ไฟล์เสียงบทสัมภาษณ์ขวัญชัยทางโทรศัพท์ในรายการเช้าวันนี้

สรยุทธ์ : ก็ต้องถามกันตรงๆ นี่แหละนะฮะ ข่าวที่ออกมาก็เป็นอย่างที่สื่อมวลชนนำเสนอตรงกันก็คือว่า ทำไมถึงต่างคนต่างชุมนุมไม่ได้ล่ะฮะ คุณขวัญชัยฮะ
ขวัญชัย : คุณสรยุทธ์ครับ ผมขอพูดในนามของสื่อมวลชนคนหนึ่ง ในฐานะที่เป็นนักจัดรายการ เราเห็นพฤติกรรมของกลุ่มนี้มาโดยตลอด คุณสรยุทธ์เนี่ยทำข่าวมาพวกผมมาตั้งแต่พวกผมไปไล่สุริยะไสและไชยวัฒน์เมื่อ 23 เมษาปี 48 จำได้มั้ยครับที่มหาลัยราชภัฎ นั่นคือวันเริ่มต้นของชมรมคนรักอุดร วันนี้ผมรู้ครับว่าผมตกเป็นเหยื่อของคนเหล่านี้ ผมเข้าใจในฐานะผมเป็นประธานชมรม ผู้หลักผู้ใหญ่เตือนผมแล้ว ว่าขวัญชัยอย่าไปปะทะนะ เขาเตรียมกล้องเอาไว้เยอะ เขาเตรียมการ์ดเอาไว้มาก เขาประชุมกันหลายรอบ แต่ในฐานะผมเป็นประธานชมรม หัวใจของประชาชนคนอุดรเนี่ยเค้าเกิดความรู้สึกว่า คนเหล่านี้ท้าทายเกินไป นายเจริญทำแบบนี้มันเป็นการหยามน้ำใจชาวอุดรที่เราบอกกี่ครั้งกี่หนแล้ว 28 กรกฎา(น่าจะเป็น 18) เราก็ไปไล่แล้วที่บ้านห้วยยันสว่าง 6 โมงเช้า ก็ยังมาแถลงข่าวเมื่อวันที่ 22 ที่โรงแรมเจริญ แถลงข่าวเอาพันธมิตรในหลายจังหวัดภาคเหนือเนี่ย เอามาแถลงข่าว มีอยู่ 40 กว่าคน ในการแถลงข่าวอัดเทปออกมาก็มีการการด่าขวัญชัย ไพรพนา คุณสรยุทธ์ครับ ไม่เป็นไรครับว่ากันไปตามกฎหมาย พวกผมเคารพกฎหมาย บนเวทีของผมที่ทุ่งศรีเมืองเขียนไว้ว่า "กฎหมู่ต้องไม่อยู่เหนือกฎหมาย"
สรยุทธ์ : นั่นน่ะสิฮะ
ขวัญชัย : ผมบอกไปแล้วว่า ในประเทศในโลกก็ไม่มีกฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย เพราะฉนั้นถ้าผมผิด ผมยินดีจะเดินไปโรงพัก ขอให้ออกหมายเรียกมาเลย ไม่มีปัญหาหรอกครับคุณจะสร้างเหตุการณ์หลักการจะถ่ายรูปกันยังไงจะตั้งกล้องกันมุมไหน จะจับภาพกันยังไงแล้วเอาไปตัดต่อ แล้วก็เอาไปให้คุณสนธิ ลิ้มทองกุลแถลงข่าววันนี้ตอนบ่ายโมง ตามสบายครับ ผมในฐานะประธานชมรมจะออกรับแทนประชาชนของผมทั้งหมด
สรยุทธ์ : คือ.. คือเอาอย่างงี้ คือเอาเหตุการณ์ไม่ใช่ว่ารับหรือไม่รับยังไง คือเหตุการณ์เนี่ย ต้องถามกันตรงๆ ถ้ากลุ่มของคุณขวัญชัยต่างคนต่างอยู่ก็ไม่เกิดเรื่องถูกมั้ยฮะ
ขวัญชัย : คุณสรยุทธ์ครับ มีเรื่องอยู่นิดหนึ่งที่อยากจะให้มันเข้าใจความชัดเจนในสังคมประเทศนะครับ มีประชาชนมาร้องกับพวกผมที่เวที จะไปออกกำลังกายที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ ไปออกไม่ได้ เพราะคนกลุ่มนี้ปิดกั้นไว้หมด รถที่ไปรับส่งนักเรียนไปจอดเขาก็ไล่ออก คือคนเหล่านี้เขาทำอะไรก็ได้คนในประเทศไทยที่ทำไม่ได้แต่คนเหล่านี้ทำได้
สรยุทธ์ : หมายถึงตำรวจเข้าไปกั้นเพื่อป้องกันเหตุรึเปล่าฮะ
ขวัญชัย : เข้าใจครับแต่การที่คนจะเข้าไป คนออกกำลังกายทำไมต้องกั้นด้วย การ์ดของเขาแต่ละคนเนี่ยออกมากั้นหมด แบ่งชุดกัน ซักซ้อมกันออกมา เตรียมการเอาไว้ทำร้ายพวกเรา มีตะปูเรือใบตั้ง 2 ถุงนะครับคุณสรยุทธ์
สรยุทธ์ : เอามาจากไหนฮะ อยู่ตรงไหนฮะตะปูเรือใบน่ะ
ขวัญชัย : อยู่ที่.. ไอ้ที่ถูกเผานั่นแหละครับ ตรงนั้นแหละ แถวนั้นแหละเต็มเลยครับที่เขาเตรียมของมาขายนั่นแหละ แล้วผมเก็บมาเนี่ยเดี๋ยวเราจะเอาไปมอบให้ตำรวจวันเนี้ย
สรยุทธ์ : เดี๋ยวๆ คุณขวัญชัยหยุดแป๊บนึง ผมเชิญคุณไทกร พลสุวรรณมาคุยด้วยเนี่ยนะฮะ อย่า.. อย่าด่ากันนะครับ
ขวัญชัย : ไม่ละครับ คุณสรยุทธ์ครับ ผมมีวุฒิภาวะพอครับผมไม่ใช่นักการเมืองผมเป็นโฆษกบ้านนอกครับ
สรยุทธ์ : เอา เฉพาะเหตุการณ์นะครับ คุณไทกรสวัสดีครับ
ไทกร : สวัสดีครับคุณสรยุทธ์ครับ
สรยุทธ์ : คุณไทกรอยู่ในเหตุการณ์เมื่อวานนี้ใช่มั้ยฮะ
ไทกร : ครับ อยู่ใกล้ๆน่ะครับ เพราะผมจะต้องไปปราศรัยที่ หนองประจักษ์นั่นแหละครับ
สรยุทธ์ : อ่า คุณไทกรอยู่ในสายแล้วก็ลองฟังคุณขวัญชัยก่อนนะฮะ ผมกำลังถามตรงนี้ว่า คุณขวัญชัยตกลงตอนนั้นยืนยันว่ามีชาวบ้านไปร้องเรียนก็เลย.. คือมันก็.. ประชาธิปไตยมันก็เนี่ยคุณขวัญชัยฮะ.. ต่างคนต่างแสดงความความเห็นกันคนไปละจุดไม่ดีเหรอฮะ
ขวัญชัย : คือ.. จริงๆ แล้วคุณสรยุทธ์ครับ ผมอยากจะบอกว่ามัน เหตุการณ์มันมีหลายครั้งแล้ว เราเคยไปไล่กันมา 2 รอบ 3 รอบแล้ว ไล่นายเจริญแกนนำพันธมิตรอุดรเนี่ย เราก็บอกแล้วว่าคุณอย่ามาทำในอุดรเลย มันมีชมรมคนรักอุดรที่รวมหมู่ประชาชนนับแสนคนอยู่ที่คลื่น 87.5 เนี่ย ถ้าหากว่าชมรมคนรักอุดรมันไม่มีคุณภาพ หรือมันทำงานเพื่อการเมืองมันจะไม่โตอย่างนี้หรอก แต่นี่มันมีด้วยใจของประชาชนสมาชิก คุณสรยุทธ์เชื่อมั้ยว่า ผมสร้างสถานีเนี่ย น้ำใจจากสมาชิกทั้งนั้นแหละครับ
สรยุทธ์ : อ่ะๆ ไม่เป็นไรอันนั้นก็ว่ากันไปจะสนับสนุนอะไรกันยังไง ก็เป็นสิทธิ์เนี่ยนะฮะ ขณะเดียวกันเนี่ย ทำไมถึง.. พอยกกันไปตรงนั้นถูกมั้ยฮะ ก็น่าจะไปแสดงจุดยืนอะไรยังไงก็แล้วแต่.. แต่ว่าเนี่ย.. ข่าวก็.. มีทั้งไม้ ทั้งมีด ทั้ง.. อะไรนะฮะ อุจจาระ.. ถุงอุจจาระเนี่ย แล้วก็.. โอ้โหภาพเนี่ยมัน.. แห่พรวดเข้าไปอย่างงั้นแล้วก็.. รุมเตะ รุมต่อยเค้าเนี่ย
ขวัญชัย : ครับ.. อารมณ์ของคนนะครับ คุณสรยุทธ์ อารมณ์ของประชาชนคนอุดรพวกผมเนี่ยชาวรากหญ้า คนทำนา ทำนาทำไร่ ทำสวน เป็นอาชีพเกษตรกร.. นะครับ เมื่อจิตใจมันเป็นอย่างนี้แล้วเนี่ย นี่คือ บรรยากาศแบบนี้ถ้าเป็น.. เวทีหมอลำซิ่งนะครับ ยิ่งกว่านี้อีกครับคุณสรยุทธ์ บ้านอีสานบ้านเราเนี่ย เป็นธรรมดาครับ การตบตีการตีกันกันแบบเนี้ย ชาวบ้านน่ะเป็นอย่างนี้ครับเป็นธรรมชาติครับ
สรยุทธ์ : โอ้ย.. นี่มัน.. มัน.. มัน.. คุณขวัญชัยเห็นภาพแล้วไม่.. ไม่สลดใจเหรอฮะ
ขวัญชัย : ไม่เลยครับ ผมดูแล้วมันธรรมดาครับ ในเมื่อเขาตั้งการ์ดเตรียมพร้อมไว้แล้วเนี่ย พวกผมไปจำนวนมาก คือ คุณสรยุทธ์ครับตอนแรกคนของเราเดินเข้าไปเนี่ย เพียงไม่กี่คน แล้วก็การ์ด ก็เห็นพวกเราเข้าไปน้อย ก็เลย.. ปรี่เข้ามา.. มาตีก่อน คนที่อยู่ข้างนอกที่ริมหนองประจักษ์นี่ก็เลยกรูกันเข้าไป ก็เลยกลายเป็นภาพอย่างนี้ แต่พวกผมไม่มีโอกาสเก็บภาพ เพราะพวกผมไม่มีกล้อง ไม่ใช่อาชีพ พวกผมไปกันด้วยใจ อยากจะไปถามว่าทำไมต้องปิดกั้นด้วย แล้วก็บอกว่าให้เลิก อย่ามาปราศรัยที่นี่เลย คนอุดรจะไม่เชื่อ ก็พูดมา 3 ปีแล้วว่าไม่เชื่อๆๆ
สรยุทธ์ : ตกลงคุณขวัญชัยยืนยันว่าพอไปถึงหน้า.. ทุ่งประจักษ์เนี่ย ถูกการ์ดมาตีก่อนเหรอฮะ
ขวัญชัย : ของเราเข้าไปแล้วเขาก็ปรี่เข้ามาตีก่อนเราเข้าไป 2-3 คน ทีนี้คนเราข้างนอกมันเยอะเค้าก็เลย กรูกันเข้าไปก็เลยกลายเป็นภาพที่เห็นนี่แหละ
สรยุทธ์ : คุณขวัญชัยหยุดนิดนึงก่อนนะฮะ เอ้าคุณไทกรฮะ เหตุการณ์ในมุมของคุณไทกรเป็นยังไงครับ
ไทกร : เหตุการณ์ก็คือว่า มันเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจน่ะครับ ที่ปล่อยให้มีการปลุกระดม ที่ทุ่งศรีเมือง แล้วก็เดินมา แล้วก็มีรถตำรวจเปิดสัญญาณไฟจราจรนำกลุ่มผู้ประท้วงจากทุ่งศรีเมือง ซึ่งห่างจากจุดปราศรัยเกือบ 1 กิโลนะครับ เดินมา และบริเวณนั้นก็ยังไม่ได้เริ่มเวที ก็มีคนอยู่ประมาณ 100 กว่าคนเองนะครับ เอ่อ.. แล้วการบุกเข้าไป ส่วนใหญ่แล้วพี่น้องซึ่งเป็นอาสาสมัครรักษาความปลอดภัยก็ใส่หมวกกันน็อค เพราะว่า ทุกๆ เวทีที่ปราศรัยกันนี่มันจะมีการยิงหนังสติ๊กเข้ามา ก็เป็นคนอุดรทั้งนั้นนะครับ มีแต่คนอุดรทั้งนั้นเลย ไม่มีคนที่พูดไทยไม่ได้เหมือนที่ถูกกล่าวหาและทุกคนก็ยังรักษาตัวอยู่ รพ.ศูนย์อุดรบ้าง บางคนย้ายมาที่ รพ.ศรีนครินทร์บ้างเนื่องจากอาการหนักน่ะนะครับ แต่เรื่อง.. เรื่องทั้งหมดที่มันเกิดขึ้นก็คือว่า เราไม่ได้เคารพสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของแต่ละบุคคล ถ้าเรายึดถือการปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีองค์พระมหากษัตริย์เป็นประมุขแล้วนี่.. ทางโน้นก็จัดที่ทุ่งศรีเมืองไป ทางเราก็จัดที่หนองประจักษ์ไป คุณสรยุทธ์รู้มั้ยครับ พี่น้องประชาชนทำที่หนองประจักษ์ไม่ได้ เนื่องจากรื้อเวที ก็ไปรวมตัวกันที่โรงแรมนภาลัย 2000 กว่าคนเค้าก็ฟังปราศรัยตามปรกติ นะครับ ไม่มีอะไรเลย
สรยุทธ์ : ที่โรงแรมก็ยังอยู่ต่อไปได้ ถูกมั้ยฮะ
ไทกร : ก็.. อยู่ต่อไปได้ครับ เพียงแต่ว่า สิ่งที่เห็นนี่.. เหมือนกับลักษณะว่า ถ้าจังหวัดไหน ข่าวลือนะครับ ถ้าจังหวัดไหนรื้อเวทีได้ จังหวัดไหนทำลาย.. อย่างคุณการุณ ไสยงาม ปราศรัยที่มหาสารคาม ถูกหนังสติ๊กยิงที่หน้าผาก ล้มทั้งยืนกลางเวทีนะครับ เรื่องนี้ไม่ได้ออกข่าว แกต้องไปรักษา แล้วก็กลับไปที่บุรีรัมย์
สรยุทธ์ : อ๋อ ออกครับออก ข่าวก็ออกครับคุณไทกร
ไทกร : ครับ นี่.. นี่มันแสดงให้เห็นว่า เป็นการประสงค์ ของผู้ที่อยู่เบื้องหลัง ที่จะก่อให้เกิดความขัดแย้งวุ่นวายนำไปสู่สถานการณ์รุนแรง ซึ่งผมคิดว่า ให้แสดงความคิดเห็นของแต่ละฝ่ายไปเถอะครับ อย่านำมวลชนมาปะทะกันเลย เพราะคนส่วนใหญ่ที่ถูกปลุกปั่นให้มาปะทะนั้น มัน.. เป็นลักษณะที่.. วุฒิภาวะไม่สูงพอ เมื่อไม่สูงพอ เราเห็นลักษณะ.. ยิงหนังสติ๊กเข้ามาอย่างนี้ เอ่อ.. ประกาศว่า แผลละ 500 อย่างนี้ ซึ่งมันมีการอัดเทปอัดเสียงไว้ แล้ววันนี้ กลุ่ม.. พี่น้องคนอุดรที่อยู่ตำบลในเมืองน่ะครับ เค้าก็จะไปแจ้งความ ในข้อหาซ่องโจร ข้อหาเป็นภัยความมั่นคง เอ่อ.. เพื่อจะดำเนินการกับผู้ยุยงปลุกปั่นให้คนมาทำร้ายกัน มีที่ไหนคุณสรยุทธ์ เอาไม้หน้าสามเนี่ยเอาตะปูไปตอกให้มันแหลมๆ นี่มัน.. มันก็ คือกำลังจะฆ่ากันน่ะ
สรยุทธ์ : หมายถึงว่าปลายไม้นี่มีตะปูด้วยเหรอฮะ
ไทกร : ครับ ตะปูตอกมา เอ่อ.. คือตอกอีกด้านนึงให้มันทะลุอีกด้านนึงให้มันเป็นคมคือ ฟาดแล้วให้มันเสียบเข้าไปเลย
สรยุทธ์ : นึกออกฮะ คือยืนยันว่ามีการตระเตรียมอาวุธมา ถูกมั้ยฮะ
ไทกร : ถูกครับ มีทั้งเหล็กทั้ง..
สรยุทธ์ : ที่นี้คุณไทกร ทางฝ่ายคุณขวัญชัยเนี่ยบอกว่า พันธมิตรเองก็มี มีตะปูเรือใบ มีอาวุธเตรียมเอาไว้เหมือนกัน
ไทกร : เอ่อ ไม่มีครับมีแต่ธง.. ธงเท่านั้นแหละครับ การ์ดเค้าก็ถือธงและการ์ดเค้าก็สวมหมวกกันน็อคกลัวเค้ายิงหนังสติ๊กถูกตา ส่วนไอ้ที่เดินมาตามถนนแล้วตำรวจเห็นแล้วไม่จับ ถือทั้งมีด ถือทั้งเคียวเกี่ยวหญ้าก็มีนะครับ ถือขวานด้วยก็มี มัน.. มันไม่ใช่การ มาเพื่อ ที่จะเอ่อ.. ปราศรัยน่ะครับ มันมาเพื่อที่จะเข้าไปทำร้ายคนที่มาฟังการปราศรัย แล้วคนอยู่ที่นั่น เป็นคนอุดรทั้งนั้นนะครับ แล้วยังมาตีเค้าที่หน้า รพ.อุดรอีกนะครับ ที่เค้า.. ชาวบ้านไปส่งแล้วไปดูไปเยี่ยมกัน ยังยกขบวนไปตีกันอีก ผมว่าอย่างนี้มัน.. เหมือนกับกลียุคแล้วบ้านเมือง
สรยุทธ์ : เอ้าคุณไทกรหยุดนิดนึง เอ้าคุณขวัญชัยฮะ เมื่อวานนี้คุณขวัญชัยพยายามจะบอกว่า ที่มาชุมนุมมาเตรียมตัวกันเนี่ย ไม่พูดภาษาไทยอะไรยังไงเนี่ย คุณไทกรเค้ายืนยันว่า คนอุดรด้วยกันทั้งนั้นแหละ
ขวัญชัย : คุณสรยุทธ์ครับ ผมฟังคุณไทกรแล้วผมอยากจะหัวเราะ โลกนี้มีจริงนะครับ เรื่องแบบนี้ การพูดจาเนี่ย สมแล้วครับที่คุณเคลื่อนไหวทางการเมือง คุณไทกร อีสานกู้ชาติ สมแล้วที่คุณเคลื่อนไหวหลายจังหวัด ผมอยากจะบอกเลยว่าเหตุการณ์ที่เมื่อเช้าคุณ.. เลขาผมให้สัมภาษณ์ทางสยามเช้านี้เนี่ย ชัดเจนที่สุดเพราะเขาอยู่ในเหตุการณ์ ผมเองเนี่ยไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ผมไม่ได้ไปเพราะผู้ใหญ่เค้าขอร้อง เค้าไม่อยากให้ผมไปปะทะ ผมบอกเอางี้ดีกว่าครับคุณสรยุทธ์ เอาไว้ให้ทางเจ้าหน้าที่บ้านเมืองเค้าดำเนินการไป เราะวันนี้เราเคารพกฎหมาย เพราะบนเวทีผมวันนี้ผมจะ เชิญประชาชนออกมากลางทุ่งศรีเมือง ทั้งหมดครับเมื่อวานนี้ประมาณ 4-5 พันคนที่ออกมาชุมนุมกันอยู่ หลังจากกลับมาหนองประจักษ์ฝนตกหมดครับฝนตกเปียกโชกไปหมด พวกเราก็มาสนุกกันอยู่ที่หน้าเวที..
สรยุทธ์ : เอาตรงนี้ๆ คือๆ ทางคุณไทกรเนี่ย อันนี้ก็เป็นการตั้งประเด็นกล่าวหาเหมือนกัน มีการตะโกนคุณไทกรบอกมีบันทึกเสียงเอาไว้หมดก็คือ แผลละห้าร้อยๆ นี่จริงมั้ยฮะ
ขวัญชัย : การพูดบนเวทีเนี่ย ผมยอมรับเลยนะครับ ว่า การพูดปราศรัยบนเวทีเราทำในที่สาธารณะ เราถ่ายทอดสดนะครับ มันเหมือนกับเอเอสทีวีออกอากาศนั่นแหละ แพร่ภาพไปทั่วโลก ไม่มีใครตำหนิ วันนี้พวกคุณดำเนินการเตรียมการเอาไว้ยังไงผมบอกแล้วคุณสรยุทธ์ผมเคารพกฎหมาย ว่ากันไปเถอะครับคุณจะพูดยังไงก็แล้วแต่ แต่ผมเคารพครับผมจะอยู่ในพื้นที่ จะไปชุมนุมต่อวันนี้ แล้วก็พร้อมไปถ้าหมายเรียกมา
สรยุทธ์ : อันนั้นไม่เป็นไร เข้าใจฮะ วันนี้ กลุ่มคนรักอุดรจะชุมนุมต่อก็ว่ากันไป แต่ว่า ผมถามอย่างงี้ ว่า ทั้งสองท่านเนี่ยนะฮะ เอามุมคุณไทกรก่อน คุณไทกรฮะ ทางนี้ เข้าใจนะฮะ ประชาชนคนไทยควรมีสิทธิในการแสดงความคิดความเห็นถูกมั้ยฮะ ทีนี้ว่าพื้นที่ถ้าอุดรมันเสี่ยงถึงขนาดนี้เนี่ย จะ.. จะหลีกเลี่ยงมั้ยฮะ ที่จะไม่ให้เกิดการเผชิญหน้ากันคุณไทกร
ไทกร : คือมันขึ้นอยู่กับผู้นำมวลชนน่ะนะครับ ถ้าผู้นำมวลชนเรียกคนมาชุมนุมอยู่ที่ทุ่งศรีเมืองแล้วก็ปราศรัยให้ความรู้แล้วก็ชี้แจงแนวทางของกลุ่มคนรักอุดรไป ก็.. ก็ไป ก็ทำไปได้เลย ไม่มีปัญหา แต่ถ้าการปราศรัยบนเวทีบอกว่า วันนี้เราต้องรื้อเวทีมันให้ได้ วันนี้ถ้าพี่น้องตีมันได้แผลละ 500 ถ้าใครเอาเลือดไอ้เจริญออกมาจะได้ 20000 พูดอย่างงี้ แล้วก็ เฮมาพวกเราตามกันไป แล้วก็เอารถขบวนมายึด มันก็คือเป็นการเตรียมการเพื่อที่จะก่อเหตุวุ่นวายอยู่แล้วนะครับ
สรยุทธ์ : อันนั้นให้ว่ากันไปตามกระบวนการถูกมั้ยฮะคุณไทกรฮะ สองฝ่ายได้พูดแล้ว แต่ผมกำลังจะมองไปในอนาคตต่อว่า ถ้าที่นี่มันมีความเสี่ยงเนี่ย ทางคุณไทกรเองหรือพันธมิตรจะเลี่ยงไม่เข้าไป จัดชุมนุมในจุดที่มันจะเสี่ยงหรือเปล่า
ไทกร : คือเราก็จัดชุมนุมกันในทุกจังหวัดเพราะว่ามันมีข้อจำกัดคือ พี่น้องที่เห็นด้วยกับการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองตามแนวทางของพันธมิตรเนี่ยบางคนเค้ามาที่กรุงเทพไม่ได้ ก็จะจัดชุมนุมกันที่ต่างจังหวัด อย่างที่อุดรเมื่อคืนนี้ก็อยู่ในโรงแรมนภาลัย ก็เกือบ 3000 คนนะครับ ทีนี้เค้าก็ยืนยันว่า ไม่เป็นไรอาทิตย์หน้าจัดอีก เค้าก็นัดแนะกันแล้วก็เค้าจะจัดอีก
สรยุทธ์ : เอาละฮะ คุณขวัญชัยฮะ คือ เข้าใจใช่มั้ยฮะว่าคือ จังหวัดเดียวกันแต่จะมีคนเห็นต่างกัน ก็ต่างคนต่างว่าไป ไม่ดีเหรอ
ขวัญชัย : ไม่เป็นไรครับ คุณสรยุทธ์ครับ ขอฝากทิ้งท้ายตรงนี้นิดนึงไม่อยากรบกวนเวลาช่อง 3 มากนัก ผมก็ฝากบอกคุณไทกรและตัวแทนพันธมิตรทั้งหมดนะครับ ตราบใดคุณมาผมจะต้านเหมือนเดิม พวกผมจะเข้าคุกร้อยคนพรุ่งนี้ผมก็ยอม แล้วผมก็จะต่อต้านอย่างนี้เพราะผมไม่เชื่อ คำพูดของพวกคุณทั้งนั้น คุณจะมาปลุกปั่นในเมืองอุดรผมรับไม่ได้ เพราะฉะนั้น จะมาอีกร้อยครั้งผมก็ต้านคุณร้อยครั้ง บอกไว้ด้วย พวกผมจะติดคุกซักหมื่นคนก็จะยอมติดครับ บอกแค่นี้แหละครับ เพราะฉะนั้น คุณสรยุทธ์บอกได้เลยว่า ถ้าพันธมิตรจะมาปราศรัยที่อุดรต่อ ผมจะออกมาต่อต้านเหมือนเดิม ตราบใดที่ผมยังมีลมหายใจอยู่ ผมจะปกป้องแผ่นดินถิ่นอุดร ผมบอกกับพลตรี..บวงสรวงวิญญาณพลตรีกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคมแล้ว เราลูกหลานชาวอุดร จะปกป้องมาตุภูมิให้ได้ จะไม่ยอมให้คนเหล่านี้มาทำลายเมืองอุดรครับ
สรยุทธ์ : เอาๆ ถ้าอย่างนั้นก็คงพูดกันไม่ได้ ต่างคนต่างแสดงท่าทีก็แล้วกัน