ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
25-04-2024, 23:11
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  เพื่อความอยู่รอดบนกองซากศพ โดย ทักษิณ ชินวัตร 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
เพื่อความอยู่รอดบนกองซากศพ โดย ทักษิณ ชินวัตร  (อ่าน 2396 ครั้ง)
มารุจัง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,761


@^____^@


« เมื่อ: 20-07-2008, 13:59 »

บทความนี้อ่านเจอในบอร์ดของเวบผู้จัดการ
ไม่ทราบว่ามีท่านใดเคยอ่านเจอหรือไม่ และมีความคิดเห็นเช่นไรคะ


http://www2.manager.co.th/mwebboard/listComment.aspx?QNumber=264116&MBrowse=9

สำเนาถึงผู้จงรักภักดีทุกคน เกือบถึงเวลา "บอมบ์" คนชาติชั่วแล้ว
ผู้เขียน : ธุลีพระบาท
เรื่อง ก่อการกบฎเพื่อความอยู่รอดบนกองซากศพ โดย ทักษิณ ชินวัตร


สถานการณ์การเมืองของประเทศไทยในปัจจุบัน ได้ทำให้ประชาชนไทยเรียนรู้ถึง
ความเด่นชัดของ คำว่า "พระบารมี" กับคำว่า "ทรราช"
ด้วยตาตนเองเราได้มองเห็นพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ที่ได้สร้างเหตุการณ์อันยิ่งใหญ่ไม่อาจลืมเลือนไปจนกว่าเราจะสิ้นใจ นั่นคือ

ภาพของความยิ่งใหญ่แห่งพระมหากษัตริยาธิราช ผู้ทรงไว้ด้วยทศพิธราชธรรม และ
พระเมตตาบารมีอันหาที่สุดมิได้แก่เหล่าพสกนิกรของทูลกระหม่อม
ทรงได้รับการเทิดไว้เหนือเกล้า สถิตย์ ณ ดวงใจของเราชาวไทยทุกคน
และความปิติสุข และเปล่งเสียงจากหัวใจของเราทั่วทั้งแผ่นดินว่า

"ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน"
ณ ทุกที่ที่ทรงเสด็จไป ทรงประทับอยู่

และทรงเป็นผู้ประทับอยู่ในความทรงจำของเราและโลกชั่วนิจนิรันดร์

ในขณะที่มีบุคคลอีกหนึ่ง ที่ได้รับการก่นด่าสาปแช่งไปทั่วประเทศ
ซึ่งได้แสดงพฤติกรรมของตนเองตีตนเสมอ เทียบเท่าปานประหนึ่งตนเองนั้นต่างหากเล่าคือ พระมหากษัตริย์เสียเอง
นามอันเป็นอัปมงคลที่จะถูกจารึกเป็นบทเรียนสอนลูกหลานนั้นคือ ทักษิณ ชินวัตร

!!!ข้อมูลที่จะปรากฎต่อไปนี้ คือสิ่งที่จะคงอยู่เพื่อเป็นประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่ง ที่แม้จะเล็กๆ
แต่ก็จะถูกส่งต่อไปยังรุ่นลูกหลานในอนาคตของแผ่นดินนี้ และผู้คนทั่วโลก

ทักษิณ ชินวัตร วางแผนเตรียมก่อการกบฏล้มล้างราชวงศ์จักรี
และ ฆ่าล้างประชาชนผู้ต่อต้านทุกคน

เพื่อขึ้นปกครองประเทศในฐานะ ผู้สถาปนาราชวงศ์ใหม่แทนที่รัชกาลที่ปัจจุบัน
เป็นการเริ่มต้นคำพยากรณ์เรื่องการไร้ซึ่ง รัชกาลที่ 10
พร้อมควบรวมตำแหน่งตนเองในฐานะ ประธานาธิบดี

อีกตำแหน่ง เปลี่ยนการปกครองจาก "ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข"เป็น
"การปกครองในระบอบเผด็จการทรราชทุนนิยมเบ็ดเสร็จ"


ซึ่งดำรงอยู่ด้วยกุศโลบายคนเดียวปกครองและตัดสินใจทุกเรื่อง ใครตามข้าอยู่ใครขวางข้าตาย !!!
ตลอดเวลาของการการปกครองของประเทศไทย ได้ถูกเปลี่ยนแปลงการปกครอง
จากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นพระประมุข
โดย "คณะราษฎร" ในปี 2475คณะราษฎร

ซึ่งประกอบด้วยนักการศึกษาไทยในยุคนั้น ที่ได้รับทุนหลวง
และโอกาสไปศึกษายังประเทศ อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน สมคบคิดกับผู้นำทหาร
และข้าราชการผู้โลภในผลประโยชน์
ทำการปล้นชิงพระราชอำนาจจากพระมหากษัตริย์ องค์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
เพื่อหวังจะสร้างประชาธิปไตยตามแบบของประเทศ
ที่ คณะราษฎร เรียกว่า อารยะ และใช้การบริหารประเทศผ่านรัฐบาล และ สภา
โดยปราศจากการแทรกแซงของ สถาบันพระมหากษัตริย์

ตัดขาดความสัมพันธ์โดยตรงจากดั้งเดิมที่
สถาบันพระมหากษัตริย์ ทรงปกครองอาณาประชาราษฎร์โดยตรง
ผ่านถวายงานต่างพระเนตรพระกรรณ์ อันเป็นเกียรติ์ของ ผู้เป็นข้าราชการทุกคน
และทำให้ข้าราชการต้องตกอยู่ใต้อำนาจของ คณะราษฎร
และทรงยอมที่จะลงพระปรมาภิไธยใน รัฐธรรมนูญฉบับแรกของประเทศ
ตามที่คณะราษฎร กราบบังคมทูลขอพระราชทาน

ซึ่ง ท่านรัฐบุรุษปรีดี พนมยงค์ ได้ทำการลับเพื่อรักษาพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ไว้
ในรูปของกฎหมายรัฐธรรมนูญในหลายมาตรา โดยผู้ก่อการฝ่ายต่างๆ ไม่รู้สึกคัดค้าน
และปล่อยผ่าน
และด้วยพระปรีชาสามารถของล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 7 ทรงทราบถึงจิตเจตนาของผู้ก่อการณ์
จึงทรงละเว้นการนองเลือดสูญเสีย และได้พระราชทานพระราชอำนาจของพระองค์
โดย มีลายราชหัตถเลขากำกับมาพร้อมกันนั้น โดยใจความสรุปคือ

"พระองค์ทรงพระราชทานพระราชอำนาจให้แก่ปวงชนชาวไทยทุกคน
มิใช่ให้แก่คณะบุคคลหรือบุคคลผู้หนึ่งผู้ใด"


.....ยังมีต่อค่ะ
บันทึกการเข้า


ประชาธิปไตย มิได้จบอยู่แค่การเลือกตั้ง
ปล.รูปจากเวบ ผจก.
มารุจัง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,761


@^____^@


« ตอบ #1 เมื่อ: 20-07-2008, 13:59 »

และด้วยพระมหากรุณาธิคุณนี้ ทำให้ผู้พยายามรวมกำลังเข้าทำการกู้พระราชอำนาจ
ขององค์รัชกาลที่ 7 กลับคืนมา จึงไม่ถูกสังหารจนหมดสิ้น
ดังที่ถูกจารึกในประวัติศาสตร์ว่าเป็น
"คณะผู้ก่อการกบฏต่อรัฐบาลในนาม กบฏพระองค์เจ้าบวรเดช"

แต่ก็ทำให้เกิดประวัติศาสตร์ของ เกาะตารุเตา ที่ใช้เพื่อกักกันนักโทษการเมืองในเวลานั้น

กลับมาสู่ยุคปัจจุบัน พ.ศ. 2549

ทักษิณ ชินวัตร เตรียมพร้อมตลอดเวลาในการก่อการกบฏล้มล้างราชบัลลังก์
หมายพระชนม์ชีพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์
และได้เดินแผนกุศโลบายทุกด้าน
ทั้ง การเมือง เศรษฐกิจ การทหาร ข้าราชการ และ มวลชน
เพื่อแทรกซึม แทรกแซง ทำให้อ่อนแอ และควบคุมอำนาจสั่งการ
จนวันนี้ ทุกระบบอ่อนแอและไร้ทิศทาง

ทักษิณ ชินวัตร จับมือกับ อดีตผู้ปฏิบัติงานพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย เขตงานอีสานใต้

ดังที่ได้รับทราบจากการเปิดเผยของทั้ง คุณคำนูณ สิทธิสมาน
และอาจารย์ปราโมทย์ นาครทรรพ ตลอดจนอดีตผู้ปฏิบัติงานพรรคคอมมวนิสต์ในพื้นที่ต่างๆ
ซึ่งเรียกว่าเป็น "ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย" หรือ
"ผู้ปฏิบัติงานพรรคคอมมวนิสต์แห่งประเทศไทยสายปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์"

ในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ ต่างไม่ยอมรับปฏิบัติการของเขตงานอีสานใต้

และประกาศตัดขาดจากกลุ่มสโมสรหนึ่งเก้าและรับทราบกันโดยทั่วไปว่า
"เป็นคอมมิวนิสต์ผู้ร่วมก่อการล้มล้างราชบัลลังก์"
ที่นำโดย พรหมมินทร์, ภูมิธรรม, จาตุรนต์, พงษ์เทพ


ส่วนกองทัพไทยทั้ง 3 เหล่า และ 1 องค์กร คือ ทัพบก ทัพเรือ ทัพอากาศ ตำรวจ
ก็ถูกแทรกแซงและควบคุมโดย เตรียมทหาร รุ่น 10 ในระดับบัญชาการในภาคการเมือง
คือการทำลายองค์กรอิสระ และปิดปากกระทั่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
และ ตามประกบติดกรรมสิทธิมนุษยชน จนถึงทำลายทนายสมชาย
จนกลายเป็นฝุ่นหายไปจากโลก (ทนายสมชายตายแล้วและถูกเผาทำลายศพจนไม่เหลือซาก)
ระบบข้าราชการ คือ การสั่งการโดยระดับรัฐมนตรีเพื่อทำลายความจงรักภักดีจนสิ้นสภาพ
และเปลี่ยนข้าราชการให้กลายเป็นพนักงานรัฐ

ซึ่งพนักงานรัฐต้องจงรักภักดีต่อนักการเมือง ต่อผู้กุมอำนาจรัฐในภาคมวลชน
ก็ใช้เงินเข้าไปทำลายวิถีชีวิตความเป็นอยู่ จนลืมเลือนวิถีชีวิตพอเพียง
และสร้างภาระหนี้สินครัวเรือนกระจายไปทั่วประเทศ

ในส่วนภาคธุรกิจบีบองค์กรธุรกิจให้สยบยอม
และทำให้วงจรการเงินที่เป็นหัวใจของการลงทุนคือ ธนาคาร กลายสภาพไปเป็นธนาคารของต่างชาติ
จนภาคธุรกิจวันนี้ กำลังล้มตายทุกวัน
และที่อยู่ได้ก็แค่หายใจรวยริน เหมือนปลากำลังจะตายเพราะขาดน้ำ

เมื่อวันนี้ทักษิณ ชินวัตร กล้าชนกับพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์
จึงต้องเตรียมการรองรับสถานการณ์สำคัญคือ
ทักษิณ ชินวัตร กล้าทำลายกระบวนการยุติธรรมด้วยการขัดขืนอำนาจตุลาการ
ที่จะตัดสินคดีความ และทำการใช้สรรพกำลังเพื่อต่อต้านคำพิพากษา
ที่จะทำให้ตนเองหลุดจากอำนาจ และเมื่อมีการต่อต้านอำนาจตุลาการ

ก็จะเป็นสัญญาณที่ส่งถึง กำลังรบของตนเองทั้งหมดให้เคลื่อนไหว สั่งการเพื่อ
ทำการปฏิวัติก่อการกบฏเข้าทำการ ควบคุม ปิดล้อม หรือกดดัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ด้วยกลวิธีการสารพัด เพื่อตัดขาดพระองค์จากสื่อสารมวลชน จากประชาชน
และสถานการณ์วิกฤตินั้น กำลังจะเกิดขึ้น !!!


(ไม่ว่าจะพิจารณาอย่างไรก็จะไม่พบว่า ทักษิณจะรอดพ้นความผิด
จากการพิจารณาของตุลาการไปได้ ซึ่งส่งผลให้ทักษิณจะต้องขัดขืนสุดกำลัง
และการใช้มวลชนจัดตั้งจะต้องเป็นไปอย่างเลี่ยงไม่ได้
เพราะต้องมีคนตาย คนบาดเจ็บ จึงมีจราจล
และเมื่อทำคนฝ่ายตรงข้ามที่มีกำลังรบพิเศษป่าหวายปกป้องไม่ได้
ก็ต้องหลอกคนมาตาย มาเจ็บ ด้วยลงมือทำกับพวกตัวเองที่จัดตั้งมา)

การประเมินถึงความสามารถในปัจจุบันของฝ่ายกบฏ
ได้ให้คำตอบแก่ฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการถวายความปลอดภัย และฝ่ายความมั่นคง
ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างเงียบๆ และออกมาเตือนว่า
รับรู้เสมอ อย่างพลเอกเปรม ติณนสูลานนท์ พลเอกสุรยุทธ จุลานนท์ พลเอกสนธิ บุญยรัตนกลิน
พลโทสพรั่ง กลัยาณมิตร และ ทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
จึงเตรียมพร้อมเสมอ ในฐานะของ "ฝ่ายตั้งรับ"

มีการสร้างกระแสข่าว เพื่อเตรียมโจมตีกล่าวหาสถาบันพระมหากษัตริย์
ว่าเป็นผู้ที่จะทำการส่งคนลอบสังหาร ทักษิณ ชินวัตร
และเพื่อสร้างหลักประกันการฆ่าล้างประชาชนผู้ต่อต้านอำนาจตนเอง
จึงทำการส่งจดหมายไปยังผู้สหรัฐ ดังที่ทราบกัน
ทั้งหมดนำไปสู่จุดประสงค์สำคัญเพียงประการเดียวคือ

ทักษิณ ชินวัตร จะทำการกล่าวหาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า
เป็นกบฏต่อรัฐธรรมนูญ ถ้าทำการปล่อยให้ทหารในพระองค์ ปล่อยให้ตุลาการ
ปล่อยให้ผู้แทนพระองค์ ทำการต่อต้าน อำนาจของมันที่จะเข้ายึดครองประเทศ


ดังที่มีการพยายามเคลื่อนไหวผ่านบทความโจมตีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ผ่านบทความของ อ.ธรรมศาสตร์ท่านหนึ่ง
ที่กล่าวหาพระบาทสมเด้จพระเจ้าอยู่หัวว่า ไม่ใช่ผู้มีสิทธิในราชสมบัติ แต่ผู้สืบทอดที่สมควรได้รับคือ ราชสกุลจักรพงษ์ !


ยังมีต่อค่ะ.....
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-07-2008, 14:13 โดย มารุจัง » บันทึกการเข้า


ประชาธิปไตย มิได้จบอยู่แค่การเลือกตั้ง
ปล.รูปจากเวบ ผจก.
มารุจัง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,761


@^____^@


« ตอบ #2 เมื่อ: 20-07-2008, 14:00 »

และเสียงเล่าลือกันในวงการสื่อถึงคำพูดของทักษิณในสนามกอลฟ์
"จะสั่งสอนบทเรียนแบบเนปาลให้แก่คนบางคน" ตามด้วย เสียงเล่าลือกันในวงการเมือง
ระดับคนใกล้ชิดแกนนำพรรคไทยรักไทยถึงคำพูดสำคัญที่ว่า
"เราจะไม่ยอมให้.........ควบคุมประเทศนี้อีกต่อไป"


มันคือการเตรียมพร้อมที่ไม่เหลือเวลามาถามว่า จะจริงหรือ ทำได้หรือ เป็นไปไม่ได้หรอก
เพราะข้อมูลสุดท้ายที่ผมจะบอกกล่าวแก่ทุกท่าน คือ สิ่งที่จะยืนยันได้ว่าทุกสถานการณ์
ที่นำไปสู่การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของประชาชนชาวไทยในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ กับทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้น

มันเป็นเรื่องของ คนที่เห็นเงินสำคัญกว่าชีวิตคนรัฐบาลสหรัฐ
โดยประธานาธิบดีจอร์จ ดับบลิว บุช ประกาศทำสงครามต่อต้านการก่อการร้าย
หลังจากการสั่งการถล่มตึกเวิลด์เทรด และจากนั้น หน่วยงานสืบราชการลับสหรัฐ ( C I A )
ได้ทำการเปลี่ยนตัวผู้อำนวยการซีไอเอ ในความผิดฐานที่ปล่อยให้รายชื่อสายลับ
และข้อมูลที่ตั้งหน่วยงาน หลุดรอดเข้าสู่อินเตอร์เน็ต

และหลังจากนั้น นางคอนโดลิซ่า ไรท์ รับช่วงอำนาจจาก พลเอกโดนัลล์ รัมเฟล
ให้ทำปฏิบัติการพิเศษในพื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ภายหลังการถล่ม อาฟกานิสถาน อิรัก และปากีสถาน และเพื่อจะสร้างตัวละครผู้ก่อการร้ายของโลก
ได้ทำการกล่าวโทษอัลกออดะห์ ของโอซัลมา บินลาเดน

และได้ทำการจัดงบประมาณปีละ 200 ล้านเหรียญ ส่งให้กับผู้นำทหารปากีสถาน
เพื่อใช้ในการจัดส่งคนแทรกซึมและเข้ามาสร้างสถานการณ์ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้


จึงทำให้ช่วงเวลาที่สถานการณ์ในสามจังหวัด ถูกจับตามอง
โดย CIA และ หน่วยงานปฏิบัติการข่าวกรองไทย และออกข่าวว่าผู้ก่อความไม่สงบคือ
คนไทยที่ไปเรียนในโรงเรียนฝึกสอนการก่อการร้าย ที่ ประเทศปากีสถาน

และในเวลานั้นเองที่ ข้อตกลงร่วมระหว่างรัฐบาลไทย กับ สหรัฐ
เริ่มขึ้นด้วยการเปิดเผยหนังสือข้อตกลงร่วมกันกับ หน่วยงานจัดตั้งใหม่ของ C I A ที่ชื่อ CTIC
และหน่วยปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายหน่วยย่อย คือ CSIS

โดยสื่อมวลชนไทย ในชื่อ เซี่ยงเส้าหลง และผู้ติดตามสถานการณ์อย่าง นต.ประสงค์ สุ่นสริ
และฝ่ายปฏิบัตการข่าวกรองทางทหาร ของกองทัพบก
ได้ทำการตรวจสอบและติดตามถึงที่มา และผู้ที่เกี่ยวข้องของสถานการณ์
และได้มีการกับการเรียกประชุม ผู้นำเหล่าทัพ และต่อมาท่านผู้หนึ่งได้เสียชีวิตอย่างลึกลับคือ
 พล.ต.ท.สมควร หริกุญ ผู้บัญชาการลูกเสือชาวบ้าน จนทำให้เกิดรายงานที่ยังไม่ถูกเปิดเผย
แต่ก็เหมือนกับสายเกินไป

เพราะทุกอย่างได้ดำเนินการไปจนเกือบจะถึงจุดสิ้นสุดแล้ว รายงานที่มีผู้กล่าวถึงในวงจำกัด
แม้ในสายตาของผู้ทำงานด้านข่าวกรองและความมั่นคงเอง

เรื่อง "แผนการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์และโครงสร้างกองทัพไทย โดย พ.ต.ท.ทักษิณ
ชินวัตร"


ท่านทั้งหลายที่รับรู้ความเป็นไปของสถานการณ์ของประเทศไทยเวลานี้

จงรับรู้ไว้เถิดว่า C I A คือ ผู้ที่ทำการส่งงบประมาณ 200 ล้านเหรียญ ตามที่แจ้งให้ทราบเบื้องต้น
แก่ผู้นำทหารของประเทศปากีสถาน
แต่หลังจากนั้นไม่นานประเทศปากีสถาน ก็ถูกแทรกแซงกิจการภายในจนประเทศ
เริ่มเข้าสู่ภาวะความเสี่ยง จึงทำการปฏิเสธการปฏิบัติการสร้างผู้ก่อการร้ายในประเทศไทย
ทำให้ C I A ตัดสินใจประสานงานกับรัฐบาลไทย ในเวลาที่มีการเปิดเผย ข้อตกลง CTIC

และสอดคล้องกับจดหมายจาก  ทักษิณ ถึง บุช ในข้อความที่ว่า



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-07-2008, 14:46 โดย มารุจัง » บันทึกการเข้า


ประชาธิปไตย มิได้จบอยู่แค่การเลือกตั้ง
ปล.รูปจากเวบ ผจก.
มารุจัง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,761


@^____^@


« ตอบ #3 เมื่อ: 20-07-2008, 14:21 »

"และความร่วมมือของเราทั้งสองในปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายยังคงมีอยู่ต่อไป"
ทำให้ความลับที่ปิดซ่อนมานานถูกเปิดขึ้นแล้วรัฐบาลสหรัฐ
ทำการสนับสนุนเงิน ปีละ 200 ล้านเหรียญ เท่ากับ 8,000 ล้านบาท แก่รัฐบาลไทย
และรับผิดชอบในการสร้างผู้ก่อการร้ายในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้

โดยอยู่ในความรับผิดชอบของ คน 2 คน ซึ่งมีอำนาจอนุมัติเงินเบิกจ่ายงบประมาณลับก้อนนี้
1. พลตำรวจเอกชิดชัย วรรณสถิตย์ รักษาการณ์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
และรักษาการณ์รองนายกรัฐมนตรี และผู้รับผิดชอบงานด้านความมั่นคงของประเทศไทย
ในการแก้ไขสถานการณ์ความไม่สงบ มีอำนาจในการสั่งการหน่วยงานความมั่นคงทุกหน่วย
โดยเฉพาะ หน่วยงานข่าวกรอง 14 หน่วย ในประเทศไทย

2. พลเอกวินัย ภัททิยกุล เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ
ผู้รับผิดชอบในปฏิบัติการทางทหารเพื่อการแก้ไขสถานการณ์ความไม่สงบ
ร่วมกับทางตำรวจและชิดชัย วรรณสถิตย์

นี่คือ ความอัปยศ ที่คนสองคนสร้างขึ้นภายใต้การเฝ้ามองตลอดเวลา
และนำสถานการณ์มาใช้ประโยชน์ทางการเมือง เพื่อการออกประกาศ พรก.ฉุกเฉิน หรือ ใบอนุญาตฆ่า
ของ ทักษิณ ชินวัตร ที่ทำให้เหตุการณ์ไม่สิ้นสุด และคนที่ตายนับหมื่นศพ

ตลอด 5 ปี


ในทุกเหตุการณ์ไม่ว่ากรือเซะ ตากใบ หรืออุ้มฆ่า ตลอดจนที่หายสาบสูญ
การทำงาน ศอ.บต. พตท.43 การปลด ผอ.พลากร สุวรรณรัตน์
(ปัจจุบันท่านเป็นองคมนตรีทำงานถวายพระเจ้าอยู่หัว)
การทำลายแนวป้องกันด้านการข่าวของพลเรือน การสลายกำลังแนวร่วมการข่าวของชาติ

เพื่อเปิดทางสะดวกในทุกปฏิบัติการ
นี่แหล่ะ ตัวตนของการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ เพื่อ สนองรัฐบาลบุช
โดยทักษิณและปฏิบัติการสุดท้ายที่ จะเกิดขึ้นและต่างปะทะกันอย่างรุนแรงที่สุด
โดยที่สื่อสารมวลชนทั่วไปไม่มีทางรับรู้

จะมีก็แต่ เซี่ยงเส้าหลงและผู้เกี่ยวข้องที่สามารถเข้าถึงข้อมูลภายใน
ระดับผู้ใกล้ชิดกับผู้ปฏิบัติการของสำนักพระราชวัง
และบุคคลใกล้ชิดระดับแกนนำพรรคไทยรักไทย เท่านั้นที่จะทราบได้ คือ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือ เป้าหมายสำคัญสูงสุด ในการลอบปลงพระชนม์โดยทุกวิธีการ
และโดยเฉพาะการทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ยิ่งดี


การทำลายพระเกียรติยศ การพยายามปล่อยข่าวลือในทางเสียหายของพระบรมวงศานุวงศ์
การเขียนบทความโจมตีพระราชสถานะของพระเจ้าอยู่หัว ในการสืบราชสมบัติ
การพยายามปิดล้อมอำนาจของทหารของพระองค์
ไม่ให้สามารถลงมือในการควบคุมตัวทักษิณ ชินวัตร
การใช้ตำรวจและฝ่ายปฏิบัติงานของศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.)
ทำการประกบติดและรายงานความเคลื่อนไหว
จากพระราชฐานที่ประทับทุกแห่ง ทุกพระองค์
การสอดแนมด้วยการดักฟังโทรศัพท์ในทุกพระราชฐาน
ทุกพระตำหนักลับ ทุกพระสหาย และการส่งคนติดตามบุคคล VIP
ทั้งหมดอยู่ในขั้นที่สามารถ รับคำสั่งเพื่อการ "ฆ่า" ได้ทันที



เมื่อเวลาเกิดการรบแตกหักด้วยการทุ่มกำลังโจมตีครั้งสุดท้าย
โดยสื่อสารมวลชนที่ไม่อาจทำอะไรได้มากกว่า การปิดตาปิดหูปิดปากตนเอง
(กรณีล่าสุดคือการส่ง จนท. ของศรภ. ลักลอบขึ้นตึกที่ประทับไปถึงชั้น 15 โรงพยาบาลศิริราช
โดยอ้างว่าต้องการลงนามถวายพระพร
แต่ที่ลงนามอยู่ชั้น 1 และเป็นวันที่ทักษิณพยายามขึ้นลิฟท์ เพื่อเข้าเฝ้าฯเป็นพิรุธ
และไม่นานก็ถูกรับตัวกลับหน่วยที่ตั้ง โดยไม่มีการสอบสวน)

และในท่ามกลางสงครามที่ ทักษิณ ชินวัตร จะทำการทุ่มกำลังทั้งหมดนั้นเกิดขึ้น
เราไม่อาจรู้ว่า ผลลัพธ์จะออกมาเป็นเช่นไร? และสำหรับประชาชนที่ไร้กำลังอาวุธ
มีแต่ความจงรักภักดี คงทำได้เพียงหน้าที่ของผู้เฝ้าดูสงครามนี้

ภายใต้การปกป้องดูแลของเหล่าทหารหาญนอกเครื่องแบบ
จากกำลังรบพิเศษป่าหวายแกนนำพันธมิตร

ท่านจะวางยุทธศาสตร์อย่างไร เพื่อนำมวลชนปกป้องพระเจ้าอยู่หัว
ร่วมกับทหารของพระองค์ทุกนาย ร่วมกับผู้แทนพระองค์ทุกคน


ก็เตรียมตัวให้พร้อมให้ดีที่สุดเถิดกราบเรียนทุกท่านที่ได้อ่านและรับรู้เรื่องนี้จากข้าพเจ้า
ขอท่านตัดสินใจเถิดว่าท่านจะนิ่งเฉยอยู่ หรือทำประการใด
เพื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

และท้ายนี้ข้าพเจ้าขอเปิดเผยความลับสุดท้ายของทักษิณ ชินวัตร

ทักษิณ ชินวัตร ทำการจัดหาคนที่มีบุคลิกลักษณะคล้ายตนเองขึ้นมาจำนวน 4 คน
และทำการส่งเข้ารับการผ่าตัดใบหน้า เพื่อให้คล้ายคลึงตนเอง
สำหรับใช้เป็นตัวแทนในการไปยังสถานที่ต่างๆ
เพื่อสร้างความสับสนการติดตามของฝ่ายต่างๆ

เพื่อรับประกันว่า หากตัวสำรองถูกทำให้ตายไป แต่ก็ยังมีตัวจริงอยู่
และพร้อมจะสั่งการต่อไปในเรื่องต่างๆ มีการเตรียมเส้นทางหลบหนีไว้อย่างดี
ทั้งทางบก เรือ อากาศ กำลังคนคุ้มกันติดอาวุธพร้อม 24 ชม.

ขอเรียนให้ทราบว่า พลเอกสนธิ บุญรัตนกลิน
ไม่อาจทำหน้าที่ที่ขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญใดๆ เพราะการฉีกรัฐธรรมนูญด้วยกำลังทหารก่อน
ถือเป็นความผิดที่นำพาความเสื่อมเสียมาสู่กองทัพของพระเจ้าอยู่หัว
ไม่ใช่เพียงแค่การเสื่อมเสียเฉพาะตัวบุคคลของท่านพลเอกสนธิ

ฉะนั้น หากจะต้องทำการฉีกรัฐธรรมนูญด้วยส่งสูงสุด

ขอท่านแกนนำพันธมิตรและขอปวงชนชาวไทย
จงทำการสร้างธงสัญลักษณ์แห่งมติมหาชน ผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย
ที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระปกเกล้าฯ ล้นเกล้ารัชกาลที่ 7
พร้อมลงนามให้กับท่านพลเอกสนธิ อย่างเป็นทางการ

ให้ท่านทำหน้าที่ ปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้ทันที

โดยไม่ต้องสนใจต่อการฉีกรัฐธรรมนูญ เพราะถือว่า มติของมหาชน เป็นไปโดย
"อำนาจของกฎหมายความมั่นคงสูงสุด" และเพื่อเป็นไปโดยความชอบธรรมนั้น
ทหารจะต้องทำหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายจากมหาชน
และนำพระราชอำนาจนั้นกลับคืนสู่พระมหากษัตริย์
และสลายกำลังรบกลับเข้ากรมกอง

เพื่อเปิดทางให้ประธานศาลฎีกา ทำหน้าที่นำชื่อบุคคลผู้เหมาะสม
นำขึ้นกราบบังคมทูลโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ทำหน้าที่ นายกรัฐมนตรี
ภายใต้ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ คือ ท่านประธานศาลฏีกา

และเร่งกอบกู้หายนะของชาติบ้านเมืองโดยเร็วที่สุด เพราะเรารอให้มากกว่านี้ไม่ได้อีกต่อไป
บันทึก : 5 สิงหาคม 2549
ผู้บันทึก : ธุลีพระบาท ( สุกฤษณ์ อุดมเดชวัฒน์ )
ด้วยจิตคารวะต่อทุกท่านด้วยสำนึกในฐานะของประชาชนคนหนึ่งในชาติด้วยสำนึกต่อทุกผู้ที่เสียสละเพื่อแผ่นดิน
ไทยได้คงอยู่จนถึงวันนี้ขอเกิดและตายบนผืนแผ่นดินไทยวันที่ : 8 ส.ค. 49 เวลา : 6:00:25 PM

จบแล้วค่ะ
สมาชิกคิดอย่างไรกับบทความนี้บ้างคะ มาคุยกัน
 


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-07-2008, 14:32 โดย มารุจัง » บันทึกการเข้า


ประชาธิปไตย มิได้จบอยู่แค่การเลือกตั้ง
ปล.รูปจากเวบ ผจก.
Karnja
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 26


« ตอบ #4 เมื่อ: 20-07-2008, 14:48 »

ขบวนการล้มเจ้านี้ ผมเชื่อว่ามีจริง และมันค่อยๆเผยออกมาทีละน้อย

ในข้อเขียนนี้มีหลายส่วนที่น่าคิด และดูจะสอดคล้องกับสิ่งที่เราเห็นอยู่ี

คิดว่า ถ้าปล่อยให้รัฐบาลแก้รัฐธรรมนูญ รัฐบาลจะสอดใส้ให้พระมหากษัตริย์ถูกฟ้องร้องได้ และหลังจากนั้นก็จะเกิดขบวนการใส่ร้าย นำสถาบันขึ้นศาลตัดสิน และล้มเจ้าอย่างเป็นทางการในที่สุด โดยที่ประชาชนไม่สามารถทำอะไรได้เลย

ส่วนตัวเชื่อมาตลอดว่า แกนนำพันธมิตรทั้ง 5 รู้ซ่อนสนกลในดี จึงพยายามปลุมม็อบให้มีสำนึกถึงการรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ จากรัฐบาลขายชาติที่มีเป้าหมายสูงกว่านั้น

แต่ไอ้ที่สงสัยก็คือ "หมัก" มันรู้รึเปล่าว่ามันกำลังเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการนี้...

เพราะไม่มั่นใจว่า "หมัก" มีสติปัญญาพอจะพินิจพิเคราะห์ได้ (พูดง่ายๆคือ มันโง่อย่างสาหัส)
บันทึกการเข้า
มารุจัง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,761


@^____^@


« ตอบ #5 เมื่อ: 20-07-2008, 15:10 »

สำหรับดิฉัน
มีบางส่วนที่เห็นคล้อยตามกับผู้เขียน
เพราะบางเรื่อง ได้เห็น และเคยได้ยินมาบ้างแล้ว

แต่ในบางส่วนของบทความนี้ โดยเฉพาะส่วนท้าย
ดิฉันอ่านแล้วยังไม่ค่อยแน่ใจ

เช่นกรณี มีตัวแทนทักษิณ 4 คน
หรือกรณีเรื่องของ พล.อ. สนธิ
เพราะจากการรัฐประหารครั้งที่ผ่านมา
พล.อ. สนธิสามารถกระทำการจัดการอย่างเบ็ดเสร็จได้หลายอย่าง
แต่ก็ปล่อยผ่านไป ไม่ได้กระทำใด ๆ เลย

หากแต่เป็นการเบรคเกม ของฝ่ายพันธมิตรด้วย
ก็เลยยังรู้สึกไม่แน่ใจค่ะ..

บันทึกการเข้า


ประชาธิปไตย มิได้จบอยู่แค่การเลือกตั้ง
ปล.รูปจากเวบ ผจก.
inthanon
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 67


« ตอบ #6 เมื่อ: 20-07-2008, 15:19 »

ไม่อยากให้กล่าวกันไปมากนัก จะทำให้สถาบันอันเป็นที่รักของเราเสื่อมลงทุกขณะ
จริงอยู่ทุกสิ่งล้วนเสื่อมตามกาลเวลา
แต่ถ้าสิ่งนั้นทรงคุณค่าย่อมตราตรึงมิมีเสื่อมคลายไม่ใช่หรือ

พวกสมองเน่า(โดนล้างมาไม่รู้กี่ครั้งกี่รอบ) ตาบอด เชื่อว่าที่กลุ่มมันพูดถูกหมด
ทุกครั้งที่เอ่ยถึงสถาบัน จากฝากฝั่ง นปก. เอ่ยถึงคนชื่อ ปอ ในบางครั้งล่วงเลยสูงเกินควร
ไม่รู้สำนึกบ้างหรือไร

 
ให้ศาลตัดสินจำคุก ไอ้เพ็ญ เร็วๆเลย เป็นตัวอย่าง
ข้อเท็จจริงก็ฟังชัดเป็นภาษาไทยก็มี
อีกฝากล่ะ เต่ารวจ(เห้ๆ) ทำงานเร็วจัง
บันทึกการเข้า
เช็คบิล
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 580



« ตอบ #7 เมื่อ: 20-07-2008, 15:23 »

นปก. ก็อาจเป็นส่วนหนึ่งของแผน ที่เนียน เข้ามาเป็นตัวแปร แล้วก็จับมาอยู่ในกลยุทธ์อีกทางเลือกหนึ่งที่จ่ายแค่เศษเงิน แต่เป้าประสงค์อันยิ่งใหญ่

แล้วทำไม ดาตอปิโด ถึงกล้าพูดแบบนั้น?
บันทึกการเข้า
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #8 เมื่อ: 20-07-2008, 15:34 »

อ่านแล้วเชื่อว่าเป็นการประเมินสถานการณ์ ในขณะหนึ่ง โดยกลุ่มบุคคลหนึ่ง ทั้งข้อมูลและตัวบุคคลที่สามซึ่งถูกกล่าวอ้าง หลายรายภายหลังมิได้เป็นไปตามบทความนี้ ความเห็นหลายอย่างในบทความนี้ ตรงกับความจริงที่เกิดขึ้น แต่อีกหลายเหตุการณ์ก็ไม่เป็นดังนั้น

ขบวนการเปลี่ยนแปลงการปกครองนั้น มีจริง และยังคงดำเนินการอยู่ มิได้มีเพียงกลุ่มเดียว แต่มีหลายกลุ่ม ทั้งกลุ่มคอมมิวนิสต์หลายกลุ่ม กลุ่มนักธุรกิจ กลุ่มผู้ถืออาวุธ กลุ่มศาสนา กลุ่มการมือง หลายกลุ่มเหล่านี้ แต่เดิมต่างดำเนินการไปคนละแนวทาง บ้างก็มีศักยภาพจริง บ้างก็เป็นเพียงกลุ่มที่เสนอแนวคิด แต่จำนวนหลายกลุ่มได้ถูกชักจูงให้เข้ามาร่วมมือกัน อย่างหลวมๆ ภายใต้ระบอบทุนนิยมสามานย์

หารจะให้วิเคราะห์เองบ้าง อยากจะวิเคราะห์ว่า เป้าหมายที่แท้จริงของหัวหน้าทุนนิยมสามานย์ในประเทศไทยนั้น ไม่แน่นอน เป้าหมายของเขาพัฒนาไปตามวันเวลา กำลังเงิน และที่ปรึกษาที่แวดล้อม มีความจริงอย่างหนึ่งที่คนใกล้ชิดของหัวหน้าทุนนิยมสามานย์เคยเปิดเผยออกมา นั่นคือหัวหน้าของพวกเขาเป็นคนโลเล หูเบา เชื่อคนง่าย แต่เปลี่ยนใจเร็ว ด้วยโทษสมบัตินี้เองทำให้คนใกล้ชิดที่ฉลาดกว่าเขามากมาย ชักใยอยู่เบื้องหลังในนโยบายบางอย่าง โดยอาศัยการหลอกลวงบางอย่าง ทำให้บุคคลผูนั้นเชื่อในบุญบารมีของตนเอง ที่อาจจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในอดีตกลับชาติมาเกิด และจะได้รับยศฐาบรรดาศักดิ์กลับคืน เมื่อสามารถสถาปนาการปกครองได้สำเร็จ

อีกทั้งอุปนิสัยชมชอบในเมรัยและกามา ทำให้ถูกมอมเมาด้วยสิ่งเหล่านี้มาเป็นระยะเวลายาวนาน สติปัญญาที่เสื่อมโทรมลงตามลำดับ ทำให้ตกลงในหลุมที่ลิ่วล้อบริวารขุดขึ้น และต้องตกลันใดพลอยโจนจนเข้ามาสู่ตาจนในระยะนี้ แต่ก็ยังมีคนละโมบที่แวดล้อม ยังพยายามหลอกล่อเพื่อปอกลอก และลวงว่าสถานการณ์ยังมีโอกาศแก้ไข จึงจะเห็นได้ว่ามีปฎิบัติการมากมายเพื่อสร้างภาพการต่อสู้ของหัวหน้าทุนนิยมสามานย์ ให้ลวงตาผู้นำของตนเองและปอกลอกจนถึงวาระสุดท้าย

นับจากมีความพยายามในการปล่อยข่าว สร้างข่าว และโจมตีสถาบันอย่างหนักหน่วง นับตั้งแต่หัวหน้าทุนนิยมสามานย์มีอำนาจ ทำให้ผู้จงรักภักดีได้ตื่นตัว และทำการอารักขาอย่างเข้มงวดจนถึงขั้นสูงสุด จะเห็นได้จากเมื่อครั้งอารักขาพื้นที่รอบโรงพยาบาลริมแม่น้ำ ที่มีการระมัดระวังชนิดพร้อมรบ ผู้ที่ผ่านไปผ่านมาในละแวกโรงพยาบาลนั้นในรัศมีห้ากิโลเมตร จะทราบดีว่าบนตึกสูงทุกแห่ง บนเส้นทางด่วน สะพานลอย จะมีเจ้าหน้าที่รักษาการอย่างเข้มงวด เพราะมีข่าวลับแจ้งว่าจะมีการใช้อาวุธระดับต่อต้านอากาศยาน ส่งไปย้งเป้าหมาย เพื่อหวังผลในการเปลี่ยนแปลงการปกครอง แต่เดชะบุญที่แผนการณ์นั้นไม่สำเร็จ เพราะผู้ตัดสินใจเองก็ไม่มั่นใจในผลสำเร็จ แต่มั่นใจในการถูกถอนรากถอนโคนชนิดไม่เหลือโครโมโซมไว้รกโลก เหตุการณ์จึงผ่านไป

จนถึงภาวะสงครามในวันนี้ มีแผนการณ์ขยายผลให้เกิดการจลาจล ระหว่างผู้ออกมาต่อต้านสุนัขรับใช้หัวหน้าทุนนิยมสามานย์ และกำลังของทางบ้านเมือง รวมไปถึงกลุ่มอันธพาลรับจ้างที่ปักหลักที่ทุ่งพระเมรุ ในช่วงแรกของการชุมนุม มีการเพิ่มกำลังอารักขาเต็มอัตราศึก และเมื่อเหตุการณ์รุนแรงเพราะมีการพยายามยั่วยุจากฝ่ายบ้านเมืองและกลุ่มอันธพาล จึงมีการย้ายกำลังอารักขาจากในเมืองหลวงไปที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดจากการโจมตีของสุนัขรับใช้และกลุ่มอันธพาล ที่จะฉวยโอกาศจากการก่อจลาจล ขยายผลเป็นการเปล่ยนแปลงการปกครอง

สงครามวันนี้มาถึงขั้นสุดท้ายแล้ว นักรบชั้นสิบหลายคนมีความละโมบรับอามิสสินจ้าง ยอมเป็นผู้มีเล็บงามสีเขียวรับใช้ แต่ก็มีอีกจำนวนมากที่ไม่คล้อยตาม ว่ากันว่าหากมีคำสั่งปฎิบัติการ หน่วยกำลังกว่าครึ่งอาจจะไม่ได้ออกมาจากที่ตั้ง และผู้ควบคุมหน่วยจะถูกกำจัดในทันที จึงมีความพยายามในการครองอำนาจเพื่อเปลี่ยนแปลงผู้คุมหน่วยกำลังในเร็ววันนี้

แต่การชิงชัยจะจบลงด้วยกรงเล็บของพญาหน้าดำ ก่อนหน้าจะมีการโยกย้ายกำลังเพียงไม่กี่วัน

เอาล่ะ วันนี้ขอแหย่ เซี่ยงเส้าหลง กับ ไต่กอ อีกทั้ง   อาแดง สักวัน
บันทึกการเข้า
wincha
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 123


« ตอบ #9 เมื่อ: 20-07-2008, 15:42 »

..........  งมงายกันต่อไป ...........

เบี้ยทั้งนั้น 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-07-2008, 23:48 โดย wincha » บันทึกการเข้า

"ความดีของมนุษย์จะสิ้นสุดลงเมื่อมาเป็นนักการเมือง" อริสโตเติ้ล
ผมเองครับ
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 101



« ตอบ #10 เมื่อ: 20-07-2008, 16:32 »


ไม่มีใครจะใหญ่เกินกรรม[/size]แน่นอน ส่วนใครจะไปนรกขุมไหนก็รอตายก่อนแต่ที่แน่ๆๆทักกี้ ไปขุมมหาโลกันต์มหานรกแน่นอน  การกระทำเป็นเครื่องส่อเจตนา ส่วนรัชกาลที่10 ผมว่ามีแน่นอน 
บันทึกการเข้า
นีโอคอมมิวนิสต์
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 44


« ตอบ #11 เมื่อ: 20-07-2008, 17:22 »

เคยได้ยินตอนที่ไปพังงาว่า เสี่ย ออ+โอ ตบหน้าคุณ ทักกี้ ได้ยินจากชาวบ้านที่นั่นตอนไปช่วยเค้า ครายบอกหน่อยว่าเป็นข่าวลือครับ
บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #12 เมื่อ: 20-07-2008, 20:45 »

การขึ้นเวทีพูดปลุกระดมของ ดา ตอปิโด เมื่อ 18 กค. 51
และการตอบรับในอินเตอร์เน็ต จากกลุ่มกองเชียร์ทักษิณ
เป็นหลักฐานที่ชัดเจนของขบวนการพวกนี้ ที่ได้ตกลงใจ
ต่อต้านสถาบันฯ พร้อมกับสนับสนุนให้ทักษิณครองอำนาจ

การที่ คุณทักษิณ รัฐบาลสมัคร พรรคพลังประชาชน และ
กลุ่ม นปก. เพิกเฉยไม่ทักท้วงห้ามปรามการเคลื่อนไหว
ของคนพวกนี้ ทั้งที่มีอำนาจมีหน้าที่ ก็เท่ากับรู้เห็นเป็นใจ


จะอ้างว่าไม่รู้ไม่เห็นนั้นไม่สามารถอ้างได้ เพราะก่อนนี้
ก็มีกรณีคลิปจักรภพเกิดขึ้น โดยทุกฝ่ายดังกล่าวเพิกเฉย
และถึงขนาดแสดงพฤติกรรม "เข้าข้าง" ด้วยซ้ำ

การพยายามปลุกประเด็นการเมืองว่าเป็นการต่อสู้ของ
ประชาธิปไตย+ทุนใหม่ และอมาตยาธิปไตย+ทุนเก่า

ขณะนี้เห็นชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ว่ากำลังเป็นการต่อสู้ระหว่าง
ประชาชนผู้จงรักภักดี กับ พวกกบฏคิดคดต่อสถาบันฯ

...

ถึงตอนนี้กองเชียร์ทักษิณทั้งหมดต้องถามตัวเองแล้วว่า
ยังจะเป็นแนวร่วมให้พวกกบฏคิดคดต่อสถาบันฯหรือไม่
และคุณทักษิณมีความจงรักภักดีหรือไม่เพียงใด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-07-2008, 21:26 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
หน้า: [1]
    กระโดดไป: