ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
20-04-2024, 04:59
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  เปลว สีเงิน : ปรากฏการณ์ลอกคราบสังคมไทย 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
เปลว สีเงิน : ปรากฏการณ์ลอกคราบสังคมไทย  (อ่าน 1585 ครั้ง)
Kittinunn
Aloha007
Global Moderator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,127


ไปได้สวย...ด้วยเกียร์ต่ำ!!!


เว็บไซต์
« เมื่อ: 27-08-2008, 14:46 »

27 สิงหาคม 2551 กองบรรณาธิการ

ใน "เกมกฎหมาย"" พันธมิตรฯ-ผิด แต่ใน "เกมอำนาจ" ชิงบ้าน-ชิงเมือง ปรากฏการณ์ ๒๖ สิงหา รัฐบาลถูก-พันธมิตรฯ ผิด  หรือ รัฐบาลผิด-พันธมิตรฯ ถูก เร็วเกินไปที่จะชี้ขาดฝ่ายไหนผิด-ถูก เพราะต้องไม่ลืมว่า ในเกมที่มี "บ้าน-เมือง" เป็นเดิมพัน เรื่องใครผิด-ใครถูก คำตอบขึ้นอยู่กับที่ สุดท้าย..ใครชนะ?

แพ้เป็นกบฏ ชนะก็เป็นรัฐบาล!

ฉะนั้น โดยสัจจะแห่งโมหะและตัณหามนุษย์ ถ้าพันธมิตรฯ "สนธิ-จำลอง-พิภพ-สมศักดิ์-สมเกียรติ" ไม่ประสงค์จะลากโซ่ตรวนขึ้นไปยืนในคอกจำเลย นั่นก็น่ารู้แล้วว่า ลุยป่า-ต้องหาทางออกให้พบ

เพื่อพาตัวเองให้พ้นฐานะกบฏ!?

ฝ่ายรัฐบาลตัวแทนทักษิณก็เช่นกัน "สมัคร-สุรพงษ์-สมชาย-โกวิท" ที่มีกันและกัน อันยืนเป็นแผงประกาศวาทะกร้าวใส่พันธมิตรฯ อยู่ใน "กองบัญชาการกองทัพไทย" เย็นวาน ก็ต้องสู้ทุกวิถีทาง เพื่อไม่ให้ตัวเองถูกผลักไปอยู่ในมุมแพ้

เพราะถ้าไม่ชนะ มิเพียง "ตกเก้าอี้นายกฯ" เท่านั้น แต่มันต้องถูกประทับตรา "ทรราช-ทาสแม้ว" ไปจนตายด้วย

ก็ไม่ผิด อย่างที่นายสมัครพูดคำโตว่า

"ผมจะอยู่ป้องกันบ้านเมืองนี้  ผมไม่มีวันยอมถอยไปไหน ที่จะออกข่าวดักหน้าดักหลังกัน จะคอยจับผมที่นั่น จะจับที่นี่  จะจับนายสมัครไปเซ็นหนังสือลาออก จะจับประธานสภาฯ ทำไม่ได้หรอกในบ้านเมืองนี้ ผมไม่กลัวเกรงคนพวกนี้ด้วย.."

ครับ..สมัครไม่ได้ถอย  เพียงแต่หลบไป "ซุกทหาร-สู้" และด้วยบารมี "กองบัญชาการกองทัพไทย" นายสมัครอาศัยเป็น "ฐานบัญชาการ" แทนทำเนียบรัฐบาล เปิดแถลงข่าว "ยึดจอ" ให้เป็นสัญลักษณ์ได้ว่า

รัฐบาลสมัครยังอยู่..รัฐบาลสมัครยังไม่แพ้!

ฉะนั้น ในเกมอำนาจชิงบ้าน-ชิงเมือง ขณะที่ ฝ่ายนายกฯ พเนจรอาศัยชายคาทหารประกาศให้เห็นว่า "รัฐบาลไม่ถอย"

แต่ฝ่ายพันธมิตรฯ มากด้วยมวลชน เคลื่อนพลจากมัฆวานฯ ไปเดินสอยกัลปพฤกษ์กันเต็มลานทำเนียบรัฐบาล  และนายสนธิ ๑ ใน ๕ แกนนำประกาศว่า "พันธมิตรฯ ชนะ" แล้ว!

โดยนัยนี้ รัฐบาลก็บอกว่าไม่ถอย พันธมิตรฯ ก็บอกว่าชนะ แต่ฝ่ายที่ไม่ถอย คือรัฐบาล ก็ยังไม่สามารถใช้ "อำนาจรัฐ" ในมือไปควบคุม-จัดการฝ่ายพันธมิตรฯ ให้อยู่ในกรอบกฎหมายได้

ก็เช่นเดียวกัน ฝ่ายพันธมิตรฯ ที่ประกาศชัยชนะ ก็ไม่สามารถแปรชัยชนะนั้นเป็น "อำนาจรัฐ" เพื่อไปควบคุม-จัดการฝ่ายรัฐบาล ที่ฝ่ายตัวเองตั้งข้อหาว่า อยู่ในฐานะผู้ทุจริตคิดร้ายต่อแผ่นดินได้!?

สรุปก็คือ ถึง ณ เวลานี้

ฝ่ายพันธมิตรฯ ก็..ถอยไม่ได้

และฝ่ายรัฐบาลก็..ตีรุกไม่ขึ้น! ฉะนั้น ยังชี้หน้าฝ่ายไหนว่า "ใครผิด-ใครถูก" ในเกมอำนาจอันมีตัวกุญแจไขอยู่แค่ว่า "ชนะเป็นเจ้า-แพ้เป็นโจร" ยังไม่สะเด็ดน้ำนัก!

ก็มีคนในคอการเมืองด้วยกัน ติดตามดูความเป็นไปผ่านจอโทรทัศน์ ต่างแต่ว่าคนละที่ โทรศัพท์มาถามไถ่กันไปตามประสา ยิ่งนายสมัครประกาศหน้าจอด้วยว่า "ท่านทั้งหลายที่เป็นสื่อสารมวลชนต้องใช้วิจารณญาณ มีกฎหมายอะไรรับรองหรือไม่  ผมไม่ยอม ครม.ก็ไม่ยอม ตำรวจและทหารก็ไม่ยอม สื่อมวลชนต้องเลือกว่า 'อยู่ข้างไหน' อยู่ตรงกลางไม่ได้"

ถูกต้องครับ  เพราะผมไม่เคยคิดอะไร  ทำอะไรแบบ "เหยียบเรือสองแคม" โดยแกว่งตัวอยู่ตรงกลางเลย และในข้อสอบ "ภาคบังคับ" ที่นายสมัครขืนใจให้ "เลือกข้าง"

ผมเลือกแล้วครับ!

แต่อุบไว้ในใจก่อน เพราะท่านไม่ได้บอกว่าต้องให้บอกด้วยนี่ว่า "เลือกข้างไหน?" แต่ถึงอย่างไรก็รับประกันได้ว่า "ไม่เลือกข้างนายสมัคร" แน่นอน!

และพันธมิตรฯ ในปฏิบัติการ "ดับเครื่องชน" อย่างวานนี้ ผมก็ไม่เลือก เห็นคุยว่าตั้งมหาวิทยาลัยราชดำเนิน สอนกลางถนน  ๙๓  วัน  ๙๓  คืน  จบปริญญาเอก แต่ปรากฏว่า  ๕  อาจารย์ใหญ่ มีสติปัญญา และความรับผิดชอบ คิดแผน "นำประชาชน" อย่างนี้

ผมรับไม่ได้!

จะไล่สมัคร ไล่รัฐบาลตัวแทนทักษิณ ก็ว่าไป แต่เปิดปฐมบทด้วยการบุกไปไล่ยึดสื่อ  จะเป็นโทรทัศน์  NBT หรือสื่ออะไรก็ตามอย่างนั้น จะทำสงครามขับไล่รัฐบาล หรือจะทำสงครามเห่าจอกันแน่?

ทุกผู้ที่มาร่วมปฏิวัติประชาชนนั้น-ผมชื่นชมประชาธิปไตยในหัวใจทุกคน  ใครก็ตาม "เห็นภัยแผ่นดิน" จากการดำรงอยู่ของรัฐบาลตัวแทนทักษิณ  คนผู้นั้น  ผมซาบซึ้ง และพร้อมกราบทุกเท้าของทุกท่านได้

เพราะทุกรอยเท้าท่าน ย่ำมารวมกันเพื่อ "อนาคตประเทศไทย" ด้วยใส-บริสุทธิ์จริงๆ

แต่การชี้นำพาประชาชนไปแบบนี้ เหมือนพาไปโดดหน้าเหว เบาสุด-คายอดไม้ คือคุกตะราง หนักสุด-แหลกเหลวคาก้นเหว!

การต่อต้านรัฐบาลที่มีพฤติกรรมไม่สุจริตในการบริหาร ผมก็สรรเสริญที่พันธมิตรฯ รับภาระชาติใส่บ่าเป็นภาระตน ในขณะที่คนอีกแสน-อีกล้านในสังคมเมินว่า "ธุระข้าไม่ใช่"

ก็น่าเสียดายนะครับที่ "เหล็กเย็น" แล้วเข็นตีให้เป็นดาบ  และเอาเข้าจริงในความเป็นตัวนำ ก็ตายน้ำตื้นในคำถามเดิมๆ ที่ว่า

"ยึดทำเนียบฯ ได้แล้ว ทำไงต่อ?"

เหมือนดาวกระจายไปยึดกระทรวงโน้น-กระทรวงนี้ มีความหมายอะไร แถมตอบไม่ได้ด้วยว่า "ยึดไปทำไม?"

ก็ถามกันมาตลอดให้สังวรมิใช่หรือว่า "ไล่รัฐบาลออกไป" นั้น เมื่อรัฐบาลออกไป "แล้วทำไงต่อ?"

ถ้าหาคำตอบให้อยู่ในกรอบกติกาประชาธิปไตยไม่ได้ ทำอะไรนอกกรอบลงไป มันก็เป็นอย่างนี้!

แต่ก็ต้องขอบใจครับ ปรากฏการณ์ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๕๑ นี้ ถือว่าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย  ทำหน้าที่ผู้ทดสอบ "ประเทศไทย" ให้เห็นว่ากร้าวแกร่ง-ตกผลึกใน "ระบอบประชาธิปไตย" ให้ประจักษ์ต่อชาวโลกแล้ว

"จลาจลเมือง" วานนี้ ไม่มีทหารปฏิวัติ!!

การเมือง ต้องแก้ด้วยการเมือง

แต่..การทหารจะเป็น "เครื่องมือ" เพื่อการเมืองหรือไม่ นั่นเป็นอีกประเด็นที่ต้องแยกออกไปดูตามลักษณะสังคมพัฒนาแต่ละประเทศ!?

โอกาสงามๆ อย่างนี้  เป็นแต่ก่อนละก็ ทหาร "ปฏิวัติ" ยึดอำนาจประชาธิปไตย เอาระบบเผด็จการทหารมาใช้แทนไปนานแล้ว

พลเอกบุญสร้าง เนียมประดิษฐ์  ผบ.สส.ที่จะเกษียณในเดือนหน้าท่านพูดน่ารักดีครับ  คงมีฝ่ายการเมืองไปยุให้ท่านประกาศภาวะฉุกเฉิน  เพื่อให้ทหารออกมาปราบประชาชน

ท่านพูดว่าไงรู้ไหมครับ ท่านพูดว่า "มันไม่ฉุกเฉิน ถ้าไปประกาศ ที่ไม่ฉุกเฉินมันก็จะฉุกเฉินเพราะประกาศนี่แหละ"

กองทัพก็พลอยได้อานิสงส์จากเหตุการณ์วานนี้ด้วย เพราะไม่เพียงเป็นเจ้าบ้านอารีย์ ให้รัฐบาลพเนจรมาใช้เป็นทำเนียบฯ ชั่วคราวเท่านั้น การ "ไม่ปฏิวัติ" ครั้งนี้

ถือเป็นการล้างโคลนครหา "ทหารประเทศด้อยพัฒนา" เอะอะก็ใช้เผด็จการแก้ปัญหาประชาธิปไตยอย่างคราวที่แล้ว

โครงสร้างสังคมประเทศไทยเท่าที่ผมเห็น  สูตรเป็นอัตรา ๒ ใน ๓ อย่างนี้ครับ

อำนาจทหาร+อำนาจรัฐ+อำนาจประชาชน = ประชาธิปไตยพันธุ์แท้

อำนาจรัฐ  คือรัฐบาล ถือเป็นธาตุกลาง บวกกับอะไรเป็นสายพันธุ์ประชาธิปไตยทั้งนั้น

อำนาจรัฐ+อำนาจทหาร เป็นประชาธิปไตยพันทาง

อำนาจรัฐ+อำนาจประชาชน เป็นประชาธิปไตยเบ็ดเสร็จ แต่ "อำนาจประชาชน" กับ "อำนาจทหาร" เอามาบวกกันจะเหมือนดี้กับดี้  ทอมกับทอม ก็อยู่กันได้ แต่พันธุ์นี้ ไข่ไม่มีเชื้อ!

เมื่อคุยถึงตรงนี้ ผมขอย้อนไปรื้อฟื้นทัศนคติเดิมๆ ที่ผมเคยคุยไปหลายครั้งแล้วว่า ประเทศไทยเข้าสู่วงรอบโคจรของดาวพลูโตมาตั้งแต่ปี  ๒๕๔๘ โน่นแล้ว พลูโตใหญ่และไกลสุดขอบจักรวาลจนส่องกล้องยังหาขอบแทบไม่เจอ

ขยับกริ๊กหนึ่ง ใช้เวลา ๒๕ ปีครับ!

ประเทศไทยกำลังเข้าสู่วงจรแห่งการลอกคราบครั้งใหญ่ ซึ่งการลอกคราบครั้งนี้จะใช้เวลาประมาณ ๒๕ ปี ฉะนั้น ทุกสิ่ง-ทุกอย่างที่ปรากฏ และเป็นไปในประเทศไทยเราตอนนี้

อย่าไปโทษใครมากนักเลยครับ ให้ถือเสียว่า เหล่านั้นล้วนต่างถูกกำหนดให้เข้ามามีบทบาทประกอบเป็นเงื่อนไข  เพื่อผลักจากจุดหนึ่งไปสู่อีกจุดหนึ่ง เหมือนฟันเฟืองจักร แต่ละเฟืองที่หยัก คือตีนจักรผลักพลังงานเคลื่อน

ด้วยตรรกะนี้  ดังที่ผมบอก อำนาจทหาร กับอำนาจประชาชน ผสมกันแล้วไม่มีดอกผลเป็นประชาธิปไตย  แต่เหตุการณ์ที่ปรากฏในเมืองไทยวันนี้-ขณะนี้ล่ะ จะแก้กันอย่างไรให้เกิดดอกผล?

ประชาชน คือพันธมิตรฯ กับรัฐ คือรัฐบาล มีแต่ทำให้ ๒ ฝ่ายนี้มานั่งคุยกันเท่านั้น ขั้นตอนการลอกคราบสังคมไทยจึงจะ "ไม่ฆ่ากัน" ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

และคนที่มีศักยภาพเป็นเจ้าภาพใน "สันติภาวะบ้านเมือง" ขณะนี้  คือ "อำนาจทหาร" คนที่เป็นเจ้าบ้านให้รัฐบาลพิงหลังนั่นแหละ

เงื่อนไขที่สามารถทำให้ "ฝ่ายรัฐบาล" ต้องฟังตัวกลางคือทหาร  ผมมั่นใจว่ามีอยู่พร้อม แต่ผมคิดว่าไม่เหมาะสมที่จะพูด เพราะประเด็นสำคัญคือ เมื่อสงครามศักดิ์สิทธิ์ของพันธมิตรฯ นี้ ทางชนะคือจะต้องเดินไปให้ถึงจุดหมายแล้ว

ฝ่ายทหารที่ไม่ยึดแนวทางปฏิวัติ แต่ต้องรักษา "ความปกติสุข" ไม่ให้เลือดประชาชนนองบ้าน-นองเมือง  ควรจะสนทนาด้วยยื่น "ข้อเสนออะไร?" ให้ฝ่ายผู้นำรัฐบาลที่ไม่สามารถบริหารอำนาจควบคุมฝ่ายพันธมิตรฯ ได้ ได้พิจารณา?

ครับ..ผมถูกบังคับให้เลือกข้าง  นี่ก็เลือกแล้ว  อย่าเข้าใจว่าผมเลือกทหาร ผมเลือก "บุคคลนิรนาม" อันเป็นบุคคลที่  ๓  ที่ยังไม่ปรากฏตัววันนี้ตะหาก เพราะทั้ง "ทักษิณ-พันธมิตรฯ" ในเกมชิงบ้าน-ชิงเมืองนี้  ทั้งคู่เป็นแค่ "ตัวขับเคลื่อน" ในฉากผ่านเท่านั้น เหมือนตาอิน-ตานา แล้วใครเป็น "ตาอยู่" ต้องรอกลางปีหน้า รับรอง..เห็นแน่.

http://www.thaipost.net/index.asp?bk=thaipost&iDate=27/Aug/2551&news_id=163106&cat_id=200
บันทึกการเข้า

“ผมเขียนไปในบล็อกนั้น แบบข้างบนนี้เหมือนกัน นึกว่า จะโพสต์ ปรากฏว่า เขาบอกว่า ต้อง สมัครสมาชิกก่อน ผมขี้เกียจ เลยมาโพสต์ที่นี่แทน อ้อ ตอนเขียน ผมใส่คำว่า ทุเรศ และ น่าสมเพช ไปด้วย” (อ.สมศักดิ์ เจียมธีระสกุล-เว็บบอร์ดฟ้าเดียวกัน - ข้อความในเสรีไทย โดย Snowflake)

vorapoap
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 512



เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 27-08-2008, 14:49 »

เมื่อวานไปอ่านที่เว็บมาแล้ว เห็นด้วยค่อนข้างมากครับ

้เวลา ๒๕ ปี ยังอยู่ในชั่วอายุผม หวังว่าผมจะได้มีความสุขกับปลายทางของการเปลี่ยนนแปลงในครั้งนี้

บันทึกการเข้า

Kittinunn
Aloha007
Global Moderator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,127


ไปได้สวย...ด้วยเกียร์ต่ำ!!!


เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 27-08-2008, 14:52 »

บทความเก่าๆ ของคุณเปลว สีเงิน ที่พูดถึงเรื่องนี้

อ้างถึง
ดั่งธนูน้าวถึงคราวแผ่นดินเดือด

31 พฤษภาคม 2551    กองบรรณาธิการ

"แล้วจะเอายังไงกันต่อไป?" ดูเหมือนจะเป็นคำถามที่ต่างคน-ต่างถาม โดยใครก็ยังให้คำตอบใครไม่ได้ ถึงแม้ "นายจักรภพ เพ็ญแข" ประกาศลาออกจากรัฐมนตรี


และญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ "ตกไป" แล้วก็ตาม แต่การเมือง "ภาคประชาชน" ยังคุโชน..รุกต่อ

ครับ..ประชาชนทางการเมืองนั้น  ปลุกยาก  แต่เมื่อปลุกตื่นแล้ว  ก็ยากที่จะให้กลับไปหลับ-ไปนอนได้ง่ายๆ

การประชุมใหญ่ของ "มวลชนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" ตอนหัวค่ำวานนี้ (๓๐  พ.ค.๕๑) ที่มัฆวานรังสรรค์ มีเรื่องเดียวที่ทั้งสำเร็จ และล้มเหลว

ที่ล้มเหลวคือ "ห้ามฝน" ไม่อยู่

แต่ที่สำเร็จคือ มวลชนยังอยู่!

ก็ โอเค น่ะ!!

ประเมินจากมวลชนเป็น "มหาประชามติ" วานนี้แล้ว ผมบอกได้คำเดียวว่า..หนักใจแทนรัฐบาลนอมินีทักษิณ

และ..หนักใจแทนแผ่นดินของเราทุกคน!!

ทำไม..แกนนำพันธมิตรฯ จึงไม่สลายมวลชน ในเมื่อเป้าหมายบรรลุแล้ว เพราะนายจักรภพก็ลาออกแล้ว ญัตติแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญก็ตกไปแล้ว..พันธมิตรฯ ได้คืบจะเอาศอก ต้องการป่วนบ้าน-ป่วนเมืองงั้นหรือ?

อืมมมม..มองเผินก็น่าคิด แต่ถ้ามองพิศ เรื่องนี้มันมี "รากพิษ" ฝังยาวที่ต้องขุด-ต้องถอนเป็นไมล์เป็นกิโลฯ

ก็ต้องย้ำจากที่บอกว่า "หนักใจ" แต่ต้น

เป็น "วิตก-หวั่นไหว" แทนครับ!

การที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยกระดับการชุมนุมจากเงื่อนไขจักรภพ เงื่อนไขแก้รัฐธรรมนูญ ขึ้นไปสู่เงื่อนไขขับไล่รัฐบาล "สมัคร-นอมินีทักษิณ"

แล้วประกาศเป็น "มหาฉันทามติ" ว่า เดินหน้า..ชุมนุมต่อ นั้น

นับจากนี้  มิถุนา-กรกฎา-สิงหา ไปสิ้นสุดที่กันยา ผมไม่รับประกันว่า "มหาสงกรานต์เลือด" จะไม่เกิด!?

ทำไงได้ล่ะครับ  เมื่อสิ้นเหตุ-สิ้นผลจะตอบ ผมก็คงต้องกำปั้นทุบดินว่า..สุดแต่ชะตา-วาสนาชาติบ้านเมืองจะเป็นไปเถอะ?

ถ้าผมหรือใครจะบอกฝ่ายพันธมิตรฯ ตอนนี้ว่า เพลาฟืนจากเตาไฟ รอดูฝ่ายรัฐบาลเขาก่อนสักระยะดีไหม  ถ้าไม่เห็นแก่ใคร  ก็ขอให้เห็นใจประชาชนที่มาร่วมชุมนุมทุกคืนจะได้ไหม?

อยู่กันอย่างนี้  ๕  วัน ๑๐ วัน ก็พอไหวหรอก แต่ถ้าจะต้องอยู่กันเป็นเดือน เป็นปี โดยมีเป้าหมายที่ตอบได้ในความชอบธรรมไม่ชัดเจน ก็จะเหมือนพม่าล้อมกรุงศรีอยุธยาหน้าน้ำ

ตั้งค่ายก็ยาก  เสบียงกรังก็ขาด ไพร่พลก็ห่วงหน้า-พะวงหลัง ลงท้ายก็ต้องรื้อค่ายกลับหงสาวดี..มือเปล่า

เสียทั้งฟอร์ม เสียทั้งประวัติศาสตร์!

นับจากวันที่  ๑  มิถุนายน  ๒๕๕๑  เป็นต้นไป ศึกยกใหม่นี้เห็นทีต้องเรียกว่า "ปฏิบัติการตีหมาจนตรอก"

ท่านก็คงทราบกันแล้วว่า สัญชาตญาณหมา เมื่อจนตรอกมันไม่ "มุดตรอก" หนี แต่มันจะหันหลังกลับมาสู้ และการสู้แบบหมาจนตรอกนี่แหละ

ไม่ตายก็ต้องบาดเจ็บไปข้าง!

ถ้าลองไปกรองคำแถลงลาออกของนายจักรภพ ก็จะเห็นว่า ที่ลาออกนั้น ใช่ว่านายจักรภพสำนึกในสิ่งที่ตัวได้กระทำลงไปไม่

แต่ที่ลาออกนั้น ลาเป็นกตัญญู-กตเวทิตาต่อผู้บังคับบัญชาที่เขาเคารพรักในน้ำใจคือ "นายสมัคร สุนทรเวช"

ไม่ได้เป็นการลาด้วยจิตสำนึกต่อวาจาที่เขาพาดพิงถึงสถาบันแต่อย่างใด?

และอีกอย่าง นายจักรภพย้ำชัดเจน ถึงออกไปแล้ว ไปพูดที่ไหน คิดที่ไหน เขาก็จะพูด จะคิดอย่างนั้นเหมือนเดิม เพราะมั่นใจว่า..นั่นไม่ผิด!

นี่ก็กลายเป็นเงื่อนไขใหม่ที่ฝ่ายพันธมิตรฯ มองยาวไปถึง "เจ้าของคอก" ด้วยมุมมองเชิงตรรกะว่า  นายจักรภพเป็นเช่นนี้  เพราะเจ้าของ  ซึ่งนายจักรภพเรียกว่า "ผู้สนับสนุนทางการเมือง" มีความคิด-ความเห็นต่อสถาบัน เป็นดังที่นายจักรภพแสดงนั่นเอง

นี่เป็นอีก ๑ เหตุปัจจัยที่พันธมิตรฯ ไม่ถอยทัพ!

และการที่ ส.ว.ล็อตสุดท้ายในบัญชีญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไปขอถอนชื่อเพื่อให้ "ญัตติตกไป" วานนี้  ใครต่อใครทราบข่าวก็ถอนหายใจเฮือก  เหมือนสลักระเบิดถูกถอดเข็มแทงชนวนในนาทีสุดท้าย

แต่แล้ว ในการประชุมพรรคพลังประชาชน  ก็มีมติออกมาว่า ในเมื่อญัตติที่ ส.ส.-ส.ว.ที่เข้าชื่อกัน  ๑๖๔  คนต้องตกไป เขาก็จะให้ ส.ส.พลังประชาชนล้วนๆ จำนวน ๑ ใน  ๕  ของสมาชิกสภาผู้แทนฯ เท่าที่มีอยู่

ทำญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเสนอประธานสภาฯ  ขึ้นไปใหม่  ให้ทันสมัยประชุมวิสามัญที่ ๙  มิ.ย.นี้!

เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๒๑๙ (๑) นั่นแหละครับ จำนวน ส.ส. ๑ ใน ๕   ครั้งนี้ก็ ๙๕-๙๖  คน กะกันว่า ในสภาฯ ก็จะแก้รัฐธรรมนูญกันไป ส่วนนอกสภาฯ ก็จะทำประชามติควบคู่กันไป

อย่างนี้ก็เลยเข้าล็อก ไฟพอจะมอด ได้เชื้อชิ้นใหม่ ไฟก็โชนอีก!

นี่ก็เป็นเหตุปัจจัยที่  ๒ ที่ฝ่ายพันธมิตรฯ สามารถใช้อ้างเป็นเงื่อนไขไม่สลายการชุมนุม  เพราะฝ่ายรัฐบาลนอมินีทักษิณยังไม่ละความพยายามที่จะใช้ประชาธิปไตยใจนอกสถาบัน

เป็นเครื่องมือแก้รัฐธรรมนูญ "ชิงศพ" นายเหนือหัว!

เมื่อหยิบแต่ละส่วนมาดูและเห็นอย่างนี้ ก็บอกได้ว่า ต่างฝ่ายต่างพร้อมประจันหน้า และต่อจากนี้ เป็นการประจันแบบ "ธนูน้าวสุดสาย" ฉะนั้น การล้มตายยากจะไม่ให้เกิด!!

เห็นได้ข่าวว่า "นายกฯ สมัคร" จะเปิดรายการ "สนทนาประสาสมัคร" ภาคพิเศษ-เฉพาะกิจเช้าวันเสาร์นี้ ผมก็ไม่แน่ใจว่าท่านจะอ่านไทยโพสต์ปูพื้นไปก่อนฟัง หรือว่าฟังแล้วมาอ่านทีหลัง

ถ้าอ่านก่อน ทราบข่าวนี้ก็รีบไปนั่งหน้าจอ คอยฟังเถอะครับว่านายกฯ สมัครในฐานะ "หัวหน้ารัฐบาลนอมินี" จะประกาศการรับรู้การทำสงครามยืดเยื้อของฝ่ายพันธมิตรฯ ด้วยลีลาไหน?

คนอย่างสมัครถอยเป็นซะที่ไหนล่ะ ถ้ามีรายการ "ต่อปาก-ต่อคำ" รับรองกวาดแชมป์ทุกรายการ ฉะนั้น ด้วยเหตุผล ๑๑-๑๒ ข้อที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล ประกาศเป็นมูลฐานให้ต้องยกระดับการชุมนุมเป็น "ขับไล่รัฐบาล" ต่อเนื่องจากนี้ไปนั้น

นายสมัครจะรับคำท้าสงคราม  หรือประกาศยอมสงบศึก  ๙ โมงเช้า ต้องตามฟังกันเอานะครับ

เดี๋ยว..ขอคั่นรายการซัก ๒-๓ บรรทัด เพราะถ้าไม่ชี้แจงจะมีคนเข้าใจผิดเหมือนในกรณีข่าวลือปฏิวัติ  คือ  ๒-๓  วันที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ "ไทยโพสต์" หายหน้าไปจากแผงในภาคกลางหลายจังหวัด

ยังอยู่ดี สุขบ้าง-ทุกข์บ้าง ตามประสาภาวะน้ำมัน "๒ ลิตรร้อยนั่นแหละครับ"  ยังไม่ล้มหายตายจากไปทางไหน  แต่เกิดเหตุไม่พึงประสงค์ คือแท่นพิมพ์ซึ่งมีอายุไล่เลี่ยกับผมกระเสาะกระแสะ   

หนังสือพิมพ์ก็เลยตกรถ-ตกรา ผมยืนดูกองหนังสือที่พิมพ์เสียกระดาษเปล่า ส่งไปขายไม่ทัน ต้องขนกลับมาชั่งโลด้วยความปวดใจ

แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง เพราะยังไม่มีเงินซื้อแท่นใหม่ๆ เองนี่ครับ  จึงรายงานให้ทราบตามนี้ สำหรับโทรศัพท์ที่ถามกันเข้ามา..นึกว่าเจ๊งแล้ว!

เอาละครับ เข้าเรื่องต่อ  ผมยอมรับว่า ถ้าผมเป็นแกนนำพันธมิตรฯ และเป็นแกนนำรัฐบาล "คิดไม่ออกจริงๆ" ครับว่า จะบริหารเรื่องราวต่อไปข้างหน้าให้จบแบบ WIN-WIN กันได้อย่างไร?

ฝ่ายทหาร จะใช้บทเรียนเก่าๆ มาเป็นบทปฏิบัติการใหม่ๆ  เพื่อรักษาความสงบสุขบ้านเมืองได้แบบไหน โดยไม่ปฏิวัติ?

พูดถึงปฏิวัติ ต่อให้นองเลือด รับประกัน..ก็จะไม่มีการปฏิวัติ "ปีนี้" แน่นอน!!

การเมือง ต้องแก้กันด้วยการเมือง เพราะการเมือง แก้ด้วยการทหารตรงๆ ๑๐๐% มาแล้วหลายครั้ง ปรากฏว่า..พังทุกครั้ง

ฉะนั้น ต้องปล่อยครับ ปล่อยให้กระบวนการการเมืองไปด้วยตัวของมันเองให้สุดๆ  จะได้รู้ว่า สุดทางด้วยพลังและสติปัญญาของการเมืองนั้น

มันไปได้ยาวไกลที่สุดขนาดไหน?

ขืนใครเข้าไปคั่นกลางอยู่เรื่อย  มันก็ข้องใจ  ต้องมีไฟต์ล้างตากันอยู่เรื่อย ฉะนั้น คราวนี้ต้องปล่อย ปล่อยให้กัดกันเขี้ยวรุ่นๆ จนหัวขาดไปข้าง แพ้-ชนะ จะได้เข็ดเขี้ยวกันไปเอง

ทุกคนมีเหตุ-มีผล และมีสติรู้อะไรควรแค่ไหน ไม่ควรแค่ไหนด้วยกันทั้งนั้น จึงป่วยการอ้างความรัก ความสามัคคีขึ้นมาห้าม  ก็มันต้องแตกสามัคคี แยกเขี้ยวด้วยไม่รักกันให้ถึงที่สุดเสียก่อนนั่นแหละ "รักแท้-สามัคคีถาวร" จึงจะเกิดตามมาทีหลัง ก็อย่างที่เคยบอก "สังคมกำลังลอกคราบ" ไงครับ.


http://www.thaipost.net/index.asp?bk=thaipost&iDate=31/May/2551&news_id=159265&cat_id=200
บันทึกการเข้า

“ผมเขียนไปในบล็อกนั้น แบบข้างบนนี้เหมือนกัน นึกว่า จะโพสต์ ปรากฏว่า เขาบอกว่า ต้อง สมัครสมาชิกก่อน ผมขี้เกียจ เลยมาโพสต์ที่นี่แทน อ้อ ตอนเขียน ผมใส่คำว่า ทุเรศ และ น่าสมเพช ไปด้วย” (อ.สมศักดิ์ เจียมธีระสกุล-เว็บบอร์ดฟ้าเดียวกัน - ข้อความในเสรีไทย โดย Snowflake)

ริวเซย์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,637


Worrior in The Blue Armor


เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 27-08-2008, 15:00 »

วิเคราะห์ได้อย่างน่าฟังมากๆครับ ตอนนี้อยู่ในระหว่างสงคราม

ใครชนะได้เป็นรัฐบาล

ตอนนี้อยู่ที่ทหารแล้วว่าจะเอาอย่างไรต่อไป จะปล่อยบ้านเมืองให้เป็นแบบนี้ต่อไป

หรือยึดอำนาจตัดปัญหา
บันทึกการเข้า

ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^


คนไกลเมือง
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 167


เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์


« ตอบ #4 เมื่อ: 27-08-2008, 15:17 »

ไม่เห็นต้องให้ทหารมายึดอำนาจเลยครับท่านริวเซย์ แค่บีบให้รัฐบาลจนตรอกนี่ยอมลาออก ก็ไปหมดยวงแล้วครับ ทีนี้ก็ถึงคราวพันธมิตรเล่นบทประกาศชัยชนะจริงๆ ซะที

รักพันธมิตรทุกท่านครับ 
บันทึกการเข้า

เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นราชพลี
samepong(ยุ่งแฮะ)
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,402



« ตอบ #5 เมื่อ: 27-08-2008, 15:18 »

ถ้ามีตาอยู่ก็ หวานคอห่าน ลื่นคอแร้งซิ
บันทึกการเข้า

เวลาจะพิสูจน์ความเชื่อ สักวัน ไม่ว่าความเชื่อนั้นจะถูกหรือผิด ผมขอรับไว้ด้วยตัวเอง คิเสียว่าทำแล้วเสียใจดีกว่าเสียใจที่ไม่ได้ทำ
ริวเซย์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,637


Worrior in The Blue Armor


เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 27-08-2008, 15:45 »

ไม่เห็นต้องให้ทหารมายึดอำนาจเลยครับท่านริวเซย์ แค่บีบให้รัฐบาลจนตรอกนี่ยอมลาออก ก็ไปหมดยวงแล้วครับ ทีนี้ก็ถึงคราวพันธมิตรเล่นบทประกาศชัยชนะจริงๆ ซะที

รักพันธมิตรทุกท่านครับ 

แต่ตอนนี้พวกมันหน้าด้านยังไงก็ไม่ยอมลาออกนี่สิ จะให้ทำยังไงครับ?

นอกเสียจากจะลากพวกมันออกมาแล้วบังคับให้เซ็นใบลาออกนี่ก็อีกเรื่อง

แต่ในเมื่อมวลชนเน้นหลักอหิงสา ข้อนี้ก็หมดสิทธิ
บันทึกการเข้า

ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^


แอ่นแอ๊น
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,591


"Angela Gheorghiu" My goddess


เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 27-08-2008, 15:54 »

อ่านแล้วเมื่อคืนเหมือนกันค่ะ เป็นบทความที่ดีมากๆ ของป๋าเปลวทีเดียว 
บันทึกการเข้า

       

"เมื่อเจตนาเบี่ยงเบนไปจากความจริง การนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง บางทีก็เป็นเพียงภาษาสุภาพสำหรับการพูดเท็จนั่นเอง" : วิถีแห่งปราชญ์ พิมพ์ครั้งที่ ๗ หน้า ๒๐๖
watson
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 393


« ตอบ #8 เมื่อ: 27-08-2008, 16:22 »

ไม่เห็นต้องให้ทหารมายึดอำนาจเลยครับท่านริวเซย์ แค่บีบให้รัฐบาลจนตรอกนี่ยอมลาออก ก็ไปหมดยวงแล้วครับ ทีนี้ก็ถึงคราวพันธมิตรเล่นบทประกาศชัยชนะจริงๆ ซะที

รักพันธมิตรทุกท่านครับ 

ทหารไม่มีอำนาจใดตามกฏหมายที่จะบีบให้รัฐบาลลาออกได้ครับ
ถ้าทำอย่างนั้นได้ก็คงไม่ต้องยึดอำนาจหรอกครับ
บันทึกการเข้า
TheBluECaT
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 824


"แมวน้อยสีน้ำเงิน..."


« ตอบ #9 เมื่อ: 27-08-2008, 16:47 »

ผมสงสัยแค่...

คนที่ป๋าเปลว เลือกซึ่ง "บุคคลนิรนาม" อันเป็นบุคคลที่ 3 
ที่ยังไม่ปรากฏตัว น่ะเป็นใครกันครับ
 
บันทึกการเข้า

"ยามบุญมากาไก่กลายเป็นหงส์  ยามบุญหลงหงส์เป็นกาน่าฉงน...
ยามบุญมาหมูหมากลายเป็นคน  ยามบุญหล่นคนเป็นหมาน่าอัศจรรย์"
หน้า: [1]
    กระโดดไป: