E-pen
|
|
« เมื่อ: 20-07-2008, 18:31 » |
|
ชักเพี้ยน!! สมรังสี ยุชาวศรีสะเกษ-สุรินทร์ สู้ไทย โดย ผู้จัดการออนไลน์ 20 กรกฎาคม 2551 14:27 น. http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9510000085149ภาพถ่ายวันที่ 11 ก.ค.2551 นายสม รังสี หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านใหญ่ที่สุดในกัมพูชากำลังปราศัยหาเสียงที่ จ.กันดาล (Kandal) เมื่อวันเสาร์พรรคนี้ได้ออกคำแถลงปลุกชาวไทยเชื้อสายเขมรใน จ.สุรินทร์และศรีสะเกษ ให้สู้กับรัฐบาลไทยปกป้องดินแดนพระวิหาร (ภาพ: Reuters) ผู้จัดการออนไลน์ -- พรรคสมรังสี พรรคฝ่ายค้านในกัมพูชา ได้ออกคำแถลงฉบับหนึ่งเมื่อวันเสาร์ (19 ก.ค.) เรียกร้องให้ชาวไทยเชื้อชาติขะแมร์ (Khmer) หรือเขมรที่อาศัยทำกินในประเทศไทย ลุกขึ้นต่อสู้กับรัฐบาลไทย เพื่อพิทักษ์ปกป้องปราสาทกับดินแดนเขาพระวิหาร ที่พรรคการเมืองนี้กล่าวว่าเป็นของกัมพูชาอย่างสมบูรณ์ พรรคการเมืองนี้ ยังเตือนรัฐบาลไทยด้วยว่า ระวังปัญหาแบบจังหวัดชายแดนภาคใต้ลุกลามไปยังจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนืออีกแห่ง คำแถลงดังกล่าวนับเป็นการแสดงท่าทีต่อปัญหาที่ชายแดนด้านพระวิหารเป็นครั้งแรก โดยพรรคการเมืองฝ่ายค้านใหญ่ที่สุดในประเทศ และยังระบุว่า สาเหตุใหญ่ของปัญหากับการเผชิญหน้าทางทหารขณะนี้ เกิดจากการที่รัฐบาลสมเด็จฯ ฮุนซน ไปร่วมลงนามในแถลงการณ์ร่วมฉบับหนึ่งกับรัฐบาลไทย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคสมรังสี ซึ่งมีทั้งหมด 10 คนเศษ ได้เข้าชื่อกันในท้ายคำแถลงฉบับดังกล่าว เรียกร้องไปยังชาวขะแมร์ที่อาศัยอยู่ใน จังหวัดของกัมพูชาในอดีต เช่น สุรินทร์และ ศรีสะเกษ ให้ร่วมกันต่อสู้เรียกร้อง และ สั่งสอน รัฐบาล นักการเมืองและกองทัพไทยให้เคารพต่ออธิปไตยและบูรณภาพเหนือดินแดนของกัมพูชาในปัจจุบัน คำแถลงยังเรียกร้องให้รัฐบาลไทยเคารพความจริงทางประวัติศาสตร์ และ หยุดยั้งมิให้ปัญหาในจังหวัดภาคใต้ของไทยแผ่ลามไปยังจังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปัจจุบันพรรคการเมืองต่างๆ ในกัมพูชา กำลังหาเสียงอย่างเผ็ดร้อน สำหรับการเลือกตั้งวันที่ 27 ก.ค.ศกนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์ เชื่อว่า พรรคประชาชนกัมพูชาของสมเด็จฯ ฮุนเซน จะมีชัยอย่างท่วมท้น บริหารประเทศต่อไปอีก 5 ปี ภาพถ่ายวันที่ 11 ก.ค.2551 ผู้สนับสนุนพรรคสมรังสีใน จ.กันดาล ไปให้กำลังใจขณะที่ผู้นำพรรคยกพลไปปราศัยหาเสียงเลือกตั้ง(ภาพ: Reuters) คำแถลงของพรรคฝ่ายค้านที่ออกมาเมื่อวันเสาร์ได้เรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการอย่างเร่งด่วนฟ้องร้องต่อสหประชาชาติ โดยระบุว่า การรุกล้ำเขตแดนที่ตกเป็นของกัมพูชาตามสนธิสัญญาฝรั่งเศส-สยาม ปี 1904 และ 1907 กับคำพิพากษาของศาลระหว่างประเทศวันที่ 15 มิ.ย.2505 ถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ พรรคสมรังสี ระบุว่า ฝ่ายแถลงการณ์ร่วมที่ลงนามกันในวันที่ 18 มิ.ย.2551 นั้น รัฐบาลไทยไม่ได้นำเข้าขออนุมัติจากรัฐสภา และศาลในประเทศไทย ได้ชี้ว่า เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายขัดต่อรัฐธรรมนูญ ขณะที่รัฐบาลกัมพูชาก็ไม่ได้นำแถลงการณ์ร่วมฉบับดังกล่าวเข้าเสนอสู่การพิจารณาขอความเห็นชอบจากรัฐสภาเช่นเดียวกัน พรรคสมรังสี ยังเรียกร้องให้รัฐบาลให้ขวัญกำลังใจแก่ทหารที่ปฏิบัติงานอยู่ชายแดน พิจารณาปรับเลื่อนยศชั้นแก่บรรดาทหาร โดยไม่มีระบบเส้นสาย หรือรับส่วยสินบน เพื่อให้ทุกคนปฏิบัติการสู้รบอย่างกล้าหาญในการปกป้องเอกราชอธิปไตยของชาติ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
พรรณชมพู
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 20-07-2008, 18:34 » |
|
ขนาดยังไม่ทันปลุก ไอ้พวกเขมรในศรีสะเกษ มันก็ออกมากันแล้วนี่ สมเอ๊ย รังสีเอ็กซ์หรือป่าวว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
sensei
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 20-07-2008, 18:39 » |
|
คิดได้แต่ควายๆแบบนี้ ก็แพ้ อีเซ็น ต่อไปเถอะ ไอ้ซวยหัวคม เอ๊ย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ล้างโคตรทักษิณ
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 20-07-2008, 18:43 » |
|
งั้นประชาชนไทย ก็อวยพรให้เอ็ง เป็นฝ่ายค้านต่อไป 20 ปีเหอะ ไอ้สมสู่ แทนที่เมิงจะคัดค้นความโกงพวกเอ็งไม่มี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
morning star
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 20-07-2008, 18:58 » |
|
ข้อความนี้ถูกส่งต่อไปยังเนวินโดยตรง ให้ลุกขึ้นต่อต้านสมัคร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
อย่าเดินตามใคร เพราะเรามีจุดมุ่งหมายของเราเอง
|
|
|
ปรมาจารย์เจได
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 20-07-2008, 19:28 » |
|
อ๊ากกกกกกกกกก กูเกลียดเขมร !!!!
ฆ่าม๊านนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน !!
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
1ktip
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 20-07-2008, 19:54 » |
|
งั้นฝั่งเราก็ต้องเปิดแคมเปญ ไทย-เขมรร่วมกู้ชาติ ปลดปล่อยเพื่อนบ้านจากผู้นำทรราชย์ ไล่รัฐบาลและฝ่ายค้านโสมมให้พ้นกัมพูชา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
sensei
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 20-07-2008, 20:09 » |
|
ตอนนี้ก็เลิกคบกะเพื่อนเขมรที่มหาวิทยาลัยไปแล้ว แม่งชอบแพล่มซะด้วยว่าศาลโลกตัดสินแล้วๆๆ - กลัวพลั้งตีนไปกระทืบมันตาย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ขุนพลน้อย
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 20-07-2008, 20:11 » |
|
ถามหน่อยเหอะคนสติดีๆที่ไหนเค้าอยากเป็นประชาชนเขมรวะ นอกจากไอ้พวกทหารมีใครีความสุขมั่งวะ ไม่งั้นคงไม่มีเขมรหนีเข้าเมืองมานั่งขอทานในเมืองไทยหรอกว่ะ สบายกว่าเป๋นประชาชนชาวเขมรเยอะเลย ขอบอก จะบอกให้รู้ไว้นะไอ้สม ขอทานเขมรที่มาหากินในเมืองไทยเนี่ย รายได้ดีกว่ามึงมาก แล้วทีหลังเดือดร้อนอะไรอย่าหนีเข้าเมืองไทยนะมึง ไอ้สมรังสีเนรคุณ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-07-2008, 20:15 โดย ขุนพลน้อย »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ผมเองครับ
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 20-07-2008, 20:13 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ริวเซย์
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 20-07-2008, 20:14 » |
|
พวกมันใช้เล่ห์เหลี่ยมมาแบ่งเอาดินแดนของเรา
แถมยังร่วมมือกับนักโกงเมืองหัวใจเขมร
หน้าด้านจริงๆ ไอ้พวกชั่ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^
|
|
|
|
personal jesus
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 20-07-2008, 20:58 » |
|
เค้าต้องสอนให้คนรู้จักสำนึกบุญคุณ แผ่นดินที่อาศัยอยู่ และสำนึกรักในบ้านเกิด ออกมายุยงอย่างนี้ ท่าทางกรรมจะสนอง ประเทศเขมร ไม่หยุดหย่อน เวร....
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
ริวเซย์
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: 20-07-2008, 21:02 » |
|
การกระทำของเขมรที่ผ่านแสดงให้เห็นว่าไม่เคยสนใจความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับไทยเลย ทั้งปลุกระดมหาเสียงเรื่องนครวัดจนเผาสถานทูตเรา ทั้งเรื่องเข้ามายึดดินแดนของเราโดยไม่ชอบ แล้วเราจะมัวแคร์ความสัมพันธ์เน่าๆของเขมรไปทำไม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^
|
|
|
jerasak
|
|
« ตอบ #16 เมื่อ: 20-07-2008, 21:05 » |
|
ก็ฝ่ายรัฐบาลฮุนเซ็น เปิดประเด็นจดทะเบียนปราสาทพระวิหารเพื่อหาเสียงก่อน ฝ่ายค้านก็เลยบ้าตาม การที่ประกาศปลุกระดมคนไทยก็เพื่อหาเสียงกับคนเขมร ไม่มีอะไรต่างกันเลยระหว่างฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านเขมร แต่ถึงอย่างไร สม รังสีก็แพ้อยู่ดี ลงทุนเป็นคนพูดบ้าๆ แบบนี้มันคุ้มไหม? ในอนาคต สม รังสีอาจเป็นผู้นำกัมพูชา ทั่วโลกจะยังจดจำคำพูดบ้าๆ นี้ได้ดี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
= A dreamer lives for eternity.= == นักฝันมีชีวิตเพื่อนิรันดร์กาล ==
|
|
|
ขุนพลน้อย
|
|
« ตอบ #17 เมื่อ: 20-07-2008, 21:27 » |
|
วันนี้ดูข่าวช่องไหนจำไม่ได้ มี sms เข้ามาว่า พธม จะทำให้คนในพื้นที่เดือดร้อน ผมก็เลยนั่งงงว่า นี้เค้าจะ ยอมเสียดินแดนประเทศไทยเพื่อให้ตัวเองไม่เดือดร้อนกันเลยเหรอเนี่ย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
so what?
|
|
« ตอบ #19 เมื่อ: 20-07-2008, 23:54 » |
|
ถ่***โดยสันดานครับ ขนาดสถานทูตแมร่งยังเผาได้เลย แต่ยังดีกว่าไอ้หมักปากเน่า ที่ออกมาเห่าด่าคนไทยด้วยกันเองว่าบ้า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
E-pen
|
|
« ตอบ #20 เมื่อ: 21-07-2008, 00:08 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
xiao wang
น้องใหม่
ออฟไลน์
กระทู้: 1
ไปสู่สุคติซะ ไอ้รัฐบาลเฮงซวย ให้ว่องเลย
|
|
« ตอบ #21 เมื่อ: 21-07-2008, 06:21 » |
|
ก็ดู จ.ในเขมรดิ จ.กันดาล (กันดาร ,จัณทาล,อันธพาล) มิน่าล่ะ ประเทศแกเลยไม่เจริญ น่าขาก...ถุย จริงๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
13331
|
|
|
Caocao
|
|
« ตอบ #22 เมื่อ: 21-07-2008, 07:39 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หลับเถิดทหารกล้า ปวงประชาจะคุ้มครอง
|
|
|
|
|
มารุจัง
|
|
« ตอบ #25 เมื่อ: 21-07-2008, 10:41 » |
|
พยายามทำเป็นตัวใหญ่เสียงดังเข้า คงคิดว่าทำแบบนี้แล้วจะดูน่าเชื่อถือ เขมรก็คือเขมร ไม่เคยไว้ใจได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ประชาธิปไตย มิได้จบอยู่แค่การเลือกตั้งปล.รูปจากเวบ ผจก.
|
|
|
Scorpio6
|
|
« ตอบ #26 เมื่อ: 21-07-2008, 11:17 » |
|
ผมมีเชื้อเขมรบุรีรัมย์ครับ...ขอแลกเปลี่ยน คนแถบนี้ที่เป็นชาวบ้านเดิมไม่มีปัญหาเรื่องการข้ามฟากไปมาหาสู่กันระหว่างไทยและกัมพูชาไม่ว่าช่องทางใด แต่ประเด็นการนำปราสาทพระวิหารเข้าสู่การเป็นมรดกโลกทำให้ผลกระทบเกิดขึ้นกับชาวบ้านอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะมีการเมืองคือเรื่องผลประโยชน์แห่งรัฐและระหว่างรัฐคือกลุ่มบุคคลที่บริหารบ้านเมืองทั้งสองประเทศนำไปสู่การขัดแย้งระหว่างสองชาติ ไม่ใช่แค่ชาติแต่เป็นประชาชน ไม่ใช่แค่ประชาชนในชาติแต่ในต่างประเทศด้วย ชาวกัมพูชาในต่างประเทศแสดงความเห็นต่างและเกลียดชังไทย ลามไปถึงการขุดเอาอดีตอันเจ็บปวดแห่งสยามและกัมพูชาขุดรากถอนโคนมาด่าและว่าปราสาทที่เมืองไทยในอดีตคืออิทธิพลของกษัตริย์กัมพูชา แต่ประเด็นนี้มีทั้งข้อดีและเสีย ดีคือให้รัลบาลไทยตระหนักและสำเหนียกถึงเรื่องดินแดนและความมั่นคงของรัฐไทย ข้อเสียคือรัฐบาลไทยภายใต้การนำของคุณสมัครเตรียมตัวเถิดแก้ปัญหาที่จะเกิดขึ้นตามมาจากน้ำผึ้งหยดเดียว หรือไม่ท่านเองต้องตัดสินใจเบรครัฐนาวาอย่างกระทันหันเพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งใหม่หรือไม่...ทหารจะดำเนินการตามที่เขาถนัดโดยพลัน
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-07-2008, 11:26 โดย Scorpio6 »
|
บันทึกการเข้า
|
คิดจะล้มระบอบทักษิณ ต้องอ่านใจเนวินและเพื่อนบล็อกเสี่ยวไทบ้าน*แวะเยี่ยมRepublican Collage ของคุณสุธา ชันแสง* http://www.oknation.net/blog/thaibaan/2008/03/26/entry-1"ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนและในฐานะอย่างไร จงตรองหาว่า จะมีทางใช้ชีวิต ให้เป็นประโยชน์ในทางใดบ้าง เมื่อตั้งใจคิดถึงมันแล้วก็จะพบเสมอ ไม่ว่าอยู่ที่ใด เมื่อพบทางแล้วจงลงมือทำสิ่งที่เป็นประโยชน์"
|
|
|
นิรนาม
|
|
« ตอบ #27 เมื่อ: 21-07-2008, 11:49 » |
|
ผมมีเชื้อเขมรบุรีรัมย์ครับ...ขอแลกเปลี่ยน คนแถบนี้ที่เป็นชาวบ้านเดิมไม่มีปัญหาเรื่องการข้ามฟากไปมาหาสู่กันระหว่างไทยและกัมพูชาไม่ว่าช่องทางใด แต่ประเด็นการนำปราสาทพระวิหารเข้าสู่การเป็นมรดกโลกทำให้ผลกระทบเกิดขึ้นกับชาวบ้านอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะมีการเมืองคือเรื่องผลประโยชน์แห่งรัฐและระหว่างรัฐคือกลุ่มบุคคลที่บริหารบ้านเมืองทั้งสองประเทศนำไปสู่การขัดแย้งระหว่างสองชาติ ไม่ใช่แค่ชาติแต่เป็นประชาชน ไม่ใช่แค่ประชาชนในชาติแต่เป็นนอกประเทศด้วย ชาวกัมพูชาในต่างประเทศแสดงความเห็นต่างและเกลียดชังไทย ลามไปถึงการขุดเอาอดีตอันเจ็บปวดแห่งสยามและกัมพูชาขุดรากถอนโคนมาด่าและว่าปราสาทที่เมืองไทยในอดีตคืออิทธิพลของกษัตริย์กัมพูชา แต่ประเด็นนี้มีทั้งข้อดีและเสีย ดีคือให้รัลบาลไทยตระหนักและสำเหนียกถึงเรื่องดินแดนและความมั่นคงของรัฐไทย ข้อเสียคือรัฐบาลไทยภายใต้การนำของคุณสมัครเตรียมตัวเถิดแก้ปัญหาที่จะเกิดขึ้นตามมาจากน้ำผึ้งหยดเดียว หรือไม่ท่านเองต้องตัดสินใจเบรครัฐนาวาอย่างกระทันหันเพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งใหม่หรือไม่...ทหารจะดำเนินการตามที่เขาถนัดโดยพลัน
ถูกต้องครับ..ไม่ว่าจะเป็นศรีสะเกษ, สุรินทร์และบุรีรัมย์ ชนพื้นเมืองเดิม หรือที่เรียกกันติดปากว่า "เขมร" มักข้ามฟากไปมาหาสู่ซึ่งกันและกันผ่านช่องทางทุกช่องทางตามแนวชายแดน
เพราะส่วนใหญ่ล้วนมีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดทั้งทางสายเลือดและสายสัมพันธ์ส่วนตัว คือ เป็นพี่ เป็นน้อง เป็นเพื่อน เป็นฝูงกันแทบทั้งสิ้น บางคนถือสองสัญชาติเสียด้วยซ้ำ คือ มีทั้งบัตรประจำตัวประชาชนไทยและประชาชนเขมร
หลายคนอาจจะแปลกใจด้วยซ้ำ หากรู้ว่าคนไทยและคนเขมรตามแนวชายแดนในพื้นที่ ๓ จังหวัดแถบนี้มี "นามสกุล"เดียวกัน เช่น ในเขตอำเภอจอมกระสาน จ.พระวิหาร อ.สำโรง จ.อุดรมีชัย เขมรนามสกุล "พิทักษา"มีอยู่ดาดดื่น ซึ่งนามสกุลนี้มีอยู่เป็นจำนวนมากใน จ.ศรีสะเกษ
อีกตัวอย่างที่เห็นค่อนข้างชัด คือ พ.อ.พาด โซเพ็น ผู้ประสานงานชายแดนไทย - กัมพูชา ฝ่ายกัมพูชาประจำช่องพระวิหาร ผมเคยไปนั่งคุยด้วย พ.อ.พาด บอกว่าสื่อมวลชนไทยมักเขียนชื่อ นามสกุลตัวเองเป็นภาษาไทยผิดมาโดยตลอด ที่ถูกต้อง คือ ต้องเขียนว่า พ.อ.ภาส โสภณ ทั้งยังบอกด้วยว่านามสกุล "โสภณ" ก็เป็นนามสกุลที่ไปจากฝั่งไทยนี่แหละ
ปัญหาที่เกิดขึ้นจึงเป็นอย่างที่Scorpio6ว่า มีทั้งผลดีและผลเสีย ซึ่งเมื่อมองในภาพรวมแล้วมีผลเสียมากกว่าผลดีเสียด้วยซ้ำ พูดก็พูดถ้ารัฐบาลนายสมัครรู้จักยับยั้งชั่งใจ มองไกลไปในอนาคตไม่ใช่มองแค่ปลายจมูกตัวเอง ไม่กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งจนเป็นเหตุให้รัฐบาลกัมพูชายื่นขอจดทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียว ใช้เหตุและผลโน้มน้าวให้กัมพูชากับไทย "ร่วมกันยื่นขอจดทะเบียนมรดกโลกและร่วมกันพัฒนาปราสาทพระวิหาร"แล้ว ปัญหานี้ก็จะไม่เกิดขึ้น
เพราะความดื้อรั้นของนายสมัคร..ความเขลาของนายนพดล ปัญหาที่ไม่น่าจะเกิดจึงเกิดขึ้น แต่จนถึงปัจจุบันรัฐบาลนายสมัครตลอดจนลิ่วล้อผู้มีความจงรักภักดีต่อ พ.ต.ท.ทักษิณก็ยังไม่ยอมรับความจริงในข้อนี้ ยังพยายามตะแบงโทษคนอื่นว่าเป็นต้นเหตุ ทั้งที่ต้นเหตุล้วนเกิดจากตัวเองทั้งสิ้น
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-07-2008, 11:51 โดย นิรนาม »
|
บันทึกการเข้า
|
"คืนที่ดำทะมึนมืดสนิท ยังรอแสงอาทิตย์ส่องสว่าง มีที่ไหนถูกปิดทุกทิศทาง เพียงม่านควันหมอกบางมันพรางตา"ถ้อยวลีของ..ประเสริฐ จันดำถ้อยวลี - จาก; "บันทึกจากกองร้อย ทหารปลดแอก" โดย..เสกสรรค์ ประเสริฐกุล นักรบจรยุทธอย่างพวกเราไม่รู้ว่าบ้านของตัวเองอยู่ที่ไหน รู้แต่ว่าเรามีปิตุภูมิเป็นของพวกเรา ทุกหนทุกแห่งที่เราล้มตัวลงนอนที่นั่นก็คือบ้าน บ้านของเราก็คือประเทศชาติ พ่อแม่ของเราก็คือประชาชน และเราจะไปทุกหนทุกแห่งเพื่อจัดการกับเจ้าคนที่มันเหยียบย่ำบ้านกับพ่อแม่ของเรา
|
|
|
Scorpio6
|
|
« ตอบ #28 เมื่อ: 21-07-2008, 12:30 » |
|
เพราะความดื้อรั้นของนายสมัคร..ความเขลาของนายนพดล ปัญหาที่ไม่น่าจะเกิดจึงเกิดขึ้น แต่จนถึงปัจจุบันรัฐบาลนายสมัครตลอดจนลิ่วล้อผู้มีความจงรักภักดีต่อ พ.ต.ท.ทักษิณก็ยังไม่ยอมรับความจริงในข้อนี้ ยังพยายามตะแบงโทษคนอื่นว่าเป็นต้นเหตุ ทั้งที่ต้นเหตุล้วนเกิดจากตัวเองทั้งสิ้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
คิดจะล้มระบอบทักษิณ ต้องอ่านใจเนวินและเพื่อนบล็อกเสี่ยวไทบ้าน*แวะเยี่ยมRepublican Collage ของคุณสุธา ชันแสง* http://www.oknation.net/blog/thaibaan/2008/03/26/entry-1"ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนและในฐานะอย่างไร จงตรองหาว่า จะมีทางใช้ชีวิต ให้เป็นประโยชน์ในทางใดบ้าง เมื่อตั้งใจคิดถึงมันแล้วก็จะพบเสมอ ไม่ว่าอยู่ที่ใด เมื่อพบทางแล้วจงลงมือทำสิ่งที่เป็นประโยชน์"
|
|
|
marrykate
|
|
« ตอบ #29 เมื่อ: 21-07-2008, 12:55 » |
|
* ตอนนี้ ... นายสน ชัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคสม รังสี
ซึ่งเป็นฝ่ายค้านของรัฐบาลกัมพูชา .... เสนอให้มีการ " ถอนเอกอัครราชทูตออกจากไทย " แล้ว
...................... เอากะมันสิ !!! http://www.bangkokbiznews.com/ดี ดี ดี แล้วพวกแรงงานต่างด้าวเขมรที่เข้ามาทำงานขนเงินกลับประเทศปีละหลายๆล้านน่ะก็ถอนออกไปด้วยนะ ส่วนความช่วยเหลือ เงินสร้างถนนที่ไทยให้ไป ก็กรุณาขนกลับมาคืนด้วยพร้อมๆกันด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
พรรณชมพู
|
|
« ตอบ #30 เมื่อ: 21-07-2008, 18:39 » |
|
http://www.komchadluek.net/2008/07/21/x_main_a001_212302.php?news_id=212302ทหารเขมรแดงกระหายจะสู้รบกับทหารไทย แม้จะใส่รองเท้าฟองน้ำและใช้ปืนสมัยสงครามเย็น
(21ก.ค.) ทหารประเทศกัมพูชา เปิดเผยต่อสำนักข่าว AFP ว่า พวกเขาอาจจะสวมรองเท้าฟองน้ำ แต่ทหารกัมพูชาส่วนใหญ่ที่เผชิญหน้ากับทหารไทย บริเวณชายแดนที่เป็นพื้นที่พิพาท ต่างเป็นอดีตทหารเขมรแดงที่ผ่านบททดสอบการสู้รบมาแล้ว โดยขณะนี้มีทหารไทยกว่า 500 นาย และทหารกัมพูชากว่า 1 พันนาย ต่างประจันหน้ากันอยู่ในพื้นที่บริเวณรอบเจดีย์ขนาดเล็ก เชิงเขาอันเป็นเส้นทางสู่ที่ตั้งของปราสาทพระวิหาร ที่สร้างตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 11
แต่บรรยากาศการเผชิญหน้าค่อนข้างจะสงบลงแล้วในวันนี้ จากการที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของแต่ละฝ่ายได้เจรจา ถ่ายภาพและรับประทานอาหารร่วมกัน ซึ่งแตกต่างจากเมื่อวันพฤหัสบดีที่ต่างฝ่ายต่างหันปากกระบอกปืนเข้าใส่กัน เพียงแต่ไม่ได้ยิงกันเท่านั้น
พวกอดีตทหารเขมรแดง ระบุว่า พวกเขากระหายที่จะต่อสู้และทหารไทยไม่ควรประมาท เพียงแค่เห็นรูปลักษณ์ภายนอกของพวกเขา ซึ่งพวกทหารกัมพูชาต่างสวมรองเท้าฟองน้ำ และถือปืนสมัยสงครามเย็น ทหารวัย 32 ปี ชื่อ ดวง เตย ที่เริ่มเป็นทหารเขมรแดง ตั้งแต่อายุ 12 ปี กล่าวหาทหารไทยว่า ว่าพวกเขากระจอก สวมรองเท้าแตะ แต่รองเท้าแตะทำให้พวกเขาเคลื่อนไหวรวดเร็วอีกทั้งยังเชี่ยวชาญพื้นที่ และยืนยันว่า ถึงจะกระจอกแต่แข็งแกร่ง
รายงานระบุว่า ทหารฝั่งไทยมีอาวุธปืนและเครื่องแบบที่ทันสมัยและมีการเตรียมพร้อมอย่างดีแต่ ยัน ซัน ทหารวัย 47 ปี ที่เคยเป็นทหารเขมรแดงตั้งแต่อายุ 15 ปี กล่าวว่า ทหารไทยรู้เพียงแค่ทฤษฎี แต่พวกเขาไม่รู้ว่า ทหารกัมพูชาเปรียวเหมือนไก่ป่า และต้องการจะรบกับทหารไทย
ด้านพลจัตวา เจีย โก ผู้บัญชาการกองกำลังในพื้นที่พิพาท และเคยเป็นทหารเขมรแดงมาก่อนกล่าวว่า กว่า 60 เปอร์เซ็นต์ของทหารที่ต่อสู้เพื่อระบอบเขมรแดง เมื่อช่วงปี 2518 - 2522 เป็นพวกที่รับใช้กองทัพในปัจจุบัน
บรรดาผู้นำทั้งของไทยและกัมพูชา ต่างสั่งการไม่ให้ทหารเปิดฉากยิง และเรียกร้องให้แก้ปัญหาโดยสันติวิธี เจ้าหน้าที่กลาโหมทั้งของสองฝ่ายได้พบปะกันในวันนี้ เพื่อปลดชนวนวิกฤติที่ประทุขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ปราสาทพระวิหาร เป็นจุดที่เขมรแดงที่เหลือหลายร้อยคน ยอมจำนนต่อรัฐบาลเมื่อปี 2541 การเผชิญหน้ากันรอบที่ตั้งปราสาทพระวิหาร เริ่มขึ้นหลังจากผู้ประท้วงที่เป็นคนไทย 3 คน ถูกจับหลังจากกระโดนข้ามรั้วเข้าไปยังฝั่งกัมพูชาเมื่อวันอังคาร อย่างไรก็ตาม ศาลโลกได้ตัดสินเมื่อปี 2505 ว่า ปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชา แต่ทางเข้าหลักอยู่ในประเทศไทย และพื้นที่รอบ
ที่ตั้งขนาด 4.5 ตารางกิโลเมตร ก็ยังเป็นข้อพิพาทที่ยังแก้ไม่ตกจนทุกวันนี้
ทหารไทยคงไม่มีความรู้สึกอะไร เพราะวินัยทำให้ออกมาประกาศไม่ได้ว่า หากรัฐฐาลไม่ขายชาติ สั่งให้แพ้ ทหารไทยก็รบไม่แพ้เขมรเหมือนกัน แต่ทั้งทหารและประชาชนไทยที่รักชาติ เสียเปรียบเขมร ตรงที่ ไทยมีคนขายชาติและพรรคขายชาติมีอำนาจอยู่ในเวลานี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|