ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
20-04-2024, 06:53
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ถึงเวลาผู้บริโภค พรบ.วิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค 2551 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ถึงเวลาผู้บริโภค พรบ.วิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค 2551  (อ่าน 2137 ครั้ง)
ooo
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670


« เมื่อ: 22-08-2008, 14:45 »

วันจันทร์ ที่25 นี้ พรบ.วิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พศ.2551 จะใช้บังคับแล้ว

พรบ.ฉบับนี้ นับว่าเป็นกฎหมายใกล้ตัว และเกี่ยวพันกับการดำเนินชีวิตประจำวัน

ของประชาชนเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นในฐานะผู้บริโภค หรือ ในฐานะผู้ประกอบ

ธุรกิจ หรือบริการ

พรบ.ฉบับนี้ให้ สิทธิ์ผู้บริโภค ดำเนินคดีได้อย่างกว้างขวาง คือ อาจยื่นฟ้องเป็นหนังสือ

หรือด้วยวาจาก็ได้ และไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมศาล และไม่ต้องเสียค่าจ้างทนายความ

หากผู้บริโภคต้องการฟ้องก็ไปที่ศาล ไปแจ้งต่อเจ้าพนักงานคดีเพื่อให้จัดทำคำฟ้องให้

และเมื่อศาลรับฟ้องแล้วต้องกำหนดนัดพิจารณาไกล่เกลี่ย ภายใน 30 วัน หากตกลงกัน

ไม่ได้ก็ให้พิจารณาคดีไปโดยเร็ว

ทีนี้ละ ถึงเวลาของผู้บริโภคแล้ว หากผู้ประกอบการเอาเปรียบ ก็ไปเจอกันที่ศาล ก็แล้วกัน



บันทึกการเข้า
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 22-08-2008, 15:20 »

ค่าของกินในโรงหนังแพง

ซื้อตั๋วหนัง แล้ว เข้าไปดูมันบังคับดูโฆษณาซะครึ่งชั่วโมง อย่างนี้จะฟ้องได้ไม๊ 
บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
Sweet Chin Music
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,613



« ตอบ #2 เมื่อ: 22-08-2008, 17:39 »

ค่าของกินในโรงหนังแพง

ซื้อตั๋วหนัง แล้ว เข้าไปดูมันบังคับดูโฆษณาซะครึ่งชั่วโมง อย่างนี้จะฟ้องได้ไม๊ 

ตามความเห้นผมว่าฟ้องไม่ได้นะครับ เพราะราคาของในโรงหนัง ก็ขายราคาระดับนี้

เป็นปกติของธุรกิจโรงหนังอยู่แล้ว แล้วเราก็เป็นฝ่าย เข้าไปซื่้อเองด้วย โดยทั้งๆที่เราก็รู้ว่ามันแพง

ส่วนโฆษณานั้น ก็เช่นเดียวกันครับ มัยเป็นรายได้เสริมจากธุรกิจของเขา อาจจะไม่เข้าข่ายนี้ก็ได้



ที่ พรบ. คุ้มครองจริงๆนั้น โดยส่วนใหญ่มักจะเกี่ยวกับการที่ตัวผู้ผลิต ออกมา โม้สรรพคุณของผลิตภัณฑ์ตัวเองจริงๆซะมากกว่า

ซึ่งมันเกินจริงไปมากๆ โดยเฉพาะตลาดเกียวกับสุขภาพ ที่ผลิตภันฑ์แต่ละอย่าง สรรพคุณครอบจักรวาลซะเหลือเกิน

หรือไม่ก็ เป็นเพียงแค่ลูกเ่ล่นในการใช้สารเคมีบางประเภทออกมาผสมกัน ทำให้ดูเหมือนว่าได้ผลจริง เช่น ผลิตภันฑ์ล้างสารพิษในร่างกาย

หรือ พวก คลอโรฟิลล์ อะไรก็ไม่รู้ ที่มันบอกว่า สามารถทำให้ร่างกายเราหนุ่ม สาว ขึ้นได้ เล่าให้คร่าวๆก็ประมาณนี้ครับ
บันทึกการเข้า


You'll Never Walk Alone
เข้าไปกันได้ค๊าป- - - >http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sweetchinmusic&group=1
ooo
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670


« ตอบ #3 เมื่อ: 22-08-2008, 17:45 »

ความเห็นส่วนตัว (เดา) นะครับ

ค่าของกินแพงไม่น่าเกี่ยว เห็นว่าแพงก็ไม่ซื้อสิครับ

ถูกบังคับดูโฆษณานาน น่าจะฟ้องได้นะ...

กฎหมายฉบับนี้ เป็นอีกกรณ๊หนึ่งของตุลาการภิวัฒน์ เป็นกฎหมายที่เสนอโดยศาล

ผ่านสภาในสมัย สนช.

จะว่าไปแล้วในต่างประเทศมีกฎหมายในลักษณะนี้มานานแล้ว แต่ในประเทศไทย

เพิ่งจะมี ซึ่งเชื่อว่าหลังการบังคับใช้ คงทำให้สังคมตื่นตัว หันมาระมัดระวังสิทธิ์ของ

ตนเองมากขึ้น

อย่างไรก็ดี กฎหมายฉบับนี้ ไม่ใช่มีแต่ดีด้านเดียว หากเจอผู้บริโภคขี้โกง จะทำอย่างไร

ผู้ประกอบการคงน้ำตาตกเป็นแน่ อย่างเช่น ผู้บริโภคไปทานอาหารมาแล้วท้องเสีย ก็

บอกว่าอาหารไม่สะอาด เลยมาฟ้องศาลเรียกค่าเสียหาย ก็คงเดือดร้อนถึงเจ้าของร้าน

ที่ต้องเสียเวลาทำมาหากิน มาสู้คดีในศาล

และกฎหมายฉบับนี้วงการแพทย์ก็ห่วงกันมาก กำลังเตรียมขอแก้ไข เพื่อไม่ให้ครอบคลุมถึง

การบริการทางการแพทย์

บันทึกการเข้า
ooo
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670


« ตอบ #4 เมื่อ: 22-08-2008, 18:05 »

ตัวอย่างคดี(กรณีผู้บริโภคเป็นผู้ฟ้อง)

 -ผู้ซื้อสินค้าไม่มีคุณภาพ

  -ซื้ออสังหาริมทรัพย์ (ไม่ก่อสร้างให้เสร็จตามสัญญา ไม่จัดทำสาธารณูปโภค ฯลฯ)

  -สัญญาจ้างทำของ เช่น จ้างอู่ติดตั้งแก๊ส แล้วไม่ได้มาตรฐาน

  -ผู้เสียหายจากการใช้สินค้าที่ไม่ปลอดภัย

 -การให้บริการต่างๆ เช่นท่องเที่ยว การแพทย์ เป็นต้น
บันทึกการเข้า
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 22-08-2008, 20:01 »

ของราคา 15 บาท เอามาขาย 45 บาท   

อย่างนี้มันไม่เข้าข่ายค้ากำไรเกินควรเหรอ 
บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
Sweet Chin Music
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,613



« ตอบ #6 เมื่อ: 22-08-2008, 20:47 »

ของราคา 15 บาท เอามาขาย 45 บาท   

อย่างนี้มันไม่เข้าข่ายค้ากำไรเกินควรเหรอ 

จริงๆมัยทำได้นะครับ โดยฝ่ายราชการนั่นละ

ฝ่ายที่ทำหน้าที่เกียวกับเรื่องนี้คือ คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ

ซึ่งโดยหลักแล้วมีอำนาจที่จะกำหนดให้โรงหนัง ขายราคาที่ย่อมเยาได้ แต่ดันไม่ทำ 


ว่างๆลองอ่าน พรบ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการดูสิครับ ผมว่าโรงหนังมันเข้าข่ายอันนี้นะ

http://www.pub-law.net/library/act_price.html
บันทึกการเข้า


You'll Never Walk Alone
เข้าไปกันได้ค๊าป- - - >http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sweetchinmusic&group=1
หน้า: [1]
    กระโดดไป: