สมัคร..ชะตาขาด..เมื่อเจอสุริยคราสเืดือนสิงหา !!

[333Unit]

วันศุกร์ ที่ 1 สิงหาคม 2551 เป็นวันเดือนดับ ตรงกับแรม 15 ค่ำ เดือน 8 ตามปฏิทินจันทรคติ และเป็นเวลาก่อนพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2008 ที่ปักกิ่งประมาณหนึ่งสัปดาห์ วันนั้นจะเกิดสุริยุปราคาเต็มดวง แนวคราสเต็มดวงซึ่งเป็นเส้นทางแคบ ๆ บนพื้นผิวโลก ลากผ่านด้านตะวันออกของประเทศแคนาดา ตอนเหนือของกรีนแลนด์ มหาสมุทรอาร์กติก รัสเซีย มองโกเลีย และตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีน บริเวณที่เห็นสุริยุปราคาบางส่วนครอบคลุมตอนเหนือของยุโรปและแคนาดา เกือบทั้งหมดของทวีปเอเชีย ยกเว้นญี่ปุ่นและพื้นที่ของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่อยู่ในทะเลจีน ใต้

ประเทศไทยอยู่ในพื้นที่ที่สามารถมองเห็นสุริยุปราคาครั้งนี้ได้โดยต้อง ใช้แผ่นกรองแสงหรือการสังเกตการณ์ทางอ้อมเพื่อป้องกันอันตรายจากแสงอาทิตย์ ดวงจันทร์เข้าบังบางส่วนของดวงอาทิตย์ในช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์อยู่ต่ำใกล้ ขอบฟ้าจนกระทั่งตกลับขอบฟ้า ขณะที่ดวงอาทิตย์หายไปที่ขอบฟ้าก็ยังคงเกิดสุริยุปราคาอยู่ บริเวณที่มีโอกาสเห็นดวงอาทิตย์แหว่งมากที่สุดในประเทศไทยคือภาคเหนือและภาค อีสานตอนบน ส่วนเวลาที่เกิดปรากฏการณ์จะแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ เช่น กรุงเทพฯ เริ่มเวลา 18.02 น. ดวงอาทิตย์ถูกบังเต็มที่ขณะดวงอาทิตย์ตกด้วยสัดส่วน 54% ของเส้นผ่านศูนย์กลาง เวลาของปรากฏการณ์ในบางจังหวัด ดังนี้

สถานที่ (ในเมืองไทย) เวลาเริ่ม  -   บังเต็มที่
1. กรุงเทพฯ               18.02  -     18.44
2. เชียงใหม่               17.54  -     18.45
3. นครราชสีมา            17.59  -     18.39
4. นครศรีธรรมราช        18.12  -     18.39
5. นราธิวาส                18.15 -      18.29
6. ประจวบฯ               18.06 -      18.44
7. ภูเก็ต                    18.14 -      18.44
8. ระยอง                   18.04 -      18.39
9. สงขลา                  18.14 -      18.35
10. สุโขทัย               17.57 -      18.46
11. อุบลราชธานี         17.58 -      18.28


Ref:: สมาคมดาราศาสตร์ไทย
http://thaiastro.nectec.or.th/skyevnt/eclipses/200808tse.html
....................................

สำหรับในส่วนทางโหราศาสตร์ สามารถสมผุสดวงชะตาตั้งกรุงรัตนโกสินทร์ กับ ปรากฏการณ์สุริยคราสได้ดังนี้

วันที่ 1 สิงหาคมนี้ เวลา 17.13 น. เกิดสุริยคราส (สรรพคราส) ที่ 15 องศา 34 ลิปดา ในราศีกรกฎ
โดยเริ่มที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อเวลา 17:54 น.(น่าแปลกไหมว่า....ทำไมคราสเริ่มที่จังหวัดเชียงใหม่ ??)

จุดคราสนี้ทับ IC (Imum Coeli) หรือ อัสตลัคน์ ซึ่งเป็นจุดมัธยภพที่ 4 อันหมายถึง ความเป็นไปในบ้านเมือง
ความสงบเรียบร้อย ความสามัคคีอยู่ร่วม ความอยู่ดีกินดี/ภาวะเศรษฐกิจ รวมถึงดินแดน/อาณาเขตของประเทศ ฯลฯ

จุดคราสนี้ยังเล็ง MC (Medium Coeli) หรือ ทศมลัคน์ หรือจุดศูนย์กลางภพที่ 10 ซึ่งหมายถึง รัฐบาล การเมือง การปกครอง การบริหารประเทศ

เมื่อคราสโดนจุดสำคัญในดวงเมืองเช่นนี้ จึงจะทำให้เกิดเรื่องยุ่งยากขึ้น ภายในรัฐบาลที่มีอำนาจบริหารประเทศ

[333Unit]

มีจุดที่ น่าสังเกต คือ วันที่ 30 กรกฎาคม เกิดปรากฎการณ์ "พุธดับ" ที่ 13 องศา 4 ลิปดาในราศีกรกฎ ใกล้จุด MC และ IC เช่นกัน พุธเป็นเจ้าเรือน 3 (เพื่อนบ้าน) ในดวงเดิม สถิตราศีมีน เป็นวินาศลัคน์

จึงทำให้เกิด "ข่าวลวง" หรือ "การเจรจาติดต่อที่ผิดพลาด/สับสน และล้มเหลว" นั่นก็คือการประชุมจอมปลอมเรื่อง "เขาพระวิหาร" ที่ผ่านมานั่นเอง สรุปผลได้ว่า เป็นเรื่องหลอกลวง/ของปลอม

อีกประการที่น่าสนใจ คือ ในวันที่ 1 สิงหาที่เกิดคราสนั้น ได้เกิดปรากฏการณ์สำคัญอีกประการ คือ "พุธเข้าวงพระจันทร์ (Mercury Occultation)" ที่ 18 องศา 55 ลิปดา ในราศีกรกฎ ซึ่งเล็งพลูโตเดิมในดวงเมือง (ในระยะวังกะ 1.5 องศา)

ช่วงเวลาที่คราสมีอิทธิพลสูงสุด คือ หน้า 7 หลัง 7 วัน (หน้าสัตตะวารี หลังสัตตะวารา) นอกจากนี้ ยังมีผลของพุธดับ พุธร่วมคราส และพุธเข้าวงพระจันทร์ด้วย ซึ่งก็ปรากฏผลเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน คือ

[333Unit]

วันที่ 31 กรกฏาคม 2551

""""""""""""""""""""""""

สุริยคราสครั้งนี้อยู่ที่ 15 องศา 34 ลิปดาในราศีกรกฎ ทับจันทร์เดิมในดวงชะตาทักษิณสนิทพอดี
จันทร์หมายถึงภรรยา หากวางลัคน์ในราศีตุลย์ จันทร์เป็นเจ้าเรือนกัมมะ หมายถึงเกียรติยศชื่อเสียง
จึงส่งผลให้
 ..... ศาลอาญา ตัดสิน คุณหญิงพจมาน ชินวัตร นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ และ นางกาญจนาภา หงส์เหิน
ร่วมกันหลีกเลี่ยงการชำระภาษีอากรหุ้น SHIN จำนวน 546 ล้านบาท จากหุ้นจำนวน 4.5 ล้านหุ้น
ซึ่งมีมูลค่า 738 ล้านบาท มีความผิดตามประมวลรัษฎากรและกฎหมายอาญา คุณหญิงพจมาน และบรรณพจน์
ถูกตัดสินจำคุก คนละ 3 ปี นางกาญจนาภา จำคุก 2 ปี โดยไม่มีการรอลงอาญา

[333Unit]

ที่ผ่านมานั้นเป็นเพียงหนังตัวอย่าง เรียกว่าเพิ่งจะเข้าคราส ยังไม่ใช่ของจริง เพราะหวยจะออกที่นายสมัครหัวหน้ารัฐบาลโดยตรง
เพราะความสำคัญของปรากฏการณ์คราสนี้ อยู่ที่ปรากฏการณ์ครั้งที่ 2 คือในวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ.2551ซึ่งเป็น "จันทรคราส"

ทั้งนี้ก็เพราะว่าในดวงชะตาของนายสมัคร นั้น ดาวจันทร์เป็นดาวที่มีอิทธิพลมากที่สุด และให้คุณสูงสุด เนื่องจากหากพิจารณาทางดวงชะตาที่ผูกด้วยระบบสิบลัคน์จะเห็นว่า จันทร์เป็นเกษตรอยู่ราศีกรกฏ และมีดาวพฤหัสเป็นมหาอุจน์กุมอีกชั้น(ใส่เกราะ 2 ชั้น) ตายยาก จะเรียกว่า "คนเหนือดวง" ก็ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทุกอย่างย่อมเป็นอนิจจัง เพราะหากเมื่อไรก็ตาม ดาวจันทร์ดับ และดาวพฤหัสเสียหรือโคจรเข้าสู่จุดเสียในเวลาเดียวกัน วันนั้น เวลานั้น เรียกว่า " จุดจบของเจ้าชะตา " หากว่ากันตามตำหรับฤกษ์ ก็เรียกว่า " ฤกษ์ดับเทวดา " ขนาดเทวดายังดับ นับประสาอะไรกับนายสมัคร ซึ่งเป็นมนุษย์ มันจะเหลือหรือ ?

...ด้วยเหตุผลที่จันทร์เปรียบเหมือนแม่ เป็นเกษตรแปลว่า " ถาวร-มั่นคง" ซึ่งห่อหุ้มด้วยพฤหัสมหาอุจน์(มีพลังยิ่ง) ดังกล่าว ทำให้ "สุริยคราส" ไม่มีผลใด ๆ กับเจ้าชะตา ซึ่งส่งผลให้บรรดานานานุโหรทั้งหลายทำนายผิดพลาดมาโดยตลอดสำหรับดวงชะตาของนายสมัคร ก็ด้วยเหตุว่าไม่ได้พิจารณาจุดพิเศษดังกล่าวแล้วนี้

....ซึ่งปรากฏการณ์คราส 2 ครั้งซ้อน คือทั้งสุริยคราส และจันทรคราสภายในระยะเวลาห่างกันไม่ถึงมาส นี้มันก็ไม่ใช่เรื่องธรรมดา และที่ไม่ธรรมดากว่านั้นคือ จะมีผลกับชะตาชีวิตของ นายสมัคร สุนทรเวช โดยตรงอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง เพราะจันทร์ในดวงชะตาของนายสมัครตามจันทรคราส ในวันที่ 17 สิงหาคม 2551 เป็นต้นไป ตามตำหรับโบราณเรียกว่า " ถึงฆาต " หรือ " ชะตาขาด" ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต(โปรดดูภาพดวงชะตานายสมัคร ที่สมผุสโดยหลักคำณวณแบบสิบลัคน์-นวางค์จักร)

และเมื่อ นำเอาดวงชะตากำเนิดของนายสมัคร กับ ปรากฏการณ์จันทรคราส วันที่ 17 ส.ค.2551 มาสัมปยุตกันก็จะปรากฏดังภาพนี้

จะเห็นได้อย่างชัดเจนตามภาพว่า นายสมัคร สุนทรเวช "โดนเต็ม ๆ " หากเป็นภาษาพระก็เรียกว่า " หมดบุญ "
ส่วนจะโดยลักษณะไหน และ โดยสภาพอย่างไร ขอผลัดไว้วันพรุ่งนี้จะมาขยายให้ฟัง (แบบ จะ จะ ไม่ใส่สี ตีใข่.. เพื่อผู้สนใจจะได้เอาไปใช้ในเชิงวิชาการโหราศาสตร์ได้ด้วย)

[Caocao]

สาธุ ตามนั้น

[almondflavor]

มาอธิบายเร็วๆนะ....เรื่องดูดวงชอบ

แต่จะไม่ค่อยเชื่อจนกว่าจะเป็นจริง

ว่างๆเอาดวงเราไปดูให้มั้งจิ

ว่าเมื่อไหร่จะมีแสนล้านกะเขามั้ง

[Scorpio6]

มาติดตามครับ

[55555]

เรื่องโหราศาสตร์ ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ครับ...

รู้อย่างเดียว

ศาลอ่านคำพิพากษาคดีหมิ่น สามารถ ราชพลสิทธิ์ เมื่อไหร่ ก็ชะตาขาดวันนั้นแหละครับ..

 

[see - u]

*   ไม่สนใจเรื่อง ดวง .... แต่เห็นด้วยว่า  ลุงหมัก  ชะตาขาด ชัวร์ ๆๆๆๆๆๆ

     แถก ปรับ ครม. ไปก็ไม่มีผลอะไรร๊อกก .... ก็ ทีมงาน มันห่วยนี่นา  5555

[วิหค อัสนี]

ประวัติบทสวดคัมภีร์อุปปาตะสันติ หรือ มหาสันติงหลวง (จาก OK Nation)

     อุปปาตะสันติง ทางเมืองเหนือเรียกว่า มหาสันติงหลวง แปลว่า บทสวดเพื่อสงบ

เคราะห์กรรม สวดเพื่อสงบอันตราย สวดเพื่อสงบเหตุร้าย และสวดเพื่อสงบสิ่งที่กระทบกระเทือน

     อุปปาตะสันติแยกเป็น ๒ คำ คือ อุปปาตะ และ สันติ

     อุปปาตะ แปลว่า เคราะห์กรรม เหตุร้าย อันตราย และสิ่งกระทบกระเทือน

     สันติ แปลว่า สงบ

อานิสงส์การสวดและการฟังอุปปาตะสันติง มีคุณประโยชน์กล่าวไว้ในท้ายคัมภีร์ดังนี้

     ๑     ผู้สวดหรือผู้ฟัง ย่อมชนะเหตุร้ายทั้งปวงได้ และมีวุฒิภาวะคือ ความเจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ และปฏิภาณ

     ๒     ผู้สวดหรือผู้ฟัง ย่อมได้ประโยชน์ที่ตนต้องการคือ ผู้ประสงค์ความปลอดภัยย่อมได้รับความปลอดภัย คนอยากสบายย่อมได้ความสุข คนอยากมีอายุยืนย่อมได้อายุยืน คนอยากมีลูกย่อมได้ลูกสมประสงค์

     ๓     ผู้สวดหรือผู้ฟัง ย่อมไม่มีโรคลม เป็นต้น มาเบียดเบียน ไม่มีอกาลมรณะคือตายก่อนอายุขัย ทุนนิมิตคือ ลางร้ายต่างๆมลายหายไป

     ๔     ผู้สวดหรือผู้ฟัง เมื่อเข้าสนามรบย่อมชนะข้าศึกทั้งปวง และแคล้วคลาดจากอาวุธทั้งปวง

     การสวดอุปปาตะสันติงเป็นประจำ มีเดชดังนี้

     ๑     อุปปาตะ คือเหตุร้ายหรือสิ่งกระทบกระเทือนอันเกิดจากแผ่นดินไหวเป็นต้น ย่อมพินาศไป

     ๒     อุปปาตะ คือเหตุร้ายหรือสิ่งกระทบกระเทือนอันเกิดจากลูกไฟที่ตกจากอากาศหรือสะเก็ดดาว ย่อมพินาศไป

     ๓     อุปปาตะ คือเหตุร้ายหรือสิ่งกระทบกระเทือนอันเกิดจากจันทรุปราคาหรือสุริยุปราคาเป็นต้น ย่อมพินาศไป


--------------------------------------

ช่วงนี้ใครว่างก็ช่วยกันหน่อยนะครับ download บทสวดทั้งเล่มได้ที่นี่:

http://wadthai.info/eBooks/Upatasanti.pdf

[almondflavor]

เจ้าของกระทู้หายไปไหน ไม่มาตอบซักที

ปั่นกระทู้แล้วไปหรือไง......เซ็งจิต

[NuMor]

มาตามอ่านค่ะ เป็นคนที่สนใจด้านโหราศาสตร์วิชาการเช่นกัน เคยเรียนมานิดหน่อยด้วย ยากนะคะ ทั้งการเรียงดาว ที่ยากกว่าคือการตีความอ่ะ

เรือนหนึ่ง ดาวดวงหนึ่งตีความได้ร้อยอย่าง แถมต้องตีความจากเรือนอื่นๆ หรือดาวอื่นๆ ที่มามีอิทธิพลด้วย

ใครตีความได้เก่งๆ นี่เรียกว่า เป็นนักโหราศาสตร์ยอดเยี่ยมเลย 



อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่แบบหมอดูทั่วไปน่ะ มันก็เป็นวิชาทางสถิติดวงดาว ก็มีผิดบ้าง ถูกบ้างไปค่ะ เราชอบดูเป็นแนวทางนักแล ถ้ายิ่งมีความรู้บ้างนี่ ตอนไปดูกับหมอดู ถ้าหมอมั่วนี่รู้เลย ถ้าหมอคนไหนเก่งจริงๆ นี่ก็ทายได้ตาเห็นจริงๆ แม้จะไม่ตรงทุกอย่าง เพราะการตีความมันยากจริงๆ ค่ะ


คุณพ่อเราก็เป็นนักโหราศาสตร์ ทำนายเหมือนกันค่ะว่า หลังวันที่ 2 หรือ 9 สิงหานี่เเหละ ดาวอังคารเป็นอริดวงเมือง ก็ดูกันต่อไปค่ะ


เจ้าของกระทู้ว่าไงคะ ดาวอังคารเป็นอย่างไรคะช่วงนี้

[อิรวันชาห์ IrWanSyah]

โหร คมช. และหมอลักษณ์ที่เคยเดาว่าสมัครจะไม่ได้เป็นนายกหรืออยู่ได้นานไม่เกินหกเดือน หนีไปหลบลงรูแย้ที่ใหนแล้วหละ 

[333Unit]

(....ต่อจากเมื่อวานนี้...)

เมื่อนำดวงสุริยาตรมาสนธิเป็นดวงชะตากำเนิดในระบบจันทรวิถี(ปฏิจสมุปบาท) จะได้ตำแหน่งดาวดังนี้

[333Unit]

ท่านที่สนใจด้านโหราศาสตร์ แต่ไม่ชินกับการสัมปยุตแบบระบบจันทรวิถีโปรดทราบว่า ....

วงกลมด้านใน คือ ดวงชะตากำเนิดของนายสมัคร ซึ่งสนธิตามระบบจันทรวิถี
วงกลมด้านนอก คือเวลาปรากฏการณ์จันทรคราสในวันที่ 17 สิงหาคม พุทธศักราช 2551
 
การวิเคราะห์ - ตีความ จะนำเอาความสัมพันธ์โดย ตำแหน่ง- หน้าที่ - ความหมาย ของดวงดาว โดยจะใช้ดวงกำเนิดเป็นหลัก และจะชี้ให้เห็นถึงปฏิกริยาเมื่อดาวทำปฏิสัมพันธุ์กัน ในที่นี้จะเอาเฉพาะดาวหลัก ๆ พื้น ๆ ที่คนทั่ว ๆ ไปที่เพิ่งจะเริ่มศึกษาโหราศาสตร์ ก็สามารถเข้าใจได้ (จะไม่อ้างถึง โยค เล็ง ฯลฯ ให้ผู้ที่ยังไม่เชี่ยวชาญปวดหัว..ซึ่งท่านที่มีความรู้ลึกซึ้งอยู่แล้วคงจะพิจารณาเองได้)

จะกล่าวเฉพาะแบบพื้นฐาน เห็นได้ชัด ไม่ต้องใช้ความชำนาญลึกล้ำ แต่ประการใด และจะยึดอยู่บนหลักวิชาการ เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับศึกษาค้นคว้าในวัน
ข้างหน้า  หากคุณ ๆ พร้อมแล้วตามมาเลย....

[333Unit]

........ตามหัวข้อกระทู้ได้กล่าวไว้อย่างชัดเจนว่า " สมัคร ชะตาขาด" โดยหลักโหราศาสตร์แล้วก็ต้องพิจารณาที่ ลัคนาจร(ตัวS) จะเห็นว่า ได้จร(เคลื่อนที่)ไปอยู่ที่ภพวินาศน์ ซึ่งมี ดาวราหู (เครื่องหมายOmega)อยู่ที่ภพ 12 ซึ่งจัดว่าเป็นตำแหน่งที่ราหูมีกำลังที่สุด (ราหูจะมีกำลังสุด ๆ ที่ภพ 6,8,12 หรือ เป็น อริ มรณะ วินาศ กับเจ้าชะตา) เรียกง่าย ๆ ว่า ราหูคือโจร และตำแหน่งทั้ง 3 ที่กล่าวนี้ก็เรียกว่า "ซ่องโจร" หรือชุมโจร (ในที่นี้ยังบ่งถึงสันดานของเจ้าชะตา ว่าเป็นคนที่เก็บความร้ายไว้อย่างลึกซึ้ง..ประเภทเสือร้ายในคราบผู้ดี)
 
นอกจากนั้น จุดจักพรรดิ์(G =Great) ซึ่งกุมลัคนากำเนิดก็เข้าสู่จุดวินาศด้วยในเวลาเดียวกัน จะเห็นได้ว่า G จุดจักพรรดิ์(Great)ของนายสมัครกุมชะตามาตั้งแต่เกิด ทำให้นายสมัครเกิดเป็นลูกพระยา อยู่ในฐานะเศรษฐีไม่ลำบากยากแค้น แต่คนมันถึงคราว เคราะหามยามซวย จุดจักพรรดิ์พร้อมกับลัคนาจรก็มีอันต้องเข้าสู่ภพวินาศซะงั้น เปรียบง่าย ๆ ให้เข้าใจสั้น ๆ เหมือนลูกสาวเศรษฐีที่แสนสวย แต่เสือกซวยเดินเข้าไปในซ่องโจร อะไรมันจะเกิดขึ้น....??? !! คิดเอา คิดเอา...!!

สวยก็สวย รวยก็รวย แถมผู้หญิงคนเดียว โจรเป็นร้อย...จะเรียกว่า " ชะตาขาด" ไหมล่ะ ? นี่คือสภาพที่เกิดขึ้น และสภาพที่นายสมัครจะต้องพบ และต้องรับสภาพนี้ตามปฏิกริยาของดาวดังกล่าวนั้น  นี่ว่ากันถึงภพวินาศ (หมายเลข12)

[333Unit]

........ณ เวลาที่เกิดคราส จะเริ่มตั้งแต่ 02:36:15 am ตามเวลาประเทศไทย และไล่เรื่อยไปจนถึงตอนเช้า จุดมหาอำนาจ() ก็จะเคลื่อนตามไปด้วย 2 ชม/ช่อง ในที่นี้จุดมหาอำนาจกำเนิดเดิมซึ่งให้คุณแก่เจ้าชะตาเป็นอย่างยิ่ง จึงเคลื่อนที่ไปด้วย

ในที่นี้ขออธิบายสักหน่อย จะเห็นได้ว่านายสมัครเป็นคนที่เกิดมาโชคดีมาก คือ มีจุดมหาอำนาจจุดมหาอำนาจ()กุมกับอาทิตย์() นั่นหมายถึงบิดามีอำนาจบารมี(เป็นพระยา) ทั้งยังส่งผลถึงดาวพุทธ () หมายถึงคำพูด ทำให้นายสมัครเป็นคนที่พูดแบบคนมีอำนาจ หรือพูดแบบวางอำนาจ(พูดแบบนักเลงไม่กลัวใคร) และด้วยคำพูดนี้แหละส่งให้นายสมัครเป็นหัวหน้า ซึ่งในที่สุดเป็นได้ถึงนายกก็เพราะคำพูด ซึ่งจะเห็นว่าอาทิตย์()  หมายถึงผู้นำ หัวหน้า ดาวพุทธ()  หมายถึงคำพูด และมีจุดมหาอำนาจ()  ร่วมกันอยู่ใน ภพปุตตะ(หมายเลข 5) ซึ่งหมายถึงความสำเร็จสูงสุดของชีวิต จะมาจากคำพูด แต่เนื่องจากเป็นการคาบเกี่ยวของราศีพฤษภหมายถึงควายมีเขา ก็กลายเป็นคำพูดที่ต้องทิ่มแทงขวิดฝ่ายตรงข้าม

.......และดาวพุทธ()อยู่ในราศีมิถุนหมายถึง นิติศาสตร์ นิติกรรมสองฝ่าย อันก่อให้เกิดปฏิสัมพันธ์ โอน สงวน หรือระงับซึ่งสิทธิ์ จะเห็นได้ว่า นายสมัครจบนิติศาสตร์ และในการพูดจะอ้างหลักกฏหมาย หรือใช้แนวทางของนักกฏหมายมาประกอบการพูดเสมอ นี่เป็นสิ่งพิสูจน์ถึงปฏิกริยาของดวงดาวที่เป็นปัจจัยสร้างชีวิตของบุคคลให้เป็นไปตามสภาพโดยไม่มีวันเปลี่ยนแปลงได้ ดังตัวอย่างของนายสมัครนี้

.....ดังได้กล่าวแล้วว่าจุดมหาอำนาจ ซึ่งให้คุณยิ่งแก่นายสมัครใน ภพปุตตะซึ่งแปลว่าความสำเร็จ ณ วันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ.2551 ได้จร(เคลื่อนที่) ไปเป็นอริ(ภพที่6) คือ เป็นศัตรูกับเจ้าชะตา นั่นหมายความว่าอย่างไร หมายความว่า ศัตรูมีอำนาจเหนือเจ้าชะตา คือนายสมัคร และเมื่อพิจารณาให้ดี จะเห็นว่าจุดมหาอำนาจนั้นกุมสนิทกับดาวเกษ  หมายถึงกรรมเก่า ซึ่งโบราณเรียกว่า "หมดบุญ" ก็เพราะลักษณะดาวเยี่ยงนี้ โปรดจำไว้ให้ดี หากป่วยก็นิมนต์พระสวดได้ เพราะอริหมายถึงโรคภัย มีกำลังแรง = ซี้แหงแก๋
....!!!

[333Unit]

>>>>>> คน หรือจะสู้ฟ้าลิขิต <<<<

 ชีวิตคนไม่ว่ารวยจนก็หนีไม่พ้นวาระสุดท้าย ต่างกันแต่ว่าจะจบแบบไหน "สวย...หรือ ...ซวย" เท่านั้นเอง คนเราเมื่อฟ้าไม่ส่งเสริม ชะตาก็จุ๊ดจู๋ ขอให้ดูดวงชะตานี้เป็นตัวอย่างว่า  "คนถึงฆาต" มีลักษณะอย่างไร ?

>>>> โปรดดูภาพดวงดาวภายในวงสีแดง จะเห็นว่า ....ที่ ภพมรณะ(ช่องหมายเลข .

ดาวอาทิตย์  หมายถึง ชีวิต แสงสว่าง(ซึ่งเดิมอยู่ที่5=ความสำเร็จ) จรเข้ามาอยู่ในภพมรณะ แปลว่า จากไป สิ้นสุด 
ดาวศุกร์  หมายถึงการเงิน ทรัพย์สิน สิ่งที่รัก สิ่งที่ชอบ จรเข้ามาอยู่ในภพมรณะ แปลว่า จากไป สิ้นสุด
ดาวพุทธ ซึ่งเดิมให้ความสำเร็จแก่เจ้าชะตา จรเข้ามาอยู่ในภพมรณะ แปลว่า จากไป สิ้นสุด
ดาวเสาร์ ซึ่งหมายถึงรากฐาน ที่ดิน ที่อยู่อาศัยถาวร จรเข้ามาอยู่ในภพมรณะ แปลว่า จากไป สิ้นสุด


ที่ยิ่งไปกว่านั้น 2 คู่ที่ส่งพลังรุนแรงยิ่ง ให้ความเลวร้ายทวีคูณมากเป็นพันเ่ท่า ก็คือ
.......ดาวศุกร์กับดาวพุทธ คู่ธาตุน้ำ เป็นมรณะ หมายถึงทรัพย์สิน สิ่งที่รักทั้งหลายสูญสลายไปเหมือนสายน้ำที่ไม่มีวันไหลคืนกลับมา
.......อาทิตย์กับเสาร์ คู่ธาตุ หมายถึงสิ่งที่ได้สร้างเป็นถาวรวัตถุ อสังหาริมทรัพย์ใด ๆ ที่มีก็จะปราศจาก พลัดพรากจากไป เปรียบดังลูกกำพร้าที่พลัดหลงกับพ่อในความมืดมิดของรัตติกาล

จุดที่เข้ามาซ้ำเติมก็คือจุดTrouble(ตัว T) ซึ่งนอนหลับมานับเจ็ดสิบปี ก็ได้กำลังจากดวงดาวหลัก ๆ ทั้ง 5 คือ ++++ ซึ่งแห่แหนนำเอาจุดTrouble  (T= ปัญหาที่ยากต่อการแก้ไข) มาปลุกให้มีกำลังฟื้นคืนชีพมาอีกครั้ง เรียกว่า "ซวยซ้ำสอง" คล้ายกับคนถูกยิงจนพรุนแต่ยังไม่ตาย ดันเสือกหงายท้องตกสะพานหัวกระแทกถนน กะโหลกร้าวดิ้นอีกหลายตลบก่อนตาย เจ็บซ้ำซากแต่ทรมาน
.....จากลักษณะดวงดาว ที่เข้ามาประชุมกันในภพมรณะนั้น บอกได้คำเดียวสั้น ๆ ว่า " ถึงฆาต"

เออ...แล้วมาจากเรื่องอะไรล่ะ ??

ก็ลองกลับไปดูที่ภาพใหม่ ตรงที่มีลูกศรสีฟ้าลากเส้นไว้ นั่นเรียกว่า ดาวอังคาร ซึ่งเดิมอยู่ในภพมรณะ(ไม่มีอำนาจ) ก็เกิดฟื้นคืนชีพ ไปอยู่ในภพศุภะ(9) หมายถึง ชื่อเสียงเกียรติยศ  เจ้าดาวอังคาร นี้เป็นเครื่องหมายของทหาร หรืออาวุธ เมื่อมาจากภพมรณะ(สูญเสีย-จากไป)ไปอยู่ในภพศุภะ(ชื่อเสียง-เกียรติยศ) ก็แปลได้อย่างเดียวว่า "ถูกปล้น-ถูกจี้"

..... แต่ในขณะนี้นายสมัครเป็นนายกรัฐมนตรี มันเป็นไปไม่ได้ที่จะถูกจี้ถูกปล้น นอกจาก " ถูกปฏิวัติ " หรือ " ถูกจี้ให้ออกจากตำแหน่ง แล้วเนรเทศออกไปนอกประเทศ "(เพราะดาวมรณะหมดทุกดวง=อธิบายแล้ว)

[333Unit]

......ทีนี้มาดูซิว่า จะมีทางแก้ไขไม่ให้ถึงฆาต...ได้ไม๊ ? (โดยไม่ต้องพึ่งหมอไสยศาสตร์ปากห้อย ชื่อพม่า พูดเขมร)

ในที่นี้ให้ดูในช่องที่ 10 ของดวงด้านใน จะเห็นดาวพฤหัส ช่อง10หรือภพ10 นี้หมายถึงการงาน ดาวพฤหัส=ผู้ใหญ่-ผู้อุปถัมภ์ หรือหากแปลแบบร่วมสมัยไม่ตกยุคก็ต้องแปลใหม่ว่า ผู้ใหญ่=นายใหญ่    ผู้อุปถัมภ์=นอเมนี่ ที่อุปถัมภ์ให้คุณได้งาน ได้ตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ในขณะนี้ ...ยังงี้คงชัดหน่อย(ไม่ได้นอกเรื่อง...ยังอยู่ในหลักวิชาการนะ...ขอบอก !) 

ดาวพฤหัสนี้ได้จร(เคลื่อนที่) มาทับจุดจักพรรดิ์กำเนิดGช่องหมายเลข1 โหราศาสตร์เรียก " ภพตนุ=เจ้าชะตา"(อันนี้ชัดเลยว่า ผู้ใหญ่คนที่จะช่วยได้ ก็คือคนที่อยู่เบื้องหลังเก้าอี้นายก คอยชี้นิ้วสั่งให้คุณเล่นตามบทอยู่ในขณะนี้นี่แหละ ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก ...นี่ว่ากันตามดาว...ท่านที่มีความรู้ด้านโหราศาสตร์โปรดพิจารณาตามไปจะเห็นแบบ ใสสสสส นะจ๊ะ !! เลยแหละ)

โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี .... อยากรอด ก็ต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยน..!!.

ลองตามไปดูซิว่านายสมัครจะหนีให้พ้น "ชะตาขาด" นั้นจะใช้วิธีัการอย่างไร ?

....พิจารณาตามภาพนี้ >จะเห็นว่าภายในวงแดง นั้นมี

ดาวราหู = โจร, ต่างประเทศ ซึ่งจรมาจากวินาศ เข้ามาสู่ภพกุมภะ(2) หมายถึง การได้มา แปลความได้ว่า รับโจรเข้าบ้าน หรือรู้เห็น เป็นต้นทางให้โจรเข้าปล้น
ดาวเนปจูน = น้ำมัน-ทะเล   
ดาวไซร่อน=ชายแดน-ดินแดนขอบประเทศ
เมื่อแปลความหมายโดยรวมก็คือ ยอม หรือ รู้เห็นเป็นใจเสียดินแดนหรือพื้นที่ในทะเลซึ่งอยู่ชายแดนที่เป็นแหล่งน้ำมันแก่ต่างชาติ จึงจะรอดพ้นจากหายนะ หรือชะตาขาดนี้ได้.... มีทางเดียวเท่านั้น เพราะอยู่ในภพกดุมภะ= การได้มา หรือ สิ่งที่ทำแล้วได้ผล....ของดวงชะตานายสมัคร พร้อมทั้งเป็นภพกดุมภะ(เป็น ภพที่ 2=นับจากดาวพฤหัส)= การได้มาของนายใหญ่ ในเวลาเดียวกันด้วย

........ที่ควรสังเกตุคือดาวจันทร์ ซึ่งถือว่าเป็นดาวให้คุณยิ่งต่อชะตา เข้าไปอยู่ในมรณะนวางค์ของราศีกุมภ์ซะอีกด้วย จันทร์หมายถึงศักดิ์ศรี เป็นมรณะ=สิ้นสุด,หมด รวมความว่า "หมดศักดิศรี" หรือ " สิ้นลาย " เพราะนอกจากจันทร์จะถูกดาวราหูกุมเป็นคราส โดยสภาพแล้ว

ที่สำคัญที่สุดคือ ดาวจันทร์กำเนิดอันให้คุณยิ่ง(เพ็ญ+เกษตร+พฤหัสมหาอุจน์) เข้าสู่จุดมรณะนวางค์ แปลได้ความว่า การสิ้นสุด,สูญเสีย ความรุ่งโรจน์ อย่างถาวร นี่คือจุดจบ และบทบาทสุดท้ายของลูกผู้ชายที่ชื่อ " สมัคร "

...................และเมื่อถึงเวลานั้น ก็จะเกิดมีคำถามเล็ก ๆ ในหัวใจชาวไทยทั้งหลายว่า......
จะเอารัฐบาลสมัครไว้   โดยยอมให้ประเทศไทยเสียแผ่นดิน หรือเปล่า ??

""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""
ref::Secret Doc>nonlaw.com

[qazwsx]

~~~~~~~~~~~~~~~
..................และเมื่อถึงเวลานั้น ก็จะเกิดมีคำถามเล็ก ๆ ในหัวใจชาวไทยทั้งหลายว่า......
จะเอารัฐบาลสมัครไว้   หรือ จะยอมให้ประเทศไทยเสียแผ่นดิน ???

อ่านมาตั้งนาน
จู่ ๆ จขกท. ก็สรุปเอาดื้อ ๆ ว่า "( รัฐบาล ) สมัคร = แผ่นดินประเทศไทย"

แหม...อุบไต๋เสียนาน 
พอถึงเวลาแบไต๋  กลับ "แผ่หราอ้าซ่า"
ทำซะหมดราคาเชียวนะ...ตะเองงงงงง...

 

[333Unit]

เรียนคุณqazwsx
ขอบคุณเป็นอย่างยิ่งที่ตรวจทานคำผิด (ถ้าไม่บอกขายหน้าแย่เลย...!!)

แก้ไขแล้วจ้า..... ตามนี้...

...................และเมื่อถึงเวลานั้น ก็จะเกิดมีคำถามเล็ก ๆ ในหัวใจชาวไทยทั้งหลายว่า......
จะเอารัฐบาลสมัครไว้   โดยยอมให้ประเทศไทยเสียแผ่นดิน หรือเปล่า ??

................................

ขอบคุณอีกครั้งด้วยใจจริง

[qazwsx]

เหอ ๆๆ
ใช้สัณธานและสังกรประโยคผิดไปนิดเดียว
...กลายเป็นเรื่องเรยยยย
 

แต่ก็นับว่าเป็นตัวอย่างให้ศึกษาในวิชาภาษาไทยที่ดีนะ

[ลูกหินฮะ๛]

เอ่อ.@!

พี่ฮะ..ดู เนื้อคู่ ด๊ายด๊วยป่าวฮะ ???
 

    

[almondflavor]

โห........อ่านมาตั้งนาน คำถามสุดท้ายไม่เห็นต้องถามเลย

คำตอบตอบได้เลยโดยไม่ต้องคิด จนถึงวันนี้ไม่เห็นมันตายสักที....

โดยส่วนตัวแล้วถ้าถามว่าคิดว่าใคร "เลว ชั่ว"กว่ากัน

เราว่าสมัครนี่แหละ เลวหยั่งรากลึก อยู่ในหัวใจเลยแหละ

มันสามารถทำให้คนฆ่ากันได้ตั้งแต่อายุยังน้อย เหยียบหัวคนตลอด

ตระกูลธรรมวัฒนะ ต้องเป็นไปเพราะใคร ใครเป็นทนายให้ตระกูลนี้

ใจคอโหดร้ายทารุณ ตั้งแต่หนุ่มจนถึงใกล้จะเข้าโลง

อยากเห็นมันตายในสภาพเดียวรูปที่เราเห็นตอนเดือน ตุลา ที่ตีจนตาย

เอาศพมันมาแล้วแขวนแล้วตีศพซ้ำไปซ้ำมา

แล้วเอาไม้ทะลวงเหมือนที่มันทำกับนักศึกษาหญิง

ภาพพวกนั้นเป็นภาพที่ขึ้นมาในหัวตลอดเวลาที่เห็นหน้ามัน

เราถึงไม่สามารถดูรายการมันได้เลย เห็นหน้ามันแล้ว

จะอาเจียน

[พรรณชมพู]

นับถือๆ เขียนคำพยากรณ์โดยสามารถแทรกรูปเข้าไปในคำพยากรณ์ได้เพื่อความชัดเจนในการอ่าน เป็นความพยายามที่น่านับถือจริงๆ  ขอบคุณค่ะ 

ฝากดูอีกหนได้ไหมคะ เพราะอ่านคำพยากรณ์แล้วเห็นระบุไว้ว่า นายสมัครเป็นคนราศ๊มังกร แต่เคยเห็นเหมือนกันว่ามีหมอดูทายไว้วว่าเขาเป็นคนราศีเมษ ถ้าสมัครเป็นคนราศีเมษล่ะคะ คำพยากรณ์จะว่าอย่างไร 

[BERSERK]

เห็นหน้ามันแล้ว

จะอาเจียน

..........เห็นด้วย

[วิหค อัสนี]

นับถือๆ เขียนคำพยากรณ์โดยสามารถแทรกรูปเข้าไปในคำพยากรณ์ได้เพื่อความชัดเจนในการอ่าน เป็นความพยายามที่น่านับถือจริงๆ  ขอบคุณค่ะ 

ฝากดูอีกหนได้ไหมคะ เพราะอ่านคำพยากรณ์แล้วเห็นระบุไว้ว่า นายสมัครเป็นคนราศ๊มังกร แต่เคยเห็นเหมือนกันว่ามีหมอดูทายไว้วว่าเขาเป็นคนราศีเมษ ถ้าสมัครเป็นคนราศีเมษล่ะคะ คำพยากรณ์จะว่าอย่างไร 

การจะบอกว่า "คนๆ นั้น เป็นชาวราศีอะไร?" ในทางโหราศาสตร์สากล มักจะอ้างอิงจากตำแหน่งราศีของ "ดวงอาทิตย์" กำเนิด ส่วนทางโหราศาสตร์ไทย-อินเดีย จะอ้างอิงจาก "ลัคนา" กำเนิดเป็นหลักครับ

[แอ่นแอ๊น]

มาลงชื่ออ่านค่ะ สนุกดี

ว่าแต่ วางดวงเมืองด้วยป่ะคะ อยากรู้ว่าดวงเศรษฐกิจประเทศจะเป็นยังไง หลังจากหมักชะตาขาด อิอิ 

[บัวริมบึง]

โอ้...สนุกๆๆ อ่านแล้วได้ความรู้ดีครับ 

[333Unit]

เรียน คุณพรรณชมพู

.....ที่บอกว่ามีผู้พยากรณ์บางคนว่า ลัคนานายสมัครอยู่ราศีเมษ นั้น คงจะเป็นดวงชะตาแบบ "นวางค์จักร"(ดูภาพด้านบน...ลงไว้ให้แล้ว) การพยากรณ์ดวงนวางค์จักร จะเป็นการเจาะลึกเข้าไปใน "สันดาน" หรือ สิ่งลับ ๆ ความคิด แผนการณ์ลึก ๆ ที่วางไว้ในใจ ...ซึ่งคิดว่าเป็นการก้าวล่วงสิทธิส่วนบุคคลเกินไป จึงไม่นำมาวิจารณ์ในที่นี้=ไม่ได้ประโยชน์ใดกับชนในชาติ
... แต่ตามลัคนาเวลาเกิด ไม่ว่าจะสมผุส สนธิด้วยระบบใด ก็จะอยู่ที่ราศีกรกฏ จะผิดกันก็อยู่ที่ตำแหน่งของดวงดาวเท่านั้น ซึ่งจะทำให้การวิเคราะห์สภาพ ปฏิกริยาของดวงดาว ผิดแผกกันไป(เพราะโหราศาสตร์เหมือนกับวิชาเคมี-ไฟฟ้า ต้องเอามาผสม-เชื่อมโยงวงจรกันเพื่อดูผลของปฏิกริยา)

อ้อ.. มีแถมนิด คือ ระบบสุริยาตร มีไว้สำหรับตรวจสภาพธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม เช่นฤดู ร้อน หนาว ฝน การทำกสิกรรม เริ่มเป็นทางการในสมัยพระยาลิไท (ประเทศไทยก้าวหน้ากว่าฝรั่ง เพราะตั้งกรมอุตุนิยมวิทยามาก่อนเกือบ600ปี) ใช้คัมภีร์สุริยาตรคำนวณการทำนา เรียกว่า "เกณฑ์พิรุณศาสตร์" ไม่ได้ไว้ใช้ดูชีวิตคน
ระบบจันทรวิถี เป็นระบบที่คำนวณการโคจรของดวงจันทร์ อันนี้ไว้สำหรับตรวจชีวิต พฤติกรรม และความเป็นไปของมนุษย์ คัมภีร์ที่ใช้ประกอบคือ "จันทรทีปนี" มีคำอธิบายอยู่ใน "ไตรภูิมิกถา(ไตรภูมิพระร่วง)" รจนาโดย สมเด็จพระมหาเถรศรีสัทธาจุฬามุนีลงกาทีปมหาสามี สังฆราชกรุงสุโขทัย ทั้งนี้เพราะอิทธิพลของดวงจันทร์มีต่อมนุษย์โดยตรง(พิสูจน์แล้วว่าจริงโดยนักวิทยาศาสตร์และการแพทย์ปัจจุบัน) ซึ่งไม่ว่าจักวาฬจะขยายตัวไปขนาดไหน แต่วงโคจรของจันทร์จะไม่เปลี่ยนไปเพราะเป็นบริวารของโลก ตัวอย่างอิทธิพลดวงจันทร์ต่อโลกที่เห็นชัดคือ น้ำขึ้นน้ำลง "เลือด ในกายมนุษย์" ก็เป็นน้ำ ดังนั้นระบบการสูบฉีดโลหิตจึงเปลี่ยนไปตามการโคจรของดวงจันทร์ด้วย และ ส่งผลให้เป็นอารมณ์และพฤติกรรมมนุษย์ โดยสภาวะการโคจรดังกล่าว
... ต่อมายุค ร.4 ได้มีการเปลี่ยนแปลงระบบโหราศาสตร์ไทยใหม่ ทั้งปฏิทินต่าง ๆ ทั้งหมด ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบเหตุการณ์อนาคตได้ (แม้กระทั่งเหตุการณ์สำคัญของชาติ ที่ไทยจะเสียดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ฯลฯ ก็ไม่มีปรากฏคำพยากรณ์ หรือจารึกจดหมายเหตุหลวงใด ๆ ว่ามีการพยากรณ์ไว้เลย ก็เพราะใช้ระบบคำนวณผิดนั่นเอง)
 
หวังว่าข้อมูลดังกล่าวนี้ คงจะให้ควากระจ่างกับคุณได้บ้าง

"""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""
เรียนคุณแอ่นแอ๊น
ดวงเมืองที่สัมปยุตกับดวงสุริยคราส ได้นำภาพขึ้นไว้ให้แล้ว แต่ขอบอกก่อนว่า ดวงเมืองกรุงเทพฯ ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนั้น ส่วนใหญ่แล้วนัำกพยากรณ์จะพลาดเพราะไม่ได้ศึกษาประวัติศาสตร์รัตนโกสินทร์
... เพราะว่า ร.4 ได้ขุดเสาหลักเมืองเดิมทิ้งไป แล้วย้ายที่ตั้งเสาหลักเมืองใหม่ โดยใช้ตำหรับปักขณาที่คิดขึ้นมา(วันเวลาที่ตั้งกรุงรัตนโกสินทร์สมัย ร.1 จึงใช้พยากรณ์ปัจจุบัน-อนาคต ไม่ได้) ผลจากการขุดเสาหลักเมือง เป็นผลให้ ไทยเสียดินแดนต่อเนื่องมาโดยตลอด ศาลหลักเมืองที่เห็นเป็นของใหม่ที่สร้างสมัย ร.4 หากโหรท่านใดจะตรวจชะตาเมือง ก็ต้องใช้วัน เวลา ที่ฝังเสาหลักเมืองใหม่นี่แหละ จึงจะสามารถพยากรณ์อนาคตประเทศไทยได้

ก็คงมีคำถามจากคุณอีกว่า ....แล้ว..เรามีไหม ? ตอบว่ามี...?
แล้วหากถามว่า ต่อไปเศรษฐกิจ ประเทศจะเป็นยังไง ? บอกได้ว่า IMF ปี 40 น่ะแค่น้อง ๆ  เพราะมีปัจจัยอื่นที่ไม่สามารถเขียนในที่นี้ได้...หวังว่าคงเข้าใจ !

[drop]

อ่านมาตั้งนาน
จู่ ๆ จขกท. ก็สรุปเอาดื้อ ๆ ว่า "( รัฐบาล ) สมัคร = แผ่นดินประเทศไทย"

แหม...อุบไต๋เสียนาน 
พอถึงเวลาแบไต๋  กลับ "แผ่หราอ้าซ่า"
ทำซะหมดราคาเชียวนะ...ตะเองงงงงง...

 

ทำไม ไม่แฉกระทู้  ความจริงเรื่อง ปตท  บ้างล่ะ
ขนาดโพสต์เรือลำน้ำ เมกา มาขู่คนไทยเลย

ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ พอเหลาลงไป กลายเป็นบ้องกัญชา
hack  secret, sunny 
เนีนยมากเรื่องขายชาติ ขายแผ่นดิน

 

[คนไทยคนหนึ่ง]

ดูดาวจร วันที่ 17 สิงหา ตอนเจอจันทรคราสอีกดอก ให้ด้วยสิครับ

เจอดอกนี้ไม่น่ารอด

[พรรณชมพู]

เรียน คุณพรรณชมพู

.....ที่บอกว่ามีผู้พยากรณ์บางคนว่า ลัคนานายสมัครอยู่ราศีเมษ นั้น คงจะเป็นดวงชะตาแบบ "นวางค์จักร"(ดูภาพด้านบน...ลงไว้ให้แล้ว) การพยากรณ์ดวงนวางค์จักร จะเป็นการเจาะลึกเข้าไปใน "สันดาน" หรือ สิ่งลับ ๆ ความคิด แผนการณ์ลึก ๆ ที่วางไว้ในใจ ...ซึ่งคิดว่าเป็นการก้าวล่วงสิทธิส่วนบุคคลเกินไป จึงไม่นำมาวิจารณ์ในที่นี้=ไม่ได้ประโยชน์ใดกับชนในชาติ
... แต่ตามลัคนาเวลาเกิด ไม่ว่าจะสมผุส สนธิด้วยระบบใด ก็จะอยู่ที่ราศีกรกฏ จะผิดกันก็อยู่ที่ตำแหน่งของดวงดาวเท่านั้น ซึ่งจะทำให้การวิเคราะห์สภาพ ปฏิกริยาของดวงดาว ผิดแผกกันไป(เพราะโหราศาสตร์เหมือนกับวิชาเคมี-ไฟฟ้า ต้องเอามาผสม-เชื่อมโยงวงจรกันเพื่อดูผลของปฏิกริยา)

อ้อ.. มีแถมนิด คือ ระบบสุริยาตร มีไว้สำหรับตรวจสภาพธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม เช่นฤดู ร้อน หนาว ฝน การทำกสิกรรม เริ่มเป็นทางการในสมัยพระยาลิไท (ประเทศไทยก้าวหน้ากว่าฝรั่ง เพราะตั้งกรมอุตุนิยมวิทยามาก่อนเกือบ600ปี) ใช้คัมภีร์สุริยาตรคำนวณการทำนา เรียกว่า "เกณฑ์พิรุณศาสตร์" ไม่ได้ไว้ใช้ดูชีวิตคน
ระบบจันทรวิถี เป็นระบบที่คำนวณการโคจรของดวงจันทร์ อันนี้ไว้สำหรับตรวจชีวิต พฤติกรรม และความเป็นไปของมนุษย์ คัมภีร์ที่ใช้ประกอบคือ "จันทรทีปนี" มีคำอธิบายอยู่ใน "ไตรภูิมิกถา(ไตรภูมิพระร่วง)" รจนาโดย สมเด็จพระมหาเถรศรีสัทธาจุฬามุนีลงกาทีปมหาสามี สังฆราชกรุงสุโขทัย ทั้งนี้เพราะอิทธิพลของดวงจันทร์มีต่อมนุษย์โดยตรง(พิสูจน์แล้วว่าจริงโดยนักวิทยาศาสตร์และการแพทย์ปัจจุบัน) ซึ่งไม่ว่าจักวาฬจะขยายตัวไปขนาดไหน แต่วงโคจรของจันทร์จะไม่เปลี่ยนไปเพราะเป็นบริวารของโลก ตัวอย่างอิทธิพลดวงจันทร์ต่อโลกที่เห็นชัดคือ น้ำขึ้นน้ำลง "เลือด ในกายมนุษย์" ก็เป็นน้ำ ดังนั้นระบบการสูบฉีดโลหิตจึงเปลี่ยนไปตามการโคจรของดวงจันทร์ด้วย และ ส่งผลให้เป็นอารมณ์และพฤติกรรมมนุษย์ โดยสภาวะการโคจรดังกล่าว
... ต่อมายุค ร.4 ได้มีการเปลี่ยนแปลงระบบโหราศาสตร์ไทยใหม่ ทั้งปฏิทินต่าง ๆ ทั้งหมด ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบเหตุการณ์อนาคตได้ (แม้กระทั่งเหตุการณ์สำคัญของชาติ ที่ไทยจะเสียดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ฯลฯ ก็ไม่มีปรากฏคำพยากรณ์ หรือจารึกจดหมายเหตุหลวงใด ๆ ว่ามีการพยากรณ์ไว้เลย ก็เพราะใช้ระบบคำนวณผิดนั่นเอง)
 
หวังว่าข้อมูลดังกล่าวนี้ คงจะให้ควากระจ่างกับคุณได้บ้าง

"""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""
เรียนคุณแอ่นแอ๊น
ดวงเมืองที่สัมปยุตกับดวงสุริยคราส ได้นำภาพขึ้นไว้ให้แล้ว แต่ขอบอกก่อนว่า ดวงเมืองกรุงเทพฯ ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนั้น ส่วนใหญ่แล้วนัำกพยากรณ์จะพลาดเพราะไม่ได้ศึกษาประวัติศาสตร์รัตนโกสินทร์
... เพราะว่า ร.4 ได้ขุดเสาหลักเมืองเดิมทิ้งไป แล้วย้ายที่ตั้งเสาหลักเมืองใหม่ โดยใช้ตำหรับปักขณาที่คิดขึ้นมา(วันเวลาที่ตั้งกรุงรัตนโกสินทร์สมัย ร.1 จึงใช้พยากรณ์ปัจจุบัน-อนาคต ไม่ได้) ผลจากการขุดเสาหลักเมือง เป็นผลให้ ไทยเสียดินแดนต่อเนื่องมาโดยตลอด ศาลหลักเมืองที่เห็นเป็นของใหม่ที่สร้างสมัย ร.4 หากโหรท่านใดจะตรวจชะตาเมือง ก็ต้องใช้วัน เวลา ที่ฝังเสาหลักเมืองใหม่นี่แหละ จึงจะสามารถพยากรณ์อนาคตประเทศไทยได้

ก็คงมีคำถามจากคุณอีกว่า ....แล้ว..เรามีไหม ? ตอบว่ามี...?
แล้วหากถามว่า ต่อไปเศรษฐกิจ ประเทศจะเป็นยังไง ? บอกได้ว่า IMF ปี 40 น่ะแค่น้อง ๆ  เพราะมีปัจจัยอื่นที่ไม่สามารถเขียนในที่นี้ได้...หวังว่าคงเข้าใจ !

ไม่ใช่ดวงนวางศ์จักร อะไรนั่นหรอกค่ะ เอามาให้ชมนะคะ

http://www.10luckastro.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=578605

ผู้มีวาสนาบารมีตามรัฐธรรมนูญ โดย.........สีดิน
 
เนื่องจากผมขาดความสามารถในการนำรูปแบบดวงชะตาของท่านมาลงให้ท่านดูได้ จึงขออภัยที่ต้องดัดแปลงมาใช้การบรรยายแทนดังนี้

๑๔ สถิตราศีเมษ
๖   สถิตราศีพฤษภ
๓x สถิตราศีสิงห์
๒  สถิตราศีกันย์
๕  สถิตราศีตุลย์
๗  สถิตราศีธนู
๘๙ สถิตราศีกุมภ์
๐ สถิตราศีมีน

เจ้าชะตาผู้มีวาสนาอันสูงส่งท่านนี้ เป็นชายวัยที่เลข ๗ นำหน้า คือท่านเกิดวันพฤหัสบดีที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๔๗๘ เวลาเกิดหรือเวลาตกฟากยังไม่เห็นใครยืนยันว่าเมื่อใด แต่ผมมั่ววางลัคนาของท่านไว้ในราศีเมษ ที่ผมวางไว้ตรงนี้เพราะมีประวัติส่วนตัวของท่านบังคับไว้หลายประการ ซึ่งจะบอกในตอนท้าย ๆ ของเรื่อง

ตอนนี้ขอว่ากันถึงดาวในดวงชะตาของท่านกันก่อน  ว่ามันเหมาะสมและสูงส่งตามวาสนาบารมีหรือไม่ประการใด

เรามาเริ่มต้นกันที่ดาวอาทิตย์ ๑ ที่สถิตราศีเมษ ดาวดวงนี้ได้ตำแหน่งมหาอุจจ์ และกุมลัคนา  ตรงนี้ขออธิบายนิดหนึ่งนะครับ เพราะถ้าไม่อธิบายให้ชัดเจน เดี๋ยวคนรุ่นใหม่มาอ่านเข้า มองไม่เห็น ล หรือ ส จะหาว่าผมเพี้ยน

ตามแบบของผมเมื่อผูกดวงชะตาเสร็จแล้วตกราศีอะไรให้ใส่อาทิตย์ ๑ ไว้ได้เลย เพราะเราหาลัคนามาจากราศีองศาลิปดาของอาทิตย์ ๑ ประจำวันเกิด ในทำนองเดียกัน ถ้าเอาราศีองศาลิปดาของดาวอะไรมาหาลัคน์ ก็ใช้ดาวนั้น ๆ แทนได้เลย  แต่ต้องถือ ลัคนาอาทิตย์ ๑ เป็นลัคนาประธานเสมอ ลัคนาของดาวอื่น เช่น ๒๓๔๕๖๗๘๙๐ เป็นส่วนประกอบเพื่อเพิ่มสีสันให้กับลัคนาเท่านั้น

ที่ต้องบอกอีกเรื่องหนึ่งเพื่อขจัดปัญหาการอ่านดวงทักษาผิด คือท่านผู้นี้ตามข้อมูลบอกว่าท่านเกิด ในวันพฤหัสบดี แต่เมื่อลัคนาอาทิตย์ ๑ ไปตกที่ราศีเมษ เป็นเวลาตี ๔ เศษ ๆ พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น จึงยังเป็นวันพุธ ผมก็เลยต้องยึดวันพุธเป็นวันเกิด ขอให้ท่านที่ไม่เข้าใจโปรดเข้าใจตามนี้นะครับ

ทีนี้เรามาดูกัน ในราศีเมษนอกจากอาทิตย์ ๑ แล้วยังมีดาวพุธ ๔ ซึ่งหมายถึงดาวการพูดของท่านก็อยู่ที่นั่นด้วย เรียกกันตามภาษาโหร เขาว่าดาวพุธ ๔ กุมลัคนา ดังนั้นท่านต้องเป็นคนพูดจาคล่องแคล่วว่องไว แต่ก็มีจุดบอดอยู่นิดหนึ่งตรงที่ดาวพุธ ๔ กับดาวอังคาร ๓ ซึ่งเป็นดาวเจ้าเรือนหรือเป็นดาวเจ้าบ้าน ไม่ค่อยจะกินเส้นกันสักเท่าไร ทั้งนี้เพราะตามดวงทักษา พุธ ๔ ถือว่าอังคาร ๓ เป็นดาวกาลีสำหรับตัวเอง อยู่ใกล้เมื่อไรจะมีปัญหาเรื่องการพูดทันที

นี่ก็เช่นกัน แต่เที่ยวนี้ดาวพุธที่ไม่ค่อยถูกกับอังคาร ๓ อยู่แล้ว ต้องตกไปอยู่ในบ้านในเรือนของคนที่ตนเองไม่ชอบหน้า ก็เลยต้องระวังตัวแจ ไม่ยังงั้นจะมีปากมีเสียงกับคนอื่นง่าย คือเรื่องของการพูดจาต้องคอยแตะเบรคเอาไว้บ้าง  มิฉะนั้นลาภที่ได้มาจะลอยลมหลุดจากมือเสียหมด

ดาวศุกร์ ๖ เป็นดาวเจ้าเรือนการเงิน ดาวเจ้าเรือนปัตนิของลัคนา และเป็นดาวมูลละจากดวงทักษา ได้ตำแหน่งเกษตร นั่นคือการบ่งบอกถึงฐานะเดิมของบิดามารดา ต้องไม่ใช่กระจอกงอกง่อยตามที่เราเห็นกันใต้สะพานลอยอย่างแน่นอน

สำหรับดาวเจ้าเรือนปัตนิอีกเรือนหนึ่งมองจากตนุเศษ คือราหู ๘ ราหู ๘ เป็นดาวศรีประจำวันเกิดครับ ได้ตำแหน่งเกษตรด้วย ทั้งยังเป็นดาวเจ้าเรือนลาภะ นั่นคือเจ้าชะตาผู้มีวาสนาบารมีอันถูกต้องตามกฏหมายรัฐธรรมนูญคนนี้ ต้องได้เมียดีพร้อมไปทุกด้าน จะว่ามีลาภเพราะเมียหรือมีเมียเป็นลาภก็ไม่ผิด เพราะเท่าที่ทราบตามประวัติว่าเมียมีงานทำและรายได้ดีกว่าหลายเท่าตัว และเป็นงานหลักด้วย นี่แหละที่เขาเรียกว่า ผบ.ทบ.(ผู้บัญชาการที่บ้าน) ตัวจริง

ทีนี้มาดูด้านการศึกษากันบ้างว่าคน ๆนี้เขาเป็นคนมีความรู้ระดับใด ก็ดูได้จากดาวพฤหัสบดี ๕ ดาวตัวนี้อยู่ในราศีตุลย์ เป็นราศีชั้นหนึ่ง ดาวเจ้าเรือนคือศุกร์ ๖ ก็เป็นดาวในกลุ่มดาวศุภเคราะห์ด้วยกัน ดาวพฤหัสบดี ๕ นี้เล็งกับอาทิตย์ ๑ มหาอุจจ์ คู่วิชาการที่เป็นศิษย์อาจารย์กันมา ทั้ง

อาทิตย์ ๑ ที่แท้นอกจากเป็นศิษย์รักหัวแก้วหัวแหวนแล้วยังเป็นราชบุตรเขยเข้าไปอีกชั้นหนึ่ง จึงถือกันว่าเจ้าชะตาต้องเป็นคนมีความรู้ความสามารถชนิดหาใครมาเทียบได้ยากนั่นเอง

ดูที่ดาวอังคาร ๓ เป็นดาวตนุเศษ และเป็นดาวกาลีวันเกิด ตำราเขาบอกว่าจะไม่ค่อยเป็นที่ประทับใจต่อผู้พบเห็นในตอนแรก ๆ  ขวางโลก  นักเลง  แต่ก็คบได้ เพราะดาวพฤหัสบดี ๕ อันเป็นดาวคุณธรรมและความเที่ยงตรงไม่เสียศูนย์

ทีนี้เราลองมาดูชะตาชีวิตที่ผกผันชะนิดไม่มีใครสามารถทำได้กันบ้าง

ณ ปี ๒๕๕๐ อายุของเจ้าชะตา ๗๒ เต็มในวันที่ ๑๓ มิถุนายน พอวันที่ ๑๔ มิถุนายน อายุย่าง ๗๓ ตามดวงทักษาจะตกที่ภูมิ ๔ ดาวพฤหัสบดี ๕ จะเป็นดาวเดชจรปี และในวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๐ จรเข้ามาในราศีธนูทำมุมตรีโกณกับลัคนาของท่าน และตรีโกณกับตนุเศษอังคาร ๓

พอเดือนธันวาคม ๒๕๕๐ ท่านนำทัพไปสู่ชัยชนะการเลือกตั้งอย่างท่วมท้น นับว่าท่านสามารถฟันฝ่าดงอันธพาลทุกรูปแบบไปได้อย่างพากพูม และสมกับที่ได้รับการไว้เนื้อเชื่อใจ

พอดาวอาทิตย์ ๑ อันหมายถึงดาวแห่งเกียรติยศ จรเข้าราศีมังกร เข้าเรือนปัศวเกณฑ์ตามตำรา

สิ่งที่ท่านดิ้นรนต่อสู้มายาวนานตลอดชีวิต ๗๓ ก็ตกเป็นของท่านอย่างถูกต้องตามกฏหมาย แม้จะสายไปบ้าง เมื่อเทียบกับคนวัยไล่เลี่ยกับท่าน

ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่าลัคนาของท่านที่ตกอยู่ในเรือนกาลีก็เป็นได้? แต่นี่ก็เป็นเพียงข้อสงสัย  แต่คนที่ อาทิตย์ ๑ ได้ตำแหน่งมหาอุจจ์กุมลัคน์ แล้วชวดจากสิ่งที่หวังยังไม่เคยพบเห็น หรือท่านใดเคยเห็นบ้างว่า คนที่เงินก็มีไม่มากนักพรรคก็ไม่มีเป็นของตนเอง แต่กลับสามารถมายืนหยัดอย่างพากพูมในตำแหน่งผู้นำของประเทศ

ต่างกับคนที่ดิ้นรนแทบตายใช้ตัวช่วยกันทุกรูปแบบทั้งใต้ดินบนดินกลางอากาศ ผลสุดท้ายก็อย่างที่เห็นกันตามหน้าหนังสือพิมพ์

นอกจากตำแหน่งอันทรงศักดิ์สูงสุดที่ได้ไว้เชยชมสมใจขณะนี้แล้ว ก่อนหน้าที่ท่านจะมาถึงตรงนี้ ท่านก็ประสบกับความสำเร็จอย่างงดงามเกือบทุกอย่าง ไม่เชื่อก็ขอให้ท่านลองทบทวนดูตาม

รายการที่ผมคัดลอกมาให้อ่านกันเล่นดังนี้

รัฐมนตรีช่วยเกษตรและสหกรณ์ ๒๕๑๘ ดาวพฤหัสบดี ๕ ทับลัคนาราศีเมษ
รัฐมนตรีช่วยมหาดไทย ๒๕๑๙ ดาวพฤหัสบดี ๕ ทับลัคนาราศีเมษ
รัฐมนตรีว่าการมหาดไทย ๒๕๑๙-๒๕๒๐ พฤหัสบดีอยู่ราศีเมษ-เมถุน
รัฐมนตรีว่าการคมนาคม ๒๕๒๖-๒๕๒๙ พฤหัสบดีอยู่ราศีธนู
รัฐมนตรีว่าการคมนาคม ๒๕๓๓-๒๕๓๔ พฤหัสบดีอยู่ราศีเมถุน-กรกฏ
ประธานกรรมมาธิการการคลังและสถาบันการเงิน ๒๕๒๓-๒๕๒๖ พฤหัสบดีอยู่ราศีสิงห์
ประธานกรรมาธิการการปกครอง ๒๕๒๙-๒๕๓๑ พฤหัสบดีอยู่ราศีราศีกุมภ์
ประธานกรรมาธิการเศรษฐกิจ ๒๕๓๑-๒๕๓๓ พฤหัสบดีอยู่ราศีเมษ
ประธานกรรมาธิการคมนาคม ๒๕๓๕-๒๕๓๘ พฤหัสบดีอยู่ราศีสิงห์
ผู้ว่า กทม. ๒๕๔๓ พฤหัสบดีอยู่ราศีเมษ
สว. กทม. ๒๕๔๙ พฤหัสบดีอยู่ราศีตุลย์ ฯลฯ

ความจริงประวัติผลงานของท่านยาวเหยียดมากกว่านี้ครับ แต่ผมคัดมาพอเป็นข้อสังเกตุเท่านั้นว่าทุกครั้งที่ท่านได้รับตำแหน่งสำคัญ ๆ ที่อยู่ของพฤหัสบดีจรสัมพันธ์ดีกับลัคนาราศีเมษเสมอ ที่เป็นอริมรณะวินาสน์แล้วได้ตำแหน่งเป็นไปได้ยากมาก จะมีบ้างก็เป็นส่วนน้อย ถ้าได้ตำแหน่งในตอนนั้นก็แสดงว่าดาวพฤหัสบดีไม่เป็นกาลีจร ก็ต้องมีการโคจรผิดปกติอย่างใดอย่างหนึ่ง

เอาละครับผมขอจบเพียงแค่นี้ก่อนไว้มีอะไรน่าสนใจค่อยมาว่ากันใหม่ แต่ก่อนจบก็ใคร่ขอให้ท่านนายกสมัคร สุนทรเวช ที่รักของผม ต้องระวังให้มาก โดยเฉพาะในระยะเวลาที่ไม่นานนัก คือพอหลังจากวันเกิดของปีนี้ไปแล้ว บริวารของท่านทั้งหลายที่บางคนก็เขี้ยวยาวลากดิน บางคนก็เพิ่งงอก บางคนก็ถูกตอนมา จะเป็นกาลีจรประจำปี

เท่าที่เห็นมาพอนายกคนใด ดาวบริวารจรเป็นกาลีพังทุกรายครับ !!!

 

[พรรณชมพู]

http://www.10luckastro.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=579245

ผู้มีวาสนาบารมีตามรัฐธรรมนูญ (ตอนจบ) โดย.........สีดิน

รูปดวงชะตา: ๑๔ สถิตราศีเมษ ๖ สถิตราศีพฤษภ ๓x ตนุเศษสถิตราศีสิงห์ ๒ สถิตราศีกันย์ ๕ สถิตราศี ๗สถิตราศีตุลย์ ๘๙ สถิตราศีกุมภ์ ๐สถิตราศีมีน               

สืบเนื่องมาจากข้อเขียนของผมในตอนแรก ลงท้ายไว้ว่า พอเลยวันที่ 13 มิถุนายน 2551 ท่านสมัครจะอายุย่าง 74 ทักษาจรของท่านก็จะไปตกที่ดาวเสาร์ ๗ ทำให้ดาวพุธ ๔ บริวารเดิมของท่านเป็นกาลีจร.....ผมก็เลยเป็นห่วงเป็นใยว่าท่านน่าจะต้องปวดหัวกับบริวารอย่างหนัก บริวารของท่านในตอนนี้ก็คือคณะรัฐมนตรีของท่านนั่นเอง......

ตอนนี้เป็นตอนสุดท้าย ที่ผมต้องขออนุญาติเขียนต่อเพื่อให้หมดสิ้นกระแสความ ที่หลายคนอาจจะแคลงใจว่า ด้วยเหตุใดผมจึงแหกคอกเอาลัคนาของท่านไปไว้ที่ราศีเมษในช่วงเวลาตีสี่เศษ ๆ

ในเมื่อคนทั่วไปต่างก็ยันกันว่าลัคนาของท่านอยู่ในราศีมังกร ซึ่งเป็นราศีกาลกิณีเดิมของคนที่เกิดวันพฤหัสบดี

ผมขอเรียนว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาหลายปี ผมทายดวงหลายพันดวง หรือน่าจะเป็นหมื่นถ้านับมาจนถึงวันนี้
ว่าถ้าใครมีดาวพฤหัสบดี ๕ จรมาทับลัคนาเล็งลัคนาหรือสัมพันธ์ดีอย่างอื่นเช่นโยกหน้าโยกหลัง ตรีโกณ และไม่เป็นกาลีจร จะต้องได้ลาภใหญ่ เช่นเงินทอง ตำแหน่งหน้าที่การงาน มรดก

ดังนั้นถ้าถือลัคนาของท่านสถิตราศีมังกรดังที่ใคร ๆ ว่ากัน ท่านก็มาได้ลาภใหญ่ คือพรรคการเมืองพร้อมปัจจัยในการขับเคลื่อนครบครัน แถมยังได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศสมความปราถนา ในตอนที่ดาวพฤหัสบดี ๕ จรเข้าเรือนวินาสกระนั้นหรือ?

เอาล่ะ ผมจะเฝ้าดูคนที่พฤหัสบดี ๕ จรวินาสลัคน์ แล้วได้ลาภใหญ่แบบนี้อีกสักเก้าดวงสิบดวง ถ้ามีอีกผมก็คงต้องปรับการทายลาภใหญ่กันใหม่แบบยกเครื่องอย่างแน่นอน

แต่ในตอนนี้ขอให้ลัคนาของท่านสถิตราศีเมษไปก่อน เพราะผมได้ตรวจสอบกับปูมหลังที่ท่านมีโชคได้ตำแหน่งสำคัญ ๆ ในทางการเมือง ตลอดจนเอกลักษณ์ส่วนตัวของท่านหลายส่วน เป็นต้นว่าการพูดจาแสดงความคิดเห็น  การปรวนแปรของอารมย์ที่ว่องไวใจกล้า โดยเฉพาะกับสื่อทุกประเภท

ทีนี้เรามาช่วยกันตรวจสอบลีลาการเดินของดาวพฤหัสบดี ๕ ในช่วงปี 2551 กันบ้าง

จากวันที่ 15 มกราคม ถึง 20 เมษายน ๕ เดินหน้าปกติอยู่ใน ราศีธนู
จาก 21 เมษายน ถึง 6 พฤษภาคม เดินข้าฟากจากราศีธนูเข้าราศีมังกร
พอวันที่ 7 พฤษภาคม 2551 ถึงวันที่ 16 กันยายน 2551 เดินถอยหลังยาว
พอวันที่ 17 กันายน ถึง 4 ธันวาคม 2551 เดินเข้าราศีธนูเป็นครั้งที่ 2

ตามที่ผมสังเกตุมา ใครก็ตามพอดาวพฤหัสบดี ๕ เดินผิดปกติ แม้จะอยู่ในเรือนที่สัมพันธ์ดีกับลัคนา เป็นต้นว่ากุมเล็งโยกหน้าหลังตรีโกณ จะขาดพลังการคุ้มกันเภทภัยให้กับเจ้าชะตาทันที

และก็เป็นในช่วงที่ดาวพุธ ๔ บริวารเดิมของท่านเป็นกาลีจร หลังจาก 13 มิถุนายน 2551 พอดิบพอดี
คือสรุปว่าดาวพฤหัสบดี ๕ เริ่มให้โทษขาดแรงคุ้มกันตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม 2551 จนถึงวันที่ 16 กันยายน 2551
แม้ดาวพฤหัสบดี ๕ จะเดินเป็นปกติ จากวันที่ 17 กันยายน 2551 เป็นต้นไป แต่ดาวบริวารคือดาวพุธ ๔ ยังจะให้โทษจากวันที่ 14 มิถุนายน 2551 ไปจนถึงวันที่ 14 มิถุนายน 2552

นอกจากบริวารที่ไม่ได้สร้างมาเอง เกเรประการหนึ่ง ปากของตนเองก็อีกประการหนึ่งที่ต้องระมัดระวัง เพราะหากพลาดพลั้งเอาไม่อยู่จริง ๆ

มือที่มองไม่เห็นรวมกับมือที่มองเห็นหลายมือ ต่างก็แกว่งไกวกันขวักไขว่สร้างความกดดัน คนใจร้อนที่ไวต่อความรู้สึกอย่างท่านจะทนทานไม่ไหวหรือ?

ถ้าเมื่อมันแรงจนทนไม่ไหว คนอย่างท่านสมัคร ที่มีลัคนาสถิตราศีธาตุไฟชั้นหนึ่ง มีอังคาร ๓ เป็นตนุเศษตรีโกณ เล็งราหู ๘ และเกตุซึ่งลอยลำอยู่ในเรือนลาภะ เสาร์ ๗ อีกดาวหนึ่งที่ตรึงอยู่ในมุมเตรียมพร้อม มีหรือที่ท่านจะไม่ทำอะไรสักอย่างเพื่อรักษาศักดิ์ศรีของตนเอง

ก็ไม่ใช่อะไรหรอก ค ร้ า บ.....ที่ผมอุตส่าห์อดหลับอดนอน มานั่งอยู่หน้าคอมฯ แสดงความเป็นห่วงเป็นใยถึง 2 ตอน เพราะเกรงว่าถึงเวลานั้นไม่รู้ตัวเองจะลุกจากที่นอนไปลงคะแนนอีก ไหวไหม?

 

บทความนี้แหละค่ะ ถ้าว่างก็ช่วยวิจารณ์ด้วยนะคะ 

[พรรณชมพู]

เรียน คุณพรรณชมพู

อ้อ.. มีแถมนิด คือ ระบบสุริยาตร มีไว้สำหรับตรวจสภาพธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม เช่นฤดู ร้อน หนาว ฝน การทำกสิกรรม เริ่มเป็นทางการในสมัยพระยาลิไท (ประเทศไทยก้าวหน้ากว่าฝรั่ง เพราะตั้งกรมอุตุนิยมวิทยามาก่อนเกือบ600ปี) ใช้คัมภีร์สุริยาตรคำนวณการทำนา เรียกว่า "เกณฑ์พิรุณศาสตร์" ไม่ได้ไว้ใช้ดูชีวิตคน
ระบบจันทรวิถี เป็นระบบที่คำนวณการโคจรของดวงจันทร์ อันนี้ไว้สำหรับตรวจชีวิต พฤติกรรม และความเป็นไปของมนุษย์ คัมภีร์ที่ใช้ประกอบคือ "จันทรทีปนี" มีคำอธิบายอยู่ใน "ไตรภูิมิกถา(ไตรภูมิพระร่วง)" รจนาโดย สมเด็จพระมหาเถรศรีสัทธาจุฬามุนีลงกาทีปมหาสามี สังฆราชกรุงสุโขทัย ทั้งนี้เพราะอิทธิพลของดวงจันทร์มีต่อมนุษย์โดยตรง(พิสูจน์แล้วว่าจริงโดยนักวิทยาศาสตร์และการแพทย์ปัจจุบัน) ซึ่งไม่ว่าจักวาฬจะขยายตัวไปขนาดไหน แต่วงโคจรของจันทร์จะไม่เปลี่ยนไปเพราะเป็นบริวารของโลก ตัวอย่างอิทธิพลดวงจันทร์ต่อโลกที่เห็นชัดคือ น้ำขึ้นน้ำลง "เลือด ในกายมนุษย์" ก็เป็นน้ำ ดังนั้นระบบการสูบฉีดโลหิตจึงเปลี่ยนไปตามการโคจรของดวงจันทร์ด้วย และ ส่งผลให้เป็นอารมณ์และพฤติกรรมมนุษย์ โดยสภาวะการโคจรดังกล่าว
... ต่อมายุค ร.4 ได้มีการเปลี่ยนแปลงระบบโหราศาสตร์ไทยใหม่ ทั้งปฏิทินต่าง ๆ ทั้งหมด ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบเหตุการณ์อนาคตได้ (แม้กระทั่งเหตุการณ์สำคัญของชาติ ที่ไทยจะเสียดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ฯลฯ ก็ไม่มีปรากฏคำพยากรณ์ หรือจารึกจดหมายเหตุหลวงใด ๆ ว่ามีการพยากรณ์ไว้เลย ก็เพราะใช้ระบบคำนวณผิดนั่นเอง)
 
หวังว่าข้อมูลดังกล่าวนี้ คงจะให้ควากระจ่างกับคุณได้บ้าง

ข้อความทั้งหมดที่คุณชี้แจง โดยเฉพาะส่วนที่ใส่สีแดงไว้ให้นั้น ขอกระซิบบอกว่า คุณเข้าใจผิดค่ะ สงสัยอะไร หลังไมค์ได้นะคะ 

[333Unit]

เรียน คุณพรรณชมพู

.... จาก คห.ของคุณ ...
ไม่ใช่ดวงนวางศ์จักร อะไรนั่นหรอกค่ะ เอามาให้ชมนะคะ http://www.10luckastro.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=578605
...............................................................................................
คงไม่ต้องวิจารณ์ เพราะคำตอบ (คำรับสารภาพ) ของผู้ที่เขียนข้อความ(ตามอ้าง) ได้กล่าวไว้เรียบร้อยแล้ว โดยสรุปว่า "ผู้พยากรณ์ผู้นี้ไม่รู้เวลาเกิดของนายสมัคร จึงมั่วผูกดวงเอง ใส่เวลาเอง โดยอาศัยประวัติของนายสมัคร เป็นหลัก... " ปรากฏตามข้อความของผู้พยากรณ์ท่านนี้ ที่ว่า
...." เจ้าชะตาผู้มีวาสนาอันสูงส่งท่านนี้ เป็นชายวัยที่เลข ๗ นำหน้า คือท่านเกิดวันพฤหัสบดีที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๔๗๘
เวลาเกิดหรือเวลาตกฟากยังไม่เห็นใครยืนยันว่าเมื่อใด แต่ผมมั่ววางลัคนาของท่านไว้ในราศีเมษ
ที่ผมวางไว้ตรงนี้เพราะมีประวัติส่วนตัวของท่านบังคับไว้หลายประการ .."

และ ใช้ระบบการผูกดวงแบบทักษา(ระบบพระจอมเกล้าฯ) ซึ่งไม่ใช่ระบบสุริยาตร หรือ ระบบจันทรวิถี และก็ไม่ใช่ระบบ ๑๐ ลัคน์ อีกด้วย ดังปรากฏตามข้อความของผู้พยากรณ์ท่านนี้ ว่า
..."  การอ่านดวงทักษาผิด คือท่านผู้นี้ตามข้อมูลบอกว่าท่านเกิด ในวันพฤหัสบดี แต่เมื่อลัคนาอาทิตย์ ๑ ไปตกที่ราศีเมษเป็นเวลาตี ๔ เศษ ๆ พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น จึงยังเป็นวันพุธ ผมก็เลยต้องยึดวันพุธเป็นวันเกิด ขอให้ท่านที่ไม่เข้าใจโปรดเข้าใจตามนี้นะครับ..."

พร้อมนั้น ผู้พยากรณ์ท่านนี้ ยังได้ใส่เวลาเกิดให้นายสมัครด้วย(เป็นสูตแพทย์..ทำคลอดให้เสร็จ) ดังปรากฏตามข้อความของผู้พยากรณ์ท่านนี้ ว่า

... "...ผมจึงแหกคอกเอาลัคนาของท่านไปไว้ที่ราศีเมษในช่วงเวลาตีสี่เศษ ๆ.."
"""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""
ในเมื่อเป็นเรื่องของ "การแหกคอก" ของผู้พยากรณ์ท่านที่คุณพรรณชมพู ยกตัวอย่างมา ซึ่งเป็น "ความสามารถเฉพาะตน(ห้ามลอกเลียนแบบ) ของผู้พยากรณ์ท่านนั้น"  เมื่อผู้พยากรณ์ท่านนั้นไม่ได้ยืนอยู่บนหลักฐาน หรือ วิชาการโหราศาสตร์ จึงไม่อาจก้าวล่วงไปวิจารณ์ได้ นอกจากจะนำเอาดวงชะตาที่สมผุสตามหลักวิชาการโหราศาสตร์มาให้ดู เพื่อประกอบการพิจารณา

จะเห็นว่า มีเฉพาะดวงนวางค์จักร์เท่านั้นที่มีลัคนาอยู่ในราศีเมษ (ดวงนวางค์จักร ใช้สำหรับพยากรณ์อะไร ได้อธิบายไปแล้ว)

และดวงชะตาที่สมผุส-สนธิโดยโหราศาสตร์ระบบสุริยาตร

จึงเรียนมาเพื่อทราบ

[西施无情]

หมอลักษณ์ฟันธง ทักษิณนอนคุก สมัครหมดบุญ


 "ลักษณ์ เรขานิเทศ" เผย กรรมเก่าตามทับดวงทักษิณ ฟันธง ต้องติดคุก ส่วน "สมัคร" หมดบุญ ประคองรัฐบาลถึงสิ้น สิงหาคมได้ นับว่าเก่ง

ลักษณ์ เรขานิเทศ หรือ หมอลักษณ์ หมอดูชื่อดัง เปิดเผยสำนักข่าว ไอเอ็นเอ็น ถึงดวงชะตาราศีของ พ.ต.ท.ทักษิณ อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า กรรมเก่าตามมาทับทำให้เกียรติยศชื่อเสียงจะสูญสิ้น รวมถึงเครือญาติและผู้เกี่ยวข้องในคดีความต่างๆ ถึงต้องติดคุกตามๆกันไป ซึ่งลักษณะดวงคล้าย จอมพล ป. พิบูลย์สงคราม

"คุณทักษิณ เขาอยู่ราศีกันย์ ตอนนี้ดาวเสาร์เนี้ยกำลังโคจรเข้าทับราศีเกิดกรรมเก่าตามมาข้างหลังแล้วมีดาวราศีอยู่ในมุมเล็งกับยศเกียรติศักดิ์ศรี ก็ทำให้ยศเกียรติศักดิ์ศรีมืดมนแล้วก็กำลังจะถูกดาวมฤตยู โคจรเข้ามาเล็งปิดประตูตีแมวแบบบล็อกเลยหลังจาก มีนา ปี 52 เพราะฉะนั้นดวงนี้เหมือนดวงของ จอมพลป.พิบูลย์สงครามแล้ว จอมพลป.ตอนที่เสียอำนาจไปหนีไปสุดท้ายก็ตายที่ญี่ปุ่นซึ่งคุณทักษิณไม่น่าไปญี่ปุ่นเลยมันเป็นลางบางอย่าง"

นอกจากนี้ หมอลักษณ์ ยังกล่าวถึงดวงเมืองว่า ย่ำแย่เปรียบได้กับการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ส่วนดวงชะตาของ นายสมัคร สุนทรเวช นั้นถือเป็นคนที่มีบุญมาก่อน แต่บุญที่มีนั้นหมดไปแล้ว หากสามารถประคองรัฐนาวาให้รอดพ้นสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ได้ก็ถือว่าเก่งมากแล้ว
 

[แอ่นแอ๊น]

เรื่องการวางดวงเมือง แอนว่า แต่ละสำนักไปถกเถียงกันแล้วกันค่ะว่า วางตรงไหนถึงจะถูก
แต่ว่า บอกว่า การวางตามหลักเมืองรัชกาลที่ 1 โดยไม่ศึกษาประวัติศาสตร์ แอนว่า เป็นคำกล่าวที่ร้ายแรงมาก และไม่เป็นจริงค่ะ
(ไม่รวมหมอลักษณ์ที่ย้ายดวงเมืองไปสุวรรณภูมิตามอำเภอใจไปเรียบร้อยแล้ว)

ลองอ่านตามลิ้งนี้แระกันค่ะ บังเอิญว่า บทความยาวมากๆ ไม่สะดวกจะเอามาลงในนี้ทั้งหมด

http://www.lekpluto.org/index01/sub17.htm

ส่วนบทความเก่าๆ ของที่ท่านนี้เขียนไว้อยู่ที่ลิ้งนี้
http://www.lekpluto.org/index01.html

อันนี้บทความเรื่องดวงเมืองล่าสุด
http://lekpluto.org/readarticle.php?article_id=46
วิเคราะห์ดวงเมืองบางกอก ๒๕๕๑ (๑)

http://lekpluto.org/readarticle.php?article_id=47
วิเคราะห์ดวงเมืองบางกอก ๒๕๕๑ (๒)

http://lekpluto.org/readarticle.php?article_id=48
วิเคราะห์ดวงเมืองบางกอก ๒๕๕๑ (๓)

ที่ยกคำทำนายของท่านนี้มา ไม่ใช่รู้จักกันเป็นการส่วนตัว แต่หาบทความทางโหราศาสตร์ไทย ที่เขียนแบบมีหลัก มีแนวทาง ยาวๆ แบบนี้ยากมากๆ ค่ะ รวมๆ กับที่ฟังนักทำนายหลายๆ ท่านที่ออกมาอธิบายตามสื่อ ก็น่าจะเป็นหลักเดียวกัน จึงยกมาให้ดูค่ะ
ส่วนเรื่องการทำนายเรื่องการเสียดินแดน มีำทำนายไว้เหมือนกันค่ะ แต่เขียนแบบกั๊กๆ

"ปัญหาชายแดน ปัญหาเพื่อนบ้าน ในปี พ.ศ. ๒๕๕๑ น่าเป็นห่วงนะครับ อย่าเปิดโอกาสให้พวกนี้เข้ามาทำมาหากิน ไม่ว่าในทางตรง หรือ ทางอ้อม ถูกกฎหมาย หรือ ผิดกฎหมาย ในประเทศเราเลยครับ เป็นภัยต่อประเทศชาติแน่นอน เพราะในประวัติศาสตร์ ตอนต้นกรุงรัตนโกสินทร์ เราก็เคยเดือดร้อนเพราะคนพวกนี้ ที่เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารมาแล้ว ระดับเจ้านาย หรือ เจ้าเหนือหัวของพวกนี้เสียด้วย" อันนี้อยู่ในบทความที่ดวงเมืองบางกกอก ๒๕๕๑ (๓)

----------------------------

ปล แปะก่อนที่จะอ่านจบค่ะ เด๋วขอไปอ่านที่คุณพรรณฯ แปะก่อน 

[西施无情]

เอาบทความมาลงไ้ว้เพื่อความตื่นเต้นเท่านั้นเองค่ะ  

[พรรณชมพู]

เรียน คุณพรรณชมพู

.... จาก คห.ของคุณ ...
ไม่ใช่ดวงนวางศ์จักร อะไรนั่นหรอกค่ะ เอามาให้ชมนะคะ http://www.10luckastro.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=578605
...............................................................................................
คงไม่ต้องวิจารณ์ เพราะคำตอบ (คำรับสารภาพ) ของผู้ที่เขียนข้อความ(ตามอ้าง) ได้กล่าวไว้เรียบร้อยแล้ว โดยสรุปว่า "ผู้พยากรณ์ผู้นี้ไม่รู้เวลาเกิดของนายสมัคร จึงมั่วผูกดวงเอง ใส่เวลาเอง โดยอาศัยประวัติของนายสมัคร เป็นหลัก... " ปรากฏตามข้อความของผู้พยากรณ์ท่านนี้ ที่ว่า
...." เจ้าชะตาผู้มีวาสนาอันสูงส่งท่านนี้ เป็นชายวัยที่เลข ๗ นำหน้า คือท่านเกิดวันพฤหัสบดีที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๔๗๘
เวลาเกิดหรือเวลาตกฟากยังไม่เห็นใครยืนยันว่าเมื่อใด แต่ผมมั่ววางลัคนาของท่านไว้ในราศีเมษ
ที่ผมวางไว้ตรงนี้เพราะมีประวัติส่วนตัวของท่านบังคับไว้หลายประการ .."

และ ใช้ระบบการผูกดวงแบบทักษา(ระบบพระจอมเกล้าฯ) ซึ่งไม่ใช่ระบบสุริยาตร หรือ ระบบจันทรวิถี และก็ไม่ใช่ระบบ ๑๐ ลัคน์ อีกด้วย ดังปรากฏตามข้อความของผู้พยากรณ์ท่านนี้ ว่า
..."  การอ่านดวงทักษาผิด คือท่านผู้นี้ตามข้อมูลบอกว่าท่านเกิด ในวันพฤหัสบดี แต่เมื่อลัคนาอาทิตย์ ๑ ไปตกที่ราศีเมษเป็นเวลาตี ๔ เศษ ๆ พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น จึงยังเป็นวันพุธ ผมก็เลยต้องยึดวันพุธเป็นวันเกิด ขอให้ท่านที่ไม่เข้าใจโปรดเข้าใจตามนี้นะครับ..."

พร้อมนั้น ผู้พยากรณ์ท่านนี้ ยังได้ใส่เวลาเกิดให้นายสมัครด้วย(เป็นสูตแพทย์..ทำคลอดให้เสร็จ) ดังปรากฏตามข้อความของผู้พยากรณ์ท่านนี้ ว่า

... "...ผมจึงแหกคอกเอาลัคนาของท่านไปไว้ที่ราศีเมษในช่วงเวลาตีสี่เศษ ๆ.."
"""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""
ในเมื่อเป็นเรื่องของ "การแหกคอก" ของผู้พยากรณ์ท่านที่คุณพรรณชมพู ยกตัวอย่างมา ซึ่งเป็น "ความสามารถเฉพาะตน(ห้ามลอกเลียนแบบ) ของผู้พยากรณ์ท่านนั้น"  เมื่อผู้พยากรณ์ท่านนั้นไม่ได้ยืนอยู่บนหลักฐาน หรือ วิชาการโหราศาสตร์ จึงไม่อาจก้าวล่วงไปวิจารณ์ได้ นอกจากจะนำเอาดวงชะตาที่สมผุสตามหลักวิชาการโหราศาสตร์มาให้ดู เพื่อประกอบการพิจารณา

จะเห็นว่า มีเฉพาะดวงนวางค์จักร์เท่านั้นที่มีลัคนาอยู่ในราศีเมษ (ดวงนวางค์จักร ใช้สำหรับพยากรณ์อะไร ได้อธิบายไปแล้ว)

และดวงชะตาที่สมผุส-สนธิโดยโหราศาสตร์ระบบสุริยาตร

จึงเรียนมาเพื่อทราบ

ผู้พยากรณ์ท่านนี้ ยังได้ใส่เวลาเกิดให้นายสมัครด้วย(เป็นสูตแพทย์..ทำคลอดให้เสร็จ)

ประทับใจในประโยคนี้มากเลยค่ะ 

เชื่อได้ว่ารุ่นเราๆ ไม่มีใครเกิดก่อนนายสมัคร ดังนั้น นายสมัครบอกเวลาเกิดให้ใครไป ว่าเกิดวันที่อะไร เดือนอะไร ปีพุทธศักราชอะไร เวลาอะไร จึงควรเชื่อตามนั้น แต่ก็เป็นที่น่าคิดอยู่อย่างหนึ่งว่า นายสมัครเองนั้นก็ไม่ได้ทำคลอดให้ตัวเอง อีกทั้งมิได้จดบันทึกวันเดือนปีเกิดของตนเองเป็นแน่แท้ วันเวลาเกิดที่นายสมัครได้รับทราบมานั้น ก็คงจะจากคำบอกเล่าของผู้อื่น หรือบันทึกที่ผู้อื่นจดไว้ให้ 

ปัญหาจึงมีอยู่ว่า หากนายสมัคร จดหรือจำ วันเดือนปีเวลาเกิดของตนเองมาผิด แล้วให้หมอดูทำนายดวงชะตา หมอดูก็ทำนายไปตามวันเดือนปีเกิดที่นายสมัครบอกมานั้น แล้วก็ยืนยันว่าตนเองทำนายถูกต้อง ด้วยตำรามหัศจรรย์พิลั่นพิลึก คำถามจึงมีว่า นายสมัครมั่วเวลาเกิดมา แล้วหมอดูมั่วด้วยหรือเปล่า 

การสอบทานดวงชะตา เป็นสิ่งที่นักโหราศาตร์พึงกระทำ หากผู้มาให้พยากรณ์ จดจำเวลาเกิดของตนผิดไป แล้วหมอดูดูอะไรก็ถูกไปหมด เวลาเกิดนั้น จะมีไว้เพื่ออะไร  ดวงชะตาที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าของหมอดูนั้น ไม่ว่าจะผูกมาด้วยวิชาการที่ล้ำเลิศปานไหน แต่ถ้ามันไม่ใช่ดวงของเจ้าของชะตาคนนั้น ทายแล้วจะถูกได้หรือ 

ในบทความที่ยกมาให้ชมนั้น ประกอบไปด้วยการพิสูจน์ การพยากรณ์นั้นจะถูกหรือผิดก็ไม่ทราบ จำต้องใช้วิจารณญานพิจารณาเอาเอง แต่อย่างน้อยผู้พยากรณ์คนนั้น ก็ได้ให้เงื่อนไขในการพิสูจน์เอาไว้แล้ว

และ ใช้ระบบการผูกดวงแบบทักษา(ระบบพระจอมเกล้าฯ) ซึ่งไม่ใช่ระบบสุริยาตร หรือ ระบบจันทรวิถี และก็ไม่ใช่ระบบ ๑๐ ลัคน์ อีกด้วย ดังปรากฏตามข้อความของผู้พยากรณ์ท่านนี้ ว่า
..."  การอ่านดวงทักษาผิด คือท่านผู้นี้ตามข้อมูลบอกว่าท่านเกิด ในวันพฤหัสบดี แต่เมื่อลัคนาอาทิตย์ ๑ ไปตกที่ราศีเมษเป็นเวลาตี ๔ เศษ ๆ พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น จึงยังเป็นวันพุธ ผมก็เลยต้องยึดวันพุธเป็นวันเกิด ขอให้ท่านที่ไม่เข้าใจโปรดเข้าใจตามนี้นะครับ..."

สำหรับประโยคที่คุณทักท้วงมานี้ ขอให้กลับไปอ่านคำพยากรณ์ที่ส่งลิ้งค์ไปให้ใหม่ อ่านช้าๆ คุณอ่านผิดทั้งหมด 

ระบบการผูกดวงแบบทักษา(ระบบพระจอมเกล้าฯ) ไม่มี ผู้พยากรณ์ท่านนั้น ชี้แจงถึงวันเกิดที่แท้จริงของเจ้าของดวงชะตา ตามหลักการของการนับทักษา

ส่วนคำว่า ซึ่งไม่ใช่ระบบสุริยาตร ก็เป็นความเข้าใจผิดของคุณ เพราะสุริยยาตร์ เป็นชื่อของตำราการคำนวนตำแหน่งของดวงดาว ซึ่งไม่เกี่ยวกับ ตำราทักษา

ส่วนที่ว่า และก็ไม่ใช่ระบบ ๑๐ ลัคน์อีกด้วย   ก็ผิดอีกนั่นแหละ เพราะผู้พยากรณ์นั้น ใช้ระบบสิบลัคนาในการพยากรณ์ และทำได้อย่างถูกต้อง

เรียน คุณพรรณชมพู

อ้อ.. มีแถมนิด คือ ระบบสุริยาตร มีไว้สำหรับตรวจสภาพธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม เช่นฤดู ร้อน หนาว ฝน การทำกสิกรรม เริ่มเป็นทางการในสมัยพระยาลิไท (ประเทศไทยก้าวหน้ากว่าฝรั่ง เพราะตั้งกรมอุตุนิยมวิทยามาก่อนเกือบ600ปี) ใช้คัมภีร์สุริยาตรคำนวณการทำนา เรียกว่า "เกณฑ์พิรุณศาสตร์" ไม่ได้ไว้ใช้ดูชีวิตคน
ระบบจันทรวิถี เป็นระบบที่คำนวณการโคจรของดวงจันทร์ อันนี้ไว้สำหรับตรวจชีวิต พฤติกรรม และความเป็นไปของมนุษย์ คัมภีร์ที่ใช้ประกอบคือ "จันทรทีปนี" มีคำอธิบายอยู่ใน "ไตรภูิมิกถา(ไตรภูมิพระร่วง)" รจนาโดย สมเด็จพระมหาเถรศรีสัทธาจุฬามุนีลงกาทีปมหาสามี สังฆราชกรุงสุโขทัย ทั้งนี้เพราะอิทธิพลของดวงจันทร์มีต่อมนุษย์โดยตรง(พิสูจน์แล้วว่าจริงโดยนักวิทยาศาสตร์และการแพทย์ปัจจุบัน) ซึ่งไม่ว่าจักวาฬจะขยายตัวไปขนาดไหน แต่วงโคจรของจันทร์จะไม่เปลี่ยนไปเพราะเป็นบริวารของโลก ตัวอย่างอิทธิพลดวงจันทร์ต่อโลกที่เห็นชัดคือ น้ำขึ้นน้ำลง "เลือด ในกายมนุษย์" ก็เป็นน้ำ ดังนั้นระบบการสูบฉีดโลหิตจึงเปลี่ยนไปตามการโคจรของดวงจันทร์ด้วย และ ส่งผลให้เป็นอารมณ์และพฤติกรรมมนุษย์ โดยสภาวะการโคจรดังกล่าว
... ต่อมายุค ร.4 ได้มีการเปลี่ยนแปลงระบบโหราศาสตร์ไทยใหม่ ทั้งปฏิทินต่าง ๆ ทั้งหมด ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบเหตุการณ์อนาคตได้ (แม้กระทั่งเหตุการณ์สำคัญของชาติ ที่ไทยจะเสียดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ฯลฯ ก็ไม่มีปรากฏคำพยากรณ์ หรือจารึกจดหมายเหตุหลวงใด ๆ ว่ามีการพยากรณ์ไว้เลย ก็เพราะใช้ระบบคำนวณผิดนั่นเอง)

ส่วนทั้งหมดที่ตอบมาในส่วนนี้ ยังคงไม่ได้รับคำตอบกลับมา แต่บอกได้ว่า มันผิดทั้งหมดค่ะ 

[Hacksecrets]

รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม

จริงแท้ประการใด กาลเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์

ชีวิตคนเราถูกกำหนดมาตั้งแต่เกิด ดั่งเช่นหนังสือที่ทำออกมาเป็นเล่มแล้ว

เราเป็นแค่เพียงผู้อ่านหนังสือ ที่กำลังเปิดไปทีละหน้าเท่านั้น

ผู้รู้ จะพึงเปิดหน้าสารบัญ แล้วอ่านเฉพาะหน้าที่สนใจ

แล้วท่านล่ะ กำลังเปิดหน้าใดอยู่

แต่ไม่ว่าจะหน้าใด ทุกอย่างได้เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว เพียงแต่เราทั้งหลาย เพิ่งเปิดไปเจอเท่านั้น

[Can ไทเมือง]

ทักษิณ / พจมาน ต้องขึ้นให้การที่ศาลนัดสุดท้าย 22 สิงหาคม ( คดีที่ดินรัชดา )

สมัคร ต้องให้การ ชิมไปบ่นไป ภายใน 21 สิงหาคม

ลองๆ ดูให้หน่อย ช่วงปลายสิงหา ต้นกันยายน คนเหล่านี้จะเป็นยังไง

เผื่อพวกที่วิ่งเต้นซื้อตำแหน่ง จะได้ไม่เสียเงินฟรี
 

[justice]

ดูแค่ปาก

และพฤติกรรม

ก็ควร "หมดบุญ" ไปตั้งนานแล้วครับ

รีบๆ "หมดบุญ" ไปเลยก็ดี

สงสารประเทศ