จับกระแส"ย้ายพรรค" ทำไม"ไม่แรง"..อย่างที่คิด..?หลายคนอาจจะแปลกใจว่า หลังการปลดล็อค 90 วันจากการเสนอวันเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 15 ตุลาคม ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แล้ว
เหตุใดบรรดา ส.ส.หลายต่อหลายคนที่เคยบ่นถึงความอึดอัดที่ต้องถูกขังด้วยกฎเหล็กนี้จึงไม่ยอมย้ายพรรค
เพราะเมื่อมองย้อนกลับไปแล้วจะพบว่า ก่อนหน้านี้ ส.ส.หลายคน
โดยเฉพาะ ส.ส.ในพรรคไทยรักไทย ออกอาการต้องการที่จะย้ายออกจากพรรค แต่ก็ทำไม่ได้
หลายคนบ่นว่าเหมือนถูกขังอยู่ในคุก ด้วยเหตุผลตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 107(4) ที่บัญญัติถึงคุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ไว้ว่า
"เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งแต่เพียงพรรคเดียว นับถึงวันสมัครรับเลือกตั้งเป็นระยะเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 90 วัน"
ถึงแม้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทย จะบอกอยู่เสมอว่า หากจะยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ ก็จะบอกก่อนล่วงหน้าอย่างน้อย 90 วัน
เพื่อให้ ส.ส.ที่ไม่ต้องการอยู่กับพรรคไทยรักไทยได้มีโอกาสย้ายพรรคก่อนโดยไม่ต้องถูกขังตามรัฐธรรมนูญมาตราดังกล่าวก็ตาม
แต่การยุบสภาเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ก็ได้ทำให้หลายคนหมดความเชื่อใจในคำมั่นสัญญานั้นไปแล้ว
จนเมื่อมาถึงวันนี้ หลังจากที่ กกต.ได้เรียกประชุมตัวแทนพรรคการเมืองเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม เพื่อกำหนดวันเลือกตั้งครั้งใหม่แทนวันที่ 2 เมษายน ที่ศาลรัฐธรรมนูญและศาลปกครองสูงสุดสั่งเพิกถอน
ได้ข้อสรุปวันเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 15 ตุลาคม โดยให้รับสมัครในระบบบัญชีรายชื่อระหว่างวันที่ 5-7 กันยายน และระบบเขตระหว่างวันที่ 8-12 กันยายน
ทำให้ ส.ส.ทั้งหลายจะย้ายพรรคกันได้ถึงวันที่ 12-14 มิถุนายน ก่อนจะเข้าสู่ล็อค 90 วันอีกครั้ง
แต่ปรากฏว่ามี ส.ส.ย้ายพรรคน้อยเกินคาด
มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น คือ
นายสฤต สันติเมทนีดล อดีต ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย และนายลิขิต ธีรเวคิน อดีต ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย 2 ส.ส.จากกลุ่มกุหลาบแดง ลาออกไปตั้งพรรคการเมืองใหม่ชื่อ "พลังแผ่นดินไท" ร่วมกับ นพ.ประจวบ อึ๊งภากรณ์ อดีต ส.ส.กทม.พรรคไทยรักไทย
พ.อ.วินัย สมพงษ์ อดีต ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย ย้ายไปอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์
ในส่วนของพรรคชาติไทย ที่ก่อนหน้านี้คาดหวังไว้ว่าจะมี ส.ส.จากพรรคอื่นย้ายเข้า กลับตรงกันข้าม มี ส.ส.ย้ายออกไปถึง 4 คน คือ
นางคมคาย พลบุตร อดีต ส.ส.จันทบุรี ย้ายกลับไปอยู่พรรคประชาธิปัตย์
นายมังกร ยนต์ตระกูล อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด เขต 8 นายวิทยา บุตรดีวงศ์ อดีต ส.ส.มุกดาหาร เขต 2 และนายวีระพล จิตสัมฤทธิ์ อดีต ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 6
ย้ายไปอยู่พรรคไทยรักไทย!!
เหตุผลหนึ่งที่น่าจะเป็นไปได้สำหรับการที่อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย ย้ายพรรคน้อยเกินคาด คือ
เงื่อนไขหลังการเลือกตั้งในวันที่ 15 ตุลาคม คือ "การปฏิรูปการเมือง"
มีการพูดกันไว้เป็นสัญญาปากเปล่าว่า หากปฏิรูปด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว ก็จะมีการประกาศยุบสภา เพื่อให้มีการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
นั่นหมายความว่า สถานภาพ ส.ส.และความเป็นรัฐบาลหลังการเลือกตั้งในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ จะมีอยู่ไม่นานนัก มีการประมาณไว้ที่ 1 ปี บวกลบ 3 เดือน
และอีกเหตุผลหนึ่งคือ ในช่วงการเลือกตั้งในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ กระแสความนิยมในตัว "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" หัวหน้าพรรคไทยรักไทย จากประชาชนก็ไม่น่าจะตกลงมากนัก
อย่างน้อยในระดับรากหญ้า ชื่อของ "ทักษิณ" ก็ยังเป็นจุดขายที่ใช้ได้ดีอยู่ด้วยเหตุผลทั้ง 2 ข้อนี้
จึงไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่กลุ่มมุ้งต่างๆ ในพรรคไทยรักไทยจะยอมหักกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วยการออกจากพรรคไทยรักไทยไปตั้งพรรคใหม่ หรือไปซบอกพรรคที่มีอยู่แล้ว
สู้อยู่กับพรรคไทยรักไทยแล้วได้เป็นรัฐบาล เมื่อถึงเวลาปฏิรูปการเมืองเรียบร้อยแล้ว จะหันกลับมาคิดกันใหม่ว่าจะอยู่ต่อ หรือจะย้ายพรรค
ก็ยังไม่สาย..??
หน้า 11
http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01pol01130649&day=2006/06/13