ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
20-04-2024, 16:28
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ตัดปะอีกแล้ว การกระทำที่ไม่ใช่มิตร - บทนำมติชน 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ตัดปะอีกแล้ว การกระทำที่ไม่ใช่มิตร - บทนำมติชน  (อ่าน 1133 ครั้ง)
eAT
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,066



« เมื่อ: 22-07-2008, 10:39 »

ออกจะคิดถึงใครคนหนึ่งที่ชอบตัดปะ ไม่เห็นมานาน หรือว่า "มติชน"
ไม่เป็นกลางไปซะแล้ว เลยไม่ได้ตัดปะอีก เห็นบทบรรณาธิการนี้แล้ว
คิดว่าเราน่าจะถกเกี่ยวกับพฤติกรรมของ นักการเมือง แขมร์ กันบ้างนะ

การกระทำที่ไม่ใช่มิตร
บทนำมติชน

http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01edi01220751&day=2008-07-22&sectionid=0102

จากจุดเริ่มต้นที่กัมพูชาประสบความสำเร็จในการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกจากที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกที่ประเทศแคนาดา เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2551 โดยที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และนายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยอมทำในสิ่งที่กัมพูชาต้องการแทบทุกอย่าง ตั้งแต่การออกมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 17 มิถุนายน 2551 ให้นายนพดลไปลงนามในแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาในวันรุ่งขึ้น (18 มิถุนายน) เพื่อให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกได้สำเร็จ การพูดจาอันเป็นประโยชน์ต่อกัมพูชาในหลายๆ กรณี การไปร่วมงานพิธีเปิดถนนในกัมพูชาของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกฯ และนายนพดลที่ไทยให้กู้เงินและให้เงินสนับสนุน แต่สุดท้ายก็มาลงเอยด้วยการที่กัมพูชาทำหนังสือร้องไปยังคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2551 เรียกร้องให้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลปัญหา โดยกล่าวหาว่าไทยรุกล้ำดินแดนกัมพูชาบริเวณเขาพระวิหาร

กัมพูชาไม่รู้หรือว่า ในเช้าวันที่ 21 กรกฎาคมนี้ เป็นกำหนดการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา ซึ่งไทยส่ง พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็นผู้นำ ส่วนกัมพูชาส่ง พล.อ.เตีย บันห์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นผู้นำ มาร่วม ณ โรงแรมอินโดจีน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อเจรจาปัญหาข้อขัดแย้งเกี่ยวกับดินแดน เมื่อกัมพูชารู้ทั้งรู้แล้วนำเรื่องไปยังสหประชาชาติ เท่ากับว่ากัมพูชาไม่ได้มีความจริงใจที่จะร่วมกันจัดการแก้ปัญหาอย่างสันติวิธีด้วยความละมุนละม่อมและอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัยในฐานะกัมพูชาและไทยเป็นประเทศที่มีอาณาเขตติดต่อกัน ถึงอย่างไรก็ต้องอยู่ร่วมกันไป แต่อะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับ กัมพูชาอ้างกับสหประชาชาติว่าไทยรุกล้ำดินแดนกัมพูชาซึ่งไม่เป็นความจริง ฝ่ายที่ละเมิดข้อตกลงหรือบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน ปี 2543 คือกัมพูชาต่างหาก

ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นบริเวณรอบเขาพระวิหารในเวลานี้ที่ทั้งไทยและกัมพูชาส่งกำลังทหารเข้าไปตรึงไว้จำนวนมาก ในส่วนของไทยนั้นมีคนส่วนหนึ่งมองว่า การไปลงนามในแถลงการณ์ร่วมของนายนพดลนั้นไม่ถูกต้องและจะทำให้ไทยเสียดินแดน นอกจากนี้ ศาลปกครองกลางและศาลรัฐธรรมนูญก็มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวมิให้การลงนามของนายนพดลมีผล และมติคณะรัฐมนตรี 17 มิถุนายน 2551 เป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ตามลำดับ ล่าสุด คนไทย 3 คน ได้ฝ่าด่านกั้นเข้าไปจนถูกทหารกัมพูชาจับกุมตัวโดยคนไทยเหล่านี้ถือว่าบริเวณดังกล่าวเป็นของไทย แต่กัมพูชาถือว่าเป็นพื้นที่ของตน ทั้งๆ ที่ในบริเวณดังกล่าวทั้งไทยและกัมพูชาต่างอ้างสิทธิในการเป็นเจ้าของ หรือที่เรียกว่า "พื้นที่ทับซ้อน" ดังนั้น กัมพูชาจึงไม่มีสิทธิเข้ามาจับกุมคนไทย หาไม่แล้ว การที่คนกัมพูชา 500 ครอบครัวเข้ามาตั้งบ้านเรือนในพื้นที่ทับซ้อนที่ยังโต้แย้งกันอยู่ ไทยก็มีสิทธิจับกุมได้เช่นกัน

การทำหนังสือร้องไปสหประชาชาติของกัมพูชา นอกจากไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาเขตแดนแล้วยังทำให้กระทบกระเทือนต่อความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศในการบริหารจัดการพื้นที่รอบๆ ปราสาทพระวิหาร และสร้างความรู้สึกหวาดระแวงให้เกิดขึ้นกับประชาชนคนไทยอีกด้วย เหนืออื่นใดหากความหวาดระแวงนั้นแปรเปลี่ยนไปเป็นความไม่ไว้วางใจและมองเป็นฝ่ายตรงข้ามที่ไม่ใช่มิตร ย่อมไม่เกิดผลดีต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาทั้งในปัจจุบันและอนาคต

รัฐบาลนายสมัครอย่าได้เข้าใจว่าสาเหตุของปัญหามาจากคนไทย 3 คนที่ฝ่าด่านกั้นเข้าไปจนถูกจับเป็น "ไอ้บ้า 3 ตัว" ดังที่หลุดปากพูดออกมาดังๆ หรือกล่าวหาพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่เคลื่อนไหวในลักษณะตรงข้ามกับนโยบายและท่าทีของรัฐบาล โดยเห็นว่า คนเหล่านี้เป็นศัตรูที่ต้องกล่าวประณามหรือตอบโต้ด้วยวิธีการต่างๆ แท้จริงแล้ว ปัญหาอยู่ที่กัมพูชาที่คิดจะเอาแต่ได้ฝ่ายเดียวและคิดไม่ซื่อกับประเทศไทย รัฐบาลนายสมัคร อันประกอบไปด้วย 6พรรคร่วมรัฐบาลในฐานะเป็นฝ่ายการเมืองจะต้องไม่เสียค่าโง่ให้กับกัมพูชาโดยเอาอธิปไตยและดินแดนไปแลกซึ่งไม่คุ้มค่าเลยแม้แต่น้อย ต่อท่าทีกัมพูชาที่มิได้คำนึงความเป็นมิตรต่อไทยครั้งนี้ คนไทยทุกฝ่าย ข้าราชการประจำ และนักวิชาการ ผู้รู้ทั้งหลายจะต้องช่วยกันคิดหาทางแก้ไขด้วยความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเพื่อมิให้ตกเป็นฝ่ายเสียทีเสียท่ากัมพูชาซึ่งขณะนี้ปัญหาได้ไปสู่สหประชาชาติแล้ว
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: