komyen
|
 |
« ตอบ #50 เมื่อ: 11-08-2006, 12:11 » |
|
จะคิดกิจคิดการงานใดนั้น ควรจัดสรรจัดสร้างถูกทางที่ ต้องวางแผนวางผังตั้งใจดี ล้วนอยากมีอยากได้กำไรเกิน
ขออย่าโกงอย่าคดคอยปดโป้ ชอบคุยโม้คุยเบ่งอวดเก่งเอิ้น ไม่เก่งจริงเก่งจ้อขี้ฉ้อเพลิน อยากจะเชิญจะใช้ไปไกลไกล (กินนรเก็บบัว)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
komyen
|
 |
« ตอบ #51 เมื่อ: 15-08-2006, 16:16 » |
|
ร้อย.....พัน....หลาก....เรื่อง....ล้วน...........ชวน..............ตรอง รักษ์.....ผูก....หลาย....บท.....กรอง..........กวิ...............ถ้อย กวี.......วจี....เรื่อง......ราว.....สนอง.........เสนอ.............พจน์ วรรณ....วากย์.ราว.......ฝัน......ร้อย...........ค่อย..สร้างกวี..ศิลป์
เป็นกระทู้อ่านลง๗แถว ร้อยรักษ์กวีวรรณ พันผูกวจีวากย์ หลากหลายเรื่องราว เรื่องบทราวฝัน ล้วนกรองสนองร้อย ชวนกวิเสนอค่อย ตรองถ้อยพจน์ศิลป์
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-08-2006, 12:01 โดย komyen »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
komyen
|
 |
« ตอบ #52 เมื่อ: 18-08-2006, 15:43 » |
|
"ฝาก"รักไว้ในสายลมที่พรมผ่าน ฝาก"ใจ"ซ่านหวานซึ้งเสน่หา ฝากไป"กับ"กวีกานท์ผ่านเวลา ในแสงจ้า"จันทร์"สกาวดาวพร่างพราย แม้ยามจากหวัง"ฝาก"มานผ่านฟ้ากว้าง ยามอ้างว้างร้างขวัญ"ฝัน"สลาย ยามห่างกัน มั่นไว้ ใจ "กับ"กาย รักมิคลาย เคยชม ห่มแสง"ดาว"
กระทู้ทแยงมุม ฝากใจกับจันทร์ ฝากฝันกับดาว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
komyen
|
 |
« ตอบ #53 เมื่อ: 22-08-2006, 12:10 » |
|
ความฝันสรรสุขให้.........ใจเกษม ปลุกจิตปลื้มปรีเปรม.........ปลอบเศร้า ไร้ทุกข์สุขอิ่มเอม...............ชื่นอก พรางทุกข์สุขรื่นเร้า................ฝากเฝ้าไฝ่ฝัน
โลกฝันสรรสุขไว้..........ใจหวัง รักชื่นไร้ชิงชัง...............ชอกช้ำ หวังยามตื่นฟื้นพลัง............พ้นโศก พ้นยากยอกใจย้ำ.................ผ่านร้ายขื่นเข็ญ
โลกจริงยิ่งยอกย้อน..........ร้อนเย็น ลำบากยากลำเค็ญ...........ค่นแค้น ไร้สุขทุกข์แสนเข็ญ...........ขมขื่น ยามหลับยลฝันแม้น...........แม่นฟ้าสรวงสวรรค์
อยากฝันสรรสุขร้าง..........โลกจริง มากมิตรสหายชายหญิง........แวดล้อม อบอวลอุ่นรักอิง.....................อกชื่น ทุกสิ่งสรรพ์สุขพร้อม...................พ่างเพี้ยงพิมานแมน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
komyen
|
 |
« ตอบ #54 เมื่อ: 30-08-2006, 14:52 » |
|
นกนางนวลเหนือน้ำลำธารใส บัวบังใบบานบึงถึงตอนสาย ชูช่อชมเชยชื่นรื่นพระพาย ผึ้งผันผายโผผินเที่ยวบินตอม
ระรื่นเรื่อยรวยรินกลิ่นดอกไม้ อวลอบไออ้อยอิ่งทิ้งกลิ่นหอม ยูงเยี่ยมยอดยางใหญ่ใกล้พยอม เหล่าลิงล้อมแลลานคลานป่ายปีน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อธิฏฐาน
|
 |
« ตอบ #55 เมื่อ: 30-08-2006, 15:40 » |
|
ร้อย......ดวงดาวเป็นสายสร้อยห้อยคอเจ้า รักษ์.....บ้านเราร่วมสร้างอย่างที่หวัง กวี.......จารงานเขียนไว้ให้จีรัง วรรณ....รวมพลังบันทึกไว้ให้โลกลือร้อย......น้ำใจเป็นหนึ่งเดียวดังเกลียวเชือก รักษ์.....ไม่เลือกก้าวไปใจยึดถือ กวี.......ใหม่ก่อความดีด้วยฝีมือ วรรณ....ใช่แย่งยื้อแต่เสกสร้างหนทางตน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ฟ้าเข้ม
|
 |
« ตอบ #56 เมื่อ: 30-08-2006, 17:03 » |
|
ร้อย....รักษ์กวีวรรณศิลป์ รักษ์...ร้อยหลั่งรินวรรณสาร กวี.....เรียงร้อยถ้อยแถลงงาน วรรณ..วารผ่านหวังยังคง
ร้อย....ถ้อยร้อยเรียงเคียงร้อย รักษ์....ถ้อยร้อยคำสมประสงค์ กวี......ถ่ายทอดคำด้วยบรรจง วรรณ...ศิลป์ยืนยงแลคงนาน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ariyaka
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1

ออฟไลน์
กระทู้: 31
|
 |
« ตอบ #57 เมื่อ: 31-08-2006, 07:15 » |
|
สวัสดีครับ จขกท
๐ วรรณกรรม ๐
สัทธราฉันท์ ๒๑
..
๐ งามนัก
วรรควรรณประพันธ์จาร วิจิตระนยะผสาน ฟุ้งจรุงมาน ละลานมี
๐ งามนัก
วรรคผุดประดุจธีร์ ศักยะวุฒิวิถี นำเพราะคัมภี- รภาพสรรค์
๐ งามกลอน
ย้อนศัพทะรับกัน ศิลปะวรรณะประพันธ์ เอมเขษมปัน กระชั้นใจ
๐ งามโคลง
โยงความพิรามไข ลิขิตะอรรถะประไพ วางสว่างไหว ณ ใจนี้
๐ งามกาพย์
วาบตรึงคะนึงมี รัถยะธิระวจี เพื่อจะเอื้อศรี ฤดีสม
๐ งามฉันท์
นั้นดุจวิพุธพรม ขจิตะคติภิรมย์ วาทะปรารมภ์ บรมกานท์
๐ งามคำ
นำคิดประดิษฐ์ขาน วิทยะคุรุอุฬาร หวังจะหยั่งมาน สราญแล.
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
komyen
|
 |
« ตอบ #58 เมื่อ: 31-08-2006, 11:36 » |
|
"ร้อย"เรียงคำลำนำพ้องสอดคล้องสร้อย จะ"เรียง"ถ้อยคอยคลอพนอขวัญ วางคำ"เคียง"เรียงคำเพราะเสนาะกรรณ ทุกคืนวัน "คำ"วอนคอยอ้อนเธอ จะร้อยเรียงเคียง"ลำ"นำคำเหมาะสม หวังเธอชมชื่นคำ "นำ"เสนอ เฝ้าฝากฝันบรรเลงพร่ำ"เพลง"เพ้อ เฝ้าบำเรอรักร่ำพร่ำโคลง "กลอน"
สวัสดีครับคุณอธิษฐาน คุณฟ้าเข้ม คุณอริยกะ เขียนฉันท์เพราะมาก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
komyen
|
 |
« ตอบ #59 เมื่อ: 01-09-2006, 13:41 » |
|
ยอดเยี่ยมเทียมเทพลิขิตสรรค์ อักขระจารประพันธ์ พริ้งเพราะเพียงฝัน สราญใจ
สร้างสรรค์ฉันท์สัทธราไว้ ศิลปะชำระหทัย จินตภาพใส ไสววาร
ลองเขียนสัทธราฉันท์ตามคุณอริยกะ ไม่รู้เขียนถูกหรือเปล่า วันนี้สมองแก่ๆทำงานหนักจริงๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อธิฏฐาน
|
 |
« ตอบ #60 เมื่อ: 01-09-2006, 18:58 » |
|
จับใจหทัยประดุจลอย............จิตด้อยมิรู้ความ ซาบซึ้งประหนึ่งสุริยะงาม........จรผ่านพิภพไตรยากนักที่จะเห็นใครเขียนฉันท์ได้ไพเราะ อย่างคุณ ariyaka แค่ได้อ่านก็ถือว่าเป็นบุญตาแล้วค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ariyaka
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1

ออฟไลน์
กระทู้: 31
|
 |
« ตอบ #61 เมื่อ: 01-09-2006, 23:03 » |
|
สวัสดีครับคุณคมเย็น สัทธราฉันท์ ๒๑ เป็นฉันท์ใหญ่ ใกล้เคียง สัททุลฯ๑๙ และ อีทิสัง ๒๐
ฉันทลักษณ์ 0000102 1111112 0102 103
0...ครุ 1...ลหุ...สระเสียงสั้นทั้งหมด...คำบาลี..สันสกฤต..แยกอ่านเอา 2...ครุ รับส่งสัมผัสในบท 3...ครุรับส่งสัมผัสระหว่างบท
๐ ลำดับนั้นวัสสการพราหมณ์.........ธก็ยุศิษยะตาม....อ่านว่า...ทะ..ก็..ยุ..สิ..สะ..ยะ..ตาม เล่ห์อุบายงาม..........................ฉงนงำ ๐ ปวงโอรสลิจฉวีดำ..................ริหะวิรุธะและสำ คัญประดุจคำ...........................ธเสกสัน
คุณอธิษฐานครับ ยังเพียงผู้ฝึกเขียนครับ ยังไม่งามสมกับที่ชม
๐ พระราชอำนาจ ๐ วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
๐ โบราณะผ่านสหัสวรรษ ถิระรัฐะสีมา ทวยไทยฤทัยสหะสถา- ปนะราชะนั่งเมือง
๐ อำนาจและอาชญะผสาน บริบาละรุ่งเรือง ด้วยทศะพิธธรรมะประเทือง ทะนุเนื่องและอุดหนุน
๐ อำรุงผดุงพระสัทะธรรม อุปถัมภะเจือจุน มนตรีบดีรัถยะสุน- ทริยะกุลกวีกานท์
๐ สังคีตประณีตบทะประดิษฐ์ นิรมิตะกังวาน สู่โสตประโมทยะทะยาน ปริมาณ ฤ อาจหมาย
๐ คือภาวะอารยะขบวร จะประมวลก็มากมาย รองรับสำหรับจะอภิปราย กิติคล้ายบ่เคยคลอน
๐ คือราชะอาชญะดรง- คะผจงและกำจร เกื้อหนุนกรุณรัฐะนิกร อดิศรประทานถึง
๐ เพ่งภาษพระราชจริยะวัตร พจนัตถะคำนึง งดงามเหมาะความบทะจะพึง มรรคะซึ่ง ธ สืบสรรค์
๐ โดยเนติ์ประเพณ์ผิวะจะยึด และประพฤติผูกพัน อำนาจและอาชญะถวัลย์ กระจะมั่นฤทัยหมาย
๐ โดยควร ณ ส่วนนิระประสิท- ธิลิขิตะบรรยาย ย่อมคงธำรงนยะบ่คลาย ภวะคล้ายบ่เคยคลอน
๐ อำนาจและอาชญะประภาพ ประลุคาบและนาคร เต็มฐานะภาวะอดิศร นิระผ่อนพลาผล
๐ ใคร่ครวญประมวลพฤติวิกฤต ยุติฤทธิคำรน มวลหมู่และผู้ประพฤติฉล ยุติกละหยาบหยาม
๐ เพิกเฉยจะเผยรหัสะเลศ ระบุเจตนาทราม กังฉินจะกินปุระสยาม ผิวะลามจะบรรลัย
๐ เพ่งกิจลิขิตวรรณะประสงค์ จะณรงคะจันรัย เขตขอบและกรอบอธิปไตย พิเคราะห์ใหม่จะเห็นหมาย
๐ อำนาจพระราชะวินิจฉัย ระบุนัยะมากมาย ควรภาษะปราชญะสยาย อธิบายะจำนง
๐ แม้นมาตรจะปราศลิขิตะอัก- ขระลักษณ์จะยังคง เนื่องในฤทัยชนะประสงค์ ถิระวงศ์นิรันดร.
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-09-2006, 23:09 โดย ariyaka »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
komyen
|
 |
« ตอบ #62 เมื่อ: 02-09-2006, 17:16 » |
|
"เขียน"โคลงโยงผูกร้อย........เรียงคำ "ยาก"เวย ฝึก"บ่อย"คอยเขียนทำ..........คล่อง "แท้" ครูพัก"ค่อย"ลักจำ..............."คอย"จด หวังเก่งเลง"แล" "แก้".........ก่อเกื้อกานท์กวี
เพียรนึกฝึก "รัก"ร้อย............"โยง"ฝัน เขียนมาก"แต่"ยากครัน..........ยอก"ย้อน" เพียร "เขียน"ทุกคืนวัน...........วนวัจน์ "ยาก"เวย "โคลง"บทกลซับซ้อน...........ซ่อนกระทู้แซม"เฉลย"
กระทู้อ่านว่า"เขียนบ่อยค่อยแล ยากแท้คอยแก้ รักแต่เขียนโคลง โยงย้อนยากเฉลย" สวัสดีคุณอธิษฐาน คุณอริยกะ ขอบคุณในคำแนะนำ ผมคงต้องคิดอีกนาน จะลองพยายามดู
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
komyen
|
 |
« ตอบ #63 เมื่อ: 02-09-2006, 20:26 » |
|
พากเพียรเขียนคิดพินิจพจน์ วิริยะจิตะจรด มานะกำหนด จะจดจาร
วาดหวังรังสรรค์ประพันธ์กานท์ มนะตริวจนะศานต์ รังสฤษดิ์งาน ละลานใจ
จิตฝันมั่นคงประจงไข วรกวิตริหทัย เพื่อผดุงไว้ วิไลศิลป์
ถึงยากหากปลงประสงค์จินต์ ปิติสิละสละสิ้น หวังประสพวิญญ มิสิ้นเพียร
หวังว่าจะเป็น สัทธราฉันท์ คงต้องรบกวนคุณอริยกะอืกครั้ง ขอบคุณครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
komyen
|
 |
« ตอบ #64 เมื่อ: 12-09-2006, 11:36 » |
|
สนธยาสายัณห์เยือน........รวีเลือนเตือนวิกาล ยอแสงสีแดงฉาน............สะท้อนผ่านม่านเมฆซ้อน
แดดจับระยับวาว............ม่วงครามขาวเคล้าแดงอ่อน รอนแรงแสงทินกร...........รอจันทรจรมาแทน
เงาไม้ทอดไกลยาว..........นกเหินหาวสุดด้าวแดน กลับรังรีบบินแล่น............ปากคาบเหยื่อเผื่อลูกน้อย
ชาวนาพากันกลับ............ก่อนแดดลับลูกเมียคอย วัวควายเดินตามต้อย........ทยอยกันตามคันนา
บนบ่าแบกคันไถ.............เดินกันไปตามประสา เหนื่อยนักพักกายา...........ถึงเคหาพาสุขใจ
ทอดตามองฟ้ากว้าง..........ดูเวิ้งว้างทางยาวไกล ข้าวเขียวเรียวไสว.............ลมลูบไล้ใบอ่อนเอน
ลานบ้านแลเป็ดไก่.............เลี้ยงเอาไว้ไข่ให้เห็น เด็กเล็กเที่ยววิ่งเล่น............เป็นสนุกทุกทุกวัน
ครอบครัวอยู่พร้อมหน้า.........หาข้าวปลามาแบ่งปัน ล้อมวงลงกินกัน.................เหนื่อยล้านั้นก็พลันคลาย
ค่ำลงไร้แสงสี....................ใช้ชีวีที่เรียบง่าย พอเพียงพอเลี้ยงกาย............มิมุ่งหมายจะมั่งมี
อาบเหงื่อเพื่อหว่านไถ...........เก็บเกี่ยวให้ได้ผลดี เพื่อข้าวเพื่อชีวี....................เพื่อโลกนี้มีข้าวกิน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
komyen
|
 |
« ตอบ #65 เมื่อ: 13-09-2006, 14:03 » |
|
คืนเพ็ญฟ้าผ่องแผ้ว..........พรรณราย ลอยเด่นดวงเดือนฉาย..........เฉิดฟ้า ทรงกลดหมดเมฆกราย..............ดาวเกลื่อน แสงส่องสุดภพหล้า.......................แหล่งพื้นพสุธา
แลลิ่วทิวทุ่งกว้าง...........ทางไกล เห็นตะคุ่มพุ่มพฤกษ์ไพร.........สลับซ้อน ไม้สูงเยี่ยมฟ้าใส......................เยือนเมฆ เงาศศิส่องสะท้อน.........................สู่น้ำลำธาร
มนต์แสงจันทร์ร่ายฟ้า.........ฝันละเมอ ฟ้าสั่งฝั่งดินเผลอ...............รักฟ้า เรไรหรีดร่ำเสนอ................เพลงรัก สังคีตทิพย์กล่อมหล้า...........โลกล้วนหลับฝัน
ลมแผ่วพัดพฤกษ์โพ้น...........โอนไหว ใบโบกโยกแกว่งไกว...........กิ่งก้าน ดอกไม้หลับฝันละไม............ลมกล่อม พรมพร่างน้ำค้างสะท้าน.........สั่นสะเทิ้นทนหนาว
ดาวกระพริบระยิบฟ้า..........ชวนฝัน ดึกดื่นดาวหมื่นพัน.............ผ่องโพ้น สาดแสงดั่งแข่งจันทร์........จรแจ่ม ไกลสุดฟากฟ้าโน้น............นั่นล้วนดาริกา
ธรรมชาติพิลาศล้ำ..........พรรณนา ปลอบทุกข์ปันสุขครา.........หม่นเศร้า ก่อกำเนิดจินตนา..................การแจ่ม แจ้งนอ หลับตื่นฟื้นฝันเฝ้า......................ไฝ่เพ้อละเมอถึง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
komyen
|
 |
« ตอบ #66 เมื่อ: 14-09-2006, 15:17 » |
|
ลำห้วยเล็กริมบ้านธารน้ำตื้น ยามเด็กยืนย่ำถึงครึ่งหน้าแข้ง น้ำใสเย็นเห็นปลาว่ายไหวไหวแซง แดดรอนแสงแฝงเมฆไม้ใหญ่บัง
ลำห้วยน้อยลอยไรปลาไล่ฮุบ เสียงดังผลุบโผไปในน้ำขัง แมลงปอโบกปีกเปี่ยมพลัง ผีเสื้อยังรั้งรออยู่ตอไม้
อยากกินปลาหาท่อนไม้ไว้กั้นน้ำ ก้อนหินด้วยช่วยกันนำมากั้นได้ เป็นเขื่อนกักวักน้ำออกให้ว่องไว น้ำแห้งไปไล่จับปลาอย่ารอรี
ปลากระโดดโลดดิ้นเด็กไล่จับ ตะครุบหมับจับใส่ถังสังกะสี ปลาซิวสร้อยน้อยใหญ่ได้มากมี ปลาดุกซีมีเงี่ยงเกี่ยงกลัวกัน
จับปลาไหลในรูต้องรู้จัก มันลื่นนักมักหนีขมีขมัน สองมือจับขยับไขว้ให้เร็วทัน เพราะลื่นครันเอามันใส่ในถังเลย
จับเสร็จแล้วอย่าแจวจรก่อนรื้อเขื่อน อย่าลืมเลือนปล่อยน้ำไหลไว้เกลอเอ๋ย วันหลังกลับมาจับใหม่ได้อย่างเคย พอแล้วเหวยวันนี้มีปลากิน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
komyen
|
 |
« ตอบ #67 เมื่อ: 19-09-2006, 16:16 » |
|
สระน้ำใหญ่ใสเย็นเห็นมัจฉา เริงธาราปลาใหญ่ไล่ปลาน้อย มีนกน้ำดำผุดมุดเล่นลอย มีกุ้งหอยน้อยใหญ่ในน้ำเย็น
น้ำสระใหญ่ใสเย็นชวนเล่นว่าย สาวผันผายผลัดผ้ามาลงเล่น ค่อยเยื้องกรายชายฝั่งบังไม้เอน ค่อยบังเร้นบัวใบใกล้ฝั่งธาร
แลใต้น้ำรำไรไหวไหวร่าง ยลผิวนางนวลใยในละหาน อยากเป็นน้ำฉ่ำเย็นให้เล่นนาน เป็นบัวบานบังใบใกล้ชิดนาง
เป็นปลาน้อยลอยว่ายในสายน้ำ ได้ชื่นฉ่ำเชยชิดสนิทร่าง ยลปทุมพุ่มนวลชวนชมพลาง ใจดั่งค้างคว้างหวิวปลิวหลุดลอย
สนธยาสายัณห์ตะวันลับ สาวน้อยกลับขยับไกลใจตามต้อย อยู่ริมฝั่งยังขยิ่มกริ่มใจคอย รอสาวน้อยสรงสระจะเฝ้ารอ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
komyen
|
 |
« ตอบ #68 เมื่อ: 20-09-2006, 08:16 » |
|
ทรนงหลงเลิศล้น..........คนเกรง ทรราชรัฐข่มเหง...........เร่งรู้ ทรชนบ่ยำเยง.............เกรงบาป ทรหดหาญหักสู้...........สัตว์ส้องการเมือง
ทรราชชาติชั่วพ้น.........เผ่นหนี ทรยศคดย่ำยื..............ยกเค้า ทรชนหมดศักดิ์ศรี.........ลี้หลบ ทรหดทหารเฝ้า............พิทักษ์ฟ้าหล้าสยาม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
komyen
|
 |
« ตอบ #69 เมื่อ: 20-09-2006, 16:57 » |
|
ทะ...วารนรกอ้า............ออกเชิญ ลุ่ม...หล่มเลวทรามเดิน........มุดได้ ปุ่ม...งิ้วปูดแหลมเกิน..............คำกล่าว ปู.....สู่อเวจีให้.........................ห่าเฮี้ยการเมือง
ทุ..เรศสุดทุดทุ้ย...........ทักษิณ สุ...นัขไม่ยักกิน............เกลือกกลั้ว มุ...ทะลุโหดหิน............คนห่า ดุ...ด่าไอ้คนชั่ว.............แช่งเช้าแช่งเย็น
อุ....บาทว์ชาติชั่วช้า..........ทรชน สา...หัสกัดกินจน............ป่นปี้ นา...นาห่าแร้งขน..........คนข่ม แค้นนา รี.....รีบเร่งเร็วนี้..........หนอยล้างจังไร
โก......หกหน้าเหลี่ยมไร้.........ยางอาย วา......ระซ่อนเร้นลาย.............เล่ห์ลิ้น ปา......อึใส่ใจหมาย...............มุ่งพิฆาต เปิด.....ตูดไปให้สิ้น................สัตว์ส้องการเมือง
จก...เปรตจากป่าช้า...........ชั่วทราม จี้.....จ่อจี้กินกาม...............กิเลสกล้า รี้......ลื้อเร่งเกินงาม............งกแดก ไร.....บ่กลัวบาปช้า.............ชั่วร้ายสารเลว
คิดว่าต่อไปคงไม่ต้องเขียนถึงพวกนี้อีก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
komyen
|
 |
« ตอบ #70 เมื่อ: 26-09-2006, 10:46 » |
|
ทะ....เลร่ำน้ำระลอก...............ซัดแรง ลุ่ม....หล่มลึกรักแฝง..............ฝากเศร้า ปุ่ม....เปือกเปื่อยซากแสลง......ดุจรัก สลายนา ปู......สู่หลุมศพเฝ้า.................ไฝ่เพ้อละเมอฝัน
ทุ......รนร่านเรื่องร้าว...............รักราน สุ......คติหรือคือสถาน.............สุดท้าย มุ......สาผิดใจผลาญ...............พรากรัก ดุ......ด่าว่าโหดร้าย..................รักร้าวใจสลาย
อุ......กฤษฏ์ผิดพลาดพ้น...........อภัยกัน สา.....หัสเหือดใจหัน.................ห่างร้าง นา.....นาสิ่งผูกพัน....................ผันเปลี่ยน รี.......ร่างเรื่องร้ายอ้าง...............แอบเร้นรักหนี
โก......หกพกพิษเฮี้ยม................ประหัตประหาร วา.......หนึ่งก้าวผิดพาล...............พลาดสิ้น ปา......ไปไป่ต้องการ..................รักเก่า เปิด.....ปากหลากหลายลิ้น...........เล่ห์ร้ายใจหญิง
จก......จ้วงล้วงจิตแล้ว.................ร่างเหลือ จี้........จิตฤทธิ์รักเจือ...................พิษร้าย รี้.........รื้อร่างดุจเรือ....................ท้องรั่ว ไร........ไม่เหลือใจคล้าย..............ขาดไร้วิญญาณ
บทนี้เคยลงในห้องสมุด pantip เมื่อก.ค.บทข้างบนเขียนตอนเม.ย. ตอนนั้นเพิ่งหัดเขียนโคลง
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-09-2006, 11:45 โดย komyen »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อธิฏฐาน
|
 |
« ตอบ #71 เมื่อ: 26-09-2006, 20:06 » |
|
 ร้อย......อักษรอันอ่อนด้อย..........คารม รักษ์......รื่นรมย์เพียงชม.............เล่นลิ้น กวี........จรจากตรอมตรม...........เกินกล่าว วรรณ.....ห่างดังชีพสิ้น..............สุขแล้วสโมสร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
komyen
|
 |
« ตอบ #72 เมื่อ: 27-09-2006, 16:09 » |
|
หลากลีลาร่ายไว้...................วัจน์เวียน หวังกาพย์กลอนโคลงเขียน........คู่หล้า สานสืบอักษราเพียร................พจน์พากย์ ขวัญลิ่วลอยล่องฟ้า.................ฝากไว้ไฟฝัน
ฉันทลักษณ์ประจักษ์แจ้ง........เจนใจ เพียรวาดลายสือไหว..........ห่อนเว้น หวังเกลากล่อมน้อมใน......หทัยมั่น ฝังฝากวากย์วัจน์เฟ้น......เฟื่องฟุ้งโคลงฝัน
จรรโลงใจไป่ร้าง..........รจนา สร้างสิ่งศิลป์ภาษา........สืบไว้ มาดหมายมุ่งมรรคา.......เขียนคิด โลกทัศน์จัดเจนให้........จุ่งรู้หลากหลาย
หมายผดุงมุ่งหมั่นสร้าง.........วรรณสิลป์ เพียรคิดจิตจ่อจินต์.............เจตน์รู้ กวีแล้งโลกรักถวิล............เวียนวาด วัจน์นา ตราบชีพม้วยมั่นสู้...........รักสร้างสืบศิลป์
"ร้อย"วิญญาณผ่านห้วง.........เวลา หวัง"รักษ์"ศิลป์ภาษา............สืบสร้าง เพียรเขียน"กวี"พา................พบสุข ตราบโลกไร้"วรรณ"ร้าง..........รักษ์ร้อยกวีศิลป์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
komyen
|
 |
« ตอบ #74 เมื่อ: 02-10-2006, 12:24 » |
|
ฟ้าสีฟ้าจ้าสว่างกลางแสงแดด ที่เผาแผดผ่าวร้อนตอนบ่ายคล้อย ดังลมเสกเมฆผ่องล่องลมลอย เงาเมฆค่อยคอยบังแดดยังร้อน
มองทุ่งร้างทางไกลใต้ฟ้ากว้าง ดูกระจ่างกลางกระไอแดดสะท้อน แลลิบลิ่วทิวเขาเราเคยจร ความคิดย้อนตอนเยาว์เคยเนาไพร
กระท่อมเล็กกลางทุ่งริมธารน้อย ใกล้ดงดอยเคยเดินเพลินป่าใหญ่ ขึ้นยอดเขาเราไม่ท้อต่อทางไกล ลำธารใสไหลเย็นเคยเล่นน้ำ
เคยจับปลาหาปูดูผีเสื้อ สนุกเหลือเมื่อสายจนบ่ายค่ำ รับแสงแดดแผดทั่วจนตัวดำ จนเย็นย่ำหนำใจสนุกจริง
เคยดูเดือนเยือนฟ้าเวลาค่ำ เคยดื่มด่ำดูดาวผ่าวไฟผิง กองไฟกรุ่นอุ่นไอโคนไม้พิง เคยนั่งอิงแอบแม่แลดาวเดือน
ฟังนิทานท่านเล่าเฝ้าถามไถ่ แม่สอนให้ใจดีมีแบ่งเพื่อน มีมานะแน่วแน่ดังแม่เตือน อย่าคลาดเคลื่อนเลือนคำจำมั่นไว้
โลกหมุนเวียนเปลี่ยนวัยใจยังคิด รักสนิทในผืนดินถิ่นบ้านไร่ กลับถิ่นเก่าคราวนี้ไม่มีใคร เราแปลกใหม่แปลกหน้ามาจากเมือง
หางนกยูงสูงใหญ่ใบร่วงหล่น สีส้มปนแซมแดงแฝงสีเหลือง ดังเปลวเพลิงเริงไพรให้เรื่อเรือง เคยอยู่เยื้องเบื้องหลังบังบ้านเรา
หางนกยูงสูงเด่นเห็นประจักษ์ ขึ้นเป็นหลักปักอยู่คู่บ้านเขา ไร้กระท่อมริมธารบ้านเคยเนา ฝืนยิ้มเศร้าเจ้าของใหม่รื้อไปแล้ว
สวัสดีครับคุณอังศนา ไม่ได้อ่านของคุณเสียนาน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
komyen
|
 |
« ตอบ #75 เมื่อ: 03-10-2006, 11:28 » |
|
เมฆโปรยฝนฉ่ำฟ้า.........ชุ่มดิน ไหลหลั่งถั่งสายริน............สู่หล้า อสนีบาตฟาดยิน...................ครืนครั่น วิชชุแลบแปลบจ้า....................ปลาบเปรี้ยงเสียงดัง
สุดสายฟ้าวาบฟ้า........มืดฝน เมฆลิ่วลอยลมบน..........มืดคลุ้ม หล้าโลกโชกฉ่ำชล...........ชระอุ่ม พฤกษ์พุ่มสุมทุมกลุ้ม............เกลื่อนน้ำเนืองนอง
หยาดเม็ดฝนสุดท้าย.........หายจาง ไอหมอกละอองบาง..........ชุ่มชื้น แลเลือนภาพเพียงลาง........โลกสงบ ฝนหยดค้างร่วงพื้น............จากไม้ไพรพง
บันดาลธารเอ่อท้น..........ธรณี ซึมแทรกสายชลธี...........ทั่วหล้า พืชสัตว์ส่ำชีวี................ใช้-ดื่ม วัฏจักรหลักฝนฟ้า............หล่อเลี้ยงโลกคง
พงไพรพืชเพียบพื้น..........พฤกษ์ไสว น้ำหล่อเลี้ยงรากใบ.........ใหญ่กล้า ชีวิตพึ่งชลใส.................กินอาบ หากขาดน้ำแล้งหล้า........โลกสิ้นชีพสลาย
ไอระเหยเลยแหล่งน้ำ.......ล่องลอย เป็นเมฆกลุ่มทยอย..........เกลื่อนกลุ้ม เป็นฝนหยดดังพลอย.........ผลอยร่วง คลุมภพด้วยเมฆคลุ้ม.........คล่าวน้ำฉ่ำฝน
วนวัฏจักรหลักภพหล้า.......ฟ้าดิน น้ำ-เมฆ-ฝนหล่นริน...........แหล่งพื้น หล่อเลียงเหล่าชีวิน..........สัตว์พืช วนกลับเป็นฝนชื้น............เช่นนี้ชั่วกัลป์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
komyen
|
 |
« ตอบ #76 เมื่อ: 06-10-2006, 16:09 » |
|
ภรรยาจะว่าสุรากะเบียร์ ตะบี้ตะบันกระเดือกซะเพลีย.........ละเหี่ยใจ
เย็นตะวันจะค่ำก็ร่ำซะใหญ่ กระแช่สะเกกะเบียร์และไวน์.........บได้เว้น
เมาสะงอกสะแงกผิว์เมียปะเห็น จะด่าจะว่าจะบ่นจะเป็น...............ประเด็นดัง
ใช่จะกลัวจะเกรงทว่ามิยั้ง ก็พูดก็พร่ำซะคร้านจะฟัง...............จะชังเอา
นอนบ่พลิกกระดิกกระเดี้ยเพราะเมา จะบ่นจะว่ามิเถียงเพราะเรา............มิได้ยิน
อีทิสังฉันท์๒๐ ฉบับชาวบ้าน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อธิฏฐาน
|
 |
« ตอบ #77 เมื่อ: 06-10-2006, 17:13 » |
|
คราตะวันจะส่องสว่างไสว ศศีจะจรกระจ่างกระไร...........ฤ ในฝัน
ดาริการะยิบระยับประจัญ เขย่อเขย่งเขม้นประพันธ์.........มิเว้นเลย
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-10-2006, 22:41 โดย อธิฏฐาน »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อธิฏฐาน
|
 |
« ตอบ #78 เมื่อ: 06-10-2006, 23:28 » |
|
ค่ำจะคืนละมุนพิกุลขจาย เสมือนละม้ายประพิมพ์ประพาย..ประหนึ่งเธอ
รอรตีไฉนมิมีละเมอ จะร่ำจะร้องประโลม ฤ เออ........ประหวั่นใจ
ดึกและดื่นจะตื่นมิหลับมิไหล ผจงผจารระวังระไว.................ลิขิตเขียน
พายุเอยอุราจะร่ำจะเรียน ประโยคประพันธ์จะดีจะเพี้ยน......วิกาลยาม
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-10-2006, 22:43 โดย อธิฏฐาน »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
อธิฏฐาน
|
 |
« ตอบ #80 เมื่อ: 07-10-2006, 12:39 » |
|
เข้ามาเพื่อศึกษาหาความรู้ ใช่หาคู่หากิ๊กใหม่ให้สุขสม ไม่เคยคิดกลั่นแกล้งแฝงอารมณ์ แต่ชื่นชมอักษรท่านที่ผ่านตา
มิตรภาพมีได้คล้ายเพื่อนรัก ทุกทุกวันทายทักประจักษ์ค่า อักษรที่เคยสนิทใกล้ชิดมา ปรารถนาให้เขาสุขทุกราตรี
ไม่เคยคิดไขว่คว้าใครมาใกล้ชิด เพียงสนิทดังเห็นก็เช่นนี้ หากคุณคิดแค่เพื่อนไปเยือนซี แล้วฉันนี้จะต้อนรับขับสู้กัน
สวัสดีค่ะคุณครูใบไม้ใครต้องการความจริงใจ ก็ต้องจริงใจกับเขาก่อนค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
คำตัดพ้อของใบไม้
|
 |
« ตอบ #81 เมื่อ: 07-10-2006, 14:56 » |
|
..อธิฎฐาน...ขอทานชื่อ ไม่ถือนะ
เราเคยจ๊ะ...จ๊ะจ๊ะเอ๋ บ้างไหมหนอ หรือจะเคย เชยชิดน้อง ห้องรอดอนอ ( ราชดำเนิน )  คงไม่ขอ คืนหลัง (อดีต) ชั่งปล่อยไป
...สวัสดี น้องที่รัก นักอธิฏฐาน ขอช่วยวาน เฉลยนาม สำคัญไฉน ชื่อเท่ห์ดี มีคำสะกด แปลกออกไป เลยจะไคร่ ไคร่อยากรู้ ดูแปลกดี
พักชายคา น่าอยู่ ประตูใจ เพื่อนใหม่ๆ ใจมีศักดิ์ รักศักดิ์ศรี เสรีไทย ชายคาใหม่ ล้วนใจดี เจอคนที่ มีน้ำใจ ใฝ่หมายปอง
คำวิพากษ์ วิจารณ์ ต้องเลือกข้าง จะยืนอย่าง ยืนยง คงไม่หมอง ประเทศไทย ใจเราไซร้ ให้ใครครอง เราเจ้าของ ของประเทศ เขตเราเอง
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-10-2006, 15:02 โดย คำตัดพ้อของใบไม้ »
|
บันทึกการเข้า
|
....พูดดี ทำดี คิดดี ...ทุกวินาที คิดได้อย่างนี้ก็เพียงพอแล้ว
|
|
|
|
komyen
|
 |
« ตอบ #83 เมื่อ: 09-10-2006, 16:09 » |
|
เย็นรวีจะลาจะลับไศล ระเรื่อระเรืองอร่ามวิไล...............มิมีเเหมือน
จวนจะค่ำสุรียะต่ำจะเลือน ณ.รัตติกาลพระจันทร์จะเยือน.......และเคลื่อนจร
สนธยาคณาสกุณสิร่อน ทิชาฉวัดเฉวียนวะว่อน...............จะย้อนไป
ธรรมชาติสอาดพิลาสพิไล พระพายพะพัดละมุนละไม.............จะไฝ่ชม
ดังประดิษฐ์ผิว์พิศสิน่าภิรมย์ นิมิตธรรมชาติสิสม....................สคราญตา
แสงพระจันทร์สว่างกระจ่างนภา ศศีวิไลละไมสง่า.......................ณ.ราตรี
ดาวกระพริบระยิบระยับฉนี้ พระจันทร์สว่างสะท้อนนที............ฤดีรมย์
ปัฐพีสงบพิภพอุดม มนัสสุโขมโนเหมาะสม................ระทมลา
ธรรมชาติประสิทธิจินตนา ประสานหทัยตลอดทิวา...............และราตรี
อีทิสังฉันท์๒๐ สวัสดีครับคุณชื่อเรียกยากทั้ง๒ คุณอธิฏฐาน วรรคแรกคำที่๒เป็นคำลหุ ตกไป๑คำ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อธิฏฐาน
|
 |
« ตอบ #84 เมื่อ: 09-10-2006, 22:39 » |
|
ขอบคุณค่ะคุณคมเย็น เพิ่มแล้วคงไม่ขาดแล้วค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
komyen
|
 |
« ตอบ #85 เมื่อ: 11-10-2006, 13:47 » |
|
กลั่นจิตคิดร่วม"สร้าง"..........."เรียง"คำ จารึกโคลง"กล"นำ..............ผนึก"ร้อย" จารพจน์"บท"พากย์จำ..........จรดบ่อย "ค่อย"เพียร จำ "หลัก"อักษรสร้อย...........เสกสร้างสลับ"เวียน"
"ร้อย"เรียงรักคิดค้น...............คำคม "เขียน"นา สรร "รักษ์"ลิขิตสม...............ค่อย"ด้น" กาพย์กลอน"กวิ"พินิจชม........."ฝัน"ชื่น คอยคิดวาด "วรรณ" "ค้น".......คู่ไว้เคียงสยาม
กลบท สกัดกระทู้ตลับกล กระทู้อ่านทวนเข็มนาฬิกา "สร้างกลบทหลัก ร้อยรักษ์กวิวรรณ ค้นฝันด้นเขียน เวียนค่อยร้อยเรียง"
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-10-2006, 15:26 โดย komyen »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
komyen
|
 |
« ตอบ #86 เมื่อ: 18-10-2006, 16:00 » |
|
ใจ...นี้...ให้....นุช...น้อง.......นาง.ใด พลี..จิต..หมั่น..มั่น...ใจ.........รัก..สู้ จัก..ไหว.หวั่น..รัก....ใคร.......รัก..ไม่...รัก...เอย ภักดิ์.จิต..เพราะ.รัก...รู้..........ชื่น..ชู้...ชิด...เชย
ใจ..รัก..หวัง..จัก....รู้...........เรียน..เพียร ไฝ่..รัก..ย้ำ....คำ...เขียน.......จัก....สร้าง ฝัน..ที่...ภักดิ์..มอบ.เวียน.......ใจ....ชอบ..ชม..เชย มั่น..จิต..ภักดิ์..มิ.....ร้าง.........สัก...น้อย...เลย.หวัง
บท๑ขดเข้าเริ่มที่ รัก.. บท๒คลายออกเริ่มที่ จัก..
รักเอยเชยชิดชู้ชื่นรู้รัก เพราะจิตภักดิ์จักพลีใจนี้ให้ นุชน้องนางใดสู้ไม่รักใคร รักหวั่นไหวจิตหมั่นมั่นใจรัก
จักเขียนคำย้ำรักที่ภักดิ์มอบ เวียนใจชอบสร้างเพียรเรียนรู้จัก หวังรักใจไฝ่ฝันมั่นจิตภักดิ์ มิร้างสักน้อยเลยหวังเชยชม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
komyen
|
 |
« ตอบ #87 เมื่อ: 19-10-2006, 15:27 » |
|
กลอน๘ซ่อนอยู่ในโคลง๔ เริ่มคำแรกของกลอนจาก๑วนไปจบที่๓๒
14>>15>>16>>17>>18>>19>>20 13////28>>29>>30>>31>>32///21 12////27<<26<<25<<24<<23<<22///01>>02 11<<10<<09<<08<<07<<06<<05<<04<<03
อย่างนี้คือขดเข้า แล้วเราก็วนจาก 32 กลับไปจบที่ 1 เหมือนเดิม
14<<15<<16<<17<<18<<19<<20 13////28<<29<<30<<31<<32///21 12////27>>26>>25>>24>>23>>22///01<<02 11>>10>>09>>08>>07>>06>>05>>04>>03
อย่างนี้คือคลายออก
โยงไยยากยอกย้อน..........บทตอน โคลงคิดโคลงในกลอน.......ซ่อนซ้อน เพียรจิตจ่อไว้สอน.............ใจใส่ ใจเย็น เขียนคิดออกอยากย้อน.......บอกย้ำเห็นใจ
โยงฝึกฝนไฝ่รู้..................โคลงกล "โคลงขนดกลอน"ค่อยวน........คิดไว้ ตรองวนวากย์ฝึกตน..................ใจไฝ่ เพียรเขียน ลองคิดเขียนคล่องให้.....................คิดไว้คิดเพียร
บท๑คลายออกเริ่มจาก"ซ่อน"เป็นตำแหน่ง๓๒ บท๒วนเข้าเริ่มจาก"ใจ"เป็นตำแหน่ง๑ เป็นกลอน๒บท
ซ่อนกลอนในโคลงคิดจิตจ่อไว้ สอนใจใส่ซ้อนตอนบทย้อนยอก ยากไยโยงโคลงเพียรเขียนคิดออก อยากย้อนบอกย้ำเห็นใจเย็นใจ
เพียรเขียนเพียรคิดไว้คิดให้คล่อง เขียนคิดลองตรองโคลงโยงฝึกฝน ไฝ่รู้โคลงกลไว้ไฝ่ใจตน ฝึกวากย์วนขนดกลอนค่อยวนคิด
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-10-2006, 15:38 โดย komyen »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
komyen
|
 |
« ตอบ #88 เมื่อ: 20-10-2006, 14:13 » |
|
ศร.....คม.....ตา....จาก..เจ้า.........จิต......ชาย เนตร..เสียบ..บาด..ยาก...หาย........ห่อน...แก้ ปัก....จม.....จิต....สุด....คลาย.......คิด.....ก่อน...นอน...ตรม สลัก...มิด.....คิด....ถอน..แม้..........ค่อน....ม้วย...มรณ์..ตาย
อ่านจากบนลงล่าง๙แถว เป็นกลอน๘
ศรเนตรปักสลักคมเสียบจมมิด ตาบาดจิตคิดจากยากสุดถอน เจ้าหายคลายแม้จิตห่อนคิดค่อน ชายแก้ก่อนม้วยนอนมรณ์ตรมตาย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อธิฏฐาน
|
 |
« ตอบ #89 เมื่อ: 21-10-2006, 21:31 » |
|
ยามอรุณนภาสว่างไสว วิหคขยับจะเคลื่อนจะไป.............จะเหินหาว
บุปผชาติสะอาดสะพรั่งสะพราว พิกุลขจรลดาอะคร้าว..................ประดับไพร
ชัยพฤกษ์จะบานจะร่วงกระไร สุคนธ์อร่ามละมุนละไม................อุดมดี
บุษกรจะบานประดับนที เสน่ห์พนาประหนึ่งจะมี................ฤ.เทวา
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-10-2006, 20:57 โดย อธิฏฐาน »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
komyen
|
 |
« ตอบ #90 เมื่อ: 25-10-2006, 15:06 » |
|
ยามเริ่มอรุณรวิเลื่อน............จรเยือนนภาลัย แสงพร่างสว่างวนไสว..........ณไศลพนาสันต์
เซงแซ่สกุณจรบิน...............ผละผินนิราศพลัน เพื่อภักษหารกิมิบสรร...........ชิวะนั้นสิหากิน
โบกปีกขยับกระพือว่อน.........จรร่อนภมรบิน ไฝ่หาผการะรินกลิ่น..............รสเสาวคนธ์ชม
คลี่กลีบยะแย้มผกาบาน.........ณละหานสิชวนดม สีสันสะสวยสะท้านลม............ตละล้วนตระการจริง
พงพฤกษ์สะพรั่งพระพายไกว.....ประทะใบสบัดกิ่ง หยุดสายพระพายบไหวติง.......วนนิ่งบเอนไหว
ชุ่มชื่นตฤณชะอุ่มเขียว...........ระดะเรียวระบัดใบ นำค้างสะท้อนตะวันใส...........กลเพ็ชรัตน์ราย
ชมธรรมชาติอรุณรุ่ง..............รพิพุ่งระเรืองฉาย ส่องหล้าจรัสประกายพราย......บริสุทธิ์ประทับใจ
วสันตดิลกฉันท์๑๔
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อธิฏฐาน
|
 |
« ตอบ #91 เมื่อ: 25-10-2006, 23:57 » |
|
ยามเย็นรวีรุจิระอ่อน ทินกรก็ลาไกล ราตรีกระจ่างศศิประไพ จรเคลื่อนมิเลือนลา
ค่ำคืนพระพายประดุจโบย ปะทะโปรยวสันต์มา ดวงดาวระยิบระดะนภา มะลิซ้อนสะพรั่งบาน
เรือนรักประดับทวิหทัย จิตใส่นิรันดร์กาล นาวาจะฝ่าอุทกพาล สติมั่นประคองลำ
พิณเพลงประเลงคีตะผสาน จรผ่านคละลำนำ แว่วหวานสะท้อนอุระจะร่ำ มธุรสประหนึ่งเธอ
วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
komyen
|
 |
« ตอบ #92 เมื่อ: 27-10-2006, 13:12 » |
|
จนเครียดจะกินสุราบ่อย.............ขณะค่อยละเลียดกิน เสียงด่ากระทบผวาจินต์.............เพราะติฉินน่ะฉันกลัว
กินเหล้าซะเมาเละบ่อยนา............ภริยาจะตีหัว กินกับจะอ้วนผิว์หมูวัว.................บมิมั่วนะหนูเอย
วสันต์กระดกฉัน๑๔
ซาหวัดดี หนูอาทิดถานนนนน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
komyen
|
 |
« ตอบ #93 เมื่อ: 27-10-2006, 15:57 » |
|
ฟ้าหลังฝนดลหมอกออกขาวหม่น โลกอาบฝนอบเพาะพืชเหมาะสม กระไอฝนฝากชื้นชวนรื่นรมย์ หลังฝนพรมพฤกษ์ชุ่มชอุ่มใบ
วสันต์หยาดขาดเม็ดเหลือเกล็ดแก้ว ชลใสแวววาวพร่างค้างใบไม้ สุรีย์แรงแสงทองส่องพฤกษ์ไพร ขับชื้นไล่กระไอฝนปนหมอกจาง
เหนือโค้งฟ้าปรากฏรุ้งสดใส งามจับใจวิไลตาฟ้าสว่าง เมฆเคลื่อนคล้อยลอยลมพรมเบาบาง รุ้งกระจ่างจับใจในนภา
ธรรมชาติวาดไว้วิไลล้ำ หลังฝนฉ่ำน้ำละอองไอล่องฟ้า สะท้อนแดดแผดจับระยับตา เป็นรุ้งจ้าเจิดจรัสประภัสร์พราว
เงยหน้ามองท้องฟ้าตามองภาพ โค้งรุ้งทาบอาบแสงแห่งห้วงหาว ประทับในใจฝังทุกครั้งคราว คิดเรื่องยาวเทพนิยายสายรุ้งทอง
ธรรมชาติวาดไว้วิไลเลิศ รุ้งพราวเพริศเจิดจรัสประภัสร์ผ่อง แสงเจ็ดสีจับนัยน์ชื่นใจมอง แสงรุ้งส่องสองฝั่งฟ้าพาใจชม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อธิฏฐาน
|
 |
« ตอบ #94 เมื่อ: 27-10-2006, 23:20 » |
|
หาดทรายทะเลประดุจกลืน ปะทะคลื่นผสานกัน ฟองพรายประกายมธุรจันทร์ กลกาลประจักษ์จินต์
นาวาจะฝ่าอุทกไป ภวภัยชลาสินธุ์ เพลงแผ่วหทัยทมยิน คีตผ่านสราญรมย์สวัสดีค่ะคุณคมเย็น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
komyen
|
 |
« ตอบ #95 เมื่อ: 28-10-2006, 11:48 » |
|
คลื่นทะเลครวญเห่เพ้อ..........เพลงฝัน กระซิบสั่งคำรำพัน.............พร่ำถ้อย ซัดหาดสาดฝั่งวัน............คืนค่ำ เพลงรักโลมฝั่งร้อย.........หลากล้วนเรื่องราว
ขาวระลอกคลื่นพลิ้ว.........ทิวแถว ซัดฝั่งหลั่งรินแนว..............เนื่องน้ำ พรายชลพร่างพราวแพรว.........ไหลพลั่ง ไหวโยกพฤกษ์ลมย้ำ.................เหล่าไม้เอนไหว
ใจหาดหวาดคลื่นร้าย...........ลมหวน คลื่นแผ่วคลอเพลงครวญ..........ขับร้อง เพลงคลื่นรักชักชวน...................เชยฝั่ง เสียงสั่งดั่งเพลงพ้อง......................แผ่วเพ้อละเมอฝัน
คลื่นครวญชวนฝั่งเพ้อ..........ฝันเพลิน ริ้วระลอกซัดหยอกเอิน..........อยู่ซ้ำ ม้วนกลับลับหลังเดิน............ไกลฝั่ง ลมไล่ซัดใหม่ย้ำ..................ลบยัอนรอยทราย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
komyen
|
 |
« ตอบ #96 เมื่อ: 30-10-2006, 14:58 » |
|
ทุนสามานย์ประศาสน์ธนมหิทธิ์ โกงกินมิกลัวผิด...................ผงาด
ล่มล้างชาติทุรกรรมอุบาทว์ตริวิปลาส บังหลวงและฉ้อราษฎร์............มิอาย
ต่างชาติถืออธิปัตย์มหันตมหเลศ บ้านเมืองสิอาเพศ..................พินาศ
กินโกงโยงคณะพรรคและวงศคณะญาติ โลภย้ำขย้ำชาติ.....................ชะล่า
ผลกรรมย้อนจรลีสิหนีละพสุธา โลภหลงและบาปหนา..............สนอง
อุทธาหรณ์ธรราชพินาศลุทุขะครอง คือทางอธรรมผอง...................เผชิญ
(สัททุลวิกกีฬิตฉันท์๑๙)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
komyen
|
 |
« ตอบ #97 เมื่อ: 02-11-2006, 11:27 » |
|
เพ็ญสิบสองเปี่ยม"น้ำ"............."นที"ธาร เต็มปริ่มเนือง"นอง"ละหาน.........ฝั่ง"ห้วย" สองข้าง "ตลิ่ง"แลละลาน...........ริมฝั่ง "ฟาก"นา หลาย"หลาก"ไม้ใบกล้วย...........กลีบร้อยลอย"เรียง"
"ฝาก"รักลอยค่อยคล้อย.............คู่คอย "เคียง"นา ใส่"กระ"ทงลงลอย...................ชิด"ใกล้" จุดกระ"ทง"ประทีปพลอย.........."ค่อย"สว่าง ไหลล่องชล"ลอย" "ไว้"............ฝากร้อยสวาทหวัง
สกัดกระทู้ตลับกล กระทู้อ่านว่า"น้ำนองตลิ่งหลาก ฝากกระทงลอย ไว้ค่อยใกล้เคียง เรียงล่องฟากนที"
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อธิฏฐาน
|
 |
« ตอบ #98 เมื่อ: 02-11-2006, 21:08 » |
|
คืนวันเพ็ญสว่าง ด้วย.............ดวง เดือน น้ำหลากไหล แรง เสมือน..........เนตร น้อง ดารา แห่ง นภาเยือน...............เกินเปรียบ...ปานเอย ดัง รัก คอยเรียกร้อง.................ชิดใกล้กันเสมอ
เรา กุมมือเกี่ยวก้อย................เดินเคียง...ไปนา หวัง ร่วม ฝันมีเพียง................จิต เจ้า ดังคู่ คิด ร้อยเรียง.................คำ ฝาก มีปรารถนา ฝัน..เฝ้า.............ฝ่าข้ามเนินไศล
ด้วยแรงแห่งรัก เราร่วมคิดฝัน เฝ้าคำเจ้าไป เสมอปานน้องดวง
โหดจังเลยค่ะคุณคมเย็น
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-11-2006, 00:37 โดย อธิฏฐาน »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
komyen
|
 |
« ตอบ #99 เมื่อ: 03-11-2006, 15:35 » |
|
กระฉอกฉานผ่านคุ้ง...........แควธาร ระลอกคลื่นผ่านดุจปาน.......รักข้น ไหววนเลาะชลธาร............เกลียวเชี่ยว เนืองนอง ไกลฝั่งเลาะไหลล้น............ท่วมท้นนทีธาร
โคลง ขนด กลอน เริ่มจากเนืองนองวนเข้าเป็นกลอน๘
เนืองนองธารนทีท้นท่วมล้นไหล เลาะฝั่งไกลไหวระลอกกระฉอกฉาน ผ่านคุ้งแควธารข้นเชี่ยวเกลียวธาร ชลเลาะวนคลื่นผ่านดุจปานรัก
สวัสดีครับ คุณอธิฏฐานเป็นคนที่๓ที่เขียนสกัดกระทู้ตลับกล ให้ตั้งกระทู้ให้คล้องจองกันขึ้นก่อน ดูให้เอกโทตรงตำแหน่ง บทแรกสัมผัสซ้ำคำว่าเยือน โหดไหม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|