ผมนั่งดูการพิจารณากับแฟน แล้วแฟนแกถามผมว่า
"หากการโอนโดยเสน่หาต้องเสียภาษีแล้ว
นั้นหมายถึงการได้มาซึ่งทรัพย์ไม่ว่ากรณีใดก็ต้องเสียภาษี
คำถามคือ
หากผมไปหมันแฟนหรือแต่งงาน ของหมันและสินสอด แฟนผมต้อสเียภาษีหรือไม่อย่างไร
ถามจากใจคนพยามจะแต่งงาน(มาหลายรอบแล้ว)
ขอบคุณล่วงหน้าครับ
สำหรับเรื่องการโอนหุ้นระหว่าง คญ.พจมาน และ นายบรรณพจน์ ในคดีดังกล่าว..ประเด็นสำคัญอยู่ตรงจุดนี้ครับ คือ การโอนให้ดังกล่าวไม่ได้โอนให้จากการอุปการะโดยหน้าที่ธรรมจรรยา
หรือจาก การให้โดยเสน่หาเนื่องในพิธีหรือตามโอกาสแห่งขนบธรรมเนียมประเพณี
เพราะนายบรรณพจน์ไม่ได้มีสถานภาพ ต้องได้รับความช่วยเหลืออุปการะ คุณหญิงพจมานไม่มีหน้าที่อะไร
ตามธรรมจรรยาที่จะต้องอุปการะนายบรรณพจน์ที่เพียงรายได้ส่วนตัวก็ปาเข้าไปปีละ 20 กว่าล้านบาท
ข้ออ้างเป็นการให้ในพิธีหรือตามโอกาสแห่งขนบธรรมเนียมประเพณี ก็อ้างไม่ขึ้นเพราะมาอ้างเพิ่มภายหลัง
และเหตุที่อ้างคือให้เนื่องจากการแต่งงานและมีลูก เหตุที่อ้างก็ล่วงเลยมานานเป็นปีกว่าจะมีการให้
ข้ออ้างที่ว่าให้ล่าช้าเนื่องจากคุณทักษิณกำลังยุ่งก็อ้างไม่ขึ้นเพราะ หุ้นเป็นของคุณหญิงพจมานที่ฝากไว้
กับคนใช้ซึ่งสามารถโอนได้โดยไม่เกี่ยวกับคุณทักษิณแต่อย่างใด
นอกจากนี้หากนายบรรณพจน์ และคุณหญิงพจมาน เชื่อจริงๆ มาแต่ต้นว่าเรื่องดังกล่าวไม่ต้องเสียภาษี
ก็สามารถโอนให้กันได้เลยตรงๆ ซึ่งไม่มีค่าใช้จ่าย แต่กลับเลือกใช้วิธีทำเป็นซื้อขายกันเองหลอกๆ
ผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งคุณหญิงพจมานต้องเสียค่าใช้จ่ายถึงกว่า 7 ล้านบาท
แสดงให้เห็นชัดเจนว่า นายบรรณพจน์และ คญ.พจมาน ทราบดีว่าหากโอนให้ตรงๆ แล้ว นายบรรณพจน์
จะต้องเสียภาษีเงินได้ 37% ของมูลค่าหุ้น เป็นเงินกว่า 2 ร้อยล้านบาท ซึ่งคญ.พจมานต้องเป็นคนจ่าย
จึงร่วมกันทำธุรกรรมอำพรางโดยทำเป็นซื้อขายกันหลอกๆ ผ่านตลาดหลักทรัพย์ ที่มีค่าใช้จ่ายแค่ 7 ล้าน...
เรื่องการให้โดยการอุปการะโดยหน้าที่ธรรมจรรยาหรือจาก การให้โดยเสน่หาเนื่องในพิธีหรือตามโอกาส
แห่งขนบธรรมเนียมประเพณี เป็นเรื่องที่คิดนำมาอ้างเอาภายหลังเมื่อเกิดเป็นคดีความ
แต่ในความเห็นของศาลการโอนหุ้นดังกล่าว คือการให้เป็นค่าตอบแทนแก่นายบรรณพจน์ที่ทำงานให้มานาน
ซึ่งต้องถือเป็นรายได้ของนายบรรณพจน์ (เหมือนกับการมีรายได้จากโบนัสพิเศษซึ่งต้องเสียภาษี)หรืออีกทางหนึ่งในความคิดของผมอาจเป็นได้ว่า เป็นการโอนทรัพย์สินของคญ.พจมาน ที่ซุกไว้กับคนใช้
มาไว้กับพี่ชายแทน แต่อ้างว่าเป็นการยกหุ้นให้เหมือนกับที่ยกให้ลูกๆ ซึ่งในที่สุดก็เห็นแล้วว่ามีการนำมา
รวมขายให้สิงคโปร์ไปเมื่อต้นปี 2549
แต่ถึงจะเป็นในทางนี้ ธุรกรรมที่ทำขึ้นก็ต้องเกิดภาระภาษีที่นายบรรณพจน์ต้องจ่ายจากการได้รับหุ้นอยู่ดี
ซึ่งคนที่ต้องควักกระเป๋าจ่ายภาษี 2 ร้อยกว่าล้าน น่าจะเป็น คญ.พจมาน ที่เป็นคนโอนหุ้นให้...
คำถามที่ว่าหากคุณไปหมั้นแฟนหรือแต่งงาน แฟนของคุณต้องเสียภาษีของหมั้นและสินสอดหรือไม่นั้น
คิดว่าการให้ของหมั้นและสินสอดน่าจะถือเป็น การให้โดยเสน่หาเนื่องในพิธีหรือตามโอกาสแห่งขนบ-
ธรรมเนียมประเพณี อย่างชัดเจน ซึ่งได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
แฟนของคุณจึงไม่ต้องเสียภาษีนะครับ