ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
29-03-2024, 17:02
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  [โพลล์] ควรลดหรือขึ้นอัตราดอกเบี้ย? 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
โพลล์
คำถาม: เชิญเลือก
ควรลด เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยเหลือเรื่องต้นทุน - 2 (14.3%)
ควรลด เพราะข้าพเจ้ามีหนี้สินอยู่ - 0 (0%)
ไม่ต้องเปลี่ยนแปลง - 3 (21.4%)
ควรเพิ่ม เพื่อคุมเงินเฟ้อ พยุงค่าเงินบาท เพราะต้องนำเข้าน้ำมัน รักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจ - 7 (50%)
ควรเพิ่ม เพราะข้าพเจ้าเป็นผู้ฝากเงิน ด.บ.ต่ำกว่าเงินเฟ้อ - 2 (14.3%)
จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 14

หน้า: [1]
[โพลล์] ควรลดหรือขึ้นอัตราดอกเบี้ย?  (อ่าน 1832 ครั้ง)
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« เมื่อ: 16-07-2008, 22:30 »

เชิญโหวต
บันทึกการเข้า

อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #1 เมื่อ: 16-07-2008, 23:01 »

เจ๊แกขึ้นไปแล้ว ขาประชานิยมคงไม่ชอบหรอก แสดงให้เห็นว่า ธปท เป็นอิสระ แล้วหน่วยงานที่ขึ้นกับ ธปท
อย่างเช่น กองทุนฟื้นฟู ก็ยิ่งเป็นอิสระ
บันทึกการเข้า
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #2 เมื่อ: 17-07-2008, 08:01 »

ควรขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไปครับ...


เลอะเทอะ...แบ็งค์ชาติเป็นอิสสระ..

http://forum.serithai.net/index.php?topic=28634.0
บันทึกการเข้า
คนไทยคนหนึ่ง
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 744


« ตอบ #3 เมื่อ: 17-07-2008, 08:15 »

การขึ้นดอกเบี้ย จะเป้นการแก้ปัญหาเงินเฟ้อ เพราะจะทำให้การใช้จ่ายลดความร้อนแรงลง

แต่ตอนนี้มันเลยขั้นนั้นไปแล้ว ตอนนี้เงินฝืดแล้วคนไม่มีเงินจะใช้จ่าย การขึ้นดอกเบี้ยจะเป็นการซ้ำเติมซะมากกว่าการแก้ปัญหา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-07-2008, 08:17 โดย คนไทยคนหนึ่ง » บันทึกการเข้า
phutorn connection
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 263



« ตอบ #4 เมื่อ: 17-07-2008, 08:42 »

ด้วยความคิดส่วนตัว เงิน(ที่ไม่ใช่มาจากการก่อหนี้) อยู่ในมือชนชั้นกลางขึ้นไป ซึ่งไม่มีความเชื่อมั่นในการใช้เงินแม้จะมีเงินอยู่ในมือก็ตาม ลดดอกเบี้ยไปก็ใช่ว่าจะกระตุ้นยอดธุรกิจได้ เพราะเหล่าสาวกคนใช้เงินเกินตัวก็เต็มทุกวงเงินแล้ว เป็นการปรามการก่อหนี้ด้วยซะอีก การค่อยๆขึ้นดอกเบี้ยจะสร้างความเชื่อมั่นทางจิตวิทยาได้ และในความเป็นจริงแคมเปญเงินฝากของแต่ละธนาคารก็ขึ้นนำหน้าไปก่อนหน้านี้แล้ว ดอกเบี้ยนโยบายขึ้นก็ไม่น่าจะกระทบมาก
บันทึกการเข้า

หลังจาก วาทะ"บกพร่องโดยสุจริต"ของอาชญากรหนีคดี ประชาชนได้ให้โอกาส แต่ไม่เคยได้ให้อภัยคนคนนี้

หลายคนบอกว่าสิ่งที่ทักษิณทำก็เหมือนนักธุรกิจคนอื่นๆนั่นแหละ ไม่ว่าหนีภาษี ซุกหุ้น ซื้อนักการเมืองเป็นพวก แต่สิ่งที่คนเหล่านั้นลืมมองคือ ทักษิณมีอำนาจ นอกเหนือจากเงินทองในขณะที่นักธุรกิจคนอื่นไม่มี อำนาจที่สามารถชี้เป็นชี้ตายข้าราชการ อำนาจในการใช้กฏหมาย อำนาจในการตรากฏหมาย แต่สิ่งที่ทักษิณมีเหมือนนักธุรกิจคนอื่น คือ ความโลภ เมื่อความโลภรวมกับอำนาจ และสิ่งที่ทำร้ายทักษิณในปัจจุบันคือ ความโลภนี่เอง
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #5 เมื่อ: 17-07-2008, 09:08 »

ควรขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไปครับ...


เลอะเทอะ...แบ็งค์ชาติเป็นอิสสระ..

http://forum.serithai.net/index.php?topic=28634.0

เพราะการขึ้นดอกเบี้ยส่งเดชในปี 2523 ทำให้มาเน่าในปี 2527 โดยระบบคลัง
ไม่สามารถคุมผู้ว่าธปท.ได้ นอกจากจะเลือกผู้ว่าคนที่มีความเห็นสอดคล้องกับ
รัฐบาล ในปี 2527 ผู้ว่าธปท.จึงได้ไปเป็นผู้บริหารสยามกลการ และคลังก็แก้
ปัญหาที่ตัวเองสร้าง แต่ดันให้เครดิตทหารโง่ๆ ที่ไม่รู้เรื่องว่าเป็นผู้แก้วิกฤต ทั้ง
ที่น่าจะป้องกันวิกฤตตั้งแต่ทีแรก มางวดนี้ ธาริษา สาลินี ล้วนแต่เป็นนอมินี่ของ
รมว.คลังคนโน้น แต่ไม่ใช่คนนี้ คลังไม่อยากขึ้น แต่คงไม่ถึงขั้นจะลดดอกเบี้ย
เพราะอดีตมันบอกว่าไม่เวิร์ค แต่ธปท.ก็ยังขึ้นไปจนได้
บันทึกการเข้า
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #6 เมื่อ: 17-07-2008, 09:22 »

เพราะการขึ้นดอกเบี้ยส่งเดชในปี 2523 ทำให้มาเน่าในปี 2527 โดยระบบคลัง
ไม่สามารถคุมผู้ว่าธปท.ได้ นอกจากจะเลือกผู้ว่าคนที่มีความเห็นสอดคล้องกับ
รัฐบาล ในปี 2527 ผู้ว่าธปท.จึงได้ไปเป็นผู้บริหารสยามกลการ และคลังก็แก้
ปัญหาที่ตัวเองสร้าง แต่ดันให้เครดิตทหารโง่ๆ ที่ไม่รู้เรื่องว่าเป็นผู้แก้วิกฤต ทั้ง
ที่น่าจะป้องกันวิกฤตตั้งแต่ทีแรก มางวดนี้ ธาริษา สาลินี ล้วนแต่เป็นนอมินี่ของ
รมว.คลังคนโน้น แต่ไม่ใช่คนนี้ คลังไม่อยากขึ้น แต่คงไม่ถึงขั้นจะลดดอกเบี้ย
เพราะอดีตมันบอกว่าไม่เวิร์ค แต่ธปท.ก็ยังขึ้นไปจนได้

เขียนว่า ขึ้นดอกเบี้ย..แบบค่อยเป็นค่อยไป อ่านหนังสือไม่ออกเหรอครับ..
ไอ้ตัวอย่างที่ยกมานั่นแหละ มันอยู่ในยุคที่แบ็งค์ชาติโดนแทรกแซงทางการเมือง...อย่าปล่อยไก่ดิ...
ตัวอย่างที่ เห็นชัดที่สุด ก็ตอนยุคปี 40 นั่นแหละ...ที่ บิ๊กจิ๋ว สั่ง...."ดันเข้าไป ไอ้น้อง ...สู้ไปเลยไอ้น้อง "
รู้ตัวอีกที ก็หมดคลังไปแล้ว...
บันทึกการเข้า
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #7 เมื่อ: 17-07-2008, 09:39 »

เขียนว่า ขึ้นดอกเบี้ย..แบบค่อยเป็นค่อยไป อ่านหนังสือไม่ออกเหรอครับ..
ไอ้ตัวอย่างที่ยกมานั่นแหละ มันอยู่ในยุคที่แบ็งค์ชาติโดนแทรกแซงทางการเมือง...อย่าปล่อยไก่ดิ...
ตัวอย่างที่ เห็นชัดที่สุด ก็ตอนยุคปี 40 นั่นแหละ...ที่ บิ๊กจิ๋ว สั่ง...."ดันเข้าไป ไอ้น้อง ...สู้ไปเลยไอ้น้อง "
รู้ตัวอีกที ก็หมดคลังไปแล้ว...


หา สมัย 2523-2527 แบ๊งค์ชาติโดนแทรกแซงทางการเมืองเหรอ
มิน่า ไอ้นายกสมัยนั้นมันสันดานแทรกแซงการเมืองไม่เลิกแบบนี้นี่เอง
ประเทศถึงวุ่นวายไม่จบ
บันทึกการเข้า
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: 17-07-2008, 09:59 »

ขนาด ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ ซึ่งเกี่ยวข้องกับตลาดหุ้นแท้ๆ ยังสนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อปรามให้คนไม่ใช้จ่ายเกินตัว และไปก่อหนี้เพิ่ม เหตุผลคือว่า เมื่อของแพง ก็ต้องบอกให้ประชาชนประหยัด ไม่ใช่ไปตรึงราคาน้ำมัน หรือไปอุดหนุน เพียงเพื่อตัวเลข GDP เพราะประชาชนจะรู้สึกว่ามีคนคอยช่วยอยู่  แบบนี้แม้ GDP จะเพิ่ม แต่ตามมาด้วยการขาดดุลการค้า (บริษัทกระตุ้นยอดขายที่เพิ่มขึ้นตามไม่ทัน ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเพื่อเพิ่มยอดขาย ก็ต้องขาดทุน)

แต่ไอ้โกร่งเมื่อคืน ออกทีวีไทย แม่งห่วงแต่ GDP จะให้ลดดอกเบี้ยอีกต่างหาก
บันทึกการเข้า

อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #9 เมื่อ: 17-07-2008, 10:11 »

ขนาด ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ ซึ่งเกี่ยวข้องกับตลาดหุ้นแท้ๆ ยังสนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อปรามให้คนไม่ใช้จ่ายเกินตัว และไปก่อหนี้เพิ่ม เหตุผลคือว่า เมื่อของแพง ก็ต้องบอกให้ประชาชนประหยัด ไม่ใช่ไปตรึงราคาน้ำมัน หรือไปอุดหนุน เพียงเพื่อตัวเลข GDP เพราะประชาชนจะรู้สึกว่ามีคนคอยช่วยอยู่  แบบนี้แม้ GDP จะเพิ่ม แต่ตามมาด้วยการขาดดุลการค้า (บริษัทกระตุ้นยอดขายที่เพิ่มขึ้นตามไม่ทัน ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเพื่อเพิ่มยอดขาย ก็ต้องขาดทุน)

แต่ไอ้โกร่งเมื่อคืน ออกทีวีไทย แม่งห่วงแต่ GDP จะให้ลดดอกเบี้ยอีกต่างหาก


ขึ้นดอกเบี้ย เพื่อปรามคนไม่ใช้จ่ายเกินตัว

น้ำมันแพง ของแพง ขนาดนี้ ไม่ขึ้นดอกเบี้ยแล้วคนจะใช้จ่ายเกินตัวเหรอเนี่ย
คนไทยนี่ก็นะ นิสัยเสีย แพงแค่ไหนก็เหอะ จ่ายเกินตัวได้ทั้งนั้น ขออย่างเดียว
อย่าให้ดอกเบี้ยแพงแล้วกัน เจอดอกเบี้ยแพงปุ๊บ หยุดใช้จ่ายเกินตัวเรยยยย 
บันทึกการเข้า
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 17-07-2008, 10:19 »

ขึ้นดอกเบี้ย เพื่อปรามคนไม่ใช้จ่ายเกินตัว

น้ำมันแพง ของแพง ขนาดนี้ ไม่ขึ้นดอกเบี้ยแล้วคนจะใช้จ่ายเกินตัวเหรอเนี่ย
คนไทยนี่ก็นะ นิสัยเสีย แพงแค่ไหนก็เหอะ จ่ายเกินตัวได้ทั้งนั้น ขออย่างเดียว
อย่าให้ดอกเบี้ยแพงแล้วกัน เจอดอกเบี้ยแพงปุ๊บ หยุดใช้จ่ายเกินตัวเรยยยย 

1 ก.ค. จำได้แม่น ไอ้หมอคอมมิวนิสต์มันบอก ใครเงินไม่พอใช้ ให้ไปกู้ แค่นี้ก็ส่อสันดานอยู่แล้ว
บันทึกการเข้า

อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #11 เมื่อ: 17-07-2008, 10:23 »

1 ก.ค. จำได้แม่น ไอ้หมอคอมมิวนิสต์มันบอก ใครเงินไม่พอใช้ ให้ไปกู้ แค่นี้ก็ส่อสันดานอยู่แล้ว

ตอนนี้ใครเงินไม่พอใช้ ให้ไปกินหญ้าฟรีแถวสะพานมัฆวานมั้ง ในเมื่อระบบเศรษฐกิจมันเป็นอย่างงั้น
คนที่มีกำลังความสามารถ แต่ตอนนี้ขัดสนก็กู้ก่อนด้วยเครดิตความสามารถของตัวเอง แล้วค่อยผ่อน
จ่ายในอนาคต มันก็มาตรฐานโลกอยู่แล้ว เงินไม่พอใช้กินหญ้ามากไปหรือเปล่าเนี่ย
บันทึกการเข้า
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #12 เมื่อ: 17-07-2008, 10:52 »

ฟอร์มตกไปเยอะจริง ๆ แถ ไม่ค่อยไปแล้ว....

บอกแล้ว อย่าไปเชื่อจิ้งโกร่งมาก ขานั้น มันหลับหูหลับตาเชียร์ทักษิณ

ตั้งหน้าตั้งตา หาเหตุผลมาสนับสนุนอย่างเดียว ไม่สนใจตรรกะแล้ว...

แถ ก็เหมือนกัน....ฟอร์มตกน่าผิดหวังจริง ๆ


 
บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #13 เมื่อ: 17-07-2008, 11:36 »

ปัญหาตอนนี้การปรับอัตราดอกเบี้ยไม่่น่าช่วยอะไรได้มากนัก
เพราะปัญหาหลักๆ น่าจะอยู่ที่ราคาน้ำมันตลาดโลกที่แนวโน้ม
จะวิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ (ถึงตอนนี้จะราคาตกชั่วคราวก็ตาม)

สมมุติถ้าเราขึ้นเฉพาะดอกเบี้ยเงินฝาก แล้วตรึงดอกเบี้ยเงินกู้
คือปรับลดช่วงห่างระหว่างดอกเบี้ย น่าจะลดผลกระทบให้กับ
ผู้มีภาระหนี้สิน และภาคธุรกิจที่ต้องกู้เงินดำเนินกิจการ


ส่วนผู้ฝากเงินก็ได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ค่าเงินบาทก็แข็งขึ้นด้วย
แต่จะมีปัญหาก็คือผลประกอบการธนาคารจะต้องต่ำลงบ้าง

การแก้ปัญหาหลักๆ น่าจะเร่งแก้ปัญหาพลังงาน และปัญหา
ภาคเกษตรกรรม (การปลูกพืชพลังงานถ้าทำดีๆ จะแก้ได้ทั้ง
ปัญหาพลังงานและปัญหาเกษตรกรรม เพราะจะลดการนำเข้า
พลังงาน และลดการพึ่งพาตลาดส่งออกสินค้าเกษตรด้วย)

ลำพังการลดหรือขึ้นอัตราดอกเบี้ย คงได้ผลไม่มากหรอกครับ 
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #14 เมื่อ: 17-07-2008, 11:50 »

ปัญหาตอนนี้การปรับอัตราดอกเบี้ยไม่่น่าช่วยอะไรได้มากนัก
เพราะปัญหาหลักๆ น่าจะอยู่ที่ราคาน้ำมันตลาดโลกที่แนวโน้ม
จะวิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ (ถึงตอนนี้จะราคาตกชั่วคราวก็ตาม)

สมมุติถ้าเราขึ้นเฉพาะดอกเบี้ยเงินฝาก แล้วตรึงดอกเบี้ยเงินกู้
คือปรับลดช่วงห่างระหว่างดอกเบี้ย น่าจะลดผลกระทบให้กับ
ผู้มีภาระหนี้สิน และภาคธุรกิจที่ต้องกู้เงินดำเนินกิจการ


ส่วนผู้ฝากเงินก็ได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ค่าเงินบาทก็แข็งขึ้นด้วย
แต่จะมีปัญหาก็คือผลประกอบการธนาคารจะต้องต่ำลงบ้าง

การแก้ปัญหาหลักๆ น่าจะเร่งแก้ปัญหาพลังงาน และปัญหา
ภาคเกษตรกรรม (การปลูกพืชพลังงานถ้าทำดีๆ จะแก้ได้ทั้ง
ปัญหาพลังงานและปัญหาเกษตรกรรม เพราะจะลดการนำเข้า
พลังงาน และลดการพึ่งพาตลาดส่งออกสินค้าเกษตรด้วย)

ลำพังการลดหรือขึ้นอัตราดอกเบี้ย คงได้ผลไม่มากหรอกครับ 

อยากให้ปรับขึ้นมากกว่านี้ด้วยซ้ำ เห็นใจคนฝากเงินบ้าง ถูกธนาคารเอาเปรียบมานานแล้ว ช่วงที่ผ่านมาธนาคารกำไรมาเกินพอแล้ว พวกกู้เงินเกินตัวให้มันไปกระโดดตึก ยิงตัวตายบ้างก็ดี ทำไมต้องไปเอาใจมันมากนัก

ส่วนวิธีการแก้ปัญหามันมีแต่ระยะยาวทั้งนั้น มันต้องอาศัยรัฐบาลเป็นคนวางแผน ออกมาตรการทั้งนั้น แต่มันสนใจแต่จะโกง แล้วจะทำไง
บันทึกการเข้า

55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #15 เมื่อ: 17-07-2008, 12:31 »

แน่นอนครับ ปัญหาหลักของเงินเฟ้อปัจจุบัน อยู่ที ราคาน้ำมัน...

แต่การปรับขึ้นดอกเบี้ย ก็ยังมีความจำเป็นอยู่ เพื่อให้สอดคล้องกับภูมิภาค และ อเมริกา..

ไม่เช่นนั้น จะเกิดปัญหา เงินไหลออก ในระยาว..ควรปรับอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทั้งเงินฝากและเงินกู้ครับ..

นี่ผมยังมองในแง่ดีอยู่เรื่องราคาน้ำมัน.....เพราะ ผ่าน 140 ทีไร...เด้งลงหลายครั้งแล้ว...

หวังว่า ราคา ณ ปัจจุบัน น่าจะ  Peak ไปแล้ว....อย่างที่รู้ ๆ กันครับ...ราคามันเกิดจากการเก็งกำไร

เมื่อถึงจุด ๆ หนึ่ง ก็ไปต่อไม่ไหว....
บันทึกการเข้า
sleepless
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 525


Sleepless


« ตอบ #16 เมื่อ: 17-07-2008, 12:53 »

================
กลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ทำการศึกษาทั้ง 8 แห่ง รายงานยอดเงินฝาก ณ วันที่ 30 เม.ย. 51 ที่ 5,710,422 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12,439 ล้านบาท หรือประมาณ 0.2%mom เมื่อเทียบกับสิ้นเดือน มี.ค. 51 ในขณะที่สินเชื่อเดือน เม.ย. ขยายตัวสูง 48,911 ล้านบาท หรือ 1.0%mom กล่าวคือสินเชื่อเพิ่มขึ้นมากกว่าเงินฝาก 46,472 ล้านบาท ส่งผลให้สภาพคล่องปรับตัวลดลง โดยสัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝาก (Loan to Deposit Ratio: LDR) เพิ่มจาก 89.5% ณ สิ้นเดือน มี.ค. 51 มาอยู่ที่ 90.1% ถึงแม้ว่าระดับ LDR ดังกล่าวจะเป็นระดับที่ยังไม่น่ากังวลมากเท่าใดนัก เนื่องจากปัจจุบันสภาพคล่องของธนาคารยังมาจากแหล่งอื่นนอกเหนือจากเงินฝากอาทิเช่น การออกหุ้นกู้ระยะสั้น เป็นต้น แต่นับว่าเป็นสัญญาณชี้ให้เห็นถึงสภาพคล่องที่ลดลงและหากพิจารณาประกอบกับแนวโน้มสินเชื่อที่คาดจะขยายตัวต่อเนื่อง ในปีนี้ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อที่สูง เราเชื่อว่าในช่วงที่เหลือของปีจะเห็นการระดมเงินฝากด้วยการเสนอผลิตภัณฑ์เงินฝากอัตราดอกเบี้ยพิเศษมากขึ้น ประกอบกับการปรับตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยในช่วงปลายปี
===================

บันทึกการเข้า
เอกราช
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 826


กับคนที่ไร้ซึ่งจริยธรรม ยังจะสามารถสมาคมด้วยหรือ


« ตอบ #17 เมื่อ: 17-07-2008, 13:40 »

[โพลล์] ควรลดหรือขึ้นอัตราดอกเบี้ย?
ขึ้น ขึ้น ขึ้น ขึ้น ขึ้น ขึ้น ขึ้น ขึ้น ขึ้น ขึ้น ขึ้น ขึ้น ขึ้น ขึ้น ขึ้น ขึ้น
บันทึกการเข้า

สภาพดินฟ้าอากาศที่ได้เปรียบมิสู้มีชัยภูมิที่มั่นคง
ชัยภูมิที่เป็นเลิศมิอาจเทียบได้กับความมีน้ำหนึ่งใจเดียวของผู้คน
天时不如地利,地利不如人和
ดอกฟ้ากับหมาวัด
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,042



« ตอบ #18 เมื่อ: 17-07-2008, 22:47 »

ขึ้น .25 สตางค์ เค้าเรียกว่าขึ้นแก้บน

รัฐบาลนี้เกาไม่เคยถูกที่คันเลย
บันทึกการเข้า

***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ

      น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
Albert Einsteins
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 146



« ตอบ #19 เมื่อ: 18-07-2008, 13:02 »

น่าจะขึ้นสัก 0.5 นะ


ส่วนตัวเห็นด้วยกบการขึ้นดอกเบี้ย อาจทำให้ต้นทุนของค่าใช้จ่ายของครัวเรือนสูงขึ้นทั้งที่รายได้เท่าเดิม
แต่คนเราจะปรับตัวเพื่อลดค่าใช้จ่ายลงเอง เพื่อให้สอดคล้องกับรายรับ



แต่ผมให้น้ำหนักไปที่อุตสาหกรรมมากกว่า การขึ้นดอกเบี้ยทำให้ต้นทุนอุตสาหกรรมสูงมากขึ้น
ดังนั้นอุตสาหกรรมต้องปรับตัวโดยการลดรายจ่าย เพื่มรายได้ เพิ่มขึดความสามารถในการแข่งขัน
อาจมีคนตกงานบ้าง แต่ในท้ายที่สุดอุตสาหกรรมต่างๆต้องปรับเปลี่ยนเพิ่มขึดความสามารถ ลดการใช้พลังงานลง
ดังนั้นการลงทุนใหม่ต้องเกิดขึ้น เพื่อลดต้นทุน เพิ่มผลการผลิตให้แข่งขันได้ เป็นผลดีในระยะยาว
ใครไม่ปรับตัวก็ล้มไป ตามกลไกของตลาด
ดีกว่านั่งงอมืองอเท้ารอความหวังว่ารัฐบาลจะช่วยเหลือ เป็นการบิดเบือนตลาด



สิบปีจากวิกฤตต้มยำกุ้ง นอกจากเสียเงินตอนวิกฤติไปมโหฬาร
เรายังเสียเวลาไปเปล่าประโยชน์ เหมือนเสียค่าโง่ซ้ำซ้อน
ไม่มีการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม ไม่มีการปรับโครงสร้างสาธารณูปโภค
ทำให้อุตสาหกรรมเราต้นทุนสูง แข่งขันไม่ได้ ระบบโลจิสติคราคาแพง บริโภคพลังงานอย่างบ้าคลั่ง
วันๆ ก็รอแบมือขอจากรัฐบาล



เอาคนรวยจากระบบผูกขาดมาบริหารประเทศ มันก็คิดแต่เรื่องผูกขาด ไม่มีวิสัยทัศน์หรอก



ถ้าสิบปีที่แล้วประชาชนไม่ติดกัปดักโดนหลอกเรื่อง ปชป ขายชาติ และ ปรส โกง
ถ้ายอมให้ ปชป บริหารประเทศต่อจากการเข้ามากู้วิกฤติต้มยำกุ้ง ผมว่าบ้านเรา้เจริญกว่านี้อีก
เสียดายคนมีฝีมืออย่าง ธารินทร์ นิมมานเหมินทร์ จิงๆ



 
บันทึกการเข้า
เล่าปี๋
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,417


ทำดีได้ดีมีไฉน ทำชั่วได้ดีมีถมไป


« ตอบ #20 เมื่อ: 18-07-2008, 13:19 »

ขึ้น .25 สตางค์ เค้าเรียกว่าขึ้นแก้บน

รัฐบาลนี้เกาไม่เคยถูกที่คันเลย



เห็นด้วยกับ คุณ ดอกฟ้า ครับ......
บันทึกการเข้า

ขงเบ้งดูดาว เฮอะเอ่อเอ้ย เมื่อดาวตก เสียวในหัวอกเมือเห็นดาว
ไม่พราวไสว  หรือว่าตัวเราจะหมดบุญ จึงเป็นไป
ดาวที่สดใสเมื่อก่อนนั้น  พลันมืดมัว....
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #21 เมื่อ: 19-07-2008, 20:58 »

หลังจากปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปเล็กน้อย
ตอนนี้ได้ข่าวว่า จะมีการเจรจาให้ธนาคารรัฐ
ลดส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝาก
จากปัจจุบัน 4% ลงมาเหลือ 2% แล้ว
ผมคิดว่าเข้าท่ากว่าการขึ้นดอกเบี้ยนะครับ 
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
bangkaa
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 407



« ตอบ #22 เมื่อ: 20-07-2008, 01:59 »

ปัญหาเศรษฐกิจตอนนี้หลักๆคือ ราคาน้ำมัน...ซึ่งเป็นต้นทุนการประกอบการ...

ทำให้ต้นทุนสูง...ของแพง...กำไรต่ำ...การลงทุนชะลอ...การจ้างงานลด...รายได้ต่ำ...กำลังซื้อหาย...
เป็นความเสี่ยงทำให้เศรษฐกิจไม่สู้ดี...

ที่จริงดอกเบี้ยไม่ใช่สิ่งที่จะสู้ อัตราเงินเฟ้อได้...
การขึ้นดอกเบี้ยในสภาวะที่เงินเฟ้อทางด้านต้นทุนไม่น่าจะได้อะไรมาก...
เงินฝากที่เพิ่มขึ้นไม่ได้ช่วยอะไรอย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งนี้ยังเพิ่มภาระแก่หน่วยธุรกิจที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้เพิ่ม...แย่ต่อการลงทุนมากกว่า...

ผมว่าขึ้นดอกเบี้ยไปก็ไม่ช่วยอะไรต่อเศรษฐกิจในประเทศ...และไม่ควรขึ้นด้วย
เพียงแต่นักเศรษฐศาสตร์เลือก ขึ้นดอกเบี้ย ด้วยเหตุผลทางเศรษฐศาสตร์มหภาค การเงินระหว่างประเทศ เป็นนโยบายหลักตามทฤษฎีที่ทำกันมามากกว่า
บันทึกการเข้า

มาทำหน้าที่... ใช้หนี้แผ่นดิน...และมาทำบุญ...
หน้า: [1]
    กระโดดไป: