ดังที่เรารู้ๆกันอยู่แล้วว่าสัญญา F T A เป็นสัญญาทาส แต่ทำไมระดับรากหญ้า ก็ยังรักทักษิณ เมื่อจะทำสัญญา FTA นี้คนจนเป็นหนี้เพราะการเกษตรไม่ได้ผล ทักษิณเริ่มเข้าไปช่วยหาเงินทุนให้ (ครั้งที่ 1) โดยให้เกษตรกร กู้เงินจาก ธ.ก.ส. เกษตรกรทั้งหลาย ก็ดีใจว่า ทักษิณช่วยเหลือจริง ๆ ก็เริ่มมีความนิยม ในตัวทักษิณ
พอปีต่อมา เกิดโครงการกองทุนหมู่บ้าน ก็ยิ่งทำให้มีความนิยมชมชอบ ทักษิณกันมากขึ้น (ครั้งที่ 2) ทั้ง ๆ ที่เป็นหนี้เพิ่มขึ้น และ ราคาพืชผล ก็ตกต่ำ แต่เมื่อมีเงินกองทุนหมู่บ้านเข้ามาเลยทำให้ กลบกระแสการขาดทุนจากผลผลิการเกษตร เนื่องจาก เกษตรกรขายผลผลิตราคาต่ำ ยังได้เงินจากเงินกองทุนหมู่บ้า ช่วยเหลือ เกษตรกรไม่รู้ ว่าเป็นหนี้เพิ่มขึ้นอีกแล้ว
ผ่านไป 2 ปี ต่อมาปีที่ 3 ฝนแล้ง พืชผลเกษตร เสียหาย รัฐก็ไม่ได้เข้าไปดูแลเท่าที่ควร ชาวเกษตรกรรากหญ้า มาร้องเรียนเรื่องหนี้ให้ผ่อนผัน ทักษิณก็ตกลงช่วยเหลือ โดยยืดระยะเวลาให้ (ครั้งที่ 3) เหตุการณ์ ทุกอย่างข้างต้นเป็นการสร้างคะแนนนิยมให้ ทักษิณ จนสุดขั้ว
ทั้งๆ ที่ เมื่อฝนแล้ง ในหลวง ทรงดำเนินการทำฝนเทียม เพื่อช่วยเหลือ พี่น้องชาวเกษตรกร ก็ถูกโกง โดยสารเคมีที่จะนำไปทำฝนเทียมเป็นของปลอม ทำให้ทำฝนเทียมไม่ได้ผลเท่าที่ควร กรณีนี้ไม่ได้รับความสนใจจากประชาชนเลย โดยมีการนำเสนอข่าวอยู่ไม่กี่วันก็เงียบหายไป
จนมาถึงปี พ.ศ. 2548 การเกษตรไม่ได้ผล อีกครั้ง รวมถึง ราคาผลผลิตตกต่ำมาก จนถึงกับว่า รัฐมนตรีเกษตรฯ ใช้คำว่า "ถึงเวลาเปลี่ยนอาชีพแล้วนะ"
เหตุการณ์ทุกอย่างล้วนแต่ทำให้คนระดับรากหญ้าจนลงแต่รักทักษิณเพิ่มขึ้น โดยไม่รู้ว่าไม่ว่าจะน้ำท่วม ภัยแล้ง ราคาพืชผลตกต่ำ ล้วนแก้ไขได้ทั้งสิ้นแต่รัฐไม่สนใจและบางครั้งจงใจทำให้เกิด
ปีที่เกิดภัยแล้งนั้นเรามีฝนหลวงของพระเจ้าแผ่นดินช่วยได้ แต่การกลับเป็นว่าสารเคมีต่างๆที่รัฐบาลหามาไม่มีคุณภาพ (ปลอม) เครื่องบินไม่พอบ้าง บางครั้งเครื่องบินต้องซ่อมก็แกล้งจอดกันเป็นเดือนๆโดยไม่ซ่อม
การชลประทานของไทยทำให้น้ำพอใช้ทางการเกษตรกรรมได้สบาย แต่ได้ถูกทำลายไป โดยการรื้อทำลายฝายเล็ก ฝายน้อย ตามต้นน้ำลำธาร ได้ถูกการบุกรุกของนายทุนจนไม่มีเหลือซึ่ง อ.บ.ต ไม่สนใจที่จะทำ ส่วนปีที่น้ำท่วมนั้น ไม่ว่าจะเป็นน้ำป่าหรือน้ำฝนที่ทำให้ไร่นาเสียหาย การชลประทานของไทยสามารถ ช่วยได้ผลแต่รัฐบาลไม่ยอมทำเหมือนจงใจจะให้เกิดขึ้น
ปี 48 ที่ผ่านมาน้ำท่วมเชียงใหม่ 3-4 ครั้ง มันเป็นการจงใจ ลองคิดดูเชียงใหม่มีพื้นที่เป็นภูเขาแต่ถูกน้ำท่วม( ความจริงบังคับน้ำไปทางใดก็ได้ ) เป็นไปได้อย่างไร ชาวเชียงใหม่ไม่รู้ ที่รู้ก็ถูกปิดข่าว(สื่อไม่ยอมออกข่าว คนออกข่าวถูกชกปากออกทีวีก็มี)
ทักษิณ เก่งทำให้ประชาชนจนลง เป็นหนี้มากขึ้น แต่ก็รักทักษิณมากขึ้น เพราะเวลาเดือดร้อนทักษิณช่วยทุกที
ประชาชนรากหญ้าไม่สามารถรู้ว่าโดยภาพรวมเป็นการกลั่นแกล้ง ตอนนี้ทักษิณ จะเดินไปอีกก้าวหนึ่ง ถ้าก้าวนี้สำเร็จ ประชาชนชาวรากหญ้าจะตกเป็นทาสอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง " ถึงเวลาเปลี่ยนอาชีพแล้วนะประชาชนเริ่มเดือดร้อน พืชผลเกษตรไม่มีราคา(เพราะไปทำสัญญา FTA กระเทียมเหลือ กก ละ 3 บาท) ถึงเวลาจ่ายเงินกู้ ถึงเวลาจะให้ทักษิณ ช่วยอีกแล้ว ทักษิณ ก็จะช่วย โดยการให้มีการเปลี่ยนอาชีพจากการทำการเกษตรมาเป็นทำปศุสัตว์โดยจะมีการให้กู้เงินเพิ่ม ทั้งๆที่หนี้เดิมที่มีอยู่ก็มากแล้ว
ครั้งนี้ใครจะเอาเงินเพิ่มก็จะมีการหว่านล้อมเอาที่ดินทำกินวางเป็นประกันกับ ธ.ก.ส. หรือขายแล้วทำสัญญาเช่ากับสถาบันเอกชนก็แล้วแต่ เมื่อได้รับเงินแล้ว ก็จะมี บ. เอกชน เข้ามาดำเนินงานโดยมีโครงการให้ สร้างเล้าไก่โดยมีสัญญาว่า จะขายลูกไก่ให้ในราคายุติธรรม มีการทำสัญญาซื้อขายเงินเชื่อ สอนวิธีเลี้ยงไก่เมื่อไก่โตถึงเวลาขายก็จะประกันราคาให้ด้วย ประชาชนชาวรากหญ้าไม่ต้องเสี่ยงอะไรเลย ( เวลาเขาอธิบาย )
บ.เอกชน มีหน้าที่ให้ยาและอาหารไก่ ชาวรากหญ้าเลี้ยงไก่ ดูแลไก่ให้ดี ถึงเวลา ก็เอาไก่ไป ชาวรากหญ้าได้เงิน ใช้สบาย
อีกพวกที่ไม่เลี้ยงไก่ ทักษิณก็ให้ปลูกกล้ายางแทน พวกนี้ยิ่งน่าสงสารกว่าที่เลี้ยงไก่เพราะกล้ายางที่ปลูกนั้น กรมการเกษตรพิสูตรมาแล้วเป็นกล้ายางไร้คุณภาพ แต่ถูกปิดข่าวอีก อีก5ปีกว่าที่ต้นยางจะให้ยางได้ ถึงจะรู้ตัวว่าถูกหลอก ใน 5 ปีนี้ยังมีค่าใช้จ่าย ค่าน้ำ ค่าปุ๋ย ดอกเบี้ย อื่นๆที่เป็นภาระ ก็ต้องไปทำงานโรงงานของนายทุนเพื่อเป็นค่าใช้จ่าย ไม่อย่างนั้นค่าใช้จ่ายอีก 5 ปีจะเอาที่ไหน ที่ดินที่จำนองไว้ ในอนาคตต้องมาขายใช้หนี้ในที่สุด(ซึ่งชาวรากหญ้ายังไม่รู้ว่าเป็นแผนของนายก)
อีกพวกก็ไปทำงานโรงงาน ไม่มีใครที่จะยอมทำไร่ทำนาทำสวน
ชาวรากหญ้า ทั้งสามพวกนี้เมื่อได้เงินมา ช่วงแรกการเป็นอยู่จะดีขึ้น ทักษิณจะนำเอาของฟุ่มเฟือยต่างๆมาปรนเปรอให้ด้วยวิธีการต่างๆ ให้ชาวรากหญ้าลุ่มหลงระเริงไปกับสิ่งที่ทักษิณป้อนให้ จนลืมเรื่องหนี้สินที่ค้างธนาคาร มีเงินไม่ใช้หนี้ในที่สุด ผลกระทบที่เกิดขึ้นคือ พืชพันธัญหารที่ ไร่ นา สวน เคยทำก็หมดไป ข้าวปลาอาหารจำเป็นที่เคยมีต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ทำให้สิ่งของอุปโภค บริโภค ขึ้นราคาอย่างไม่มีเหตุผล
กระเทียมเคยขายกันในราคา ก.ก. ละสิบกว่าบาท ทักษิณก็ทำสัญญา FTA ให้นำเข้าปลอดภาษีจนราคาตกเหลือ ก.ก. ละ 3 บาทรากหญ้าล้มละลายเป็นแถว จึงเป็นที่มาของคำว่า "ถึงเวลาเปลี่ยนอาชีพแล้วนะ"กระเทียมเวลานี้ กก ละ 65 บาทเพราะนำเข้าจากต่างชาติ ของเราไม่มีใครปลูกแล้ว เพราะเปลี่ยนอาชีพกันหมด ราคาก็แล้วแต่เขาเรียกเพราะบ้านเราไม่มีแล้ว รายได้ที่ชาวรากหญ้าเคยมีพอใช้ก็ไม่พอแล้ว หนี้ที่ต้องใช้เขาก็ยังไม่ใช้ เริ่มชักหน้าไม่ถึงหลัง
ถึงเวลาต้องจ่ายหนี้ถ้าไม่มีให้เที่ยวนี้เขาก็จะยึดและก็ให้ชาวรากหญ้าทำสัญญาเช่าต่อไปชาวรากหญ้าถูกยึดที่ดินแต่ยังมีเงินเหลือไม่เดือดร้อนอีกก็คิดว่าทักษิณดี(ที่ดินเปลี่ยนชื่อไปแล้ว) ในที่สุดเงินที่ได้จากการขายที่หมด การดำรงชีวิตยิ่งลำบากยากขึ้น เข้าสู่ยุคข้าวยากหมากแพง ชาวรากหญ้าหมดที่ทำกินถึงเวลานี้ เกษตรกรชาวรากหญ้า จะกลับลำมาปลูกข้าว ทำเกษตร เหมือนเดิมก็ไม่ได้แล้ว เพราะมีสัญญาผูกมัดอยู่ เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ต้องทนเลี้ยงไก่ให้นายทุนต่อไป เมื่อนายทุนไม่ผิดสัญญา เกษตรกร ก็ต้องก้มหน้าก้มตาทำตามสัญญาต่อไป โดยที่ บริษัทนายทุนรับซื้อได้ทั้งหมด เพราะสัญญา FTA กับต่างประเทศอยู่แล้ว เมื่อมีไก่ก็สามารถส่งออกได้สบาย
บางรายที่ไม่อยากเลี้ยง แต่ที่ดินทำกินได้ขายไปแล้ว แล้วทำสัญญาเช่าเพื่อเลี้ยงไก่ จะกลับมาทำการเกษตรปลูกพืชผลการเกษตร ก็ทำไม่ได้ เมื่อไม่เลี้ยงแล้ว นายทุนจะให้คนอื่นมาทำแทน เพราะที่ดินเป็นของนายทุนแล้ว
บางรายที่เอาที่ดินทำกินมาวางจำนองค้ำประกันกับสถาบันการเงิน เพื่อจะได้นำเงินมาลงทุนเลี้ยงไก่ ก็จะมีเหตุให้เกิดขึ้น เช่น ไก่เป็นโรค ไก่ตาย เพื่อให้การเลี้ยงไก่มีความลำบากขึ้น นอกจากที่ต้องจ่ายค่ายา ค่าอาหาร ซึ่งนายทุนเป็นผู้นำมาขายแล้ว จะต้องมีค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด หรือคิดไม่ถึงเกิดขึ้นจนถึงกับต้องขายที่ดินทำกินให้กับนายทุนในที่สุด และจำต้องเช่าที่ดินทำกินจากนายทุนเพื่อเลี้ยงไก่ต่อไป
ในที่สุดเกษตรกรชาวรากหญ้าพวกนี้ก็จะวนเวียนอยู่กับการเลี้ยงไก่ มีชีวิตอยู่ไปวัน ๆ เพราะ ราคาไก่ ค่าอาหารไก่ ค่าเช่าที่ (ซึ่งแต่เดิมเคยเป็นของเกษตรกรเอง) ค่าอุปโภค บริโภค ซึ่งแล้วแต่นายทุนทั้งหลายเป็นผู้กำหนดทั้งสิ้น เมื่อเป็นเช่นนี้ นายทุนจึงสามารถกุมชะตาชีวิตของเกษตรกรชาวรากหญ้าได้โดยสิ้นเชิงขนาดนี้แล้วยังมีคนหลงหน้าเหลี่ยมอีก ไม่น่าเชื่อหัดไปอ่านคำพิพากษาก่อน ว่ามันทำผิดอะไรบ้าง
ถ้าอ่านให้จบก็จะรู้เองว่า รวยแล้วยังเสือกหาช่องทางต่างๆ
หลบเลี่ยงภาษี เอาแต่ผลประโยชน์เข้าตัวเอง ศาลมังสั่งและซื้อไม่ได้ ก็เลยโวย แล้วทีซุกหุ้นซึ่งแม่งผิดเต็มๆ เอาให้คนใช้-คนขับรถถือหุ้น เพื่อจะไดไม่เสียภาษีเยอะๆ ศาลตัดสินให้มันชนะหวุดหวิดเสือกไม่โวย แม่งไม่เคยคิดว่าตัวเองผิด คิดแต่ตัวเองเป็นใหญ่
สมควรแล้วที่ไม่มีแผ่นดินอยุ่สงสารประเทศไทยที่มีอดีตนายกชั่วช้ามาหลอกลวงเกษตรกรชนชั้นรากหญ้าให้รักเทิดทูนบูชาเยี่ยงศาสดา แต่เบื้องหลังทำชั่วไว้มากมาย คนในชาติแตกความสามัคคี ทหารอ่อนแอพร้อมรับใช้นักการเมือง อนิจจา เมื่อไหร่ฝันร้ายจะผ่านพ้นประเทศไทยไปได้เสียที 
