แต่น่าตกตะลึงกว่า คือ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร จาก ประชาธิปัตย์ ไปลงนาม 14 มิ.ย.2543 ให้การปักปันเขตแดนใช้ แผนที่ ฉบับลงนาม ณ กรุงปารีส 13 ก.พ. คศ.1604 ฉบับที่ไทยเสีย เขาพระวิหาร ให้เขมร....0 หากมีการต่อสู้ใน ศาลโลก เขมร มีหรือไม่ใช้ หลักฐานเด็ด ชิ้นนี้ มัดมือชก ฮุบ พท.4.6 ตร.กม.....0 สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตร ที่ปลุกระดมเย้วๆ จะยกพลไปยึด ปราสาทพระวิหารคืน เห็นข้อตกลงนี้แล้ว สะใจ แค่ไหนหนอ....0 แถลงการณ์ร่วม ไทย กัมพูชา 18 มิ.ย.51 ของ นพดล เป็นหลักฐานที่ เขมร ยอมรับ พื้นที่4.6 ตร.กม.ไม่ใช่ของตัว กลับถูกฉีกทิ้งไป ชนิด ไม่ไยดี .....0 ที่เหลือคือ ความ ล่อแหลม ที่ไทยจะ เสียกรุงฯ ครั้งที่3 ถามหน่อยเถอะ หน้าไหนจะโผล่มารับผิดชอบบ้างhttp://www.dailynews.co.th/web/html/popup_columns/default.aspx?CategoryID=107&NewsType=2 **********************************
ณ วันที่ 22 พฤษภาคม 2008 มีการประชุมหารือกันระหว่าง นายซก ฮัน รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีรับผิดชอบสำนักคณะรัฐมนตรี แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และนายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อสืบต่อการหารือระหว่างทั้งสองท่าน ว่าด้วยการขอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารไว้ในบัญชีมรดกโลก การประชุมคราวนี้จัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ขององค์การยูเนสโก ในกรุงปารีส โดยที่มีท่านอื่นๆ เข้าร่วมด้วย ได้แก่ นางฟรองซัวส์ ริเวเร (Francoise Riviere) ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายวัฒนธรรมของยูเนสโก, เอกอัครราชทูต ฟรานเซสโก คารูโซ (Francesco Caruso), นาย อาเซดิโน เบสชอต (Azedino Beschaouch), นางเปาลา เลออนซินี บาร์โตลี (Paola Leoncini Bartoli) และนายจิโอวานนี บอคคาร์ดี (Giovanni Boccardi)
การประชุมหารือคราวนี้ดำเนินไปด้วยเจตนารมณ์แห่งมิตรภาพและความร่วมมือกัน
ระหว่างการประชุมหารือ ทั้งสองฝ่ายได้ทำความตกลงกันดังต่อไปนี้
1. ราชอาณาจักรไทยสนับสนุนการขึ้นทะเบียนประสาทพระวิหาร เข้าไว้ในบัญชีมรดกโลก ตามการเสนอของราชอาณาจักรกัมพูชา ณ การประชุมครั้งที่ 32 ของคณะกรรมการพิจารณามรดกโลก (นครควิเบก, ประเทศแคนาดา, เดือนกรกฎาคม 2008) ตามขอบเขตรอบดินแดนซึ่งระบุไว้ว่าเป็น หมายเลข 1 ในแผนที่ซึ่งจัดทำโดยทางการผู้รับผิดชอบของกัมพูชา และได้แนบท้ายมาด้วยแล้ว แผนที่ดังกล่าวยังได้ครอบคลุมพื้นที่กันชนทางด้านตะวันออกและด้านใต้ของปราสาท โดยระบุให้เป็น หมายเลข 2
2. ด้วยเจตนารมณ์แห่งมิตรภาพและความร่วมมือกัน ราชอาณาจักรกัมพูชายอมรับว่า ปราสาทพระวิหารที่จะเสนอขอขึ้นทะเบียนไว้ในบัญชีมรดกโลก ในขั้นนี้จะไม่ได้รวมพื้นที่กันชนทางด้านเหนือและด้านตะวันตกของปราสาท
3. แผนที่ซึ่งอ้างไว้ในวรรค 1 ข้างต้น จะแทนที่แผนที่ต่างๆ ซึ่งเกี่ยวข้องและบรรจุไว้ใน Schema Directeur pour le Zonage de Preah Vihear ตลอดจนการอ้างอิงด้านกราฟฟิกทั้งหมดที่ระบุบ่งชี้ถึง บริเวณหลัก (core zone) และการแบ่งบริเวณอื่นๆ (zonage) ของปราสาทพระวิหาร ที่บรรจุอยู่ในแฟ้มเสนอขอขึ้นทะเบียนของกัมพูชาด้วย
4. ระหว่างที่รอผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการร่วมเพื่อการปักปันเขตแดนทางบก (Joint Commission for Land Boundary หรือ JBC) เกี่ยวกับพื้นที่ด้านเหนือและด้านตะวันตกรอบๆ ปราสาทพระวิหาร ซึ่งได้รับการระบุให้เป็น หมายเลข 3 ในแผนที่ที่อ้างอิงไว้ในวรรค 1 ข้างต้น แผนการบริหารจัดการพื้นที่เหล่านี้จะได้รับการจัดทำในลักษณะของการประสานร่วมมือกันระหว่างทางการผู้รับผิดชอบของกัมพูชาและทางการผู้รับผิดชอบของไทย โดยสอดคล้องกับมาตรฐานการอนุรักษ์ระหว่างประเทศ ด้วยทัศนะที่มุ่งรักษาคุณค่าอันเป็นสากลที่โดดเด่นของทรัพย์สินดังกล่าวนี้ แผนการบริหารจัดการดังกล่าวนี้จะบรรจุไว้ในแผนการบริหารจัดการสุดท้ายสำหรับปราสาทพระวิหารและบริเวณรอบๆ ปราสาท ซึ่งจะยื่นเสนอต่อศูนย์กลางมรดกโลก (World Heritage Centre) ภายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2010 เพื่อการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณามรดกโลก ในการประชุมครั้งที่ 34 ในปี 2010
5. การขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารไว้ในบัญชีมรดกโลกครั้งนี้ จะไม่ทำให้เสื่อมเสียสิทธิ์ของราชอาณาจักรกัมพูชาและราชอาณาจักรไทย ในการกำหนดปักปันเขตแดนของคณะกรรมการร่วมเพื่อการปักปันเขตแดนทางบก (JBC) ของประเทศทั้งสอง
6. ราชอาณาจักรกัมพูชาและราชอาณาจักรไทย ขอแสดงความซาบซึ้งใจอย่างยิ่งต่อท่านผู้อำนวยการใหญ่องค์การยูเนสโก ฯพณฯ นายโคอิชิโร มัตสึอุระ สำหรับความช่วยเหลือของท่านในการอำนวยความสะดวกให้แก่กระบวนการเพื่อการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารไว้ในบัญชีมรดกโลก
พนมเปญ, 18 มิถุนายน 2008 กรุงเทพฯ, 18 มิถุนายน 2008
ในนามรัฐบาลราชอาณาจักรกัมพูชา ในนามรัฐบาลราชอาณาจักรไทย
ฯพณฯ นาย ซก อัน ฯพณฯ นายนพดล ปัทมะ
รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
รัฐมนตรีรับผิดชอบสำนักคณะรัฐมนตรี
ปารีส, 18 มิถุนายน 2008
ผู้แทนของยูเนสโก
***********************************
เป็นแถลงการณ์ร่วมแปล นะครับ... ไปดูที่เวบเมเนเจอร์ก็ได้... หรือกระทู้เก่าของคุณ mebeam
แถลงการณ์นั้น ไม่ได้มีตรงไหนที่ กัมพูชา บอกว่า.... พื้นที่ทับซ้อน... หรือพื้นที่สีเขียว... ไม่ใช่ของตน...
แต่การสื่อสารอย่างเป็นทางการระหว่างประเทศ... ใช้คำที่เป็นที่เข้าใจ (แปลเป็นไทยอีกที) ว่า พื้นที่ทับซ้อน...
ซึ่งผม ก็บอกไปแล้ว ว่า... ทั้งไทย... ทั้งกัมพูชา... ต่างอ้างเป็น พื้นที่ของตน...
(ไม่เชื่อก็ไปถามฮุนเซ็น... เตียบัน...หรือพลเอกบุญสร้าง เอาก็ได้)
***************
ส่วนเรื่อง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร จาก ประชาธิปัตย์ ไปลงนาม 14 มิ.ย.2543 .... อันนี้ผมยังไม่มีข้อมูลครับ...
เดี๋ยวขอไปหาดูก่อน...
