ขอขุดนิทานสุดคลาสสิกเรื่อง "หมาขี้เรื้อน" มาลงให้อ่านกันอีกรอบ
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว...ยังมีหมาขี้เรื้อนอยู่ตัวหนึ่ง
มันจะไปนอนในกระต๊อบกับชาวบ้านก็คันยิบๆๆ ไม่สบายตัว
ไปอยู่ในคฤหาสน์หลังร้อยล้านพันล้านก็คันยิบๆๆ ไม่สบายตัว
ไปนอนเกลือกริมสระแถวเขาดินก็คันยิบๆๆ ไม่สบายตัว
ไปนั่งชูคออยู่ในสภาหินอ่อนก็คันยิบๆๆ ไม่สบายตัว
ไปเดินท่อมๆ อยู่ตัวเดียวนอกแผ่นดินเกิดก็คันยิบๆๆ ไม่สบายตัว
ถึงจะเดินกร่างอยู่ในถิ่นตัวเอง กลางบริวารฝูงใหญ่ที่แวดล้อม พากันเห่าหอนให้เอิกเกริก ก็ไม่สบายตัวอยู่ดี
ไปๆ มาๆ มันรำพึงรำพันกับชะตากรรมว่า โลกนี้เหวย ทำไมโลกนี้ช่างโหดร้ายทารุณนัก
ไป อยู่ที่ไหนก็ไม่ได้อยู่สบาย ถูกสายลม แสงแดด ต้นไม้ ใบหญ้าทิ่มแทง กลั่นแกล้งให้เจ็บคันตามเนื้อตัวอยู่ตลอดเวลา ถูกผู้คนรังเกียจขับไล่
ถึงจะมีคนอีกส่วนหนึ่งให้ความเอ็นดู ถึงแม้จะมีฝูงบริวารหมาๆ ที่ดูจงรักภักดีคอยห้อมล้อมเอาใจก็เหอะ
แต่เอาเข้าจริงก็ไม่รู้ว่า พวกฝูงหมาลิ่วล้อนั่น มันเคารพนับถือในตัวเราจริง หรือหวังผลแค่เศษเนื้อเศษกระดูกที่เราหามาได้เท่านั้น
อนิจจา...
เจ้าหมาขี้เรื้อน มันจะรู้มั๊ยว่า ปัญหาของมัน ที่ต้องเจ็บๆ คันๆ ตามตัว และถูกรังเกียจอยู่ทุกวันนี้
ต้นเหตุของปัญหาส่วนใหญ่อยู่ที่ตัวมัน อยู่ที่ขี้เรื้อนของมันเอง
ไม่ใช่โลกหรือสังคมที่มันอยู่ หรือคนที่ไม่ชอบมันแต่อย่างใด