ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
29-03-2024, 18:50
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  เขมรมีจีนและอเมริการหนุนหลัง.....ไทยเรามีใครหนุนหล่ะ!?! 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: 1 [2] 3 4
เขมรมีจีนและอเมริการหนุนหลัง.....ไทยเรามีใครหนุนหล่ะ!?!  (อ่าน 12769 ครั้ง)
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #50 เมื่อ: 22-07-2008, 08:19 »

จริงอยู่ที่เขมรมันปกครองโดย ฮุนเซ็น ที่มีอำนาจมาก... ทรัพยากรอะไรๆในประเทศ ฮุนเซ็นสามารถยกเอาไปล่อต่างชาติได้สบายๆ... เป็นข้อได้เปรียบของมัน...

ส่วนประเทศไทยมันอาจไม่ง่ายขนาดนั้นเสียทีเดียว เพราะแม้นักการเมืองไทยจะเอาไปขายให้ต่างชาติเยอะ
บางเรื่องก็ทำได้... บางเรื่องก็ทำไม่สะดวก... เพราะยังมีคนไทยที่ไม่ใช่ควายอยู่พอสมควร...

แม้ว ก็ต้องการเป็นเหมือนฮุนเซ็น หรือตันฉ่วย... ที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จในประเทศ... แต่ก็ไม่สำเร็จดี...ตอนนี้ก็ยังสู้อยู่...

ดังนั้นหากมีรัฐบาลหมักนอมินีแม้วอยู่ ก็ยากที่ รัฐบาล จะสู้เพื่อประเทศไทยแบบเต็มกำลัง...
คงสู้เพื่อช่วยแม้วมากกว่า... ซึ่งนั่นก็หมายถึงเอื้อประโยชน์ให้เขมรด้วย

ถ้าเป็นรัฐบาลไทย เพื่อประเทศไทยอย่างแท้จริง...
หากไม่โง่เกินไป ก็น่าจะมีคอนเนกชัน มีปัญญาที่จะล็อบบี้ต่างชาติได้บ้างล่ะ... ทรัพยากรของเราก็มีเยอะแยะที่จะให้ต่างชาติมาร่วมทุน...
อย่างน้อยก็ ทรัพยากรพลังงานในทะเลที่ทับซ้อนกับเขมรอยู่นั่นล่ะ... มันก็ของเราเหมือนกัน...

แต่ถ้าแม้วครองประเทศ... มันจะไม่ใช่ของเราอีกต่อไป...


 


อย่างที่พูดแต่ต้นแล้วว่าเขมรเค้ามีความเป็นเอกภาพ มีความพร้อมด้านหลักฐานคำพิพากษาของศาลโลก มีความมั่นคงแห่งรัฐ มีกฎหมาย-ข้อกำหนดของประเทศที่ให้ความอิสระในการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนได้อย่างมีประสิทธิภาพ....ในขณะที่ไทยมี ม. 190 ที่คอยฉุดให้ช้าไม่ทันเกมส์การแก้ไขปัญหาเร่งด่วน มีตุลาการวิบัติที่รับธงมาเพื่อสกัดรัฐบาลสมัคร มีพันธมารคอยโค่นระบอบทักษิณโนมิค  มีรธน.ฉบับโจรร่างวางกับดักให้รัฐบาลที่ทำงานเพื่อรากหญ้าล้มไป  และมีมือที่มองไม่เห็นคอยกำกับอยู่เบื้องหลัง


ไทยเราจะเอาอะไรไปสู้เขมรเค้าหากเรื่องนี้ถูกนำไปพิจารณาบนเวทีระดับโลก!?!
บันทึกการเข้า
Caocao
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 557



« ตอบ #51 เมื่อ: 22-07-2008, 08:22 »

ถ้าว่างมาก ไปหาแนวสันปันน้ำในแผ่นที่เขมรมาให้ดูหน่อย หรือเขมรมันเอาไปซ่อนในปากใคร ศาลโลกตัดสินก็แค่ตัวปราสาท แล้วไม่ทราบไอ้หอกไหนถึงกล้าดีเอาที่ทับซ้อนไปถวายให้มัน จริงๆมันไม่มีด้วยซ้ำไอ้พื้นที่ทับซ้อนหน่ะ ถ้ารักเขมรมาก แนะนำให้ช่วยมันแบกปราสาทไปไว้ประเทศมันที รำคาญหว่ะเหียก
บันทึกการเข้า

หลับเถิดทหารกล้า ปวงประชาจะคุ้มครอง
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #52 เมื่อ: 22-07-2008, 08:32 »

สันดาน นปก.ไงครับ พวกมากก็คอยระราน พวกน้อยก็คอยตอดคอยลอบกัด สู้จริงๆไม่เอาหรอก  ถ้าบรรพบุรุษคนไทยเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรก เราคงเป็นแค่ชาวเกาะ(เขาแดร๊ก)

เกลียดจริงๆคนขี้ขลาดทาสเขมร ไม่ต้องอ้างรากหญ้าหรอกครับ  ผมก็รากหญ้ามั้งเคยอยู่ นย.ชายแดรจันทบุรี-ตราด คนไทยนี่ครับกลัวทำไมเขมรไม่ใช่พ่อ


เอาอีกแล้ว...คนกล้าปากคะนองที่แหกปากเย้วๆปลุกระดมลัทธิชาตินิยม ถ้าเก่งจริง...ลองไปรบกับหทารเขมรตอนนี้เลยไหม? รากหญ้าที่ประกาศท้าทางไฟสงครมแบบคุณน๊ะ เวลาเค้ารบกันจริงๆ...อย่าวิ่งหนีหางจุกก้นเข้ากรุงก็แล้วกัน
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #53 เมื่อ: 22-07-2008, 08:35 »

ยิ่งอ่านยิ่งนึกได้ว่าอีจ๊ะหน่ะเหมือนไก่ ตรงที่สมองมันน้อย เอาแต่ขันไปวันๆ

สงสัยว่าCaocaoคงใช้cellจากอวัยวะใต้สะดือคิดตรรกะดังกล่าวกระมัง...เพราะเรื่องที่เรากำลังโต้กันอยู่นี้ใช้สามัญสำนึกมากกว่าสมองก็จะเห็นเหตุแห่งปัญหาแน่นอน
บันทึกการเข้า
Caocao
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 557



« ตอบ #54 เมื่อ: 22-07-2008, 08:38 »

ชาติที่แล้วนุ่งแต่ตะเบงมารอ่ะดิ ถึงทำได้แค่ปากกล้าขาสั่น หรือแอบเป็นอีข้ามชาติ ถ้ามีสงครามจริงกรูไม่กลัวหรอกโว๊ย ว่าแต่มรึงเหอะ หากระโปรงแบรนด์เนมไว้ซุกได้ยัง เหียกเอ้ย
บันทึกการเข้า

หลับเถิดทหารกล้า ปวงประชาจะคุ้มครอง
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #55 เมื่อ: 22-07-2008, 08:41 »


ไม่รู้จริงๆเหรอไงวะ

สงสัยไม่ได้เรียนประวัติศาสตร์ ชาติไทยเนี่ยแหละ ในสมันก่อนผูปกครองต้องออกรบปกป้องบ้านเมืองมาเท่าไหร่ การสู้รบชนชั้นปกครองเอาตำแหน่งและอนาคตของตัวเองเข้าประจัญทั้งนั้น

มองแค่มุมมองเดียว ฤาษีกลับไปป่าไป ไอฤาษีนรก


สมัยก่อน...บางชนชั้นมีทรัพย์สินมากมาย มีเมียหลายนางไว้นอนกก มีข้าทาสไพร่สถุ-ลไว้ข้างกาย มีที่ดินสุดตาไว้ครอบครอง มันก็คุ้มค่าที่จะออกรบอ่ะน๊ะ แต่สมีลืมไปป่าวว่าสมัยก่อนทหารเลว(กว่า90%ในกองทัพ)น๊ะล้วนแล้วแต่เป็นรากหญ้าที่ถูกเกณฑ์ให้ออกรบเกือบทั้งสิ้น


ส่วนปัจจุบันนี้...บางอย่างก็คงไม่เปลี่ยนแปลง เช่น การมีทรัพย์สินมากมาย มีข้าทาสไว้เคียงกาย มีที่ดินสุดตานับหมื่นๆไร่ มีหุ้นในลอนดอน ฯลฯ
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #56 เมื่อ: 22-07-2008, 08:45 »


Re: เขมรมีจีนและอเมริการหนุนหลัง.....ไทยเรามีใครหนุนหล่ะ!?!....

ประเทศไทยมีประชาชนรักชาติ รักแผ่นดิน และพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก็พอแล้ว.....
สมองหนอนฯ จะคิดตามทันไหม.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า



ฮ่าๆๆๆ....โคดนาแบบไร้รสนิยมอย่างนี้ไม่เนียนเลยน๊ะท่านปุ ปุ
บันทึกการเข้า
นิรนาม
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 554



« ตอบ #57 เมื่อ: 22-07-2008, 08:47 »


ช้าก่อนอีเย็น!! บรรพบุรุษไทยยอมพลีชีพในอดีตก็มาจากสาเหตุการรุกรานทางหทารของประเทศอื่นเกือบทั้งสิ้น กรณีไทย-เขมรขณะนี้เป็นเพียงแค่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิในพื้นที่ทับซ้อนอันเนื่องมาจากการถือแผนที่คนละฉบับ หาใช่เกิดจากการรุกล้ำทางการทหารไม่ ดังนั้น...อย่าสับสนอีเย็น!

ส่วนที่มาโทษนักการเมืองและพ่อค้านั้น...ไร้สาระหว่ะ อย่าลืมเป็นอันขาดว่าฝ่ายพันธมารเองนั่นแหล่ะที่ปลุกปั่นกระแสพยายามสร้างสงคราม24ชั่วโมง หมาจำลองเองไม่ใช่เหรอที่ประกาศซ้ำแล้วซ้ำเล่าเรียกร้องให้รัฐบาลส่งทหารไปยึดปราสาทเขาพระวิหารให้ได้ก่อนเจรจาใดๆกับเขมร? และบนเวทีพันธมารเองมิใช่หรือที่ไม่เคยมีการเรียกร้องใดๆให้รัฐบาลไทยจัดการเรื่องนี้ด้วยสันติวิธี? ด้วยเหตุและผลที่เกิดขึ้นดังกล่าว...ฝ่ายพันธมารนี่แหล่ะที่จะต้องรับผิดชอบหากสงครามไทย-เขมรเกิดขึ้น อย่างน้อยๆไอ้พวกการ์ดที่จ้างไว้100-200คนที่ทำแอ๊คอาร์ตถือไม้เบสบอลน๊ะ...กล้าออกไปรบกับทหารเขมรมั้ย!?!


ก็คิดกันซะแบบนี้..ลองฟังเสียงคนในพื้นที่ดูซิเขาคิดกันยังไง ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๒๘ ที่ผมเข้ามาทำงานอยู่ศรีสะเกษ เคยไปนั่งเล่น นอนเล่นแถบชายแดนทั้งที่ผามออีแดง บ้านภูมิซรอล บ้านด่าน บ้านภูผาหมอก บ้านเสาธงชัย บ้านบึงมะลูฯ ลฯ มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน สัมผัสกับผู้คนหลากหลายวัย

ขึ้นไปเดินเล่นบนเขาพระวิหาร ปราสาทพระวิหารจนเกือบเหยียบกับระเบิดตายโหงมาแล้วก็หลายรอบ โดยเฉพาะปี ๒๕๓๒ เทียวขึ้นเทียวลงอยู่เกือบ ๑๐ ครั้ง หรือเรียกว่าไปมันเกือบทุกเดือนก็ว่าได้ 

ผมเคยพูดคุยกับคนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้านแถบนั้น ทุกคนไม่เคยคิดว่าเขาพระวิหาร - ปราสาทพระวิหาร เป็นของเขมร แม้จะรู้อยู่ว่าศาลโลกได้พิพากษาให้ตกเป็นของเขมรไปแล้วตั้งแต่ปี ๒๕๐๕

เพราะไม่ว่าสถานการณ์ชายแดนจะเป็นอย่างไร เขมรฝ่ายไหนจะเป็นผู้ยึดครองปราสาทพระวิหาร พวกเขาก็ยังสามารถไปมาหาสู่กันได้เป็นปกติ

ทุกคนเฝ้ารอกันว่าเมื่อไหร่ รัฐบาลไหนของประเทศไทยที่จะดำเนินการปักปันเขตแดนในพื้นที่บริเวณนี้ให้เสร็จสิ้นและเมื่อไหร่ รัฐบาลไหนจะเป็นผู้กอบกู้เอา "ปราสาทพระวิหารกลับคืนมาเป็นของไทยอีกรอบ" ทั้งนี้โดยวิธีการทางการฑูตไม่ใช่ใช้กำลังทหารเข้ายึดครองหรือทำสงคราม

เช่นเดียวกันกับบรรดาเหล่าทหารหาญ ๆ ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในบริเวณนั้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นทหารพราน บางคนเป็นลูก เป็นหลาน เป็นเหลน อดีตทหารกล้า ตำรวจตระเวนชายแดนที่เคยอยู่ในพิธีชะลอธงชาติไทยลงจากเป้ยตาดี ก็เฝ้ารอคอยเช่นกัน

ที่ผ่านมา..แม้จะไม่มีรัฐบาลไหนพยายามที่จะทวงคืนปราสาทพระวิหาร และปราสาทพระวิหารอยู่ในความครอบครองของทหารกัมพูชาไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหน เขมรรัฐบาล เขมรเสรี หรือเขมรแดง แต่ทั้งคนไทย คนเขมรที่อยู่รอบ ๆ รวมทั้งตำรวจทหารในพื้นที่ ต่างเข้าใจตรงกันว่า "เขาพระวิหารเป็นของไทย" ส่วน "ปราสาทพระวิหารเขมรเป็นผู้ครอบครอง"และก็อยู่กันมาอย่างผาสุข

มาเริ่มมีปัญหาเอาก็ตอนที่ไม่รู้รัฐบาลไหนไปร่วมประชุมกับรัฐบาลกัมพูชา แล้วมีมติร่วมให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกและมีแผนที่จะเข้าไปร่วมพัฒนา รวมทั้งยอมรับให้มีประเทศที่ ๓ ที่ ๔ เข้ามาร่วมด้วย โดยมีเงื่อนไขว่าการดำเนินการทั้งหมดต้องอยู่ภายใต้ความดูแลและความเห็นชอบขององค์กรUNESCO

พูดก็พูดเถอะถ้าไม่มีอุบัติเหตุทางการเมืองเมื่อ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ เสียก่อน เขมรขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกเสร็จเรียบร้อยไปตั้งแต่ปี ๒๕๕๐ แล้ว ไม่ต้องรอมาถึงปีนี้หรอก

ที่นี้..ลองคิดดูว่าใครกันแน่ที่เป็นต้นเหตุให้เกิดการประจัญหน้าของกองกำลังทหารบนเขาพระวิหารและบนปราสาทพระวิหาร

ส่วนที่ว่า..จีน + อเมริกาหนุนหลังเขมรแล้วไทยใครหนุนหลังน่ะ..ถ้ายังไม่เสียสติ "คนไทยที่รักชาติรักแผ่นดิน"นั้นแหละคือผู้หนุนหลังไทยให้นำความจริงมาตีแผ่และเพื่อให้เกิดการพิสูจน์อธิปไตยเหนือดินแดนเทือกเขาพนมดงรักบน "เขาพระวิหาร"

สำหรับ "คนไทยผู้รักชาติ แต่ไม่รักแผ่นดิน เพราะรัก - เทิดทูนว่าคนมีเงินคือพระเจ้า พูดอะไร ทำอะไรถูกต้องหมด" จะคิดยังไง จะทำยังไงก็เชิญ..
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-07-2008, 08:56 โดย นิรนาม » บันทึกการเข้า

"คืนที่ดำทะมึนมืดสนิท ยังรอแสงอาทิตย์ส่องสว่าง มีที่ไหนถูกปิดทุกทิศทาง เพียงม่านควันหมอกบางมันพรางตา"ถ้อยวลีของ..ประเสริฐ  จันดำ
ถ้อยวลี - จาก; "บันทึกจากกองร้อย ทหารปลดแอก" โดย..เสกสรรค์ ประเสริฐกุล
      นักรบจรยุทธอย่างพวกเราไม่รู้ว่าบ้านของตัวเองอยู่ที่ไหน รู้แต่ว่าเรามีปิตุภูมิเป็นของพวกเรา ทุกหนทุกแห่งที่เราล้มตัวลงนอนที่นั่นก็คือบ้าน
“บ้านของเราก็คือประเทศชาติ พ่อแม่ของเราก็คือประชาชน และเราจะไปทุกหนทุกแห่งเพื่อจัดการกับเจ้าคนที่มันเหยียบย่ำบ้านกับพ่อแม่ของเรา”
Caocao
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 557



« ตอบ #58 เมื่อ: 22-07-2008, 08:53 »

วาสลีนของอีนี่ท่าจะมีราคา ลื่นดี แถซะกระเจิง ไม่ทราบว่าแถมาไกล มันยังลื่นดีไหม เถียงไม่ขึ้นก็กางโพย ถึกเอ้ย แถมารากหญ้าได้ไงหว่า
บันทึกการเข้า

หลับเถิดทหารกล้า ปวงประชาจะคุ้มครอง
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #59 เมื่อ: 22-07-2008, 08:53 »



ตกลง คนไทยเข้าพื้นที่ที่เคยเข้าอยุ่ ไม่ได้ เพราะอะไรหละครับ


ข้อเท็จจริงก็คือ ไม่มีคนไทยอาศัยในพื้นที่ทับซ้อน ที่ทหารไทยล้อมรั้วลวดหนามไว้ก็เพราะเกรงว่าคนไทย(ฝ่ายพันธมาร)จะเข้าไปยั่วยุในพื้นที่ทับซ้อนจนทำให้เกิดเรื่องขึ้นมาเท่านั้นเอง ดังปรากฎเหตุการณ์ 3 คนไทยปีนลวดหนามเข้าไปในพื้นที่ทับซ้อนและถูกทหารเขมรจับตัวไว้นั่นเอง
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #60 เมื่อ: 22-07-2008, 08:57 »

ถ้าว่างมาก ไปหาแนวสันปันน้ำในแผ่นที่เขมรมาให้ดูหน่อย หรือเขมรมันเอาไปซ่อนในปากใคร ศาลโลกตัดสินก็แค่ตัวปราสาท แล้วไม่ทราบไอ้หอกไหนถึงกล้าดีเอาที่ทับซ้อนไปถวายให้มัน จริงๆมันไม่มีด้วยซ้ำไอ้พื้นที่ทับซ้อนหน่ะ ถ้ารักเขมรมาก แนะนำให้ช่วยมันแบกปราสาทไปไว้ประเทศมันที รำคาญหว่ะเหียก


ยังมาซอยปากสันปันนงปันน้ำอะไรอีกเหรอ? ที่เป็นข้อพิพาทเรื่องเขตแดนระหว่างไทย-เขมรขณะนี้ก็เพราะไทยเราถือแผนที่ที่ร่างโดยอเมริกา ในขณะที่เขมรใช้แผนที่ที่ร่างโดยฝรั่งเศส  เมื่อปัญหาเกิด...การเจรจาด้วยสันติวิธีจึงเป็นสิ่งที่ควรกระทำเฉกเช่นอารยะชนทั่วไป


คนเถื่อนแบบCaocaoอาจไม่getกระมัง!?!
บันทึกการเข้า
Caocao
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 557



« ตอบ #61 เมื่อ: 22-07-2008, 08:58 »


ข้อเท็จจริงก็คือ ไม่มีคนไทยอาศัยในพื้นที่ทับซ้อน ที่ทหารไทยล้อมรั้วลวดหนามไว้ก็เพราะเกรงว่าคนไทย(ฝ่ายพันธมาร)จะเข้าไปยั่วยุในพื้นที่ทับซ้อนจนทำให้เกิดเรื่องขึ้นมาเท่านั้นเอง ดังปรากฎเหตุการณ์ 3 คนไทยปีนลวดหนามเข้าไปในพื้นที่ทับซ้อนและถูกทหารเขมรจับตัวไว้นั่นเอง
พื้นที่ตรงนั้นเป็นเขตุ No Man Land ซึ่งไทยเคยมีบันทึกช่วยจำส่งให้เขมร หลังจากที่ทหารไทยพบคนของเขมรเข้ามาอาศัย และเตรียมผลักดันให้ออกจากพื้นที่ แต่รบ. ไอ้เหลี่ยมทึกทักไว้ ทำให้ปัญหาบานปลายมาจนปัจจุบัน เข้าใจใหม่ อย่ามาแถ เขมรละเมิดเขตุพื้นที่ No Man land เหียกจริงๆ
บันทึกการเข้า

หลับเถิดทหารกล้า ปวงประชาจะคุ้มครอง
Caocao
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 557



« ตอบ #62 เมื่อ: 22-07-2008, 09:05 »


ยังมาซอยปากสันปันนงปันน้ำอะไรอีกเหรอ? ที่เป็นข้อพิพาทเรื่องเขตแดนระหว่างไทย-เขมรขณะนี้ก็เพราะไทยเราถือแผนที่ที่ร่างโดยอเมริกา ในขณะที่เขมรใช้แผนที่ที่ร่างโดยฝรั่งเศส  เมื่อปัญหาเกิด...การเจรจาด้วยสันติวิธีจึงเป็นสิ่งที่ควรกระทำเฉกเช่นอารยะชนทั่วไป


คนเถื่อนแบบCaocaoอาจไม่getกระมัง!?!


สนธิสัญญาระหว่างประเทศในการกำหนดเขตุแดนทั่วโลก เค้ายึดแนวสันปันน้ำโว๊ย ไม่งั้นมรึงต้องกลับไปเขียนแผนที่ใหม่ทั่วโลก และจะเกิดพื้นที่ทับซ้อนทั่วโลก ในขณะที่ไทยถือแผนที่ 1 : 5000 โดยยึดแนวสันปันน้ำ เขมรถือแผนที่ 1 : 20000 ที่ขีดเส้นค้อมเข้ามา ซึ่งแผนที่ที่เขมรถือ ทั่วโลกเขาไม่ใช่กัน เพราะมันหยาบ ศาลโลกตัดสินแค่ตัวปราสาท ไม่มีด้วยซ้ำพื้นที่ทับซ้อน
บันทึกการเข้า

หลับเถิดทหารกล้า ปวงประชาจะคุ้มครอง
นิรนาม
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 554



« ตอบ #63 เมื่อ: 22-07-2008, 09:06 »


ข้อเท็จจริงก็คือ ไม่มีคนไทยอาศัยในพื้นที่ทับซ้อน ที่ทหารไทยล้อมรั้วลวดหนามไว้ก็เพราะเกรงว่าคนไทย(ฝ่ายพันธมาร)จะเข้าไปยั่วยุในพื้นที่ทับซ้อนจนทำให้เกิดเรื่องขึ้นมาเท่านั้นเอง ดังปรากฎเหตุการณ์ 3 คนไทยปีนลวดหนามเข้าไปในพื้นที่ทับซ้อนและถูกทหารเขมรจับตัวไว้นั่นเอง
ปี ๒๕๓๕ - ๒๕๓๖ อาคารร้านค้าบริเวณเชิงเขาพระวิหาร "คนไทย" จากบ้านภูมิซรอล เป็นคนเข้าไปทำมาค้าขาย ส่วนคนเขมรทำมาค้าขายกันอยู่ริมทางเดินระหว่างตัวปราสาทหลังที่ ๑ - ๒

พอมาตอนเปิดเขาพระวิหารปลายปี ๒๕๔๑ คนไทยก็ยังเข้าไปทำมาค้าขายอยู่เช่นเดิม ปลายปี ๒๕๔๓ ถึงกลางปี ๒๕๔๔ คนไทยกลุ่มนี้ถอยออกมาค้าขายอยู่บริเวณผามออีแดง แล้วให้เขมรเข้ามาอยู่แทนเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและเพื่อประโยชน์ด้านการท่องเที่ยว

บริเวณที่ "พระคำพอง"และลูกศิษย์อีก ๒ คน เข้าไปนั่งกรรมฐานแล้วโดนจับน่ะ "แผ่นดินไทย" ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อนอย่างที่รัฐบาลนายสมัครว่า

ประหลาดไหม..อยู่บนแผ่นดินไทยแท้ ๆ แต่ถูกจับโดยกองกำลังของต่างชาติ
บันทึกการเข้า

"คืนที่ดำทะมึนมืดสนิท ยังรอแสงอาทิตย์ส่องสว่าง มีที่ไหนถูกปิดทุกทิศทาง เพียงม่านควันหมอกบางมันพรางตา"ถ้อยวลีของ..ประเสริฐ  จันดำ
ถ้อยวลี - จาก; "บันทึกจากกองร้อย ทหารปลดแอก" โดย..เสกสรรค์ ประเสริฐกุล
      นักรบจรยุทธอย่างพวกเราไม่รู้ว่าบ้านของตัวเองอยู่ที่ไหน รู้แต่ว่าเรามีปิตุภูมิเป็นของพวกเรา ทุกหนทุกแห่งที่เราล้มตัวลงนอนที่นั่นก็คือบ้าน
“บ้านของเราก็คือประเทศชาติ พ่อแม่ของเราก็คือประชาชน และเราจะไปทุกหนทุกแห่งเพื่อจัดการกับเจ้าคนที่มันเหยียบย่ำบ้านกับพ่อแม่ของเรา”
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #64 เมื่อ: 22-07-2008, 09:11 »

ชาติที่แล้วนุ่งแต่ตะเบงมารอ่ะดิ ถึงทำได้แค่ปากกล้าขาสั่น หรือแอบเป็นอีข้ามชาติ ถ้ามีสงครามจริงกรูไม่กลัวหรอกโว๊ย ว่าแต่มรึงเหอะ หากระโปรงแบรนด์เนมไว้ซุกได้ยัง เหียกเอ้ย
บันทึกการเข้า
Caocao
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 557



« ตอบ #65 เมื่อ: 22-07-2008, 09:13 »

วันนี้หลายยกเหรอ เปลืองวาสลีนแย่เลย
บันทึกการเข้า

หลับเถิดทหารกล้า ปวงประชาจะคุ้มครอง
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #66 เมื่อ: 22-07-2008, 09:22 »

ก็คิดกันซะแบบนี้..ลองฟังเสียงคนในพื้นที่ดูซิเขาคิดกันยังไง ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๒๘ ที่ผมเข้ามาทำงานอยู่ศรีสะเกษ เคยไปนั่งเล่น นอนเล่นแถบชายแดนทั้งที่ผามออีแดง บ้านภูมิซรอล บ้านด่าน บ้านภูผาหมอก บ้านเสาธงชัย บ้านบึงมะลูฯ ลฯ มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน สัมผัสกับผู้คนหลากหลายวัย

ขึ้นไปเดินเล่นบนเขาพระวิหาร ปราสาทพระวิหารจนเกือบเหยียบกับระเบิดตายโหงมาแล้วก็หลายรอบ โดยเฉพาะปี ๒๕๓๒ เทียวขึ้นเทียวลงอยู่เกือบ ๑๐ ครั้ง หรือเรียกว่าไปมันเกือบทุกเดือนก็ว่าได้ 

ผมเคยพูดคุยกับคนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้านแถบนั้น ทุกคนไม่เคยคิดว่าเขาพระวิหาร - ปราสาทพระวิหาร เป็นของเขมร แม้จะรู้อยู่ว่าศาลโลกได้พิพากษาให้ตกเป็นของเขมรไปแล้วตั้งแต่ปี ๒๕๐๕

เพราะไม่ว่าสถานการณ์ชายแดนจะเป็นอย่างไร เขมรฝ่ายไหนจะเป็นผู้ยึดครองปราสาทพระวิหาร พวกเขาก็ยังสามารถไปมาหาสู่กันได้เป็นปกติ

ทุกคนเฝ้ารอกันว่าเมื่อไหร่ รัฐบาลไหนของประเทศไทยที่จะดำเนินการปักปันเขตแดนในพื้นที่บริเวณนี้ให้เสร็จสิ้นและเมื่อไหร่ รัฐบาลไหนจะเป็นผู้กอบกู้เอา "ปราสาทพระวิหารกลับคืนมาเป็นของไทยอีกรอบ" ทั้งนี้โดยวิธีการทางการฑูตไม่ใช่ใช้กำลังทหารเข้ายึดครองหรือทำสงคราม

เช่นเดียวกันกับบรรดาเหล่าทหารหาญ ๆ ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในบริเวณนั้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นทหารพราน บางคนเป็นลูก เป็นหลาน เป็นเหลน อดีตทหารกล้า ตำรวจตระเวนชายแดนที่เคยอยู่ในพิธีชะลอธงชาติไทยลงจากเป้ยตาดี ก็เฝ้ารอคอยเช่นกัน

ที่ผ่านมา..แม้จะไม่มีรัฐบาลไหนพยายามที่จะทวงคืนปราสาทพระวิหาร และปราสาทพระวิหารอยู่ในความครอบครองของทหารกัมพูชาไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหน เขมรรัฐบาล เขมรเสรี หรือเขมรแดง แต่ทั้งคนไทย คนเขมรที่อยู่รอบ ๆ รวมทั้งตำรวจทหารในพื้นที่ ต่างเข้าใจตรงกันว่า "เขาพระวิหารเป็นของไทย" ส่วน "ปราสาทพระวิหารเขมรเป็นผู้ครอบครอง"และก็อยู่กันมาอย่างผาสุข

มาเริ่มมีปัญหาเอาก็ตอนที่ไม่รู้รัฐบาลไหนไปร่วมประชุมกับรัฐบาลกัมพูชา แล้วมีมติร่วมให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกและมีแผนที่จะเข้าไปร่วมพัฒนา รวมทั้งยอมรับให้มีประเทศที่ ๓ ที่ ๔ เข้ามาร่วมด้วย โดยมีเงื่อนไขว่าการดำเนินการทั้งหมดต้องอยู่ภายใต้ความดูแลและความเห็นชอบขององค์กรUNESCO

พูดก็พูดเถอะถ้าไม่มีอุบัติเหตุทางการเมืองเมื่อ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ เสียก่อน เขมรขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกเสร็จเรียบร้อยไปตั้งแต่ปี ๒๕๕๐ แล้ว ไม่ต้องรอมาถึงปีนี้หรอก

ที่นี้..ลองคิดดูว่าใครกันแน่ที่เป็นต้นเหตุให้เกิดการประจัญหน้าของกองกำลังทหารบนเขาพระวิหารและบนปราสาทพระวิหาร

ส่วนที่ว่า..จีน + อเมริกาหนุนหลังเขมรแล้วไทยใครหนุนหลังน่ะ..ถ้ายังไม่เสียสติ "คนไทยที่รักชาติรักแผ่นดิน"นั้นแหละคือผู้หนุนหลังไทยให้นำความจริงมาตีแผ่และเพื่อให้เกิดการพิสูจน์อธิปไตยเหนือดินแดนเทือกเขาพนมดงรักบน "เขาพระวิหาร"

สำหรับ "คนไทยผู้รักชาติ แต่ไม่รักแผ่นดิน เพราะรัก - เทิดทูนว่าคนมีเงินคือพระเจ้า พูดอะไร ทำอะไรถูกต้องหมด" จะคิดยังไง จะทำยังไงก็เชิญ..



คุณนิรนามต้องแยกแยะเรื่องราวระหว่าง 'ข้อเท็จจริง' Vs. 'ความรู้สึก'  ให้สะเด็ดน้ำได้ก่อนที่จะมองปัญหาเรื่องพิพาทดังกล่าวอย่างไร้อคติ  ข้อเท็จจริงก็คือ ศาลโลกตัดสินแล้วว่าปราสาทเขาพระวิหารเป็นของเขมรและไทยก็ไม่มีสิทธิ์ในการคัดค้านคำพิพากษาดังกล่าวเพราะกฎของศาลโลกอนุญาตให้รัฐบาลในอดีตคัดค้านภายใน 10 ปีหลังคำพิพากษา แต่รัฐบาลไทยสมัยก่อนมิได้กระทำ

ข้อพิพาทเรื่องนี้จึงจำเป็นต้องใช้หลักนิติศาสตร์ในการแก้ไขปัญหา เพราะหลักรัฐศาสตร์ได้ถูกทำลายไปจากการยั่วยุของพันธมารแล้ว...หลักนิติศาสตร์ที่ว่าก็คือ การนำเรื่องข้อพิพาทเรื่องเขตแดนของทั้ง 2 ประเทศสู่ศาลโลกอีกครั้งนั่นเอง!!
บันทึกการเข้า
sanskritshower
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 245



« ตอบ #67 เมื่อ: 22-07-2008, 09:28 »

TLE  สรุปว่าพวกเราคนไทยที่เรียกร้องเรื่องเขาพระวิหารเป็นคนเลวเป็นพวกอยากให้เกิดสงคราม  ทำให้รากหญ้าเดือดร้อน

แต่พวกคนไทยที่สนับสนุนเขมรยกทั้งเขาทั้งพื้นที่ให้มัน  เป็นคนดี  จะได้ไม่เกิดสงคราม รากหญ้าจะได้ไม่เดือดร้อน

ใช่มั้ยครับ

บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #68 เมื่อ: 22-07-2008, 09:34 »

พื้นที่ตรงนั้นเป็นเขตุ No Man Land ซึ่งไทยเคยมีบันทึกช่วยจำส่งให้เขมร หลังจากที่ทหารไทยพบคนของเขมรเข้ามาอาศัย และเตรียมผลักดันให้ออกจากพื้นที่ แต่รบ. ไอ้เหลี่ยมทึกทักไว้ ทำให้ปัญหาบานปลายมาจนปัจจุบัน เข้าใจใหม่ อย่ามาแถ เขมรละเมิดเขตุพื้นที่ No Man land เหียกจริงๆ


ไอ้นี่ท่าทางจะดื้อด้านจริงๆด้วยหว่ะ...คนเขมรเข้ามาปักหลักในพื้นที่ทับซ้อนตั้งแต่ปี 2543 สมัยรัฐบาลชวน หลีกภัยโน่นไงหล่ะ...อย่าเซ่อซิเอ๊ะ!!
บันทึกการเข้า
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #69 เมื่อ: 22-07-2008, 09:49 »

 
ชื่อกระทู้จริงๆ เป็นแบบนี้น่ะ

เขมรมีจีนและอเมริการหนุนหลัง.....ไทยเรามีใครหนุนหล่ะ!?!

แปลว่า
เรามีจีนและอเมริการหนุนหลัง.....พวกคุณมีใครหนุนหล่ะ!?!



ภาษาเขมรวันละคำ Laughing


ปล.นอกจากใช้แปลหัวข้อกระทู้แล้วยังแปลได้ทุกความเห็นที่เป็นภาษาเขมร
ตัวอย่างเช่น

ไอ้นี่ท่าทางจะดื้อด้านจริงๆด้วยหว่ะ...คนเขมรเข้ามาปักหลักในพื้นที่ทับซ้อนตั้งแต่ปี 2543 สมัยรัฐบาลชวน หลีกภัยโน่นไงหล่ะ...อย่าเซ่อซิเอ๊ะ!!
แปลว่า
ไอ้นี่ท่าทางจะดื้อด้านจริงๆด้วยหว่ะ...พวกเราเข้ามาปักหลักในพื้นที่ทับซ้อนตั้งแต่ปี 2543 สมัยรัฐบาลชวน หลีกภัยโน่นไงหล่ะ...อย่าเซ่อซิเอ๊ะ!!



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-07-2008, 09:56 โดย Cherub Rock » บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
Caocao
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 557



« ตอบ #70 เมื่อ: 22-07-2008, 09:51 »


ไอ้นี่ท่าทางจะดื้อด้านจริงๆด้วยหว่ะ...คนเขมรเข้ามาปักหลักในพื้นที่ทับซ้อนตั้งแต่ปี 2543 สมัยรัฐบาลชวน หลีกภัยโน่นไงหล่ะ...อย่าเซ่อซิเอ๊ะ!!

หุหุหุ เจ็บล่ะซิ ถึงแถซะขนาดนั้น สงสัยเมื่อกี้จะดันแรงไป เอาใหม่เดี๋ยวจะดันแบบนุ่มนวล อุ อุ อุ เสียวไหมน้องจ๊ะจ๊า
บันทึกการเข้า

หลับเถิดทหารกล้า ปวงประชาจะคุ้มครอง
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #71 เมื่อ: 22-07-2008, 10:01 »

สนธิสัญญาระหว่างประเทศในการกำหนดเขตุแดนทั่วโลก เค้ายึดแนวสันปันน้ำโว๊ย ไม่งั้นมรึงต้องกลับไปเขียนแผนที่ใหม่ทั่วโลก และจะเกิดพื้นที่ทับซ้อนทั่วโลก ในขณะที่ไทยถือแผนที่ 1 : 5000 โดยยึดแนวสันปันน้ำ เขมรถือแผนที่ 1 : 20000 ที่ขีดเส้นค้อมเข้ามา ซึ่งแผนที่ที่เขมรถือ ทั่วโลกเขาไม่ใช่กัน เพราะมันหยาบ ศาลโลกตัดสินแค่ตัวปราสาท ไม่มีด้วยซ้ำพื้นที่ทับซ้อน


อย่ามาทำตัวเป็นศาลเตี้ยแถวๆนี้....ข้อเท็จจริงก็คือ ทั้งไทย-เขมรจะต้องเจรจากันด้วยสันติวิธี หากตกลงกันไม่ได้...ก็ให้ศาลโลกตัดสินเท่านั้นเอง!!
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #72 เมื่อ: 22-07-2008, 10:04 »

ปี ๒๕๓๕ - ๒๕๓๖ อาคารร้านค้าบริเวณเชิงเขาพระวิหาร "คนไทย" จากบ้านภูมิซรอล เป็นคนเข้าไปทำมาค้าขาย ส่วนคนเขมรทำมาค้าขายกันอยู่ริมทางเดินระหว่างตัวปราสาทหลังที่ ๑ - ๒

พอมาตอนเปิดเขาพระวิหารปลายปี ๒๕๔๑ คนไทยก็ยังเข้าไปทำมาค้าขายอยู่เช่นเดิม ปลายปี ๒๕๔๓ ถึงกลางปี ๒๕๔๔ คนไทยกลุ่มนี้ถอยออกมาค้าขายอยู่บริเวณผามออีแดง แล้วให้เขมรเข้ามาอยู่แทนเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและเพื่อประโยชน์ด้านการท่องเที่ยว

บริเวณที่ "พระคำพอง"และลูกศิษย์อีก ๒ คน เข้าไปนั่งกรรมฐานแล้วโดนจับน่ะ "แผ่นดินไทย" ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อนอย่างที่รัฐบาลนายสมัครว่า

ประหลาดไหม..อยู่บนแผ่นดินไทยแท้ ๆ แต่ถูกจับโดยกองกำลังของต่างชาติ



กรณี 3 คนไทยที่ถูกทหารเขมรควบคุมตัวก็เพราะเค้ากลัวว่า 3 คนไทยจะไปยั่วยุก่อเหตุให้บานปลาย ขนาดทหารไทยล้อมรั้วแท้ๆ...3 คนไทยยังปีนข้ามไปหาเรื่องได้ ทหารเขมรเลยต้องตัดไฟแต่ต้นลมควบคุมตัวไว้ หากไม่ควบคุมตัวอาจก่อเหตุร้ายแย่กว่านี้ก็ได้!?!
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #73 เมื่อ: 22-07-2008, 10:07 »

TLE  สรุปว่าพวกเราคนไทยที่เรียกร้องเรื่องเขาพระวิหารเป็นคนเลวเป็นพวกอยากให้เกิดสงคราม  ทำให้รากหญ้าเดือดร้อน

แต่พวกคนไทยที่สนับสนุนเขมรยกทั้งเขาทั้งพื้นที่ให้มัน  เป็นคนดี  จะได้ไม่เกิดสงคราม รากหญ้าจะได้ไม่เดือดร้อน

ใช่มั้ยครับ




The Last Emperor สนับสนุนการเจรจาแก้ปัญหาข้อพิพาท ไม่ใช่สนับสนุนให้ใช้กำลังทหารแก้ไขปัญหาแบบที่กลุ่มพันธมารปลุกปั่นอยู่ขณะนี้ ลองมองดูก็แล้วกันว่าฝ่ายไหนปลุกปั่นยั่วยุไฟสงครามกันแน่!?!
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #74 เมื่อ: 22-07-2008, 10:09 »


ชื่อกระทู้จริงๆ เป็นแบบนี้น่ะ

เขมรมีจีนและอเมริการหนุนหลัง.....ไทยเรามีใครหนุนหล่ะ!?!

แปลว่า
เรามีจีนและอเมริการหนุนหลัง.....พวกคุณมีใครหนุนหล่ะ!?!



ภาษาเขมรวันละคำ Laughing


ปล.นอกจากใช้แปลหัวข้อกระทู้แล้วยังแปลได้ทุกความเห็นที่เป็นภาษาเขมร
ตัวอย่างเช่น
แปลว่า
ไอ้นี่ท่าทางจะดื้อด้านจริงๆด้วยหว่ะ...พวกเราเข้ามาปักหลักในพื้นที่ทับซ้อนตั้งแต่ปี 2543 สมัยรัฐบาลชวน หลีกภัยโน่นไงหล่ะ...อย่าเซ่อซิเอ๊ะ!!


มุกด้านหว่ะ  คริ คริ
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #75 เมื่อ: 22-07-2008, 10:11 »

หุหุหุ เจ็บล่ะซิ ถึงแถซะขนาดนั้น สงสัยเมื่อกี้จะดันแรงไป เอาใหม่เดี๋ยวจะดันแบบนุ่มนวล อุ อุ อุ เสียวไหมน้องจ๊ะจ๊า


ฮ่าๆๆๆ....เว๊บเสรีไทยส่งทหารเลวแบบนี้มาให้พี่จ๊ะขยี้ตายเปล่าน๊ะ พี่จ๊ะขอทหารเก่งๆมาโต้มาซดข้อมูลกันแบบเนียนๆกะพี่จ๊ะหน่อยเด๊ะ pleaseeeeeeeeeeeee
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #76 เมื่อ: 22-07-2008, 10:16 »

"นักวิชาการม.เที่ยงคืน เรียกร้องสังคมประฌามพธม.-ปชป.

นักวิชาการ ม.เที่ยงคืนร้องสังคมร่วมประฌาม พันธมิตรฯ สนธิ ลิ้มทองกุล- จำลองศรีเมือง 2 ตัวการ ทำชาติบ้านเมืองแตกแยก รวมทั้งพรรคประชาธิปัตย์ ฐานเป็นต้นเหตุให้เกิดความรุนแรงในระดับชาติจากกรณีปัญหาปราสาทพระวิหาร

นักวิชาการมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน นำโดย ดร.สมเกียรติ ตั้งนโม อธิการบดีมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน และ ดร.สมชาย ปรีชาศิลปกุล คณบดีคณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกันออกแถลงการณ์เรื่อง"เขาพระวิหารกับความรุนแรงในสังคมไทยและความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา"

โดยแถลงการณ์ระบุว่า กรณีปัญหาเขาพระวิหารจนทำให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงเป็นผลมาจากปัญหาการเมืองในประเทศที่ใช้ประเด็นค่านิยมมาปลุกเร้าให้เกิดความเกลียดชังรัฐบาลและคนไทยด้วยกัน ซึ่งผู้ได้ประโยชน์ไม่ใช่สังคมส่วนรวม แต่เป็นกลุ่มบุคคลบางกลุ่มที่แสวงหาประโยชน์ให้กับตนเอง อย่างไรก็ตามมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนได้เสนอทางออกกรณีเฉพาะหน้า

ทั้งนี้เห็นว่า 1.รัฐบาลไทยควรเปิดการเจรจากับรัฐบาลกัมพูชาอย่างเป็นทางการ
2.ควรให้มีองค์กรจากภายนอกหรือบทบาทของอาเซียนในการตั้งอนุญาโตตุลาการแก้ปัญหาความขัดแย้งและ
3.ให้ภาคประชาสังคมของทั้งสองประเทศ ร่วมมือกันในการทำความเข้าใจโดยพื้นฐานทางสังคมและวัฒนธรรมมากกว่าผลประโยชน์และความหวาดระแวง

อย่างไรก็ตามนักวิชาการมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนยังขอให้สังคมประณามทุกคนที่มีส่วนทำให้เกิดปัญหาความรุนแรงขึ้นทั้งพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และพรรคประชาธิปัตย์

นักวิชาการประวัติศาสตร์มธ.กระทุ้งประนามพันธมิตร

ก่อนหน้านั้น ดร.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แสดงความเห็นในกระดานสนทนาฟ้าเดียวกัน ในหัวข้อกระทู้เรื่อง"เมื่อไร กลุ่มนักวิชาการ 300-400 คน จะออกมาประณามการพยายามก่อสงครามของ พันธมิตรฯ" โดยระบุว่า ระดับการยัว่ให้เกิดสงครามให้ได้ของพวกพันธมิตร นี่มัน "กระหายเลือด"จนไม่รู้จะบรรยายอย่างไรแล้ว แต่ทำไมจนป่านนี้ ยังไม่เห็นนักวิชาการที่ชอบออกแถลงการณ์ไม่ให้รัฐบาลใช้ความรุนแรงต่อการชุมนุมของพันธมิตรมาออกโรงออกแถลงการณ์พันธมิตรบ้าง

ดร.สมศักดิ์ระบุว่า เวลารัฐบาลทำท่า "ฮึ่มๆ"ใส่การชุมนุมของพันธมิตร กลุ่มนักวิชาการก็ขยันออกแถลงการณ์ประนามรัฐบาลกันดีนัก แต่ที่พันธมิตรกำลังกระหายเลือดยั่วยุให้ก่อสงครามอยู่ตอนนี้ แล้วถ้าเกิดสงคราม ถ้ามีการปะทะระหว่าง 2 ประเทศ ความร้ายแรงนี่ไม่ยิ่งกว่าเป็นไหนๆหรือ?

ทำไม จึง"เงียบ"มาก ในหมู่นักวิชาการ? การก่อกระแสบ้าคลั่ง เรื่อง "เขาพระวิหารยังเป็นของไทย" ไม่ใช่อะไรที่แย่มากๆหรือ?"ดร.สมศักดิ์ระบุในกระทู้(http://www.sameskybooks.org/board/index.php?showtopic=9477)


ทั้งนี้พันธมิตรได้ยั่วยุให้เกิดความรุนแรงมาตลอด ล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ 18 ก.ค. เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นปราศรัยบนเวทีที่สะพานมัฆวานฯ เรียกร้องให้ทหารไทยบุกรบเพื่อยึดเขาพระวิหาร รวมทั้งใช้F16โจมตีกัมพูชา 

โดยนายสนธิเสนอว่า กรณีเขาพระวิหารนั้น สิ่งที่ประเทศไทยต้องทำต่อไปนี้ คือ

1.ต้องปฏิเสธมติคณะรัฐมนตรีที่ไปยอมรับแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาให้เป็นโมฆะเพราะไม่ได้ผ่านรัฐสภาและได้รับการรับรองจากตุลาการรัฐธรรมนูญ

2.ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยื่นใบลาออกจากองค์การยูเนสโกและชี้ให้เห็นว่าเป็นการพิจารณาตัดสินอย่างไม่เป็นธรรม และเมื่อลาออกแล้ว ทั้ง 7 ประเทศที่จะเข้ามาบริหารพื้นที่ก็ไม่มีสิทธิ์เข้ามาใช้ทางขึ้นจากฝั่งไทยขึ้นไปฟื้นฟูปราสาทพระวิหาร

3.จ้างทนายความเพื่อรื้อฟื้นคดีปราสาทพระวิหาร โดยอ้างหลักฐานที่ไทยเคยอ้างสิทธิ์เหนือปราสาทพระวิหารตั้งแต่ปี 2505 หากจำเป็นต้องจ้างทนายความจากตะวันตกก็ต้องทำ

4.จากนั้นให้ใช้กำลังยึดปราสาทพระวิหาร ถ้าจำเป็นต้องรบก็ต้องรบ หากจำเป็นต้องเสียเลือดเนื้อเพื่อชาติบ้านเมืองก็ต้องยอม

5.ให้ทูตไทยที่ประจำอยู่ทุกประเทศทั่วโลกชี้แจงกับรัฐบาลที่ประจำอยู่

6.สั่งปิดพรมแดนไทย-กัมพูชา 42 จุด และสิ่งที่เกิดขึ้นจะทำให้นายฮุนเซนจะโกรธโวยวาย เพราะไม่มีอะไรมาเทียบไทยได้ และหากฝ่ายกัมพูชายังเกเรเราก็จะส่งเอฟ 16 โจมตี ขณะที่เรือรบจะลาดตระเวนเต็มพิกัด

นายสนธิ กล่าวว่า ถ้าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นทางสหประชาชาติก็จะเข้ามาไกล่เกลี่ย แต่เราไม่ต้องการ ต้องการให้มีการพิจารณาคดีในศาลโลกขึ้นมาใหม่ ตามข้อมูลใหม่ ขณะที่เรายึดปราสาทพระวิหารได้ทั้งหมด และว่าวันนี้เทคโนโลยีดาวเทียมสามารถพิสูจน์สันปันน้ำซึ่งเป็นสากลว่าเป็นของไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ และเราไม่ยอมรับแผนที่ที่ฝ่ายกัมพูชาอ้างแผนที่ฝรั่งเศสเพียงฝ่ายเดียว
"
บันทึกการเข้า
Caocao
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 557



« ตอบ #77 เมื่อ: 22-07-2008, 10:18 »


ไอ้นี่ท่าทางจะดื้อด้านจริงๆด้วยหว่ะ...คนเขมรเข้ามาปักหลักในพื้นที่ทับซ้อนตั้งแต่ปี 2543 สมัยรัฐบาลชวน หลีกภัยโน่นไงหล่ะ...อย่าเซ่อซิเอ๊ะ!!
2543 รัฐบาลสมเด็จมรึงอ่ะดิ เหียกจริงๆ ไม่จอดท่าเลยนะมรึง
บันทึกการเข้า

หลับเถิดทหารกล้า ปวงประชาจะคุ้มครอง
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #78 เมื่อ: 22-07-2008, 10:20 »

"บทความทวีวุฒิ จุลวัจนะ : ตุลาการภิวัฒน์ จะทำให้ไทย “ลุกเป็นไฟ”  


โดย คุณทวีวุฒิ จุลวัจนะ
ที่มา เวบไซต์ thai-journalist-democratic-front
22 กรกฎาคม 2551

ไทย แตก เขมร เพราะตุลาการภิวัฒน์

อ่านประชาทรรศน์วันนี้แล้ว ต้องถอนหายใจอยู่หลายครั้ง เพราะหนังสือพิมพ์นั้นเขาบอกว่า ปชช.ทั่วประเทศ กำลังลุกขึ้น “ต่อต้าน” ตุลาการภิวัตน์

โอย ตั้งแต่ตุลาการเอาเรื่อง เขาพระวิหารไปดอง จนรัฐบาลต้องทำตาม ต้องปฏิเสธข้อตอลง ลามปามไปถึงเขมรโกรธไทย ไม่พึ่งไทย เข้าไปแล้ว มาตอนนี้ ต้องไปนั่งเจรจาความกันใหม่หมด แถมบอก ตกลงกันไม่ได้เพราะไม่มีอำนาจ ต้องไปพูดคุยในประเทศกันก่อน ตามแนวทางของตุลาการภิวัฒน์ คือตอนนี้ เจรจากันแทบตาย มาระธอนเป็นชั่วโมง แต่จะ “แถลงการณ์ร่วม” กันได้ยังไง ไม่ให้มันเกิคสงครามกัน เพราะเหมือน แถลงการณ์แรก ที่ ตุลาการภิวัฒน์ บอกว่า เป็นสนธิสัญญา ต้องผ่านสภาก่อนเท่านั้น

พูดง่ายๆ ตั้งแต่ต่อไปนี้ รัฐบาลหรือฝ่ายบริหาร เจรจาอะไรกับใครไม่ได้ แต่ต้องมาถามสภาก่อน แล้วหลังจากนั้น หลังทางสภาตกลงกันได้ ก็ต้องนั่งพนมมือ หวังว่า ไม่มีใคร ไปประท้วง กับตุลาการภิวัฒน์อีก แค่เรื่องแบบนี้ มันยังทำให้เห็นกัน “จะจะ” ว่าตุลาการภิวัฒน์ นั้น เสียสติและเป็นภัย ต่อประเทศ มากมายเหลือเกิน

คือแบบที่เจรจากันตอนนี้มาทั้งวัน มันพูดได้อย่างเดียว คือไทยและกัมพูชา จะพยายามไม่เผชิญหน้าแล้ว รบกัน เพราะให้สัญญาอย่างอื่นไม่ได้ แต่นั่นมันแค่เรื่องเดียว ตุลาการภิวัฒน์ ได้เอื้อมมือเข้ามาตัดสิน อนาคตของชาติ ในหลายๆ ประเด็นมากมายนัก

สรุปคือ มันเสี่ยงเอาการ ในทางปฏิบัติ คือบางทีฝ่ายบริหาร ก็ต้องสามารถ “มีช่องทางมากพอ” มากที่จะจัดการกับเรื่องเร่งด่วนสำคัญๆ ถ้ามันไม่ได้ ผล ที่มีตุลาการภิวัฒน์ ก็เหมือนให้ตุลาการ เข้ามาบริหารบ้านเมืองแทน แล้วก็แน่นอน แรกเลย ก็มีมุมมอง แบบเอาใจช่วยฝ่ายนั้นฝ่ายนี้ สอง แถมเป็นใคร เรียนอะไรมา ถึงจะมาสามารถบริหาร เช่นที่เห็นมาแล้ว

ฝ่ายตุลาการบอกไม่เอาหุ้น กฟผ.เข้าตลาด ไม่กระทบเศรษฐกิจ หรือตุลาการปกป้อง ASTV ที่ออกเสี้ยมให้สังคมแตกแยก ขนาดยุให้ไทยโจมตีกัมพูชา หรือมาตอนนี้ ตุลาการบอกว่า ไม่มีแถลงการณ์ร่วม ไม่กระทบ ความสัมพันธ์ ไทยกัมพูชา คือมันบ้าไปแล้ว ที่ออกมาพูดแบบพวกนั้น ที่กล่าวมาก็น้อยนิดสำหรับ การขยายปีกของตุลาการ จริงๆแล้ว ตุลาการ กำลังตัดสินอนาคตชาติเลยทีเดียว

มาตรฐานโลก ไม่ให้อำนาจตุลาการภิวัฒน์กันขนาดนี้

ตัดสินอนาคตชาติ เรื่องอะไรบ้าง เช่นอะไร ก็เช่นการยุบพรรค เช่นข้อกล่าวหาการโกงกิน ที่จริงๆ แล้ว ก็เรื่องเดียวกัน เหมือนตอนตุลาการ ยุบ ทรท.ไป คือมันก็แค่ออกมาทำลายล้างขั้วการเมือง อีกขั้ว ทำลายล้างกันตรงๆ แต่ทำแบบ “อีแอบ” คือในนามแห่ง “ความยุติธรรม” ที่มีเครืองไม้เครื่องมือ คือ “ระบบยุติธรรม” พูดง่ายๆ ทำลายมันตรงๆ เช่นเอาทักษินเข้าคุก แล้ว ยุบ พปช. ขืนทำไป รากหญ้าเป็นล้านเข้ามาเผากรุงเทพฯ เป็นจุลแน่ แต่เอาตุลาการเอาระบบยุติธรรมมาอ้าง คนไทยมากมาย หลอกกันง่ายๆ แบบนั้น เรื่องมันก็หมด “ความร้อนและความเสี่ยง” ไปมาก

แต่ปัญหามันคือ บนโลกนี้ ไม่ว่าจะไปดูมาตรฐานทางศาลของประเทศไหน การยุบพรรคนั้น มันต้องมีสาเหตุที่ใหญ่มากจริงๆ เพราะพรรคการเมืองทุกพรรคมี หุ้นส่วน ก็คือ ปชช.ที่เลือกพรรคนั้นๆ การมายุบกันง่ายๆ แบบในไทย นั้นไม่มีที่ไหนบนโลกเขาทำกัน แล้วถ้ามองจากมุมมองของมาตรฐานโลกไม่พอ เรามามองจากมาตรฐานไทยก็ได้ คือคนพวกนี้ ที่เป็นตุลาการภิวัฒน์ “มีสิทธิ” อะไร มาเปลี่ยนแปลง การปกครองของไทย หรือก็คือ ใช้ระบบยุติธรรม วางหมากให้คนมาเป็นรัฐบาลเป็นนายกฯ วางหมากเอาคนเป็นนายกฯ แล้วออก คือ ใครเลือก พวก ตุลาการภิวัฒน์ ใครให้อำนาจเขามากมายขนาดนั้น มันก็คือ รธน.ฉบับ เผด็จการ ที่ผ่านกันออกมาได้ เพราะ “พ่วง” มาด้วยสัญญากันไว้ ว่า ผ่านไปก่อนแล้วค่อยมาแก้ไข หลังเลือกตั้ง มันจะได้เลือกตั้งเอาเผด็จการออกไปเร็วๆ เสียที

ประเทศต้องเดินไปด้วยกัน

จากที่เห็นๆ กัน เช่นกับ กฟผ. หรือ ASTV หรือเขาพระวิหาร จะเห็นได้ว่า มุมมองของฝ่ายยุติธรรม ไม่ใช่มุมมองของรัฐบาล ที่มาจากเสียงส่วนมาก แต่เป็นมุมมองของ คนกลุ่มเล็กๆ

รากของ รธน.ปี 50 ก็มาจากฐานของเผด็จการ เผด็จการนั้น ก็มาจากการต่อต้านทักษิณ แล้วที่ต่อต้านทักษิณกัน ก็เพราะอำนาจรัฐบาลทักษิณมีมาก เพราะเป็นรัฐบาลที่มาจากพรรคการเมืองพรรคเดียว ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทย “เอกภาพ” จึงมีมากมาย ซึ่งไม่เป็นที่คุ้นเคยของคนไทย แถมเอกภาพนั้น มาจากเสียงรากหญ้า ไม่ใช่ชนชั้นอำมาตย์

สรุปแล้ว เผด็จการคลอด รธน. ปี 50 ออกมา เพื่อ “จำกัดเอกภาพ” ของรัฐบาล จะได้ไม่เกิดแบบ รัฐบาลทักษิณขึ้นมาอีก ก็เป็นสิ่งสำคัญที่รัฐบาลทุกรัฐบาล จะฟังเสียงส่วนน้อย “ด้วย” ในการบริหารประเทศ แต่จริงๆ แล้ว มันเป็น “สิทธิ” ของรัฐบาลเสียงข้างมาก ที่จะฟัง แล้วทำตามเสียงนั้นขนาดไหน ปัญหามันคือ รธน.ปี 50 ทำให้เสียงข้างน้อย “มีพลังและอำนาจ” จนรัฐบาลเสียงข้างมาก บริหารบ้านเมืองไม่ได้ เช่น นโยบายแปรรูป ก็นำมาใช้ไม่ได้ นโยบายต่างประเทศ ก็ไม่ได้ นโยบายแบบค่าโดยสารรถเมล์ ที่ต้องปรับตามกลไกราคาน้ำมัน ยังเกือบทำไม่ได้ นโยบายสมานฉันท์ และความสงบเรียบร้อย ก็ทำไม่ได้ แบบต้องปล่อย ASTV

คือแล้วอย่างนี้ ประเทศจะพัฒนาแล้วเดินไปข้างหน้าอย่างไร ถ้าระบบมันไม่เดินไปด้วยกัน คือเช่น เราเห็นสหรัฐ หันมาปกป้องสิทธิคนผิวดำ ที่เป็นคนส่วนน้อย ก็ไม่ใช่เพราะระบบยุติธรรม เข้ามาก้าวก่ายอะไร คือประธานาธิบดีแคนนีดี้ที่เข้ามา มองว่า จะปรับปรุงเรื่องนี้ แล้วระบบยุติธรรมก็เดินตาม แต่ในไทย กลายเป็นว่า ปชช. เลือกคนมาเป็นรัฐบาล แล้วทำตามนโยบายที่บอกไว้ แต่ระบบยุติธรรม เข้ามาขัดไม่ไห้ทำตามเสียงส่วนมาก กลับนำชาติไปปกป้อง ความเห็นของคนส่วนน้อย

แล้วถ้าพูดกันตรงๆ คนส่วนน้อยนี้ ก็คือพวกอำมาตย์นั่นเอง ซึ่งก็เป็นพวกเดียวกับฝ่ายคนของกระบวนการยุติธรรมไทย ซึ่งมันก็หมายความว่า ตุลาการภิวัฒน์ กำลัง ทำให้รัฐบาลของ ปชช. ลำบาก ทำเพื่อตัวเองและเสียงส่วนน้อยของตัวเอง

สรุปคือ ต้อง “ลุกฮือ” กันประท้วงตุลาการภิวิฒน์ แบบที่ประชาทรรศน์เขียนไว้ แล้วรีบแก้ไข รธน ปี 50 เสียโดยเร็ว

เราเห็นได้จะๆ จากคำวินิฉัยต่างๆ ของฝ่ายตุลาการผ่านระบบยุติธรรม ว่าฝ่ายประชาธิปไตยนั้น ถูกหลอกมามากแล้ว ในเรื่องของการสมานฉันท์ คือฝ่ายประชาธิปไตย ได้ถอยมานับก้าวไม่ถ้วนแล้วตอนนี้ แต่ฝ่ายตุลาการยัง “รุกฆาต” ตลอดเวลา

คือล่าสุด เราก็เห็นอีก เครือข่ายของตุลาการภิวัฒน์ คือ กกต.ดองเรื่องยุบ พรรค ปชป.ไว้ แล้วยังเห็น ไม่ตัดสินใจเรื่องสมัคร กับการทำรายการเล็กๆ แต่กลับส่งไปให้ ตุลาการศาล รธน.วินิฉัยแทน คือเลือกข้างกันแบบเห็นชัดๆ แล้วว่า ฝ่ายตุลาการ ไม่ยึดมั่นในความยุติธรรม แต่เล่นพรรคเล่นพวก

ลงมันเป็นแบบนี้แล้ว และเมื่อนึกถึงความสำคัญที่ ประเทศจะเดินไปด้วยกัน และรัฐบาลมี เอกภาพ ในการบริหารแล้ว ก็ต้องนับว่า ระบบตุลาการไทยและยุติธรรม ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง และที่สำคัญ ยังเป็นภัยใหญ่ของชาติ และ ประชาธิปไตย อีกด้วย"
บันทึกการเข้า
Caocao
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 557



« ตอบ #79 เมื่อ: 22-07-2008, 10:21 »

บิดาใครว่ะสั่งทหารไม่ให้ผลักดันพวกเขมรออกนอกพื้นที่ปี 42  จนปัญหามันบานปลาย เหียกเอ้ย:slime_inlove:
บันทึกการเข้า

หลับเถิดทหารกล้า ปวงประชาจะคุ้มครอง
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #80 เมื่อ: 22-07-2008, 10:24 »


คุณนิรนามต้องแยกแยะเรื่องราวระหว่าง 'ข้อเท็จจริง' Vs. 'ความรู้สึก'  ให้สะเด็ดน้ำได้ก่อนที่จะมองปัญหาเรื่องพิพาทดังกล่าวอย่างไร้อคติ  ข้อเท็จจริงก็คือ ศาลโลกตัดสินแล้วว่าปราสาทเขาพระวิหารเป็นของเขมรและไทยก็ไม่มีสิทธิ์ในการคัดค้านคำพิพากษาดังกล่าวเพราะกฎของศาลโลกอนุญาตให้รัฐบาลในอดีตคัดค้านภายใน 10 ปีหลังคำพิพากษา แต่รัฐบาลไทยสมัยก่อนมิได้กระทำ

ข้อพิพาทเรื่องนี้จึงจำเป็นต้องใช้หลักนิติศาสตร์ในการแก้ไขปัญหา เพราะหลักรัฐศาสตร์ได้ถูกทำลายไปจากการยั่วยุของพันธมารแล้ว...หลักนิติศาสตร์ที่ว่าก็คือ การนำเรื่องข้อพิพาทเรื่องเขตแดนของทั้ง 2 ประเทศสู่ศาลโลกอีกครั้งนั่นเอง!!



ถ้า'หนอนฯ'อ่านภาษาไทยของ'หมัก เมถุน' นายกฯไร้วุฒิภาวะอารมณ์และความสำนึกรักชาติที่ตอบนายกฯเขมรผ่านกระทรวงการต่างประเทศที่ไม่มี'ทนายหน้าหอ'ของนักธุรกิจการเมืองแม๊วๆ เป็นรัฐมนตรี ไม่กี่วันนี้จะเข้าใจ จะรู้ว่าความคิดความอ่านและการพูดจาของนายกฯนอมินีที่ไร้วุฒิภาวะอารมณ์ ได้เปลี่ยนแปลงจากเดิม จากการร่วมมือกับ'ทนายหน้าหอ' ยกปราสาทเขาพระวิหารให้เขมรโดยเปิดเผย และยกดินแดนรอบปราสาทเขาพระวิหารให้เขมรอย่างไม่เปิดเผย ปิดบังคนไทยทั้งประเทศ....

คนไทย 3 คนนั้นเข้าไปในบริเวณนั้นและถูกจับโดยทหารเขมร เป็นการประจาน เปิดเผย ยืนยันให้คนไทยรู้ว่าเขมรได้ครอบครองดินแดนบริเวณนั้น จึงจับกุมพวกเขาได้....

หนังสือจากนายกฯเขมรสั่งการให้นายกฯไทย...
1. ห้ามคนไทยเข้าไปในบริเวณนั้น
2. ให้เคลื่อนย้ายทหารไทยและอาวุธให้พ้นดินแดนเขมร บริเวณนั้นทันที
3. ให้ยอมรับ'อธิปไตย'ของเขมรเหนือบริเวณ...

ด้วยจำนนต่อความจริง การกดดันจาก'พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย' ประชาชนที่ไม่ใช่'ข้าทาสน้ำเงิน'ของนักธุรกิจการเมืองแม๊วๆ และกองทัพ จึงทำให้นายกฯหมัก เมถุน ไม่สามารถโกหก ปลิ้นปล้อน หลอกลวง ปิดบังคนไทยได้อีก จึงต้องมีหนังสือตอบนายกฯเขมร ไม่ยอมรับว่าดินแดนบริเวณนั้นเป็นของเขมร....


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-07-2008, 10:27 โดย ปุถุชน » บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
sanskritshower
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 245



« ตอบ #81 เมื่อ: 22-07-2008, 10:26 »

ตกลง TLE คิดว่าคนไทยที่เรียกร้องเรื่องเขาพระวิหาร = คนเลว
คนไทยที่สนับสนุนเขมรยกทั้งเขาทั้งพื้นที่ให้มัน=คนดี  
บันทึกการเข้า
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #82 เมื่อ: 22-07-2008, 10:34 »

"บทความทวีวุฒิ จุลวัจนะ : ตุลาการภิวัฒน์ จะทำให้ไทย “ลุกเป็นไฟ”  


โดย คุณทวีวุฒิ จุลวัจนะ
ที่มา เวบไซต์ thai-journalist-democratic-front
22 กรกฎาคม 2551

ไทย แตก เขมร เพราะตุลาการภิวัฒน์

อ่านประชาทรรศน์วันนี้แล้ว ต้องถอนหายใจอยู่หลายครั้ง เพราะหนังสือพิมพ์นั้นเขาบอกว่า ปชช.ทั่วประเทศ กำลังลุกขึ้น “ต่อต้าน” ตุลาการภิวัตน์
.....................................................................................................................................................................


อ่านข้อเขียนของอดีตนักข่าวฯคนนี้.....
ก็ต้องอ่านของ อ.วรเจตน์ อ.พิชิต อ.สมศักดิ์ และแนวร่วมเป็ดไก่ นรกป่วนกรุงอย่าง หมอเหวง จักรภพ ณัฐวุฒิ จตุพร วีระ จรัล 'ประดาบ' วรัญชัย 'ดา ตอร์ปิโด' ครูประทีป ด้วยน่ะ จะได้ครบถ้วนรวมแก๊งค์ รวมกลุ่มของคนรักประชาธิปไตยแม๊วๆ..........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-07-2008, 10:37 โดย ปุถุชน » บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #83 เมื่อ: 22-07-2008, 10:48 »

แค่ชื่อกระทู้ผิดแล้ว เขมรตุ๊ดอย่างมึงต้อง "เขมรเรามีจีนและอเมริกาหนุนหลัง.....ไทยมันมีใครหนุนล่ะ!?!"


อ่าวเพิ่งเห็น


เล่นไปแล้ววว Laughing

ซ้ำเลย

บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #84 เมื่อ: 22-07-2008, 10:52 »


ถ้า'หนอนฯ'อ่านภาษาไทยของ'หมัก เมถุน' นายกฯไร้วุฒิภาวะอารมณ์และความสำนึกรักชาติที่ตอบนายกฯเขมรผ่านกระทรวงการต่างประเทศที่ไม่มี'ทนายหน้าหอ'ของนักธุรกิจการเมืองแม๊วๆ เป็นรัฐมนตรี ไม่กี่วันนี้จะเข้าใจ จะรู้ว่าความคิดความอ่านและการพูดจาของนายกฯนอมินีที่ไร้วุฒิภาวะอารมณ์ ได้เปลี่ยนแปลงจากเดิม จากการร่วมมือกับ'ทนายหน้าหอ' ยกปราสาทเขาพระวิหารให้เขมรโดยเปิดเผย และยกดินแดนรอบปราสาทเขาพระวิหารให้เขมรอย่างไม่เปิดเผย ปิดบังคนไทยทั้งประเทศ....


แสดงว่าท่านปุ ปุ ไม่ยอมรับในหลักการยุติธรรมของศาลโลก? แล้วไทยไปขึ้นศาลโลกทำไมในอดีต?  ตอบได้ไหมท่าน!!




คนไทย 3 คนนั้นเข้าไปในบริเวณนั้นและถูกจับโดยทหารเขมร เป็นการประจาน เปิดเผย ยืนยันให้คนไทยรู้ว่าเขมรได้ครอบครองดินแดนบริเวณนั้น จึงจับกุมพวกเขาได้....

หนังสือจากนายกฯเขมรสั่งการให้นายกฯไทย...
1. ห้ามคนไทยเข้าไปในบริเวณนั้น
2. ให้เคลื่อนย้ายทหารไทยและอาวุธให้พ้นดินแดนเขมร บริเวณนั้นทันที
3. ให้ยอมรับ'อธิปไตย'ของเขมรเหนือบริเวณ...

มันเป็นสิ่งที่ประเทศเขมรมีสิทธิ์ที่จะเชื่อเช่นนั้น แต่กระบวนการพิสูจน์ข้อเท็จจริงจักต้องดำเนินการผ่านเวทีระดับภูมิภาคและนานาชาติ ซึ่งอาจหมายถึงว่าเรื่องนี้อาจไปจบที่ศาลโลกอีกครั้งก็เป็นได้



ด้วยจำนนต่อความจริง การกดดันจาก'พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย' ประชาชนที่ไม่ใช่'ข้าทาสน้ำเงิน'ของนักธุรกิจการเมืองแม๊วๆ และกองทัพ จึงทำให้นายกฯหมัก เมถุน ไม่สามารถโกหก ปลิ้นปล้อน หลอกลวง ปิดบังคนไทยได้อีก จึงต้องมีหนังสือตอบนายกฯเขมร ไม่ยอมรับว่าดินแดนบริเวณนั้นเป็นของเขมร....


เพ้อเจ้อสะกดจิตตัวเองใหญ่เลยน๊ะท่านปุ ปุ....พันธมารทำหน้าที่ปลุกระดมสุมไฟสงครามอย่างมันส์มือซิไม่ว่า!!
บันทึกการเข้า
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #85 เมื่อ: 22-07-2008, 10:59 »

 
ไอ้จ๊ะ ถ้าคิดแบบนี้คุณก็ไปบอกไอ้นายกหอกหัก
ไอ้เจ้ากระทรวงกลาโหมให้มันถอนทหารออกมาสิ

เรื่องระหว่างคุณกับไอ้หมัก

ไม่เห็นพันธมิตรจะไปเกี่ยวตรงไหน

บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #86 เมื่อ: 22-07-2008, 11:26 »


ไอ้จ๊ะ ถ้าคิดแบบนี้คุณก็ไปบอกไอ้นายกหอกหัก
ไอ้เจ้ากระทรวงกลาโหมให้มันถอนทหารออกมาสิ

เรื่องระหว่างคุณกับไอ้หมัก

ไม่เห็นพันธมิตรจะไปเกี่ยวตรงไหน


ฮั่นแน่!!  ก่อไฟสงครามเสร็จก็โบ้ยความผิดไปให้รัฐบาลสมัครเลยน๊ะ  man เจงๆ
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #87 เมื่อ: 22-07-2008, 11:56 »

"ซัด “ป๋า” เล่นผิดบท ระวังคนเชื่อเป็นหัวขบวน “อำมาตยาธิปไตย”     
 




กรณีที่พล.อ.ปฐมพงษ์  เกษรศุกร์ ประธานที่ปรึกษากองบัญชาการทหารสูงสุด แต่งเครื่องแบบเต็มยศขึ้นเวทีพันธมิตรฯ ซึ่งเป็นเวทีที่มีจุดยืนในการต่อต้านการทำงานของรัฐบาลอย่างชัดแจ้ง และพล.อ.ปฐมพงษ์ ระบุว่าได้ทำหนังสือถึงผู้บัญชาการทุกเหล่าทัพ ประธานองคมนตรี หรือแม้กระทั่งแกนนำพันธมิตรฯ

 

และอ้างว่า ได้ทำเอกสาร กห.0301(สน.ปธ.คปษ.ฯ)/124 จากประธานคณะที่ปรึกษากองบัญชาการทหารสูงสุด ถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เรื่องการรักษาอธิปไตยเหนือดินแดน กรณีปราสาทพระวิหาร โดยในเอกสารได้มีการลงลายมือชื่อของ พล.อ.เปรม ในเอกสารดังกล่าวในที่ 21 มิ.ย. 51 เขียนข้อความว่า “เป็นการตอบแทนบุญคุณแผ่นดินอย่างหนึ่ง” ลงลายเซ็น พล.อ.เปรม

 

ทำให้เกิดเป็นประเด็นขึ้นมาอีกครั้งว่าการทำหนังสือถึงประธานองคมนตรี มิใช่ในนาม พล.อ.เปรม เป็นการส่วนตัว มีความเหมาะสมหรือไม่ เพราะตำแหน่งประธานองคมนตรี มีการกำหนดกรอบบทบาทหน้าที่ไว้อย่างชัดเจน อีกทั้งเรื่องดังกล่าวยังสุ่มเสี่ยงต่อการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย เสี่ยงต่อการกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รวมถึงยังเสมือนเป็นการรับรองบทบาทของเวทีพันธมิตรฯ อีกด้วย นั้น

 

รศ.ดร.ศิลป์ ราศี นักวิชาการมหาวิทยาลัยศรีปทุม  กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เหมาะด้วยเหตุผลหลายประการ ประการแรกคือ พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ กระทำการผิดวินัยทหาร เพราะการทำเรื่องขอร้องประการใดก็แล้วแต่ที่เกี่ยวข้องกับประเทศเช่นนี้ต้องเรียนไปยังผู้บังคับบัญชา นั่นก็คือ นายสมัคร  สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไม่ใช่เรียนมายังประธานองคมนตรีเช่นนี้

 

ประการที่สองกรณีที่มีการอ้างว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณแผ่นดินอย่างหนึ่งของประธานองคมนตรีนั้น ตนไม่เชื่อว่าประธานองคมนตรีจะไม่ทราบว่าปราสาทเขาพระวิหารเป็นสมบัติของประเทศกัมพูชาตามคำสั่งศาลโลก ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้พยายามกระทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาดินแดนของไทยอย่างสุดกำลังแล้ว

 

นอกจากนี้ยังสามารถมองได้ว่าเป็นการพยายามปลุกปั่นสร้างกระแสอะไรต่อไปอีกหรือไม่ เพราะขณะนี้สถานการณ์แบ่งออกเป็น 2 ขั้วทางการเมือง ดังนั้นการที่กล่าวหรือให้ความสนับสนุนคำขอร้องของพล.อ.ปฐมพงษ์ จะเป็นการตอกลิ่มทางความคิดของประชาชนว่า ประธานองคมนตรีเป็นบุคคลสำคัญที่ขับเคลื่อนระบอบอำมาตยาธิปไตย ทั้งๆ ที่มีตำแหน่งเป็นถึงประธานองคมนตรีแต่กลับลงมายุ่งเกี่ยวทางการเมือง

 

“ประธานองคมนตรีเป็นผู้ใหญ่ การยุ่งเกี่ยวทางการเมือง อาจทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดและไม่สบายใจกับการแสดงออกเช่นนี้ นอกจากนี้หากประธานองคมนตรีมีความจงรักภักดีในสถาบัน และบ้านเมืองจริง การที่กลุ่มพันธมิตรฯ พูดพาดพิงเบื้องสูงอยู่เสมอๆ ผมยังไม่เคยเห็นท่านออกมาปกป้องเลยสักครั้ง ดังนั้นการจะทำอะไรท่านต้องว่างตัวเป็นกลาง ไม่ต้องเกี่ยวข้องเลย ไม่เช่นนั้นประชาชนจะคิดได้ว่าท่านคือคนสำคัญในระบอบอำมาตยาธิปไตยจริงๆ”

 

ด้าน ดร.สุธาชัย  ยิ้มประเสริฐ อาจารย์ประจำคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ส่วนตัวแล้วตนมองว่าประธานองคมนตรี หรือองคมนตรีก็คือคนธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ใช่ผู้วิเศษ สามารถออกความคิดเห็นได้ แต่ก็ควรเป็นในทางที่ถูกที่ควร โดยควรหันหน้ามาร่วมมือกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และควรร่วมมือกับกระทรวงการต่างประเทศเพื่อหาวิธีแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างสันติวิธี และให้เกิดความราบรื่น

 

ทั้งนี้เรื่องปราสาทเขาพระวิหารที่ประเทศกัมพูชาขอขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกกับองค์การยูเนสโกนั้น อันที่จริงแล้วไม่มีปัญหาอะไรมากเลย แต่กลุ่มพันธมิตรฯ นำมาเป็นเครื่องมือในการโจมตีทำให้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาตึงเครียด

 

ดังนั้น หากประธานองคมนตรี จะทำการช่วยเหลือประเทศชาติจริง ก็ควรจะทำการตักเตือน พล.อ.ปฐมพงษ์  และกลุ่มพันธมิตรฯ ว่าให้ยุติการยั่วยุให้เกิดความขัดแย้งจนอาจจะนำไปสู่สงครามดีกว่า ซึ่งทางกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) ก็ได้มีการออกแถลงการณ์คัดค้านความรุนแรงในการแก้ปัญหาระหว่างประเทศแล้ว

 

ทางด้านนายวิภูแถลง  พัฒนภูมิไท แกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 (คปพร.) ระบุว่า กรณีที่ประธานองคมนตรีลงลายมือกำกับคำขอของพล.อ.ปฐมพงษ์ว่า เป็นการตอบแทนบุญคุณแผ่นดินอย่างหนึ่ง เป็นการไม่เหมาะไม่ควรอย่างยิ่งใน 3 ประการคือ ประการแรก ประธานองคมนตรีไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะแสดงความคิดเห็นอะไร แม้หากจะอ้างว่าเป็นสิทธิทางการแสดงความคิดเห็นก็ตาม

 

ประการต่อมา ตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่มีต่อคณะองคมนตรีว่า มีหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของพระมหากษัตริย์  ไม่มีหน้าที่มอบคำปรึกษาให้ผู้อื่น ชี้ให้เห็นว่าอาจเป็นการกระทำที่ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท

 

ส่วนประการสุดท้าย พล.อ.ปฐมพงษ์ เป็นบุคคลที่กระทำไม่ถูกต้องตามกาลเทศะ และไม่มีวินัยทางการทหารโดยการไม่เคารพผู้บังคับบัญชา เนื่องจากเรื่องที่เรียนไปยังประธานองคมนตรีคือ การรักษาอธิปไตยเหนือดินแดน กรณีประสาทพระวิหารนั้น ทำให้เกิดความคลางแคลงว่าแท้ที่จริงแล้ว นายทหารท่านนี้อยู่ใต้บังคับบัญชาใครกันแน่ นี่ไม่ใช่หน้าที่ของประธานองคมนตรี ดังนั้นจะเห็นได้ว่า นี่คืออำนาจนอกรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน จนทำให้เกิดความวิปริตที่มีความต้องการอะไรก็ไปทำเรื่องขอกับประธานองคมนตรี

 

“นี่เป็นความวิปริตทางปัญญาของผู้หลักผู้ใหญ่ในแผ่นดิน ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนยิ่งขึ้นว่านี่เป็นอำนาจนอกรัฐธรรมนูญอย่างที่ทุกคนทราบกัน อยากจะทำอะไรก็ไปขอองคมนตรี ซึ่งอันที่จริงไม่เกี่ยวข้องเลย หากต้องการจะช่วยจริงๆ ประธานองคมนตรีควรที่จะตักเตือน พล.อ.ปฐมพงษ์ ให้อยู่ในกรอบ และเลิกทำตัวผิดวินัยทหารเช่นนี้เสียที เพราะหลายครั้งแล้วไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่นำกองทหารไปรับ นายสุนัย มโนมัยอุดม อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่สนามบินสุวรรณภูมิ แล้วก็เรื่องเขาพระวิหาร รวมทั้งเรื่องที่ขอผ่านมายังประธานองคมนตรี ทำให้เกิดความสับสนว่าใครกันแน่เป็นผู้บังคับบัญชาตัวจริง” นายวิภูแถลง กล่าว

 

รศ.ประสิทธิ์   ปิวาวัฒนพานิช อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ตามหลักแล้วประธานองคมนตรีไม่ควรยุ่งเกี่ยวทางการเมือง ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือว่าไม่เหมาะสม เพราะหากพิจารณาตามรัฐธรรมนูญแล้ว ประธานองคมนตรีไม่มีอำนาจสั่งการหรืออนุมัติดังคำร้องที่พล.อ.ปฐมพงษ์ ทำเรื่องมา ทั้งนี้ประธานองคมนตรีก็ไม่ใช่ผู้บังคับบัญชาโดยตรง  เหมือนหวังเป็นการดึงผู้ใหญ่ลงมาเป็นแบ็กอัพให้กับตนเอง นอกจากนี้ประธานองคมนตรีมีหน้าที่ถวายคำปรึกษาแก่พระเจ้าแผ่นดินเท่านั้น ไม่ควรกระทำอย่างอื่น

 

ส่วนกรณีที่มีการเขียนกำกับท้ายเอกสารคำร้องว่า “เป็นการตอบแทนบุญคุณแผ่นดินอย่างหนึ่ง”นั้น รศ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า ประธานองคมนตรีต้องแสดงความเป็นกลางทางการเมือง และไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ทั้งนี้การแสดงความคิดเห็นทางการเมืองในช่วงที่มีการแตกแยกเป็นสองฝ่ายชัดเจนขนาดนี้ เป็นเรื่องที่น่ากังวล ประธานองคมนตรีควรทีจะระมัดระวังตัว เพื่อไม่ให้ประชาชนเกิดความรู้สึกว่ายังคงมีความยุ่งเกี่ยวทางการเมือง

 

“ส่วนตัว ผมคิดว่าไม่ควรยุ่งอีกแล้ว ประธานองคมนตรีและคณะ มีหน้าที่ถวายคำปรึกษาแก่พระมหากษัตริย์ ไม่ใช่ว่ามีอำนาจอนุมัติ หรือสั่งการตามคำขอของทหารคนไหน ให้เรื่องเป็นไปตามหน้าที่ของผู้บังคับบัญชาโดยตรงดีที่สุด ไม่ใช่ลงมาเกี่ยวข้องทางการเมือง ซึ่งหากผู้ใหญ่ในบ้านเมืองจะลงมายุ่งเกี่ยวทางการเมืองจริง คุณต้องยอมรับคำวิจารณ์ได้นะ ไม่ใช่ว่าพอเอาเข้าจริงๆ บอกแตะไม่ได้ มันไม่ใช่ เพราะการเมืองเป็นเรื่องสกปรก มีส่วนได้ส่วนเสีย อย่างนี้แล้วหากมองในระยะยาวไม่ดี คนจะไม่ให้ความเคารพในที่สุด ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยดีกว่า” รศ.ประสิทธิ์ กล่าว

 

ที่มา: เรียบเรียงจากหนังสือพิมพ์ประชาทรรศน์"
บันทึกการเข้า
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #88 เมื่อ: 22-07-2008, 11:58 »


ฮั่นแน่!!  ก่อไฟสงครามเสร็จก็โบ้ยความผิดไปให้รัฐบาลสมัครเลยน๊ะ  man เจงๆ

ผมไม่ได้คิดแต่เรื่องโบ้ยคนนั้นคนนี้

แค่คิดว่าหนทางแก้ปัญหามันอยู่ตรงไหน

แต่ถ้าคุณคิดว่าการใช้กำลังทหารมันไม่ถูกต้อง

คุณก็ต้องไปคุยกับผู้กุมอำนาจทหาร




หรือสนธิลิ้มสั่งถอน สั่งเสริมกำลังได้
อย่าโง่ดิ เสียสถาบันกระเทยแขมร์หมด Laughing
บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #89 เมื่อ: 22-07-2008, 12:13 »

ผมไม่ได้คิดแต่เรื่องโบ้ยคนนั้นคนนี้

แค่คิดว่าหนทางแก้ปัญหามันอยู่ตรงไหน

แต่ถ้าคุณคิดว่าการใช้กำลังทหารมันไม่ถูกต้อง

คุณก็ต้องไปคุยกับผู้กุมอำนาจทหาร




หรือสนธิลิ้มสั่งถอน สั่งเสริมกำลังได้
อย่าโง่ดิ เสียสถาบันกระเทยแขมร์หมด Laughing




โหหหหหหหหหห.....ไอ้นี่มันด้านหรือโง่กันแน่เอ่ย?  ดูซิ...สงสัยต้องบัญญัติศัพท์ให้ใหม่ว่า "ไอ้โง่นเอ๊ย" (โง่+ด้าน) คริ คริ

มันก็เหมือนกับที่มีเด็กเกเราที่ชื่อสนธิที่มันอาศัยในบ้าน วันดีคืนดีไอ้สนธิก็เอาขวดลิโพไปขว้างหลังคาบ้านอื่นเค้าแล้ววิ่งหนีเข้าบ้าน ถามว่าเจ้าของบ้านที่ถูกเขวี้ยงหลังคาบ้านจะมีเรื่องกับใคร?
บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #90 เมื่อ: 22-07-2008, 12:13 »

ศาลโลกเคยตัดสินเรื่องแนวเส้นเขตแดนตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ จงตอบมา 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-07-2008, 12:16 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #91 เมื่อ: 22-07-2008, 12:17 »

ศาลโลกเคยตัดสินเรื่องแนวเส้นเขตแดนตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ จงตอบมา 


อิชั้นไม่เคยบอกว่าศาลโลกตัดสินเรื่องเส้นแบ่งระหว่างประเทศนี่คร้าคุณจีจี๊ขา....อย่าสั่นเด๊ะ
บันทึกการเข้า
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #92 เมื่อ: 22-07-2008, 12:21 »



โหหหหหหหหหห.....ไอ้นี่มันด้านหรือโง่กันแน่เอ่ย?  ดูซิ...สงสัยต้องบัญญัติศัพท์ให้ใหม่ว่า "ไอ้โง่นเอ๊ย" (โง่+ด้าน) คริ คริ

มันก็เหมือนกับที่มีเด็กเกเราที่ชื่อสนธิที่มันอาศัยในบ้าน วันดีคืนดีไอ้สนธิก็เอาขวดลิโพไปขว้างหลังคาบ้านอื่นเค้าแล้ววิ่งหนีเข้าบ้าน ถามว่าเจ้าของบ้านที่ถูกเขวี้ยงหลังคาบ้านจะมีเรื่องกับใคร?


หมักมีเรื่องกับสนธิอยู่แล้วก็มีไปสิ เป็นเรื่องระหว่างหมักกับพันธมิตร(หมักVSพันธมิตร)

แล้วทำไมหมักต้องยกทหารไปมีเรื่องกับฮุนเซ็นด้วย(หมักVSฮุนเซ็น)

คุณจ๊ะต้องไปถามหมัก ไม่ใช่ถามสนธิ



ตัวอย่างเด็กขว้างบ้านอื่นก็ไปไล่เบี้ยกับเด็ก
ไม่ใช่ลากปืนมาจ้องหน้าบ้านข้างๆ

ถ้าคิดว่าใช้กำลังทหารไม่ถูกต้อง ---> ไปถามหมัก


เข้าจัยมั้ย(ถ้าไม่เข้าใจเรียกว่าโง่นะ)
รีบเข้าใจซะไวๆ Laughing
บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #93 เมื่อ: 22-07-2008, 12:30 »


อิชั้นไม่เคยบอกว่าศาลโลกตัดสินเรื่องเส้นแบ่งระหว่างประเทศนี่คร้าคุณจีจี๊ขา....อย่าสั่นเด๊ะ

ถ้าอย่างนั้นใครจะชี้ขาดได้ว่าไทยบุกรุกพรมแดนเขมรจริง
ศาลโลกยังปฏิเสธจะตัดสิน แล้วจีน อเมริกา มีสิทธิหรือ?

กรณีพิพาทพรมแดนมีทั่วโลกเป็นหมื่นๆ จุด ซึ่งรัฐบาลของ
ประเทศคู่พิพาทต้องตกลงกันเองเท่านั้น ใครก็ยุ่งไม่ได้ครับ
ไม่อย่างนั้นก็เอาขึ้นศาลโลก หมดเรื่องกันแล้วทั่วโลก

ที่ยกเรื่องจีน+อเมริกาหนุนเขมร ก็มายุ่งเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ดี 
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #94 เมื่อ: 22-07-2008, 12:35 »

ถ้าอย่างนั้นใครจะชี้ขาดได้ว่าไทยบุกรุกพรมแดนเขมรจริง
ศาลโลกยังปฏิเสธจะตัดสิน แล้วจีน อเมริกา มีสิทธิหรือ?

กรณีพิพาทพรมแดนมีทั่วโลกเป็นหมื่นๆ จุด ซึ่งรัฐบาลของ
ประเทศคู่พิพาทต้องตกลงกันเองเท่านั้น ใครก็ยุ่งไม่ได้ครับ
ไม่อย่างนั้นก็เอาขึ้นศาลโลก หมดเรื่องกันแล้วทั่วโลก

ที่ยกเรื่องจีน+อเมริกาหนุนเขมร ก็มายุ่งเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ดี 

ไม่หรอกครับ พวกฝั่งนั้นเขาตัดสินกันไปแล้วว่าที่ตรงนั้นเป็นของเขมร
ยินดียกดินแดนที่พ่อแม่ปู่ย่ารักษามาให้เขมรอย่าเต็มใจ เพียงเพราะผลประโยชน์ไม่กี่บาท
ถ้าพวกนั้นขุดกระดูกปู่ย่าขายพ่วงเพื่อเพิ่มค่าตัวได้ ก็คงทำไปแล้ว
บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #95 เมื่อ: 22-07-2008, 12:45 »

ก็เพราะมาตรา 190 นี่แหล่ะที่จะทำให้ไทยต้องเสียอะไรๆมากกว่าที่ควรจะเสีย ในขณะที่เขมรเค้ามีความเป็นเอกภาพทั้งด้านวิชาการ-กฎหมาย-ความมั่นคงแห่งรัฐในการหยิบยกประเด็นข้อพิพาทกับไทยไปเล่นอย่างหลากหลายมิติ เช่น การเจรจาแบบทวิภาคี  แบบเวทีภูมิภาคที่สิงคโปร์ขณะนี้  และแบบนานาประเทศผ่านยูเอ็น ซึ่งทำให้นานาประเทศมีความเข้าใจและเชื่อใจในการดำเนินการของรัฐบาลเขมรที่มีผลการตัดสินของศาลโลกในปี2505มาเป็นประโยชน์

ในขณะที่รัฐบาลไทยถูกมาตรา 190 ขึงพืดไม่ให้กระทำการใดๆในการแก้ปัญหาเร่งด่วนหรือแก้เกมส์ของเขมรได้เลย มีพันธมารที่คอยสุมไฟสงครามในหลากหลายกลยุทธ์ และมีกระบวนการตุลาการวิบัติคอยขย่มการดำเนินการของรัฐบาลอย่างที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้ในประเทศไทย

ท้ายสุดแล้ว...เรื่องข้อพิพาทพื้นที่ทับซ้อนจะถูกนำไปพิจารณาในเวทีระดับโลก นั่นก็คือ ศาลโลก และประเทศไทยก็น่าจะลงเอยด้วยการพ่ายแพ้ให้แก้เขมรเป็นครั้งที่ 2 อย่างแน่นอน

ทำใจซะที่ประเทศไทยมีรธน.ฉบับโจรร่าง มีตุลาการวิบัติ มีพันธมารคอยโค่นรัฐบาล และมีมือที่มองไม่เห็นคอยอำนวยการอยู่ข้างหลัง!!


กลับกันเลยครับ ต้องบอกว่าเพราะรัฐบาลสมัครละเมิดมาตรา 190 ถึงได้เกิดเรื่อง

รมต.นพดล ก็ไปเซ็นเอกสารให้เขาก่อนมาให้ ครม.อนุมัติ แล้ว ครม.ก็มีมติล่องหน
ให้ รมต.นพดล ไปลงนามซ้ำ ทั้งหมดทำโดยไม่นำข้อมูลมาให้รัฐสภาได้พิจารณา

โดยอ้างเหตุผลว่าต้องปกป้องผลประโยชน์ทางการเมืองของรัฐบาลเขมร!!!

ส่วนเรื่องศาลโลกเขาก็ปฏิเสธจะพิจารณาเรื่องเส้นเขตแดนไปแล้วตั้งแต่สมัยโน้น
ที่ไปโยง จีน อเมริกา มาเกี่ยวกับพรมแดนไทย-เขมร ยิ่งไ่ม่เกี่ยว
ถ้าเรื่องเส้นเขตแดนศาลโลกตัดสินได้จริงๆ ป่านนี้จีนไปฟ้องเอาไต้หวันคืนแล้ว 
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #96 เมื่อ: 22-07-2008, 12:53 »

ไม่หรอกครับ พวกฝั่งนั้นเขาตัดสินกันไปแล้วว่าที่ตรงนั้นเป็นของเขมร
ยินดียกดินแดนที่พ่อแม่ปู่ย่ารักษามาให้เขมรอย่าเต็มใจ เพียงเพราะผลประโยชน์ไม่กี่บาท
ถ้าพวกนั้นขุดกระดูกปู่ย่าขายพ่วงเพื่อเพิ่มค่าตัวได้ ก็คงทำไปแล้ว


ดูเหมือนคนไทยยังไม่ตระหนักด้วยครับว่า กรณีที่เกิดขึ้นตอนนี้ไม่ใช่เรื่องปราสาทพระวิหาร
แต่เป็นปัญหาพิพาทเกี่ยวกับเส้นเขตแดนไทย-กัมพูชา

ถ้ายอมรับสิทธิของเขมรในพื้นที่กันชน ก็เท่ากับต้องยอมรับแผนที่ฝรั่งเศสทั้ง 11 แผ่นด้วย
ซึ่งจะก่อปัญหาตลอดแนวพรมแดนไม่รู้กี่ร้อยกี่พันกิโลเมตร

ปัญหาเดียวกันนี้ลากไปถึงเกาะกูดและอ่าวไทย ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ แค่ 4-5 ตารางกิโลเมตร 
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
meriwa
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,100



เว็บไซต์
« ตอบ #97 เมื่อ: 22-07-2008, 12:57 »

ตกลงจ๊ะจะเอายังไงกันแน่
เมื่อก่อนหน้านี้ก็บอกแค่ว่าเค้าได้แค่ตัวปราสาทไป พื้นที่รอบๆ เราจะไม่เสีย
พอมาตอนนี้มาบอกเขมรมีจีนกะเมกาหนุนหลัง รีบยกๆ พื้นที่รอบๆ ไปให้เค้าเฮอะ

ที่ไปกลัวประเทศอื่นน่ะ เพราะกลัวว่ามันจะไปแถกับเค้าไม่ได้ใช่มั้ยล่ะ ถ้าแถไปก็เจอส้นตรีนแน่ๆ
แต่ผมว่านะสิ่งที่น่ากลัวมากกว่าจีนกะเมกา ก็คือรัฐบาลโง่ๆ ของไทยเราเองนี่ละน่ากลัวที่สุด
เคยได้ยินมั้ยคำว่า "ชนะโดยไม่ต้องรบน่ะ" ต่อให้กองทัพแข็งแกร่งแค่ไหน
แต่ถ้ามีผู้นำห่วยแตก มันก็แพ้เค้า โดยยังไม่ทันได้รบแล้ว

อ่อแล้วจะบอกอะไรให้อีกอย่าง ไอ้ตัวที่ชอบอ้างเอาพลทหารไปตายน่ะ รู้รึเปล่าว่าเดี๋ยวนี้
พลทหารส่วนใหญ่เค้าเอาไปทำงานอยู่บน office กันหมดแล้ว จะมีออกสนามก็น้อยมาก
สงสัยดูหนังโบราณมากไปหรือเปล่า เห็นชอบเอาเรื่องโบราณๆ มาตัดแปะบ่อยๆ  


บันทึกการเข้า

ผู้ปกครองระดับธรรมดา   ใช้ความสามารถของตน    อย่างเต็มที่
ผู้ปกครองระดับกลาง       ใช้กำลังของคนอื่น             อย่างเต็มที่
ผู้ปกครองระดับสูง           ใช้ปัญญาของคนอื่น           อย่างเต็มที่

                                                                  ...คำคมขงเบ้ง
นิรนาม
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 554



« ตอบ #98 เมื่อ: 22-07-2008, 13:10 »


กรณี 3 คนไทยที่ถูกทหารเขมรควบคุมตัวก็เพราะเค้ากลัวว่า 3 คนไทยจะไปยั่วยุก่อเหตุให้บานปลาย ขนาดทหารไทยล้อมรั้วแท้ๆ...3 คนไทยยังปีนข้ามไปหาเรื่องได้ ทหารเขมรเลยต้องตัดไฟแต่ต้นลมควบคุมตัวไว้ หากไม่ควบคุมตัวอาจก่อเหตุร้ายแย่กว่านี้ก็ได้!?!

อ้าว..ตอนเกิดเรื่องจ๊ะอยู่ด้วยหรือเนี๊ย..คนไหนว้า..พึ่งรู้นะเนี๊ย..ว่าจ๊ะเป็น "คนเขมร"
วันนั้นผมก็อยู่ตรงนั้นแหละ รู้ด้วยว่าจริง ๆ แล้วเกิดอะไรขึ้น แต่ไม่เคยคิดเหมือนจ๊ะเลยแฮะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-07-2008, 13:14 โดย นิรนาม » บันทึกการเข้า

"คืนที่ดำทะมึนมืดสนิท ยังรอแสงอาทิตย์ส่องสว่าง มีที่ไหนถูกปิดทุกทิศทาง เพียงม่านควันหมอกบางมันพรางตา"ถ้อยวลีของ..ประเสริฐ  จันดำ
ถ้อยวลี - จาก; "บันทึกจากกองร้อย ทหารปลดแอก" โดย..เสกสรรค์ ประเสริฐกุล
      นักรบจรยุทธอย่างพวกเราไม่รู้ว่าบ้านของตัวเองอยู่ที่ไหน รู้แต่ว่าเรามีปิตุภูมิเป็นของพวกเรา ทุกหนทุกแห่งที่เราล้มตัวลงนอนที่นั่นก็คือบ้าน
“บ้านของเราก็คือประเทศชาติ พ่อแม่ของเราก็คือประชาชน และเราจะไปทุกหนทุกแห่งเพื่อจัดการกับเจ้าคนที่มันเหยียบย่ำบ้านกับพ่อแม่ของเรา”
samepong(ยุ่งแฮะ)
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,402



« ตอบ #99 เมื่อ: 22-07-2008, 20:22 »

อ้าว..ตอนเกิดเรื่องจ๊ะอยู่ด้วยหรือเนี๊ย..คนไหนว้า..พึ่งรู้นะเนี๊ย..ว่าจ๊ะเป็น "คนเขมร"
วันนั้นผมก็อยู่ตรงนั้นแหละ รู้ด้วยว่าจริง ๆ แล้วเกิดอะไรขึ้น แต่ไม่เคยคิดเหมือนจ๊ะเลยแฮะ


ถามท่านฤาษีจ๊ะพ่อแม่ทิ้ง พื้นที่ทับซ้อน ท่านเชื่อและปักใจว่า เป้นของเขมรแล้วใช่ไหม

ถ้าท่านใช่ผมจะได้รู้ว่า ท่นฤาษีโง่ฉิบหาย สงสัยไปอญุ่ป่ากินเงินทัษินมานาน

ถ้าไม่ใช่แล้วทำไม คนเขมร อยู่ตรงนั้นได้ แต่คนไทยสามคนแค่ไปนั่งสมาธิ ดันถูกเขมรจับ อย่าบอกว่าล้ำเส้นนะ ในเมื่อมันเป็นพื้นที่ทับซ้อนคนเขมรอยู่ได้ ทำไมคนไทยอยู่ไม่ได้ ตอบให้ตรงประเด็นนะ
บันทึกการเข้า

เวลาจะพิสูจน์ความเชื่อ สักวัน ไม่ว่าความเชื่อนั้นจะถูกหรือผิด ผมขอรับไว้ด้วยตัวเอง คิเสียว่าทำแล้วเสียใจดีกว่าเสียใจที่ไม่ได้ทำ
หน้า: 1 [2] 3 4
    กระโดดไป: