ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
25-04-2024, 07:26
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  ห้องสาธารณะ  |  เบิกความคดีที่ดินรัชดาฯ ทักษิณ - อ้อ ปากสุดท้าย 22 สค 51 9.00 น. 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
เบิกความคดีที่ดินรัชดาฯ ทักษิณ - อ้อ ปากสุดท้าย 22 สค 51 9.00 น.  (อ่าน 1720 ครั้ง)
คดีที่ดินรัชดา
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: 31-07-2008, 13:37 »

22 ส.ค.นี้ ขณะที่ จนท.สำนักที่ดิน กทม. เบิกความระบุ พจมาน มอบอำนาจตัวแทน พร้อมแสดงใบยินยอม ทักษิณ ฐานะคู่สมรส เผยยังเหลือเบิกความ อุดม - กล้านรงค์ - หม่อมอุ๋ย

ที่ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง นายทองหล่อ โฉมงาม ผู้พิพากษาอาวุโส เจ้าของสำนวน พร้อมองค์คณะ ออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนพยานโจทก์ครั้งที่ 4 ในคดีหมายเลขดำที่ อม.1/2550 ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานทุจริตซื้อขายที่ดินย่านรัชดาภิเษก มูลค่า 772 ล้านบาท ตาม ป.อาญา และ พ.ร.บ.ว่าด้วยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พ.ศ.2542

อัยการโจทก์นำพยาน ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่กรมที่ดิน สำนักงานที่ดินกรุงเทพ สาขาห้วยขวางรวม 5 คน เข้าเบิกความ โดย นายอมร บุญธรรม อดีตเจ้าหน้าที่รังวัด สำนักงานที่ดินกรุงเทพ สาขาห้วยขวาง เบิกความสรุปว่า พยานได้รับเรื่องจากฝ่ายทะเบียนของสำนักงานที่ดินห้วยขวาง ตามที่กองทุนฯ ยื่นขอรวมโฉนด เมื่อวันที่ 23 ก.ย. 2546 ครั้งแรกที่พยานไปรังวัดที่ดิน พบว่าเป็นที่รกร้างถูกทิ้งไว้ 30 ปี จนไม่สามารถรังวัดได้ จึงประสานกับเจ้าหน้าที่กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ให้ดำเนินการถากถางที่ดินเพื่อรังวัด อย่างไรก็ดี ในการรังวัดพยานเคยเห็นหนังสือจากปลัดกระทรวงการคลัง แนบมากับคำร้องให้ดำเนินการรังวัด เมื่อรังวัดแล้วได้เสนอเรื่องไปยังนายวุฒิสิทธิ์ จันทสูตร อดีตผู้บริหารสำนักงานที่ดินกรุงเทพ สาขาห้วยขวาง โดยยืนยันที่ดินพิพาทสามารถรวมโฉนดจาก 13 แปลงย่อย เป็น 4 แปลงใหญ่ได้ ซึ่งพยานปฏิบัติตามขั้นตอนการรังวัดครบถ้วนถูกต้องทุกประการ

ต่อมา นายวุฒิสิทธิ์ จันทสูตร เจ้าหน้าที่กรมที่ดิน จ.สระแก้ว อดีตผู้บริหารสำนักงานที่ดินกรุงเทพ สาขาห้วยขวาง เบิกความสรุปว่า เมื่อวันที่ 23 ก.ย. 2546 กองทุนฯ ได้ยื่นคำร้องต่อสำนักงานที่ดินกรุงเทพ สาขาห้วยขวาง ให้ทำการรังวัดที่ดิน ซึ่งพยานเคยทำหนังสือเตือนนายอมร ให้ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ราชการ ตามแนวทางปฏิบัติกรมที่ดินจะใช้เวลารังวัดภายใน 30 วัน หากดำเนินการเสร็จแล้วก็ต้องเสนอผู้บังคับบัญชาภายในเวลา 25 วัน

โดยในการทำนิติกรรม คุณหญิงพจมาน ได้มอบอำนาจให้ผู้แทนมาดำเนินการ โดยมีสำเนาบัตรประชาชน สำเนาใบทะเบียนสมรส สำเนาทะเบียนบ้าน และหนังสือยินยอมของ พ.ต.ท.ทักษิณ คู่สมรส ซึ่งปกติการทำนิติกรรมซื้อขายที่ดินหากผู้ซื้อเป็นบุคคลที่จดทะเบียนสมรส แต่ไม่นำใบยินยอมจากคู่สมรสมาแสดง พยานก็จะไม่ลงนามซื้อขายให้ เว้นกรณีที่เป็นการซื้อขายส่วนตัว และได้มีการสอบถามผู้ขายแล้วมีความสมัครใจทำนิติกรรม ก็จะต้องบันทึกเรื่องการทำสัญญาเป็นโมฆียะหากเกิดปัญญาภายหลังคู่สมรสไม่ยินยอม โดยจะปฏิบัติลักษณะนี้กับผู้ซื้อผู้ขายทุกราย

ต่อมา นางญานี คงบุญ เจ้าหน้าที่กรมที่ดิน สำนักงานที่ดินกรุงเทพ สาขาห้วยขวาง น.ส.นิทรา เอี่ยมสุภา เจ้าหน้าที่กรมที่ดิน จ.สมุทรสาคร อดีตหัวหน้าฝ่ายทะเบียน สำนักงานที่ดินกรุงเทพ สาขาห้วยขวาง และนายทวี ด่านยุทธศิลป์ เจ้าหน้าที่กรมที่ดิน สำนักงานที่ดินกรุงเทพ สาขาห้วยขวาง พยาน เบิกความทำนองเดียวกันว่า การรังวัด การออกเลขโฉนดที่ดิน ปฏิบัติตามขั้นตอนทุกประการ ซึ่งไม่เคยมีการร้องเรียนจากเจ้าของที่ดินข้างเคียงที่ดินข้อพิพาทคดีนี้ กองทุนฟื้นฟู ฯ และกรมที่ดินว่าการดำเนินการรังวัดและออกเลขที่โฉนดดังกล่าว เป็นไปโดยมิชอบทำให้เกิดความเสียหาย

ภายหลัง ศาลไต่สวนพยานโจทก์ครบ 5 ปากแล้ว อัยการโจทก์แถลงต่อศาลว่าสำหรับพยานปาก นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ไม่สามารถมาเบิกความได้ แต่อัยการยังติดใจและจะขอนำเข้าเบิกความครั้งต่อไป ศาลจึงนัดไต่สวนพยานโจทก์ครั้งสุดท้ายในวันที่ 29 ก.ค.นี้ เวลา 09.30 น. พร้อมกำชับให้อัยการนำพยานโจทก์เข้าไต่สวนให้เสร็จสิ้นตามกำหนดนัดด้วย

ด้าน นายเศกสรรค์ บางสมบุญ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ หัวหน้าคณะอัยการรับผิดชอบว่าความคดีนี้ กล่าวว่า เตรียมนำนายอุดม เฟื่องฟุ้ง อดีต คตส. ในฐานประธานอนุกรรมการไต่สวนคดีนี้ นายกล้านรงค์ จันทิก ป.ป.ช. และ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้าเบิกความ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การไต่สวนพยานจำเลยครั้งแรกวันที่ 1 ส.ค. ทนายความจำเลยเตรียมนำพยานจำนวน 4 ปาก ประกอบด้วย นายวราเทพ รัตนากร อดีต รมช.คลัง ผอ.สำนักเศรษฐกิจการคลัง ผอ.สำนักงบประมาณ และอธิบดีกรมบัญชีกลาง เข้าเบิกความ ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณ และ คุณหญิงพจมาน ตามบัญชีระบุ พยานทั้งสองจะเข้าเบิกความพร้อมกันในวันไต่สวนพยานจำเลยครั้งสุดท้ายวันที่ 22 ส.ค. นี้ เวลา 09.30 น. โดย พ.ต.ท.ทักษิณ จะเข้าเบิกความปิดคดีเป็นคนสุดท้าย

http://news.buddyjob.com/politic/show_news-13657-3.html
บันทึกการเข้า
คดีที่ดินรัชดา
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: 31-07-2008, 13:57 »

ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ ชี้คดีที่ดินรัชดาฯ ไม่ทำให้ ธปท.เสียหาย
ศาลฎีกาฯ 22 ก.ค.-ทนายความอดีตนายกรัฐมนตรี แจงการซื้อขายที่ดินรัชดาฯ ไม่ทำให้ ธปท.เสียหาย กองทุนฟื้นฟูฯ ไม่ได้ขาดทุน ขณะอดีตประธาน คตส.ย้ำราคาที่ขายต่ำกว่าความเป็นจริง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีการพิจารณาคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินรัชดาฯ โดยคดีดังกล่าวมีอัยการสูงสุดเป็นโจทก์ และมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา เป็นจำเลยที่1 และ 2 ตามลำดับ

วันนี้เป็นการสืบพยานโจทก์ คือ นายนาม ยิ้มแย้ม อดีตประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.)  และนายสมใจนึก เองตระกูล อดีตปลัดกระทรวงการคลัง 

ในการพิจารณาคดีทีมทนายความ พ.ต.ท.ทักษิน นำโดยนายอเนก คำชุ่ม และนายคำนวณ ชโลปถัมป์ ได้ซักค้านสอบถามนายนาม ถึงเหตุผลที่ตัดฝ่ายกฎหมายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกจากการสอบสวนของ คตส. ว่าเป็นเพราะฝ่ายกฎหมายได้ให้สัมภาษณ์มาโดยตลอดว่า ที่ดินรัชดาฯ ของกองทุนฟื้นฟูฯ ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของ ธปท.ไม่ได้ทำให้ ธปท.เสียหายใช่หรือไม่ และเหตุใดจึงไม่เปิดโอกาสให้อดีตนายกรัฐมนตรีได้มีโอกาสชี้แจงข้อเท็จจริงในระหว่างการรวบรวมข้อมูลของ คตส.

นายนาม ให้การต่อศาลว่า การตัดฝ่ายกฎหมายเพราะเห็นว่าได้ข้อมูลเพียงพอ และการที่ไม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าชี้แจงต่อ คตส. เป็นเพราะไม่มีหลักเกณฑ์ในเรื่องดังกล่าว สำหรับการให้การของนายสมใจนึก เอ็งตระกูล อดีตปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะรองประธานกองทุนฟื้นฟูฯ ทีมทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามซักค้านว่า การขายที่ดินรัชดาฯ ได้ราคาสูงกว่าราคาประเมิน และการขายให้คุณหญิงพจมาน ก็เป็นมติของกรรมการ ไม่ใช่การตัดสินใจของใครคนใดคนหนึ่งใช่หรือไม่ และในคณะกรรมการยังมีตัวแทนจากอัยการที่เป็นนักกฎหมายอยู่ด้วยใช่หรือไม่ นอกจากนี้ทางทนายยังถามถึงข้อกฎหมายและระเบียบที่ใช้ในการประมูลซื้อขายที่ดิน

นายสมใจนึก ให้การต่อศาล ยอมรับว่า การขายที่ดินเป็นมติของคณะกรรมการ ผู้ว่า ธปท.เพียงคนเดียวไม่สามารถสั่งการได้ และยังยอมรับว่าราคาที่ขายสูงกว่าราคาประเมินทำให้กองทุนมีกำไร และในการขายสินทรัพย์กองทุนฟื้นฟูฯ มีหลักเกณฑ์ของตนเอง ไม่ได้อ้างอิงระเบียบของสำนักนายกรัฐมนตรีปี 35 ที่ว่าด้วยเรื่องวัสดุและการจัดซื้อ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทนายจำเลยยังพยามซักค้าน เพื่อชี้ให้เห็นว่ากองทุนฟื้นฟูฯ อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ธปท. และ ธปท.มีความเป็นอิสระ ดังนั้น จึงน่าจะถือได้ว่า กองทุนฟื้นฟูฯ ไม่ถือเป็นหน่วยงานรัฐ อย่างไรก็ตาม ศาลเห็นว่าคำถามดังกล่าวเป็นเรื่องของข้อกฎหมายที่ศาลจะพิจารณาเอง พยานไม่ต้องตอบ

ทั้งนี้ หลังให้การต่อศาล นายนาม ยิ้มแย้ม อดีตประธาน คตส. ให้สัมภาษณ์ว่า แม้การขายที่ดินรัชดาฯ ได้ราคาสูงกว่าราคาประเมินทางราชการ แต่ตามข้อเท็จจริงที่ดินดังกล่าวถือว่า กองทุนฟื้นฟูฯ ซื้อมากว่า 2,000 ล้านบาท แต่ขายไปเพียง 700 ล้านบาทเศษ และแม้จะอ้างว่าในคณะกรรมการฯ ที่มีมติให้ขายที่ดินมีนักกฎหมายอยู่ด้วย แต่ก็เป็นเรื่องที่ผู้ซื้อคือคุณหญิงพจมาน ต้องรู้ว่าในทางกฎหมายขณะนั้นสามารถซื้อที่ดินรัชดาฯ ได้หรือไม่

นายนาม ยังกล่าวถึงกระแสข่าวจะไปเป็นที่ปรึกษาให้ กรรมการ ป.ป.ช. ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานจาก ป.ป.ช. แต่หากมีการประสานก็คงดูความเหมาะสมอีกครั้ง ส่วนเรื่องที่พรรคพลังประชาชนประกาศเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น เป็นเรื่องที่ประชาชนจะต้องติดตามว่ามีความเหมาะสมหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

อัพเดตเมื่อ 2008-07-22 16:05:12

http://news.mcot.net/politic/inside.php?value=bmlkPTQ2MzMyJm50eXBlPXRleHQ=
บันทึกการเข้า
คดีที่ดินรัชดา
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: 31-07-2008, 14:03 »

คณะผู้พิพากษาฯคดีที่ดินรัชดาฯอนุญาตให้"ทักษิณ-พจมาน"ไปจีน
องค์คณะผู้พิพากษาฯคดีที่ดินรัชดาฯ อนุญาตให้ "ทักษิณ - พจมาน" เดินทางไปจีน ส่วนคำขอไปอังกฤษ ให้ยื่นเรื่องมาใหม่ หลังจากกลับจากจีนแล้ว

(29ก.ค.) ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองวันนี้ ภายหลังจากองค์คณะผู้พิพากษาไต่สวนพยานโจทย์3 ปาก ประกอบด้วยนายสมบูรณ์ คุปตมนัส ผู้รับมอบอำนาจจากคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ในการซื้อขายที่ดิน รัชดาภิเษก หม่อมราชวงศ์ปรีดียาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง และนายอุดม เฟื่องฟุ้ง อดีตประธานอนุ คตส. เมื่อเวลา 12.00 น.แล้ว องค์คณะได้พิจารณาคำร้องที่ พ.ต.ท.ตำรวจโททักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยที่1 ยื่นคำร้องขอเดินทางออกนอกประเทศ ลงวันที่ 28 กรกฎาคม 2551นี้ ว่าจำเลยที่ 1 จะเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นและประเทศจีน ในวันที่ 31 ก.ค.- 10 ส.ค. 51 และจะเดินทางไปประเทศอังกฤษวันที่ 15 ส.ค.-20 ส.ค. 51 โดยที่คุณหญิงพจมาน จำเลยที่ 2 ขออนุญาตเดินทางไปประเทศจีน วันที่ 5 ส.ค. - 10 ส.ค.และเดินทางไปประเทศอังกฤษวันที่ 15ส.ค. - 20 ส.ค. 51

โดยองค์คณะผู้พิพากษาพิจารณาคำร้องแล้ว อนุญาตให้จำเลยที่ 1 และ 2 เดินทางไปประเทศญี่ปุ่นและประเทศจีน โดยให้แจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทราบ โดยให้จำเลยที่ 1 และ 2 เดินทางมารายงานตัวต่อศาลในวันที่ 11 ส.ค.หลังจากเดินทางกลับจากต่างประเทศ ส่วนการเดินทางไปประเทศอังกฤษนั้น หากจำเลยจะเดินทาง ขอให้ยื่นคำร้องเข้ามาใหม่เพื่อให้ศาลพิจารณาตามที่เห็นสมควร


http://www.komchadluek.net/2008/07/29/x_pol_k001_213545.php?newsid=213545

ต้องกลับมารายงานตัวต่อศาลฎีกา ในวันที่ ๑๑ สค
บันทึกการเข้า
คดีที่ดินรัชดา
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: 31-07-2008, 14:06 »

ศาลฎีกาฯคดีอาญานักการเมือง สั่งจำหน่ายคดีทุจริตที่ดินรัชดาเอาไว้ชั่วคราว จนกว่าจะได้ทักษิณ-พจมาน กลับไทย

ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งให้จำหน่ายคดี ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุญหญิงพจมาน ภริยา ในคดีทุจริตการซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก เป็นการชั่วคราว โดยศาลฯจะเริ่มพิจารณาคดีดังกล่าวอีกครั้ง หลังจากที่อัยการได้นำตัวบุคคลทั้งสองกลับประเทศไทย

"แม้โจทก์จะแถลงว่า จะใช้เวลาดำเนินการเรื่องการขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนภายในกำหนดประมาณ 90 วัน กรณีนี้ไม่อาจทราบได้แน่ชัดว่า จะได้ตัวจำเลยทั้งสองมาศาลเมื่อใด จึงให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบชั่วคราว เมื่อได้ตัวจำเลยทั้งสองจะได้ยกคดีขึ้นมาพิจารณาต่อไป" นายทองหล่อ โฉมงาม ประธานองค์คณะผู้พิพากษา ศาลฏีกา กล่าวบนบัลลังก์

เช้านี้ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้นัดฟังผลการดำเนินการของอัยการ หลังมีคำสั่งให้ออกหมายจับบุคคลทั้งสอง เมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเปิดคดีนัดแรก แต่ พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมาน ไม่ได้มาขึ้นศาลนัดแรกด้วยตนเอง โดยอัยการได้แถลงต่อศาลฯ เพื่อขอเวลาอีกราว 3 เดือน ดำเนินการเรื่องขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน เพื่อนำ พ.ต.ท.ทักษิณและภริยากลับไทย

ด้าน นายเศกสรร บางสมบุญ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ ในฐานะหัวหน้าผู้ว่าคดีที่ดินรัชดาฯ เปิดเผยว่า จะไปประสานงานกับหน่วยงานประสานกลางของประเทศอังกฤษ หรือที่เรียกว่า CPS ไม่เกินวันที่ 12 ตุลาคมนี้

โดยมั่นใจว่าจะได้ตัวอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และภรรยา กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยได้ และไม่อยากให้เทียบคดีนี้กบคดีอื่นๆ เช่น คดีของนายราเกซ สักเสนา ที่ขณะนี้ยังจับตัวไม่ได้ และเป็นคดีที่วุ่นวาย และยุ่งยากมากกว่า และคดีนี้มีอายุความนานถึง 15 ปี นับตั้งแต่วันที่มีการกระทำความผิด

ที่มาจาก
บันทึกการเข้า
คดีที่ดินรัชดา
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #4 เมื่อ: 31-07-2008, 14:12 »

ศาลฎีกาฯ นัดไต่สวนพยานโจทก์คดีที่ดินรัชดาฯ นัดแรก 8 ก.ค.
ศาลฎีกา 30 เม.ย.- ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาฯ นัดไต่สวนพยานโจทก์และจำเลย คดีที่ดินรัชดาฯ ฝ่ายละ 5 นัด เริ่ม 8 ก.ค.นี้ “เศกสรร บางสมบุญ” เบิกความ “วีระ สมความคิด” เป็นพยานปากแรก ขณะที่ “พิชิฏ ชื่นบาน” ทนายตระกูลชินวัตร จะเป็นพยานจำเลย ปากแรก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 10.00 น. วันนี้ (30 เม.ย.) นายทองหล่อ โฉมงาม ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน และองค์คณะผู้พิพากษา รวม 9 คน ของศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้ออกนั่งบัลลังก์พิจารณาตรวจพยานหลักฐานโจทก์-จำเลย ในคดีหมายเลขแดงที่ อม.1/2550 การจัดซื้อที่ดินย่านรัชดา ระหว่างอัยการสูงสุด โจทก์ และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จำเลยที่ 1 และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร จำเลยที่ 2 ต่อจากวันที่ 29 เมษายน 2551 โดยโจทก์และทนายจำเลยทั้งสอง มาศาล จำเลยที่ 1 และที่ 2 ไม่มา

ทั้งนี้ ศาลมีคำสั่งระบุว่า ทนายจำเลยทั้งสองยื่นคำร้องโต้แย้งพยานเอกสารของโจทก์ ตามคำร้องลงวันที่ 29 เมษายน 2551 โจทก์แถลงว่า โจทก์ไม่โต้แย้งพยานเอกสารที่จำเลยอ้าง ในส่วนที่เป็นระเบียบ คำสั่ง และกฎหมาย ส่วนเอกสารอื่นโจทก์ยังคงโต้แย้ง โดยโจทก์ประสงค์จะให้สืบพยานบุคคลประกอบพยานเอกสาร

สอบโจกท์-จำเลยแล้ว โจทก์แถลงว่า พยานโจทก์ตามบัญชีพยานลงวันที่ 18 เมษายน 2551 โจทก์ขอให้ศาลไต่สวนพยาน 22 ปาก ขอให้ศาลนัดไต่สวนพยานโจทก์ 5 นัด ทนายจำเลยแถลงว่า จำเลยทั้งสองติดใจขอให้ศาลไต่สวนพยานบางปากที่โจทก์ขอให้ศาลไต่สวนอยู่แล้ว ซึ่งทนายจำเลยทั้งสองจะได้ขออนุญาตศาลถามพยานไปพร้อมกัน จึงยังคงเหลือพยานจำเลยทั้งสองที่ติดใจ ขอให้ศาลไต่สวนในชั้นไต่สวนพยานจำเลยทั้งสองอีกเพียง 22 ปาก ขอให้ศาลนัดไต่สวนพยานจำเลยทั้งสอง 5 นัด

ศาลพิเคราะห์แล้วให้นัดไต่สวนพยานโจทก์ วันที่ 8, 15, 22, 25และ 29 กรกฎาคม 2551 เวลา 09.30 น. นัดไต่สวนพยานจำเลยทั้งสอง วันที่ 1, 5, 15, 19 และ 22 สิงหาคม 2551 เวลา 09.30 น. และให้นัดไต่สวนพยานหลักฐานเพิ่มเติมไว้ในวันที่ 26, 29 สิงหาคม และ 2 กันยายน 2551 เวลา 09.30 น. เหตุที่ไม่ได้นัดไต่สวนพยานหลักฐานต่อเนื่องติดต่อกันไปทุกวันทำการ เพราะคู่ความและศาลมีกิจธุระจำเป็น อันมิอาจจะก้าวล่วงเสียได้

ทั้งนี้ ให้โจทก์และทนายจำเลยทั้งสองแถลงต่อศาลภายใน 7 วัน นับแต่วันนี้ (30 เม.ย.) ว่า จะขอให้ศาลไต่สวนพยานปากใดในวันใด หากพยานปากใดจำเป็นต้องขอให้ศาลออกหมายเรียก ให้ยื่นคำร้องขอให้ออกหมายเรียกมาพร้อมกันด้วย แล้วให้รีบดำเนินการส่งหมายเรียกให้พยาน และติดต่อประสานงาน เพื่อให้พยานมาศาลตามนัด หากพยานไม่สามารถมาศาลในวันเวลานัดได้ ก็ให้ประสานงานให้พยานมาศาล ในวันนัดไต่สวนพยานหลักฐานของแต่ละฝ่าย นัดอื่นซึ่งนัดไว้แล้ว หากจำเป็นต้องออกหมายเรียกพยานใหม่ ก็ขอให้รีบดำเนินการ เพื่อให้การไต่สวนพยานหลักฐานเสร็จสิ้นภายในกรอบเวลาที่กำหนด

อนึ่ง เพื่อให้การไต่สวนพยานหลักฐานเป็นไปได้โดยสะดวก และรวดเร็ว ให้นัดพร้อมในวันที่ 1 กรกฎาคม 2551 เวลา 09.30 น. ให้โจทก์และจำเลยทั้งสองแถลงถึงประเด็นข้อเท็จจริงที่จะทำการไต่สวน รวมทั้งคำถามที่ประสงค์จะให้ศาลถามพยานแต่ละปาก ก่อนวันไต่สวนพยานหลักฐานในนัดนั้น ๆ ไม่น้อยกว่า 7 วัน

นายเศกสรร บางสมบุญ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ คณะทำงานอัยการในคดีจัดซื้อที่ดินย่านรัชดา กล่าวภายหลังรับฟังคำสั่งศาลว่า พยานทั้ง 22 ปาก ที่ได้ยื่นขอให้ไต่สวน จะแบ่งพยานตามวันที่ศาลกำหนด โดยคนแรกที่จะมาเบิกความคือ นายวีระ สมความคิด ซึ่งเป็นผู้เปิดเผยประเด็นดังกล่าวคนแรก และไม่รู้สึกกังวลที่มีพยานหลายคนซ้ำกับพยานฝ่ายจำเลย เพราะคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ได้บันทึกผลปากคำพยานทั้งหมดแล้ว หากมีประเด็นอื่นที่จะทำให้เสียหายต่อคดี เราก็ต้องถามค้าน ติดตามระบบสืบพยาน

“หาก พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน เดินทางมาเบิกความด้วยตัวเองก็ไม่มีปัญหา เพราะทั้ง 2 คน มาในฐานะจำเลย ถ้าเบิกความมา อัยการก็ทำหน้าที่ทนายในการสอบถาม ทีมงานทั้งหมดไม่มีแรงกดดันในการทำงาน และมีความมั่นใจในการทำหน้าที่ ส่วนผลจะออกมาอย่างไร เป็นดุลยพินิจของศาล” นายเศกสรร กล่าว

ด้านนายพิชิฏ ชื่นบาน ทนายความของครอบครัวชินวัตร เปิดเผยว่า จะเป็นพยานจำเลยคนแรก เพราะเป็นผู้ได้รับมอบอำนาจจาก พ.ต.ท.ทักษิณ  และคุณหญิงพจมาน ตั้งแต่ชั้น คตส. ในการไปแก้ต่างคดี ทั้งนี้ ลักษณะการเบิกความจะเป็นการรวบรวมข้อเท็จจริงทางกฎหมาย อย่างไรก็ตาม บุคคลทั้งสองจะเดินทางมาเบิกความด้วยตัวเองในเดือนสิงหาคม แต่จะเป็นวันใดนั้น ต้องไปปรึกษาเพื่อดูความพร้อมก่อน ทั้งนี้ จะแบ่งพยานเป็นกลุ่มตามประเด็น เพื่อมาตามวันที่ศาลนัด โดยจะเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องในประเด็นข้อเท็จจริง อาทิ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน กรมบัญชีกลาง อย่างไรก็ตาม การไต่สวนคงเป็นไปโดยเปิดเผย

ส่วนนายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น (คปต.) ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า พร้อมที่จะเดินทางไปเป็นพยานในเรื่องดังกล่าว เพราะเป็นผู้ที่กล่าวโทษเรื่องนี้ตั้งแต่ต้น อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าสถานการณ์การเมืองจะเป็นอย่างไร ก็ไม่รู้สึกกังวล เพราะทุกอย่างอยู่ในหัวทั้งหมด ดังนั้น การพูดอะไรก็เป็นข้อเท็จจริง ไม่ว่าจะพูดสักกี่ครั้ง และว่า “ผมยังไม่มีหลักฐานอะไรจะยื่นต่อศาลเพิ่มเติม ส่วนใหญ่เป็นหลักฐานเดิมที่เคยใช้แล้ว และไม่กลัว หากจะมีสถานการณ์ใดมากดดัน ก่อนถึงวันนัดไต่สวนพยาน”.-สำนักข่าวไทย

อัพเดตเมื่อ 2008-04-30 16:11:32

http://news.mcot.net/politic/inside.php?value=bmlkPTMyNTgyJm50eXBlPXRleHQ=

เดือน ก.ย.  เดือนอันตราย
บันทึกการเข้า
THE THIRD WAY
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,821


Love looks not with eyes, but with the mind.


« ตอบ #5 เมื่อ: 31-07-2008, 14:17 »

อาญาแผ่นดิน--หนีได้
อาญาสวรรค์--หมดทางหนี
บันทึกการเข้า

ความรักนั้นหวาน ไม่ว่าจะรับหรือให้
************************
การขับไล่ทรราช เป็นภารกิจของเจ้าของประเทศ
หน้า: [1]
    กระโดดไป: