อย่างที่บอกพันธมิตรไม่มีทางเลือก และไม่มีทางลง
คงต้องไปให้ถึงที่สุด
ตอนนี้เมื่อเจอเกมย้อนกลับเรื่องศาลยุติธรรม
ขัดขืนก็เท่ากลับกลืนน้ำลาย ยินยอมพันธมิตรก็ยุติพ่ายแพ้
ต้องพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส
เมื่อคำสั่งศาลเป็นที่สิ้นสุด แกนำทุกคนต้องออกแถลงการณ์ว่าน้อมรับคำสั่งศาล
ยินยอมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งศาลเสมอ และจะขอต่อสู้ทุกข้อกล่าวหาไม่ว่า กบฎ ไม่ปฎิบัติตามคำสั่งศาล
แต่พันธมิตรมีภารกิจที่สำคัญยิ่งในการปกป้องชาติ ที่อาจย่อยยับจากกลุ่มการเมืองชั่วช้า ทุจริตคอร์รัปชั่น
จึงจำเป็นที่จะต้องปกป้องชาติอันเป็นที่รักยิ่งชีพก่อน
เมื่อเสร็จสิ้นภาระกิจจากเงื้อมมือนักการเมืองชั่วช้า ทุจริตคอร์รัปชั่นแล้ว แกนนำพันธมิตรจะเดินทางไปมอบตัว
หากทางราชการต้องการตัว แกนนำทั้งหมดจะไม่หลบหนีไปจากหน้าทำเนียบรัฐบาล
ก็ให้ตำรวจนำหมายจับเข้ามาจับกุมได้ทันที
เรียกร้องชนในชาติให้ออกมาแสดงพลังโดยการ หยุดงาน มาร่วมชุมนุม
โดยมีเป้าหมายให้มีผู้มาชุมนุมมากกว่าหนึ่งล้านคนยาวไปจรดสนามหลวง
เพื้อให้เป็นที่ยืนยันว่าประชาชนไม่เอารัฐบาลแล้ว
ถ้าไม่สามารถเรียกมวลชนมาระดับเป็นล้านได้
ผมคิดว่าการยินยอมเดินออกไปให้ถูกจับน่าจะดีกว่ายืนหยัดต่อต้านและต่อสู้
อาจจะเป็นแรงเฮือกสุดท้ายที่ประชาชนอาจจะออกมาร่วมต่อต้านหลังถูกจับ
พันธมิตรต้องใช้เครือข่ายทั้งหมดนำคนมาร่วมให้ได้
จากนั้นต้องสร้างพลังจากนักวิชาการเพื่อร่วมกันเรียกร้องว่ารัฐบาลหมดความชอบธรรม
จากนั้นให้มวลชนกดดันกองทัพให้แสดงจุดยืน และร่วมเรียกร้องว่ารัฐบาลหมดความชอบธรรม
แล้วชัยชนะจะบังเกิด