทางบทวิจารณ์
...เมื่อไม่เหลือความกล้าหาญที่อ่านแล้วน่าจะได้ความฮึกเหิมภูมิใจ
ไอ้กระดาษพิมพ์หมึกขนาดเล็กลงและไม่เพิ่มหน้าที่ชื่อมติชน - ข่าวสดก็ไม่คุณค่าอันใดที่จะเสียเวลาหยิบจับ
...ใช้แผ่รองรับสำหรับพ่นสีก็แผ่นเล็กไป + กระดาษบางเกินไป
...ใช้เช็ดขี้เช็ดเยี่ยวให้หมาก็มักจะซึมเลอะ จนต้องอาศัยถุงก๊อบแก๊บห่ออีกชั้น - ไม่สอดคล้องกับแนวคิดเชิงอนุรักษ์นิเวศน์
...ใช้คลุมศพก็ไม่ไหวเพราะขนาดเล็กเกินไปและเบาหวิวปลิวลม
หึ ๆๆๆ
ที่ Comment มาซะยืดยาว หากใครหลงเข้ามาเสียเวลาอ่าน
จะเชื่อหรือไม่ก็
"แล้วแต่ผู้อ่านจะพิจารณาเอง" นะครับ
