ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
24-04-2024, 06:44
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  นับถอยหลัง เวลาที่หัวหน้ากลุ่มอำนาจเก่า ครอบครัว และบริวารสู่ขบวนการยุติธรรมไทย. 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
นับถอยหลัง เวลาที่หัวหน้ากลุ่มอำนาจเก่า ครอบครัว และบริวารสู่ขบวนการยุติธรรมไทย.  (อ่าน 1291 ครั้ง)
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« เมื่อ: 01-08-2008, 11:39 »

ศาลสั่งจำคุก"พจมาน -บรรณพจน์"3 ปี เลี่ยงภาษีหุ้นชิน

 

(31ก.ค.)เวลา09.00น.ที่ห้องพิจารณาคดี 704 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก  นายปราโมทย์ พิพัทธ์ปราโมทย์ พร้อมองค์คณะ ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดี “เลี่ยงภาษีหุ้นชินคอร์ปฯ” คดีหมายเลขดำที่ อ.1149/2550 ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายบรรณพจน์ ดามาพงษ์ อายุ 59 ปี อดีตประธานกรรมการบริหารชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) พี่ชายบุญธรรมคุณหญิงพจมาน, คุณหญิงพจมาน ชินวัตร อายุ 51 ปี ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนางกาญจนาภา หงษ์เหิน อายุ 51 ปี เลขานุการส่วนตัว เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานร่วมกันโดยความเท็จ โดยฉ้อโกงหรืออุบาย หรือโดยวิธีการอื่นใดทำนองเดียวกัน หลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร และโดยรู้อยู่แล้ว หรือโดยจงใจ ร่วมกันแจ้งข้อความเท็จ หรือให้ถ้อยคำเท็จ หรือตอบคำถามด้วยถ้อยคำอันเป็นเท็จ หรือนำพยานหลักฐานเท็จมาแสดง เพื่อหลีกเลี่ยงการชำระภาษีอากรหุ้นบริษัทชินวัตรคอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) มูลค่าหุ้น 738 ล้านบาท และภาษีที่หลีกเลี่ยงจำนวน 546 ล้านบาท อันเป็นความผิดตามประมวลรัษฎากร มาตรา 37 (1) (2) และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 และ 91
..................................................................................................................................................................................
ในส่วนของศาลยุติธรรมเป็นคนกลาง มีหน้าที่พิจารณาคดีในระบอบประชาธิปไตย จึงขอให้ทุกฝ่ายวางใจ และวางมือว่าศาลยุติธรรมพิจารณาคดีตามอำนาจและตามกฎหมายและอำนวยความยุติธรรมให้กับทุกฝ่ายตามรัฐธรรมนูญ โดยไม่มีอคติ ไม่พิพากษาตามกระแส คดีนี้ศาลให้โอกาสคู่ความทั้งสองฝ่ายนำสืบพยานหลักฐานต่อสู้คดีจนเป็นที่พอใจแล้ว หากคำตัดสินของศาลไม่เป็นที่พอใจของฝ่ายใด ก็ให้ใช้สิทธิยื่นอุทธรณ์ - ฎีกาตามตามสิทธิทางกฎหมาย เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยในบ้านเมืองที่เราพูดถึงกันอยู่ในขณะนี้
....................................................................................................................................................................................
ส่วนที่จำเลยทั้งสามนำสืบว่าคณะกรรมการตรวจสอบใช้อำนาจของ ป.ป.ช. ดังนั้นจะต้องเป็นบุคคลที่เป็นกลางเช่นเดียวกับ ป.ป.ช. แต่กรรมการตรวจสอบบางคนไม่มีความเป็นกลางเคยมีพฤติกรรมที่เป็นปฏิปักษ์ต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ มาก่อน ศาลเห็นว่าเนื่องจากไม่มีบทบัญญัติของกฎหมายกำหนดคุณสมบัติคณะกรรมการตรวจสอบไว้เช่นเดียวกับคุณสมบัติของ ป.ป.ช.อีกทั้งการทำหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจสอบ ก็ไม่ได้หมายความว่าคณะกรรมการตรวจสอบคนใดกระทำการอย่างใดที่ส่อไปในทางที่ไม่เป็นกลาง หรือกลั่นแกล้งปรักปรำจำเลยทั้งสาม โดยคณะกรรมการตรวจสอบมีจำนวนมากถึง 12 คนซึ่งล้วนแต่มีคุณวุฒิ วัยวุฒิ ประสบการณ์ และตำแหน่งหน้าที่การงานสูง ไม่น่าจะสามารถโน้มน้าว ครอบงำให้คณะกรรมการตรวจสอบทั้งหมดมาร่วมกระทำการใดที่ไม่เป็นกลางต่อการตรวจสอบคดีนี้ เพราะจะกระทบต่อตำแหน่งหน้าที่การงาน ความน่าเชื่อถือ และเสี่ยงต่อการมีความผิดตามกฎหมาย โดยที่สำคัญพยานหลักฐานการกระทำผิดตามฟ้องในคดีนี้เกิดขึ้นและมีอยู่ก่อนที่จะมีการจัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ซึ่งจัดทำโดย ป.ป.ช. ศาลรัฐธรรมนูญ และกรมสรรพากรเกือบทั้งหมด ซึ่งจำเลยทั้งสามก็ไม่ได้ปฏิเสธการมีอยู่ของหลักฐานนั้น คดีจึงฟังไม่ได้ว่าคณะกรรมการตรวจสอบทำหน้าที่ในคดีนี้โดยไม่เป็นกลาง

