ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
20-04-2024, 14:06
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ผู้รู้มาตอบทีครับ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ผู้รู้มาตอบทีครับ  (อ่าน 2508 ครั้ง)
May The Force Be With You
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 331


ขอพลังสถิตย์กับท่าน


« เมื่อ: 17-07-2008, 00:15 »

ตกลงที่เขมรจับคนไทยไป 3 คน นี้ พื้นที่ทับซ้อนหรือพื้นที่เขมร ดูข่าวใน tv มันบอกไม่ตรงกัน  tpbs บอกพื้นที่ทับซ้อนแต่ไทยเสียอธิปไตยเหนือพื้นที่ทับ

ซ้อนไปแล้ว  ช่อง 3บอกว่าปีนข้ามรั้วเข้าไปในพื้นที่เขมร  ผู้รู้มาตอบทีนะ
บันทึกการเข้า

"เจไดที่ฉลาดมากๆ คนหนึ่งเคยบอกข้าไว้ว่าเราไม่จำเป็นต้องชนะ แต่เราต้องสู้"
อิรวันชาห์ IrWanSyah
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 870



« ตอบ #1 เมื่อ: 17-07-2008, 00:19 »

ทหารเขมรไม่ได้จับไปหรอกครับ

มันไปนั่งสมาธิในประสาท พร้อมกับคนเขมรอีกสิบกว่าคน เก็บตัวเงียบไม่ยอมออกมา
บันทึกการเข้า

มารุจัง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,761


@^____^@


« ตอบ #2 เมื่อ: 17-07-2008, 00:34 »

เป็นพื้นที่ดินแดนของประเทศไทยเรานี่แหละค่ะ

เพียงแต่เมื่อสมัีย เหลี่ยมเป็นนายกฯ ได้มีชาวเขมรบางส่วนบุกรุกเข้ามาสร้างร้านค้าบ้านเรือน

และนายวิษณุ เครืองาม ได้ทำหนังสือแจ้งเป็นทางการ
แต่เหลี่ยมกลับเพิกเฉยและให้ถอนกำลังทหารกลับออกมา

ทำให้เขมรเอาโอกาสนี้ืรื้อรั้วเหล็กที่กั้นไว้จากบันไดย้ายลงมาที่เชิงบันได

และถือวิสาสะจากการจดทะเบียนขึ้นมรดกโลก
ตู่เอาพื้นที่ของเราไป (ส่วนที่ชาวเขมรตั้งบ้านเรือนและร้านค้า)

และเมื่อทหารของเรา เอารั้วลวดหนามไปกั้นไว้
เพราะกลัวคนไทยกับคนเขมรตีกัน
(แทนที่จะผลักดันชาวเขมรกลับไป)

ทางเขมร ก็เลยโมเมว่า นั้นเป็นการยอมรับกลาย ๆ ในการแบ่งดินแดน
แล้วพอคนไทยข้ามไปที่เชิงเขา
(ถึงต่อให้ปีนข้ามรั้วเชิงเขาเข้าไป ที่เขตบันไดก็ยังเป็นพื้นที่ของไทย ตามคำตัดสินของศาลโลกปี พ.ศ.2505)

ทหารเขมรก็จับตัวคนของเราไว้ (มาจับคนไทยในพื้นที่แผ่นดินไทย เพราะไอ้เหล่มันไปเซ็นสัญญายกพื้นที่ให้เค้าไป)
และก็มีพวกขายชาติ มาช่วยเขมรตะแบงกล่าวหาคนไทยด้วยกันเองว่า ข้ามเขตแดนเขมรค่ะ

 

บันทึกการเข้า


ประชาธิปไตย มิได้จบอยู่แค่การเลือกตั้ง
ปล.รูปจากเวบ ผจก.
จงเจริญ
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 83



« ตอบ #3 เมื่อ: 19-07-2008, 07:17 »

สนธิสัญญาและคำพิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ   ในคดีปราสาทพระวิหาร


โดย   ศาสตราจารย์ ดร. สมปอง สุจริตกุล

วันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2551

 

            เนื่องจากผมได้ทราบข่าวเพิ่มเติมเรื่องปราสาทพระวิหารว่า  คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบให้ไทยลงนามในแถลงการณ์ร่วมกับกัมพูชายินยอมให้กัมพูชาจดทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกในนามของกัมพูชาแต่ผู้เดียวต่อยูเนสโกอันเป็นทบวงการชำนัญพิเศษของสหประชาชาติ ในฐานะที่ผมเป็นทนายผู้ประสานงานกลุ่มทนายไทยทั้ง 4 ชาติในคดีปราสาทพระวิหาร ประกอบด้วย ทนายอังกฤษ  สหรัฐอเมริกา เบลเยี่ยม และไทย โดยทนายเบลเยี่ยม ฯพณฯ อังรี โรแลง หลานของเจ้าพระยาอภัยราชา (กุสตาฟ โร-แลง จ๊ากเกอเมน) เป็นประธาน นอกจากนั้นผมยังอยู่ในคณะกรรมาธิการกฎหมายระหว่างประเทศของสหประชาชาติและอดีตรองประธานคณะกรรมาธิการฯ เป็นเวลา 10 ปี และเป็นที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของยูเนสโกเกี่ยวกับปัญหากฎหมายซึ่งครอบคลุมไปถึงการจดทะเบียนมรดกโลก  ผมมีความวิตกและห่วงใยอย่างลึกซึ้งในปัญหาในปัจจุบันของประเทศชาติ จึงใคร่ขอชี้แจงข้อเท็จจริงและข้อกฏหมายดังต่อไปนี้

ในประเด็นที่ว่าแถลงการณ์ร่วม ไทย-กัมพูชา เป็นสนธิสัญญาหรือไม่นั้น  ไม่มีนักกฏหมายระหว่างประเทศคนใดในโลกสามารถปฏิเสธความจริงข้อนี้ได้ ทั้งนี้ เนื่องจากสนธิสัญญาคือ ‘ความตกลงระหว่างรัฐ’ ที่มีผลผูกพันตามกฏหมายระหว่างประเทศซึ่งอาจเป็นได้หลายรูปแบบ อาทิ อนุสัญญา  ปฏิญญา  หนังสือแลกเปลี่ยน หรือแถลงการณ์ร่วม   แม้แต่สมาคมอาเซียนยังสถาปนาขึ้นมาได้จากแถลงการณ์ร่วมลงวันที่ 8 สิงหาคม ค.ศ. 1967 ซึ่งผมเองเป็นประธานคณะกรรมการร่าง   ในทำนองเดียวกัน  สหประชาชาติที่สถาปนาโดยกฏบัตรสหประชาชาติ  ลงนามโดยสมาชิกผู้เริ่มก่อตั้งก็ไม่ผิดเพี้ยนไปจากแถลงการณ์ร่วมของอาเซียน

ฉะนั้น การที่ผู้หนึ่งผู้ใดอ้างว่า ‘แถลงการณ์ร่วม’ มิใช่ ‘สนธิสัญญา’ นั้น จึงเป็นการเข้าใจผิดโดยรากฐานและปราศจากความรู้ความเข้าใจในตัวบทของอนุสัญญากรุงเวียนนาเมื่อปี ค.ศ. 1969 ว่าด้วยสนธิสัญญาซึ่งได้ให้นิยามสนธิสัญญาไว้อย่างชัดเจนว่าเป็นความตกลงระหว่างประเทศซึ่งทำขึ้นเป็นลายลักษณ์อักษรและมีผลผูกพันตามกฏหมายระหว่างประเทศไม่ว่าจะทำขึ้นในรูปแบบใดโดยไม่จำเป็นต้องใช้ชื่อว่า ‘สนธิสัญญา’ เสมอไป  ทั้งนี้จะเป็นในรูปแบบ ‘แถลงการณ์ร่วม’ ก็ยังได้

ด้วยเหตุผลข้างต้น  แถลงการณ์ร่วม ไทย-กัมพูชา จึงเป็นสนธิสัญญาฉบับใหม่ซึ่งยืนยันว่าบัดนี้ไทยได้เพิกถอนคำคัดค้านคำพิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในคดีปราสาทพระวิหารเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ค.ศ. 1962 รวมทั้งถอนข้อสงวนที่ตั้งไว้อย่างชัดเจนในเดือนกรกฎาคมปีเดียวกัน โดย ฯพณฯ ดร. ถนัด คอมันตร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้มีหนังสือถึงเลขาธิการสหประชาติแสดงท่าทีของรัฐบาลไทยอย่างชัดแจ้งว่าไทยมิได้ขัดขืนหรือฝ่าฝืนคำพิพากษาของศาลฯ ซึ่งไทยไม่เห็นด้วย

สรุปได้ว่าคำแถลงการณ์ร่วมของไทยและกัมพูชาซึ่งลงนามโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกับเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2551 เป็นการหยิบยื่นดินแดนให้กัมพูชาโดยปราศจากเงื่อนไข

ในฐานะที่เป็นสมาชิกสหประชาชาติ  หลังจากศาลยุติธรรมระหว่างประเทศตัดสินข้อพิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชามนคดีปราสาทพระวิหารเสร็จสิ้น ไทยได้ถอนทหารและยามออกจากบริเวณปราสาทพระวิหาร และไม่ขัดขวางหรือกีดกันการเข้าไปครอบครองตัวปราสาทโดยกัมพูชา  แต่กระนั้นก็ตาม ไทยได้มีหนังสือคัดค้านไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษาข้างมาก แต่เห็นพ้องกับคำพิพากษาแย้ง และได้ตั้งข้อสงวนว่าไทยอาจกลับเข้าไปครอบครองปราสาทพระวิหารในวันข้างหน้า  ทั้งนี้ เนื่องจากไทยยังคงถือว่าปราสาทพระวิหารอยู่ในอำนาจอธิปไตยของไทย

หนังสือฉบับนั้นส่งไปจากกรมสนธิสัญญาและกฏหมายของกระทรวงการต่างประเทศ โดย ม.จ. เพลิงนพดล  รพีพัฒน์  โอรสในกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ พระบิดาแห่งกฏหมายไทย เป็นอธิบดี และนายจาพิกรณ์ เศรษฐบุตร ผู้รักษาการที่ปรึกษากฏหมายเป็นหัวหน้ากองกฏหมาย และ ผม นายสมปอง สุจริตกุล เป็นผู้ยกร่าง   หนังสือว่าด้วยข้อสงวนยังมีผลบังคับจนถึงปัจจุบันโดยมิได้มีการขาดอายุความตามความเข้าใจของบางท่าน  ทั้งนี้เพราะมิได้จำกัดอยู่เพียงการทบทวนคำพิพากษาตามนัยข้อ 61 แห่งธรรมนูญศาล  หากใช้กับการตีความและขอบเขตของคำพิพากษานัยข้อ 60 โดยตรงและข้อ 33 แห่งกฏบัตรสหประชาชาติซึ่งล้วนปลอดอายุความ

เนื่องจากศาลยุติธรรมระหว่างประเทศไม่มีมาตรการในการดำเนินการบังคับคดีเช่นศาลยุติธรรมในระบบกฏหมายภายในของไทยหรือของประเทศอื่นๆ ซึ่งมีองค์กรที่จะดำเนินการตามกระบวนยุติธรรม อาทิ กองหมาย กองรักษาทรัพย์ และกองบังคับคดี  ฯลฯ  ฉะนั้น เมื่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศได้ตัดสินคดีหนึ่งคดีใด  จึงไม่มีการบังคับคดีให้เป็นไปตามคำพิพากษา  และอาจไม่มีการปฏิบัติตามคำพิพากษาเลยก็ได้

ในกรณีพิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชาในคดีปราสาทพระวิหาร  แม้เสียงข้างมากจะตัดสินให้ปราสาทพระวิหารอยู่ภายใต้อำนาจอธิปไตยของกัมพูชา  แต่ยังมีผู้พิพากษาอีกหลายท่านที่เขียนคำพิพากษาแย้งไว้ว่าประสาทพระวิหารยังคงอยู่ในเขตอำนาจอธิปไตยของไทยตามหลักสันปันน้ำที่กำหนดไว้ในสนธิสัญญา ค.ศ. 1904

พื้นที่ทับซ้อนในปัจจุบันของไทยกับกัมพูชานั้น  ได้แก่ตัวปราสาทพระวิหารเท่านั้น   แม้ในแผนที่อีกหลายฉบับลากเส้นเขตแดนไทยไม่ตรงกัน  ไทยถือว่าปราสาทพระวิหารเป็นเขตในอำนาจอธิปไตยของไทย   กัมพูชาก็ถือว่าอยู่ในเขตของกัมพูชา   ไทยยึดสันปันน้ำเป็นเส้นแบ่งเขตตามสนธิสัญญาทวิภาคีกับฝรั่งเศสลงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ร.ศ. 122  ดังนี้

ข้อ 1  กำหนดเขตแดนบริเวณที่ปราสาทพระวิหารตั้งอยู่ให้เป็นไปตามยอดภูเขาปันน้ำระหว่างดินแดนน้ำตกน้ำแสนแลดินแดนน้ำตกแม่โขงฝ่ายหนึ่ง  กับดินแดนน้ำตกน้ำมูลอีกฝ่ายหนึ่งจนบรรจบถึงภูเขาผาด่าง แล้วต่อเนื่องไปข้างทิศตะวันออกตามแนวยอดภูเขานี้จนบรรจบถึงแม่โขง   ตั้งแต่ที่บรรจบนี้ขึ้นไป แม่โขงเป็นเขตแดนของกรุงสยาม ตามความข้อ 1 ในหนังสือสัญญาใหญ่ ณ วันที่ 3 ตุลาคม รัตนโกสินทร์ศก 112

 



 
บันทึกการเข้า
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #4 เมื่อ: 19-07-2008, 09:08 »

เป็นพื้นที่ทับซ้อนที่ สุขุมพันธ์ ไปเซ็นต์ช่วยจำไว้ในปี 2543 (แต่ไม่รู้สามคนบ้านั่น
จะเดินไปถึงแค่ไหน) ทีวีช่องเป็นกลางที่รายงานว่าพื้นที่ทับซ้อน คือ NBT ช่องอื่น
ที่รายงานมั่วๆ คงเป็นทีวีมือสมัครเล่นมากกว่า พื้นที่ทับซ้อนให้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน
บางทีก็บอกยากว่า ร้านค้าที่คนในท้องที่ลูกครึ่งไทยเขมรไปตั้งขายของอยู่เป็นของ
ประเทศไหน คนที่ทำมาหากินแถวนั้นมันก็ทับๆ ซ้อนๆ ระหว่างสองประเทศเหมือนกัน
บันทึกการเข้า
มารุจัง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,761


@^____^@


« ตอบ #5 เมื่อ: 19-07-2008, 09:13 »

เป็นพื้นที่ทับซ้อนที่ สุขุมพันธ์ ไปเซ็นต์ช่วยจำไว้ในปี 2543 (แต่ไม่รู้สามคนบ้านั่น
จะเดินไปถึงแค่ไหน) ทีวีช่องเป็นกลางที่รายงานว่าพื้นที่ทับซ้อน คือ NBT ช่องอื่น
ที่รายงานมั่วๆ คงเป็นทีวีมือสมัครเล่นมากกว่า พื้นที่ทับซ้อนให้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน
บางทีก็บอกยากว่า ร้านค้าที่คนในท้องที่ลูกครึ่งไทยเขมรไปตั้งขายของอยู่เป็นของ
ประเทศไหน คนที่ทำมาหากินแถวนั้นมันก็ทับๆ ซ้อนๆ ระหว่างสองประเทศเหมือนกัน

ในเมื่อคุณ ติดแก๊ส ไม่รู้ว่า ทั้ง 3 คนเดินไปถึงตรงบริเวณไหน เหตุใดจึงสรุปเชื่อว่าทั้ง 3 คนเข้าเขตแดนเขมรคะ
นอกจากนี้ยังกล่าวหาว่าพวกเค้าเป็นคนบ้าอีกด้วย
และทีวีช่องกลางคือ NBT ที่คุณอ้างมา เป็นที่รู้กันทั้งบ้านทั้งเมืองว่า ไม่มีความเป็นกลาง
เพียงแต่ เป็นกลางในกลุ่มคนที่ชื่นชอบรัฐบาลเท่านั้น
เพราะช่องนี้ เป็นช่องที่พูดแล้วถูกใจพวกคุณทีุ่สุดเท่านั้นเอง
จริงมั้ยคะ
 
บันทึกการเข้า


ประชาธิปไตย มิได้จบอยู่แค่การเลือกตั้ง
ปล.รูปจากเวบ ผจก.
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #6 เมื่อ: 19-07-2008, 09:27 »

ในเมื่อคุณ ติดแก๊ส ไม่รู้ว่า ทั้ง 3 คนเดินไปถึงตรงบริเวณไหน เหตุใดจึงสรุปเชื่อว่าทั้ง 3 คนเข้าเขตแดนเขมรคะ
นอกจากนี้ยังกล่าวหาว่าพวกเค้าเป็นคนบ้าอีกด้วย
และทีวีช่องกลางคือ NBT ที่คุณอ้างมา เป็นที่รู้กันทั้งบ้านทั้งเมืองว่า ไม่มีความเป็นกลาง
เพียงแต่ เป็นกลางในกลุ่มคนที่ชื่นชอบรัฐบาลเท่านั้น
เพราะช่องนี้ เป็นช่องที่พูดแล้วถูกใจพวกคุณทีุ่สุดเท่านั้นเอง
จริงมั้ยคะ
 

ถั่วหรือเปล่า ตรงไหนกันที่สรุปว่า 3 คนเข้าเขตแดนเขมร
ทีวีช่องเป็นกลาง NBT ก็บอกอยู่แล้วว่าเข้าไปพื้นที่ทับซ้อน
ซึ่งสุขุมพันธ์เซ็นต์ไว้ ตอนนี้ก็มีแค่ทหารทั้งสองฝ่ายอยู่ ไม่ได้
ให้คนทั่วไปเข้าไปจนกว่าจะตกลงกันได้ เมื่อมีคนบ้า (ตาม
คำพูดของนายกรัฐมนตรี) สามคนเดินเข้าไป ทหารเขมรจะ
จับไปก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ก็เป็นไปตามบันทึกช่วยจำที่เซ็นต์
ไว้ แล้วจะมาโวยอะไร มิตรเขมรไม่ได้จับไปขังคุกซะหน่อย
บันทึกการเข้า
มารุจัง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,761


@^____^@


« ตอบ #7 เมื่อ: 19-07-2008, 09:49 »

ถ้าเช่นนั้น เหตุใดชาวเขมรจึงเข้ามาอยู่ได้ล่ะค่ะ
แล้วเหตุใดคนไทยจึงเข้าไปไม่ได้
 
บันทึกการเข้า


ประชาธิปไตย มิได้จบอยู่แค่การเลือกตั้ง
ปล.รูปจากเวบ ผจก.
คนไทยคนหนึ่ง
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 744


« ตอบ #8 เมื่อ: 19-07-2008, 10:15 »





เพราะเหล่ไปเซ็นรับรองแผนที่ 1: 200 000 ของเขมร ซึ่งมีเส้นแสดงเขตแดน ในเอกสารที่เขมรยื่นจดทะเบียนปราสาทพระวิหาร

เขมรถึงกล้าอ้างสิทธ์เหนือพื้นดินบริเวณนั้น ซึ่งแต่ก่อนเขมรไม่เคยอ้างสิทธ์เหนือพื้นที่นี้เลย

เส้นประสีชมพู คือเส้นแสคงเขตแดนระหว่างไทย-เขมร ตัวหนังสือฝรั่งเศสสีชมพูที่เขียนกำกับแปลเป็นไทยว่า "เส้นเขตแดน"
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-07-2008, 10:22 โดย คนไทยคนหนึ่ง » บันทึกการเข้า
here_muk
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 83


« ตอบ #9 เมื่อ: 19-07-2008, 10:35 »

ถ้าเช่นนั้น เหตุใดชาวเขมรจึงเข้ามาอยู่ได้ล่ะค่ะ
แล้วเหตุใดคนไทยจึงเข้าไปไม่ได้
 

ก็มันเป็นเขตแดนเขมร     เอ๊ะไม่ใช่สิ มันเป็นพื้นที่ทับซ้อน    เอ๊ะยังไม่ใช่ มันเป็นพื้นที่พิพาท   อ้ะยังไม่ใช่ มันเป็นของเขมร
แน่ะ ก็ยังไม่ใช่     มันเป็นของไทย อ่าว ทำไมเขมรจับคนไทยที่อยู่ในแดนไทย  เอ๊ะ อ้ะ โอ๊ะ 
สรุปก็คือ ถ้าเป็นบรรพบุรุษ โคร ตพ่อโคร ตแม่ของพวกมันที่เป็นคนเขมรถึงจะเข้ามาได้ แต่คนไทยเข้าไม่ได้ ถึงจะเป็นเขตแดนของไทยก็ตาม
บันทึกการเข้า
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #10 เมื่อ: 19-07-2008, 12:31 »

ถ้าเช่นนั้น เหตุใดชาวเขมรจึงเข้ามาอยู่ได้ล่ะค่ะ
แล้วเหตุใดคนไทยจึงเข้าไปไม่ได้
 

รู้ได้ไง ว่าคนที่อยู่ตรงนั้นเป็น เขมร หรือ ไทย คนแถวชายแดน
หรือแม้กระทั่งทั้งจังหวัดนั้น น่าจะพูดหรือฟังภาษาเขมรได้ เผลอๆ
มีญาติอยู่ทั้งสองประเทศ ก็คล้ายๆ พวกสามจังหวัดชายแดนใต้ที่
สามารถข้ามไปมากับมาเลย์ได้ ถ้าเป็นทั้งไทยทั้งเขมรเพราะระบุ
ไม่ได้ว่าเป็นชาติไหน ผลักดันออกไปก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องตามบันทึก
ช่วยจำที่เซ็นต์แล้ว เมื่อก่อนไม่มีพวกบ้าคลั่งอยากได้ดินแดนทับซ้อน
มาเป็นของเรา ทหารคงผ่อนเพื่อให้คนสองประเทศมาทำมาหากิน
ร่วมกันได้ ตอนนี้มันมีการปลุกระดม ทหารคงต้องให้ออกมาจากพื้น
ที่นั้นทั้งหมด แบบค่อยเป็นค่อยไป ทีนี้ดันมีคนบ้าแหลมหน้าเข้าไป
ทั้งที่พวกทหารกำลังเชิญคนที่อยู่ข้างในให้ไปประเทศใครประเทศ
มันอยู่ มันก็อย่างที่เห็น ไม่มีอะไรน่าเข้าใจยาก
บันทึกการเข้า
มารุจัง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,761


@^____^@


« ตอบ #11 เมื่อ: 19-07-2008, 12:42 »

แหม..คุณขา..
มาถามว่ารู้ได้ไงว่าเป็นคนเขมร
แล้วถ้าไม่ใช่คนเขมร
ทำไมทหารเขมรไม่จับไปพร้อม ๆ กับ 3 คนไทยล่ะคะ


เหตุใดจึงจับแต่ 3 คนไทย
ไม่จับคนที่อยู่ตรงนั้นไปให้หมดล่ะคะ
ในเมื่อเขมรเค้าประกาศโจ่งแจ้งว่าตรงนั้นเป็นของเค้า
ส่วนเราก็บอกว่าเป็นของเรา
อ้อ.. วันนี้สมัครออกมาบอกแล้วนะคะ
ว่าตรงนั้นเป็นพื้นที่แผ่นดินไทย

คุณต้องตอบดิิฉันแล้วล่ะค่ะ
ว่าทำไมทหารเขมรถึงจับแต่ 3 คนไทย
 
บันทึกการเข้า


ประชาธิปไตย มิได้จบอยู่แค่การเลือกตั้ง
ปล.รูปจากเวบ ผจก.
นักปฏิวัติ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 330



« ตอบ #12 เมื่อ: 19-07-2008, 12:50 »

ตกลงที่เขมรจับคนไทยไป 3 คน นี้ พื้นที่ทับซ้อนหรือพื้นที่เขมร ดูข่าวใน tv มันบอกไม่ตรงกัน  tpbs บอกพื้นที่ทับซ้อนแต่ไทยเสียอธิปไตยเหนือพื้นที่ทับ

ซ้อนไปแล้ว  ช่อง 3บอกว่าปีนข้ามรั้วเข้าไปในพื้นที่เขมร  ผู้รู้มาตอบทีนะ

ขอมอบหมายให้ ผู้ว่าฯศรีสะเกษ เป็นผู้ตอบคำถามดังนี้

"...นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวเมื่อวันที่ 17 ก.ค.ถึงสถานการณ์บริเวณเขาพระวิหาร ชายแดนไทยและกัมพูชา ว่า ได้มีกำลังทหารของฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาจำนวนมากเข้าไปตรึงกำลังบริเวณเชิงเขาพระวิหาร ทำให้นักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร อาจไม่ได้รับความปลอดภัยได้ ดังนั้น เพื่อเป็นการปรับปรุงอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารและเพื่อความปลอดภัย จึงขอประกาศปิดอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารเป็นการชั่วคราว เมื่อเหตุการณ์ปกติแล้ว จึงจะเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวชมได้ตามปกติต่อไป

นายเสนีย์ กล่าวว่า ตามคำพิพากษาของศาลโลกเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 2505 ได้พิพากษาให้ประเทศกัมพูชามีอธิปไตยเหนือปราสาทพระวิหารเท่านั้น ส่วนบริเวณนอกเขตปราสาทพระวิหารนั้น เป็นเขตแดนของประเทศไทยทั้งหมด ดังนั้น จึงขอยืนยันว่า การที่อ้างว่าเป็นเขตทับซ้อนทั้งหมด รวมทั้งตลาดร้านค้าชุมชนกัมพูชาและวัดกัมพูชา ที่มาสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2541 เป็นต้นมานั้น ถือเป็นเขตแดนของประเทศไทยอย่างแน่นอน และตนจะร่วมผลักดันให้ชาวกัมพูชาออกไปจากเขตแดนไทยที่เชิงเขาพระวิหารให้ได้โดยเร็วที่สุด ..."

http://www.matichon.co.th/news_title.php?id=2508

บันทึกการเข้า

"สุดยอดกลยุทธ์ คือชนะโดยไม่ต้องรบ" ซุนวู

"ผู้นำชั้นเลิศนั้น เพียงแต่เป็นที่รับรู้ว่ามีตัวตนอยู่
ชั้นรองลงมา เป็นที่รักและสรรเสริญ
ชั้นรองกว่านั้น เป็นที่เกรงกลัวและเกลียดชัง" เหล่าจื๊อ เต้าเต๋อจิง
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #13 เมื่อ: 19-07-2008, 12:51 »

แหม..คุณขา..
มาถามว่ารู้ได้ไงว่าเป็นคนเขมร
แล้วถ้าไม่ใช่คนเขมร
ทำไมทหารเขมรไม่จับไปพร้อม ๆ กับ 3 คนไทยล่ะคะ


เหตุใดจึงจับแต่ 3 คนไทย
ไม่จับคนที่อยู่ตรงนั้นไปให้หมดล่ะคะ
ในเมื่อเขมรเค้าประกาศโจ่งแจ้งว่าตรงนั้นเป็นของเค้า
ส่วนเราก็บอกว่าเป็นของเรา
อ้อ.. วันนี้สมัครออกมาบอกแล้วนะคะ
ว่าตรงนั้นเป็นพื้นที่แผ่นดินไทย

คุณต้องตอบดิิฉันแล้วล่ะค่ะ
ว่าทำไมทหารเขมรถึงจับแต่ 3 คนไทย
 
ตรรกะอนุบาลฉิบ รู้จักคนสองสัญชาติหรือลูกครึ่งบ้างมั้ย ถึงเป็นคนไทย
แต่พ่อแม่เป็นเขมร รายได้ส่งให้เขมร คุ้นเคยกับพวกเขมรดี เค้าคงไม่เสีย
เวลาจับหรอก ยังไงก็ไม่ทำให้ท้องถิ่นเกิดปัญหา เหมือนไอ้บ้าสามตัวนั่น
บันทึกการเข้า
มารุจัง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,761


@^____^@


« ตอบ #14 เมื่อ: 19-07-2008, 12:55 »

หึหึหึ
อ้างได้มั่วดีแท้
คน 2 สัญชาติ
พูดเหมือนตาเห็น เหมือนจะรู้ว่าเค้าเป็นคน 2 สัญชาติ
55555555

แล้วพ่อแม่เป็นเขมรเนี่ย เค้าไม่ถือเป็น 2 สัีญชาตินะคะ
โดยเนื้อแท้ ต้องถือว่าเป็นคนเขมรค่ะ
หากจะอ้างว่าเกิดในเมืองไทย
คุณก็ต้องยอมรับว่าบริเวณนั้นเป็นอาณาเขตของไทยก่อนสิคะ
และเมื่อเป็นอาณาเขตของไทย
เหตุใดทหารเขมรจึงล่วงล้ำเข้ามา
แล้วเหตุใดคนไทยจึงไปไม่ได้.....

และเมื่อเป็นเขตแดนไทย
ทำไมให้ทหารเขมรมาจับ 3 คนไทย

และหากคุณบอกว่าเป็นพื้นที่ทับซ้อน (ตามความเข้าใจของคุณ)
ทั้ง ๆ ที่เพื่อนสมาชิกและผู้ทรงคุณวุฒิทั้งหลายพยายามอธิบายแล้ว่าไม่มีพื้นที่ทับซ้อนบนแผ่นดิน
จะถือว่าเกิดบนแผ่นดินไทยไม่ได้ ก็จะไม่ใช่คนไทย

ตกลงคุณจะบอกว่าเป็นพื้นที่ไทย หรือเขมร
คุณต้องบอกมาให้ชัดก่อนค่ะ

อีกนิดค่ะ ก่อนคุณแก๊สจะตอบดิฉัน รบกวนช่วยอ่านข้อความที่คุณ นักปฏิบัติเอามาให้อ่านก่อนตอบด้วยนะคะ


 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-07-2008, 13:08 โดย มารุจัง » บันทึกการเข้า


ประชาธิปไตย มิได้จบอยู่แค่การเลือกตั้ง
ปล.รูปจากเวบ ผจก.
นักปฏิวัติ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 330



« ตอบ #15 เมื่อ: 19-07-2008, 13:05 »

ขอมอบหมายให้ ผู้ว่าฯศรีสะเกษ เป็นผู้ตอบคำถามดังนี้

"...นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวเมื่อวันที่ 17 ก.ค.ถึงสถานการณ์บริเวณเขาพระวิหาร ชายแดนไทยและกัมพูชา ว่า ได้มีกำลังทหารของฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาจำนวนมากเข้าไปตรึงกำลังบริเวณเชิงเขาพระวิหาร ทำให้นักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร อาจไม่ได้รับความปลอดภัยได้ ดังนั้น เพื่อเป็นการปรับปรุงอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารและเพื่อความปลอดภัย จึงขอประกาศปิดอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารเป็นการชั่วคราว เมื่อเหตุการณ์ปกติแล้ว จึงจะเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวชมได้ตามปกติต่อไป

นายเสนีย์ กล่าวว่า ตามคำพิพากษาของศาลโลกเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 2505 ได้พิพากษาให้ประเทศกัมพูชามีอธิปไตยเหนือปราสาทพระวิหารเท่านั้น ส่วนบริเวณนอกเขตปราสาทพระวิหารนั้น เป็นเขตแดนของประเทศไทยทั้งหมด ดังนั้น จึงขอยืนยันว่า การที่อ้างว่าเป็นเขตทับซ้อนทั้งหมด รวมทั้งตลาดร้านค้าชุมชนกัมพูชาและวัดกัมพูชา ที่มาสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2541 เป็นต้นมานั้น ถือเป็นเขตแดนของประเทศไทยอย่างแน่นอน และตนจะร่วมผลักดันให้ชาวกัมพูชาออกไปจากเขตแดนไทยที่เชิงเขาพระวิหารให้ได้โดยเร็วที่สุด ..."

http://www.matichon.co.th/news_title.php?id=2508


เอ้า ให้โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ มาย้ำให้อีกที

อ้างถึง
นายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมว่า กระทรวงการต่างประเทศได้เชิญนายอึง เซียน เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย มาพบเพื่อมอบหนังสือที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามถึงสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ตอบหนังสือที่นายกรัฐมนตรีกัมพูชามีมาถึงฝ่ายไทยเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม โดยนายกรัฐมนตรีได้ยืนยันความตั้งใจของรัฐบาลไทยที่จะแก้ไขสถานการณ์ในบริเวณพื้นที่ที่ติดกับปราสาทพระวิหารโดยสันติวิธีและเป็นธรรม และมอบหมายให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุดนำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) สมัยพิเศษ ที่จังหวัดสระแก้ว ในวันที่ 21 กรกฎาคม เพื่อหารืออย่างฉันมิตรกับฝ่ายกัมพูชา และย้ำว่าทั้งสองประเทศควรใช้ความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ลุกลาม


นายธฤตกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีไทยยืนยันว่าพื้นที่บริเวณวัดแก้วสิขเรศวร ที่กล่าวถึงในหนังสือของนายกรัฐมนตรีกัมพูชาอยู่ในดินแดนของไทย การที่ได้มีชาวกัมพูชาขึ้นไปสร้างวัด สิ่งปลูกสร้างต่างๆ รวมทั้งที่อยู่อาศัย กับทั้งมีทหารอยู่ในพื้นที่นั้น ถือว่าได้ละเมิดอธิปไตยและดินแดนของไทย ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลไทยได้ทำการประท้วงเป็นลายลักษณ์อักษรมาแล้ว 4 ครั้งตั้งแต่ปี 2547 2548 2550 และครั้งหลังสุดเมื่อเดือนเมษายน 2551


http://www.matichon.co.th/news_title.php?id=2520

บันทึกการเข้า

"สุดยอดกลยุทธ์ คือชนะโดยไม่ต้องรบ" ซุนวู

"ผู้นำชั้นเลิศนั้น เพียงแต่เป็นที่รับรู้ว่ามีตัวตนอยู่
ชั้นรองลงมา เป็นที่รักและสรรเสริญ
ชั้นรองกว่านั้น เป็นที่เกรงกลัวและเกลียดชัง" เหล่าจื๊อ เต้าเต๋อจิง
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #16 เมื่อ: 19-07-2008, 13:16 »

หึหึหึ
อ้างได้มั่วดีแท้
คน 2 สัญชาติ
พูดเหมือนตาเห็น เหมือนจะรู้ว่าเค้าเป็นคน 2 สัญชาติ
55555555

แล้วพ่อแม่เป็นเขมรเนี่ย เค้าไม่ถือเป็น 2 สัีญชาตินะคะ
โดยเนื้อแท้ ต้องถือว่าเป็นคนเขมรค่ะ
หากจะอ้างว่าเกิดในเมืองไทย
คุณก็ต้องยอมรับว่าบริเวณนั้นเป็นอาณาเขตของไทยก่อนสิคะ
และเมื่อเป็นอาณาเขตของไทย
เหตุใดทหารเขมรจึงล่วงล้ำเข้ามา
แล้วเหตุใดคนไทยจึงไปไม่ได้.....

และเมื่อเป็นเขตแดนไทย
ทำไมให้ทหารเขมรมาจับ 3 คนไทย

และหากคุณบอกว่าเป็นพื้นที่ทับซ้อน (ตามความเข้าใจของคุณ)
ทั้ง ๆ ที่เพื่อนสมาชิกและผู้ทรงคุณวุฒิทั้งหลายพยายามอธิบายแล้ว่าไม่มีพื้นที่ทับซ้อนบนแผ่นดิน
จะถือว่าเกิดบนแผ่นดินไทยไม่ได้ ก็จะไม่ใช่คนไทย

ตกลงคุณจะบอกว่าเป็นพื้นที่ไทย หรือเขมร
คุณต้องบอกมาให้ชัดก่อนค่ะ

อีกนิดค่ะ ก่อนคุณแก๊สจะตอบดิฉัน รบกวนช่วยอ่านข้อความที่คุณ นักปฏิบัติเอามาให้อ่านก่อนตอบด้วยนะคะ
 

เวรกำ ไม่ได้ระบุเพราะไม่รู้ว่าคนตรงพื้นที่ทับซ้อนนั้นเป็นคนประเทศไหน แต่จากความน่าจะเป็นง่ายๆ
ตามบันทึกช่วยจำที่เซ็นต์ให้เป็นพื้นที่ใช้ประโยชน์ร่วมกัน หมายความว่า พื้นที่ที่ไทยบอกว่าเป็นของ
ไทย และ เขมรบอกว่าเป็นของเขมร จะให้บอกในมุมไทยหรือเขมร ว่าที่ตรงนั้นเป็นของใคร ในข้อเท็จ
จริงก็คือพื้นที่ทับซ้อน (คุยวนไปวนมาเหมือนคุยกะเด็กอนุบาล)

โอกาสที่คนไทยในพื้นที่จะทำมาหากินตรงนั้น เท่ากับ โอกาสที่คนเขมรในพื้นที่จะทำมาหากินตรงนั้น
ก็คนละครึ่ง ความน่าจะเป็นต่อมาคือ คนไทยในพื้นที่จะมี พ่อเป็นไทย หรือ พ่อเป็นเขมรก็ หรือ คนเขมร
พ่อเป็นคนไทย พ่อเป็นเขมร แม่เป็นคนไทย แม่เป็นคนเขมร แม่จริงเป็นไทย แม่เลี้ยงเป็นเขมร ปู่ย่าตา
ทวดเป็นไทย แต่ยายเป็นเขมร ก็เป็นได้ทั้งนั้น ที่สำคัญคือ พวกนี้เค้าอยู่สร้างความเจริญให้พื้นที่มาก่อน
ทหารที่คุ้นเคยจะไปขับไล่ทำไม ไม่เหมือนกับพวกอ้างว่าเป็นคนไทยเข้ามาป่วน ทหารเขมรจะปล่อยให้
เข้ามาปลุกระดมทำไม ตอนนี้เรื่องบานปลาย เลยต้องเชิญคนในพื้นที่ออกไปอีก พอเรื่องสงบก็คงเชิญกลับ
มาทำมาหากินใหม่ ก็ร้านขายของที่ระลึกมันเป็นส่วนประกอบจำเป็นสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวอยู่แล้ว

จะคุยวนเวียน ว่าคนแถวนั้นประเทศไหน พื้นที่ตรงนั้นของใครอีกมั้ยเนี่ย ใจเย็นพอสอนเด็กอนุบาลได้ 
บันทึกการเข้า
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #17 เมื่อ: 19-07-2008, 13:27 »

 
แสดงว่าไอ้หมักดื้อด้านไม่เข้าท่า
ยอมถอนทหารตามคำสั่งท่านฮุนเซนซะเร็วๆ ก็แฮปปี้เอนดิ้งแล้ว

โยกโย้อยู่นั่น คนเค้าจะทำมาหากิน



จะได้สร้างคาสิโนกันซะที Confused
บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
มารุจัง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,761


@^____^@


« ตอบ #18 เมื่อ: 19-07-2008, 13:29 »

สรุปคือ คุณแก๊ส ไม่สามารถยืนยันได้ใช่หรือไม่คะ
ว่าชาวบ้านที่อยู่แถบนั้นเป็นคนไทยหรือเขมรกันแน่

คุณแก๊ส อาศัยแต่ความน่าจะเป็นเพียงอย่างเดียว เป็นตัวตัดสินความเชื่อของคุณ
หากว่าความน่าจะเป็นของคุณ เป็นสิ่งที่ผิด
สิ่งที่คุณเชื่อหรือเอามาเป็นตัวตัดสิน ก็จะเป็นสิ่งที่ผิดด้วย

ด้วยเหตุนี้ ดิฉันถึงต้องขอให้คุณแก๊ส ยืนยันก่อนไงคะ
ว่าตามความเข้าใจของคุณ ตรงนั้นเป็นพื้นที่ของเขมร หรือของไทย


เมื่อคุณตอบให้ดิฉันได้ แล้วเราค่อยมาคุยกันต่อดีกว่าค่ะ
หากใช้ความน่าเป็น มันไม่สามารถสรุปอะไรได้หรอกค่ะ
เพราะส่วนหนึ่งของความน่าจะเป็น น่าจะใช่ มันเกิดจากความโน้มเอียงของใจเราอยู่แล้วค่ะ

เพราะในปี พ.ศ.2505 ตามศาลโลกตัดสิน เขมรจะได้เฉพาะตัวปราสาทพระวิหารไป
ส่วนพื้นที่บริเวณบันไดบางส่วนถึงเชิงเขา ที่มีปัญหาอยู่เป็นของไทย
ดัีงนั้นชาวเขมรที่เข้ามาอยู่ ไม่ว่าคุณจะเชื่อว่าถือ 2 สัญชาติหรือไม่
ก็อยู่ในแผ่นดินไทย
และการที่ทหารเขมรมาจับตัวคนไทย ก็ไม่ถูกต้องอยู่ดี

ไม่เป็นไรค่ะ ดิฉันยินดีเป็นเด็กอนุบาล
หากคุณมีัข้อมูลที่มั่นใจได้มากกว่าความน่าจะเป็น ดิฉันก็ยินดีเรียนรู้และรับฟังค่ะ
หากแต่เป็นเพียงการคาดคะเน คาดเดาของคุณ
ดิฉันเชื่อว่า ความน่าเชื่อถือของข้อมูลของคุณ ก็คงจบค่ะ


ขอบคุณค่ะ

 


บันทึกการเข้า


ประชาธิปไตย มิได้จบอยู่แค่การเลือกตั้ง
ปล.รูปจากเวบ ผจก.
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #19 เมื่อ: 19-07-2008, 13:34 »

สรุปคือ คุณแก๊ส ไม่สามารถยืนยันได้ใช่หรือไม่คะ
ว่าชาวบ้านที่อยู่แถบนั้นเป็นคนไทยหรือเขมรกันแน่

คุณแก๊ส อาศัยแต่ความน่าจะเป็นเพียงอย่างเดียว เป็นตัวตัดสินความเชื่อของคุณ
หากว่าความน่าจะเป็นของคุณ เป็นสิ่งที่ผิด
สิ่งที่คุณเชื่อหรือเอามาเป็นตัวตัดสิน ก็จะเป็นสิ่งที่ผิดด้วย

ด้วยเหตุนี้ ดิฉันถึงต้องขอให้คุณแก๊ส ยืนยันก่อนไงคะ
ว่าตามความเข้าใจของคุณ ตรงนั้นเป็นพื้นที่ของเขมร หรือของไทย


เมื่อคุณตอบให้ดิฉันได้ แล้วเราค่อยมาคุยกันต่อดีกว่าค่ะ
หากใช้ความน่าเป็น มันไม่สามารถสรุปอะไรได้หรอกค่ะ
เพราะส่วนหนึ่งของความน่าจะเป็น น่าจะใช่ มันเกิดจากความโน้มเอียงของใจเราอยู่แล้วค่ะ

เพราะในปี พ.ศ.2505 ตามศาลโลกตัดสิน เขมรจะได้เฉพาะตัวปราสาทพระวิหารไป
ส่วนพื้นที่บริเวณบันไดบางส่วนถึงเชิงเขา ที่มีปัญหาอยู่เป็นของไทย
ดัีงนั้นชาวเขมรที่เข้ามาอยู่ ไม่ว่าคุณจะเชื่อว่าถือ 2 สัญชาติหรือไม่
ก็อยู่ในแผ่นดินไทย
และการที่ทหารเขมรมาจับตัวคนไทย ก็ไม่ถูกต้องอยู่ดี

ไม่เป็นไรค่ะ ดิฉันยินดีเป็นเด็กอนุบาล
หากคุณมีัข้อมูลที่มั่นใจได้มากกว่าความน่าจะเป็น ดิฉันก็ยินดีเรียนรู้และรับฟังค่ะ
หากแต่เป็นเพียงการคาดคะเน คาดเดาของคุณ
ดิฉันเชื่อว่า ความน่าเชื่อถือของข้อมูลของคุณ ก็คงจบค่ะ


ขอบคุณค่ะ

 




อ่านมาตั้งหลาย rep จับใจความไม่ได้เลยเหรอนั่น ก็ตอนแรกใครสรุปชัดเจนว่าเป็นคนเขมร
แค่เอาความน่าจะเป็นมาบอกว่าไม่มีใครบังคับให้คนแถวนั้นต้องเป็นคนเขมร ก็จะให้ยืนยันว่า
เป็นคนไทย 

ตกลงคนที่อยู่แถวนั้นได้ มันต้องเป็นคนชาติใดชาติหนึ่งใช่มั้ย อยู่ผสมกันไม่ได้ ไม่งั้นเทพเจ้า
ลงโทษฟ้าผ่าตาย เห้อ สงสัยเข้าอนุบาลยังตก อยู่เนอร์สเซอรี่ไหนล่ะเนี่ย
บันทึกการเข้า
มารุจัง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,761


@^____^@


« ตอบ #20 เมื่อ: 19-07-2008, 13:43 »

ไม่เป็นไรค่ะ
ในเมื่อคุณแก๊ส ยังยืนยันจะให้เพียงความน่าจะเป็น
เป็นตัวหลักในการยืนยันความเชื่อของคุณ

ดิฉันคงไม่โต้ด้วยแล้ว
ปล่อยให้เพื่อน ๆ สมาชิกลองอ่านแล้วพิจารณาความน่าเชื่อถือข้อมูลของคุณแก๊สแทนแล้วกัน

เพราะหากอาศัยเพียงความน่าจะเป็น มันจะหาข้อสรุปไม่ได้หรอกค่ะ
หากไม่มีหลักฐานอะไรยืนยันความน่าจะเป็นเลย
นึกว่าคุณแก๊ส จะมีหลักฐานอะไรมายืนยันว่า ชาวบ้านแถวนั้นเป็นคน 2 สัญชาติอย่างที่กล่าวมา
สุดท้ายบทสรุปของคุณแก๊ส เกิดเพียงจากความน่าจะเป็น

 

ปล. ดิฉันต้องขอโทษคุณนักปฏิวัติด้วยนะคะ ที่พิมพ์ชื่อผิดเป็นคุณนักปฏิบัติ.. ไม่โกรธกันนะคะ..
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-07-2008, 13:48 โดย มารุจัง » บันทึกการเข้า


ประชาธิปไตย มิได้จบอยู่แค่การเลือกตั้ง
ปล.รูปจากเวบ ผจก.
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #21 เมื่อ: 19-07-2008, 13:51 »

ไม่เป็นไรค่ะ
ในเมื่อคุณแก๊ส ยังยืนยันจะให้เพียงความน่าจะเป็น
เป็นตัวหลักในการยืนยันความเชื่อของคุณ

ดิฉันคงไม่โต้ด้วยแล้ว
ปล่อยให้เพื่อน ๆ สมาชิกลองอ่านแล้วพิจารณาความน่าเชื่อถือข้อมูลของคุณแก๊สแทนแล้วกัน

เพราะหากอาศัยเพียงความน่าจะเป็น มันจะหาข้อสรุปไม่ได้หรอกค่ะ
หากไม่มีหลักฐานอะไรยืนยันความน่าจะเป็นเลย
นึกว่าคุณแก๊ส จะมีหลักฐานอะไรมายืนยันว่า ชาวบ้านแถวนั้นเป็นคน 2 สัญชาติอย่างที่กล่าวมา
สุดท้ายบทสรุปของคุณแก๊ส เกิดเพียงจากความน่าจะเป็น

 

ปล. ดิฉันต้องขอโทษคุณนักปฏิวัติด้วยนะคะ ที่พิมพ์ชื่อผิดเป็นคุณนักปฏิบัติ.. ไม่โกรธกันนะคะ..
 


คน 2 สัญชาติ หมายถึง มีคนทั้ง 2 สัญชาติ ไม่ใช่คนเดียวมีบัตรประชาชนสองประเทศก็ใน
เมื่อไม่ได้มีอะไรห้ามไม่ให้คนไทยเข้าไปค้าขาย ที่บอกว่าคนที่อยู่พื้นที่นั้นเป็นคนเขมรยิ่งไม่มี
ข้อยืนยันเข้าไปใหญ่ เป็นแค่เสี้ยวของความน่าจะเป็นด้วยซ้ำ เรียกง่ายๆ ก็คือจินตนาการนั่น
แหละ ดันถามหาหลักฐานว่าคนที่อยู่มีโอกาสเป็นได้ทั้ง 2 สัญชาติได้ไง งงคับ 
บันทึกการเข้า
Rule of Law
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 185


« ตอบ #22 เมื่อ: 19-07-2008, 14:04 »

แถ ..... มาตรฐานตกต่ำ ทำตัวเป็นขยะบอร์ด  อยากแอ๊บแบ๊วกระชากวัยหรือไง

ที่มาตั้งร้านอยู่นั่นมันก็เขมรนั่นแหละ จะครึ่งลาวครึ่งไทยครึ่งบกครึ่งน้ำ มันก็พูดภาษาเขมร 

ถ้าไม่เชื่อ ไอ้หมัีกบอกอยู่นั่นไง ว่าคนเขมรมาตั้งร้านค้าไทยประท้วงไปหลายรอบแล้ว


บันทึกการเข้า

Your C.V is nothing. Your future plan...is everything.
aiwen^mei
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,732



« ตอบ #23 เมื่อ: 19-07-2008, 14:39 »

เป็นพื้นที่ดินแดนของประเทศไทยเรานี่แหละค่ะ

เพียงแต่เมื่อสมัีย เหลี่ยมเป็นนายกฯ ได้มีชาวเขมรบางส่วนบุกรุกเข้ามาสร้างร้านค้าบ้านเรือน

และนายวิษณุ เครืองาม ได้ทำหนังสือแจ้งเป็นทางการ
แต่เหลี่ยมกลับเพิกเฉยและให้ถอนกำลังทหารกลับออกมา

ทำให้เขมรเอาโอกาสนี้ืรื้อรั้วเหล็กที่กั้นไว้จากบันไดย้ายลงมาที่เชิงบันได

และถือวิสาสะจากการจดทะเบียนขึ้นมรดกโลก
ตู่เอาพื้นที่ของเราไป (ส่วนที่ชาวเขมรตั้งบ้านเรือนและร้านค้า)

และเมื่อทหารของเรา เอารั้วลวดหนามไปกั้นไว้
เพราะกลัวคนไทยกับคนเขมรตีกัน
(แทนที่จะผลักดันชาวเขมรกลับไป)

ทางเขมร ก็เลยโมเมว่า นั้นเป็นการยอมรับกลาย ๆ ในการแบ่งดินแดน
แล้วพอคนไทยข้ามไปที่เชิงเขา
(ถึงต่อให้ปีนข้ามรั้วเชิงเขาเข้าไป ที่เขตบันไดก็ยังเป็นพื้นที่ของไทย ตามคำตัดสินของศาลโลกปี พ.ศ.2505)

ทหารเขมรก็จับตัวคนของเราไว้ (มาจับคนไทยในพื้นที่แผ่นดินไทย เพราะไอ้เหล่มันไปเซ็นสัญญายกพื้นที่ให้เค้าไป)
และก็มีพวกขายชาติ มาช่วยเขมรตะแบงกล่าวหาคนไทยด้วยกันเองว่า ข้ามเขตแดนเขมรค่ะ

 



  เห็นด้วยค่ะ 

ขออนุญาตนำภาพจากกระทู้ของอาจารย์จีมาประกอบ

จากเดิมหลังคำตัดสินของศาลโลก ประตูทางเข้าตั้งอยู่ระหว่างบันไดทางขึ้น





...

ภาพถ่ายเมื่อต้นปี 2550 เขมรย้ายประตูทางเข้า ลงมาจนถึงเชิงบันได


หลังจากไปตกลงกับเขา ไม่ทราบว่าเขายอมย้ายประตูกลับไปที่เดิมแล้วหรือยัง 

นอกจากไม่ได้ย้ายประตูกลับไปที่เดิมแล้ว ชาวเขมรยังมาตั้งชุมชน และตั้งเพิงร้านขายของบริเวณหน้าประตู (เพื่อกดดันฝ่ายไทย) ด้วย

ปล. เดี๋ยวอาจจะมี "บางคน" ถามว่า รู้ได้ไงว่าเป็นคนเขมร  Mr. Green Laughing Mr. Green



 

บันทึกการเข้า

有缘千里来相会,无缘对面不相逢。
protecter
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 465


« ตอบ #24 เมื่อ: 19-07-2008, 14:47 »

ถั่วหรือเปล่า ตรงไหนกันที่สรุปว่า 3 คนเข้าเขตแดนเขมร
ทีวีช่องเป็นกลาง NBT ก็บอกอยู่แล้วว่าเข้าไปพื้นที่ทับซ้อน
ซึ่งสุขุมพันธ์เซ็นต์ไว้ ตอนนี้ก็มีแค่ทหารทั้งสองฝ่ายอยู่ ไม่ได้
ให้คนทั่วไปเข้าไปจนกว่าจะตกลงกันได้ เมื่อมีคนบ้า (ตาม
คำพูดของนายกรัฐมนตรี) สามคนเดินเข้าไป ทหารเขมรจะ
จับไปก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ก็เป็นไปตามบันทึกช่วยจำที่เซ็นต์
ไว้ แล้วจะมาโวยอะไร มิตรเขมรไม่ได้จับไปขังคุกซะหน่อย


แหม......แกนี่เลวได้ใจจริงๆเลยนะ เองโกหกได้หน้าตาเฉยโดยที่สีหน้าไม่เหลี่ยนเลย ด้าน

ความจริงคือ
1.ไทยกับเขมรมีข้อตกลงห้ามคนทั้ง 2 ชาติเข้าไปในพื้นที่ขัดแย้ง 4.6 ตร กม ตั้งแต่ก่อนปี 2543 (ถ้าจำไม่ผิด)
2.แต่เขมรละเมิดข้อตกลง โดยทยอยๆให้ชาวเขมรเข้าไปอยู่อาศัย แต่คนไทยไม่เข้าไปสักคน (รักษาข้อตกลง)
3.ไทยยื่นหนังสือทักท้วงไป 4 ครั้ง ให้ฝ่ายเขมรปฏิบัติตามข้อตกลง โดยให้ชาวเขมรถอนออกไปทั้งหมด แต่เขมรไม่ฟัง
4.ผู้รับผิดชอบเสนอให้นายก(หน้าเหลี่ยม) ให้เอาทหารผลักดันชาวเขมรออกไป เพื่อรักษาข้อตกลง
5.หน้าเหลี่ยมเพิกเฉย ไม่ยอมทำอะไร จนเขมรย้ายเข้ามาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ประทั่งเข้าใจกันทั่วว่าเป็นแขตแดนเขมรไปซะแล้ว
6.เกิดเหตุการณ์ นพพล เซ็นแถลงการร่วมกับฝ่ายเขมร โดยที่ยังไม่ได้ปัดเขตแดน ซึ่งในแถลงร่วม ไทยเสี่ยงต่อการเสียดินแดน 4.6 ตร กม
7.เมื่อรัฐมารไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ชาวบ้านทนไม่ไหว ต้องเข้าไปในพื้นที่นั้นบ้าง เพื่อรักษาสิทธิ ถ้าไม่ทำ ไทยจะเสีย พท นี้อย่างถาวรแน่นอน
8.จังหวะนี้เอง ทหารไทยถึงได้มีโอกาสเข้าไปเป็นครั้งแรกในรอบ10ปี โดยอ้างว่าป้องกันคนไทยมาประท้วง (ที่แท้มาแสดงอธิปไตร)
9.ทหารไทยไม่ยอมถอย จนกว่าการเจรจาจะแล้วเสร็จ ซึ่งการเจรจาเราน่าจะไม่เสียเปรียบมากนัก เพราะเราเองก็มีทหารอยู่ใน พท 4.6 ตร กม เช่นเดียวกับเขมร (ถ้าไม่มี เสียเปรียบแน่)

ทั้งหมด ต้องขอบคุณคนไทย 3ท่านอย่างสูง........
บันทึกการเข้า
มารุจัง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,761


@^____^@


« ตอบ #25 เมื่อ: 19-07-2008, 14:52 »

 ฮ่าฮ่าฮ่า.. พี่เม่ย

ดักคอไม่ทันแล้วค่ะ
เพราะมีคุณแก๊สบอกไปแล้วว่าเป็นคน 2 สัญชาติ

มารุฯ บอกขอหลักฐาน คุณแก๊ส เค้าอ้างเรื่องความน่าจะเป็น
ก็เลยขี้เกียจเถียงด้วยค่ะ.. เหนื่อยใจ
อิอิอิ
 
บันทึกการเข้า


ประชาธิปไตย มิได้จบอยู่แค่การเลือกตั้ง
ปล.รูปจากเวบ ผจก.
aiwen^mei
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,732



« ตอบ #26 เมื่อ: 19-07-2008, 14:59 »

ฮ่าฮ่าฮ่า.. พี่เม่ย

ดักคอไม่ทันแล้วค่ะ
เพราะมีคุณแก๊สบอกไปแล้วว่าเป็นคน 2 สัญชาติ

มารุฯ บอกขอหลักฐาน คุณแก๊ส เค้าอ้างเรื่องความน่าจะเป็น
ก็เลยขี้เกียจเถียงด้วยค่ะ.. เหนื่อยใจ
อิอิอิ
 

  Mr. Green

อิอิ ค่ะ โชคดีของนายแก๊ส (ไข่เน่า) ที่น้องมารุจังไม่ถือสา  Very Happy

สงสัยนายแก๊สยื่นเรื่องขอโอนสัญชาติเป็นเขมรไว้มั้ง 

พวกนี้ต้องไล่ให้ไปอยู่เขมรให้หมด 



บันทึกการเข้า

有缘千里来相会,无缘对面不相逢。
weshare
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 84



« ตอบ #27 เมื่อ: 19-07-2008, 15:17 »

จอม แถ แถ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จริงๆ

............คนอารัย ชาติตัวเองยังไม่รู้รักเลย............
สมองระดับเสมียน .... แต่เสี้ยนอยากเป็น CEO  รึป่าวเนี่ย

ปล่อยเขาเถอะคุณมารุจัง พวกมึงมา พาโว เสียงดังเข้าข่มเป็นใช้ได้
เขาอาจจะเป็นคน 2 สัญชาติอย่างว่าค่ะ
บันทึกการเข้า
H-edge
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 94


« ตอบ #28 เมื่อ: 19-07-2008, 15:44 »

ถึงท่านหมักจะมี จม. ไปถึงผู้นำขแมร์ว่าที่ตรงนั้นเป็นดินแดน และอธิปไตยของไทย

แต่มันจะไม่ดีกว่าหรือ ถ้าท่านหมักจะไปยกเลิกแถลงการณ์ร่วมเมื่อวันที่ 22 พ.ค.ก่อน

ควบคู่ไปกับการส่งจม.  เพราะผู้นำขแมร์ได้รับจม. ก็คงจะขำท่านหมัก ที่เขามีแถลง

การณ์จากรัฐบาลไทยยืนยันความเป็นเจ้าของของเขา แล้วเหตุไฉน ท่านหมักดันยืนยันว่า

เป็นของไทย
บันทึกการเข้า
hitman
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 24


« ตอบ #29 เมื่อ: 19-07-2008, 15:53 »

คนรักชาติ   หากจะเสียดินแดนก็จะพยายามให้เสียน้อนที่สุด   


คนขายชาติ   หากจะเสียดินแดนก็ให้เสียมากที่สุด   



พวกขายชาติเมื่อวานจะไปเวทีพันธมิตร   ตอนแรกมาตั้งสามสี่ร้อย  อุตส่าห์โทรไปตามเพื่อนมากระทืบ   

แปล๊บเดียวหารไปเกือบครึ่งเผ่นกลับเฉยเลย     คนมากกว่าตั้งเยอะบุกไม่ได้   



ปอดแหก
บันทึกการเข้า
ริวเซย์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,637


Worrior in The Blue Armor


เว็บไซต์
« ตอบ #30 เมื่อ: 19-07-2008, 19:14 »

ต้องใช้กำลังไล่พวกมันออกไปก็ต้องทำ

จากนั้นค่อยเจรจาหรือจะไปสู้ในศาลโลกก็แล้วแต่

แต่เราถือตามหลักสันปันน้ำ แถลงการณ์ไทย-เขมรก็ต้องยกเลิกไปด้วย

ถ้ามันไม่ยอมให้เลิกก็ต้องถอนตัวจากยูเนสโก ให้มติที่แถลงร่วมเป็นโมฆะ

ตรงนั้นเป็นแผ่นดินไทยชัดเจน เราต้องรักษาไว้ด้วยชีวิต
บันทึกการเข้า

ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^


หน้า: [1]
    กระโดดไป: