มึน !!!"ผัว-เมีย" ละเหี่ยใจตกลงแบ่งสมบัติไม่ได้แห่ร้องสคบ.เพียบ โดย ผู้จัดการออนไลน์ 11 มิถุนายน 2549 15:03 น.
สคบ.มึนปัญหา "ผัว-เมีย" ละเหี่ยใจ แห่ร้องเพียบ อ้างไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการแบ่งสินสมรส ค่าทดแทน แต่ต้องจ๋อยสนิทเพราะ สคบ.ไม่รับฟ้องแทน ระบุประชาชนยังไม่เข้าใจบทบาทของสคบ.เร่งทำความเข้าใหม่ เผยโรงเรียนกวดวิชาโดนฟ้องร้องอื้อหลวกลวงผู้บริโภค ส่วนโฆษณาท่อเหล็กชนิดหนึ่งทางทีวีส่อเสื่อมเสียศีลธรรม
นายนิโรธ เจริญประกอบ รองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีประชาชนจำนวนมากได้ร้องเรียนและขอคำปรึกษาผ่านโทรศัพท์สายด่วน 1166 เกี่ยวกับแบ่งสินสมรส, เรียกค่าทดแทน จากกรณีที่สามี ภรรยาเลิกกัน หรือ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียชีวิต เป็นต้น เพราะไม่สามารถตกลงเรื่องการแบ่งสมบัติ และ กังวลว่าอีกฝ่ายจะได้น้อยกว่ากฎหมายกำหนดไว้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ก็ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับข้อกฎหมาย รวมถึงแนะนำให้ติดต่อกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สภาทนายความ เนื่องจากเรื่องนี้เจ้าหน้าที่ สคบ. ไม่สามารถช่วยเหลือเพื่อดำเนินคดี หรือ เจรจาไกล่เกลี่ย เพราะทั้งคู่ไม่ได้เข้าข่ายผู้บริโภคที่ถูกผู้ประกอบการเอาเปรียบ
เป็นนโยบายของผู้บริหาร สคบ. ที่ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติรับเรื่องราวต่างๆ ที่ประชาชนทั่วประเทศเดือดร้อน ซึ่งหากเรื่องใดที่ไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของกฎหมายการคุ้มครองผู้บริโภค ก็จะประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการช่วยเหลือต่อไป ซึ่งเรื่องการแบ่งสินสมรส และ เรียกค่าทดแทนนั้นระยะหลังก็มีประชาชนได้ร้องเรียนผ่าน 1166 กรณีที่ไม่ได้รับความธรรมจากการแบ่งสินสมรส แต่เรื่องนี้ไม่ได้เข้าข่ายผู้บริโภค จึงได้ประสานงานไปยังสภาทนายความช่วยดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ที่ผ่านมายอมรับว่ามีประชาชนจำนวนมากยังไม่เข้าใจในอำนาจหน้าที่การคุ้มครองผู้บริโภค เพราะคิดว่าเจ้าหน้าที่ สคบ. จะดำเนินฟ้องร้องคดีแทนผู้ถูกเอาเปรียบในทุกๆ เรื่อง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ออกไปให้ความรู้แก่ประชาชนทั้งในกทม. และ ต่างจังหวัด เกี่ยวกับกรณีที่จะดำเนินคดีแทน เช่น ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการซื้อสินค้าและบริการ, ด้านโฆษณา, ธุรกิจขายตรง เป็นต้น ซึ่งก็มีผู้บริโภคในหลายพื้นที่เริ่มเข้าใจบทบาทของ สคบ.ได้ดีแล้ว
นายนิโรธ กล่าวว่า ปัจจุบันยังมีผู้บริโภคหลายรายได้ร้องเรียนกรณีที่ถูกโรงเรียนกวดวิชาของภาคเอกชนบางแห่งเอาเปรียบ เพราะไม่กระทำตามเงื่อนไขสัญญา หรือ การโฆษณาไว้ เช่น นำผู้สอนไม่มีประสิทธิภาพ, สอนไม่ครบถ้วน และไม่มีประโยชน์ที่ต่อการดำรงชีวิตประจำวัน รวมถึงไม่ลด แลก แจก แถม ตามที่ได้ระบุไว้ ซึ่งมีทั้งกลุ่มวัยทำงานที่ต้องการเรียนภาษาอังกฤษทางโทรศัพท์ รวมถึงเด็กนักเรียนต้องการสอบมหาวิทยาลัย เป็นต้น โดยส่วนใหญ่ต้องการขอเงินคืน
ล่าสุดอนุกรรมการติดตามสอดส่องและวินิจฉัยการโฆษณาที่มีนางรัศมี วิศทเวทย์ เลขาธิการสคบ.เป็นประธาน อยู่ระหว่างการดำเนินการเชิญโรงเรียนกวดวิชาแห่งหนึ่งมาชี้แจง ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างคนไทยและต่างชาติ โดยจะการสอนภาษาอังกฤษทางโทรศัพท์ คิดค่าสอนเช่น 50 ชม. 20,000 บาท, 100 ชม. 38,000 บาท เป็นต้น เพราะผู้ร้องเห็นว่าไม่ได้แจกของตามที่ได้โฆษณาไว้ รวมถึงไม่ได้ความรู้ตามที่คาดหวังไว้ด้วย เบื้องต้นต้องการขอเงินคืน
นอกจากนี้มีผู้บริโภคร้องเรียนมาว่าการออกโฆษณาท่อเหล็กชนิดหนึ่งทางสื่อทีวี ที่มีผู้หญิงมาเต้นเพื่อเลือกท่อน้ำแล้วมีสนิมติดตามตัวนั้น ไม่มีความเหมาะสมทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อศีลธรรมของประเทศ และเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีต่อเยาวชนที่อาจเอาไปเลียนแบบในการเต้นได้ เบื้องต้นมีอนุกรรมการฯ บางรายเห็นว่าเป็นเรื่องที่ตลกมากกว่า ขณะที่บางรายเห็นว่าน่าจะเข้าข่าย อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้ประสานงานไปยังกระทรวงวัฒนธรรมมาร่วมพิจารณาว่าเข้าข่ายผิดศีลธรรมหรือไม่
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9490000076177สคบ ไม่ได้รับเรื่อง ผัว-เมีย 
