ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
28-04-2024, 05:04
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  คณะกรรมการ กกต. ไม่ยอมให้'หมัก-เลี๊ยบ' เลื่อนชี้แจงคดียุบพรรคพลังประชาชน...... 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
คณะกรรมการ กกต. ไม่ยอมให้'หมัก-เลี๊ยบ' เลื่อนชี้แจงคดียุบพรรคพลังประชาชน......  (อ่าน 1070 ครั้ง)
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« เมื่อ: 07-08-2008, 16:31 »

กกต.ขีดเส้น “หมัก-เลี้ยบ” แจงคดียุบพรรค 13 ส.ค.เมินขอเลื่อน 
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 7 สิงหาคม 2551 11:01 น.
 
 
       เลขาฯ กกต.เผย “หมัก-เลี้ยบ” ทำหนังสือขอเลื่อนชี้แจงข้อเท็จจริงคดียุบ พปช.ออกไป 27 ส.ค.อ้างติดภารกิจ แต่กกต.ไม่อนุญาต เพราะทำให้ล่าช้า ขณะเดียวกัน คำพิพากษาของศาลฎีกาที่ให้ใบแดงกับยงยุทธ กก.บห.พรรค ชัดเจนแล้ว แต่อะลุ้มอะล่วยให้ชี้แจงเป็นเอกสารได้
       
        คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสุทธิพล ทวีชัยการ ให้สัมภาษณ์
       
        วันนี้ (7 ส.ค.) นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการพิจารณาสำนวนการยุบพรรคพลังประชาชนว่า ล่าสุดนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชาชน และนายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคฯ ได้ส่งหนังสือมาเพื่อขอเลื่อนการเข้าชี้แจงข้อเท็จจริงจากวันที่ 7 หรือ 8 สิงหาคม เป็นวันที่ 27 สิงหาคม เนื่องจากติดภารกิจ แต่ทางคณะอนุกรรมการเห็นว่าหากมีการขยายเวลาออกไปจะทำให้ล่าช้า และเลยเวลาที่ กกต.กำหนด ประกอบกับได้มีคำพิพากษาของศาลฎีกาที่ให้ใบแดงต่อนายยงยุทธ ติยะไพรัช กรรมการบริหารพรรคฯ ชัดเจนแล้ว จึงมีมติให้บุคคลทั้งสองต้องเดินทางเข้าชี้แจงข้อเท็จจริงภายในวันที่ 13 สิงหาคมนี้
       
       อย่างไรก็ตาม หากบุคคลทั้งสองไม่สามารถเดินทางมาชี้แจงได้ด้วยตนเอง ทางคณะอนุกรรมการอนุญาตให้สามารถชี้แจงเป็นเอกสารแทนได้
       
       นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงการที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค และน.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน ขอเลื่อนการเข้าชี้แจงต่อคณะอนุกรรมการสอบสวนกรณียุบพรรคพลังประชาชน ว่า ที่บุคคลทั้ง 2 ขอเลื่อนเข้าชี้แจงเป็นวันที่ 27 ส.ค.มีการอ้างว่าติดภารกิจต้องเดินทางไปร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค แต่ทางอนุกรรมการสอบสวนฯไม่อนุญาต โดยกำหนดให้มาชี้แจงภายในวันที่ 13 ส.ค. เพราะวันที่ 15 ส.ค.จะครบกำหนดการขยายเวลาสอบสวนที่กกต.ให้กับอนุกรรมการฯ ดังนั้นหากภายในวันที่ 13 ส.ค.บุคคลทั้ง 2 ไม่มาชี้แจงด้วยตนเองก็สามารถส่งเป็นเอกสารมาชี้แจงได้
       
       “ การเปิดโอกาสให้หัวหน้าและเลขาธิการพรรคพลังประชาชนชี้แจง ก็เพื่อให้การสอบสวนครบถ้วน และเป็นองค์ประกอบในการวินิจฉัยของ กกต. อีกทั้งเรื่องดังกล่าวมีคำพิพากษาของศาลฎีกา แผนกคดีเลือกตั้งอยู่แล้ว ซึ่งการที่นายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคทุจริตเลือกตั้ง ตามกฎหมายจะต้องดำเนินการยุบพรรค”
       
       ด้านนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต.กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า ได้ให้เจ้าหน้าที่แจ้งต่อผู้เกี่ยวข้องทุกคนว่า หากไม่สามารถมาชี้แจงตามกำหนดเวลาได้ก็ขอให้ทำคำชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งการที่ กกต.กำหนดให้มาชี้แจงอีกครั้งภายในวันที่ 13 ส.ค.ไม่ใช่ว่า กกต.ไม่ให้โอกาสแต่การให้โอกาสไม่จำเป็นต้องมานั่งซักใซ้กัน หรือมาเอง สามารถชี้แจงเป็นเอกสารได้ และการทำงานของอนุกรรมการสอบสวนฯ กกต.ก็เห็นว่าให้เวลามาพอสมควรแล้ว คงจะไม่มีการเลื่อนเวลาการสอบสวนออกไปอีก ดังนั้นทางอนุกรรมการสอบสวนฯ คงจะเสนอรายงานสรุปผลการสอบสวนให้ กกต.ทราบภายในวันที่ 15 ส.ค.นี้
       
       นายอภิชาต ยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการพิจารณาสำนวนคำร้องคัดค้านผลการเลือกตั้งของนายวิฑูรย์ นามบุตร ส.ส.และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ กกต.ได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการสอบสวนไปพิจารณาว่า แม้จะครบกำหนดระยะเวลาการสอบสวนแล้ว แต่วานนี้ ( 7 ส.ค.) ทางอนุกรรมการฯ ได้แจ้งมาว่าจะขอสอบพยานเพิ่มอีก 4 ปาก ซึ่งหากมีการสรุปสำนวนส่งมาเมื่อไหร่ก็จะเร่งนำเข้าที่ประชุม กกต.โดยเร็วที่สุด และเชื่อว่าการพิจารณาเรื่องดังกล่าวน่าจะเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งไม่น่าจะเกินวันที่ 15 ส.ค.
       
       ส่วนนางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้งกล่าวถึงกรณีมี ส.ส.พรรคพลังประชาชน เปิดเผยว่า มี ส.ส.ในพรรคดำเนินการหางบประมาณจากการกินหัวคิวจากโครงการใหญ่ของรัฐบาล เพื่อนำใช้ในการจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ ว่าเรื่องดังกล่าวถือว่าเป็นเรื่องภายในของพรรค และยังไม่มีการร้องเรียนเข้ามา ว่ามีการกระทำผิดกฎหมายพรรคการเมือง หรือ กฎหมายเลือกตั้ง เป็นเพียงข่าวในหนังสือพิมพ์ กกต.คงไม่ไปตรวจสอบอะไร อย่างไรก็ตามในเรื่องการใช้จ่ายเงินของพรรคการเมือง หากมีการร้องเรียนเข้ามา กกต.ก็สามารถที่จะตรวจสอบที่มาของเงินดังกล่าวได้

 
 http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000093059
 
 
 
 “การเปิดโอกาสให้หัวหน้าและเลขาธิการพรรคพลังประชาชนชี้แจง ก็เพื่อให้การสอบสวนครบถ้วน และเป็นองค์ประกอบในการวินิจฉัยของ กกต. อีกทั้งเรื่องดังกล่าวมีคำพิพากษาของศาลฎีกา แผนกคดีเลือกตั้งอยู่แล้ว ซึ่งการที่นายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคทุจริตเลือกตั้ง ตามกฎหมายจะต้องดำเนินการยุบพรรค”

ถ้าคณะกรรมการ กกต.มีความเห็นอย่างนี้ ประชาชนจะได้เห็น'เห็บหมา' กระโดดหนีไปเกาะที่อื่นๆ  หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้ปฎิเสธไม่รับ'เห็บหมา' 80 ตัวแล้ว.....!!!

พวก'บัตรเติมเงิน'ในนี้ เงยหน้าจาก'ใบบอก'แล้ว เตรียมตัวหา'บัตรเติมเงิน'บัตรใหม่ได้แล้ว......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า



บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
หน้า: [1]
    กระโดดไป: