ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
19-02-2025, 02:39
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ศาลรับคำร้องอุทธรณ์ และให้งดบังคับคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวออกไปก่อน 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ศาลรับคำร้องอุทธรณ์ และให้งดบังคับคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวออกไปก่อน  (อ่าน 1974 ครั้ง)
RiDKuN
Administrator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,015



เว็บไซต์
« เมื่อ: 29-08-2008, 19:11 »

http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9510000102422

รัฐบาลได้ใจ เร่งรีบจะปราบพันธมิตรมากเกินไป ใช้ตำรวจเข้าดำเนินการโดยไม่มีอำนาจ
จึงทำให้ศาลเห็นว่าจะเกิดความเสียหาย หากจะให้บังคับคำสั่งคุ้มครองต่อไปอีกจนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น
ทำให้พันธมิตรชุมนุมต่อไปได้อีกอย่างน้อย 15 วัน
บันทึกการเข้า

คนไม่มี "อุดมคติ" ไม่ใช่ "นักการเมือง"
นายดอกเข็ม
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 423



« ตอบ #1 เมื่อ: 29-08-2008, 19:19 »

ก็ถูกต้องแล้ว ศาลแพ่งมีคำสั่งคุ้มครอง พอปิดหมายต้องให้เวลาจำเลยปฏิบัติ 15 วัน
ไม่ใช่ไปเร่งรัดให้เขาทำเดี๋ยวนั้น หลัง 15 วันถ้าเขาไม่ทำตามคำสั่งศาล
ถึงจะลงมือทำอย่างอื่นได้ เพราะฉะนั้นวันนี้ตำรวจผิดเต็ม ๆ ที่เข้าไปรื้อถอนเดี๋ยวนั้น

นายกฯ ยังมีหน้าออกมาพูดอีกว่า ทำไมจะต้องนัดหยุดงานกันด้วย
ยังไม่รู้ตัวอีกว่า เขานัดหยุดงานให้นายกฯ ลาออก ยังไม่สำนึกครับพี่น้อง
บันทึกการเข้า

...ความชอบธรรมต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นธรรม...
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #2 เมื่อ: 29-08-2008, 19:22 »

แบบนี้ตำรวจก็เข้าข่ายลักทรัพย์และทำให้เสียทรัพย์สิเนี่ย
บันทึกการเข้า
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #3 เมื่อ: 30-08-2008, 01:24 »

  ต่อมาเวลา 17 .00 น. ศาลแพ่งได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำสั่ง โดยเห็นว่า เนื่องจากทนายจำเลยทั้ง 6 ได้ยื่นคำร้องอ้างว่าได้มีการอาศัยหมายบังคับคดีที่ศาลออกตามคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวไปดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้นเพื่อให้เกิดความชัดเจน ศาลจึงเห็นควรอธิบายคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวฉบับลงวันที่ 27 สิงหาคม 2551 ให้คู่ความเข้าใจให้ชัดเจน กล่าวคือ ตามคำสั่งที่ระบุว่า “จึงมีคำสั่งให้จำเลยทั้งหก ออกจากทำเนียบรัฐบาลและบริเวณพื้นที่ทำเนียบฯทั้งหมด ให้จำเลยทั้ง หกดำเนินการให้กลุ่มผู้ชุมและรื้อถอนเวทีปราศรัยรวมทั้งสิ่งกีดขวางอื่นๆออกไปจากบริเวณดังกล่าว” ซึ่งการแปลความคำสั่งต้องอ่านทั้งประโยคต่อเนื่องกัน แล้วจะได้ความว่า คำว่าออกไปจากบริเวณดังกล่าวหมายถึงออกไปจากพื้นที่บริเวณทำเนียบฯเท่านั้น
       
       ในส่วนคำสั่งที่ระบุว่า “ให้จำเลยทั้ง 6 ดำเนินการให้เปิดพื้นที่จราจรถนนพิษณุโลก ถนนราชดำเนิน เพื่อให้ประชาชน คณะรัฐมนตรี โจทก์ ข้าราชการและผู้ปฏิบัติงานในทำเนียบฯสามารถเข้าออกเพื่อปฏิบัติหน้าที่ได้โดยสะดวก” นั้น เป็นคำสั่งที่ต่อเนื่องกัน การแปลความจึงต้องอ่านข้อความในคำสั่งทั้งประโยค มิใช่นำข้อความส่วนใดส่วนหนึ่งของประโยคมาแปลความ ดังนั้นเมื่ออ่านประโยครวมแล้วมีความหมายว่า การเปิดพื้นที่จราจรถนนพิษณุโลกและถนนราชดำเนินนั้น เป็นการให้เปิดพื้นที่จราจรของถนนดังกล่าวที่ติดกับทำเนียบฯ เพื่อให้สามารถเข้าออกเพื่อปฏิบัติหน้าที่โดยสะดวกเท่านั้น ในส่วนของคำสั่งที่ระบุว่า “ให้คำสั่งนี้มีผลทันที” หมายถึงให้คำสั่งมีผลบังคับแก่จำเลยได้ทันที แม้จำเลยจะยังมิได้รับการแจ้งคำสั่ง ส่วนการบังคับคดีจะดำเนินการได้เพียงใด ต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
       
       ทั้งนี้สืบเนื่องจากจำเลยทั้งหก ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษาและยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับคดีต่อศาลเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ซึ่งศาลมีคำสั่งรับอุทธรณ์และรับคำร้องขอทุเลาการบังคับคดีของจำเลยทั้ง 6 แล้วนั้น วันนี้จำเลยทั้งหก ได้ยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับคดีโดยฉุกเฉินอย่างยิ่ง อ้างว่าโจทก์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจนำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปบังคับคดีโดยรื้อถอนเวทีที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยมิได้ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 296 เบญจ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อาศัยหมายบังคับคดีของศาลเข้าทุบตีร่างกายประชาชน ทำให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก ซึ่งศาลได้มีคำสั่งให้ส่งศาลอุทธรณ์พิจารณา เห็นว่าหากยังคงให้มีการบังคับคดีต่อไปจะเกิดความเสียหาย จึงเห็นควรให้งดการบังคับคดีไว้ก่อนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 292 (2) จนกว่าศาลอุทธรณ์จะมีคำสั่งหรือคำพิพากษา แจ้งคำสั่งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทราบ เบื้องต้นให้แจ้งคำสั่งทางโทรสารก่อน และให้รวบรวมถ้อยคำสำนวนส่งศาลอุทธรณ์โดยเร็ว



http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9510000102422



วันนี้ไอ้หอกหัก 'หมัก เมถุน' ให้สัมภาษณ์อย่างไร้ยางอาย มีสันดานตลบแตลง หลอกลวงประชาชนอีกว่า ตำรวจไปกับเจ้าหน้าที่กรมบังคับคดี เพื่อช่วยปิดหมายศาลเท่านั้น.....!!!

ตุลาการภิวัฒน์คงนึกไม่ถึงว่า'ไอ้หอกหัก'  มท.1 ผู้สั่งการเหนือรัฐตำรวจจะมีพฤติกรรมเลวทรามต่ำช้า ละเมิดคำสั่งศาลฯ บิดเบือนคำสั่งศาลฯ อย่างนั้นในกรุงเทพมหานคร ใกล้สายตา ใกล้ความยุติธรรม.......!!!

ถ้าการละเมิดคำสั่งศาลฯ บิดเบือนคำสั่งศาลฯในชนบทห่างไกล ไกลหู ไกลตา น่าจะมีประชาชนผู้บริสุทธิ์ต้องสังเวยชีวิตจำนวนหนึ่ง....!!!

เหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างนี้แล้ว หวังว่าศาลอุทธรณ์จะนำเหตุการณ์นี้ประกอบการพิจารณาการอุทธรณ์ของ'พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย' เพื่อไม่ให้รัฐบาลหอกหัก และตำรวจของรัฐตำรวจทำร้ายประชาชน ทำลายทรัพย์สินประชาชน และ ละเมิดสิทธิเสรีภาพ การชุมนุมของประชาชนได้อีก....!!!



ปล. สุจริตชนที่คิดว่า มท.1 คนใหม่นี้จะมีพฤติกรรม สันดานดีกว่า มท.1 โอเค ซิกกาแลต โคลา ต้องเสียใจ ผิดหวังอย่างแน่นอนแล้ว...ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-08-2008, 01:29 โดย ปุถุชน » บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #4 เมื่อ: 30-08-2008, 01:35 »

  ต่อมาเวลา 17 .00 น. ศาลแพ่งได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำสั่ง โดยเห็นว่า เนื่องจากทนายจำเลยทั้ง 6 ได้ยื่นคำร้องอ้างว่าได้มีการอาศัยหมายบังคับคดีที่ศาลออกตามคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวไปดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้นเพื่อให้เกิดความชัดเจน ศาลจึงเห็นควรอธิบายคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวฉบับลงวันที่ 27 สิงหาคม 2551 ให้คู่ความเข้าใจให้ชัดเจน กล่าวคือ ตามคำสั่งที่ระบุว่า “จึงมีคำสั่งให้จำเลยทั้งหก ออกจากทำเนียบรัฐบาลและบริเวณพื้นที่ทำเนียบฯทั้งหมด ให้จำเลยทั้ง หกดำเนินการให้กลุ่มผู้ชุมและรื้อถอนเวทีปราศรัยรวมทั้งสิ่งกีดขวางอื่นๆออกไปจากบริเวณดังกล่าว” ซึ่งการแปลความคำสั่งต้องอ่านทั้งประโยคต่อเนื่องกัน แล้วจะได้ความว่า คำว่าออกไปจากบริเวณดังกล่าวหมายถึงออกไปจากพื้นที่บริเวณทำเนียบฯเท่านั้น
       
       ในส่วนคำสั่งที่ระบุว่า “ให้จำเลยทั้ง 6 ดำเนินการให้เปิดพื้นที่จราจรถนนพิษณุโลก ถนนราชดำเนิน เพื่อให้ประชาชน คณะรัฐมนตรี โจทก์ ข้าราชการและผู้ปฏิบัติงานในทำเนียบฯสามารถเข้าออกเพื่อปฏิบัติหน้าที่ได้โดยสะดวก” นั้น เป็นคำสั่งที่ต่อเนื่องกัน การแปลความจึงต้องอ่านข้อความในคำสั่งทั้งประโยค มิใช่นำข้อความส่วนใดส่วนหนึ่งของประโยคมาแปลความ ดังนั้นเมื่ออ่านประโยครวมแล้วมีความหมายว่า การเปิดพื้นที่จราจรถนนพิษณุโลกและถนนราชดำเนินนั้น เป็นการให้เปิดพื้นที่จราจรของถนนดังกล่าวที่ติดกับทำเนียบฯ เพื่อให้สามารถเข้าออกเพื่อปฏิบัติหน้าที่โดยสะดวกเท่านั้น ในส่วนของคำสั่งที่ระบุว่า “ให้คำสั่งนี้มีผลทันที” หมายถึงให้คำสั่งมีผลบังคับแก่จำเลยได้ทันที แม้จำเลยจะยังมิได้รับการแจ้งคำสั่ง ส่วนการบังคับคดีจะดำเนินการได้เพียงใด ต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
       
       ทั้งนี้สืบเนื่องจากจำเลยทั้งหก ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษาและยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับคดีต่อศาลเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ซึ่งศาลมีคำสั่งรับอุทธรณ์และรับคำร้องขอทุเลาการบังคับคดีของจำเลยทั้ง 6 แล้วนั้น วันนี้จำเลยทั้งหก ได้ยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับคดีโดยฉุกเฉินอย่างยิ่ง อ้างว่าโจทก์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจนำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปบังคับคดีโดยรื้อถอนเวทีที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยมิได้ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 296 เบญจ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อาศัยหมายบังคับคดีของศาลเข้าทุบตีร่างกายประชาชน ทำให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก ซึ่งศาลได้มีคำสั่งให้ส่งศาลอุทธรณ์พิจารณา เห็นว่าหากยังคงให้มีการบังคับคดีต่อไปจะเกิดความเสียหาย จึงเห็นควรให้งดการบังคับคดีไว้ก่อนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 292 (2) จนกว่าศาลอุทธรณ์จะมีคำสั่งหรือคำพิพากษา แจ้งคำสั่งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทราบ เบื้องต้นให้แจ้งคำสั่งทางโทรสารก่อน และให้รวบรวมถ้อยคำสำนวนส่งศาลอุทธรณ์โดยเร็ว



http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9510000102422



วันนี้ไอ้หอกหัก 'หมัก เมถุน' ให้สัมภาษณ์อย่างไร้ยางอาย มีสันดานตลบแตลง หลอกลวงประชาชนอีกว่า ตำรวจไปกับเจ้าหน้าที่กรมบังคับคดี เพื่อช่วยปิดหมายศาลเท่านั้น.....!!!

ตุลาการภิวัฒน์คงนึกไม่ถึงว่า'ไอ้หอกหัก'  มท.1 ผู้สั่งการเหนือรัฐตำรวจจะมีพฤติกรรมเลวทรามต่ำช้า ละเมิดคำสั่งศาลฯ บิดเบือนคำสั่งศาลฯ อย่างนั้นในกรุงเทพมหานคร ใกล้สายตา ใกล้ความยุติธรรม.......!!!

ถ้าการละเมิดคำสั่งศาลฯ บิดเบือนคำสั่งศาลฯในชนบทห่างไกล ไกลหู ไกลตา น่าจะมีประชาชนผู้บริสุทธิ์ต้องสังเวยชีวิตจำนวนหนึ่ง....!!!

เหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างนี้แล้ว หวังว่าศาลอุทธรณ์จะนำเหตุการณ์นี้ประกอบการพิจารณาการอุทธรณ์ของ'พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย' เพื่อไม่ให้รัฐบาลหอกหัก และตำรวจของรัฐตำรวจทำร้ายประชาชน ทำลายทรัพย์สินประชาชน และ ละเมิดสิทธิเสรีภาพ การชุมนุมของประชาชนได้อีก....!!!



ปล. สุจริตชนที่คิดว่า มท.1 คนใหม่นี้จะมีพฤติกรรม สันดานดีกว่า มท.1 โอเค ซิกกาแลต โคลา ต้องเสียใจ ผิดหวังอย่างแน่นอนแล้ว...ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮา
ศาลระบุว่าจำเลยทั้ง 6 ออกจากทำเนียบ แต่รัฐบาลหมักเมถุนกลับไล่ประชาชนที่ไม่ได้เป็นจำเลยตามคำสั่งศาลโดยใช้ความรุนแรง เท่ากับว่ารัฐบาลหมักเมถุนละเมิดสิทธิมนุษยชน และละเมิดศาลอีก
บันทึกการเข้า
noppon
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 165



« ตอบ #5 เมื่อ: 30-08-2008, 09:04 »

ศาลแพ่งก็นะ...น่าจะใช้บรรทัดฐานเดียวกับกรณีข้าราชการกระทรวงศึกษาฟ้องพันธมิตรฯ ที่สะพานมัฆวาน
คือส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความก่อน โดยไม่ต้องมีการคุ้มครองชั่วคราว แต่ดันมาใช้บรรทัดฐานเดียวกับกรณีโรงเรียนราชวินิต
ทั้งที่สถานการณ์มันล่อแหลมขนาดนั้น

ก็เลยโดนรัฐบาลชั่ว เอามาเป็นเกราะคุ้มกัน เอามาบังหน้าในการสลายม็อบ
บันทึกการเข้า

สมาชิกลำดับที่ #71 ครับ
หน้า: [1]
    กระโดดไป: