ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
16-04-2024, 15:46
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  ร้อยรักษ์กวีวรรณ  |  ร้อย รักษ์ กวี วรรณ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: 1 2 [3] 4 5
ร้อย รักษ์ กวี วรรณ  (อ่าน 39518 ครั้ง)
อังศนา
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,860


Can't fight the moonlight!


เว็บไซต์
« ตอบ #100 เมื่อ: 19-11-2006, 11:21 »

อาทิตย์สวัสดิ์ค่ะ คุณคมเย็น และทุกท่าน
อนุสนธิจากคูหาที่ ๘๘ ..หลังจากข้าพเจ้าสูญเสียเหงื่อไป ๕ ปี๊บ
ก็ได้กลบท (ที่ฟังทะแม่งๆ อ่านเองยังงงเอง.. อิอิ) มาทันฉลองคูหาที่ ๑๐๐ ของกระทู้
ดังนี้..

วาด...ถ้อย...แนบ...เล่ห์....เน้น........ให้.....คะนึง
คำ.....พูด....สนิท...เสน่ห์..ถึง.........ทาบ..ซ้ำ
หวาน..ร้อย...มิตร...หลัก....พึง.........ใจ.....ยิ่ง....รัก....(นา)
วาน....จิต....เจ้า....กล่าว...ย้ำ..........รัก.....ต้อง..ภักดิ์..นิรันดร์


วาดคำหวาน วานถ้อย พูดร้อยจิต
แนบสนิท มิตรเจ้าเล่ห์ เสน่ห์หลัก
กล่าวเน้นถึง พึงย้ำให้ ทาบใจรัก
คะนึงซ้ำ ยิ่งต้องภักดิ์ รักนิรันดร์

หมายเหตุ : ข้าพเจ้าฝ่าฝืนกฎเล็กน้อย โดยละเลยคำสร้อย 'นา' เสีย   
เนื่องจากมิได้เป็นคำที่มีเจตนัง ตรงตามฉันทลักษณ์ของโคลงที่ว่า
คำสร้อยของโคลงต้องไม่มีเจตนัง



บันทึกการเข้า

แม้ผืนฟ้า มืดดับ เดือนลับละลาย 
ดาวยังพราย ศรัทธา เย้ยฟ้าดิน (จิตร ภูมิศักดิ์)
KO_man
น้องใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 19


« ตอบ #101 เมื่อ: 19-11-2006, 19:24 »


KO_man นามใหม่น้อง . .. . .. . .. . แดนกวี
สอดส่องไทยเสรี .. . .. .. .. .. .. .. ..เนิ่นน้อย
ขอฝากชื่อเป็นศรี . .. .. . .. .. . .. . . อีกหนึ่ง เพื่อนเอย
ในบอร์ดลานรักร้อย .. .. . .. .. .. ... .ช่วยร้อยกวีวรรณ




บันทึกการเข้า

สุวรรณภูมิเที่ยงแท้ .. . .ลานสวรรค์
แม้วท่านรีบเสกสรร ... . เปิดให้
บางบ่อแหล่งเพาะพันธุ์ . ปลาสลิด
ยังอุดหูบ่ได้ .. .. .. .. ..จึ่งใกล้หายสูญ
อธิฏฐาน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,912


รักษาประเทศชาติ เป็นหน้าที่ของชาวไทยทุกคน


« ตอบ #102 เมื่อ: 19-11-2006, 22:33 »






เพียงพึงใจบทถ้อย............คำวลี
เลยรักษาวรรณกวี.............ร่วมร้อย
หวังจารจดไมตรี...............บนบอร์ด
สานถักลำนำถ้อย..............หนึ่งนั้นเคียงขวัญ



สวัสดีค่ะคุณอังศนา คุณโคแมน กลบทของลุงคมเย็นอธิฎฐาน ยังคิดไม่ออกเลยค่ะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-11-2006, 22:38 โดย อธิฏฐาน » บันทึกการเข้า

หยุด...สัมปทานอุทยานแห่งชาติ
http://www.oknation.net/blog/sandstone
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #103 เมื่อ: 21-11-2006, 09:12 »

รักรึงสาย บ่ ร้าง เสกสร้างรัก
พิศพักตร์ มิเว้นว่าง ห่างหาย
ว่าพร้องพาน รานคล้ายคว้าง มัดใจกาย
แนบนานร้าย ยิ่งเฟ้นสุด จิตประคอง



รักร้างพิศว่างพร้อง   คว้าง แนบนาน
รึงเสกพักตร์ห่างพาน มัดร้าย
สายสร้าง มิหายราน ใจยิ่งจิต
บ่ รักเว้นว่าคล้าย  กายเฟ้น สุดประคอง



ผิดถูกช่วยตรวจทานด้วยครับ                                                                 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-11-2006, 14:46 โดย Q » บันทึกการเข้า

komyen
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 427


« ตอบ #104 เมื่อ: 21-11-2006, 11:23 »

"จวบ"สิ้นฟ้าสิ้นดินไม่สิ้น"รัก"
ถึง"โลก"จักจมร้างรัก"ยัง"มั่น
แม้ชีพ"ดับ"ฤดีหมาย"มั่น"นิรันดร์
รักไม่ดับ "ลับ""ฝัน"ทุกวันวาร
หวังฝากใจ"ไฝ่""ดาว"เมื่อคราวไร้
รักจริง "ใจ"ไม่สุด"สิ้น"รักหวาน
รัก "มั่น"คงปลงใจใน"ดวง"มาน
"คง"คู่กาลนานแข่งแสงสูรย์"จันทร์"

กระทู้ทแยงมุมกากะบาท "จวบโลกดับลับดาวสิ้นดวงจันทร์
รักยังมั่นฝันไฝ่ใจมั่นคง"
สวัสดีทุกท่านครับ  ขอบคุณคุณอังสำหรับกระทู้ที่๑๐๐  เวลาเขียนกลบทแปลกๆ
ผมเองก็มักรู้สึกว่ามันอ่านแล้วทแม่งๆบ่อยๆ
หลานอาทิดลองกลอนกระทู้ทแยงมุม  ใหม่ๆเอามุมเดียวก่อน
คุณโคแมนน้องใหม่ผมว่าคงเป็นมือเก่าฝีมือดี
คุณQลองศึกษาไปเรื่อยๆนะครับ
บันทึกการเข้า
อธิฏฐาน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,912


รักษาประเทศชาติ เป็นหน้าที่ของชาวไทยทุกคน


« ตอบ #105 เมื่อ: 21-11-2006, 14:35 »



มีเธอเป็นแสงสว่างอยู่กลางทรวง




"มี"ตะวันส่องนภาเวลาเช้า
มี"เธอ"เฝ้าติดตามยามฉันล้า
มีเมฆ"เป็น"ร่มสวยบังกายา
มีดารา"แสง"ผ่องส่องนำใจ

มีแสงเทียนสุก"สว่าง"วางในห้อง
มีนกร้องขันคู"อยู่"เคียงใกล้
มีดอกไม้บานสะพร่างณ."กลาง"ไพร
มีหัวใจคนรักสลัก"ทรวง"



ขอด้านเดียวก่อนค่ะ

บันทึกการเข้า

หยุด...สัมปทานอุทยานแห่งชาติ
http://www.oknation.net/blog/sandstone
komyen
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 427


« ตอบ #106 เมื่อ: 08-12-2006, 11:45 »

เพียงพิศพักตรอนงค์..................ดุจวงพระจันทร์เพ็ญ
เพียงแรกประจักษ์นยนะเห็น........ผิว์จะเข่นฤทัยวาย

เลอโฉมประโลมรติพิลาส............นุชนาฏดนูหมาย
แรกเห็นระทึกหทัยะชาย.............ระอุคล้ายพระเพลิงผลาญ

เพียงชมภิรมย์ปิติพินิจ................มนะคิดมโนซ่าน
เพียรหมายภิปรายพจนกานท์........สิละลานและลืมหลง

เธอชายชม้ายนยน์ประสาน...........สิสะท้านและงุนงง
ดังชีพจะปลิดชิวะจะปลง..............บมิคงมิกลับคืน

วันใดมิเห็นสิหฤทัย............ดุจไหม้เพราะไฟฟืน
ฝืนทนกมลทุขะฝืน.............ระยะยืนก็ยากเย็น

ฉันใดจะสมรติประสงค์...............ประลุคงจะยากเข็ญ
เปรียบดังกระต่ายกะศศิเพ็ญ........ฤจะเห็นถวิลหา

ต่ำต้อยและด้อยกลธุลี............บมิมีมิเทียมหน้า
ไม่กล้าจะหมายนภผกา...........จำละลามิกล้าหวัง

เพียงเห็นก็สุขหฤทัย............ชิวะไซร้ก็พอยัง
เพียงมองก็พอรติประทัง.........มิประดังซะคลั่งตาย

ไม่หวังจะมีรติสนอง...........มนะตรองสะกดกาย
เพียงพลีฤดีดนุถวาย...........บมิหมายจะได้ครอง

(วสันตดิลกฉันท์๑๔)

เมื่อวานเข้าwebได้แป๊บเดียว  รู้สึกwebจะลุ่มๆดอนๆ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-12-2006, 16:11 โดย komyen » บันทึกการเข้า
อังศนา
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,860


Can't fight the moonlight!


เว็บไซต์
« ตอบ #107 เมื่อ: 11-12-2006, 09:04 »

จันทร์สวัสดิ์ค่ะ คุณคมเย็น และ ทุกท่าน

เว็บเราลุ่มลุ่มแล้ว..........ดอนดอน
ขณะล่มต้องตะลอน............ตุหรัดเร้น
ยังเป็นห่วงอาทร.................เทียวแวะ
พอเปิดได้ใจเต้น.................รีบแต้มตะลุยเขียน

เพียรผลุบโผล่เป่าเพี้ยง.......พึมพำ
บางช่วงบ้านช่างงำ..................เงียบแท้
แต่ยอมอดทนระกำ...................จนกว่า
เว็บมาสเตอร์จักแก้...................กลับให้บอร์ดเสถียร

พักนี้.. เสรีไทยเหมือนเรือฝ่าพายุค่ะ โคลงเคลงไปมา 
ผลุบๆ โผล่ๆ ตามยถาคลื่น โชคยังดีที่ไม่อับปาง
..ข้าพเจ้ารอเวลาให้พายุไซเบอร์สงบด้วยใจอาทร
 

บันทึกการเข้า

แม้ผืนฟ้า มืดดับ เดือนลับละลาย 
ดาวยังพราย ศรัทธา เย้ยฟ้าดิน (จิตร ภูมิศักดิ์)
komyen
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 427


« ตอบ #108 เมื่อ: 19-12-2006, 15:20 »

ใบไม้เหลืองร่วงพลิ้ว..........ปลิวลอย
ในแผ่นดินดงดอย..............ดาษพื้น
จากยอดสุดจักสอย............ลงสู่   ดินนอ
ผืนป่าชัฏร่มชื้น.................ชอุ่มไม้ใบบัง

ใบไม้ร่วงหล่นแล้ว........ลงดิน
เสียงเงียบสงัดบ่ยิน..........สงบแท้
ถมซากเปื่อยเป็นอิน-...........ทรียวัต   ถุนา
กลายกลับบำรุงแล้.................แหล่งต้นวนเวียน

วัฏจักรธรรมชาติแท้........สมดุลย์
พืชสัตว์ผลัดม้วยหมุน..........หมดสิ้น
สลายเวียนเปลี่ยนเนื่องหนุน.......ชีพใหม่
แม้ร่างลับดับดิ้น.........................เสื่อมสิ้นสังขาร

ทุกชีพใช่อยู่ยั้ง.........ยืนยง
คนบ่มีใครคง...............คู่ฟ้า
สักวันย่อมปลิดปลง...........ปราศค่า
ลับร่างจากโลกหล้า..............แหล่งพื้นอาศัย

พืชสัตว์สลายหมดสิ้น.........อินทรีย์
ประโยชน์ยังคงมี............ไม่สิ้น
คนเมื่อดับชีวี...............ชีพหมด   สิ้นนา
ล่วงลับเหลือส่วนชิ้น.....สู่ชั้นเชิงตะกอน

ไฟฟอนรอนร่างไหม้.........หมดไป
ดีชั่วปรากฏใน.............ภพนี้
ยังประโยชน์อันใด.......แก่โลก   เล่านา
ชนรุ่นหลังอาจชี้........เช่นได้ดูเห็น

สวัสดีครับคุณอัง  ช่วงนี้อยู่ในภาวะคิดอะไรไม่ค่อยออก
บทแรกคล้ายของคนอื่น  บท๔คล้ายสยามมานุสติ
บันทึกการเข้า
อังศนา
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,860


Can't fight the moonlight!


เว็บไซต์
« ตอบ #109 เมื่อ: 19-12-2006, 18:06 »

มะแอ๋.. ขนาดคิดไม่ค่อยออกนะคะเนี่ย 
ไหลมาเทมาตั้ง ๖ บท.. อิอิ

แมงเม่าเห็นหุ้นวูบ........คงหวิว
อาจสั่นเป็นปลาซิว...........สะเด็ดน้ำ
ดัชนีแตะพื้นปลิว..............อ่อนเปียก
หนักแน่นคงไม่ช้ำ............ช่วยลุ้นให้ฉลุย

ข่าวตลาดหุ้นร้อนฉ่า.. ข้าพเจ้าพลอยตื่นเต้น 
ทั้งๆ ที่ไม่กระดิกหูเรื่องหุ้นซักกะติ๊ด
..งานนี้รัฐบาลเจอทั้งด่า ทั้งสมน้ำหน้า 


บันทึกการเข้า

แม้ผืนฟ้า มืดดับ เดือนลับละลาย 
ดาวยังพราย ศรัทธา เย้ยฟ้าดิน (จิตร ภูมิศักดิ์)
komyen
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 427


« ตอบ #110 เมื่อ: 21-12-2006, 13:13 »

หวยเงินหายงกหุ้น..........งาบหิว
เปิดตูดเปิดตัวปลิว...........ต่างป้อง
ยลสยองสุดแสยงสยิว.......แสนยั่น
เราห่วยลุ้นหุ้นร้อง............หดแล้วหายเลย

โดนหุ้นทุบ  สลับไม่ค่อยถูก 
สวัสดีครับคุณอัง
บันทึกการเข้า
komyen
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 427


« ตอบ #111 เมื่อ: 27-12-2006, 16:00 »

เรื่อยริ้วระลอกชลระริน...........ขณะยินเซาะหินแผ่ว
พงพฤกษ์พนัสระดะแนว..........สุตะแว่วนทีไหล

กรวดดุจรัตนะประดับ...........สีระยับระยิบใส
ทรายสีสะท้อนรัศมิไกล.........ดุจเพชรัตน์ราย

ริมฝั่งสะพรั่งบุปผบาน...........พิศปานวิมานพราย
ในธารปทุมบุษปหมาย.........กรกรายกระหวัดดึง

กลางไพรพนาติณขจี...........จรลีแมลงผึ้ง
ปีกร่อนกระพือภมรอึง...........ประลุถึงผกาปอง

ฟังเสียงคณาสกุณะแจ้ว...........ไพเราะแว่ววิหคร้อง
ดั่งเพลงประสานดุริยะพร้อง........เพราะสนองประลองเสียง

แสงรัศมีสุริยะฉาย...............วนพรายประภัสสร์เพียง
แสงทองอร่ามรุจิระเรียง.........ระอุอุ่นละมุนตา

ชมธรรมชาติชลประกาย.........บมิคลายคนึงหา
เคยคลอพนอวรยุพา...............ณ.ทิวาและราตรี

ร่วมชมภิรมยะหทัย.............พิสมัยสมานศรี
ไกลห่างมิร้างอภิรดี............จะทวีตลอดกาล

(วสันตดิลกฉันท์๑๔)
บันทึกการเข้า
เก็ดถวา
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 2,753



« ตอบ #112 เมื่อ: 27-12-2006, 16:03 »


เย้... ได้อ่านฉันท์แล้วววว... งึมงึม

ชอบมากๆ ค่ะคุณลุงคมเย็น.. ขอบพระคุณที่แปะไว้ให้อ่านค่ะ


สวัสดีค่ะคุณลุงคมเย็น คุณลุงเที่ยวสนุกมั้ยคะ?
บันทึกการเข้า

Avada Kedavra!!!!!!!
komyen
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 427


« ตอบ #113 เมื่อ: 29-12-2006, 15:56 »

ปีใหม่ให้สุขท้น............ทุกข์คลาย
แสนสนุกนั่งลุกสบาย.........บ่ไข้
หวังใดดั่งใจหมาย.................ทุกสิ่ง
ประสพสุขสำเร็จได้...................ดั่งคล้ายเสกสรร

วันใหม่ให้ผ่องแผ้ว...........พันทวี
แสนสุขเกษมเปรมปรีด์...........ท่วมท้น
ทรัพย์สมบัติมากมี.....................มิขาด   มือนา
มีเยอะอย่าโดนปล้น.........................ปลอดพ้นโจรภัย

สวัสดีปีใหม่ทุกท่าน   หนูเก็ดชอบแล้วทำไมงึมงึม
บันทึกการเข้า
komyen
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 427


« ตอบ #114 เมื่อ: 09-01-2007, 15:02 »

คนเกิดดับลับแล้ว............ชีพสลาย
สุขทุกข์โศกเปลี่ยนกลาย.........ดั่งบ้า
คืนวันผ่านฤาวาย........................เวียนว่าย  วนนอ
ห้วงวัฏผ่านนานช้า...........................ชีพใต้เวทนา

ตัณหาปรุงแต่งให้..........ใหลหลง
ชังรักยากจักปลง...........ปลิดได้
เหมือนมืดบอดมึนงง........งกเงิ่น
ยากอิ่มยิ่งป้อนให้............อยากได้อยากมี

ผีสุขผีโศกเศร้า.........เข้าสิง
ยากรับรู้ความจริง.........แจ่มแจ้ง
ตัดชังรักอย่าประวิง...........จิตว่าง
ทุกข์โศกหายเหือดแห้ง...........ห่างพ้นสงสาร

เนื้อความของท่านพุทธทาส
บันทึกการเข้า
komyen
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 427


« ตอบ #115 เมื่อ: 12-01-2007, 12:47 »

ลำตะเพินเนินตะพักธารหักเลี้ยว
ในดงเปลี่ยวไพรป่าพฤกษาสูง
พุ่มกอไผ่ไกรกร่างยอดยางยูง
เคยเห็นฝูงไก่ป่าผวาบิน

ทางคดเคี้ยวสะพานแคบสายน้ำคลั่ง
ไหลประดังถั่งโถมโหมไม่สิ้น
เมื่อหน้าน้ำฉ่ำชลวนไหลริน
เมื่อแล้งสิ้นชลสายเห็นทรายชัน

นทีธารผ่านถิ่นแผ่นดินเปลี่ยว
ชลไหลเลี้ยวเลาะฝั่งเคยนั่งฝัน
อยากลอยล่องท่องนทีทุกวี่วัน
เคยสุขสันต์สมัยก่อนตอนวัยเยาว์

คนผ่านทางกลางถิ่นแผ่นดินเปลี่ยว
เดินลัดเลี้ยวเลาะเวียนทางเกวียนเก่า
พักดื่มน้ำลำตะเพินเพลินร่มเงา
เคยหลบเฝ้าฝูงปลาคราแดดแรง

ยอดเรียวไผ่ไหวลมที่พรมผ่าน
น้ำลำธารสะท้อนสูรย์ที่ส่องแสง
เดินทางต่อห่อของเข้าเฝ้าจัดแจง
หลบแดดแล้งร่มไม้ตามรายทาง

แมลงปอล้อลมที่พรมมผ่าน
ดอกไม้บานตระการตาฟ้าสว่าง
หอมระรินกลิ่นผกามาจางจาง
ก้าวเดินห่างใจวางไว้ไม่ลืมเลือน

ลำตะเพินอยู่เลยลาดหญ้า กาญจนบุรี
สมัยเด็กเวลาจะไปไร่กับพ่อต้องผ่านทางนี้

บันทึกการเข้า
morning star
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,119


don't let them make up your mind


« ตอบ #116 เมื่อ: 13-01-2007, 21:58 »

ร้อยใจร่ายเรียงเพียงเพราะหวัง
เติมพลังพรรณาภาษาศิลป์
รักษาไว้กวีอยู่คู่แผ่นดิน
วรรณกรรมไม่เคยสิ้นจากถิ่นไทย
ฟังแร็ปร่ำพร่ำสำเนียงเสียงฝรั่ง
ให้มานั่งทบทวนว่าควรไหม
เออกลอนเราก็มากล้น ไม่สนใจ
เพราะผู้ใหญ่ ไม่ร่วมด้วย ช่วยเยาวชน
ไม่คิดค้น สรรค์สร้าง แนวทางให้
ปล่อยเด็กไป แล้วค่อยด่า ก็น่าสม
เด็กไปหลง ของฝรั่ง มานั่งตรม
วัฒนธรรม นอกถาโถม ไทยล้มครืน
เรายังมี ของดี ๆ ให้ภูมิใจ
เป็นหน้าที่ของุผู้ใหญ่ให้ช่วยฟื้น
ร่วมสร้างรากของไทยให้ยั่งยืน
ปลุกศิลป์ไทยให้ตื่นคู่ผืนดิน
บันทึกการเข้า

อย่าเดินตามใคร เพราะเรามีจุดมุ่งหมายของเราเอง
komyen
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 427


« ตอบ #117 เมื่อ: 15-01-2007, 15:41 »

ร่วมสืบสานสร้างสรรค์วรรณศิลป์
รักษ์กวินทร์ไว้อยู่คู่สยาม
จรรโลงใจให้สุขทุกโมงยาม
ชัง-ชอบตามต่างคิดต่างจิตใจ

ยากหาครูรู้กลอนให้สอนสั่ง
คอยปลุกฝังสั่งสมบ่มนิสัย
ให้รู้รักษ์อักษรกลอนโคลงไทย
ศิลปะเป็นไปเฉพาะตัว

สวัสดีครับคุณแชมเปญ
บันทึกการเข้า
ภูดิน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 232


Where the mind is freedom


« ตอบ #118 เมื่อ: 19-01-2007, 22:17 »

คารวะคุณคมเย็นเห็นวาที...............ร้อยวจีสีสันกลั่นภาษา
สำนวนกลอนสอนสั่งฟังรู้ว่า..............อันคุณค่าบทกวีศรีวงวรรณ

คือชั้นเชิงรจนาภาษาศิลป์..............ดั่งมาลินกลิ่นหวานมาสานฝัน
ใครได้ชมสมใจในเชิงชั้น.................อภิวันท์น้อมรับนับถือเอย

สวัสดีค่ะคุณคมเย็น.....ขอบพระคุณที่แวะมาทักทายด้วยบทกลอนเป็นคนที่สอง
ขอเป็นแฟนคลับห้องร้อยรักษ์กวีวรรณ ค่ะ  โปรดช่วยชี้แนะด้วยค่ะ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-01-2007, 22:19 โดย ดินหอม » บันทึกการเข้า

The silkworm  weaves  its  cocoon  and  stays  inside, therefore  it is  imprisoned;
the  spider  weaves  its  web  and  stays  outsides, therefore  it  is  free. (chinese proverb)

ตัวไหมชักใยไหม  แล้วอยู่ในรังไข่  จึงถูกจองจำ
แมงมุมชักใยแล้วอยู่ภายนอก  จึงเป็นอิสระ
(กรุณา กุศลาสัย ..."คำคมบ่มชีวิต")
morning star
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,119


don't let them make up your mind


« ตอบ #119 เมื่อ: 19-01-2007, 22:59 »

ร่วมสืบสานสร้างสรรค์วรรณศิลป์
รักษ์กวินทร์ไว้อยู่คู่สยาม
จรรโลงใจให้สุขทุกโมงยาม
ชัง-ชอบตามต่างคิดต่างจิตใจ

ยากหาครูรู้กลอนให้สอนสั่ง
คอยปลุกฝังสั่งสมบ่มนิสัย
ให้รู้รักษ์อักษรกลอนโคลงไทย
ศิลปะเป็นไปเฉพาะตัว

สวัสดีครับคุณแชมเปญ

 
คารวะท่านอาจารย์
บันทึกการเข้า

อย่าเดินตามใคร เพราะเรามีจุดมุ่งหมายของเราเอง
komyen
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 427


« ตอบ #120 เมื่อ: 22-01-2007, 11:05 »

แหะ แหะ อย่าเรียกอาจารย์เลยครับ สวัสดีทั้ง๒ท่านครับ........

สวัสดีคุณแชมเปญคุณดินหอม
ต่างนอบน้อมถ่อมตนจนผมเขิน
เขียนกลอนกันทุกวันไปได้เพลิดเพลิน
อย่าสรรเสริญเกินไปทำให้กลัว

เพิ่งเขียนได้ไม่กี่เดือนเหมือนกันแหละ
ไม่ชี้แนะเพียงแปะกลอนร่อนไปทั่ว
คนเก่าเก่าเขาเซียนเขียนพันพัว
ส่วนผมมั่วนัวเนียจนเพลียใจ
บันทึกการเข้า
komyen
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 427


« ตอบ #121 เมื่อ: 25-01-2007, 11:59 »

"ร้อย"เรียงคำจำนรรจ์สรรอักษร
หวัง"รักษ์"กลอนกาพย์ฉันท์สรรเสกสร้าง
ลิขิต "กวี"พลีใจรักไม่จาง
มิเคยร้าง"วรรณ"รสบทโคลงกลอน

หมายผดุงมุ่ง"รัง"สฤษดิ์สาร
ให้ตระการงานฝัน"สรรค์"อักษร
หมายเรียงร้อยถ้อยวจี"กวี"วร
ให้สถิตสถาพรบทกลอน"กานท์"

กระทู้ทแยงมุม"ร้อยรักษ์กวีวรรณ  รังสรรค์กวีกานท์"
บันทึกการเข้า
อธิฏฐาน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,912


รักษาประเทศชาติ เป็นหน้าที่ของชาวไทยทุกคน


« ตอบ #122 เมื่อ: 27-01-2007, 11:39 »




ร้อยอักษรกล่าวถ้อย.............สวัสดี
เหินห่างโคลงคำวลี.............ใช่ร้าง
หวังผองเพื่อนคงมี............ความสุข
เพียงพจน์เราเสกสร้าง...สิ่งนั้นดีเสมอ

รักษ์ภาษาร่วมด้วย..........ช่วยเขียน
กวีใหม่ยังคงเรียน................ยากรู้
เพราะอยากเก่งจำเพียร......หมายมุ่ง
อรุณบ่ายหมายกอบกู้..แต่งไว้วาดฝัน

สวัสดีค่ะคุณคมเย็น และทุกท่าน คิดว่าเว็บปิดไปแล้วเสียอีก
บันทึกการเข้า

หยุด...สัมปทานอุทยานแห่งชาติ
http://www.oknation.net/blog/sandstone
komyen
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 427


« ตอบ #123 เมื่อ: 29-01-2007, 14:43 »

ร้อยอักษรกลอนกวนชวนใจกลุ้ม
เห็นตะคุ่มลุงคมมาชมหลาน
หนูอาทิดยังติดใจหายไปนาน
เขียนกลอนกานท์หวานคำลำนำวอน

เก่งอยู่แล้วแจ๋วจริงยิ่งเก่งขึ้น
ลุงคมมึนฝืนเขียนขยักขย่อน
กลางวันฝืนกลางคืนเมารีบเข้านอน
ตื่นเขียนกลอนต้อนรับหลานกลับมา

สวัสดีหนูอาทิด
บันทึกการเข้า
komyen
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 427


« ตอบ #124 เมื่อ: 10-02-2007, 14:44 »

รุ่งอรุณอุทัยอร่ามนภา
ระเรืองระเรื่อณ.ศีขรา............นิศาจร

แสงสว่างกระจ่างวนาสะท้อน
นทีระเรื่อสุรียะอ่อน...............ลออตา

เขียวตฤณชาติชอุ่มอุรา
กระไออุสุมณ.ยามอุษา..........ทิวาวาร

มวลภมรวะว่อนแวะเวียนพนานต์
เลาะเล็มตฤปสุคนธมาลย์.........ละลานตา

หมู่วิหคระเริงภิรมย์นภา
วะแว่วจะแจ้ววะว่อนถลา..........คคนานต์

คีตกานท์สกุณประเลงประสาน
ดุรียศัพททิพวิมาน.................เสมือนกัน

แต่ละชีพประสมประสานตะวัน
อุษาสว่างกระจ่างสิพลัน...........มุผันผาย

เพียรเสาะภักษหารประทังกระหาย
มิเช่นมนุษย์สะสมฤหมาย..........สนุกล่า

วัฏจักรพิภพมิคลาดมิคลา
เผชิญภยันตรายทิวา...............และราตรี

สรรพสัตว์อุบัติและกลายธุลี
อสุภสลายจะเป็นฉนี้................นิรันดร์ไป

ธรรมชาติสะอาดพิลาสพิไล
อนิจจะแฝงรหัสและนัย..............นิรันดร

(อีทิสังฉันท์๒๐)
บันทึกการเข้า
komyen
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 427


« ตอบ #125 เมื่อ: 17-02-2007, 15:49 »

ดูดวงเดือนเด่นฟ้า............ดาดาษ    ดาวแล
เกินกล่าวพราวพิลาส........จรัสจ้า
เพ็ญโสมผ่องส่องสาด.......สวยทั่ว
นภาแจ่มนวลตา หล้า.......-สว่างเพี้ยงกลางวัน

เรไรหรีดกรีดร้อง............ทำนอง    เพลงแล
ต่างเปล่งประเลงลอง.......กระชั้น
บางคราแผ่วเสียงผอง......สงัด
พลันสงบงันนั้น...............สลับฟื้นกลับดัง

โคลง๒บทเรียงเป็นกลอน.....

ดูดวงเดือนเด่นฟ้าดาดาษดาว
แลเกินกล่าวพราวพิลาสจรัสจ้า
เพ็ญโสมผ่องส่องสาดสวยทั่วนภา
แจ่มนวลตาหล้าสว่างเพี้ยงกลางวัน

เรไรหรีดกรีดร้องทำนองเพลง
แลต่างเปล่งประเลงลองกระชั้น
บางคราแผ่วเสียงผองสงัดพลัน
สงบงันนั้นสลับฟื้นกลับดัง
บันทึกการเข้า
อธิฏฐาน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,912


รักษาประเทศชาติ เป็นหน้าที่ของชาวไทยทุกคน


« ตอบ #126 เมื่อ: 17-02-2007, 22:03 »



แสงตะวันรวีจะลับนภา
พระพายสะพัดระดะลดา...........ก็แกว่งไกว

นกขมิ้นจะบินละถิ่น ณ.ไพร
กมลเสมือนระอุกระไร.............มิเว้นวัน


แค่นี้ก่อนค่ะลุงคมเย็น กำลังมึนอยู่




บันทึกการเข้า

หยุด...สัมปทานอุทยานแห่งชาติ
http://www.oknation.net/blog/sandstone
komyen
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 427


« ตอบ #127 เมื่อ: 18-02-2007, 18:24 »

หนูอทิดตะถานอุส่าห์แวะมา
สวัสดิ์และดีจะมีสุขา............ตลอดไป

แสงรวีจะลับนภาพิไล
สุราฤเบียร์อร่อยจุใจ............จะรีบกิน

ลุงคมมั่วแหลก
บันทึกการเข้า
komyen
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 427


« ตอบ #128 เมื่อ: 26-02-2007, 15:34 »

โลกในสภาพแวดล้อม..........มัวมน
โลกครอบคลุมผู้คน.............ยากพ้น
ตัณหากิเลสราคะปน............เป็นพิษ
ควรหยุดคิดเสาะค้น.............ใคร่รู้แก่นสาร

ผ่านชีวิตคิดค้น.........หนทาง
ละซึ่งตัวตนวาง...........ว่างเว้น
มองโลกอย่างเป็นกลาง......กอปรกิจ
เรียนโลกรู้เลือกเฟ้น..............ฝึกไว้ไฝ่ดู

รู้ทางรอดอยู่ด้วย.......ปัญญา
รู้แบ่งปันเมตตา.........ต่างเอื้อ
รู้ดับทุกข์ตัณหา.........ห่างกิเลส
รู้จักพอก่อเกื้อ...........กิจไซร้สุขเกษม

ยึดมั่นเต็มอยู่ด้วย..........ตัวกู
ถือมั่นมืดบอดดู............ดั่งบ้า
กินกามเกียรติอดสู.........พาเสื่อม
เพียรหลุดพ้นแจ่มจ้า.......สว่างแจ้งจินตนา

หาเหตูแห่งทุกข์นั้น........ตัณหา
ดับที่เหตุเจตนา..........นั่นไซร้
ทำให้จิตอิสระพา.......พบสุข
ดับเหตุดับทุกข์ได้....ดับสิ้นตัวตน
บันทึกการเข้า
komyen
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 427


« ตอบ #129 เมื่อ: 02-03-2007, 14:55 »

เรียนรู้ดูอย่าง     สุรางคนางค์     วางแบบแยบยล
เจ็ดวรรคจักจำ     เรียงคำค่อยค้น      เพียรนึกฝึกด้น      ครบวรรคสี่คำ

เขียนต่อพอได้      สัมผัสจัดไว้     จงใช้ใจจำ
ขอบุญคุณครู       รอบรู้เรียนร่ำ     หมื่นแสนแม่นยำ     เลิศล้ำคำกลอน

ภุมรินบินมา     เสพรสมาลา    สุคนธาเกสร
สกุณาหากิน     โผผินบินร่อน     ปีกกรายว่ายฟ้อน     ร่อนฟ้าถลาลม

รุ่งสางสว่างแจ้ง     อุทัยไขแสง     สีแดงดวงกลม
น้ำค้างคืนหนาว     พร่างพราวประพรม     อุสุมผสม     ลมพัดลอยไอ

รุ่งอุษาสาง     หมอกขาวค่อยจาง     หว่างดงพงไม้
ส่ำสัตว์ฟื้นตื่น     หยัดยืนย่างไป     ทั่วแคว้นแดนไพร     สดใสชื่นบาน

งามล้ำธรรมชาติ     สดสวยสะอาด    ดังวาดสะคราญ
ชมชื่นรื่นรมย์     สุขสมสำราญ     สร้างจินตนาการ     เบิกบานวิญญา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-03-2007, 15:18 โดย komyen » บันทึกการเข้า
อธิฏฐาน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,912


รักษาประเทศชาติ เป็นหน้าที่ของชาวไทยทุกคน


« ตอบ #130 เมื่อ: 03-03-2007, 12:57 »





กาพย์สุรางคนางค์
ดูตัวอย่างก็ยิ่งงง
เขียนแล้วฤทัยปลง
ต้องถอนใจกระไรครู

วันเพ็ญมาฆะมาศ
แสนประหลาดมีราหู
อมจันทร์ให้ใครดู
เขานอนหลับมิรับความ

ทำบุญแบ่งกุศล
นิรดลโรคโลภลาม
สมสุขทุกโมงยาม
ชนะชัยจากไพรี

คิดทองให้ได้ทอง
ทรัพย์สินกองท่วมทวี
ยศศักดิ์จักเปรมปรีด์
ทุกเสรีไทยทั่วกัน


ดูแล้วงงค่ะลุงคม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-03-2007, 19:44 โดย อธิฏฐาน » บันทึกการเข้า

หยุด...สัมปทานอุทยานแห่งชาติ
http://www.oknation.net/blog/sandstone
komyen
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 427


« ตอบ #131 เมื่อ: 03-03-2007, 13:45 »

สวัสดีหนูอาทิด  กาพย์สุรางคนางค์ก้มี๗วรรค   วรรคละ๔คำ  ดูบท๒รับสัมผัส
จากคำว่าคำในบท๑ด้วยคำว่าจำ  สัมผัสระหว่างวรรคคือ ร่ำ  ยำ และคำว่าได้กับไว้
ในวรรค๑กับ๒  นอกนั้นก็พยายามให้คล้องจองกันไว้  อธิบายแบบมั่วๆได้แค่นี้

ลองวสันตดิลกฉันอาหารดูบ้าง

เข้าครัวจะหยิบกระทะตะหลิว........กระเพาะหิวจะเสาะหา
ของกินมิมีมิปะอุหวา..................เถอะจะมาประสมปรุง

หยิบครกกะสากกะปิกระเทียม.......กะจะเตรียมตำบักหุ่ง
เจอพริกมะนาวมะระคละยุ่ง...........มะละกอสิยากหา

ครกโขลกกระเทียมกะปิผสม.........กะทิต้มตะไคร้ข่า
พริกแห้งมะกรูดมะระกะปลา...........และน้ำปลาปะปนไป

เคี่ยวเดือดและสุกขมิขมัน.............กะทิมันอร่อยใหญ่
แกงอ่อมน่ะปลากะมะระใส่............มะหม่ำไวมิต้องรอ

ผักสดมะเขือกระเปาะเหลาะจิ้ม.......กะปิชิมน้ำพริกต่อ
ไข่ทอดชะอมกระแบะก็พอ.............กระเดาะปากเพราะอยากชิม

ปลาทูสิแบ่งกระบิมิช้า.................เถอะจะมากะผักจิ้ม
กินคนละหน่อยนะเยอะจะอิ่ม...........และจะลิ้มกะของหวาน

อิ่มแล้วมิช้ากระวิกระวาด...............ทำสะอาดมะล้างจาน
ล้างช้อนกะส้อมกระทะมินาน..........ประลุงานเพราะช่วยกัน

แกงอ่อมมะระ  เปิดตำรากับข้าวเขียนเชียวนะนี่  ลองไปทำดูได้
ส่วนคนเขียนขอไปต้มมาม่ากินดีก่า


บันทึกการเข้า
อังศนา
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,860


Can't fight the moonlight!


เว็บไซต์
« ตอบ #132 เมื่อ: 03-03-2007, 14:29 »

อิอิ.. ของในครัวนี่ลหุเยอะดีนะคะ 

บันทึกการเข้า

แม้ผืนฟ้า มืดดับ เดือนลับละลาย 
ดาวยังพราย ศรัทธา เย้ยฟ้าดิน (จิตร ภูมิศักดิ์)
อธิฏฐาน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,912


รักษาประเทศชาติ เป็นหน้าที่ของชาวไทยทุกคน


« ตอบ #133 เมื่อ: 03-03-2007, 20:40 »


ฉันอาหารต่อจากของลุงคมค่ะ


แกงส้มกะปลาและมะละกอ..................กระทะรอระอุปลง
พริกแดงขมิ้นผสมลง.......................รสเปรี้ยวมะนาวเจือ

แกงอ่อมอร่อยมะระใส่.......................กะทิใช้และมีเกลือ
ไข่เจียวก็ฟูกินมิเหลือ............................อึดอัดอุทรกาง



ลุงคมกินมาม่า ยังได้ถึงขนาดนี้
บันทึกการเข้า

หยุด...สัมปทานอุทยานแห่งชาติ
http://www.oknation.net/blog/sandstone
komyen
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 427


« ตอบ #134 เมื่อ: 03-03-2007, 21:55 »

อาหารคาวอิ่มแล้ว..........ล้างปาก
ลอดช่องแตงไทยหาก..........กะทิพร้อม
ข้าวเหนียวทุเรียนอยาก.............ลองหน่อย
รีบจัดเตรียมช้อนส้อม...................ใส่ถ้วยรับประทาน

สวัสดีครับคุณอัง คุณอาทิด  วันหลังต้องให้คุณอังเขียนตำราอาหารในร้านเป็นโคลง
มาอ่านกันบ้าง
บันทึกการเข้า
komyen
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 427


« ตอบ #135 เมื่อ: 16-03-2007, 16:13 »

เหินหาวเวหาศน์ห้อง..........วิหคไพร
ลอยล่องลมบนไหว............ว่อนร้อง
สู่ฟากฝั่งฟ้าไกล.................เกินไฝ่   ฝันนอ
โบยโบกบินเหนือท้อง..........ถิ่นห้วงชลธาร

ม่านเมฆขาวทั่วฟ้า..........ฟากสวรรค์
กางปีกอาบแสงตะวัน.......ว่ายฟ้อน
ผ่านรุ้งหลากสีสัน.............สวยสด
มหรรณพหนาวฤาร้อน........มุ่งข้ามสู่ฝัน
 
อันมนุษย์ขาดปีกไร้...........แรงบิน
มิเช่นนกผกผิน.................แผ่นฟ้า
เพียงความคิดจิตจิน..........-ตนาวาด    หวังนา
อาจร่อนพ้นแหล่งหล้า.........ลุห้วงเวหน

บนเส้นทางย่างเท้า...........ก้าวไป
อาจสุขทุกข์เข็ญใจ............ยากแค้น
พลังจินต์แกร่งหวังไกล........เกินขอบ   ฟ้านา
บินเพื่อฝันมั่นแม้น..............มุ่งข้ามนภาลัย

สุดแรงใจไฝ่ฟ้า..........ฝั่งไกล
ติดปีกฝันมั่นไป..........ไป่ท้อ
ข้ามอรรณพเนินไศล.....สู่ฝั่ง
มิหวั่นลมแรงล้อ..........คลื่นร้ายกระหน่ำโหม
บันทึกการเข้า
komyen
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 427


« ตอบ #136 เมื่อ: 04-04-2007, 16:06 »

ราตรีรุจีศศิวิไล.....................กระจะนัยน์กระจ่างเห็น
จันทร์ส่องระเรื่อชยุติเพ็ญ.........ดุจเป็นชวาลสรวง

คืนรักประจักษ์รติภิรม-............-ยจะชมจะห่มทรวง
ดาราระยิบสิระกะดวง..............จรห้วงพโยมหน

คืนฝันอุบัติปฏิพัท-.................-ธมนัสเวียนวน
คิดแต่พนิตนฤมล...................อุระล้นฤดีดาล

เธอเป็นประดุจหฤทัย..............ดนุไฝ่สวาทนาน
คงครองรตีบุรพกาล................มนจารประจักษ์จริง

แว่วเสียงละเมอวิหคไพร...........เสนาะใสสดับพริ้ง
เคลียคลอพะนอพนิตอิง.............อุระยิ่งรตีลาม

แผ่วเสียงกระซิบสุตระทึก..........มนนึกวะวาบหวาม
ไฟปรารถนาคุระอุตาม..............ผิวะห้ามจะไหม้ทรวง

แรกรักระรื่นมธุระรส.............จะมิหมดรตีปวง
หวังคู่พธูมิละมิลวง..............และจะห่วงเสมอไป

ตรามสิ้นสมุทรมหรณพ...........สุริย์ลบละแสงไข
รักมั่นเสมอมิละหทัย..............สละให้นิรันดร

(วสันตดิลกฉันท์๑๔)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-04-2007, 16:09 โดย komyen » บันทึกการเข้า
เก็ดถวา
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 2,753



« ตอบ #137 เมื่อ: 05-04-2007, 10:54 »


โอวว วสันตดิลกฉันท์๑๔ ร้อยกรองสุดโปรดของหนู

(หมายถึงโปรดที่จะอ่านนะคะ แต่ยังมิอาจรังสรรค์ด้วยตัวเอง)

ขอบพะระคุณค่ะ



บันทึกการเข้า

Avada Kedavra!!!!!!!
komyen
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 427


« ตอบ #138 เมื่อ: 20-04-2007, 16:11 »

(วสันตดิลกฉันท์๑๔)

พงพฤกษ์ไสววนขจี............จรลีวนาลัย
ข้ามฝั่งนทีอุทกไหล...........ชลใสกระแสแรง

น้ำเชี่ยวระลอกชลระริน...................ระกะหินสิแซมแซง
เรือฝ่ากระสินธุ์และเลาะเกาะแก่ง........ประลุแหล่งตลิ่งหมาย

กราบเรือระไม้ระดะระนาว.........ชลวาวชะพื้นทราย
ปีนขึ้นตลิ่งตะเกียกตะกาย.........ทิศผายผันไป

สู่เบื้องอุดรสิขรเขา............ขณะเข้าตระเวณไพร
ชมพฤกษ์ระหว่างวนไสว......พิศใบและดอกบาน

ผีเสื้อและเหล่าภมรบิน.................เลาะเกาะหินณ.ริมธาร
หลายหลากลำห้วยอุทกซ่าน.........จรผ่านมุสู่หมาย

ซ่านซ่าชลาลยซะซัด.............ปะทะพัดศิลาราย
ริมทางระหว่างวนประปราย......ชลสายเลาะไหลวน

เสียงอึกทึกอุทกซ่า..................ชลบ่าชะแก่งบน
โขดหินตะไคร่เขรอะขระปะปน......ชลล้นชะวนเกลียว

ผาสูงกระแสมหอุทก...........ปะทะตกกระหน่ำเกรี้ยว
ต้องแผ่นศิลาอุทกเชียว........ชะกระเซ็นกระจายชล

ครืนครั่นคระโครมเซาะชลธาร........ทะลุผ่านเกาะแก่งวน
ไหลเอื่อยลุแอ่งอุทกล้น..............ปะทะชนกระเซ็นธาร

(กาพย์ฉบัง๑๖)

ผาสูงสุดชั้นน้ำตก.........ไหลหลั่งอุทก
ตกต้องแอ่งต่ำน้ำริน

ลดหลั่นชั้นแอ่งแก่งหิน.......หลั่งชลล้นสินธุ์
มิสิ้นกระแสแลใส

มากหลายสายธารผ่านไพร.........สู่กระแสแควใหญ่
ชลาลัยไหลเชี่ยวเกลียวธาร

ป่างามน้ำตกอุทกซ่าน...........ภูผาตระหง่าน
อลังการเกาะแก่งแอ่งชล

ธรรมชาติงามล้ำเลิศล้น.........บุญพามายล
สุดค้นถ้อยคำจำนรรจ์


บันทึกการเข้า
komyen
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 427


« ตอบ #139 เมื่อ: 30-05-2007, 15:17 »

ศรัทธานำมนัสน้อม..........บูชา
รำลึกวันพระศาสดา..........ตรัสรู้
พระอนุตรสัมมา...............สัมโพธิ   ณานนอ
พระมุ่งเพียรเพื่อกู้.............แก่นแท้วิญญู

ดูดวงเดือนเด่นห้วง..........เวหน
เพ็ญผ่องส่องสาดสกล..........ภพหล้า
แสงธรรมสว่างกระจ่างใจชน.......ผู้ตื่น
รับรหัสแห่งดินฟ้า.......................เพื่อฟื้นฝึกตน

บนเส้นทางย่างเท้า........ก้าวเดิน
ลาภยศสุขสรรเสริญ........เสื่อมได้
ยึดถือมั่นมากเกิน...........เกิดทุกข์
ธรรมท่านเผยแผ่ไว้.........เผื่อเว้นวงกรรม

พระธรรมเพียงส่วนเสี้ยว...........สังวรณ์
ปฏิบัติตามท่านสอน............สั่งแล้ว
สงบสุขสโมสร................ใสสะอาด
จิตสว่างดังดวงแก้ว........ก่อเกื้อกิจกุศล

บนรอยบาทยาตรเท้า..........ก้าวไป
มุ่งสู่ทางสว่างไสว............หลุดพ้น
พระเพียรเพื่อเวไนย..........สัตว์ส่ำ
ควรนบคุณยิ่งล้น............เร่งสร้างความดี
บันทึกการเข้า
komyen
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 427


« ตอบ #140 เมื่อ: 08-06-2007, 15:02 »

พุทธพาณิชย์สถิตแคว้น...........แดนไทย
ปรากฏการณ์ยุคสมัย............เสื่อมสิ้น
ศรัทธาตกต่ำไป...............ทุกขณะ
เทิดวัตถุหลากชิ้น..........ละทิ้งพุทธรรม

อำนาจเงินเสกได้..........สารพัน
เหรียญเทพมุ่งอาตมัน.........มักได้
เสริมกิเลสรวยมหันต์..............โลภสุด
หินธิเบตปลัดขิกใบ้....................บอดบ้าโมหันต์

พุทธนั้นหลักท่านเน้น.........ละวาง
เลิกมุ่งโลภโชคลาง...........หลีกเว้น
ฝึกตนพึ่งตนทาง...............ที่ถูก
ใช่พึ่งเหรียญแขวนเส้น........โซ่คล้องลำคอ

พอเถิดความคลั่งไคล้..........ไหลหลง
มีสติปัญญาปลง..............ปล่อยบ้าง
ยึดหลักธรรมดำรง...........พุทธศาสน์
คอยหมั่นศึกษาสร้าง......สว่างรู้ร่ำเรียน

แขวนเหรียญแขวนพระแล้ว..........ระลึกใด
น้อมพระธรรมชำระใจ..............แจ่มแจ้ง
ฤาพึ่งเทพผีไสย.................ศาสตร์ต่ำ
ทิ้งหลักธรรมให้แล้ง.........เหือดแห้งจากใจ
บันทึกการเข้า
ใบไม้ทะเล
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,321


In politics stupidity is not a handicap


« ตอบ #141 เมื่อ: 09-06-2007, 09:33 »

สวัสดีค่า คุณคมเย็น

แวะมาอ่านกลอนเพราะๆค่า 
บันทึกการเข้า

立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
komyen
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 427


« ตอบ #142 เมื่อ: 12-06-2007, 16:14 »

สวัสดีครับคุณใบไม้ มาตอบช้าไปหน่อย

ร่วมระลึกณ.เพ็ญวิสาขมาส
คุณูปการพระพุทธศาสน์...........สมาจาร

ตามพระธรรมพระพุทธเจ้าประทาน
ละชั่วประพฤติกุศลประสาน........สว่างใจ

ธรรมะพุทธองค์วิสุทธิใส
ลุวุฒิแห่งวิมุตประไพ..........อภิญญา

เพ็ญพระจันทร์สว่างกระจ่างนภา
พระธรรมสว่างณ.กลางอุรา.........อร่ามเรือง

เพียงสะเก็ดฤเสี้ยวพระธรรมประเทือง
สิดับกิเลสสลายมิเฟื่อง..........มิฟูเกิน

รอยพระบาทมหาบุรุษดำเนิน
กิเลสมารพระทรงเผชิญ..........พิชิตมวล

ตามพระบาทพระยาตรมนุษย์สิควร
ละลดกิเลสและมุ่งจะทวน..........วิถีธรรม

แต่งตั้งแต่ก่อนวิสาขะ เพิ่งจบ
บันทึกการเข้า
komyen
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 427


« ตอบ #143 เมื่อ: 26-06-2007, 14:19 »

(วสันตดิลกฉันท์๑๔)

ฟองคลื่นทะเลชลละออง..........ปะทะต้องกะโขดหิน
เสียงซ่าซะซัดอุทกยิน.............ปฐพีนทีนอง

สายน้ำจรดนภกระจ่าง..........ชลพร่างประกายทอง
งดงามประทับหัทยมอง........ขณะสนธยาเยือน

หมู่เมฆระเรื่อรุธิรแสง............สุริย์แรงสิคล้อยเคลื่อน
รอนรอนระเรืองรัศมิเลือน........ปรัลุเหลี่ยมไศลบัง

มองดูคณาสกุณร่อน...........จรย้อนจะคืนรัง
คาบภักษเพื่อชิวะประทัง......ผละละรุกขะร่อนไป

เย็นแผ่วพระพายรมยะรื่น.......ชลคลื่นระลอกไหว
เรือลอยละล่องอุทกไกล.......ชลใสระริ้วงาม

สายัณห์สมัยสุริยะลา...........สินภาระเรื่อยาม
แสงส่องสะท้อนอุทกวาม......วะวะวับวะวิบวาว

ลมพลิ้วรำเพยรุกขไหว..........ชลศัยระรินพราว
หาดทรายละมุนพิศสกาว.......ระยะไกลละไมตา

เพลินทัศนามหรณพ............ชลจบกะขอบฟ้า
ชมชื่นระรื่นภิรมยา..............ประลุภาวะอิ่มเอม

เพลินภาพประทับณ.หฤทัย........พิสมัยมโนเปรม
เพลินธรรมชาติสุขเกษม............นิรทุกข์นิรันดร
บันทึกการเข้า
อธิฏฐาน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,912


รักษาประเทศชาติ เป็นหน้าที่ของชาวไทยทุกคน


« ตอบ #144 เมื่อ: 26-06-2007, 22:38 »


แลเห็นทะเลและนภะลัย
ดุจใกล้ประสานกาย

เสียงคลื่นระรอกปะทะกะทราย
สุริย์เยือนทิวาวัน



ได้แค่นี้ค่ะลุงคม
บันทึกการเข้า

หยุด...สัมปทานอุทยานแห่งชาติ
http://www.oknation.net/blog/sandstone
komyen
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 427


« ตอบ #145 เมื่อ: 27-06-2007, 11:23 »

สวัสดีครับหนูอาทิด  วันนี้ได้แค่นี้วันต่อไปก็แต่งต่อ
ไปได้เรื่อยๆ  พอติดก็ไปแต่งอย่างอื่น แต่งไปแต่งมา
เดี๋ยวก็ยาวเป็นหลายๆบทได้นะ
บันทึกการเข้า
komyen
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 427


« ตอบ #146 เมื่อ: 17-07-2007, 12:00 »

 ชิงช้าเถาวัลย์

เถาวัลย์ใหญ่ยื่นกระหวัดพันรัดเกี่ยว
เป็นหลายเกลียวเลี้ยวคล้องสองคาคบ
ห้อยสองกิ่งเป็นชิงช้ามาบรรจบ
พันหลายทบหลบใต้ร่มไม้บัง

ชิงช้าเถาวัลย์ย้อยห้อยริมธาร
สนุกสนานเด็กไกวไปหน้าหลัง
ส่งเสียงหวีดกรีดร้องเสียงก้องดัง
บ้างโดดน้ำตึงตังดังตูมตาม

ริมฝั่งธารม่านไพรในหมู่พฤกษ์
บึงน้ำลึกในดงแซมพงหนาม
ชื่นสายชลเย็นฉ่ำน้ำสีคราม
สุขทุกยามเย็นย่ำเล่นน้ำกัน

บ้างว่ายน้ำดำไปเล่นไล่จับ
ร้องเพลงขับรับล้อคลอสุขสันต์
นั่งชิงช้าแกว่งไหวไกวเถาวัลย์
ร่วมแบ่งปันฝันปลื้มไม่ลืมเลือน


ริมวารีผีเสื้อเหนือพุ่มไม้
โบกปีกไหววกเกาะบินเลาะเลื่อน
บินหายลับกับตะวันก่อนจันทร์เยือน
คงหลบเพื่อนไปหลับนอนนับดาว

เช้าพรุ่งนี้ผีเสื้อคงเหลือฝัน
เล่าสู่กันวันใหม่หลังไอหนาว
ผ่านพ้นคืนวันวานอันนานยาว
บอกเรื่องราวแรมทางหว่างพงไพร

กบกระโดดโลดโจนโผนลงแอ่ง
เข้าหลบแฝงแก่งบังหลังหินใหญ่
ปล่อยอึ่งอ่างกร่างโตคุยโวไป
เล่าเรื่องใหม่ไม่ได้โม้ตัวโตพอง

แมลงปอปีกใสบินไหวว่อน
ตั๊กแตนร่อนก่อนตำข้าวค่อยก้าวย่อง
เจ้าคางคกตาเขเหล่ตามอง
คอยแลจ้องรอจับงับแมลง


เพลินสายชลวนเล่นจนเย็นย่ำ
ตะวันต่ำรอนรอนค่อยอ่อนแสง
เมฆวาววามงามตาฟ้าเรื่อแดง
สูรย์ลับแฝงเหลี่ยมเขา เงาไม้ยาว

เพลินชลสายว่ายเล่นน้ำเย็นเฉียบ
ค่อยเลาะเลียบริมน้ำเย็นฉ่ำหนาว
ป่าบรรเลงเพลงเก่าเล่าเรื่องราว
เสียงเกรียวกราวกรีดกริ่งหริ่งเรไร

นัดพบกันวันพรุ่งคุ้งน้ำเก่า
ลานร่มเงาเถาชิงช้าจะมาใหม่
สนุกสนานธารน้ำเย็นฉ่ำใจ
เถาวัลย์ไหวไกวโยนโหนเล่นกัน


วันเวลาดั่งวารีที่เลื่อนไหล
โลกหมุนไปวัยเปลี่ยนชีพเวียนผัน
เดินเส้นทางห่างไกลไปนานวัน
ต้องบากบั่นฟันฝ่าหาเลี้ยงตน

เรื่องวันเก่าเยาว์วัยดูไกลห่าง
ในโลกว่างร้างฝันอันสับสน
เหมือนเดียวดายในหมู่ผองผู้คน
สู้ดิ้นรนด้นไปไม่หยุดเดิน

วันเศร้าสร้อยบ่อยครั้งยังถวิล
ถึงแดนดินถิ่นดงพฤกษ์พงเถิน
บึงน้ำใสว่ายดำเย็นฉ่ำเพลิน
ไกลเหลือเกินเหินห่างจากร้างมา


กลับมาใหม่ในวันอันเงียบเหงา
เยือนถิ่นเก่าเพื่อนเก่าเข้าพบหน้า
เรื่องเก่าเก่าเล่าใหม่วัยชรา
ยังสุขสันต์หรรษาพารื่นรมย์

เดินคนเดียวเที่ยวไปในป่าเก่า
ดูเงียบเหงา  เงาไม้ยังให้ร่ม
น้ำเคยใส  ขุ่นเห็นพื้นเป็นตม
ใบไม้ถมริมธารลานร่มไม้

ริมบึงเก่าเถาชิงช้าในป่าชัฏ
ยื่นกระหวัดรัดบรรจบคบไม้ใหญ่
ปราศสำเนียงเสียงหริ่งหรีดเรไร
ปราศคนไกวแกว่งโอนโหนเถาวัลย์

รำลึกครั้งฟังบรรเลงเพลงจากป่า
นั่งชิงช้าราน้ำชื่นฉ่ำฝัน
น้ำบึงใหญ่ใสเย็นว่ายเล่นกัน
ผ่านวัยนั้น  วันนี้  ไม่มีแล้ว


ในความเหงาเศร้าสร้อยค่อยหันกลับ
หูสดับรับสำเนียงเสียงเจื้อยแจ้ว
กลุ่มเด็กน้อยโลดเต้นไม่เป็นแนว
มาใกล้แถวฝั่งธารวิ่งผ่านไป

บ้างโดดน้ำดำมุดบ้างผุดว่าย
ในชลสายเสียงดังฟังสดใส
โล้ชิงช้าโยกแรงคอยแกว่งไกว
สุขเพียงไหนใจฉันนั้นรู้ซึ้ง

ฉันอำลาชิงช้าเก่าเถาวัลย์เกี่ยว
ถิ่นแดนเดียวเหนี่ยวใจให้คิดถึง
เถาวัลย์เกลียวเหนี่ยวรั้งความหลังตรึง
ห้วงน้ำหนึ่งคนึงหามาช้านาน

ภาพเด็กน้อยโดดน้ำทำฉันยิ้ม
นัยน์ตาปริ่มน้ำตาเปื้อนหน้ากร้าน
เด็กกับฉันต่างพบประสบการณ์
ร่วมสายธาร  ร่วมวัลย์  ร่วมฝันเดียว

บันทึกการเข้า
komyen
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 427


« ตอบ #147 เมื่อ: 27-07-2007, 12:03 »

หนังสือพิมพ์ข่าวเช้า...........พาดหัว
แต่ละวันน่ากลัว....................เรื่องร้าย
ตายหมดโคตรยกครัว.................ถูกฆ่า
สั่นประสาทสยองขวัญคล้าย.............คลั่งบ้าสารพัน

ฟันแทงยิงถล่มขว้าง..........ระเบิดตาย
ต่างมุ่งทางทำลาย............ล่มล้าง
ขัดผลประโยชน์ที่หมาย.......ต้องฆ่า
เด็กนักเรียนแบ่งข้าง...........คลั่งแค้นตลุมบอน

เสพยาหลอนบ้าคลั่ง...........เชือดคอ
ทะเลาะวิวาทด่าทอ............ฆ่าทิ้ง
น่าสังเวชอนาถหนอ............สยามประเทศ
ฆ่าข่มขืนตายกลิ้ง...............ต่ำช้าเดรฉาน

งานอาชีพปล้นฆ่า............มากมี
เหมือนรับจ้างงานกุลี.........เล็กน้อย
ติดคุกไม่กี่ปี....................ทำใหม่
ชีวิตเหยื่อต่ำต้อย..............ดั่งเพี้ยงผักปลา

ธานีไทยถิ่นนี้................เมืองพุทธ
ปลุกเสกเหรียญตะกรุด..........มุ่งค้า
โลภลาภมิเคยหยุด....................ความอยาก
นำจิตวิญญาณบ้า.........................บอดใบ้ไหลหลง

สังคมคงเสื่อมสิ้น..........เส็งเคร็ง
พระเก่งทางกะเก็ง.........บอกใบ้
วันวันนั่งคอยเล็ง...........หวยเลข
ชนเทิดเกจิไว้..............วิ่งเข้าขอหวย

หวังรวยหวังลาภล้น...........เล่นพนัน
ยาเสพติดขายกัน..............เกลื่อนกลุ้ม
หลายระดับร่วมพัวพัน..........ทุจริต
ต้องปราบอย่าไปอุ้ม...........โอบเอื้อทรชน

สื่อมวลชนขาดแล้ง...........ข่าวดี
ฤาถิ่นไทยล้วนมี...............ข่าวร้าย
พวกโกงชาติอับปรีย์..........หนีเผ่น
สมุนป่วนเมืองมองละม้าย.....มุ่งล้มล้างไทย

ได้ข่าวดีเล็กน้อย..........เมื่อวาน
ตำรวจจับอันธพาล...........ชั่วช้า
คอยหอนเห่าเข้าระราน..........ผู้ใหญ่
คนสะใจทั่วหล้า.....................ต่างร้องสรรเสริญ

จบไม่ลง เอาแค่นี้พอ
บันทึกการเข้า
อธิฏฐาน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,912


รักษาประเทศชาติ เป็นหน้าที่ของชาวไทยทุกคน


« ตอบ #148 เมื่อ: 27-07-2007, 15:15 »

ถืออาจมขว้างใส่...............คนดี
จนกลิ่นตัวเองมี................อย่างนั้น
ดึงฟ้าต่ำกาลี...................คนถ่*อย
สำรอกคำเท็จปั้น............แอบอ้างอุดมการณ์


เมื่อไหร่พวกก่อความวุ่นวายจะสำนึกตัวได้เสียที
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-08-2007, 22:51 โดย อธิฏฐาน » บันทึกการเข้า

หยุด...สัมปทานอุทยานแห่งชาติ
http://www.oknation.net/blog/sandstone
komyen
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 427


« ตอบ #149 เมื่อ: 27-07-2007, 21:05 »

คนชั่วตัวอยู่ไกล...........ยังโหมไฟเข้าใส่เมือง
ทำลายระคายเคือง........คิดฟุ้งเฟื่องเรื่องเฮ็งซวย

สมุนที่ขุนไว้................จวนบรรลัยใกล้จักม้วย
เจ้านายควรตายด้วย.......ล้วนพวกท้วยควรถ่มถุย

สวัสดีครับหนูอาทิด  ไม่ได้ทักทายกันนาน
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3] 4 5
    กระโดดไป: