ผวาตาย-ต้อนชาวบ้านเข้าคอก เปิดตัว"เพื่อไทย" แปลงร่าง : สำนักงานพรรคพลังประชาชน สาขาพิจิตร เขต 1 อ.เมือง จ.พิจิตร โดยน.ส.สุนีย์ เหลืองวิจิตร อดีตผู้สมัครสส.พลังประชาชน ได้ทำการปรับปรุงเตรียมเปลี่ยนป้ายพรรคใหม่ เป็น"พรรคเพื่อไทย" พร้อมกับเปิดรับสมาชิกพรรคใหม่คึกคัก เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม http://www.naewna.com/home.aspผวาตาย-ต้อนชาวบ้านเข้าคอก
เปิดตัว"เพื่อไทย"
พลังประชาชนทำใจถูกยุบ
ยึดตึกน้อง"ทักษิณ"ที่ทำการ
ลั่น3พรรคจับมือร่วมก๊วน
พรรคพลังประชาชน เริ่มเดินหน้าเปิดรับสมาชิกพรรคการเมืองใหม่ เพื่อรองรับเหตุฉุกเฉินในคดียุบพรรคที่อาจเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ โดยเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ที่ทำงานพรรคพลังประชาชน(พปช.) สาขาพิจิตร เขต 1 อ.เมือง จ.พิจิตร น.ส.สุนีย์ เหลืองวิจิตร เลขานุการ รมว.คมนาคม อดีตผู้สมัคร ส.ส.พิจิตร เขต 1 พรรคพลังประชาชน ได้เรียกประชุมชาวบ้านและแกนนำที่เคยเป็นสมาชิกพรรคพลังประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้มาลงทะเบียนสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย โดยมีชาวบ้านและแกนนำชุมชนมาร่วมลงชื่อแล้วกว่า 2,000 ราย โดยเป็นที่น่าสังเกตว่า น.ส.สุนีย์ ได้สั่งให้ปลดป้ายพรรคพลังประชาชนลงและให้นำป้านพรรคเพื่อไทยขึ้นมาติดตั้งแทน แต่คลุมผ้าเอาไว้ก่อนรอวันเปิดอย่างเป็นทางการ
ต้อนคนพิจิตรเข้าพรรค"เพื่อไทย" น.ส.สุนีย์ กล่าวว่า การจัดประชุมชาวบ้านครั้งนี้เพื่อขอให้ย้ายมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย พร้อมกับให้มีการคัดเลือกประธานสาขาพรรคและกรรมการรวม 10 ตำแหน่ง เพื่อทำงานในนามพรรคเพื่อไทย แต่ยังจะไม่มีการเปิดตัวและเปิดป้ายพรรคอย่างเป็นทางการ
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยจะเป็นพรรคการเมืองสำรองในกรณีพรรคพลังประชาชนถูกยุใช่หรือไม่ น.ส.สุนีย์ ตอบว่า ยังไม่สามารถบอกได้ในตอนนี้ เอาไว้ถึงเวลาแล้วจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
แฉที่ทำการอยู่ตึก"ชินวัตรไหมไทย" อย่างไรก็ตามมีรายงานข่าวจากพรรคพลังประชาชนแจ้งว่า ก่อนหน้านี้สมาชิกพรรคพลังประชาชนได้ไปจดทะเบียนพรรคการเมืองชื่อพรรคเพื่อไทยขึ้น เพื่อรองรับกรณีมีคำวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคพลังประชาชน โดยในการจดทะเบียนได้ระบุสถานที่ทำการพรรคเป็น อาคารนวสร ถ.พระราม 3 แต่แกนนำที่จัดตั้งพรรคเห็นว่าสถานที่ดังกล่าวคับแคบและไม่สะดวกในการเดินทาง จึงตัดสินใจหาที่แห่งใหม่ โดยเห็นตรงกันว่าจะย้ายที่ทำการไปอยู่ที่อาคารชินวัตรไหมไทย ซ.สุขุมวิท 23 ซึ่งมี นางเยาวเรศ ชินวัตร น้องสาวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นเจ้าของ
พปช.ยอมรับต้องเตรียมไว้ก่อน นายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม "กลุ่มเพื่อนเนวิน" และรองโฆษกพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกรณีการเปิดตัวพรรคเพื่อไทยของ น.ส.สุนีย์ ว่า เป็นเรื่องที่เข้าใจกันได้ เพราะต้องมีการเตรียมพร้อมของฝ่ายการเมือง เพราะที่ผ่านมามีการตั้งธงกันชัดเจนว่า จะให้มีการยุบพรรคพลังประชาชน ซึ่งเราในฐานะนักการเมืองจึงต้องเตรียมพรรคใหม่ไว้เป็นธรรมดา ส่วนกลุ่มเพื่อนเนวินนั้นยืนยันชัดเจนแล้วว่า หากจะไปไหนก็จะไปด้วยกัน แต่พรรคที่เราจะไปร่วม จะต้องเป็นพรรคที่ยึดแนวทางเดียวกับพรรคพลังประชาชน ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็ยอมรับว่า เป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ แต่ต้องมีการหารือกันอีกครั้ง
ลั่นขอสู้คดียุบพรรคจนถึงที่สุด
ขณะที่ ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงการเตรียมพร้อมในการต่อสู้คดียุบพรรคว่า ฝ่ายกฎหมายของพรรคได้เตรียมข้อมูลไว้ต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ โดยเบื้องต้นคาดว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (ก.ก.ต.) คงมีความเห็นยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรคพลังประชาชนแน่นอน และพรรคยังประเมินว่าข้อกฎหมายในเรื่องนี้ที่ระบุว่า กรรมการบริหารพรรคกระทำความผิดเพียงคนเดียว ก็จะต้องยุบพรรคการเมืองนั้น ถือเป็นการปิดกั้นการต่อสู้ของพรรคการเมือง ถือเป็นเรื่องยากที่จะรอดจากคดียุบพรรค แต่ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลรัฐธรรมนูญ เราจะพยายามหายืดหยุ่นหาทางที่ดีที่สุด
รับ"เพื่อไทย"ชื่อเหมาะ-ความหมายดี เมื่อถามว่า ขณะนี้พรรคมองข้ามไปถึงการหาพรรคการเมืองให้รองรับไว้แล้วใช่หรือไม่ ร.ท.กุเทพ ตอบว่า ที่ผ่านมาพรรคก็มีบทเรียนในการยุบพรรคไทยรักไทย โดยขณะนั้นพรรคมัวแต่ไปเตรียมการตั้งพรรคใหม่จนเกินไป ทำให้การต่อสู้คดีทำได้ไม่เต็มที่ แต่มาครั้งนี้เราเห็นว่า หากมีการยุบพรรคเกิดขึ้น เราควรจะไปอยู่กับพรรคที่มีอยู่แล้วจะดีกว่า เพื่อความสะดวกของสมาชิกพรรคเอง
ผู้สื่อข่าวจึงถามว่า พรรคที่มีอยู่แล้ว ใช่พรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ ร.ท.กุเทพ ยอมรับว่า พรรคเพื่อไทย มีความลงตัวทั้งในแง่คุณสมบัติและชื่อของพรรค รวมทั้งมีความหมายที่ดีด้วย
แบะท่าจับมือ3พรรคอ้างผู้ใหญ่คุยแล้ว ส่วนกรณี นายรณฤทธิชัย คานเขต ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อแผ่นดิน ระบุว่า มีการคุยกับ ส.ส.อีสาน ในพรรคมัชฌิมาธิปไตยและพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา โดยต่างเห็นพ้องว่าจะไปรวมกับพรรคพลังประชาชนในพรรคการเมืองใหม่นั้น ร.ท.กุเทพ ยอมรับว่า ผู้ใหญ่ทั้ง3พรรคได้มีการคุยกันเรียบร้อแล้วว่า หากมีการยุบพรรคก็คงจะกลับมาอยู่ด้วยกัน เพราะน่าจะเป็นทิศทางที่ดีและถูกต้องมากกว่าการแยกกันอยู่ เพราะที่ผ่านมาได้พิสูจน์แล้วว่าการแยกไปในพรรคต่างๆ มีปัญหาเรื่องการทำงาน และติดขัดเรื่องทุนรอน
"มาร์ค"ชี้ยุบสภาฯหนีไม่เกิดผล วันเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีข่าวพรรคพลังประชาชนอาจเดินเกมสู้คดียุบพรรคโดยการชิงยุบสภาฯก่อนว่า แม้จะยุบสภาฯ ก็ไม่สามารถแก้ปัญหายุบพรรคได้ เพราะคดียังต้องดำเนินต่อไป และแม้การยุบสภาฯจะเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี แต่ก็ต้องพิจารณาว่า ยุบไปแล้วประเทศได้ประโยชน์หรือไม่ ส่วนการพิจารณาคดีของ นายวิฑูรย์ นามบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็ไม่รู้สึกหนักใจ เพราะเชื่อว่า กกต.จะวินิจฉัยด้วยความเป็นธรรม
เช่นเดียวกับ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ที่กล่าวว่า ยังไม่เคยได้ยินจากปากของนายกรัฐมนตรีว่าจะยุบสภาฯ ทั้งยังเชื่อว่า การยุบสภาฯไม่มีผลใดๆ แต่รัฐบาลสามารถทำได้ โดยไม่ส่งผลต่อพรรค เพราะมีความพร้อมอยู่แล้ว ทั้งนี้ยอมรับมีความพยายามแทรกแซงองค์กรอิสระ และส่วนตัวรู้สึกอุ่นใจที่องค์กรอิสระมีความเป็นกลาง แม้พรรคพลังประชาชนจะมีอำนาจ ก็ไม่สามารถแทรกแซงได้ง่ายเหมือนในอดีต
วันที่ 17/8/2008