......................................................................................................................................................................................
จำเลยทั้งสามเป็นผู้มีฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะกระทำผิดฐานให้ถ้อยคำการเป็นเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีจำเลยที่ 2 เป็นภริยาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับผู้บริหารประเทศ ซึ่งจำเลยทั้งสามนอกจากมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตนเยี่ยงพลเมืองดีทั่วๆไปแล้ว ยังควรดำรงตนให้เป็นตัวอย่างที่ดีสมฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมด้วย แต่จำเลยทั้งสามกลับร่วมกันทำการหลีกเลี่ยงภาษีอันเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ไม่เป็นธรรมต่อสังคมและระบบภาษี ทั้งที่จำนวนค่าภาษีที่จำเลยที่ 1 จะต้องชำระตามกฎหมายเทียบไม่ได้กับจำนวนทรัพย์สินที่จำเลยที่ 2 และครอบครัวมีอยู่ในขณะนั้น การที่จำเลยที่ 1 จะชำระภาษีอากรไปตามกฎหมายเช่นพลเมืองทุกคนจึงไม่ได้มีผลกระทบต่อฐานะจำเลยที่ 2 แต่อย่างใด การกระทำความผิดของจำเลยทั้งสามจึงร้ายแรง

...................................................................................................................................................................................
ขณะที่ บรรยากาศบริเวณหน้าศาล ขณะที่มีการอ่านคำพิพากษานั้น ปรากฏว่ามีกลุ่มสตรีประชาธิไตยประมาณ 20 คน ใส่เสื้อสีแดง เดินมาที่บันไดศาลพร้อมกับพยายามกางป้ายผ้า เจ้าหน้าที่ศาลจึงเดินเข้าไปห้ามปราม แล้วสั่งให้เก็บป้ายผ้านั้น จนเกิดการโต้เถียงกันขึ้นกระทั่ง พ.ต.อ.เจริญ ศรีศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 ได้เข้าไประงับเหตุและตักเตือนให้กลุ่มดังกล่าวไปยืนอยู่ข้างๆบันไดศาล ขณะเดียวกันกลุ่มสนับสนุนที่อยู่ตรงบริเวณลานจอดรถหน้าศาลได้ชูภาพถ่ายของ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน เจ้าหน้าที่ศาลจึงสั่งให้เอาภาพลง นอกจากนี้ตำรวจสืบสวนบก.น.2 ได้เข้าตรวจค้นขอดูบัตรประชาชนกลุ่มชายฉกรรจ์ ชุดดำ ประมาณ 20 คน ที่ยืนอยู่บริเวณดังกล่าว ซึ่งผู้สื่อข่าวจดจำได้ว่าเป็นกลุ่มรักษาความปลอดภัยของ แกนนำ นปก.
......................................................................................................................................................................................
http://special.bangkokbiznews.com/detail.php?id=3232&username=thot1



ถ้าต้องการอ่านรายละเอียด ขอให้เข้าไปในเวบกรุงเทพธุรกิจเอาเอง.....

ผลจากการพิพากษาของศาลยุติธรรม ศาลอาญาชั้นต้น จะส่งผลต่อคดีทุจริตอื่นๆของอดีตนายกฯทักษิณ ครอบครัว และ บริวาร โดยเฉพาะคำวินิจฉ้ย... จำเลยทั้งสามเป็นผู้มีฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะกระทำผิดฐานให้ถ้อยคำการเป็นเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีจำเลยที่ 2 เป็นภริยาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับผู้บริหารประเทศ ซึ่งจำเลยทั้งสามนอกจากมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตนเยี่ยงพลเมืองดีทั่วๆไปแล้ว ยังควรดำรงตนให้เป็นตัวอย่างที่ดีสมฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมด้วย แต่จำเลยทั้งสามกลับร่วมกันทำการหลีกเลี่ยงภาษีอันเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ไม่เป็นธรรมต่อสังคมและระบบภาษี ทั้งที่จำนวนค่าภาษีที่จำเลยที่ 1 จะต้องชำระตามกฎหมายเทียบไม่ได้กับจำนวนทรัพย์สินที่จำเลยที่ 2 และครอบครัวมีอยู่ในขณะนั้น การที่จำเลยที่ 1 จะชำระภาษีอากรไปตามกฎหมายเช่นพลเมืองทุกคนจึงไม่ได้มีผลกระทบต่อฐานะจำเลยที่ 2 แต่อย่างใด การกระทำความผิดของจำเลยทั้งสามจึงร้ายแรง

ประชาชนในกลุ่มพันธมิตรประชาธิปไตย ประชาชนที่รักความเป็นธรรม สุจริตชน จะรู้สึกสบายใจว่าประชาชนที่เรียกร้องความเป็นธรรม ต้องการให้นักการเมืองและผู้กระทำผิดนั้น พึ่งพาศาลยุติธรรมไทยได้ ไม่ได้เป็นดั่งการกล่าวหา การบิดเบือน การเบี่ยงเบนของกลุ่มอำนาจเก่าได้บอกเล่าไว้หลายปีที่ผ่านมา.....



จะต้องติดตามพวก'บัตรเติมเงิน'ในเวบเสรีไทยจะบิดเบือน เบี่ยงเบนข้อกล่าวหาทุจริตของอดีตนายกฯ หัวหน้ากลุ่มอำนาจเก่า ครอบครัว และบริวารอย่างไร......

จะมี'บัตรเติมเงิน'ลูกหลานชั่วของ'ศรีธนชัย' ตะแบงว่าคดียังไม่สิ้นสุด ยังต่อสู้ได้อีก สองศาลฯ....!!!

ยังถือว่าเจ้าของ'บัตรเติมเงิน'และภรรยา เป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ไหม

บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
เอกราช
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 826


กับคนที่ไร้ซึ่งจริยธรรม ยังจะสามารถสมาคมด้วยหรือ


« ตอบ #1 เมื่อ: 01-08-2008, 12:29 »

เสียงลือเสียงเล่าอ้าง..........
เสียงเล่าดังฟังว่า............
16กันยานี้.....อ่านคำพิพากษา.........
จากวันนี้1สค......ถึง16กย......
เริ่มนับถอยหลัง...........

อีก46วัน
เป็นวัน..........
บันทึกการเข้า

สภาพดินฟ้าอากาศที่ได้เปรียบมิสู้มีชัยภูมิที่มั่นคง
ชัยภูมิที่เป็นเลิศมิอาจเทียบได้กับความมีน้ำหนึ่งใจเดียวของผู้คน
天时不如地利,地利不如人和
หน้า: [1]
    กระโดดไป: