ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
20-04-2024, 05:47
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ปปช. ให้ผู้ถูกอายัดทรัพย์ 6.9 หมื่นล้านบาทไปรัองศาลฏีกาเอง......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ปปช. ให้ผู้ถูกอายัดทรัพย์ 6.9 หมื่นล้านบาทไปรัองศาลฏีกาเอง......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า  (อ่าน 1301 ครั้ง)
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« เมื่อ: 24-07-2008, 10:39 »

ป.ป.ช.มึนไม่กล้าสรุปมีอำนาจยึด-ถอนอายัด ทรัพย์'แม้ว'6.9หมื่นล.ให้ไปร้องศาลฎีกาเอง 
   
 
     
คณะกรรมการ ป.ป.ช.มึน หาข้อสรุปไม่ได้ ว่า มีอำนาจอายัดต่อ-เพิกถอนคำสั่ง คตส.ที่อายัดทรัพย์สินครอบครัวชินวัตรไว้ 69,000 ล้านบาทหรือไม่ มีมติให้ให้แจ้งธนาคารพาณิชย์ให้ผู้ถูกอายัดทรัพย์ไปยื่นคำร้องต่อศาลฎีกานักการเมืองเอาเอง ทนาย'แม้ว'โวยพุดไร้ความรับผิดชอบ


นายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะผู้รับมอบอำนาจพิจารณาศึกษาและวิเคราะห์ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการอายัดทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) อายัดไว้กว่า 69,000 ล้านบาท ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมว่า หลังการประชุมร่วมกับทีมงานเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา  ได้สรุปความเห็นว่า ป.ป.ช.ไม่มีอำนาจในการอายัดทรัพย์สินต่อจาก คตส.และไม่มีอำนาจในการเพิกถอนอายัดด้วยเช่นกัน เพราะอยู่นอกเหนืออำนาจตามกฎหมาย ป.ป.ช. ทั้งนี้ การที่ คตส.ดำเนินการดังกล่าวก็เพราะใช้อำนาจพิเศษตามประกาศของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ฉบับที่ 31 ซึ่งให้อำนาจในการอายัดทรัพย์สินมากกว่ากฎหมายของ ป.ป.ช. ที่มีเงื่อนไขซับซ้อนและขั้นตอนยุ่งยากกว่ามาก

นายวิชัยกล่าวว่า  เมื่อเป็นเช่นนี้ ก เป็นหน้าที่ของ พ.ต.ท.ทักษิณจะต้องไปติดตามเอาเงินคืนเอง โดยยื่นคำร้องต่อธนาคารโดยตรง แต่หากไม่ได้ ก็ให้ไปฟ้องศาลเพื่อพิสูจน์ทรัพย์ต่อไป และว่า ป.ป.ช.จะไม่ประสานกับองค์กรอื่นเพื่อหาช่องทางอายัดทรัพย์ต่อไป เพราะถือว่าเรื่องดังกล่าวได้ข้อสรุปแล้ว ทั้งนี้ จะรายงานความเห็นนี้ต่อที่ประชุม ป.ป.ช.ในสัปดาห์หน้า

แหล่งข่าวจากคณะกรรมการ ป.ป.ช.เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการถกเถียงเรื่องนี้กันอย่างกว้างขวางว่า ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542  คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีอำนาจในการอายัดทรัพย์ขอองครอบครัวชินวัตรหรือไม่ และคำสั่งของ คตส.ยังมีผลบังคับใช้อยู่หรือไม่เพราะ คตส.ได้สลายตัวและได้โอนเรื่องต่างๆให้ ป.ป.ช.ดำเนินการต่อ แต่ไม่มีข้อสรุป จึงมีมติว่า ให้ผู้ที่ถูกอายัดทรัพย์ไปยื่นคำร้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจ เช่น ถ้าเป็นคดีที่ฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองก็ต้องไปยื่นคำร้องต่อศาลดังกล่าว

'ที่ผ่านมา มีธนาคารพาณิชย์หลายแห่งได้สอบถามเรื่องนี้มาที่ ป.ป.ช.ที่ประชุมจึงมีมติให้ตอบไปว่า ให้ผู้ที่ถุกอายัดทรัพย์ไปยื่นเรื่องต่อศาล นอกจากนั้นยังมีทนายความของนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ มายื่นคำร้องขอให้ถอนอายัดทรัพย์ ซึ่ง ป.ป.ช.คงตอบไปในทำนองเดียวกัน' แหล่งข่าวกล่าว

นายสัก กอแสงเรือง อดีตโฆษก คตส. กล่าวว่า แม้ คตส.จะหมดวาระไปแล้ว แต่ถือว่า มติ คตส.ที่ให้อายัดทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ จำนวน 69,000 ล้านบาทยังมีผลอยู่ ตามประกาศ คปค.ฉบับที่ 30 ที่ให้อำนาจไว้ และคดีที่ คตส.ยื่นให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ยึดทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ เนื่องจากร่ำรวยผิดปกติ ศาลก็รับฟ้องไปแล้ว ดังนั้น หาก พ.ต.ท.ทักษิณต้องการทรัพย์สินคืนต้องไปฟ้องร้องต่อศาลฎีกาฯเอาเอง

ด้านนายฉัตรทิพย์ ตัณฑประศาสน์ ทนายความผู้ได้รับมอบอำนาจจาก พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า คตส.สั่งอายัดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณมาเกินกว่า 1 ปี โดยไม่มีการดำเนินการฟ้องร้องอะไร ถ้ายึดมาตรา 78 วรรค 2 ของกฎหมาย ป.ป.ช. ที่ระบุว่าสามารถสั่งอายัดได้ไม่เกิน 1 ปี และถ้าเกิน 1 ปี คำสั่งอายัดนั้นจะต้องสิ้นผล หากไม่ฟ้องร้องต่อศาล ซึ่งทีมทนายความได้ทำหนังสือแจ้งไปยัง ป.ป.ช.ทวงถามแล้วว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน

  'ป.ป.ช.จะบอกว่าไม่มีอำนาจดำเนินการอะไรกับคำสั่งอายัดของ คตส.ไม่ได้ เพราะเมื่อ ป.ป.ช.รับคดีต่างๆ มาจาก คตส.แล้ว ก็ต้องมีทั้งอำนาจและหน้าที่ในการดำเนินการ ที่ออกมาพูดแบบนี้แสดงว่าไร้ความรับผิดชอบ เหมือนคุณสั่งขังคนไว้แล้วจะมาบอกว่าไม่อำนาจในการเปิดให้คนออกมาไม่ได้ และถ้า ป.ป.ช.ไม่ปฏิบัติในสิ่งที่ควรกระทำ ทีมทนายความอาจจะต้องยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อถอนคำสั่งอายัดของ คตส. ซึ่งขณะนี้ทีมทนายความกำลังรอความชัดเจนจาก ป.ป.ช. และอยู่ในระหว่างพิจารณาว่าจะดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลเมื่อใด' ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว

แหล่งข่าวจากธนาคารไทยพาณิชย์เปิดเผยว่า คำสั่งของ คตส.ที่ห้ามเคลื่อนย้ายทรัพย์สิน โดยเฉพาะบัญชีเงินฝากของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น มีผลให้ธนาคารซึ่งดูแลเงินฝากของ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องปฏิบัติตามโดยไม่ให้มีกิจกรรมทางการเงินใดๆ กับบัญชีเงินฝากดังกล่าว แต่ในส่วนของดอกเบี้ยเงินฝากนั้น ยังคงมีการจ่ายให้ตามปกติ ส่วนกรณีที่ ป.ป.ช.พิจารณาแล้วเห็นว่าไม่มีอำนาจอายัดหรือถอนอายัดนั้น ทางธนาคารคงต้องพิจารณาจะดำเนินการอย่างไร จะส่งให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาคงต้องใช้เวลานานพอสมควร

วันเดียวกัน  ที่ศาลฎีกา สนามหลวง นายวิรัช ลิ้มวิชัย ประธานศาลฎีกา เป็นประธานประชุมใหญ่ศาลฎีกาเพื่อเลือกตั้งองค์คณะผู้พิพากษา 9 คน พิจารณาพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อม.9/2551 กรณีทุจริตออกกฎหมายแก้ไขค่าสัมปทานโทรศัพท์มือถือ-ดาวเทียม เป็นภาษีสรรพสามิต เอื้อประโยชน์ธุรกิจบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ทำให้รัฐเสียหาย 6.6 หมื่นล้านบาท ที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณเป็นจำเลย ความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่รับสัมปทาน หรือเข้าเป็นคู่สัญญาในลักษณะดังกล่าว, เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใดเข้าไปมีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อประโยชน์สำหรับตัวเองหรือผู้อื่น, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91, 152, 157 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 4, 100, 122

สำหรับผลการประชุมเลือกองค์คณะซึ่งใช้วิธีลงคะแนนลับ ปรากฏว่าผู้ได้รับเลือกตามลำดับคะแนน มีนายไพโรจน์ วายุภาพ นายพรเพชร วิชิตชลชัย นายบุญรอด ตันประเสริฐ นายเกษม วีรวงศ์ นายชาลี ทัพภวิมล นายรัตน กองแก้ว นายประทีป เฉลิมภัทรกุล ซึ่งทั้ง 7 คนเป็นผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา นายดิเรก อิงคนินันท์ ผู้พิพากษาศาลฎีกา และนายสุมิตร สุภาดุลย์ ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา

จากนั้นองค์คณะผู้พิพากษาทั้ง 9 จะประชุมเลือกผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนและพิจารณาคำฟ้องของอัยการสูงสุด เพื่อมีคำสั่งรับฟ้องหรือไม่รับฟ้องต่อไป โดยมีการนัดฟังคำสั่งในวันที่ 3 กันยายน เวลา 10.00 น. ณ ห้องพิจารณาคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

สำหรับนายบุญรอด นายชาลี นายเกษม นายพรเพชร และนายรัตน ผู้พิพากษาในองค์คณะก่อนหน้านี้ก็ได้รับเลือกจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาให้เป็นองค์คณะทุจริตจัดซื้อต้นกล้ายางพารา 90 ล้านต้น มูลค่า 1,440 ล้านบาทด้วย
 
 
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?id=42274&catid=1
 
 
 
 'หมัก เมถุน'นายกฯไร้วุฒิภาวะ แกนนำ พปช. แนวร่วมเป็ดไก่ นรกป่วนกรุง
และ บัตรเติมเงิน เป็นพวกเดียวกัน แต่มีความคิดเห็นสองมาตราฐาน เอาแต่ได้ประโยชน์ฝ่ายเดียว....

เมื่ออยากจะยกเลิกคณะกรรมการ ปปช. เพราะไม่ต้องการให้คณะกรรมการ ปปช.ทำงานสานต่อคณะกรรมการ คตส. หรืองานของคณะกรรมการ ปปช.เอง ก็อ้างว่าคณะกรรมการ ปปช.ยังไม่ได้รับโปรดเกล้าฯ ถือว่าปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ ใช้เล่ห์เพทุบายสาระพัด ทำลายชื่อเสียง ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งการถอดถอน ฯลฯ

เมื่ออยากให้ถอนอายัดิเงินของนักธุรกิจการเมืองแม๊วและครอบครัวผู้มีพระคุณ ผู้ให้ผลประโยชน์ ก็ยืนยันว่าคณะกรรมการ ปปช.ชุดนี้ มีอำนาจหน้าที่ปฏิบัติได้ แต่ไม่ยอมปฏิบัติหน้าที่....

พวกหน้าด้าน ไร้ยางอาย สองมาตราฐาน เอาแต่ผลประโยชน์ของฝ่ายตน......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า



 
 
 
บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #1 เมื่อ: 24-07-2008, 17:52 »

สนใจ อยากรู้ว่า 'สนธิ ลิ้ม' ได้ประกันตัวอย่างไร Question
ไม่สนใจท่าทีของคณะกรรมการ ปปช. บ้างเลย......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
protecter
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 465


« ตอบ #2 เมื่อ: 24-07-2008, 18:06 »

ทักษิณเอาเงิน 6.9 หมื่นล้านออกมาเมื่อไหร่ มันเผ่นหนีไปต่างประเทศแน่
ทุกวันนี้ ที่ฝืนทนต่อสู้คดีก็เพราะห่วงเงินก้อนโตก้อนนนี้หละ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: