สมัครลาออกแล้ว..........

[อนัตตา (ไร้สี ไร้กลิ่น ไร้ฝ่าย)]

จะเอาใครเป็นแทน

แล้ว พธม. จะทำไงต่อ

[Solidus]

สมัครลาออก ถ้าลูกพรรคเลือกมันเป็นต่อจะทำ ไง

[เพื่อนฝัน]

นึกว่าเราตกข่าว....ว่านายกประกาศลาออก

[soco]

ใครเป็นแทน

พันธมิตรเอาไง

ผมคงไม่ทราบครับ



ประเด็นกลับกัน ลองวิจารณ์ว่า

สมัครเป็นนายกรัฐมนดรี ได้ด้วยเหตุใด เพื่อใคร เพื่อประชาชน โดยประชาชน แน่หรือ  ส่วนสมานฉันท์ในนโยบาย ก็เขียนได้ การกระทำก็เห็นกันอยู่

เอ๊ะ ผมจะเป็นกบฎ ด้วยไหมครับ 






ประเด็นว่า พันธมิตร ออกมาได้อย่างไร ตั้งแต่ประกาศฉบับที่ 1

และประชาชน ไปร่วมด้วยเพราะพันธมิตรนะหรือ ?

ผมมองว่าไม่ใช่ 

[เช็คบิล]

ลาออกส่วนลาออก

แต่ถามว่าจะเอาใคร มันก็อีกเรื่อง ต้องแยกกันน่ะครับ

ที่แน่ๆ คือ ถ้าจะให้ดี ต้องเอาส้นตีนตบปากไอ้สมัคร ไอ้บรรหาร และตัวอื่นๆ อีกเพียบ รัฐมนตรีทั้งคณะ รวมถึงฝ่ายค้านไปเลย

จัดการเอาส้นตีนตบปากก่อน ให้เลือดกลบแผ่นดิน

แล้วค่อยว่ากันใหม่

ประเทศเรามีทางออกเสมอ ถ้าเราใช้สติ

อย่าลืมว่า ที่มันยุ่งก็เพราะ นักการเมืองเฮงซวยทั้งหลายแหล่ 

[Cylonn]

เมาก็ไปนอนสะ

[mebeam]

หงุดหงิดถูกถามถึง “ประสงค์-พัลลภ”  :

        ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการเปิดเผยชื่อ น.ต.ประสงค์ สุ่นสิริ และ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อยู่เบื้องหลังพันธมิตรฯ พล.ต.จำลองตอบว่า ไม่ทราบ

เมื่อถามย้ำว่า ยืนยันไดหรือไม่ว่าทั้งคู่ไม่เกี่ยวข้องกับพันธมิตรฯ พล.ต.จำลองกล่าวอย่างหงุดหงิดว่า มีอะไรแสดงว่าทั้งคู่เกี่ยวข้องกับพันธมิตรฯ

เมื่อถามว่า ถึงวันนี้สิ่งที่จะทำให้พันธมิตรฯ ยุติการชุมนุมได้คืออะไร

 พล.ต.จำลองตอบว่า จะไม่มีการเจรจากันอีกแล้ว แต่สิ่งที่จะยุติได้คือ

1. ต้องมีสิ่งยืนยันได้แน่นอนว่าจะไม่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเด็ดขาด
2. รัฐบาลต้องออกไป และ
3. ถึงวันนี้ไม่ใช่แค่เปลี่ยนขั้วรัฐบาลเท่านั้น แต่ต้องเป็นการเมืองใหม่ ตามทฤษฎีใหม่ที่เคยเสนอไป 

เมื่อถามว่า ทฤษฎีการเมืองใหม่ถูกโจมตีอย่างหนัก พล.ต.จำลองตอบว่า ก็แล้วแต่ใครจะพูด เมื่อถามว่า เสียใจหรือไม่ที่ทหารไม่ออกมาอย่างที่ต้องการ พล.ต.จำลองตอบว่า ไม่ แล้วแต่เขา บอกแล้วว่าถ้าเขาออกมาก็พวกเรา แต่ถ้าไม่ออกก็ไม่ได้หมายความว่าพวกใคร เราต้องพึ่งตัวเอง ไปหวังพึ่งใครไม่ได้

(ที่มา ไทยรัฐ , 28 สิงหาคม 2551)

[ริวเซย์]

ถ้าลาออกไปก็ต้องออกไปทั้งคณะ ลาออกไปทั้งพรรค

จากนั้นเอานายกคนนอกเข้ามาแก้ปัญหาชาติบ้านเมืองให้เรียบร้อยก่อน

ขอเสนอท่านอานันต์ ปัญญารชุน หรืออดีตประธานศาลฎีกาที่มีความซื่อตรงเฉียบขาด

[A-NOY]

สรุป จะสมัคร หรือจะลาออก ฮา

[boyk]

หอกหักลาออกเพราะทนวัวไม่ไหว



นายวรัญชัย โชคชนะ เดินทางมายังกองบัญชาการตำรวจนครบาลเรียกร้องให้พันธมิตรยุติการชุมนุม และออกจากทำเนียบรัฐบาล



ตกลงจะไล่รัฐบาลหรือพันธมิตร

หรือรัฐบาลพันธมิตร 

[samepong(ยุ่งแฮะ)]

สมัครลาออกก็ต้องให้ สภาสรรหา

แต่ถ้าลาออก ก็ไม่เปลี่ยนอะไรมากมาย แต่ถ้ายุบสภา เลือกตั้งใหม่ภาพจะชัดเจนกว่า การเปลี่ยนนายก ก็กฎเดิมครับ เอาผิดกับคนที่หนีคดี เอาผิดกับแกนนำพัธมิตร ยุติธรรมสองฝ่าย ถ้าเอาผิดพันธมิตร แต่คนหนีคดี ยังลอยนวล ก็คือไร้ซึ่งความุติธรรม อย่าบอกว่าไม่ผิดเพราะยังไม่ตัดสินเพราะตัดสินก็ไม่มา เมื่อไม่มามันก็ตัดสินไม่ได้

ดังนั้น การปฎิบัติต้องไม่เลือกปฎิบัติ คน8-9คน เค้ามาถึงวันนี้แลกกับคนโกงชาติ ขายชาติ และหวังนั่งสูงเทียมฟ้า ย่อมคุ้มค่าครับ ถ้าเอาคนหวังนั่งสูงเทียมฟ้าลงไปนรกได้ เอาชีวิตผม+ไปอีก1ไปผูกมันไว้ในรก ผมก็ยินดี

[AsianNeocon]

ขอโทษที่ไม่ได้มาอ่านกระทู้นี้ก่อน คงไม่ไปตั้งกระทู้ใหม่ ขอก๊อปมาแปะเลยนะครับ



ดูเหมือนบรรดาสื่อมวลชนและคนในสังคมมัวแต่สนใจว่า ใครจะชนะ หรือแพ้ ใครอยู่ใครไป แต่ไม่มีใครถามเลยว่าแล้วไงต่อ

ผมตั้งข้อสังเกตไปในกระทู้ของคุณ lugus ว่า
http://forum.serithai.net/index.php?topic=32780.0

ทิศทางที่ 1 สมัครลาออก มีเลือกตั้ง แล้วไงต่อ เลือกตั้งเข้ามาใหม่ก็ชนะอยู่ดี เพราะว่าคนส่วนใหญ่ก็ยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น  คุณไปดูคนกรุงเทพฯบางคน อายุปาเข้าไป 25-26 กันแล้วก็ยังเล่นแต่ hi5 ยังบ่นๆกันอยู่ว่า บ้านเมืองวุ่นวาย น่าเบื่อ ไม่ว่าทั้งชายหรือหญิง แล้วดี๊ด๊ากันต่อ

ทิศทางที่ 2 รัฐประหารโดยฝ่ายทหาร เข้าสู่วงจรเดิม แล้วก็เลือกตั้ง แล้วก็ตะกวดเข้ามาใหม่

ทิศทางที่ 3 รัฐประหารโดยฝ่ายไอ้เหลี่ยม พวกไอ้เหลี่ยมดี๊ด๊าแน่นอน เน่าลงกว่าเดิม นำไปสู่การนองเลือดครั้งใหญ่

ทิศทางที่ 4 สมัครอยู่ต่อ แกนนำเข้าคุก วุ่นวายต่อ แล้วก็ไปดูว่า จะเข้าทิศทางที่ 1 หรือ 2 หรือ 3


ตอนนี้ก็เหลือแต่ ทิศทางที่ 1 ที่ชัดที่สุด แล้วก็ทิศทางที่ 2 ซึ่งยังมีความเป็นไปได้ แต่เลือนลางลงทุกขณะ


กอริลล่าจมูกบานคงต้องไปแน่นอนแล้วครับ ลงไปแล้ว จะไปเข้าคุก หัวใจวายตาย ก็ไม่ใช่ประเด็นแล้ว เพราะมันอายุก็ปาเข้าไป 74 แล้วคงไม่ต้องแช่งชักหักกระดูกอะไรกันมาก

แต่ทิศทางของการบริหารบ้านเมืองสิ จะไปทางไหนต่อ   ดูแล้วไม่ค่อยโสภาเท่าไร ถ้ายังคงคิดแต่จะเลือกตั้ง เพราะแค่ระดับ อบจ. อบต. ยังอเนจอนาถเช่นเดียวกับระดับชาติ แสดงถึงความไม่พร้อมของคนส่วนใหญ่ในระบอบประชาธิปไตย

หรือถ้าจะว่า จะต้องไปทางเผด็จการแบบคำนึงถึงผลประโยชน์ชาติ (benevolent authoritarian ภาษาไทยไม่มีคำกะทัดรัด) ที่ผลักประเทศไปข้างหน้าโดยไม่มีการเลือกตั้ง อย่าง สิงคโปร์(เลือกแบบพิธีกรรม) จีนแดง เกาหลีใต้ในสมัยปาร์ก จุง ฮี (ซึ่งผมอยากจะให้เป็นเผด็จการเต็มใบมากๆ ถ้าเป็นไปได้)  มันก็ต้องมี "ปืน-รถถัง" เป็นคนสั่งว่าใครจะมาอยู่ดี ซึ่งก็ปรากฎว่า ประเทศนี้ยังไม่ปรากฎบุคคลอย่างว่าในขณะนี้

งง ให้พันธมิตรฯชนะเลย แล้วไงต่อ? so what? 然後呢﹖

ป.ล. จริงๆ อดีตนายกเขายายเที่ยงควรต้องรับผิดชอบด้วย เพราะประกาศวันเลือกตั้งโดยที่ไม่พร้อม ทั้งๆที่เขาเตือนกันขรมว่า วุ่นแหงๆ แล้วก็จริงๆ เสียเงิน 3 พันล้านฟรีๆ เสียดินแดนอีกต่างหาก เศรษฐกิจย่อยยับ

[samepong(ยุ่งแฮะ)]

พูดถึงเรื่องนี้ผมเลย นึกได้ เมื่อคืนผมพูดกับพี่ๆว่า การเมืองถ้า สมัครลาออกแล้ว มันจะทำไง แบบเดิมไม่ไหว
มันกลับมาแบบเดิมๆ ไร้ความหมาย การเมืองใหมควรเป็นอย่างไร70-30 ไม่ได้ ยังไง100%ต้องวางไว้แน่นอน กรเมืองใหม่ในแนวที่คุยกันได้ประมาณนี้

เลยได้ความคิดว่า แก้กฎหมายเลือกตั้งกันก่อน แล้วคิดรูปแบบที่เหมาะ เมื่อคืนถกถึงเกือบเช้า แบบสนุกมาก
คิดได้ว่าทำไมเราไม่ลองเลียนแบบกึ่งฝรั่งเศษมา เลือกตั้ง อาจจะเลือก2-3รอบ
แล้ว ยังไงดี 2-3รอบ อย่างที่บอกทุกวันนี้คนที่มีสิทธิ์เลือกตั้งคือคนที่มีอายุ18-จนวันตาย แต่เค้าสนใจการเมืองจริงๆแค่ไหน
แล้วคนกลุ่มนี้มีใครที่อยากได้สิทธิ์จริงๆมั้งหรือเป็นคำพูดได้ว่าหน้าที่มากกว่าสิทธิ์ใ ห้เค้ามาใช้สิทธิ์ถ้าไม่มาโดนตัดสิทธิ์มันเหมือนบังคับมากกว่าการได้สิทธิ์

เลยนึกได้ว่า ถ้างั้นให้กรองคนลงคะแนนก่อนไหม กรองคนที่ไม่คิดว่าการเมืองเป็นเรื่องของตัวเองออกไปก่อน แบบเล่น hi5อย่างที่บอก ออกไปยังไง

เช่น การให้เค้าไปยืนยันขอใช้สิทธิ์(เหมือนใช้สิทธิ์ล่วงหน้า)แต่ถ้าไม่มาก็ไม่โดนตัดสิทธิ์อะไร เราก็จะได้คะแนนของคนที่คิดว่าการเมืองคือเรื่องของเค้าจริงๆ โดยพวกที่คิดว่าจะไม่ลงคะแนนก็ควรมาลงทะเบียนด้วยเพราะอะไรอยู่ลงไป มีคำตอบด้านล่าง เราก็จะได้คะแนนที่สะอาดกว่า ก็ถามกันว่ามันก็ลากมาลงขอใช้สิทธิ์ มันก็ใช่แต่อย่างน้อย กรองรอบนี้ก็ต้องใช้เงินในการลากมันต้องใช้ทุนมากขึ้นในการทำธนกิจการเมืองของนายทุน และต้องทำก่อนเปิดตัวผู้สมัครนี่ไงเลยจำเป้นต้องมาลงขอใช้สิทธิ์เพราะอาจจะเจอคนที่อยากลงที่หลัง ถ้ามีการลากโดยผู้สมัคร โอกาศแจกใบแดงรอบแรกมาก่อนเลย เมื่อโดนแล้วก็เท่ากับลากมาใช้สิทธิ์ฟรี คนที่มาขอใช้แล้วไม่มาเลือก(โดนใบแดงไปแล้วนี่หว่า)โดยไม่มีเหตุจำเป็นให้ถูกปรับมีระวางโทษปรับที่แพงอยู่ อาจจะเกิน500ไปนิด(ปกติซื้อเสียงกันปะมาณไหนก็+ไปนิดหน่อย)
พอมองเห็นไหมว่ามันเสี่ยงที่จะแดงมากขึ้นและซื้อเสียงลำบากขึ้น

พอเปิดตัวผู้สมัครแล้ว ให้ทำการหาเสียงปกติแต่ที่ต้องแก้คือ ผู้สมัครที่ลงแข่งขันไม่ต้องเสียค่าสมัคร(ให้ปราชญ์ชาวบ้านได้โอกาศลงมั้ง)ไม่ต้องสังกัดพรรคการเมือง
แล้วการเลือกตั้งผู้ชนะต้องได้คะแนนเกิน20%ของผู้มาขอใช้สิทธิ์ย้ำผู้มาขอใช้สิทธิ์ ถ้าการเลือกตั้งนั้นไม่ถึง20%ให้ทำการแขวนการเลือกตั้งเขตนั้นไว้ก่อนถ้าเกินก็รับรอ
เกินก็รับรองได้เลย
 แล้วให้คนที่แพ้ทั้งหมดไปคิดว่าจะให้เลือกใหม่ไหมในกรณีที่ไม่ถึง20%ถ้าให้เลือกใหม่ค่าใช้จ่ายพวกที่แพ้ต้องจ่ายเอง(ซื้อเสียงรอบแรกไม่ได้รอบสองอยากซื้อก็เอาอีกไหวไหม)
แล้วให้เลือกรอบสองโดยให้สิทธิ์แก่ผู้มาใช้สิทธิ์รอบแรกคนมาลงขอใช้สิทธิ์แล้วไม่มาโดนตัดสิทธิ์ทันที แล้วคนที่ได้คะแนนจากรอบที่แล้วไม่ถึง1ใน5ของผู้มาใช้สิทธิ์ให้ถูกตัดออก
ก็จะเหลือตัวคนที่ให้เลือกน้อยลง รอบนี้แพ้ชนะกันจริงๆไม่ต้องมาวัดว่าได้เท่าไหร่แพ้เท่าไหร่ทำให้กระบวนการซื้อเสียงต้องใช้เงินเยอะขึ้น ธนกิจการเมืองก็ทำงานลำบากซื้อกันหลายรอบจ่ายกันหลายขนาน
และผู้ที่มาใช้สิทธิ์ก็เป้นคนที่คิดว่าเค้าอยากใช้จริงๆเลือกไป2รอบเค้าก็ยินดีอยู่แล้ว

นี่เป้ฯแค่แนวคิดที่คิดว่าทำยังไง เราจะได้คนที่อยากใช้สิทธิ์จริงๆ ทำไงการซื้อเสียงจะลำบาก และคนขายเสียงก็ควรโดนลงโทษด้วบ นี่เป้ฯแนวคิดการเมืองใหม่ที่คิดเล่นๆ เพื่อนๆในบอร์ดลองวิจารณ์กันได้เต็มที่ครับ

[นค]

น่าจะมีจดหมายน้อยขึ้นไปถามแกนนำว่า  ถ้าประชาภิวัตน์แล้ว จะทำไงต่อ

๑. ขอนายกพระราชทาน  เพราะการเมืองเป็นสูญญากาศ
๒. นายกลาออก เลือกใหม่ตาม รธน ๑๗๒,๑๗๓  ก็เสี่ยงจะได้ พรรคปล้นชาติเข้ามา 
๓. น่าจะถามผู้ชุมนุมว่า  อยากได้ใครเป็นนายกประเทศไทย  ไหน ๆ ปชช ก็มากันทุกภาค อำเภอ ตำบล
(ก็ประชาภิวัตน์ ถามประชา)
๔. ถ้ายุบสภาเลือกตั้งใหม่  ถามประชาในทำเนียบว่า จะเลือกคนดีมาเป็น สส  จะดูยังไง  เลือกยังไง
แล้วในเขตของตนมีปัญหาอะไร  จะแก้กันยังไง
๕.ชุมนุมในทำเนียบ ก็ให้ประชชนลองบริหารประเทศ ว่า จะบริหารอย่างไร 
ก็อยู่ในทำเนียบแล้ว

ดูท่าสมัครไม่ลาออกง่าย ๆ บอกว่า จะไปประชุมที่ไหนก็ได้  แอบไปประชุม มีมติ ครม อะไรออกมาบ้าง
ตามดูกันบ้าง

แฉเรื่องโกงกินปล้นชาติของพรรคนี้ มา ๙๐ กว่าวันแล้ว  สอนประชาธิปไตย ให้ ปชช ในเรื่องการบริหาร
จะจัดการบริหารประเทศชาติอย่างไร

ระหว่างรอให้สมัครลาออก --- ประชาปฏิวัต์ ไม่ต้องใช้รูปแบบปฏิวัติเดิม ๆ ก็ได้
ปฏิวัติความคิดของ ประชาชน แบบขุดรากถอนโคน ก็ได้  พร้อม ๆ กับขุดรากถอนโคนระบอบแม้ว

ปฏิวัติความคิดให้ ปชช ในชนบท มีอำนาจในการจัดการกับ สส ขายตัว
ให้ ปชช รู้จักการจัดตั้งพรรค  ให้ ปชช รู้ว่า  สส  ปชช  ตาสี ตาสาตาอิน ตานา ก็เป็นได้

สภาปชช  ทำเนียบ ปชช ไง

เพราะทุกวันนี้ ทำเนียบมีแต่ เหรี้ย อยู่  อิอิ

ปชช  มาเป็นแสน  ปฏิวัติความคิดเรื่อง ปชต หัวข้อ การได้มาซึ่ง สส  ปชช  ไม่ใช่  สส มาจากหัวคะแนน

หวังว่าคงเข้าท่า อิอิ

 

[Mz]

พูดถึงเรื่องการเมืองใหม่

ในส่วนของการเลือกตั้ง ว่าด้วย 1คน1เสียงเท่ากัน
ผมอยากตั้งคำถามว่า เป็นทางที่ดีที่สุดแล้ว?

ถ้าเราแบ่งของกัน เราแบ่งเท่าๆกัน ไม่สนตัวใหญ่ตัวเล็ก .. อันนี้เหมาะสมครับ
แต่ถามว่า .. ถ้าเรามาช่วยกันออกความเห็น เพื่ออนาคตชาติบ้านเมืองส่วนรวม .. 1คน1เสียงเท่ากัน โดยไม่อิงความรู้ความเข้าใจ .. เหมาะสมหรือไม่

หากมีคนป่วย ชาวบ้าน 5คน หมอ 1คน จะให้โหวตวิธีรักษาคนไข้หรือไม่

ยังไม่มีคำตอบครับ มีแต่คำถาม

[chaturant]

ถ้าลาออก ครม. ก็ต้องออกหมดครับ แต่ถ้า ลาออกแล้ว สภาเลือกเข้ามาใหม่ พธม. ก็ต้องชุนนุมต่อไป อันนี้ สุริยะใสประกาศไปแล้ว แต่ถ้ายุบสภา ก็มาลุยเลือกตั้งกันใหม่ครับ  ถ้าอีสาน ยังเลือกมาอีก ก็ยกประเทศให้มันไปครับ เพราะ อีสาน เลือก พรรค ไร พวกเรา กทม. หรือภาคอื่น ก็ทำห่าไรไม่ได้อยู่แล้ว ภาคเดียว เกือบ 22 ล้านคน แต่ กทม 5 ล้านคน + ภาคใต้  9,076,079 + กลาง ตอนล่าง 4 ล้านได้ + ตะวันออก 3 ล้าน  ยังได้ประมาณ 21 ล้านต้นๆเลย     ถึงบอก อีสาน เลือกไร เราก็ทำไรไม่ได้  ซึ้งอีสานเก็บภาษีได้  
    ปีละ (19 จว) : 20,877.867 ล้านบาท
    เฉลี่ย จว ละ : 1,098.835     ล้านบาท

ส่วน กทม. พวกเราที่ทำงานหลังขดหลังแข็ง จ่ายภาษี ให้รัฐ แล้วก็เอาไปแจกรากหญ้าต่อ  เก็บได้ปีละ  : 566,943.264 ล้านบาท

น่าแปลก ที่ ภาคที่จ่ายภาษีน้อยที่ สุด กลับเป็นภาคที่สามารถ กำหนดผู้นำประเทศได้ โดยผูกขาดและ กำหนดอนาคตประเทศได้หมด  ยิ่ง + ภาคเหนือไปอีก มีอีก  8,987,166 คน รวมแล้วกว่า 30 ล้านคน  ซึ่ง เก็บภาษีได้ปีละ  (9 จว) : 12,246.99 ล้านบาท   เฉลี่ย จว ละ : 1,308.77 ล้านบาท  ซึ่งเก็บไ้ด้น้อย รองจากอีสาน ทำไงได้ละครับก็คงต้องนั่งทำงานงกๆๆ ต่อ ไป ถวายเงินให้รัฐบาลเอาไปถลุงต่อไปครับ ถ้ายิ่ง พธม. แพ้อีก ก็ไม่ต้องมีความหวังที่ใครจะมาตรวจเงินภาษีของพวกเราและครับ

http://www.rd.go.th/publish/36837.0.html

[AsianNeocon]

เลยได้ความคิดว่า แก้กฎหมายเลือกตั้งกันก่อน แล้วคิดรูปแบบที่เหมาะ เมื่อคืนถกถึงเกือบเช้า แบบสนุกมาก
คิดได้ว่าทำไมเราไม่ลองเลียนแบบกึ่งฝรั่งเศษมา เลือกตั้ง อาจจะเลือก2-3รอบ
แล้ว ยังไงดี 2-3รอบ อย่างที่บอกทุกวันนี้คนที่มีสิทธิ์เลือกตั้งคือคนที่มีอายุ18-จนวันตาย แต่เค้าสนใจการเมืองจริงๆแค่ไหน
แล้วคนกลุ่มนี้มีใครที่อยากได้สิทธิ์จริงๆมั้งหรือเป็นคำพูดได้ว่าหน้าที่มากกว่าสิทธิ์ใ ห้เค้ามาใช้สิทธิ์ถ้าไม่มาโดนตัดสิทธิ์มันเหมือนบังคับมากกว่าการได้สิทธิ์

เลยนึกได้ว่า ถ้างั้นให้กรองคนลงคะแนนก่อนไหม กรองคนที่ไม่คิดว่าการเมืองเป็นเรื่องของตัวเองออกไปก่อน แบบเล่น hi5อย่างที่บอก ออกไปยังไง

เช่น การให้เค้าไปยืนยันขอใช้สิทธิ์(เหมือนใช้สิทธิ์ล่วงหน้า)แต่ถ้าไม่มาก็ไม่โดนตัดสิทธิ์อะไร เราก็จะได้คะแนนของคนที่คิดว่าการเมืองคือเรื่องของเค้าจริงๆ โดยพวกที่คิดว่าจะไม่ลงคะแนนก็ควรมาลงทะเบียนด้วยเพราะอะไรอยู่ลงไป มีคำตอบด้านล่าง เราก็จะได้คะแนนที่สะอาดกว่า ก็ถามกันว่ามันก็ลากมาลงขอใช้สิทธิ์ มันก็ใช่แต่อย่างน้อย กรองรอบนี้ก็ต้องใช้เงินในการลากมันต้องใช้ทุนมากขึ้นในการทำธนกิจการเมืองของนายทุน
..................
นี่เป้ฯแค่แนวคิดที่คิดว่าทำยังไง เราจะได้คนที่อยากใช้สิทธิ์จริงๆ ทำไงการซื้อเสียงจะลำบาก และคนขายเสียงก็ควรโดนลงโทษด้วบ นี่เป้ฯแนวคิดการเมืองใหม่ที่คิดเล่นๆ เพื่อนๆในบอร์ดลองวิจารณ์กันได้เต็มที่ครับ

คุณจะแก้กฎหมายเลือกตั้งได้ แล้วใครจะเป็นคนแก้กฎหมายเลือกตั้ง มันต้องมีตัวแทน ไม่ว่าจะเป็น
1. สมัครลาออก แล้วประชาชนกดดันส.ส.ที่มีอยู่ขณะนี้เป็นคนลงมติแก้  ------------- เป็นไปไม่ได้ เพราะคนพวกนี้เขามีเป้าหมายแก้รัฐธรรมนูญเพื่อเข้าทางผลประโยชน์ตัวเอง
2. คณะปฏิวัติ ปฏิวัติเข้ามา แล้วแก้รัฐธรรมนูญ ----------- ก็เป็นไปไม่ได้อีก มันไม่มีการปฏิวัติเกิดขึ้น
3. พันธมิตรฯแก้รัฐธรรมนูญ -------------- นี่ยิ่งเลอะหนักเลย พันธมิตรฯมีสิทธิในการเดินขบวนเรียกร้อง แต่ไม่สามารถอ้างสิทธิแก้รัฐธรรมนูญอะไรได้ ถึงได้ ก็คงเป็นรัฐธรรมนูญโจ๊ก

นี่ยังไม่ทันถึงขั้นเอาไอเดียของคุณมาถกเลย แค่ว่าจะใช้วิธีไหนแก้ก็ปวดหัวแล้ว




ดูแล้วก็หนีไม่พ้น ต้องเลือกตั้งแน่นอน แล้วก็ตะกวดกลับเข้ามาใหม่ ภายใต้พรรคเดิมแต่เปลี่ยนชื่อใหม่ ส่งตัวแทนเข้ามา แล้วก็ประท้วงๆๆๆๆๆต่อต้านๆๆๆ  คนชนคน วุ่นวาย   เศรษฐกิจวอดวายไปแล้ว

ถึงได้บอกว่า การปฏิวัติเมื่อปี 49 เป็นโอกาสอันดี แต่ดันทำแบบเหลาะแหละ สมานฉันท์ไป (แต่มันไม่สมานฉันท์ด้วย) แล้วก็ไปประกาศเลือกตั้ง 23 ธ.ค. นั่นนะจุดเริ่มต้นหายนะเลย

มันน่าจะวุ่นวายไปเรื่อยๆอีกประมาณ 2 ปี แล้วพัฒนาเป็นการนองเลือดแน่นอน เพราะขาดผู้ที่จะประสานรอยร้าว    แต่ไอ้เหลี่ยมยังอยู่ และตอนนั้นคงสามารถใช้อิทธิพลเหนือความยุติธรรมได้เต็มที่ พร้อมกลับมาอีกครั้งแล้ว

[Mz]

เป็นไปได้ไหมครับว่า

พรรคเดิมโดนยุบ เพราะความผิดฐาน "เป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตย"
พอตั้งพรรคใหม่ปั๊บ ฟ้องแม่มปุ๊บ .. เพราะมีมูลให้เชื่อได้ว่า จะเป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตย

สิ่งที่ช่วยเพิ่มน้ำหนักคือ นี่ไม่ใช่ครั้งแรก