พันธมิตร มนุษย์สองหน้า วงกลมกราฟ!
Posted by คุณนิติ_นวรัตน์ , ผู้อ่าน : 45 , 12:07:15 น.
พิมพ์หน้านี้
ทำไมคุณหลายคนถึงปล่อยให้ชีวิตคุณมีตัวแปรอยู่แค่ 2 ตัวแปรล่ะ?
คุณถึงทำให้ชีวิตคุณเหมือนเหรียญบาทเอาไว้ทายเหรียญหัวก้อย ใจแคบเกินไปหรือปล่าว
ชีวิตเหมือนเหรียญโยนหัวก้อย เช่น เหล่าแกนนำพันธมิตรออกมาด่าว่า นักวิชาการทั้งหลาย ที่กล่าววิพากย์วิจารณ์ พันธมิตรและรัฐบาล บางคนบอกว่าไม่ต้องการให้บ้านเมืองแตกแยกกัน หรือหาทางออกให้
แต่สุดท้ายคุณก็ตีหน้าเค้ากลับไปว่า เป็น อีแอบ หรือ ไปรับเงินใครมา
แบบนี้เค้าเรียกว่า คุณปล่อยให้ชีวิตของคุณมีแค่หัวกับก้อย เป็นคนมอบอะไรแค่ด้านเดียว ไม่มีความคิดหรือวิเคราะห์ หรือ ใจแคบมากๆ
อีกตัวอย่างคือ เหตุการณ์ที่ศาลสั่งให้รื้อเวที และ ปิดเครื่องขยายเสียง ในช่วงเวลาเรียนของเด็กบริเวณสะพานมัฆวาน
เหตุการณ์นี้แกนนำพันธมิตร ถึงกับจะถอดถอน ผู้พิพากษาเลยทีเดียว
ชีวิตคุณเป็นหัวกับก้อยมาก
แต่หากคุณลองถามอาจารย์แถวๆโรงเรียน สะพานมัฆวานกลับว่า หากชีวิตของเค้าสามารถแปลงเป็นกราฟวงกลมได้ เค้าอาจจะมีใจให้ พันธมิตรถึง 40 เปอร์เซ็นต์ ไม่เข้าข้างใครอีก 10 เปอร์เซ็นต์ เพียงแต่ 50 เปอร์เซ็นต์ทำไปเพื่อหน้าที่ และ จรรยาบรรณ ของความเป็นครูเท่านั้นเอง
อาจจะไม่ใช่เพราะเค้ารับเงินมากันคนล่ะ 300 บาท อย่างที่แกนนำพันธมิตรกับความคิดหัวก้อย ปรักปรัมเหล่าครูอาจารย์โรงเรียนราชวินิตย์ก็เป็นได้
ผมรู้ว่าพวกคุณหลายๆคน ก็แบ่งใจเป็นกราฟวงกลมเช่นเดียว อาจจะมีใจให้พันธมิตรถึง 80 เปอร์เซ็นต์ อีก 10 ไม่เข้าข้างใคร 5 เปอร์เซ็นต์ ดูสถานการณ์ และ อีก 5 เปอร์เซ็นต์ก็ชื่นชอบนโนบายรัฐบาล
ผมเบื่อหน่ายกับคำว่าอีแอบ ผมรู้สึกเป็นคำที่อึดอัดและหาคำอธิบายเกี่ยวกับคำเหล่านี้ไม่ได้
ไม่ใช่เพราะ ผมไม่ชอบหลักการของพันธมิตรและต้องการวิจารณ์พันธมิตรไปในแง่ลบ แต่กลัวว่าคนจะด่าตัวเอง จึงบอกว่าตนเองเป็นกลาง
แต่เพราะว่า จิตใจก็ผมก็แบ่งเป็นกราฟวงกลมเช่นกัน อาจจะชื่นชอบพันธมิตรอยู่แค่ 15 รัฐบาล25ฝ่ายวิชาการอีก 30 ไม่ฝักฝ่ายฝ่ายใดอีก20 ไม่ยุ่งอีก10 ก็ได้นิใช่ไหม
ไม่ใช่เพราะว่าเราเป็นอีแอบซักหน่อย
ผมไม่เข้าใจว่าทำไม พวกเค้าถึงจะต้อง บล็อกชีวิตของตนเอง ไว้ในกรงขังของจิตใจ แต่ก็ชอบคิดว่าที่ตรงนี้ เจ๋งที่สุด
หากเปรียบเสมือนโลกในหนัง The matrix คนที่คิดว่าตนเองถูกอยู่ฝ่ายเดียว(รวมถึงคนที่กำลังคิดว่า รัฐบาลถูกอยู่ฝ่ายเดียวเช่นกัน) ก็คือ มนุษย์ที่โดนหุ่นยนต์ดัดแปลง ล้างสมอง และทำให้เชื่อว่าโลกที่เค้าฝันอยู่นั้นคือโลกแห่งความเป็นจริง
หากว่าผมชื่นชอบ นโยบาย ของรัฐบาล ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะชื่นชอบหมด
หากว่าผมไม่ชื่นชอบหลักการ ของพันธมิตร ก็ไม่ได้หมายความว่า ผมจะไม่ยอมรับหลักการณ์อื่นๆที่ดีเลย
ถ้าหากผมชอบเขียนโจมตีพันธมิตร ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะยอมรับความคิดเห็นของคนที่ชื่นชอบพันธมิตรไม่ได้ ผมก็รู้สึกยินดีทุกครั้งที่ได้ รับฟังความคิดเห็นของคนอื่นๆ
เพราะคนในโลกมีถึง 6000 ล้านคน ก็ไม่ได้ความว่าคนทั้งโลก ความคิดเห็นจะตรงกันหมด
หากคุณเป็นผู้ชายและเลือกที่จะแต่งงานกับผู้หญิงที่คุณรัก คุณคิดว่าคุณจะเลิกกับเค้าไหม ถ้าหากว่าเค้าความคิดเห็นไม่ตรงกับคุณ และ ยังไม่สามารถเข้ากันได้ในช่วงแรก
คุณคิดว่า อีก 10 ปีความคิดเห็นของคู่รักสองคนนั้น จะเข้ากันได้ไหม ถ้าหากว่าความคิดที่ไม่ตรงกันก็คือ สันดานที่แก้ไม่ได้ซักที
ถ้าหากว่าแก้ไม่ได้ก็แค่หย่างั้นหรือ ทั้งๆที่ยังรักกันอยู่ ถ้าไม่ได้อย่าแล้วคู่รักจะอยู่ด้วยกันได้อย่างไร
การปรับตัวเข้าหากันหรือปล่าว ที่จะทำให้อยู่ด้วยกันได้?
มันก็ไม่ต่างอะไรระหว่าง คุณกับผมหรอก ผมไม่ชอบที่คุณไปประท้วง เย้วๆ ด่ารัฐบาล แต่ผมว่ามันก็ไม่เป็นไร ก็คุณใช่สิทธิของคุณมันก็ตามกฎหมายอยู่แล้ว
แต่การที่พวกคุณมาด่าใครเป็นอีกแอบ นั้นก็บ่งบอกว่า คุณไม่สามารถยอมรับความคิดเห็นของคนอื่นได้ ชีวิตคุณมีแค่หัวก้อยเท่านั้น จริงมั้ย?(ขอเป็นหัวก้อยบ้าง)
ผมเบื่อหน่าย ทุกครั้งที่พันธมิตร ชอบแสดงท่าทีกร้าวร้าว ทั้งกรณี พระพยอม ศรราม และ เปิ้ล นาคร
คุณมักตัดสินคนเหล่านี้ด้วยหลักการณ์หัวก้อยเสมอ
ระวังนานๆ เข้า คุณจะกลายเป็นมนุษย์สองหน้า ที่ชอบคิดว่าตนเองถูกเสมอ เหมือนในหนังเรื่อง แบทแมน เพราะชอบโยนแต่เหรียญหัวก้อย
และระวังว่า วันนั้นศรัตรูที่คุณจ้องทำร้ายอยู่จะกลายเป็น แบทแมน ซ่ะเอง
.
.
.มาใหม่แล้วครับพี่น้อง
http://www.oknation.net/blog/jeenjeen/2008/08/05/entry-1
