ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
24-04-2024, 09:31
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  บทลงโทษ ที่ให้ยุบพรรค และตัดสิทธิ์ทางการเมือง ๕ ปี มีเจตนาอะไร 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
บทลงโทษ ที่ให้ยุบพรรค และตัดสิทธิ์ทางการเมือง ๕ ปี มีเจตนาอะไร  (อ่าน 2295 ครั้ง)
ลุงอ่ำ
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 31

คิดถึงโลก ชาติบ้านเมือง ชุมชน แล้วจึงคิดถึงตนเอง


« เมื่อ: 21-08-2008, 21:35 »

ลุงอ่ำ
ไม่ได้เป็นนักการเมือง
ไม่ได้เรียนกฏหมายมา
มีความสงสัยเป็นอันมาก....ว่า

๑. คนที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง มาชักใยทางการเมืองในนามพรรคใหม่
๒. คนที่ไม่เหลือศักดิ์ศรีอะไร มาเป็นนอมินีของผู้ที่ถูกตัดสิทธิ์

ถ้ามีกรณีนี้จริง (ย้ำว่าถ้าทำจริง) ไม่ใช่ใส่ความ
ในสองคนนี้....มีใครละเมิดคำตัดสินของศาลหรือไม่

ก. ละเมิดทั้งคู่
ข. คนถูกตัดสิทธิ์ ละเมิด
ค. คนที่ไม่เหลือศักดิ์ศรี ละเมิด
ง. ไม่ได้ละเมิดทั้งคู่

ขอคำอธิบายด้วยครับ
บันทึกการเข้า
Unread
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 83


« ตอบ #1 เมื่อ: 21-08-2008, 22:44 »

   ละเมิด และ หน้าด้าน อย่างให้อภัยไม่ได้   และอยากจะตำหนิ  พวกทาสทักษิณ ที่มี อุดมการณ์วิธีคิดแบบ ไพร่     
   แทนที่จะเป็นไพร่ฟ้า  ข้าแผ่นดิน กลับไปเป็น  ไพร่ ให้นักการเมือง
    ใจก็อยากจะสมน้ำหน้า ที่ ทำตัวเป็น ไพร่ ตบมือ เชียร์โจร ให้มาปกครองประเทศ
     แต่ คิดอีกที  ก็ไอ้คนเลือก มันก็ คือโจร  โจรเลือกก็ย่อมได้ โจร
บันทึกการเข้า
bangkaa
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 407



« ตอบ #2 เมื่อ: 21-08-2008, 23:19 »

ที่จริงแล้วตามหลักการ คือ ต้องการให้นักการเมืองที่ทำผิดได้ละเว้นไม่เข้ามามีอำนาจทางการเมืองเพื่อไม่ให้ได้ทำความเสียหายแก่ส่วนรวม


การตัดสิทธิทางการเมือง จึงเป็นบทลงโทษที่รับได้... เหมือน ติดคุกทางการเมือง 5 ปีนั่นล่ะ..
ซึ่งไม่ใช่โทษร้ายแรงอะไรเลย... คุณยังใช้ชีวิต ทำมาหากินได้ตามปกติเหมือนกับคนไทยคนอื่นอีก 63 ล้านคน (แทบทุกคนก็ไม่มีอำนาจทางการเมืองเหมือนกัน)

การยุบพรรค... ก็คือ ลงโทษทั้งองค์กรที่มีส่วนในการทำความเสียหายให้กับส่วนรวม...
อย่างกรณี ยุบพรรค ไทยรักไทย... ว่ากันด้วยเหตุผล ก็สมควรแล้ว... เพราะพฤติกรรมโกงการเลือกตั้งอย่างเป็นระบบ...

*********

แต่ทั้งนี้แล้ว ผมเองก็คิดว่า บางทีแล้วการยุบพรรค มันไม่ได้เป็นการลงโทษที่มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผลเลย... รังแต่สร้างความยุ่งยากทางระบบการเมืองมากกว่า...เพราะที่จริงแล้วก็อย่างที่เห็น  ไทยรักไทย โดนยุบ... ก็กลายเป็น พังประชาชน...

ถามว่าแล้ว พปช ทำผิดไหม... ที่ยกพวกจาก ทรท มาเป็น พปช...
ก็ต้องบอกว่าผิด... เพราะโดยพฤตินัยแล้ว พปช ก็คือ ทรท ที่ถูกศาลสั่งให้ยุบพรรคเพราะมีความผิดทางการเมือง การปกครอง...
แต่เอาล่ะ เราก็หยวนๆ หลับหูหลับตายอมกันไป...

สมมุติว่า เป็น ปชป ถูกยุบล่ะ... แน่นอน พวกสมาชิกพรรคก็ต้องไปตั้ง พรรคใหม่... ไม่ได้ต่างอะไรจากที่ พปช หรือ ทรท ทำหรอก...
ก็ผิดเหมือนกันอีกนั่นละ..


ผมถึงบอกว่า การยุบพรรค ไม่ใช่ทางเลือกที่ดี...

ทางที่ดีนะ... ไม่ต้องยุบพรรคหรอก... มันวุ่นวายเสียเปล่า... และนักการเมืองมันก็ไม่ได้กลัวถูกยุบพรรคเท่าไรหรอก...

ที่มันกลัวคือ ถูกตัดสิทธิทางการเมืองต่างหาก...

เพราะ นักการเมือง การถูกห้ามเล่นการเมือง... เนี่ยถือว่าเสียหายใหญ่หลวงทีเดียว....



****************

การตัดสิทธิทางการเมืองของนักการเมืองที่กระทำผิดจึงเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว...


ส่วนการตัดสิทธิเฉพาะรายบุคคล หรือ รับผิดชอบเป็นหมู่คณะ ก็แล้วแต่จะ ดีไซน์กฎหมาย ข้อห้ามตามเจตนารมณ์
อันนี้ต้องไปถกเถียงให้ตกผลึกอีกทีก็ได้....



 
บันทึกการเข้า

มาทำหน้าที่... ใช้หนี้แผ่นดิน...และมาทำบุญ...
นักปฏิวัติ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 330



« ตอบ #3 เมื่อ: 21-08-2008, 23:40 »

ผมไม่ใช่นักกฎหมาย แต่ผมคิดว่า ละเมิดทั้งคู่ เนื่องจากคำตัดสินของศาล คือไม่ให้ยุ่งเกี่ยวทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี แต่ผู้กระทำผิดกลับละเมิดโดยการใช้ตัวแทน กระทำการแทน (โดยพิจารณาจากพฤติกรรม หรือตรวจสอบทางลับ เช่น สืบสวนหลักฐานการติดต่อ ดักฟังโทรศัพท์ เป็นต้น) ดังนั้นโดยพฤตินัย จึงถือเป็นการดำเนินการทางการเมือง

ยิ่งไปกว่านั้นการกระทำดังกล่าว ยังเป็นการกระทำเพือให้ได้ตำแหน่งทางการเมือง ที่มีอำนาจทางการบริหารราชการแผ่นดิน (ปกครองประเทศ) จึงเป็นการผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ด้วย เพราะการใช้ตัวแทน ดำเนินการปกครองประเทศแทนตัวเอง เป็นการกระทำ เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ

ส่วนผู้เป็นตัวแทน ย่อมต้องมีความผิดฐานสมรู้ร่วมคิดในการกระทำผิดดังกล่าว

อ้างอิง
มาตรา 68 บุคคลจะใช้สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญนี้ หรือ
เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญนี้ มิได

ผมไม่เข้าใจว่า นักกฎหมาย อย่าง กกต. (ทั้งกรรมการและอนุฯ) มันตีความกันไม่เป็นหรืออย่างไร
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-08-2008, 23:58 โดย นักปฏิวัติ » บันทึกการเข้า

"สุดยอดกลยุทธ์ คือชนะโดยไม่ต้องรบ" ซุนวู

"ผู้นำชั้นเลิศนั้น เพียงแต่เป็นที่รับรู้ว่ามีตัวตนอยู่
ชั้นรองลงมา เป็นที่รักและสรรเสริญ
ชั้นรองกว่านั้น เป็นที่เกรงกลัวและเกลียดชัง" เหล่าจื๊อ เต้าเต๋อจิง
ooo
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670


« ตอบ #4 เมื่อ: 21-08-2008, 23:55 »

ผมไม่ใช่นักกฎหมาย แต่ผมคิดว่า ......

เยี่ยมครับ...

 ลีลา ภาษาที่ใช้ การวางหลักกฎหมาย การปรับข้อเท็จจริงเข้าข้อกฎหมาย ไม่ธรรมดาเลยนะครับ
บันทึกการเข้า
samepong(ยุ่งแฮะ)
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,402



« ตอบ #5 เมื่อ: 22-08-2008, 01:07 »

มันไม่มีอะไรมาพิสูจน์ได้ว่า ทั้งคู่ รู้กัน ถึงการเป็นตัวแทน  ไม่มีใบเส็จ ถึงแม้นจะมองออกก็ไม่สามารถ บอกได้ว่า ผุ้ถูกตัดสิทธิ์เข้ามายุ่งเกี่ยวผ่านตัวแทน
บันทึกการเข้า

เวลาจะพิสูจน์ความเชื่อ สักวัน ไม่ว่าความเชื่อนั้นจะถูกหรือผิด ผมขอรับไว้ด้วยตัวเอง คิเสียว่าทำแล้วเสียใจดีกว่าเสียใจที่ไม่ได้ทำ
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #6 เมื่อ: 22-08-2008, 02:24 »

ตามเจตนารมณ์คือต้องการไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับทางการเมือง แต่ที่สงสัยก็คือเดี๋ยวนี้ทำไมการตีความกฎหมายมหาชนถึงเหลือแต่ตีตวามตามตัวอักษรหว่า
บันทึกการเข้า
ลุงอ่ำ
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 31

คิดถึงโลก ชาติบ้านเมือง ชุมชน แล้วจึงคิดถึงตนเอง


« ตอบ #7 เมื่อ: 22-08-2008, 10:22 »

ถึงจะไม่มีใบเสร็จยืนยัน
แต่การที่นั่งรอ สส. ใน control ของตน มาพินอบพิเทารายงานผลงานที่กลุ่มตนได้ทำไปแล้ว
เป็นการชี้ได้แล้วว่า มาชักใย (ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง) อยู่เบื้องหลัง
ชักใยธรรมดาไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ชักใยทั้งๆที่ศาลสั่งห้ามแล้ว

ไม่เห็นกฏกติกาอยู่ในสายตา



(ปัญหา สส. ด้อยปัญญา ไม่ทำการด้วยความอิสระจริง ต้องมี "นาย" คอย control เป็นปัญหาของแผ่นดิน)
บันทึกการเข้า
Go_oK
น้องใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 14


« ตอบ #8 เมื่อ: 22-08-2008, 10:46 »

ตอบข้อ 1. คนที่ถูกตัดสิทธิ์ละเมิด แต่จะพิสูจน์ได้ยากว่ามีการยุ่งเกี่ยวทางการเมือง

          2. ไม่ละเมิด เพราะข้อห้ามที่กฎหมายกำหนด แต่เราจะได้ผู้แทนที่ไม่มีศักดิ์ศรี แทนที่จะเป็นผู้แทนให้กับประชาชน (สส.= สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร, หรือนอมินีของประชาชน) แต่กลับไปเป็นนอมินี (สุนัขรับใช้) ให้กับคนบางคน

ในความเห็นผม ควรตัดสิทธิ์ผู้ที่ทำความผิดและทุจริตทางการเมืองตลอดชีวิต ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวทางการเมืองอีกเลยทั้งทางตรงและทางอ้อม เพราะในเมื่ออาสาเข้ามาบริหารบ้านเมืองแทนประชาชน และได้ถวายสัตย์ฯ ต่อในหลวงว่าจะทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์สุตริต แต่กลับเข้ามาทุจริตต่อหน้าที่ใช้อำนาจที่ได้รับมาแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้อง ซึ่งก็เท่ากับว่าตระบัตย์สัตย์ต่อในหลวง


บันทึกการเข้า
Albert Einsteins
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 146



« ตอบ #9 เมื่อ: 22-08-2008, 10:57 »

ในความเห็นผม การตัดสิทธิ์ผู้ที่ทำความผิดและทุจริตทางการเมืองที่เป็นลักษณะส่วนตัว ค่อนข้างเห็นด้วย โดยถือเป็นคุณสมบัติของผู้อาสามเป็นตัวแทนทางการเมือง การกำหนดโทษควรตัดสิทธิ์ตลอดชีวิต ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวทางการเมืองอีกเลยทางตรงก็พอ ตามหลักการผู้ที่มาทำหน้าที่ตัวแทนทางการเมืองควรจะทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์สุตริต และ ไร้ความผิดทางกฎหมาย มีจริยธรรมสูง

แต่ผมไม่เห็นด้วยกับบทลงโทษการยุบพรรคและตัดสิทธิกรรมการพรรค ดูเป็นการเหมารวมเกินไป และ ผิดหลักกาีรและธรรมชาติทางการเมือง ความผิดควรเป็นเฉพาะตนมากกว่า

 

บันทึกการเข้า
RiDKuN
Administrator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,015



เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 22-08-2008, 11:11 »

ก็เป็นคุกทางการเมืองแบบหนึ่ง จุดประสงค์ อย่างแรกคือ ทำให้กลัว จุดประสงค์ข้อนี้บรรลุแล้วอย่างเห็นได้ชัด
สองคือ ทำให้ไม่กล้าทำผิด จุดประสงค์ข้อนี้ ยังไม่บรรลุ เพราะยังมีนักการเมืองชั่ว ที่คิดว่าทำแล้วจะไม่ถูกจับได้
อย่างที่สาม คือ ป้องกันไม่ให้กลับมามีอำนาจทางการเมืองอีก ข้อนี้ก็บรรลุได้เป็นส่วนใหญ่ ยกเว้นแต่ทักษิณ
ก็ต้องทำใจ เพราะมีเงินก็จ้างผีโม่แป้งได้ นับประสาอะไรกับแค่นายกฯ นอมินี และส.ส.ไม่กี่ร้อยคน
แต่การใช้อำนาจนั้นก็คงทำได้อย่างจำกัดเท่านั้น
บันทึกการเข้า

คนไม่มี "อุดมคติ" ไม่ใช่ "นักการเมือง"
นักปฏิวัติ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 330



« ตอบ #11 เมื่อ: 22-08-2008, 11:33 »

มันไม่มีอะไรมาพิสูจน์ได้ว่า ทั้งคู่ รู้กัน ถึงการเป็นตัวแทน  ไม่มีใบเส็จ ถึงแม้นจะมองออกก็ไม่สามารถ บอกได้ว่า ผุ้ถูกตัดสิทธิ์เข้ามายุ่งเกี่ยวผ่านตัวแทน

ผมถึงได้เสนอให้ ตรวจสอบทางลับไงครับ เช่น เช็คเบอร์ที่โทร (ผู้ให้บริการโทรศัพท์ fixed/mobile มีข้อมูล ผมเคยทำงานวงการนี้ ระบบ subscriber&billing management มีรายละเอียดมากพอครับ) การเดินทาง (ก.ต่างประเทศ สายการบิน ) เข้าหาทักษิณ ที่ฮ่องกง อังกฤษ การFax ไปบ้านจันทร์ส่องหล้า การสืบสวนทางลับอื่นๆ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องน่าจะกระทำได้ ซึ่งน่าจะมีหลักฐานได้บ้าง

เพื่อดูพฤติกรรม ซึ่งแสดงเจตนา
ถ้าผู้มีอำนาจหน้าที่ ไม่ละเว้น แต่ทำหน้าที่ถูกต้องจริงจัง ผมเชื่อว่าเอาผิดได้แน่นอน ดูกรณี หมอผัสพร ไม่มีหลักฐานการฆาตกรรมนะครับ เขาใช้พยานหลักฐานแวดล้อม สืบจับได้


ขอบคุณที่ชมครับคุณ ooo  ความจริง ผมชี้ประเด็นนี้ (หมายถึง ประเด็นตัวแทนขัดคำตัดสินตุลาการ รธน. แต่ไม่มีประเด็นขัด รธน. ม.68) ส่ง ดร.เจิมศักดิ์ (แล้วเพื่อนแจ้งว่า ออก ASTV รู้ทันฯ ตั้งแต่หลังเลือกตั้งไม่นาน) เพราะไม่รู้จะใช้ช่องทางไหนแล้ว 
บันทึกการเข้า

"สุดยอดกลยุทธ์ คือชนะโดยไม่ต้องรบ" ซุนวู

"ผู้นำชั้นเลิศนั้น เพียงแต่เป็นที่รับรู้ว่ามีตัวตนอยู่
ชั้นรองลงมา เป็นที่รักและสรรเสริญ
ชั้นรองกว่านั้น เป็นที่เกรงกลัวและเกลียดชัง" เหล่าจื๊อ เต้าเต๋อจิง
หน้า: [1]
    กระโดดไป: