พบบทสัมภาษณ์ เสธอู๊ด ในวารสารอิสระโพสต์ จึงคัดลอกมาเล่าสู่กันฟังครับ

[แมว มหาภัย]

เสธอู๊ดมองการเมือง
จี้ทักษิณ – ทหาร  ทำเพื่อประเทศ
   ณ  ชั่วโมงนี้ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าระบอบทักษิณได้แบ่งสังคมไทยออกเป็น 2 ชั้ว  ภาคความขัดแย้งของคนในสังคมที่เกิดขึ้นได้แพร่ขยายไปทั่วเกือบทุกวงการและทวีความรุนแรงขึ้นตามลำดับชัดเจนที่สุดคือเหตุการณ์กลุ่มพันธ์มิตรที่จังหวัดอุดรธานี  ส่งผลให้หลายฝ่านออกมาแสดงความกังวล
   พล.อ.กิตติศักดิ์  รัฐประเสริฐ  ประธานคณะทำงานกลุ่มพลังเงียบมหาชน  อดีดผู้ช่วยหัวหน้าคณะฝ่ายเสนาธิการกลาโหม  กล่าวถึง วิกฤตสังคมไทยในขณะนี้ว่า  เป็นเรื่องที่น่าห่วงเพราะปัญหาที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่เป็นผลจากการที่คนไทยลืมหลักธรรมของพระพุทธศาสนาในเรื่องการลดละชั่ว  ทำความดี  และทำจิตใจให้สงบ

   ตนมองว่าประเทศไทยมองว่าเรามีพระมหากษัตริย์องค์เดียวกัน  แต่ที่คนไทยออกมาเข่นฆ่ากันในกรณีเขาพระวิหารเป็นเพราะว่าเราไม่ได้เป็นประชาธิปไตรอย่างแท้จริง

   นอกจากนี้  พล.อ.กิตติศักดิ์  กล่าวถึง  สถานการณ์การทำลายล้างสถาบันว่า  มีการทำกันเป็นขบวนการเพราะที่ผ่านมาตนเคยชื่นชมคุณ  ทักษิณ   และไม่เคยคิดว่าเขาจะคิดเช่นนั้น  แต่ในกรณีที่เข้าไปทำพิธีในวัดพระแก้วถือได้ว่าเขาผิดจริง  หรือกรณีของ  นายจักรภพไปพูดทั้งในประเทศและต่างประเทศถือว่าหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์  แต่พอ  พล.ต.อ.อดิศร  นนทรีย์  ออกมาระบุว่าเรื่องดังกล่าวมีมูลความจริงก็ถูกย้ายไปเป็นจราจรตำรวจ  นี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นในรัฐบาลชุดนี้

   ด้านรัฐบาลของคุณสมัคร  สุนทรเวช  ต้องยอมรับว่า  กำลังหลงทางด้านการเมืองเพราะที่ผ่านมาเป็นการเลือกตั้งแบบจอมปลอม  เนื่องจากเรามีประชาธิปไตรที่แท้จริงอยู่เพียง  4  นาที  เวลาที่ลงคะแนนในคูหาเท่านั้น  ซึ่งสิ่งที่ห่วงในอนาตคคือ  การที่ปลอยให้สังคมอยู่ในความมืดมิดเพราะการที่ทหารนิ่งเฉยเนื่องจากการที่ทหารขาดความเป็นผู้นำที่ดี   แต่กลับเป็นผู้ตามที่ดีมากกว่า

   ทางเดียวที่จะไขปัญหาวิกฤติได้  คือ  พ.ต.ท. ทักษิณ  ต้องยุติบทบาททั้งหมด  แล้วเดินเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม  ขอความเป็นธรรมจากศาล  ผมว่าไม่สายเกินไปที่ พ.ต.ท. ทักษิณ  จะมองโลกในด้านใหม่คือ “ปลงซะ”  เพราะถ้าตราบใดอดีดนายกไม่ยุติบทบาทอย่างแท้จริงบ้านเมืองไม่มีทางยุติสงบได้

   แต่การที่ พ.ต.ท. ทักษิณ  จะยุติบทบาทนั้นจะต้องใช้เวลานานเท่าใดนั้น พล.อ. กิตติศักดิ์ กล่าวว่า ถ้าให้อดีตนายกยอมรัยสภาพ แล้วออกมาเจรจา ผมดูจากพฤติกรรมของคนคนนี้ หากเขาไม่ถึงจุดๆ หนึ่งที่เพี่ยงพล้ำถึงที่สุดแล้ว โอกาสให้เขายอมรับแทบไม่มี

   ขณะเดียวกันเมื่อนักข่าวถามว่า เชื่อกระบวนการยุติธรรมในการพิจารณาคดีเอาผิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ  และบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือไม่

   “เชื่อได้นะ ผมยังเชื่อว่าศาลจะตัดสินด้วยความเป็นธรรม”

   ส่วนจะเห็นภาพการใช้กำลังอีกหรือไม่นั้น อดีตผู้ช่วยหัวหน้าคณะฝ่ายเสนาธิการทหาร ประจำรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกล่าวแสดงความเชื่อมั้นว่า

   “อาจจะมีโอกาส  แต่เชื่อว่าไม่รุนแรง  ผมว่าเมื่อถึงเวลาจริง ๆ ซึ่งเบื้องลึกลงไปในจิตใจทหารทุกคนมีจิตใจดี  ณ  วันนี้  ผมถึงอยากขอร้องว่า  อย่าโกธกันเลย  ถ้าพวกเรารักพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  เรามาทำดีถวายท่านเนื่องในวโรกาส  84  พระชันษาที่จะถึงในปี  2545  นี้ดีกว่า  ฝ่ายบริหารลดธิฐิ  คุณทักษิณคุณยุติบทบาทเดินหน้าหากระบวนการยุติธรรม  ทุกฝ่ายหยุดทุกอย่างให้หมด  ลัวหันหน้ามาคุยกันดีกว่าตั้งคณะทำงานขึ้นมา  ส่งตัวแทนมาเจรจา  ผมเชื่อว่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด

   ขณะเดียวกันสือมวลชนก็ต้องไม่อยู่ภายใต้อาณัติของรัฐ   ต้องใช้อำนาจอิสระในการเสนอข่าว  และข้อเท็จจริงของทุกฝ่าย  ให้สังคมรับทราบ  ประชาชนต้องเข้าถึงข่าวสารที่สมบูรณ์ถูกต้อง  ตรงนี้จะช่วยให้ประเทศยืนหยัดต่อไปได้”

   จากวันนั้นถึงวันนี้ทิศทางการเมืองไทยอาจจะเปลี่ยนแปลงไปแล้ว  แต่หากยังไม่เปลี่ยน  คำแนะนำของ  พล.อ.กิตติศักดิ์  ก็น่าจะเป็นอีกทางเลือกให้ทุกฝ่ายโดยเฉพาะรัฐบาลได้พิจารณาและนำไปทบทวนเพื่อปฏิบัติ

                                         ที่มาอิสระโพสต์  ฉบับเดือนสิงหาคม ๒๕๕๑