ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
20-04-2024, 07:05
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ประชาธิปไตยเป็นแค่เครื่องมืองแสวงอาณานิคมของมหาอำนาจ ?? 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ประชาธิปไตยเป็นแค่เครื่องมืองแสวงอาณานิคมของมหาอำนาจ ??  (อ่าน 1615 ครั้ง)
น้องแบ๊งค์เองครับ
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 800


« เมื่อ: 17-08-2008, 10:11 »

ผมไม่ได้นิยมเผด็จการนะครับ แต่ตอนนี้ผมเริ่มสับสน สงสัย ทำไมอเมริกาถึงได้พยายามอยากให้ทั่วโลกเป็นประชาธิปไตย บางประเทศเป็นประชาธิปไตย แต่ประชาชนเองยังไม่มีความรู้เลย ผลที่ตามมาือเราได้ผู้ปกครองบประเทศที่เข้ามากอบโกย พร้อมกับนโยบายที่พร้อมให้มหาอำนาจเข้ามาลงทุนในสัมปทานรัฐมากมาย

ถามว่าทุกวันนี้ อเมริกาสามารถเข้าไปวุ่นวายกับพม่าได้มากไหม

หรือแม้แต่ในจีน อเมริกาเองก็ยังแทบจะตีไม่แตก

แต่อาร์เจนติน่า โบลิเวีย เวเนซุเอล่า ฟิลิปปินส์  ประเทศพวกนี้ มหาอำนาจเข้าไปดูดกลืนจนเกือยหมดประเทศแล้ว

ประชาธิปไตยเติบโตและดีมากในประเทศที่ค่อนข้างเจริญอย่างอเมริกาเอง ฝรั่งเศส หรือในเอเชียที่ชัดๆคือญี่ปุ่น

ส่วนไทยเอง ก็ดูเอาเถอะ อเมริกาไม่คบ เวลาเรามีรัฐประหาร แต่พอมีประชาธิปไตยมันบอกดี

แต่มันเคยเข้ามาดูเนื้อในเราไหมว่า ประชาธิปไตย แต่คนบริหารประเทศมันมีคุณธรรม จริยธรรมในการบริหารประเทศไหม

มีการละเมิอสิทธิมนุษยชน มันเคยออกมาประนามไหม

แต่เรามีรัฐประหาร มันบอกมันไม่คบ เพราะอะไร เพราะคนดูแลประเทศในยุครัฐประหารมันสั่งไม่ได้ใช่ไหม ?
บันทึกการเข้า
aiwen^mei
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,732



« ตอบ #1 เมื่อ: 17-08-2008, 10:23 »

เห็นด้วยค่ะ ส่วนตัวรับข้อมูลทั้งจากฝ่ายโปรอเมริกา และฝ่ายต่อต้าน

คิดว่า ในแง่การต่างประเทศแล้ว อเมริกาไม่ใช่ "ตัวดี" แน่นอนค่ะ

พวกฝรั่งตะวันตกพยายามเจาะพม่า เจาะจีน ฯลฯ มันก็อ้างเรื่องเดิม ๆ อย่างที่เรารู้กัน แต่ความจริงก็คือ ต้องการเข้าไปกอบโกยผลประโยชน์ เหมือนยุคล่าอาณานิคมไม่เปลี่ยนแปลง พวกนี้ยังคงคิดว่า ตัวเองเป็นเผ่าพันธุ์ที่เหนือกว่ามองโกลอยด์ ระดับผู้นำส่วนใหญ่คงถูกฝังหัวมาอย่างนั้น ยิ่งเพนตากอนนี่ แสบ นะคะ

พี่ไทยเราสมัยหนึ่งก็เดินตามก้นอเมริกาต้อย ๆ ล่ะค่ะ จนเค้าวิจารณ์ว่า ประเทศไทยนั้น...ไม่พูดดีกว่า เฮ้อ



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-08-2008, 10:29 โดย aiwen^mei » บันทึกการเข้า

有缘千里来相会,无缘对面不相逢。
RiDKuN
Administrator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,015



เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 17-08-2008, 12:08 »

ประชาธิปไตยอย่างไรก็ดีกว่าสำหรับประชาชน
ประเทศเจริญ กับ ประชาชนมีความสุข มันแตกต่างกันในมุมมอง
ถ้าประเทศเจริญแต่ประชาชนไม่มีความสุข ไม่มีอิสระ แล้วจะเจริญไปเพื่ออะไร

ส่วนประชาธิปไตย ก็อาจจะเป็นเครื่องมือของมหาอำนาจ
แต่ไม่ได้ "เป็นแค่" ... มันเป็นมากกว่านั้น
บันทึกการเข้า

คนไม่มี "อุดมคติ" ไม่ใช่ "นักการเมือง"
ริวเซย์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,637


Worrior in The Blue Armor


เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 17-08-2008, 12:26 »

ไม่แน่นะ ประชาธิปไตยแบบทุนนิยมอาจไม่ใช่คำตอบของทุกอย่างก็ได้

ไม่งั้นคงไม่พินาศอยู่อย่างที่เห็นทุกวันนี้

 
บันทึกการเข้า

ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^


bangkaa
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 407



« ตอบ #4 เมื่อ: 17-08-2008, 13:40 »

WASHINGTON CONSENSUS หรือ ฉันทามติวอชิงตัน...

เป็นชุดความคิดที่ใช้ในการทำมาหากินของ อเมริกา

1. Privatization... แปรรูป... เอารัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ของรัฐ แบ่งให้ เอกชน (กลุ่มทุน) ได้กินได้ใช้...

2. Liberalization... เปิดเสรี... ฟรี...ฝรั่งอยากทำมาค้าขายอะไรจะได้สบาย โล่ง คล่อง... สะดวกโยธิน...

3. Stabilization... ความมีเสถียรภาพทางการเมือง การปกครอง... ประชาธิปไตยที่ดีก็เป็นทางหนึ่ง.. แต่อีกทางหนึ่ง ก็คือ เผด็จการนั่นเองที่มั่นคง...

4. Deregulation... ผ่อนคลายกฎระเบียบ.. กล่าวง่ายๆก็คือ ไม่มีกฎหมาย ไม่มีข้อห้าม คือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทุนนิยม...


*****************************************

เหล่านี้ เป็น ชุดความคิด แนวทางปฏิบัติ ที่ อเมริกา... ยัดเยียดให้ประเทศอื่นทำ... โดยเฉพาะ ประเทศกำลังพัฒนา....
เพื่อพวกเขาจะได้ สะดวกโยธิน ในการแสวงหา กำไร ทรัพยากร ของประเทศอื่นๆ...

ประชาธิปไตย จริงๆแล้ว ก็เป็นระบอบการปกครองที่ดี....

แต่ยุคหลังๆ เช่น เริ่มจากสงครามเย็น...

อเมริกา ใช้ คำว่า ประชาธิปไตย... เป็น คีย์เวิร์ด...
ในการให้ผู้อื่นมาเป็นพวกของตน... ใช้ในการต่อสู้ ทำลายล้างโซเวียต สังคมนิยม...






 
บันทึกการเข้า

มาทำหน้าที่... ใช้หนี้แผ่นดิน...และมาทำบุญ...
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 17-08-2008, 14:18 »

กรณีศึกษา

สมัยที่ "อิหร่าน" เป็นประชาธิปไตยดีๆของมัน มีผู้นำมาจากการเลือกตั้งชื่อ นายโมฮัมหมัด มุสซาเด็ก    นายมุสซาเด็กต้องการเอาสัมปทานขุดเจาะน้ำมันคืนสู่ชาวอิหร่าน เพราะขณะนั้นอังกฤษและอเมริกาเป็นเจ้าของบ่อน้ำมันเกือบทั้งหมด

อังกฤษและอเมริกา ไม่พอใจเพราะตัวเองเสียประโยชน์ เลยกล่าวหาว่า ผู้นำอิหร่านมีหัวเอียงซ้าย มีแนวคิดเป็นเผด็จการคอมมิวนิสต์ เอนเอียงเข้าข้างโซเวียต  อังกฤษและอเมริกาจึงส่ง CIA เข้าไปหนุนให้เกิดการปฏิวัติล้มล้างรัฐบาลอิหร่านเสีย แล้วสถาปนา "เรซ่า ปาเรวี่" เป็น "ชาร์" ปกครองอิหร่านแบบเผด็จการ 20 กว่าปี สูบผลประโยชน์น้ำมันให้ตัวเองและให้อเมริกันและอังกฤษ "กินหัวคิว"

ผลปรากฎว่า ประชาชน นักศึกษา ทนไม่ได้  ขณะนั้นมีขบวนการศาสนาชาตินิยม นำโดย อยาตุลเลาะฮ โคไมนี ซึ่งตั้งฐานในฝรั่งเศส แรงขึ้นมาพอดี เลยรวมตัวกันล้มล้าง "เรซ่า ปาเรวี่"     มีการปราบปรามประชาชนรุนแรง ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลอิหร่านและอเมริกาจึงแก้เผ็ดด้วยการจับเอาคนอเมริกันเป็นตัวประกัน 20 กว่าคน (จำไม่ได้แล้วว่าสังหารทิ้งด้วยหรือเปล่า)  ทางสื่ออเมริกาก็สร้างภาพให้โคไมนี่ เป็นปิศาจคลั่งศาสนา นิยมความรุนแรง  จนกระทั่งโค่นล้มระบอบเผด็จการที่อเมริกาหนุนหลังสำเร็จ   แล้ว CIA ก็ให้การช่วยเหลือทั้งครอบครัวให้หนีไปอยู่อเมริกาได้อย่างสุขสบาย


นี่คือสาเหตุที่ว่า
1) ทำไมอเมริกาจึงแค้นอิหร่านจนทุกวันนี้
2) ทำไมอเมริกาจึงสนับสนุน "ซัดดัม ฮุสเซน" แห่งอิรัก แล้วทำสงครามกับอิหร่าน แถมยังสนับสนุนให้อาวุธเคมีกับอิหร่าน ผ่านบริษัทเอกชนของตัวเองและของยุโรป (ตัวเองจะได้อ้างได้ว่าไม่เคยเผยแพร่ WMD) แล้วอิรักก็เอาไปใช้กับเคิร์ดและทหารอิหร่าน  สุดท้ายซัดดัมเจออเมริกาหักหลังอีกต่อ
บันทึกการเข้า

AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 17-08-2008, 14:35 »

เวลานี้เราเห็นพม่าเป็นเผด็จการ มีผู้นำสุดโหด  และเรารู้จัก "ออง ซาน ซูจี" ผ่านทางจอทีวี เป็นภาพของ....
1. ผู้หญิง - ให้ความรู้สึกของนางเอก ทำให้คนดูละครรู้สึกเห็นอกเห็นใจ
2. พูดภาษาอังกฤษได้ฉะฉาน - โอ้ว คนพูดภาษาอังกฤษเก่งต้องเก่งแน่ๆ และเป็นคนดี อยู่ข้างประชาธิปไตย เพราะเราถูกสอนว่า ประชาธิปไตยแปลว่าดี

หรือเห็นจีนเป็นคอมมิวนิสต์ ในขณะที่มี "ดาไล ลามะ" ผ่านทางจอทีวี เป็นภาพของ...
1. พระ - ผู้ชมละครต้องคิดไว้ก่อนแล้วว่า เป็นคนดีแน่ๆ ไม่ดีได้ไง ก็นี่เป็นพระนี่หว่า
2. พูดภาษาอังกฤษได้ฉะฉาน - ใครพูดภาษาอังกฤษได้ แปลว่าต้องเก่งแน่ๆ และต้องเป็นคนดี และเป็นประชาธิปไตย เพราะเราถูกกรอกหูมาแต่เด็กว่า ประชาธิปไตยแปลว่าดีชัวร์ โดยไม่ต้องสงสัยอะไรอีก

ฯลฯ

นอกเหนือจากนั้น ผู้ชมละคร ก็ไม่มีข้อมูลอื่นใดอีกเกี่ยวกับคนเหล่านี้ นอกจากการจินตนาการกันต่อไปต่างๆนานา  พอมีกระแส Free Tibet, Free Burma พวกที่ไม่รู้เรื่อง และทึกทักว่าตัวเองเป็นอารยชน ก็เลยแห่แหนไปชื่นชมบุคคลเหล่านี้ แล้วก็เชื่อว่าฝ่ายตรงกันข้ามเป็นเผด็จการโหด (ซึ่งจริงสำหรับกรณีพม่า)  ก็แบ่งข้าง "ขาว-ดำ" เลย ไม่รู้ว่าเบื้องหน้าเบื้องหลังมันมีอะไรบ้าง
บันทึกการเข้า

aiwen^mei
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,732



« ตอบ #7 เมื่อ: 17-08-2008, 19:14 »

ทีวีบ้านเราช่วงประมาณ 20 ปีทีผ่านมา รับแต่ข้อมูล CNN, BBC เกือบร้อยละร้อย ฟังมันกรอกหูทุกวัน ก็เป็นงี้แหละค่ะ

แม้แต่รางวัลโนเบล สันติภาพ ก็ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น ทั้งดาไล ลามะ อองซานซูจี อยู่ในสภาพเหมือนกันเด๊ะ

ฝรั่งพวกนี้ ก็แค่ ซาตาน ในคราบ นักบุญ 





บันทึกการเข้า

有缘千里来相会,无缘对面不相逢。
1133
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 67


« ตอบ #8 เมื่อ: 17-08-2008, 20:42 »

  ประชาธิปไตยในสายตาพุทธทาส

การเมืองกับประชาธิไตย กล่าวได้ว่า เป็นเรื่องเดียวกัน แต่ก็มีความแตกต่างกันอยู่ในเนื้อในและระดับชั้นการพัฒนา การเมือง เป็นเรื่องความรู้ ความคิด

และการปฏิบัติจัดการสังคมทั่วไป ส่วนประชาธิปไตย เป็นเรื่องเดียวกัน แต่มีระดับที่สูงกว่า คือ ต้องรู้ในขั้นที่รู้ดี คิดได้ และใช้เป็น

รู้อะไร คิดอะไร ใช้อะไร? รู้ธรรม คิดตามธรรม และปฏิบัติตามธรรม ดังที่กล่าวแล้วในตอนต้น


ท่านพุทธทาสได้ให้แนวทางแก่เราไว้ว่า

"ประชาธิไตยที่ว่าเป็นของประชาชน เพื่อประชาชน โดยประชาชน นั้น ใช้ได้เฉพาะประชาชนที่มีธรรมเท่านั้น ถ้าประชาชนไม่มีธรรม

มันก็กลายเป็นประชาธิปตาย เท่านั้นเอง ดังนั้น ต้องหว่านพืชธรรมก่อนพืชประชาธิปไตย ประชาธิไตย เพื่อลดหรือป้องกันความแตกต่าง (เห็นแก่ตัว)

ถ้าเห็นแก่ตัวก็มีแต่ประชาธิปตาย โดยไม่รู้สึกตัว ความไม่เห็นแก่ตัวจึงเป็นรากฐานของประชาธิปไตย ประชาธิปไตยแท้จึงมีแต่ความไม่เห็นแก่ตัว

ซึ่งเป็นของมีได้ยาก สำหรับปุถุชน สมัยนี้ที่บูชาวัตถุ  ธรรมมีความเป็นประชาธิปไตย อยู่ในตัวเอง เพราะหมายถึงความไม่เห็นแก่ตัวอยู่โดยธรรมชาติ

อย่าแยกความไม่เห็นแก่ตัวออกจากประชาธิไตย"

 
 วาทกรรมชิ้นนี้เตือนสติเราในเรื่องใด ?

เตือนเรื่องประชาธิไตยกับเรื่องธรรมว่าประชาธิปไตยที่เราพูดถึงกันว่าเป็นการให้ประชาชนเป็นใหญ่ ช่วยตนเองช่วยกันเอง โดยมีพิธีกรรมการเลือกตั้ง

ส่งผู้แทนเข้าไปบริหารจัดการชุมชนประเทศนั้น ตัวประชาชนเองจะต้องมีธรรม นั้นคือ ประชาชนส่วนใหญ่จะต้องมีธรรม โดยเฉพาะผู้นำในทุกระดับ

และทุกภาคส่วนจะต้องมีธรรม และตัวธรรมที่ท่านพุทธทาสชี้แนะ คือ "ความไม่เห็นแก่ตัว" หรือความไม่หมกหมุ่นอยู่กับการใฝ่รู้ ใฝ่คิด ใฝ่ทำ เพื่อกาม

เพื่อกิน เพื่อเกียรติ เพื่อตนเองและพวกพ้องของตนในวงแคบ


ตัวประชาชนที่จะเข้าไปใช้อำนาจที่เป็นของประชาชนส่วนใหญ่นั้น จะต้องมีธรรมสัจจะ ที่ว่า " สัตว์ทั้งหลายเป็นเพื่อ่นทุกข์ เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น" อยู่ในใจ

ตัวประชาชนที่เป็นผู้ร่วมพิธีกรรมเลือกตั้ง (ลงคะแนน) ก็ต้องท่องคาถาธรรมสัจจะนี้ เพราะเป็นคาถาช่วยพัฒนาความเป็นมนุษย์ให้เคารพในความเป็นมนุษย์ของเพื่อนมนุษย์

รวมถึงสัตว์อื่น ๆ ด้วย สาระของคาถาธรรมสัจจะนี้ก็คือ คำที่จะเชื่อมโยงมนุษย์ทั้งกาย วาจา ใจ เข้าสู่ความจริง ทั้งมวลทั้งที่ตัวมนุษย์และสรรพสิ่งได้ง่ายขึ้น

ความเห็นแก่ตัวของมนุษย์เป็นธรรมสัจจะฝ่ายลบ ความไม่เห็นแก่ตัวเป็นธรรมสัจจะฝ่ายบวก คือ ช่วยสร้างสันติสุขให้มนุษย์และสร้างมนุษย์ได้อย่างดีวิเศษ

คาถาบทนี้ ใครรู้ ใครท่องจำจนขึ้นใจและภาวนาตลอดไปก็จะช่วยยกระดับความรู้ ความคิด และการกระทำให้สูงขึ้นได้


บันทึกการเข้า
นักปฏิวัติ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 330



« ตอบ #9 เมื่อ: 17-08-2008, 21:10 »

ผมคิดว่า อเมริกามองว่าประชาธิปไตย เป็นโครงสร้างพื้นฐานของ ทุนนิยมสามานย์ที่อเมริกา มี know how (เทคโนโลยี เล่ห์เหลี่ยมทางการเงิน เลห์่เหลี่ยมทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ทางสังคม ต่างๆ) เหนือกว่าประเทศด้อยพัฒนา จึงต้องการหาประโยชน์จากทรัพยากรของผู้อ่อนแอกว่า โดยส่งเสริมการมอมเมาทางการบริโภค(กระตุ้นด้วยโลภะ) การสร้างภาพฝ่ายธรรมคือประชาธิปไตย ต่อต้านสิทธิมนุษยชนต่างๆเพื่อสร้างแนวร่วมทางความคิด (กระตุ้นด้วยโทสะ เช่น ฮิตเลอร์กระตุ้นประชาชนโดยเอาประเทศอื่นมาเป็นศัตรู)

ทั้งหลายทั้งปวง หลอกล่อ เพื่อจะหาโอกาสฉวยประโยชน์จากประเทศด้อยพัฒนา เพื่อประโยชน์ตนเอง


ความจริงนี่เป็นหลักรัฐศาสตร์โบราณในการแสวงความยิ่งใหญ่ของรัฐตน บนความย่อยยับของรัฐอื่น (เช่น ตำราอรรถศาสตร์ของอินเดีย ) ผมเองเคยศึกษางานของท่านพระพรหมคุณาภรณ์ คือเป็นหลักรัฐศาสตร์เพื่อโลก คือใช้ธรรมเป็นหลักแห่งนโยบาย (ธรรมวิชัย) โดยท่านยกว่า พระเจ้าอโศกมหาราช เป็นตัวอย่างของผู้ทำสำเร็จมาแล้ว
อ้างอิง "รัฐศาสตร์และจริยธรรม นักการเมืองแนวพุทธ" และ "รู้จักอเมริกา หันมาดูศักยภาพของไทย" ทั้งสองเล่ม โดย พระพรหมคุณาภรณ์


"เราคือชนชาติที่เกิดมาเพื่อเป็นผู้ปกครองโลก" แอลเบิร์ต เจ เบฟเวอริดจ์ อดีตวุฒิสมาชิกของสหรัฐฯ
ตัดจาก คำนำ ในหนังสือ"รู้จักอเมริกา หันมาดูศักยภาพของไทย" สำนักพิมพ์ อมรินทร์
บันทึกการเข้า

"สุดยอดกลยุทธ์ คือชนะโดยไม่ต้องรบ" ซุนวู

"ผู้นำชั้นเลิศนั้น เพียงแต่เป็นที่รับรู้ว่ามีตัวตนอยู่
ชั้นรองลงมา เป็นที่รักและสรรเสริญ
ชั้นรองกว่านั้น เป็นที่เกรงกลัวและเกลียดชัง" เหล่าจื๊อ เต้าเต๋อจิง
หน้า: [1]
    กระโดดไป: