ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
19-04-2024, 02:50
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  พนักงาน ทีวี ThaiPBS (หลายคน) ยืนยันว่า พท ขัดแย้งเป็นของเขมร และ ไทยรุกล้ำ.. 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
พนักงาน ทีวี ThaiPBS (หลายคน) ยืนยันว่า พท ขัดแย้งเป็นของเขมร และ ไทยรุกล้ำ..  (อ่าน 1994 ครั้ง)
protecter
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 465


« เมื่อ: 17-07-2008, 13:07 »

พนักงาน ทีวี ThaiPBS (หลายคน) ยืนยันว่า พท ขัดแย้งเป็นของเขมร และ ไทยรุกล้ำเขตแดนเขมร

จากที่ผมโทรคุยกับทาง ThaiPBS เมื่อกี้นี้ (12.50 น  วันนี้)

.................
เหตุจากที่ผมนั่งดูข่าวจทีวีช่องนี้อยู่  ผู้ประกาศข่าวกำลังเสนอข่าว คนไทย 3 คนที่ปีนรั้วเข้าไปในเขตกั้น
ผู้ประกาศข่าวว่า คนไทย 3 คนเข้าไปในเขตเขมรแล้วถูกจับ..................

ผมฟังแล้ว......อดไม่ได้ที่โทรไปบอกทางทีวี ThaiPBS(02-7911000 กด 0) อยากให้เขาระวังในคำพูด
ทีแรกผมก็นึกว่าเขาคงเผลอพูดผิดไป อยากมาเตือนให้ระวัง
แต่ผิดคาดครับ............
คนแรกที่รับสาย เป็นผู้ชาย ฟังจากเสียงพูดเหมือนเพิ่งถูกปลุกจากการนอนหลับ
ผมบอกสิ่งที่ผมได้ฟัง และ ความคิดเห็นของผมไป ยืนยันว่านั่นเป็น พท ของไทย อย่ามาพูดว่าเป็นของเขมร
แต่มันกลับเถียงว่า นั่นเป็นเขตเขมร คนไทย 3 คนรุกร้ำเขตแดนเขมร รวมทั้งทหารที่เข้าไปในเขตนั้น ล้วนแต่รุกล้ำเขตแดนเขมรทั้งนั้น
อึ้ง...............เลยครับ
ผมขอให้โอนสายไปคุยกับ บก ข่าว
เป็น ผญ รับสาย คงเป็นผู้ช่วย
ผมก็เล่าให้ฟังทั้งหมด รวมทั้งสิ่งที่พนักงานคนแรกพูด
ผมก็ขอความยืนยันในความคิดของพนักงาน ทีวี ThaiPBS ที่มีต่อเขตพิพาท 4.6 ตร กม
ปรากฏว่า อ้ำๆอึ้งๆ ไม่ยอมบอกวะ.............
ผมเลยสงสัยว่า พนักงาน ทีวี ThaiPBS ทั้งหมดตางเข้าใจว่า เขตพิพาท 4.6 ตร กม เป็นของเขมร
เวรรรรรรรรรรรรรร กรรม ประเทศไทย
 
บันทึกการเข้า
มารุจัง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,761


@^____^@


« ตอบ #1 เมื่อ: 17-07-2008, 13:14 »

เฮ้อ...
เป็นนักข่าว แต่ดันไม่รู้จักศึกษาหาข้อเท็จจริง
รอฟังแต่พวกรัฐมนตรี นายกฯนอมินี ว่าพูดอะไร ก็พูดไปตามนั้น
ไม่รู้จักขวนขวายหายข้อมูล

ตกลงพวกนี้มันเห็นแผนที่กันหรือยังเนี่ย
เคยศึกษาแผนที่หรือข้อตกลงอะไรหรือเปล่า
หรือมีหน้าที่แค่รายงานข่าว แล้วก็จบแค่นั้น

กลุ้มใจโว้ยยยยยยยยยยยย
 

บันทึกการเข้า


ประชาธิปไตย มิได้จบอยู่แค่การเลือกตั้ง
ปล.รูปจากเวบ ผจก.
moon
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 780


« ตอบ #2 เมื่อ: 17-07-2008, 13:19 »

เขาคงจะยึดอย่างนี้กระมังครับ

พื้นที่ทับซ้อนตอนนี้ไม่มีแล้ว เพราะท่านเหล่ของเราได้ลงนามไปเรียบร้อยแล้ว

ทำให้กลายเป็นพื้นที่ทับซ้อนตรงนี้กลายเป็นของเขมรไปโดยปริยาย

ถ้ามองในแง่ดี การที่บอกว่าตรงพื้นทีทับซ้อนเป็นของเขมรไปแล้ว

ก็เท่ากับว่าพี่เหล่ของเราทำผิดกฏหมายเรียบร้อยแล้วแน่นอน
บันทึกการเข้า
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #3 เมื่อ: 17-07-2008, 13:19 »

นายเขาสั่งมา เขาก็ต้องตอบกันแบบนี้

แต่ถ้าเขาเป็นนักข่าวจริงๆ เขาคงไม่ตอบแบบนี้
บันทึกการเข้า
กุหลาบดำ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 303



« ตอบ #4 เมื่อ: 17-07-2008, 13:20 »

สงสัยว่าจะเป็นผู้ประกาศข่าวไทยหัวใจเขมร....
บันทึกการเข้า
คนไทยคนหนึ่ง
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 744


« ตอบ #5 เมื่อ: 17-07-2008, 13:44 »

พนักงาน  ThaiPBS เข้าใจถูกต้องแล้วครับ

เนื่องจากเหล่ไปเซ็นแถลงการณ์ร่วมไทย-เขมร สนับสนุนเขมรในการขึ้นทะเบียนมรดกโลก

และในเอกสารที่เขมรยื่นต่อคณะกรรมการมรดกโลก มีแผนที่แสดงเส้นเขตแดนอยู่ด้วย

เหล่ไม่ได้โต้แย้งอะไร ตามหลักกฎหมายปิดปาก ก็เท่ากับเหล่เซ็นยอมรับ แผนที่ 1: 200 000 ของทางเขมรแล้ว

ซึ่งพื้นที่ที่มีปัญหา 4.6 ตร กม หรือประมาณ3000ไร่ ตามแผนที่ฉบับนี้ ถือว่าอยู่ในเขตแดนเขมรครับ

แถลงการณ์ฉบับนี้มีผลเท่ากับรัฐบาลไทยยอมรับเขตแดนตามแผนที่ฉบับนั้นแล้ว

ดังนั้นต้องรีบให้ทางการมีมติยกเลิกเอกสารดังกล่าวเนื่องจากผิดรับธรรมนูญซึ่งศาลรัฐธรรมนูญตัดสินแล้ว

ถีงแม้ว่ามีคำตัดสินแต่ยังไม่ได้ยกเลิกเอกสาร ดังนั้นเอกสารฉบับนี้ยังมีผลอยู่ครับ

แต่อย่างน้อยเหตุการณืนี้ก็จะเป็นหลักฐานในการกระทำผืดกฎหมายอาญามาตรา 119 ของคณะรัฐมนตรีครับ

เพราะทราบแล้วว่ามติคณะรัฐมนตรีขัดรัฐธรรมนูญแต่ก็ยังเพิกเฉยไม่ดำเนินการใดๆ งานนีหลักฐานมัดแน่นเข้าไปอีกเปลาะครับ



แผนที่ 1: 200 000 ซึ่งมีการแสดงเส้นเขตแดน ( เส้นประสีชมพู) ซึ่งอยู่ในหน้า8 ของเอกสารที่เขมรยื่นขอขึ้นทะเบียนมรดกโลก


http://www.matichon.co.th/flvmovie/Document/Temple-Cambodia.pdf
เอกสารที่เขมรยื่นขอมรดกโลกครับ เผื่อใครจะไปใช้อ้างอิงต่อ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-07-2008, 13:53 โดย คนไทยคนหนึ่ง » บันทึกการเข้า
เพื่อนฝัน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 493



« ตอบ #6 เมื่อ: 17-07-2008, 14:00 »

เฮ้อออ..แล้วจะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง
บันทึกการเข้า

ใครสอนใครสั่ง ดูถูกประชาชน เป็นม็อบข้างถนน บิดเบือนเหมือนคนตกรุ่น
เรามาชุมนุม ใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ ขับไล่รัฐบาลหุ่น ที่เป็นสมุนของอาชญากร
คนไทยคนหนึ่ง
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 744


« ตอบ #7 เมื่อ: 17-07-2008, 14:11 »

ยังไม่หมดหวังกับการป้องกันอธิปไตนของไทยหรอกครับ

แค่ยกเลิกเอกสารต่างๆที่เหล่ไปเซ็นไว้ เนื่องจากเป็นการกระทำผิดขัดรัฐธรรมูญ

และคัดค้านไม่ยอมรับมติของคระกรรมการมรดกโลก


แต่ที่แน่ๆ หลักฐานชัดแจ้งในการกระทำความผิดกฎหมายอาญามาตรา119 ของคณะรัฐมนตรีครับ

ทั้งรัฐมนตรีเขมร ทั้งหนังสือพิมพ์เขมรได้อ้างสิทธิ์เหนือดินแดนที่ยังมีข้อโต้แย้งแล้ว

ซึ่งแต่ก่อนนี้เขมรไม่เคยประกาศอ้างสิทธ์เหนือดินแดนส่วนนี้เลย อ้างเพียงแต่เป็นพื้นที่ขัดแย้งเท่านั้น
บันทึกการเข้า
จงเจริญ
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 83



« ตอบ #8 เมื่อ: 18-07-2008, 23:08 »

สนธิสัญญาและคำพิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ

ในคดีปราสาทพระวิหาร

 

            เนื่องจากผมได้ทราบข่าวเพิ่มเติมเรื่องปราสาทพระวิหารว่า  คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบให้ไทยลงนามในแถลงการณ์ร่วมกับกัมพูชายินยอมให้กัมพูชาจดทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกในนามของกัมพูชาแต่ผู้เดียวต่อยูเนสโกอันเป็นทบวงการชำนัญพิเศษของสหประชาชาติ ในฐานะที่ผมเป็นทนายผู้ประสานงานกลุ่มทนายไทยทั้ง 4 ชาติในคดีปราสาทพระวิหาร ประกอบด้วย ทนายอังกฤษ  สหรัฐอเมริกา เบลเยี่ยม และไทย โดยทนายเบลเยี่ยม ฯพณฯ อังรี โรแลง หลานของเจ้าพระยาอภัยราชา (กุสตาฟ โร-แลง จ๊ากเกอเมน) เป็นประธาน นอกจากนั้นผมยังอยู่ในคณะกรรมาธิการกฎหมายระหว่างประเทศของสหประชาชาติและอดีตรองประธานคณะกรรมาธิการฯ เป็นเวลา 10 ปี และเป็นที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของยูเนสโกเกี่ยวกับปัญหากฎหมายซึ่งครอบคลุมไปถึงการจดทะเบียนมรดกโลก  ผมมีความวิตกและห่วงใยอย่างลึกซึ้งในปัญหาในปัจจุบันของประเทศชาติ จึงใคร่ขอชี้แจงข้อเท็จจริงและข้อกฏหมายดังต่อไปนี้

ในประเด็นที่ว่าแถลงการณ์ร่วม ไทย-กัมพูชา เป็นสนธิสัญญาหรือไม่นั้น  ไม่มีนักกฏหมายระหว่างประเทศคนใดในโลกสามารถปฏิเสธความจริงข้อนี้ได้ ทั้งนี้ เนื่องจากสนธิสัญญาคือ ‘ความตกลงระหว่างรัฐ’ ที่มีผลผูกพันตามกฏหมายระหว่างประเทศซึ่งอาจเป็นได้หลายรูปแบบ อาทิ อนุสัญญา  ปฏิญญา  หนังสือแลกเปลี่ยน หรือแถลงการณ์ร่วม   แม้แต่สมาคมอาเซียนยังสถาปนาขึ้นมาได้จากแถลงการณ์ร่วมลงวันที่ 8 สิงหาคม ค.ศ. 1967 ซึ่งผมเองเป็นประธานคณะกรรมการร่าง   ในทำนองเดียวกัน  สหประชาชาติที่สถาปนาโดยกฏบัตรสหประชาชาติ  ลงนามโดยสมาชิกผู้เริ่มก่อตั้งก็ไม่ผิดเพี้ยนไปจากแถลงการณ์ร่วมของอาเซียน

ฉะนั้น การที่ผู้หนึ่งผู้ใดอ้างว่า ‘แถลงการณ์ร่วม’ มิใช่ ‘สนธิสัญญา’ นั้น จึงเป็นการเข้าใจผิดโดยรากฐานและปราศจากความรู้ความเข้าใจในตัวบทของอนุสัญญากรุงเวียนนาเมื่อปี ค.ศ. 1969 ว่าด้วยสนธิสัญญาซึ่งได้ให้นิยามสนธิสัญญาไว้อย่างชัดเจนว่าเป็นความตกลงระหว่างประเทศซึ่งทำขึ้นเป็นลายลักษณ์อักษรและมีผลผูกพันตามกฏหมายระหว่างประเทศไม่ว่าจะทำขึ้นในรูปแบบใดโดยไม่จำเป็นต้องใช้ชื่อว่า ‘สนธิสัญญา’ เสมอไป  ทั้งนี้จะเป็นในรูปแบบ ‘แถลงการณ์ร่วม’ ก็ยังได้

ด้วยเหตุผลข้างต้น  แถลงการณ์ร่วม ไทย-กัมพูชา จึงเป็นสนธิสัญญาฉบับใหม่ซึ่งยืนยันว่าบัดนี้ไทยได้เพิกถอนคำคัดค้านคำพิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในคดีปราสาทพระวิหารเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ค.ศ. 1962 รวมทั้งถอนข้อสงวนที่ตั้งไว้อย่างชัดเจนในเดือนกรกฎาคมปีเดียวกัน โดย ฯพณฯ ดร. ถนัด คอมันตร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้มีหนังสือถึงเลขาธิการสหประชาติแสดงท่าทีของรัฐบาลไทยอย่างชัดแจ้งว่าไทยมิได้ขัดขืนหรือฝ่าฝืนคำพิพากษาของศาลฯ ซึ่งไทยไม่เห็นด้วย

สรุปได้ว่าคำแถลงการณ์ร่วมของไทยและกัมพูชาซึ่งลงนามโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกับเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2551 เป็นการหยิบยื่นดินแดนให้กัมพูชาโดยปราศจากเงื่อนไข

ในฐานะที่เป็นสมาชิกสหประชาชาติ  หลังจากศาลยุติธรรมระหว่างประเทศตัดสินข้อพิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชามนคดีปราสาทพระวิหารเสร็จสิ้น ไทยได้ถอนทหารและยามออกจากบริเวณปราสาทพระวิหาร และไม่ขัดขวางหรือกีดกันการเข้าไปครอบครองตัวปราสาทโดยกัมพูชา  แต่กระนั้นก็ตาม ไทยได้มีหนังสือคัดค้านไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษาข้างมาก แต่เห็นพ้องกับคำพิพากษาแย้ง และได้ตั้งข้อสงวนว่าไทยอาจกลับเข้าไปครอบครองปราสาทพระวิหารในวันข้างหน้า  ทั้งนี้ เนื่องจากไทยยังคงถือว่าปราสาทพระวิหารอยู่ในอำนาจอธิปไตยของไทย

หนังสือฉบับนั้นส่งไปจากกรมสนธิสัญญาและกฏหมายของกระทรวงการต่างประเทศ โดย ม.จ. เพลิงนพดล  รพีพัฒน์  โอรสในกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ พระบิดาแห่งกฏหมายไทย เป็นอธิบดี และนายจาพิกรณ์ เศรษฐบุตร ผู้รักษาการที่ปรึกษากฏหมายเป็นหัวหน้ากองกฏหมาย และ ผม นายสมปอง สุจริตกุล เป็นผู้ยกร่าง   หนังสือว่าด้วยข้อสงวนยังมีผลบังคับจนถึงปัจจุบันโดยมิได้มีการขาดอายุความตามความเข้าใจของบางท่าน  ทั้งนี้เพราะมิได้จำกัดอยู่เพียงการทบทวนคำพิพากษาตามนัยข้อ 61 แห่งธรรมนูญศาล  หากใช้กับการตีความและขอบเขตของคำพิพากษานัยข้อ 60 โดยตรงและข้อ 33 แห่งกฏบัตรสหประชาชาติซึ่งล้วนปลอดอายุความ

เนื่องจากศาลยุติธรรมระหว่างประเทศไม่มีมาตรการในการดำเนินการบังคับคดีเช่นศาลยุติธรรมในระบบกฏหมายภายในของไทยหรือของประเทศอื่นๆ ซึ่งมีองค์กรที่จะดำเนินการตามกระบวนยุติธรรม อาทิ กองหมาย กองรักษาทรัพย์ และกองบังคับคดี  ฯลฯ  ฉะนั้น เมื่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศได้ตัดสินคดีหนึ่งคดีใด  จึงไม่มีการบังคับคดีให้เป็นไปตามคำพิพากษา  และอาจไม่มีการปฏิบัติตามคำพิพากษาเลยก็ได้

ในกรณีพิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชาในคดีปราสาทพระวิหาร  แม้เสียงข้างมากจะตัดสินให้ปราสาทพระวิหารอยู่ภายใต้อำนาจอธิปไตยของกัมพูชา  แต่ยังมีผู้พิพากษาอีกหลายท่านที่เขียนคำพิพากษาแย้งไว้ว่าประสาทพระวิหารยังคงอยู่ในเขตอำนาจอธิปไตยของไทยตามหลักสันปันน้ำที่กำหนดไว้ในสนธิสัญญา ค.ศ. 1904

พื้นที่ทับซ้อนในปัจจุบันของไทยกับกัมพูชานั้น  ได้แก่ตัวปราสาทพระวิหารเท่านั้น   แม้ในแผนที่อีกหลายฉบับลากเส้นเขตแดนไทยไม่ตรงกัน  ไทยถือว่าปราสาทพระวิหารเป็นเขตในอำนาจอธิปไตยของไทย   กัมพูชาก็ถือว่าอยู่ในเขตของกัมพูชา   ไทยยึดสันปันน้ำเป็นเส้นแบ่งเขตตามสนธิสัญญาทวิภาคีกับฝรั่งเศสลงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ร.ศ. 122  ดังนี้

ข้อ 1  กำหนดเขตแดนบริเวณที่ปราสาทพระวิหารตั้งอยู่ให้เป็นไปตามยอดภูเขาปันน้ำระหว่างดินแดนน้ำตกน้ำแสนแลดินแดนน้ำตกแม่โขงฝ่ายหนึ่ง  กับดินแดนน้ำตกน้ำมูลอีกฝ่ายหนึ่งจนบรรจบถึงภูเขาผาด่าง แล้วต่อเนื่องไปข้างทิศตะวันออกตามแนวยอดภูเขานี้จนบรรจบถึงแม่โขง   ตั้งแต่ที่บรรจบนี้ขึ้นไป แม่โขงเป็นเขตแดนของกรุงสยาม ตามความข้อ 1 ในหนังสือสัญญาใหญ่ ณ วันที่ 3 ตุลาคม รัตนโกสินทร์ศก 112

 

ศาสตราจารย์ ดร. สมปอง สุจริตกุล

วันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2551

 
บันทึกการเข้า
ดอกฟ้ากับหมาวัด
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,042



« ตอบ #9 เมื่อ: 18-07-2008, 23:22 »

ถ้าความพยายามใดๆที่พวกเราคนไทยต้องสูญเปล่า

ต้องยินยอมและมอบตัวแบบหมดสิ้น เกียรติยศและศักดิ์ศรี ของประชาชนคนไทย

หากพวกเราตายไป ....จะไปพบสบตากับวิญญาณของบรรพบุรุษ ที่ปกป้องผืนแผ่นดินให้เราได้ ร่มเย็นเป็นสุข


จนถึงวันนี้....แล้วยอมแพ้.....แก้ผ้า...น่าอาย ได้อย่างไร


สิ่งที่น่ากลัวมากที่สุด....คือคนไทยเริ่มเห็นแก่ตัวมากชึ้นเรื่อยๆ


ประชานิยมที่มอมเมา ทำให้สังคมหักเห
บันทึกการเข้า

***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ

      น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #10 เมื่อ: 19-07-2008, 02:27 »


หนังสือพิมพ์พนมเปญโพสต์รายงานว่า ''กัมพูชาได้ส่งทหารจากกองพลน้อยที่ 43 และกองพันตำรวจตระเวนชายแดนที่ 759 เข้ามาเสริมกำลังในพื้นที่ดังกล่าว โดยทหารบางส่วนเป็นนักรบในกองกำลังเขมรแดง พ.อ.เคม อุน รองผู้บังคับการกองพลน้อยที่ 43 ระบุว่า ได้ส่งกำลังเข้าไปที่ปราสาทพระวิหารเพิ่มขึ้นเพื่อหยุดทหารไทยไม่ให้เคลื่อน เข้ามาในพื้นที่ ขณะนี้ทหารไทยเข้ามาอยู่ในดินแดนกัมพูชา อยู่ในวัดของเรา และละเมิดอธิปไตยของเรา แต่เราได้รับคำสั่งให้อดทนและหลีกเลี่ยงการสู้รบเว้นแต่ทางไทยจะเป็นฝ่าย เริ่มก่อน''



พ.อ.ฮิม จัน รองผู้บังคับการกองพันตำรวจตระเวนชายแดนที่ 795 กล่าวว่า ทหารไทยเข้ามาอยู่ในวัดที่อยู่บนเนินลาด ซึ่งห่างจากปราสาทพระวิหารราว 200 เมตร และนอนค้างคืนที่นั่นใกล้กับทหารกัมพูชาเพื่อแสดงความก้าวร้าวและยั่วยุให้เกิดปัญหา ด้านนายสรุน เมา นายทหารรายหนึ่งในกองพันดังกล่าว ซึ่งเป็นอดีตนักรบของเขมรแดงแตะปืนไรเฟิลเอเค-47 ข้างกาย และบอกว่า ไม่ได้ใช้มันมากว่า 10 ปีแล้ว ทำให้สนิมจับเล็กน้อย แต่ตนพร้อมและกระหายที่จะใช้มัน

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?id=41460&catid=1

ดูสื่อเขมร-ทหารเขมรแล้ว ถ้าเกิดสงครามจริงๆ คงโทษเราไม่ได้ Shocked





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-07-2008, 02:29 โดย Cherub Rock » บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
Caocao
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 557



« ตอบ #11 เมื่อ: 19-07-2008, 02:30 »

เขมรมันเป็นอย่างนี้มานานแล้ว ดูกรณีกบดิ โคตรฮาเลย มันเสี้ยมพวกมันทุกวันๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มีแต่พี่ไทยเรานี่แหละที่อดทนๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
บันทึกการเข้า

หลับเถิดทหารกล้า ปวงประชาจะคุ้มครอง
หน้า: [1]
    กระโดดไป: