ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
19-04-2024, 08:23
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ลิ่วล้อ ทรท.ระทึก! ศาล ปค.เรียกแจง 14 มิ.ย.หลังปากดีวิจารณ์ตุลาการ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ลิ่วล้อ ทรท.ระทึก! ศาล ปค.เรียกแจง 14 มิ.ย.หลังปากดีวิจารณ์ตุลาการ  (อ่าน 691 ครั้ง)
~ GARFIELD ~
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 158


แม่ไม่ปลื้ม .. จบ!!


เว็บไซต์
« เมื่อ: 13-06-2006, 17:55 »

ลิ่วล้อ ทรท.ระทึก! ศาล ปค.เรียกแจง 14 มิ.ย.หลังปากดีวิจารณ์ตุลาการ
 
 
“โสภณ-บัวสอน” ลุ้นระทึกศาลปกครองเรียกไปให้ปากคำพรุ่งนี้ (14 มิ.ย.) หลังทำปากดีวิจารณ์คำพิพากษาอาจเข้าข่ายละเมิดอำนาจศาล
       
       วันนี้ (13 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (14 มิ.ย.) ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งเรียกให้ นายโสภณ เพชรสว่าง อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดบุรีรัมย์ กลุ่มวังน้ำยม และนายบัวสอน ประชามอญ ส.ส.จังหวัดเชียงราย พรรคไทยรักไทย ผู้ถูกกล่าวหาในฐานความผิดละเมิดอำนาจศาล หรือดูหมิ่นศาลหรือตุลาการ ไปให้ถ้อยคำต่อศาลเกี่ยวกับแถลงข่าวและให้สัมภาษณ์ดังกล่าวแล้ว โดยศาลนัดไต่สวน เวลา 13.30 น.ที่ศาลปกครองกลาง
       
       ก่อนหน้านี้ นายโสภณและพวกได้แถลงข่าววิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ของศาลปกครองในการพิจารณาคดีการเลือกตั้งวันที่ 2 เมษายน ที่นายโพธิพงศ์ บรรลือวงศ์และพวก ยื่นให้ศาลปกครองเพิกถอนการเลือกตั้งวันที่ 2 เมษายน 2549 เนื่องจากหันคูหาเลือกตั้งออก อันขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 104 วรรคสาม เกี่ยวกับการหันคูหาเลือกตั้งออกที่อาจจะเข้าข่ายดูหมิ่นศาลนั้น และยังมีการพาดพิงอีกว่ามีตุลาการศาลปกครองบางคนมีความใกล้ชิดพรรคประชาธิปัตย์ โดยก่อนหน้านี้ศาลปกครองได้มีคำสั่งให้มีการรวบรวมหลักฐานการแถลงข่าวของนายโสภณ และพวกที่วิจารณ์อำนาจศาล
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์สำนักงานศาลปกครองสูงสุดได้รวบรวมเอกสาร เทปบันทึกเสียง และวีซีดีบันทึกภาพจากสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง ในการแถลงข่าวของนายโสภณที่อาจจะเข้าข่ายดูหมิ่นศาล ตามคำสั่งของนายกระมล สกลเดชา ตุลาการเจ้าของสำนวน กรณีพิจารณาคำร้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และหลังจากนี้ก็จะเป็นอำนาจของตุลาการเจ้าของสำนวนและองค์คณะจะพิจารณารายงานกระบวนการพิจารณาคดีของคณะศาลปกครองต่อไป
บันทึกการเข้า

~ GARFIELD ~
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 158


แม่ไม่ปลื้ม .. จบ!!


เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 13-06-2006, 17:56 »

“อภิสิทธิ์-สุเทพ” ถกเครียดทีม กม.ก่อนรุดแจง กกต.พรุ่งนี้

   “อภิสิทธิ์-สุเทพ” ถกทีมกฎหมายก่อนเข้าชี้แจงพรุ่งนี้ (14 มิ.ย.) แก้ข้อหาจ้างพรรคเล็กล้มเลือกตั้ง “ถาวร” มั่นใจข้อมูลพร้อม ยกเว้นถูก กกต.แกล้ง
       
       วันนี้ (13 มิ.ย.) นายถาวร เสนเนียม รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะคณะทำงานด้านกฎหมาย ยืนยันว่าพรรคพร้อมที่จะชี้แจงทุกข้อกล่าวหาตามที่คณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กรณีพรรคไทยรักไทยร้องให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ เชิญมา โดยมี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค และตนจะเข้าชี้แจงด้วยตนเอง ซึ่งเบื้องต้นจะมีการนำเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับข้อกฎหมายต่างๆ ไปชี้แจง เช่น เอกสารของผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ซึ่งเขียนว่าไม่มีใครอยู่เบื้องหลังการชุมนุมของประชาชนใน จ.สงขลา หรือการขัดขวางการออกมาใช้สิทธิของประชาชน และยืนยันว่าไม่รู้สึกกังวลกับข้อกล่าวหาต่างๆ เพราะเห็นว่าไม่มีเนื้อหาสาระเพียงพอที่จะมีความผิดถึงขั้นยุบพรรคประชาธิปัตย์ได้ เว้นแต่จะเป็นการกลั่นแกล้งของ กกต.มากกว่า
       
       อย่างไรก็ตาม นายถาวร กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (14 มิ.ย.) ช่วงเช้าจะมีการหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ก่อนจะเดินทางเข้าชี้แจงต่อ กกต.
       
       สำหรับความเคลื่อนไหวอื่นๆ ที่พรรคประชาธิปัตย์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อตอนสาย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค พร้อมด้วยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค ได้เดินทางเข้ามายังที่ทำการพรรค โดยคาดว่าอาจจะมีการจัดเตรียมและซักซ้อมข้อมูลก่อนที่เข้าชี้แจงต่อ กกต.ในวันพรุ่งนี้
       
       นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่หนักใจอะไรเพราะข้อหาระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์ไปว่าจ้างพรรคพัฒนาชาติไทยและพรรคชีวิตที่ดีกว่าใส่ร้ายพรรคอื่น ซึ่งตนมีหลักฐานข้อเท็จจริงที่จะไปยืนยันกับกกต.ได้ว่าไม่ได้เป็นอย่างที่ถูกกล่าวหา โดยข้อมูลจะมีมากกว่าที่เคยยื่นไปแล้วซึ่งขณะนี้กำลังรวบรวมหลักฐานอยู่เพื่อที่จะแสดงให้เห็นว่ามีความเป็นจริงอย่างไรและจะต้องมีการประมวลข้อมูลให้เกิดความชัดเจนว่ามีลำดับขั้นตอนความเป็นมาอย่างไร
       
       เมื่อถามว่าที่ผ่านมาพยานจากพรรคเล็กบางส่วนกลับคำให้การจากที่เคยมาแถลงร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่เป็นความจริงเป็นการเข้าใจผิด เพราะคนที่ไปให้การกับกกต.แล้วกกต.เอามาเป็นข้ออ้างคือหัวหน้าพรรคพัฒนาชาติไทย ซึ่งตนไม่อ้างหัวหน้าพรรคดังกล่าวมาเป็นพยานตั้งแต่ต้นแล้ว แต่ตนได้พยานหลักฐานแล้วไปแสดงให้กกต.ทราบเมื่อกกต.ได้วินิจฉัยและสั่งยุบพรรคพัฒนาชาติไทยไปแล้วต่อมาเกิดอะไรขึ้นไม่ทราบแต่ต่อมากลับมาอ้างหัวหน้าพรรคพัมนาชาติไทยกลับคำให้การ ซึ่งจะไปชี้แจงเรื่องนี้ด้วย เพราะเห็นว่าการกลับคำให้การไม่ได้ทำให้ข้อเท้จจริงเปลี่ยนแปลง
       
       เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สำหรับกรณีกล่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์ไปว่าจ้างพรรคชีวิตที่ดีกว่า จะไปชี้แจงให้กกต.ทราบว่าไม่เคยพบกับพรรคชีวิตที่ดีกว่า ประเด็นอาจจะมีเรื่องที่มีการอ้างว่านายไทกร พลสุวรรณ ผู้ประสานเครือข่าวอีสานกู้ชาติ ได้ไปพบกับพรรคชีวิตที่ดีกว่าโดยมีเจ้าหน้าที่ปลอมตัวไปบันทึกเทปไว้ได้ ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องของนายไทกร ไม่เกี่ยวกับตนและพรรคประชาธิปัตย์ และคิดว่าน่าจะมีประเด็นอยู่เท่านี้ ส่วนกรณีอื่นๆ คงจะมีการสอบถามโดยรวมในส่วนที่เป็นเลขาธิการพรรค แต่คงเป็นประเด็นที่มุ่งตั้งข้อกล่าวพรรคโดยตรงที่หัวหน้าพรรคมากกว่า
       
       ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีมีการกล่าวหาว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นผู้เสนอให้ใช้มาตรา 7 เพื่อขอนายกรัฐมนตรีพระราชทาน นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่อง กรณีที่ตั้งข้อหากระทำการฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้งเช่น ไม่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง กระทำการร่วมกับพันธมิตรเพื่อโค่นรัฐบาล การชักจูงให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งไปลงคะแนนโนโหวต ตนคิดว่าข้อกล่าวเหล่านี้ไม่ใช่ข้อหาที่จะหมายถึงว่าพรรคประชาธิปัตย์ทำผิดกฎหมายเลือกตั้งได้ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองโดยสุจริต เพราะคนไทยทุกคนในเวลานั้นก็คิดเหมือนกัน ส่วนข้อหาขอพระราชทานนายกรัฐมนตรี ยิ่งแล้วใหญ่ วันนั้นเมื่อเหตุการณ์บ้านเมืองเกิดความรู้สึกว่าไม่มีทางออกทุกคนทีเกี่ยวข้องก็เสนอแนวทางความคิดในการหาทางออกไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ นักการเมือง ประชาชน ซึ่งถือทุกคนที่เป็นเจ้าของประเทศก็มีความคิดได้ จึงไม่ถือว่าผิดอะไร
       
       “ข้อกล่าวหาทั้งหมดไม่น่าหนักใจอะไร ผมจะไปชี้แจงข้อกล่าวหาทั้งหมด แต่หากกต.คิดว่าต้องการขอข้อมูลอะไรอีกก็จะรวบรวมไปให้” นายสุเทพ กล่าว
       
       เมื่อถามว่ามีกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ไม่มั่นใจในคณะอนุกกต.ที่ตั้งขึ้นมาสอบเรื่องนี้ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่เป็นไร และไม่ได้เห็นว่าคณะกรรมการชุดนี้มีใครบ้าง โดยในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ตนจะขอรายชื่อคณะกรรมการสอบทุกคนเพื่อจะได้รู้จักว่าเป็นใครบ้าง รวมทั้งขอดูคำสั่งที่มีการแต่งตั้งจากกกต.แต่ตนไม่มีอคติอะไร จะเป็นใครสอบก็ได้ แต่ต้องว่าไปตามข้อเท็จจริง และตนจะให้ข้อมูลและคำให้การตามข้อเท็จจริง
       
       เมื่อถามว่าพรรคไทยรักไทยพยายามออกมาประโคมว่าข้อกล่าวหาของอนุกกต.สามารถยุบพรรคประชาธิปัตย์ได้ นายสุเทพกล่าวว่า เป็นเรื่องของพรรคไทยรักไทย อย่าเพิ่งออกมาพูดกันตอนนี้เก็บเอาไว้ก่อน เพราะบอกแล้วว่าจะพ้นงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก่อน
       
       นายสุเทพ กล่าวถึงกรณีกกต.เรียกประชุมนายทะเบียนพรรคการเมืองเพื่อพิจารณาประเด็นการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองซ้ำซ้อนในวันที่ 14 มิ.ย.ว่า พรรคประชาธิปัตย์มอบหมายให้นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ นายทะเบียนของพรรคไปชี้แจง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีจะได้สะสางปัญหาสมาชิกที่ซ้ำซ้อนกันเพราะค่อนข้างมีปัยหา เนื่องจากมีบางคนเป็นสมาชิกหลายพรรค ไม่ว่าจะเป็น พรรคไทยรักไทย ชาติไทย มหชาชน และประชาธิปัตย์ การลงสมัครส.ส.จึงวุ่นวายเพราะเมื่อลาออกแล้วแต่ชื่อยังคงอยู่กับอีกพรรคหนึ่งจึงทำให้เป็นปัญหาได้
       
       เมื่อถามว่ามีการอ้างว่าสมาชิกพรรคไทยรักไทยที่ซ้อนกับพรรคประชาธิปัตย์นั้นเพราะกฎหมายไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็นสมาชิกเพียงพรรคเดียว นายสุเทพ กล่าวยากที่จะพูดแต่ตนคิดว่ามีข้อเชื่อมโยงหลายประการเช่น กกต.จะให้การสนับสนุนพรรคการเมืองต้องไปเอาตัวเลขสมาชิกพรรคมาเป็นส่วนหนึ่งในการคำนวนให้เงิน ดังนั้นกกต.ต้องตัดสิ่งเหล่านี้ออกไป เพราะการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองเป็นสิทธิ์ของประชาชนที่จะอยู่หรือลาออกเมื่อไหร่ แต่การเป็นสมาชิกพรรคการเมืองหมายความว่าต้องเป็นด้วยความศรัทธาเหลื่อมใสในแนวคิดและอุดมการณ์ของพรรคนั้นๆ ซึ่งอาจจะเปลี่ยนแปลงได้
       
       นายสุเทพ กล่าวถึงการย้ายเข้า-ออกของสมาชิกพรรคว่า การย้ายเข้าย้ายออกมีตลอดเวลา แต่อดีตส.ส.ยังไม่มีใครย้ายออก แต่มีย้ายเข้ามาบ้าง ส่วนการเปิดตัวคนดังที่เข้ามาทำงานในพรรคขณะนี้ยังไม่จำเป็นต้องรีบร้อนเพราะตนยังไม่คิดว่าจะใกล้เลือกตั้ง ยังมีความรู้สึกว่ากว่าจะมีการเลือกตั้งได้ต้องปรับปรุงอีกมากมายหากต้องการเห็นบ้านเมืองมีการเลือกตั้งที่สุจริตเที่ยงธรรม สะท้อนถึงเจตนารมณ์ของประชาชนอย่างแท้จริง อย่างน้อยที่สุดจะต้องเริ่มปรับปรุงที่กกต.ก่อน และเมื่อปรับกกต.แล้วต้องปรับปรุงระบบการทำงานของกกต.ใช้ชัดเจนรัดกุมมากขึ้นซึ่งต้องใช้เวลานาน ทั้งนี้ต้องตรวจสอบไปถึงการปฏิบัติด้วยเพราะยังมีการโกงการเลือกตั้ง ทั้งยังมีการทำผิดกฏหมายเลือกตั้งมากมาย กกต.จะต้องมีความเข้มแข็งมากกว่านี้
       
       เมื่อถามว่าแสดงเชื่อว่าในวันที่ 15 ต.ค.นี้จะไม่มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น นายสุเทพกล่าวว่า อาจจะต้องใช้เวลานานกว่านั้นเล็กน้อยหากจะต้องการให้การเลือกตั้งเกิดความบริสุทธิ์ยุติธรรม เพราะได้เสียเวลาของบ้านเมืองมามากแล้ว ก็ควรที่จะทำให้การเลือกตั้งครั้งต่อไปบริสุทธิ์ยุติธรรม จะได้นับหนึ่งกันดีๆ ส่วนเรื่องแพ้ชนะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
       
       สำหรับพรรคไทยรักไทยนั้น ขณะนี้ กกต.ได้ส่งเอกสารหลักฐานไปให้อัยการสูงสุดพิจารณาก่อนส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาดว่าสมควรยุบพรรคหรือไม่ กรณีถูกร้องว่าจ้างพรรคเล็กลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งที่ผ่านมาคณะอนุกรรมการสอบสวนฯ ที่มี นายนาม ยิ้มแย้ม อดีตรองประธานศาลฎีกา เป็นประธานได้สรุปชี้มูลความผิดมาแล้ว
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
    กระโดดไป: