ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
19-04-2024, 21:53
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  เรียนเชิญพี่น้องชาวเสรีไทยหน่อยครับ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
เรียนเชิญพี่น้องชาวเสรีไทยหน่อยครับ  (อ่าน 2348 ครั้ง)
(ลุง)ถึก สไลเดอร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,026



« เมื่อ: 17-07-2008, 01:31 »

http://thailandska.se/index.php?showtopic=6013&st=0&gopid=79853&
ช่วยกันไปเล่าเรื่องราวต่างๆให้ลูกหลานไทยในต่างประเทศฟังด้วยครับ
                                                 ขอบคุณ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-07-2008, 01:41 โดย (ลุง)ถึก สไลเดอร์ » บันทึกการเข้า

(ลุง)ถึก สไลเดอร์
personal jesus
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 632



« ตอบ #1 เมื่อ: 17-07-2008, 01:34 »



 


ไม่อาวววววววววไม่พูดดด เด่วโดนถี๊บบบ เอิ๊กก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-07-2008, 01:45 โดย personal jesus » บันทึกการเข้า

1ktip
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,457



« ตอบ #2 เมื่อ: 17-07-2008, 02:51 »

อ่านๆ ดูแล้ว เพื่อนลุงดูจะเป็นพวกลอยตัวเหนือปัญหา ธุระไม่ใช่ มันเรื่องไกลตัว ฯลฯ

ทำใจเถอะครับ ไม่ใช่ทุกคนที่จะสนใจปัญหาการบ้านการเมืองหรอก

ในกลุ่มเพื่อนผมสิบคน จะมีคนสนใจแค่ 2-3 คน ที่เหลือก็แค่พอรับรู้จากสื่อทั่วไปหรือไม่ใส่ใจเลย
บันทึกการเข้า
qazwsx
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


นักธุรกิจและตำรวจ ต้องออกไปจากการเมือง


« ตอบ #3 เมื่อ: 17-07-2008, 07:59 »

เคยมีการวิเคราะห์  สรุปได้ว่า
คนรุ่นใหม่  ยุคบริโภคมักง่าย - เสรีภาพสุดขอบฟ้า - วุฒิการศึกษาล้นหลาม
จะมีพฤติกรรม "ร่วม" 4 อย่าง ( มากบ้างน้อยบ้าง - เฉพาะทางใดทางหนึ่งบ้าง ) คือ
1. Ignorance ไม่รู้สึกไม่รู้สา ( ไม่เห็นต้องรู้เลย - รู้แล้วมันทำให้ชีวิตดีขึ้นเหรอ )
2. Egoism ทิฐิอัตตาสูง ( เรื่องของกรู  กรูทำในส่วนของกรูได้ดีที่สุดแล้ว )
3. Evasiveness หลบเลี่ยงความรับผิดชอบ ( ก็ปล่อยให้ไอ้นี่ - ไอ้นู่น - ไอ้โน่นทำสิ   ก็แล้วจะมีพวกมันไว้ทำไม )
4. Faithfulness ยึดมั่นถือมั่น ( บ้างก็ "ยึดถือแม่งอยู่อย่างเดียว"   แต่บ้างก็อ้าง "หลักโน่น - นี่ - นั่น" ให้วุ่นวาย  แล้วก็ "ไล่จับหลัก" ...กระโดดเกาะไป ๆ มา ๆ เหมือนลิง )
บันทึกการเข้า

(ลุง)ถึก สไลเดอร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,026



« ตอบ #4 เมื่อ: 17-07-2008, 08:47 »

ขอบคุณปู่เย็นมากครับ  ผมจะเดินทางวันนี้ กลับวันที่ 27 ไปประเทศลิทัวเนียก่อน
แล้วต่อไปอิตาลี่ มีโอกาสจะไปนั่งเรือแจวให้ฝรั่งแจวให้นั่งซะหน่อย......เอิ้กกกกกกก.......เอิ้กกกกก

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-07-2008, 08:53 โดย (ลุง)ถึก สไลเดอร์ » บันทึกการเข้า

(ลุง)ถึก สไลเดอร์
personal jesus
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 632



« ตอบ #5 เมื่อ: 17-07-2008, 09:24 »


ชอบคำตอบของปู่เย็นมาก
บ่อยครั้งที่รู้สึกว่า เป็นอย่างที่ปู่เย็น
นำมาใหอ่านจริงๆ

ขออนุญาต นำคำตอบของปู่เย็น
ไปเผยแพร่ ด้วย ขอบคุณมากๆๆ

 

ลุงถึก เห็นมั้ย บางรายพูดไปก็เหมือน
น้ำรดสาก ลุงก็มีความพยายามดีนะ อิอิ
เที่ยวให้สนุกแล้วกัน


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-07-2008, 09:27 โดย personal jesus » บันทึกการเข้า

ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #6 เมื่อ: 17-07-2008, 09:51 »

เคยมีการวิเคราะห์  สรุปได้ว่า
คนรุ่นใหม่  ยุคบริโภคมักง่าย - เสรีภาพสุดขอบฟ้า - วุฒิการศึกษาล้นหลาม
จะมีพฤติกรรม "ร่วม" 4 อย่าง ( มากบ้างน้อยบ้าง - เฉพาะทางใดทางหนึ่งบ้าง ) คือ
1. Ignorance ไม่รู้สึกไม่รู้สา ( ไม่เห็นต้องรู้เลย - รู้แล้วมันทำให้ชีวิตดีขึ้นเหรอ )
2. Egoism ทิฐิอัตตาสูง ( เรื่องของกรู  กรูทำในส่วนของกรูได้ดีที่สุดแล้ว )
3. Evasiveness หลบเลี่ยงความรับผิดชอบ ( ก็ปล่อยให้ไอ้นี่ - ไอ้นู่น - ไอ้โน่นทำสิ   ก็แล้วจะมีพวกมันไว้ทำไม )
4. Faithfulness ยึดมั่นถือมั่น ( บ้างก็ "ยึดถือแม่งอยู่อย่างเดียว"   แต่บ้างก็อ้าง "หลักโน่น - นี่ - นั่น" ให้วุ่นวาย  แล้วก็ "ไล่จับหลัก" ...กระโดดเกาะไป ๆ มา ๆ เหมือนลิง )

5. Narcisisitic หลงตัวเอง หลอกตัวเองว่ารักสันติ รัก'ความเป็นกลางแบบแม๊วๆ'
6. Superiority complex เวลาบอกว่า'เบื่อการเมือง' รู้สึกมี'ปมเขื่อง' ทำหน้าเหม็นเบื่อ...

บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #7 เมื่อ: 17-07-2008, 10:26 »

ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร
เป็นทำนองชนรุ่นที่สองที่สามที่อยู่ตปท.มาตลอดชีวิต
ไม่ได้เป็นคนไทย และก็ไม่ได้เป็นคนชนชาตินั้น
เป็นแค่คนที่มีพ่อแม่ ปู่ย่าที่เป็นคนไทย และพูดภาษาไทยได้เท่านั้น
ที่แย่กว่านั้น ทุกวันนี้เด็ก(หรือไอ้ตัวแก่ๆ)พวกที่ยังอยู่ในประเทศไทย
ไม่เคยไปต่างประเทศ ก็กลายเป็นคน "ไร้ราก" ไปเสียแล้ว


ถึงแม้ว่าหนูจะเบื่อการเมือง มันก็เป็นสิทธิมนุษยชนที่หนูควรได้รับ ความรู้สึกนะคะ มันให้ใครมาสั่งห้ามไม่ได้หรอก ก็คนมันเบื่อแล้วจะให้ทำไงคะ ไม่ใช่หนูเพิ่งเบื่อแต่เบื่อมานานแล้ว....หากถามเรื่องการเมืองกับหนูร้อยครั้งหนูก็จะตอบร้อยครั้งเหมือนเดิมอยู่ดีว่า...เบื่อ....ไอ้ที่ว่าไม่รู้การเมืองมันก็ใช่คะ ถูกตรงเผ็ง เพราะหนูไม่ชอบก้ไม่สนใจมัน ก็เท่านั้นเอง

น้ำตาล



อย่าให้โดนเก็บค่าเล่าเรียน ค่าสาธารณูปโภคเพิ่มด้วยคำว่า"การเมือง"
อย่าให้ถูกไล่ออกจากโรงเรียนด้วยคำว่า"การเมือง"
อย่าให้โดนย้ายบ้าน โดนไล่ที่ด้วยคำว่า"การเมือง"
อย่าให้ถูกไล่ออกนอกประเทศ ด้วยคำว่า"การเมือง"
อย่าให้พ่อแม่โดนฆ่าด้วยคำว่า"การเมือง"ก็แล้วกัน

ถ้าถึงวันนั้นแล้วจะรู้สึก

อยู่ในประเทศที่เขาสั่งสอนให้มีสำนึกทางการเมือง คำนึงถึงส่วนรวม กลับไม่เคยเรียนรู้
อยู่ในประเทศที่มีสวัสดิการเพราะการเสียสละของคนทุกคนในสังคม ยังไม่สำเนียก
น่าเสียดาย
บันทึกการเข้า
tigerfireback
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 57


« ตอบ #8 เมื่อ: 17-07-2008, 11:14 »

อ้างถึง  qazwsx  ขาประจำขั้นที่ 3เคยมีการวิเคราะห์  สรุปได้ว่า คนรุ่นใหม่ 

ยุคบริโภคมักง่าย - เสรีภาพสุดขอบฟ้า - วุฒิการศึกษาล้นหลามจะมีพฤติกรรม "ร่วม" 4 อย่าง ( มากบ้างน้อยบ้าง - เฉพาะทางใดทางหนึ่งบ้าง ) คือ
1. Ignorance ไม่รู้สึกไม่รู้สา ( ไม่เห็นต้องรู้เลย - รู้แล้วมันทำให้ชีวิตดีขึ้นเหรอ )
2. Egoism ทิฐิอัตตาสูง ( เรื่องของกรู  กรูทำในส่วนของกรูได้ดีที่สุดแล้ว )
3. Evasiveness หลบเลี่ยงความรับผิดชอบ ( ก็ปล่อยให้ไอ้นี่ - ไอ้นู่น - ไอ้โน่นทำสิ   ก็แล้วจะมีพวกมันไว้ทำไม )
4. Faithfulness ยึดมั่นถือมั่น ( บ้างก็ "ยึดถือแม่งอยู่อย่างเดียว"   แต่บ้างก็อ้าง "หลักโน่น - นี่ - นั่น" ให้วุ่นวาย  แล้วก็ "ไล่จับหลัก" ...กระโดดเกาะไป ๆ มา ๆ เหมือนลิง )

=========================================================

ผมว่าเรื่องที่คุณ  qazwsx กล่าวข้างต้น 4 ข้อ ไม่เกี่ยวกับแม้ว หมัก หรือฝ่ายไหนๆ แต่เป็นเรื่องจริง ของระบอบ ทุนนิยม
เป็นเรื่องปากกัดตีนถีบในสังคม กล่าวคือ ทุกคนในสังคมเป็นหนี้ หนี้ หนี้ นะครับ

เมื่อยังเด็กและเรียน ไม่มีหนี้ แต่ทันทีที่จบเรียน ได้เรื่อง เริ่มทำงาน ก็มีหนี้ โดยการซื้อรถ ก็ทุกคนเขามี แล้วตูจะไม่มีได้อย่างไร
ทีนี้มีแฟน จะแต่งงาน ต้องมีบ้าน ก้ผ่อนอีก หนี้อีก จะเก็บเงินให้ครบค่อยแต่ง โน่น อีก 40-45 ปี จึงจะมีเงินครบพอซื้อบ้าน บ้าตาย
พอมีครอบครัว ค่าใช้จ่ายเพิ่ม ก้ต้องมีบัตรเครดิต หนี้อีก เมื่อหนี้มากๆ เข้้า ทีนี้ไม่กลัวกับการก่อหนี้แล้ว อยากมีอะไรก้ผ่อนมันทุกอย่าง หนี้อีกตามเคย
มีลูก ค่าใช้จ่ายเพิ่มอีก เรื่องกิน เรื่องเรียน สารพ้ดเรื่องแต่ทั้งหมดมีค่าใช้จ่าย  หนี้อีก ทั้งชีวิต มีแต่หนี้ มีหนี้จนแก่งัก ยังไม่หมด

แล้วคุณ  qazwsx จะให้  รู้สึกรู้สา ( ไม่เห็นต้องรู้เลย - รู้แล้วมันทำให้ชีวิตดีขึ้นเหรอ )  ก็ทุกว้นนี้เอาตัวรอดจากหนี้ก็้ี้แทบไม่รู้สึกอะไรแล้ว...
ทิฐิอัตตาสูง ( เรื่องของกรู  กรูทำในส่วนของกรูได้ดีที่สุดแล้ว ) เอาตัวรอดให้ได้จากการหมุนผ่อน ผ่อน ผ่อน ไม่มีความสามรถคิดเรื่องอื่นแล้ว....
หลบเลี่ยงความรับผิดชอบ ( ก็ปล่อยให้ไอ้นี่ - ไอ้นู่น - ไอ้โน่นทำสิ   ก็แล้วจะมีพวกมันไว้ทำไม )  รับผิดชอบเรื่องผ่อนหนี้ตัวเอง ยังไม่รอดเลย....
ยึดมั่นถือมั่น ( บ้างก็ "ยึดถือแม่งอยู่อย่างเดียว"   แต่บ้างก็อ้าง "หลักโน่น - นี่ - นั่น" ให้วุ่นวาย  แล้วก็ "ไล่จับหลัก" ...กระโดดเกาะไป ๆ มา ๆ เหมือนลิง )
เอาชีวิตทั้งครอบครัวให้รอด เป็นเรื่องตัองยึดแน่น ครอบครัวตัวเองยังปวดกะบาลจนเครียดไปหมดแล้ว

คุณ  qazwsx แนะทางออกหน่อยซี
บันทึกการเข้า
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #9 เมื่อ: 17-07-2008, 11:24 »

ผมว่าเรื่องที่คุณ  qazwsx กล่าวข้างต้น 4 ข้อ ไม่เกี่ยวกับแม้ว หมัก หรือฝ่ายไหนๆ แต่เป็นเรื่องจริง ของระบอบ ทุนนิยม
เป็นเรื่องปากกัดตีนถีบในสังคม กล่าวคือ ทุกคนในสังคมเป็นหนี้ หนี้ หนี้ นะครับ

เมื่อยังเด็กและเรียน ไม่มีหนี้ แต่ทันทีที่จบเรียน ได้เรื่อง เริ่มทำงาน ก็มีหนี้ โดยการซื้อรถ ก็ทุกคนเขามี แล้วตูจะไม่มีได้อย่างไร
ทีนี้มีแฟน จะแต่งงาน ต้องมีบ้าน ก้ผ่อนอีก หนี้อีก จะเก็บเงินให้ครบค่อยแต่ง โน่น อีก 40-45 ปี จึงจะมีเงินครบพอซื้อบ้าน บ้าตาย
พอมีครอบครัว ค่าใช้จ่ายเพิ่ม ก้ต้องมีบัตรเครดิต หนี้อีก เมื่อหนี้มากๆ เข้้า ทีนี้ไม่กลัวกับการก่อหนี้แล้ว อยากมีอะไรก้ผ่อนมันทุกอย่าง หนี้อีกตามเคย
มีลูก ค่าใช้จ่ายเพิ่มอีก เรื่องกิน เรื่องเรียน สารพ้ดเรื่องแต่ทั้งหมดมีค่าใช้จ่าย  หนี้อีก ทั้งชีวิต มีแต่หนี้ มีหนี้จนแก่งัก ยังไม่หมด

แล้วคุณ  qazwsx จะให้  รู้สึกรู้สา ( ไม่เห็นต้องรู้เลย - รู้แล้วมันทำให้ชีวิตดีขึ้นเหรอ )  ก็ทุกว้นนี้เอาตัวรอดจากหนี้ก็้ี้แทบไม่รู้สึกอะไรแล้ว...
ทิฐิอัตตาสูง ( เรื่องของกรู  กรูทำในส่วนของกรูได้ดีที่สุดแล้ว ) เอาตัวรอดให้ได้จากการหมุนผ่อน ผ่อน ผ่อน ไม่มีความสามรถคิดเรื่องอื่นแล้ว....
หลบเลี่ยงความรับผิดชอบ ( ก็ปล่อยให้ไอ้นี่ - ไอ้นู่น - ไอ้โน่นทำสิ   ก็แล้วจะมีพวกมันไว้ทำไม )  รับผิดชอบเรื่องผ่อนหนี้ตัวเอง ยังไม่รอดเลย....
ยึดมั่นถือมั่น ( บ้างก็ "ยึดถือแม่งอยู่อย่างเดียว"   แต่บ้างก็อ้าง "หลักโน่น - นี่ - นั่น" ให้วุ่นวาย  แล้วก็ "ไล่จับหลัก" ...กระโดดเกาะไป ๆ มา ๆ เหมือนลิง )
เอาชีวิตทั้งครอบครัวให้รอด เป็นเรื่องตัองยึดแน่น ครอบครัวตัวเองยังปวดกะบาลจนเครียดไปหมดแล้ว

คุณ  qazwsx แนะทางออกหน่อยซี


ขอแสดงความเห็นครับ
อ้างว่าติดหนี้ตั้งแต่เรียน เป็นเพราะเด็ก หรือเป็นเพราะนโยบายผิดพลาดของรัฐบาลครับ
อ้างว่าต้องเอาตัวรอด เป็นเพราะจำเป็น ใช้จ่ายเกินตัวเอง
อ้างว่าไม่มีเวลาสนใจเรื่องอื่น เป็นเพราะไม่สนใจไม่พิจารณาจึงต้องเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า
อ้างว่ายังเอาตัวไม่รอด จะไปสนใจคนอื่น ช่วยคนอื่นทำไม เป็นเพราะไม่สนใจกันเลยเอาตัวไม่รอดหรือเปล่า
อ้างว่าต้องเอาครอบครัวตัวเองให้รอดก่อน เป็นเพราะเหตุผลข้างต้นทั้งหมดรวมกันหรือไม่

ส่วนตัว ผมว่าข้ออ้างเหล่านั้น ฟังไม่ขึ้น
ก็แค่ข้อแก้ตัว ของคนที่ไม่อยากคิด ไม่อยากทำอะไรเท่านั้น
บันทึกการเข้า
personal jesus
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 632



« ตอบ #10 เมื่อ: 17-07-2008, 11:52 »



เห็นด้วย กับคุณ login not found
สังเกต มานานแล้ว คนที่เป็นหนี้สินหลายราย
ใช้จ่ายเกินตัว ต้องการเป็นอย่างคนอื่นเค้า

เป็นคนจน ผู้ยิ่งใหญ่ ดีกว่า ฮ่าฮ่าฮ่า
ส่วนหนู คนนั้น ปล่อยไปตามเวรตามกรรม
คำตอบ ของหนู คนนั้น มันทำให้เจ้าตัว
เป็น และ คิดได้แค่นั้น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-07-2008, 11:55 โดย personal jesus » บันทึกการเข้า

H-edge
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 94


« ตอบ #11 เมื่อ: 17-07-2008, 12:02 »

ก็เพราะ ระบอบทุนนิยม ไม่ใช่หรือ ที่ทำให้เด็กสมัยใหม่

หรือแม้แต่ผู้ใหญ่บางคน มีแต่ความเห็นแก่ตัว ผลักความรับผิดชอบ เห็นความทุกข์ร้อนของตนเป็นใหญ่

ทำทุกอย่างแม้แต่แก้ตัวไปวันๆ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องรับรู้อะไรมากมายนอกจากตัวเอง

เราน่าจะคิดกันมากกว่าว่าเราจะทำกันอย่างไร ให้ประเทศไทยของเราอยู่รอดปลอดภัย สามารถรักษา

โครงสร้างทางวัฒนธรรม ศีลธรรม จริยธรรม และความเป็นอยู่แบบไทยๆ  ให้คงอยู่ต่อไป

ภายใต้คลื่นลมของระบอบทุนนิยมที่เชี่ยวกราก

แต่ที่แน่ๆ พวกเราในเสรีไทยคิดกันแค่นี้ไม่พอแน่   ทำยังไงที่จะทำให้สังคมส่วนใหญ่ ทุกระดับชั้น

มีความกระตือรือล้น และจัดการต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบัน    

ความคิดเห็นนี้ ชาวเสรีไทยทุกคน คงคิดเหมือนกันทุกคนใช่ไหมค่ะ  

ดิฉันแค่อยากรู้ว่า เราจะทำยังไงกันดี  เพราะลำพังตัวเอง เป็นแค่จุดเล็กๆ ที่ตระหนัก แต่ทำอะไรไม่ได้
บันทึกการเข้า
นักปฏิวัติ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 330



« ตอบ #12 เมื่อ: 17-07-2008, 13:27 »

ทางออกในสายตาของผมคือ เศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งจริงๆ แล้ว มีพื้นฐานมาจากหลักธรรมทางพุทธคือ สันโดษ (ผมศึกษา งานของท่าน พระพรหมคุณาภรณ์ หลายเล่มเช่น "การพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development)"  "รัฐศาสตร์ จริยธรรมและนักการเมืองแนวพุทธ" ฯลฯ)

เชื่อว่าเป็นทางออก ที่ Practical แม้แต่ รัฐธรรมนูญ ส่วนที่ 7 แนวนโยบายด้านเศรษฐกิจ มาตรา 83 รัฐต้องส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการดำเนินการตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ก็เขียนไว้

เหลือแต่ การนำไปปฏิบัติให้เป็นรูปธรรม (ความจริง ผมเคยอ่านนโยบาย ของไทยรักไทย ยุคแรก ก็เป็นเศรษฐกิจพอเพียง แต่ไปๆมาๆ กลายเป็นทุนนิยมสามานย์ไปได้) กรอบใหญ่ ผมว่านี่เป็นทางออกอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องมี กรอบย่อยๆลงมาเช่น นโยบาย กฏหมาย แผนปฏิบัติการ ที่ยังไม่ชัดเจน และมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล เพราะเราไม่มี ผู้นำที่ดีมานานแล้ว

สำหรับ ในระดับ ปัจเจก ก็ "สันโดษ" ไงครับ




บันทึกการเข้า

"สุดยอดกลยุทธ์ คือชนะโดยไม่ต้องรบ" ซุนวู

"ผู้นำชั้นเลิศนั้น เพียงแต่เป็นที่รับรู้ว่ามีตัวตนอยู่
ชั้นรองลงมา เป็นที่รักและสรรเสริญ
ชั้นรองกว่านั้น เป็นที่เกรงกลัวและเกลียดชัง" เหล่าจื๊อ เต้าเต๋อจิง
สังข์ทองลูกแม่
น้องใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 15


« ตอบ #13 เมื่อ: 17-07-2008, 14:03 »

ขอแจมด้วยครับ

ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเริ่มจากรัฐบาลไหนที่ตัดหลักสูตรเกี่ยวกับ จริยธรรม และสำนึกสาธารณะ ออกจากหลักสูตรของหลักสูตรการศึกษา ภาคบังคับ

สังเกตุได้เลยว่า  generation x y ทั้งหลายเนี่ยมันเปลี๊ยนไปมาก  ลองดูนะ

1.   วิชาสมบัติผู้ดี    -->   gen x y เนี่ยมันมีนะ  แต่หาได้น้อย     
2.   ประวัติศาสตร์ชาติไทย   -->   gen x y ทั้งหลายเนี่ย หาความภูมิใจในรากแห่งความเป็นไทย รักและหวงแหนชาติไทย ได้น้อยมาก   ดูได้จากกรณีเขาพระวิหาร  แม้แต่คนเกลียดหน้าเหลี่ยม  ยังมีความเห็นว่าเขาพระวิหารเป็นของ เขมร   เคยอ่านเจอว่ารัชกาลที่ 5 ทรงเสียพระทัยมากที่ไทยต้องเสียดินแดนให้ ฝรั่งเศสและอังกฤษ  จนทรงถึงขั้นลาสวรรคต 
3.   จริยธรรม ศีลธรรม   --> เด็กสมัยนี้เคยคิดถึงมันหรือก็เปล่า   แต่นะ นักการเมืองอายุ 70 กว่ายังไม่มีเลยจะว่าอะไะเด็ก

ถ้าคนไทยรักประเทศ  และมีสำนึกสาธารณะมากกว่านี้ บ้านเมืองเราจะเป็นเช่นนี้หรือไม่

พระราชนิพนธ์ของ รัชกาลที่ 5 เกี่ยวกับการเสียดินแดน  copy from pantip ครับ

เจ็บนานหนักอกผู้ บริรักษ์ ปวงเฮย
คิดใคร่ลาลาญหัก ปลดเปลื้อง
ความเหนื่อยแห่งสูจัก พลันสร่าง
ตูจักสู่ภพเบื้อง หน้านั้นพลันเขษม
.....
เจ็บนานนึกหน่ายนิตย์ มะนะเรื่องบำรุงกาย
ส่วนจิตบมีสบาย ศิระกลุ้มอุระตรึง
แม้หายก็พลันยาก จะลำบากฤทัยพึง
ตริแต่จะถูกรึง อุระรัดและอัตรา
กลัวเป็นทวิราช บตริป้องอยุธยา
เสียเมืองจึงนินทา บละเว้นฤว่างวาย
คิดใดจะเกี่ยงแก้ ก็บพบซึ่งเงื่อนสาย
สบหน้ามนุษย์อาย จึงจะอุดแลเลยสูญ

ที่มาของโคลงบทนี้
หลังเหตุการณ์เสียดินแดน ร.ศ. 112 ที่ไทยเสียดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงให้กับฝรั่งเศส รัชกาลที่ 5 ทรงเสียพระทัยอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์นั้น
ถึงกับทรงพระประชวรหนัก
ประวัติศาสตร์บอกว่า....ถึงกับทรง....“ลาสวรรคต”

ไม่เสวยพระโอสถ ไม่โปรดให้บุคคลใกล้ชิดเข้าเฝ้าฯ

พระองค์ทรงเปรียบสถานการณ์เหมือนกับครั้งกรุงศรีอยุธยาเสียให้พม่า
ทรงเปรียบพระองค์เหมือนกับขุนหลวง 2 พระองค์
คือ ขุนหลวงหาวัด และขุนหลวงเอกทัศน์ ที่เป็นพระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา
แต่ไม่สามารถรักษาเมืองได้
ทรงพระราชนิพนธ์โคลง ฉันท์ “ลาสวรรคต” แก่เจ้านายพี่น้องสองสามพระองค์

ในสารคดี อยากจะถ่ายทอดส่วนนี้ แต่เวลาไม่พอค่ะ

จากคุณ : ใบนท - [ 13 ก.ค. 51 10:49:28 ]

http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A6771055/A6771055.html
บันทึกการเข้า
Unread
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 83


« ตอบ #14 เมื่อ: 17-07-2008, 14:13 »

 ปัญหาพวกนี้  ผมว่า ดูจาก การเรียกร้องปัญหาของ ชายผู้นี้แล้ว  สันนิษฐานได้ว่า  
 เป็นผู้ฝักใฝ่    หลักประกันอันจอมปลอม  โดยตัวเองไม่มีเงินพอที่จะซื้อรถ
 ก็ยังอุตส่าห์ดิ้นรน ทุรนทุราย เป็นหนี้เป็นสินเพื่อให้มี (เหตุผลแค่ว่าก็คนอื่นเค้ามี) โดยไม่ดูฐานะการเงินของตัวเอง
  ในสังคมไทยปัญหาจราจรที่เป็นปัญหาไม่จบไม่สิ้นทุกวันนี้ไม่ใช่เป็นเพราะ คนอีโก้ในตัวเองสูงเช่นนี้หรือ????  มีกันเกลื่อนแบบนี้ ไม่เห็นตัวเลขจำนวนรถยนต์สูงขึ้นได้อย่างไรกัน  ทั้งๆที่เศรษฐกิจประเทศก็ไม่ค่อยจะดี  แล้วราคา น้ำมัน ยังถีบตัวสูงขึ้นอีกเท่าตัว  แต่  อีโก้ของคนพวกนี้กลับไม่ลดลง
  สร้างค่านิยมผิดๆ ว่าต้องมีรถ สังคมถึงยอมรับ(แต่ต้องเป็นหนี้)  ทำเเบบนี้ก็ต้องคำโบราณ ว่า "เห็นช้างขี้ ขี้ตามช้าง"   แล้วเป็นเช่นนี้ มันผิดที่ นโยบาย หรือ จิตสำนึก ของคุณกันแน่???
    แล้วผมเห็น ชาวบ้าน ที่เค้า รู้จักพอเพียง  พอมีพอกิน(แต่ไม่จำเป็นต้องมีบ้านโก้หรู มีรถยนต์ แต่ต้องมีหนี้สินท่วมหัว) ก็ยังไม่เห็นต้องเป็นหนี้
  
   ชีวิตที่ จมอยู่แต่กับหนี้ และ ปวดหัวกับการดิ้นรนเพื่อ ปลดแอก ให้กับตัวเอง ผมว่า หาใช่เป็นปัญหาเรื่องนโยบายไม่ หากแต่เป็น ปัญหาสันดานมนุษย์โลภ
     ปล. ขอเสริมอีกนิดนึงครับ      ก็เพราะระบอบทุนนิยม ของ ทักษิณ นี่แหละ ที่ เร่งการสร้างหนี้ให้กับประชาชน  และผู้ที่ วุฒิภาวะในตนเองต่ำกว่ามาตรฐาน
            ปล่อยสินเชื่อเข้าไป  ส่งเสริมการเป็นหนี้เข้าไป   ทั้งๆที่การเป็นหนี้ยืมสิน ควรจะเป็นทางออกสุดท้ายให้แก่ ประชาชน หาใช่ ทางเลือก แรก และดูเหมือนกำลัง
      จะเป็นการสร้างนิสัยการติดหนี้โดยไม่จำเป็น จนส่งผลให้กลายเป็น หนี้เสีย โดยปริยาย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-07-2008, 14:18 โดย Unread » บันทึกการเข้า
วาโย
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 250


ซ้ายหรือขวาก็ว่าเอียงทั้งคู่ขอสู้อยู่ตรงกลางดีกว่า


« ตอบ #15 เมื่อ: 17-07-2008, 14:56 »

      สรุปจากประสบการณ์ชีวิตหนี้ของผมเองนะครับทั้งนโยบายของรัฐบาล กระแสสังคม ค่านิยมผิดๆ วิธีคิดเรื่องการศึกษาบ้าๆ
และปัญหาของเจ้าตัวล้วนเป็นปัจจัยส่งเสริมให้เสียศูนย์(เสียค่านิยมไทยแบบเก่าที่ทรงคุณค่า)ด้วยกันทั้งหมดครับ

     ผมยอมรับว่าเป็นคนหนึ่งที่เคยใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟื่อยในช่วงแรกๆที่เริ่มชีวิตการทำงาน ในขณะที่ฟองสบู่กำลัง
พองตัวอย่างเติมที่ ซื้อมันดะไปหมดครับ พอเกิดวิกริต ศ.ก.ขึ้นมาทุกสิ่งทุกอย่างพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ(เหมือนช่วงขาลง
ของรัฐบาลที่มีแต่ปัญหารุมล้อม) การงานเริ่มแย่ ผู้สูงอายุที่บ้านประสบอุบัติเหตุจนพิการ หนุนเงินไปรักษา
ความวัวไม่ทันหายความควายเข้าแทรก คุณพ่อเส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิต เงินยิ่งช๊อตเข้าไปใหญ่ การค้าเริ่มมี
ปัญหาเพราะหมุนทุนไปรักษาจนขาดสภาพคล่อง (รัดทะบวยหัวคานออกมาพูดช๊อตเงินก็กู้สิ) ควายเองไม่โทษใครกู้
ตามนโยบายท่านผู้นำจนเป็นหนี้เป็นสินไม่มีปัญญาหมุนเงินมาจ่ายได้ หนี้เก่าบวกค่าใช้จ่ายที่ก่อไว้เอง(ค่าผ่อนรถ)
ผสมพันธุ์กับหนี้ใหม่จากสินเชื่อบุคคลงอกงามจนหาทางออกให้กับตัวเองไม่ได้ เคยคิดว่าคนที่ฆ่าตัวตายมันควายจริงๆแต่
เขากระบือกำลังงอกบนหัวจนอยากจะล้างไพ่ไปเกิดใหม่ให้รู้แล้วรู้รอด แต่ทำไม่ลงครับเพราะหนี้ที่ผมก่อลูกผมไม่ได้สร้าง
ตัดช่องน้อยแต่พอตัวไม่ลง สองผัวเมียจึงต้องหันหน้าเข้ามาปรึกษากัน สุดท้ายตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นทั้งหมดออก
ให้เหลือแต่ค่าใช้จ่ายที่ชีวิตขาดไม่ได้จริง(ค่าผ่อนรถเจ้ากรรมดันรวมอยู่ด้วย)ทุกวันนี้มีก็ใช้หนี้ จ่ายก็เฉพาะที่ขาดไม่ได้
และหารายได้ทางใหม่ๆเพิ่ม ทำทุกอย่างที่ได้เงินแต่ไม่ผิดศีลธรรมครับ สุดท้ายทุกอย่างจึงเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น
     ปล.วันคืนที่ทุกข์จนอยากล้างไพ่ถ้าไม่ได้หันหน้าเข้าหาธรรมมะของพระพุทธองค์วันนี้คงไม่มีคนมานั่งพิมพ์เรื่องไร้สาระของตัวเองอยู่ที่นี่แล้วครับ
อย่างนี้ผมก็ไม่รู้ว่าจะโทษว่าทุกข์นั้นเกิดขึ้นมาจากใครหรืออะไรเพียงอย่างเดียวได้แต่ทำใจว่ามันช่วยกันทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้น
แต่เชื่อไหมครับการแก้ปัญหากลับเริ่มที่ใจของเราก่อนจริงๆตามพุทธพจณ์เปียบ

                                                                                                 
                                                               ขอบคุณคนอ่านที่อ่านเรื่องไร้สาระนี้จนจบครับ

                                                                                   
บันทึกการเข้า

มาเถอะพี่น้องพ้องเพื่อนชีวิต ...ตื่นเถอะมวลมิตรผู้ยังหลับไหลจากเรา...คาราวาน (ขอยกท่อนหนึ่งของเพลงคาราวานมาแสดงระกันครับ ถึงเวลาแล้วที่คนหลับต้องตื่นสู้ คนอยู่ต้องก้าวต่อไป)
นีโอคอมมิวนิสต์
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 44


« ตอบ #16 เมื่อ: 17-07-2008, 15:06 »

เคยมีการวิเคราะห์  สรุปได้ว่า
คนรุ่นใหม่  ยุคบริโภคมักง่าย - เสรีภาพสุดขอบฟ้า - วุฒิการศึกษาล้นหลาม
จะมีพฤติกรรม "ร่วม" 4 อย่าง ( มากบ้างน้อยบ้าง - เฉพาะทางใดทางหนึ่งบ้าง ) คือ
1. Ignorance ไม่รู้สึกไม่รู้สา ( ไม่เห็นต้องรู้เลย - รู้แล้วมันทำให้ชีวิตดีขึ้นเหรอ )
2. Egoism ทิฐิอัตตาสูง ( เรื่องของกรู  กรูทำในส่วนของกรูได้ดีที่สุดแล้ว )
3. Evasiveness หลบเลี่ยงความรับผิดชอบ ( ก็ปล่อยให้ไอ้นี่ - ไอ้นู่น - ไอ้โน่นทำสิ   ก็แล้วจะมีพวกมันไว้ทำไม )
4. Faithfulness ยึดมั่นถือมั่น ( บ้างก็ "ยึดถือแม่งอยู่อย่างเดียว"   แต่บ้างก็อ้าง "หลักโน่น - นี่ - นั่น" ให้วุ่นวาย  แล้วก็ "ไล่จับหลัก" ...กระโดดเกาะไป ๆ มา ๆ เหมือนลิง )

ดั่งคำที่ท่าน พุทธทาส เคยกล่าวไว้เลย ว่า ตัวกูของกู
บันทึกการเข้า
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #17 เมื่อ: 17-07-2008, 15:15 »

      สรุปจากประสบการณ์ชีวิตหนี้ของผมเองนะครับทั้งนโยบายของรัฐบาล กระแสสังคม ค่านิยมผิดๆ วิธีคิดเรื่องการศึกษาบ้าๆ
และปัญหาของเจ้าตัวล้วนเป็นปัจจัยส่งเสริมให้เสียศูนย์(เสียค่านิยมไทยแบบเก่าที่ทรงคุณค่า)ด้วยกันทั้งหมดครับ

     ผมยอมรับว่าเป็นคนหนึ่งที่เคยใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟื่อยในช่วงแรกๆที่เริ่มชีวิตการทำงาน
....
..
.

เยี่ยมแล้วครับ
บันทึกการเข้า
(ลุง)ถึก สไลเดอร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,026



« ตอบ #18 เมื่อ: 20-07-2008, 03:44 »

มีรูปจาก ริก้า-ลัทเวียมาฝาก ก่อนจะเดินทางต่อไปอิตาลี่ครับ

ทำเนียบประธานาธิบดีของลัทเวีย มีบริเวณคล้ายๆทำเนียบขาว แต่ไม่มีรั้วรอบขอบชิด

สนามหญ้าหน้าทำเนียบ

รัฐสภาของลัทเวีย

อนุสาวรีย์การต่อสู้ของทหารกล้าชาวลัทเวีย มีทหารผลัดเปลี่ยนเวรยามกันตลอดเวลา

ปืนใหญ่โบราณหน้ากำแพงเมืองเก่าของริก้า-ลัทเวีย

สาวๆชาวลัทเวีย พนักงานเสริฟในห้องอาหารบนเรือ มื้อเย็นระหว่างเดินทางกลับสวีเดน

แล้วก็สาวๆที่ ริก้า-ลัทเวีย มีธุรกิจประเภทนี้เยอะแยะไปหมดเลยครับ

ลัทเวียใช้เงินตระกูลLats
1Latsประมาณ70บาทครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-07-2008, 04:13 โดย (ลุง)ถึก สไลเดอร์ » บันทึกการเข้า

(ลุง)ถึก สไลเดอร์
bangkaa
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 407



« ตอบ #19 เมื่อ: 20-07-2008, 03:57 »

ขี้เกียจสมัครสมาชิกง่ะครับ...

 
บันทึกการเข้า

มาทำหน้าที่... ใช้หนี้แผ่นดิน...และมาทำบุญ...
หน้า: [1]
    กระโดดไป: