ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
29-03-2024, 00:34
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  General Uprising 26 สิงหาคม 2551 และความเรียงว่าด้วยการโค่นล้มรัฐบาลนายสมัคร 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
General Uprising 26 สิงหาคม 2551 และความเรียงว่าด้วยการโค่นล้มรัฐบาลนายสมัคร  (อ่าน 1437 ครั้ง)
นักปฏิวัติ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 330



« เมื่อ: 26-08-2008, 11:39 »

General Uprising 26 สิงหาคม 2551
โดย ปราโมทย์ นาครทรรพ 25 สิงหาคม 2551 19:53 น.

1. เข้าใจ General Uprising
       
       ในวันนี้ 26 สิงหาคม 2551 จะมี General Uprisingหรือการลุกฮือครั้งใหญ่ของมวลชนเป็นครั้งแรกของเมืองไทย และต่างกับเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ซึ่งจำกัดอยู่ในหมู่นักศึกษาและผู้ใช้แรงงานเป็นส่วนใหญ่ General Uprising ที่มีศูนย์กลางอยู่ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ถนนราชดำเนิน มาจากมวลชนทั่วประเทศ และคนไทยที่อยู่ในต่างประเทศเกือบทั้งโลก ผู้ที่ไม่สามารถมาร่วมได้ก็จะจัดกิจกรรมคู่ขนานในท้องถิ่น เพื่อให้เกิดพลังร่วมในการโค่นล้มรัฐบาลนายสมัคร ที่ทำตัวเป็นหุ่นเชิดของระบอบทักษิณ
       
        ผมแน่ใจว่าสื่อสากลจะรายงาน General Uprising ครั้งนี้ โดยใช้คำอย่างถูกต้อง ผมสงสัยว่าจะมีสื่อไทยกี่ฉบับหรือทีวีกี่สถานีที่จะกล้าใช้คำนี้ เพราะสื่อในประเทศยังถูกครอบงำด้วยอวิชชาและผลประโยชน์โดยอำนาจนิยมและทุนสามานย์
       
        คำว่า General Uprising ยังหาคำแปลที่สอดคล้องเป็นภาษาไทยไม่ได้ เพราะเป็นปรากฏการณ์ใหม่ ไม่มีตัวอย่างเทียบเคียงมาก่อน ภาษาจึงพลอยอับจนไปด้วย แต่คำว่า General Uprising ที่ได้เกิดขึ้นแล้วในที่ต่างๆ ของโลก ทำให้เกิดคำนิยาม ความบรรยาย และ/หรือศัพท์ที่เทียบเคียงกันมากมาย ผู้อ่านที่เคยศึกษาได้เห็น หรือมีประสบการณ์อยู่ในมิติของสังคมนั้นๆ อ่านแล้วก็จะเข้าใจว่า General Uprising ของตนคืออะไร ในคำต่อไปนี้
       
        arise, civil disorder, disobedience, disobey, emeute, general uprising, indiscipline, insubordination, insurge, insurgence, insurgency, insurrect, insurrection, interregnum, irresponsibility, jacquerie, lawlessness, levee en masse, license, licentiousness, mount the barricades, mutineer, outbreak, overthrow, peasant revolt, power vacuum, putsch, rampant will, rebel, rebellion, reluct, reluctate, revolt, revolute, revolution, revolutionize, riot, rise, rise against, rise up, rising, run riot, strike, subversion, subversiveness, subvert, unaccountability, uncontrol, unrestraint, uprising, willfulness
       
        คำนิยามง่ายๆ ของ General Uprising ก็คือ “the action of rising up; specif., an outbreak against a government; revolt การกระทำแบบลุกฮือขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การต่อต้านโค่นล้มรัฐบาล...”
       
        สรุปแล้ว General Uprising ก็คือที่สุดของที่สุดของอหิงสาและอารยะขัดขืน (Nonviolent Resistance and Civil Disobediece) โดยมหาชนนั่นเอง
       
        ชัยชนะหรือชะตากรรมของวันที่ 26 สิงหาคม จะประดิษฐ์ถ้อยคำ ศัพท์แสง และวลีใหม่ๆ ให้กับภาษาไทย ในตำนานของการต่อสู้ทางการเมืองภาคประชาชนอีกมากมาย
       
        2. เข้าใจ General Uprising ไทย
       
        General Uprising ในวันที่ 26 สิงหาคม 2551 นี้มีรากเหง้ามาจาการต่อต้าน “ระบอบทักษิณ” โดยรายการ “เมืองไทยรายสัปดาห์” อันเป็นที่เกิดของ “ปรากฏการณ์สนธิ” ที่นำมาสู่ “ขบวนการเสื้อเหลือง-เราสู้เพื่อในหลวง” ในปี 2548
       
        เมื่อรัฐบาลทักษิณถูกโค่นลงอย่างเป็นทางการโดยการยึดอำนาจของ คมช. เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 “ระบอบทักษิณ” ยังไม่ตาย และไม่เพียงแต่ “จำศีล” เท่านั้น แต่ยังฝึกปรือเพิ่ม “กระบวนท่า” และ “กำลังภายใน” อัน***มโหดอย่างฮึกโหม ภายใต้บรรยากาศไร้เดียงสาของรัฐบาลสุรยุทธ์
       
        และแล้วด้วยการเลือกตั้งทั่วไปอันไม่สมประกอบและมิชอบด้วยกฎหมาย “ระบอบทักษิณ” ก็ประกาศชัยชนะอีกครั้ง ผ่านรัฐบาลหุ่นเชิดของสมัคร สุนทรเวช
       
        รัฐบาลสมัครทำทุกอย่างที่รัฐบาลทักษิณทำ อันเป็นเหตุนำไปสู่ “ข้อกล่าวหาทั้ง 4 ของคมช.” ต่างกันแต่ว่ารัฐบาลสมัครทำได้มากกว่า เปิดเผยกว่า โดยไม่ยี่หระต่อสายตาและความรู้สึกของผู้ใดทั้งสิ้นในแผ่นดินไทย นั่นก็คือ การละเมิดพระเจ้าอยู่หัวโดยผู้ที่อยู่ในพรรคและรัฐบาล การนำเอกราชและดินแดนเหนือเขาพระวิหารไปเป็นเครื่องมือต่อรองผลประโยชน์ของบุคคล การฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญและกฎหมายหลายฉบับอย่างโจ่งแจ้ง การประวิงความยุติธรรม การบั่นทอนความศักดิ์สิทธิ์และน่าเชื่อถือของขบวนการยุติธรรมโดยเฉพาะอย่างยิ่งศาล ฯลฯ
       
        ในที่สุด ก็คือ 26 สิงหาคม 2551 อันถักทอต่อเนื่องมาจากการชุมนุมประท้วงที่นานที่สุดและอารยะที่สุดในประวัติการเมืองของโลก ณ สะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและเครือข่ายทั่วราชอาณาจักรและทั่วโลก เป็นเวลากว่า 93 วัน
       
        เหตุผล คำเรียกร้อง และคำตอบของ General Uprising ครั้งนี้ก็คือ รัฐบาลนายสมัครทั้งชุด และการเมืองเก่าจะต้องไปเร็วที่สุด
       
        3. เข้าใจชัยชนะและชะตากรรมของ General Uprising

       
        แท้ที่จริง General Uprising เป็นบทสุดท้ายและหน้าใหม่ของ “ธรรมาธรรมะสงคราม” คือการต่อสู้ระหว่างธรรมะกับอธรรม ซึ่งธรรมะจะต้องเป็นฝ่ายชนะในที่สุด เพราะอำนาจบริสุทธิ์ของประชาชนนั้นเป็นอำนาจที่ยิ่งใหญ่มหาศาลมีฟ้าและดินเป็นพยาน ส่วนอำนาจของอธรรมหรือแม้แต่อำนาจของรัฐบาลนั้นเป็นอำนาจชั่วคราว
       
        อำนาจในการผูกขาดใช้กำลังของตำรวจทหารนั้นเป็นอำนาจที่ประชาชนมอบให้รัฐบาลเป็นการชั่วคราว เพื่อเป็นหลักประกันความผาสุกและปลอดภัยของประชาชน ในบางครั้ง รัฐบาลลุแก่อำนาจและนำกำลังนั้นมาใช้กับประชาชนเอง ในกรณีเช่นนี้ General Uprising อาจจะประสบชะตากรรมชั่วคราว แต่ขบวนการของประชาชนอันมีธรรมและความรักชาติรักแผ่นดินเป็นกำลังแรงนั้น จะลุกยืนฟื้นขึ้นมาใหญ่โตและเข้มแข็งกว่าเดิมเสมอ จนประสบชัยชนะในเบื้องสุดท้าย
       
        อำนาจของตำรวจทหารที่นำมาใช้ผิดๆ กับประชาชนนี้เป็นอำนาจที่มีอาถรรพ์ กล่าวคือจะไม่มีทางเล็ดลอดสายตาและการประณามของผู้รักความเป็นธรรมทั่วโลกได้ และโลกทั้งโลกจะยืนขึ้นมาสนับสนุนประชาชนผู้บริสุทธิ์ คำศัพท์ที่สื่อสากลจะรายงานในการปราบปรามประชาชนมีอยู่ 2-3 ที่เป็นคำสาปแช่งอยู่ในตัวคือ quell, suppress, crush มีความดุร้ายโหด***มต่างระดับกัน ซึ่งผมจะไม่ขอแปล
       
        ผมอยากจะเสริมแต่เพียงว่า General Uprising ครั้งนี้มีเอกลักษณ์แปลกกว่าที่อื่นและทุกครั้งในโลก กล่าวคือเป็น General Uprising ที่เกิดขึ้นด้วยความรัก มิใช่ความแค้น และมิได้เกิดขึ้นจากตัวเจ้าทุกข์หรือผู้ที่ถูกรังแก ผู้ที่ถูกรังแกบางครั้งอาจจะไม่รู้ไม่เห็น ไม่รู้สึกตัว หรือหลงเข้ากับผู้ที่รังแกกดขี่ตนเสียด้วยซ้ำ General Uprising ครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะความรักในหลวงและพสกนิกรผู้ยากไร้ต่ำต้อยน้อยหน้าของพระองค์
       
        บุญบารมีและพระเมตตาของพระเจ้าอยู่หัวอาจจะคุ้มครอง General Uprising ครั้งนี้ให้สงบสันติและสัมฤทธิผล ก็เป็นได้!
       
        4.เข้าใจความสำเร็จและป้องกันนองเลือดอยู่ที่ออกมาร่วมมากๆ หลากหลายกลุ่มเครือข่ายและยุทธวิธี

       
        เนื่องจาก General Uprising เป็นบทหนักของขบวนการประชาชน ซึ่งมีทั้งอหิงสาและใช้กำลัง ผมใคร่ขอเตือนพันธมิตรฯ และเครือข่ายว่าอย่าตกเป็นทาสของความกลัวและยั่วยุ ให้ตกหลุมละทิ้งอหิงสาไปเสีย
       
        ผมเคยเล่าให้ฟังแล้วว่าอหิงสาและอารยะขัดขืนนั้นมีตั้ง 198 กระบวนท่าด้วยกับวันที่ 26 สิงหาคมนี้ จะต้องลองเอากระบวนท่าใหม่ๆ ที่ได้ผลชะงัดออกมาใช้ดูบ้าง
       
        ในขณะเดียวกัน General Uprising มีลักษณะเปิดกว้าง ผู้ที่จะเข้ามาร่วมจะเป็นใคร ที่ไหน และใช้กระบวนท่าใดๆ ก็ได้ เพื่อป้องกันความผิดพลาดและโอกาสนองเลือด ผมขอเรียกร้องให้ตำรวจ ทหาร ข้าราชการ นักธุรกิจ ธนาคาร อาจารย์และปัญญาชน เข้ามาร่วมกันให้มากที่สุด
       
       1. ทหารอาจแต่งหรือไม่แต่งเครื่องแบบออกมาร่วมชุมนุม ขัดขืนและไม่ปฏิบัติตามคำสั่งให้ทำร้ายประชาชน ประกาศและบอกกล่าวว่าจะขอปฏิบัติตามปฏิญาณไม่รับใช้รัฐบาลที่ขาดความชอบธรรมบั่นทอนสถาบันและเอกราชแห่งดินแดน
       
       2. สหภาพแรงงานและสมาคมวิชาชีพต่างๆ ขอลาหยุดงาน ผละงานเพื่อมาร่วมกับสหภาพรัฐวิสาหกิจ
       
       3. ข้าราชการทุกกระทรวงทบวงกรมตั้งแต่ปลัดกระทรวงลงมาถึงเสมียนภารโรงหยุดปฏิบัติตามคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ลางาน หยุดงาน และแสดงการสนับสนุน General Uprising ด้วยเสียงและใบปลิว หรือสัญลักษณ์อื่นๆ เช่น การแต่งกายผูกเนกไทหรือใส่เสื้อเหลือง
       
       4. นักธุรกิจ ธนาคาร หอการค้า สมาคมอุตสาหกรรมต่างๆ พนักงานผู้ประกอบการ กระทำการที่เห็นสมควร แต่แจ้งชัดว่าสนับสนุน General Uprising
       
        5. ครู อาจารย์ นักศึกษา พยาบาล แพทย์ เดินออกจากโรงเรียน มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล เข้ามาร่วมหรือแสดงการสนับสนุนด้วยสัญลักษณ์ใดๆ
       
        6. พันธมิตรฯ และเครือข่าย ผู้ที่เข้าร่วมทั้ง 93 วันก็ดี มาร่วมบ้างก็ดี มาร่วมใหม่ก็ดี ศึกษาและเลือกใช้กระบวนท่าอหิงสาและอารยะขัดขืนต่างๆ เช่น นัดกันแบบต่างคนต่างทำ เริ่มถอนเงินออกจากธนาคาร ประท้วงโดยการนั่งเฉยๆ เป็นหมู่ Sit In ใช้ Electronic Civil Disobedience และ Hacking ทำสงครามข่าวสาร เลิกใช้บริการของรัฐหรือเอกชนที่เป็นกำลังของรัฐบาลที่ขาดความชอบธรรม
       
        ทั้งหมดนี้ เป็นอหิงสาและอารยะขัดขืนที่เป็นกระบวนท่าของประชาธิปไตย ชอบธรรม ไม่ผิดกฎหมาย มีพันธมิตรสากลที่รักความถูกต้องรักความเป็นธรรมรักมนุษยชาติสนับสนุนอยู่ทั่วโลก
       
        เดินหน้าเถิด เดินอย่างสง่างามเถิด ไม่มีอะไรที่เราจะต้องกลัว นอกจากความกลัวเท่านั้น
       
        26 สิงหา มวลประชาลุกฮือ
       
        ขอให้ประชาชนประสบชัยชนะ ขอให้รัฐบาลโจรจงพินาศ!


http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9510000100386

ความเรียงว่าด้วยการโค่นล้มรัฐบาลนายสมัครโดยไม่ผิดกฎหมาย (4)


1. เข้าใจสิทธิและอำนาจของประชาชนที่จะโค่นล้มรัฐบาลที่ขาดความชอบธรรม
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9510000096998

2. เข้าใจว่ารัฐบาลนายสมัครเป็นโมฆะ ขาดความชอบธรรม และผิดกฎหมายมาแต่ยังไม่ตั้ง
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9510000097973

3. เข้าใจรัฐบาลนายสมัครอยู่ไม่ดีทำไม่ดี:ละเมิดกษัตริย์ขัดรัฐธรรมนูญผิดกฎหมายขายดินแดนไร้จริยธรรม
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9510000099006

4.เข้าใจวิธีโค่นล้มรัฐบาลนายสมัครโดยไม่ผิดกฎหมาย
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9510000099895

บันทึกการเข้า

"สุดยอดกลยุทธ์ คือชนะโดยไม่ต้องรบ" ซุนวู

"ผู้นำชั้นเลิศนั้น เพียงแต่เป็นที่รับรู้ว่ามีตัวตนอยู่
ชั้นรองลงมา เป็นที่รักและสรรเสริญ
ชั้นรองกว่านั้น เป็นที่เกรงกลัวและเกลียดชัง" เหล่าจื๊อ เต้าเต๋อจิง
นักปฏิวัติ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 330



« ตอบ #1 เมื่อ: 26-08-2008, 22:04 »

ขอมาดันกระทู้ สำหรับคนสงสัยว่า รัฐบาลนายสมัคร ทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ อันเป็นกฏหมายสูงสุดของประเทศ จึงหมดความชอบธรรมที่จะอยู่ต่อไป

2. เข้าใจว่ารัฐบาลนายสมัครเป็นโมฆะ ขาดความชอบธรรม และผิดกฎหมายมาแต่ยังไม่ตั้ง
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9510000097973

3. เข้าใจรัฐบาลนายสมัครอยู่ไม่ดีทำไม่ดี:ละเมิดกษัตริย์ขัดรัฐธรรมนูญผิดกฎหมายขายดินแดนไร้จริยธรรม
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9510000099006

ผมฟังคนนอกแสดงความไม่เห็นด้วยกับพันธมิตร แล้วเหนื่อยจริงๆ ยังมีคนไม่ใส่ใจการกระทำผิดกฏหมายสำคัญๆ เช่น การขายอธิปไตยกรณีเขาพระวิหาร ผิด กม.อาญาโทษสูงสุด ถึงประหารชีวิต ดูเหมือน คนให้ความสำคัญกับผู้ผิดกม.อาญาจุ๋มจิ๋ม ในสถานการณ์ปฏิวัติ มากกว่าซะอีก

เฮ้อ ประเทศไทย ! พันธมิตรต้องอดทน เพราะพันธมิตรคือคนตามหลักพาเรโต คือ คนศักยภาพ 20% แต่ทำผลงานสำคัญ 80% (ในทางกลับกัน คนที่เหลือ 80% ทำผลงานแค่ 20%)

สู้ สู้ สู้

บันทึกการเข้า

"สุดยอดกลยุทธ์ คือชนะโดยไม่ต้องรบ" ซุนวู

"ผู้นำชั้นเลิศนั้น เพียงแต่เป็นที่รับรู้ว่ามีตัวตนอยู่
ชั้นรองลงมา เป็นที่รักและสรรเสริญ
ชั้นรองกว่านั้น เป็นที่เกรงกลัวและเกลียดชัง" เหล่าจื๊อ เต้าเต๋อจิง
bangkaa
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 407



« ตอบ #2 เมื่อ: 27-08-2008, 00:18 »

แหะ แหะ แหะ...

ก็ อาจารย์ ปราโมทย์ นี่ล่ะ... ที่น่าจะเป็นคนนึง ที่ช่วยทำให้เกิดภาพอย่างที่พันธมิตรฯพยายามทำให้เห็น...


ทำได้ดีแล้ว... แต่ไม่น็อค... เพราะคนไม่มากพอ... ก็น่าเสียดายเหมือนกัน...
ถ้ามากันสัก 200,000 คน เป็นอย่างต่ำ คงจะมีโอกาสน็อคได้มากกว่านี้




 
บันทึกการเข้า

มาทำหน้าที่... ใช้หนี้แผ่นดิน...และมาทำบุญ...
นักปฏิวัติ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 330



« ตอบ #3 เมื่อ: 27-08-2008, 11:35 »

ปฐมบทแห่ง "อารยะขัดขืน"

"...(4) จากนี้ไป "อารยะขัดขืน" จะเป็นเรื่องของทุกคน

ถ้านักการเมืองผู้ยึดมั่นแต่เพียง "เทคนิคการเลือกตั้ง" เมื่อยึดครองอำนาจรัฐยังยืนยันที่จะปกครองประเทศด้วยวิธีการ "รวมอำนาจ" อย่างที่เห็นจากระบอบทักษิณ ก็เชื่อเถอะว่าจากนี้ไปคำว่า "อารยะขัดขืน" จะกลายเป็นเรื่องปกติในสังคมไทย

เราต้องสอนลูกสอนหลานว่า การร่วมมือกับคนชั่ว, คนโกง, คนเลวที่มีอำนาจและเงินนั้น เป็นความผิดพลาดร้ายแรง

ลูกหลานคนไทยจะต้องได้รับการสั่งสอน ว่า คนรุ่นเดียวกับเขาที่เป็นลูกเป็นหลานของนักการเมืองและเศรษฐีผู้ร่ำรวยจากการเอารัดเอาเปรียบสังคมนั้น เป็นคนรุ่นใหม่ที่จะต้องต่อต้านพฤติกรรมเช่นนั้นด้วยตนเอง

คนรุ่นต่อไปของประเทศไทยจะต้องต่อต้านการโกงกิน และจะต้องต่อสู้ด้วยวิธีการของผู้ที่ไร้อำนาจรัฐจะพึงต่อสู้

มีลูกสอนลูก, มีหลานสอนหลานว่ากฎหมายที่เขียนโดยผู้เอาเปรียบสังคม ย่อมจะเอื้อต่อประโยชน์ของคนมีฐานะได้เปรียบเท่านั้น ดังนั้น หากจะสร้างสังคมที่เป็นธรรม และหากจะเป็นพลเมืองผู้รับผิดชอบ ต้องร่วมกันต่อต้านกฎหมายที่ล้าหลังเหล่านั้น

และหากจำเป็น คนไทยยุคใหม่ต้องพร้อมที่จะประกาศว่าจะไม่ทำตามกฎหมายที่ไม่เป็นธรรมเหล่านั้น

คำว่า "อารยะขัดขืน" แปลว่าเราจะไม่เป็นส่วนหนึ่งของความเลวร้ายของผู้มีอำนาจ ซึ่งมีผลต่อชีวิตประจำวันของสมาชิกในสังคมด้วย

นั่นย่อมแปลว่าเราจะถามเหตุผลของกติกาทุกข้อ ซักไซ้ไล่เลียงที่มาที่ไปของกฎข้อบังคับที่ผู้มีอำนาจสั่งลงมา

เราจะไม่ยอมทำตามกฎข้อใดเพียงเพราะคนมีอำนาจสามารถหว่านล้อมให้ "เสียงส่วนใหญ่" ที่เขาคุกคามได้, ซื้อได้, บังคับได้ ลงมติเพื่อใช้บังคับให้พวกเขาได้ประโยชน์แต่เพียงฝ่ายเดียว

เพราะการร่วมมือกับโจรปล้นบ้านของเรา ก็คือการเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกันทำลายสังคมนั่นเอง

การเรียกร้องให้ประท้วงด้วยการไม่เสียภาษีนั้น เกิดขึ้นเพราะประชาชนเห็นว่าผู้นำประเทศและครอบครัวยังพยายามหาหนทางหลีกเลี่ยงการเสียภาษีก้อนยักษ์ได้

นี่มิใช่การพยายามส่งเสริมให้ผู้คนทำผิดกฎหมาย หากแต่เป็นการชี้ให้เห็นว่า สังคมจะต้องลุกขึ้นแสดงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวที่จะไม่ยอมให้คนบางคนบางกลุ่มอาศัยอำนาจและช่องโหว่ของกฎหมายเพื่อเลี่ยงกฎหมาย

การเรียกร้องให้กาบัตรไม่เลือกใคร มิใช่การทำผิดหลักการประชาธิปไตย ตรงกันข้าม นี่คือการแสดงออกถึงความสิ้นหวังในความไร้คุณภาพทางการเมืองของสังคม

แม้การฉีกบัตรเลือกตั้งก็มิได้แปลว่าไม่เห็นพ้องกับความเป็นประชาธิปไตย หากแต่หมายถึงการยืนยันในการที่จะไม่ทำตามกติกาของผู้บ้าอำนาจที่ยึดครองประเทศชาติให้เกิดความตื่นตัว

คนทำเช่นนั้นประกาศ "ขัดขืนอย่างมีอารยะ" นั่นคือพร้อมจะขึ้นศาลและสู้กับเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อพิสูจน์ว่าอะไรมาก่อน...กฎหมายเลือกตั้ง หรือมาตราในรัฐธรรมนูญที่ปกป้องสิทธิของประชาชนในอันที่จะต่อต้านความเลวร้ายในสังคมอย่างสันติกันแน่?

ดังนั้น จากนี้ไปกระทรวงศึกษาจะต้องพิจารณานำเอา "อารยะขัดขืน" เข้าไปอยู่ในหลักสูตรของเรียนรู้ตั้งแต่ระดับมัธยมต้น

เพราะการต่อสู้กับความไม่ชอบธรรมอย่างสันติและแน่วแน่คือวิญญาณแห่งประชาธิปไตยที่แท้จริงที่นักเลือกตั้งที่ใช้เงินและอำนาจเพื่อให้ได้ที่นั่งในสภามากที่สุดเท่านั้น ไม่อาจจะเข้าใจได้เป็นอันขาด

ธนาธิปไตยย่อมมิใช่ประชาธิปไตย


..."

http://www.9digits.com/index.php?option=com_content&task=view&id=116&Itemid=36&limit=1&limitstart=1
บันทึกการเข้า

"สุดยอดกลยุทธ์ คือชนะโดยไม่ต้องรบ" ซุนวู

"ผู้นำชั้นเลิศนั้น เพียงแต่เป็นที่รับรู้ว่ามีตัวตนอยู่
ชั้นรองลงมา เป็นที่รักและสรรเสริญ
ชั้นรองกว่านั้น เป็นที่เกรงกลัวและเกลียดชัง" เหล่าจื๊อ เต้าเต๋อจิง
หน้า: [1]
    กระโดดไป: