อันนี้จาก กรุงเทพธุรกิจ
"อภินิหาร "แก๊งสี่คน""By pracha
ตำนาน แก๊งสี่คน หรือ แก๊ง ออฟ โฟร์ ที่เกิดขึ้นในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองจีน เมื่อทศวรรษ 1970 อันเป็นการต่อสู้ภายในพรรคคอมมิวนิสต์จีน
เมื่อ แก๊ง 4 คน นำโดย เจียงชิง (ภรรยาประธานเหมา) กรมการเมือง, หวางหงเหวิน รองประธานพรรค, จางชุนเฉียว กรมการเมือง และ เหยาเหวินหยวน กรมการเมือง ต้องการยึดอำนาจการนำในพรรครัฐบาล และกองทัพ แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
เพราะเวลานั้น มาดามเจียงชิง รู้ดีว่า ประธานเหมาเจ๋อตง อายุกว่า 80 ปีแล้ว และสุขภาพก็ไม่แข็งแรง ขณะที่ผู้นำคนอื่นๆ ก็มีสภาพไม่ต่างอะไรกับไม้ใกล้ฝั่ง
มีอำนาจก็เหมือนไม่มีอำนาจ จึงเปิดเกมรุกไล่กรมการเมืองรุ่นเก่าอย่างย่ามใจ
ที่เมืองไทยเมื่อวันก่อน กลุ่มอรหันต์คอลัมนิสต์อกหัก (เพราะถูกถอดรายการ ข่าวหน้า 4 ทางช่อง NBT) ก็ให้ฉายาผู้มีอำนาจกลุ่มหนึ่งเป็น แก๊ง 4 คน ณ สยามประเทศ
แก๊ง 4 คน อุบัติขึ้นในสถานการณ์ที่ นายใหญ่-นายหญิง กำลังย่ำแย่ และดวงชะตาตกต่ำ เพราะมีคดีความรุมเร้า ถ้าพูดจาภาษาตลาดก็ว่า หมู่นี้งานเข้าเหลือเกิน
เมื่อวาน ศาลอาญาเพิ่งตัดสินคดีหลีกเลี่ยงภาษีหุ้น พิพากษาจำคุก คุณหญิงอ้อ กับ เสี่ยบรรณพจน์ คนละ 3 ปี พร้อมเลขาคู่ใจ กาญจนาภา ก็โดนไปอีก 1 ปี
แถมศาลฎีกาแผนกคดีอาญาทางการเมือง ก็มีคำสั่งรับฟ้องคดีการปล่อยกู้ 4,000 ล้านบาทให้พม่า หรือคดีเอ็กซิมแบงก์ ที่มี เสี่ยทักษิณ เป็นจำเลยที่ 1
ด้วยเหตุฉะนี้ การรวมตัวกันในวันฝนตกขี้หมูไหล...ของ คน 4 คน จึงบังเกิดขึ้น เหมือนจะรู้ว่าอนาคตของนายใหญ่-นายหญิงจะเป็นเช่นใด
แล้ว คน 4 คน นี่แหละ ที่มีบทบาทสำคัญยิ่งในการตัดสินใจ ปรับ ครม.ล็อตนี้
แก๊ง 4 คน ประกอบด้วย หมัก จมูกบาน ผู้นำนอมินีที่เริ่มเข้าใจแล้วว่า อำนาจนั้นหอมหวานแค่ไหน จึงปรับลุคใหม่ขอเป็น ผู้นำตัวจริง เสียที
คนต่อมา คือ
โป๋ เป่าปี่ นักธุรกิจหนุ่มที่รับใช้ หมัก มาตั้งแต่สมัยเป็นผู้ว่าฯ จนหอบหิ้วกันมาอยู่ในทำเนียบ ว่ากันว่า โป๋ เป่าปี่ เป็นคนเปิดโลกทัศน์ให้นักการเมืองไดโนเสาร์อย่าง หมัก ได้สัมผัสธุรกิจการเมืองสมัยใหม่ และเรียนรู้ที่จะใช้อำนาจให้สอดรับกับโลกาภิวัตน์ ดังตัวอย่างจากความรวย 7 หมื่นล้าน ของ แม้ว มกจ๊ก
แม้ โป๋ จะทำตัวโลว์โปรไฟล์ ไม่มีใครรู้จักหน้าค่าตาผ่านสื่อ แต่นักธุรกิจรายใหญ่ของไทยได้เห็นหน้า โป๋ เกือบทุกคน และหลายคนตกอยู่ในอาการผวากลางดึก เมื่อใบหน้า โป๋ ลอยมาหลอน
จึงทำให้หนังสือพิมพ์ค่าย 18 อรหันต์ เปิดศึกถล่ม โป๋ และลามไปถึง หมัก เล่นกันแรงอย่างต่อเนื่อง เพราะตอนนั้นประเมินกันว่า เฒ่าหมัก จะถอดใจลาออกจากตำแหน่ง
เฒ่าหมักก็รู้ว่า พวกอรหันต์กับ เหลิม ดอกสะเดา สมคบคิดกันกระทำบางอย่าง เพื่อกรุยทางให้ จิ๋ว ดอกกระโดน ได้ขึ้นสู่ตำแหน่งนายกฯ
มีอยู่วันหนึ่ง เฒ่าหมัก คงสิ้นความอดทน จึงฝากด่า 18 อรหันต์ ผ่านหน้าจอ NBT
นี่กระมังที่ทำให้ ข่าวหน้า 4 ถูกเขี่ยพ้นจอ และแก๊ง นปก. ผู้ภักดีต่อเฒ่าหมักเข้ามาเสียบแทน
และเป็นเหตุให้ เหลิม ดอกสะเดา ถูกเขี่ยพ้นกระทรวงคลองหลอดแบบไม่ทันตั้งตัว
เฒ่าหมัก เล่นแรง โดยไม่หวั่นว่าคนพวกนี้มีความใกล้ชิดกับนายใหญ่-นายหญิง อย่างไร?
เหนืออื่นใด โป๋ เป่าปี่ ได้สร้างคอนเนคชั่นใหม่ๆ กับคนของนายใหญ่เกือบทุกกลุ่มก๊วน
เลี้ยบ เชิญยิ้ม จึงได้เป็นสมาชิกคนที่ 3 ของแก๊งสมใจเฒ่าหมัก เพราะพักหลังผลงานของเลี้ยบ เข้าตานายกฯ เหลือเกิน
ยิ่งได้ โกร่ง กางเกงหลวม มาช่วยเป็นพี่เลี้ยงอีกแรง เฒ่าหมัก ก็หน้าบานยิ่งกว่าจมูก สมาชิกคนสุดท้าย
ห้อย จ๊กมก ขุนพลอีสานที่เฒ่าหมักต้องพึ่งพาอย่างแรง ก็ตัดสินใจเข้าร่วมวงไพบูลย์ โดยผ่านการประสานจาก โป๋ เป่าปี่
เลี้ยบ-ห้อย นั้น ยังรักภักดีจันทร์ส่องหล้า แต่การเมืองเป็นเรื่องของ จังหวะ และ โอกาส ทั้งสองจึงต้องผนึกกำลังกับแก๊งเฒ่าหมัก
นับจากนี้ไป รัฐบาลภายใต้การบริหารของ แก๊ง 4 คน อย่าง หมัก จมูกบาน, โป๋ เป่าปี่, เลี้ยบ เชิญยิ้ม และ ห้อย จ๊กมก คงจะเน้นเรื่องการสร้างฐานคะแนนผ่านนโยบายประชานิยม และการสร้างฐานอำนาจข้าราชการใหม่
เพื่อเตรียมการยุบสภา ภายหลังการแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จเรียบร้อย!
จะเป็นไปตามที่ แก๊ง 4 คน ฝันไว้หรือไม่...ฟ้าดินเท่านั้นที่รู้!
http://newsroom.bangkokbiznews.com/comment.php?id=3264&user=pracha