ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
28-03-2024, 23:37
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  เห็นด้วยกับการเอา ปตท ออกจากตลาดหลักทรัพย์ กลับมาเป็นของรัฐ 100% หรือไม่ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
เห็นด้วยกับการเอา ปตท ออกจากตลาดหลักทรัพย์ กลับมาเป็นของรัฐ 100% หรือไม่  (อ่าน 2964 ครั้ง)
protecter
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 465


« เมื่อ: 16-07-2008, 22:03 »

ผมว่ามีทั้งข้อดีและข้อเสีย

ข้อดี ที่ ปตท อยู่ในตลาดหลักทรัพย์
1. ตลาดหลักทรัพย์มีบริษัทใหญ่ๆ เป็นที่ดึงดูดของนักลงทุนจากต่างประเทศ (มูลค่ารวมของทั้งตลาดยิ่งมากยิ่งดี)
2. ระดมทุนได้ง่าย  ไม่ต้องเดือดร้อนเงินรัฐถ้าต้องการลงทุนเพิ่ม
3. การบิหารงานน่าจะมีความโปรงใสมากกว่าเป็นของรัฐล้วนๆ เพราะมีการตรวจสอบที่ดีกว่า
4. พนักงานทุกระดับชั้นมีความกระตือลือล้นในการทำงาน เพราะผลงานจะสะท้อนออกในรูปของกำไร ซึ่งมีผลต่อโบนัสและผลประโยชน์อื่นของพนักงาน


ข้อเสีย ของการเอา ปตท ออกจากตลาดหลักทรัพย์
1.ถ้าเอา ปตท ออกจากตลาดหลักทรัพย์ รัฐต้องเสียเงินเป็นจำนวนมากซื้อคืนหุ้นในส่วนของผู้ถือหุ้นอื่นๆ และ ตกลงราคาที่จะรับซื้อคืนได้ยาก
2.ทำให้นักลงทุนทั้งไทย และ ต่างชาติขาดวามเชื่อมั่นในตลาดหุ้นไทย เพราะหาหลักประกันไม่ได้ว่า บริษัทที่ตัวเองลงทุนจะไม่ประสบชตากรรมเดียวกับ ปตท
3.การบริหารงานอาจจะห่วยลง เช่น หน่วยงานรัฐวิสาหกิจอื่นๆ ทำให้รายได้ลดลง กิจการแย่ลง

นึกได้แค่นี้ครับ

ใครมีข้อมูล ช่วยโพสบอกๆกัน จะได้เปรียบเทียบดูว่า ถ้าเอา ปตท ออกจากตลาดหลักทรัพย์ น้ำหนักด้านดี หรือ เสีย จะมากกว่ากัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-07-2008, 23:38 โดย protecter » บันทึกการเข้า
sigree
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 30


« ตอบ #1 เมื่อ: 16-07-2008, 22:06 »

เราได้มีเครื่องมือจัดการกลไกตลาดในระดับหนึ่งครับ
บันทึกการเข้า
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #2 เมื่อ: 16-07-2008, 22:13 »

เหอ เหอ จาก ปตท ก็จะเป็นแบบ รสพ 
บันทึกการเข้า
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 16-07-2008, 22:18 »

ตามหลักการน่ะควร แต่ตลาดหุ้นเงียบแน่ เพราะตลาดหุ้นไทยมันมีสินค้าน้อย เพราะว่าเนื้อแท้เศรษฐกิจไทยกระจอกจะตาย มีอยู่ไม่กี่ตัวที่ลากจูงดัชนี
บันทึกการเข้า

KILL...ER
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 330



« ตอบ #4 เมื่อ: 16-07-2008, 22:23 »

เกรียนสุดๆ
บันทึกการเข้า

จงภาคภูมิใจในความเป็นไพร่กระฎุมพี
西施无情
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 456


ไซซีไ้ร้ใจ


« ตอบ #5 เมื่อ: 16-07-2008, 23:06 »

อะไรๆ ที่มันเป็นของรัฐ มีความรู้สึกว่ามันกำลังถูกสูบเลือดสูบเนื้ออยู่อย่างไรอย่างนั้น

ถ้าเป็นไปได้ แค่อยากให้รัฐบาลดีๆ เข้าไปแทรกแซง การเอากำไรเกินงาม หน่อย ให้ราคาน้ำมันมันสมกับเป็นของประเทศไทยแค่นั้นก็ดีแล้ว
บันทึกการเข้า

我愛你, 陈一冰,
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #6 เมื่อ: 17-07-2008, 00:05 »

เหอ เหอ จาก ปตท ก็จะเป็นแบบ รสพ 

แปลว่า...เอาองค์กรของรัฐมาปู้ยี่ปู้ยำ
ยอมเสียผลประโยชน์ของคนทั้งชาติ
เพื่อให้เป็นเครื่องมือทำมาหากินของ สส. รมต.บางคน
บันทึกการเข้า
สมชายสายชม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,048


« ตอบ #7 เมื่อ: 17-07-2008, 00:32 »

เหอ เหอ จาก ปตท ก็จะเป็นแบบ รสพ 

เหอ เหอ แล้วยุบ รสพ. ทำไม  .. ถ้าตามตรรกของนายแถ เอา รสพ. เข้าตลาดลักทรัพย์

รสพ. ก็น่าจะกำไรเละแบบ ปตท.   

...
บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #8 เมื่อ: 17-07-2008, 06:04 »

ปัญหาคือจะเอาออกมาได้อย่างไรน่ะครับ ตอนขายได้เงินไม่กี่สตางค์
แต่ตอนจะซื้อคือกลับต้องจ่ายมากกว่าหลายเท่าจะเอาเงินมาจากไหน

ความจริงเรื่อง ปตท. ถ้าทำให้คนยอมรับในความโปร่งใสได้ก็คงจบ
ไม่จำเป็นต้องเอาออกจากตลาดหลักทรัพย์ก็ได้ ตอนนี้ที่คนไม่ยอมรับ
ก็เพราะคิดว่า ปตท. แสวงหากำไรเกินควร อาศัยความเป็นรัฐวิสาหกิจ
ผูกขาดธุรกิจน้ำมัน แต่กำไรที่ได้เอาไปจัดการแบบธุรกิจเอกชน

ผมเองก็อยากให้ ปตท.ออกจากตลาดหลักทรัพย์เป็นแค่บริษัทธรรมดา
ที่เป็นของรัฐ 100% แต่บริหารแบบบริษัทเอกชน แต่ยังมองไม่ออกว่า
จะเอาออกจากตลาดหลักทรัพย์ได้ยังไง โดยไม่เกิดความเสียหาย

แนวทางที่เป็นไปได้คือรัฐน่าจะใช้อำนาจบริหารที่มีเด็ดขาดใน ปตท.
จัดการทุกอย่างให้โปร่งใส เพื่อประโยชน์ของรัฐเป็นหลักครับ
 
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
เพื่อนร่วมชาติ
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 777


« ตอบ #9 เมื่อ: 17-07-2008, 06:58 »

ยังไม่ต้องเอาออกก็ได้ครับ

แค่รัฐบาลใช้อำนาจในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ (เกิน 51%)

กำหนดนโยบายว่า ต่อจากนี้ ปตท. จะโปร่งใส และไม่ฟันกำไรเละเทะแบบ 3-4 ปีที่ผ่านมาแล้ว

แต่จะทำกำไรในระดับที่ผู้ถือหุ้นอยู่ได้ ผู้ใช้น้ำมันและแก๊ซก็อยู่ได้

และเพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ถือหุ้นปัจจุบัน นโยบายนี้จะใช้ในอีกสองสามเดือนข้างหน้า หรือหลังปันผลงวดต่อไปก็ได้

ระหว่างนั้นถ้าพวกชอบสูบเลือดคนไทยด้วยกันจะอยากขายหุ้น ปตท. ก็ให้มันขายไป

และให้รัฐบาลวางแผนรองรับไว้ในกรณีที่หุ้น ปตท. ตกถึงระดับหนึ่ง ก็ให้พร้อมที่จะซื้อหุ้นกลับคืนเป็นของรัฐมากขึ้น

แต่ทั้งหมดนี่ผมก็เสนอไปยังงั้นแหละ

หมอเลี้ยบกับรัฐบาลเมถุนขึ้นสมองไม่กล้าทำหรอก
บันทึกการเข้า
qazwsx
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


นักธุรกิจและตำรวจ ต้องออกไปจากการเมือง


« ตอบ #10 เมื่อ: 17-07-2008, 07:37 »


ตลาดหุ้นไทยทุกวันนี้มีแต่ ปตท.เท่านั้นที่เป็น "ตัวทำ" ตลาด
เทียบก็เหมือน "เครื่องยนต์" ที่มี "ล้อต้นกำลัง" อันได้แก่ประดาแบงค์ต่าง ๆ เสริม

ถ้าตัด ปตท.ออกจากตลาดหุ้นในตอนนี้
รถคันนี้ก็คงไม่ดีกว่า "เกวียน" ที่ต้องรอให้สัตว์อื่นมาเทียมเพื่อลากไป

บันทึกการเข้า

sleepless
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 525


Sleepless


« ตอบ #11 เมื่อ: 17-07-2008, 09:25 »

ผมว่ามีทั้งข้อดีและข้อเสีย

ข้อดี ที่ ปตท อยู่ในตลาดหลักทรัพย์
1. ตลาดหลักทรัพย์มีบริษัทใหญ่ๆ เป็นที่ดึงดูดของนักลงทุนจากต่างประเทศ (มูลค่ารวมของทั้งตลาดยิ่งมากยิ่งดี)
2. ระดมทุนได้ง่าย  ไม่ต้องเดือดร้อนเงินรัฐถ้าต้องการลงทุนเพิ่ม
3. การบิหารงานน่าจะมีความโปรงใสมากกว่าเป็นของรัฐล้วนๆ เพราะมีการตรวจสอบที่ดีกว่า
4. พนักงานทุกระดับชั้นมีความกระตือลือล้นในการทำงาน เพราะผลงานจะสะท้อนออกในรูปของกำไร ซึ่งมีผลต่อโบนัสและผลประโยชน์อื่นของพนักงาน


ข้อเสีย ของการเอา ปตท ออกจากตลาดหลักทรัพย์
1.ถ้าเอา ปตท ออกจากตลาดหลักทรัพย์ รัฐต้องเสียเงินเป็นจำนวนมากซื้อคืนหุ้นในส่วนของผู้ถือหุ้นอื่นๆ และ ตกลงราคาที่จะรับซื้อคืนได้ยาก
2.ทำให้นักลงทุนทั้งไทย และ ต่างชาติขาดวามเชื่อมั่นในตลาดหุ้นไทย เพราะหาหลักประกันไม่ได้ว่า บริษัทที่ตัวเองลงทุนจะไม่ประสบชตากรรมเดียวกับ ปตท
3.การบริหารงานอาจจะห่วยลง เช่น หน่วยงานรัฐวิสาหกิจอื่นๆ ทำให้รายได้ลดลง กิจการแย่ลง

นึกได้แค่นี้ครับ

ใครมีข้อมูล ช่วยโพสบอกๆกัน จะได้เปรียบเทียบดูว่า ถ้าเอา ปตท ออกจากตลาดหลักทรัพย์ น้ำหนักด้านดี หรือ เสีย จะมากกว่ากัน


ที่คุณ Protector เสนอมามันเป็นข้อดีที่ควรเอา ปคท ไว้ในตลาดเหมือนเดิมทั้ง 6 ข้อนี่ แค่เอาสามข้อข้างบนมาล้อเป็นด้านลบ
อิอิ จะล้างสมองกันหรือไงเนี่ย
ล้อเล่นน่า
 Very Happy

1) ถ้าเป็นห่วงตลาดหุ้นนะ ไม่ต้องห่วงหรอก เพราะผู้ที่เอาเงินเข้าไปเล่นในตลาดหุ้นมันเพียงคนส่วนน้อย ไม่ใช่คนส่วนใหญ่ที่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมัน

ทำไมเราต้องไปห่วงคนที่เขาเข้าไปลงทุนเพื่อสร้างความร่ำรวย แทนที่จะนึกถึงคนส่วนรวมอีกมากมาย แขนมันเน่า เขายังตัดแขนทิ้งเลย
ยิ่งนักลงทุนต่างชาติ ยิ่งไม่ต้องห่วงเข้าไปใหญ่ หรือเราจะส่งเสริมให้ฝรั่งมันรวยเอาๆ ขณะที่ชาวบ้านค่าครองชีพแพงขึ้นๆ คิดยังไงมันไม่สมเหตุผลเลยสักนิดเดียว

2) รัฐจะซื้อคืนกิจการที่เคยเป็นของรัฐ ก็ซื้อกลับในราคาที่ขายสิครับ เพิ่มดอกเบี้ยให้หน่อยนึงก็ได้ ไอ้ที่เขาซื้อไป เขาขายทำกำไรไม่รู้กี่รอบแล้ว ทำไมต้องกลัวนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติจาดทุนขณะที่คนไทยอีกหลายล้านกำลังจะตายด้วยครับ คิดยังไงมันไม่สมเหตุผลเลยสักนิดเดียว

3) การเข้าตลาดหลักทรัพย์ไม่ได้หมายถึงความโปร่งใสสักหน่อย ไอ้ที่มันโกงๆ กันเป็นข่าวทุกวันไม่ใช่บริษัทในตลาดหลักทรัพย์หรือครับ
การเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ก็ไม่ได้หมายความว่าโปร่งใสไม่ได้ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจก็มีการจัดทำงบดุลประกาศออกมาตลอดเหมือนๆ กับบริษัทในตลาดนี่ครับ
คุณคิดว่า เจ้าของธุรกิจที่เอาบริษัทตนเองเข้าตลาดเขาต้องการความโร่งใสหรือครับ ร้อยทั้งร้อย เขาต้องการมูลค่าเพิ่มจากการเก็งกำไรทั้งนั้น เหตุผลเรื่องความโปร่งใสมันเป็นเหตุผลเอาไว้สะกดจิตเด็กๆ อะนะ

4) เรื่องประสิทธิภาพในการดำเนินการ อันนี้ยิ่งแย่ไปใหญ่ มันไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ เลยกับการอยู่ในตลาดหลักทรัพย์หรือไม่
มันขึ้นกับการปรับโครงสร้างการบริหาร การมีผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์ ลองไปดูซิว่า ตั้งแต่ ปตท เข้าตลาดมา เขาเปลี่ยนบุคลากรหรือเปล่า อ้าว ใช้บุคลากรเหมือนเดิมทุกอย่างตั้งแต่ระดับผู้จัดการยันภารโรง แล้วประสิทธิภาพอยู่ๆ มันจะดีขึ้นมาได้ยังไงไม่ทราบครับ หากการเข้าตลาดหลักทรัพย์เป็นการทำให้ธุรกิจมีประสิทธิภาพที่ดี อย่างนั้น รัฐบาลควรเอาธุรกิจทุกธุรกิจในเมืองไทยเข้าไปในตลาดให้หมด เมืองไทยจะได้กลายเป็นมหาอำนาจทางธุรกิจเสียที

เอาแค่นี้ก่อน สรุปคือเหตุผลที่ควรเอา ปตท ออกมาจากตลาดหรือไม่ อันนั้นผมไม่รู้ แต่เหตุผลที่ควรเอา ปตท เข้าไปในตลาดตั้งแต่แรกนั้น "ไม่มี" นอกจากจะเอาทรัพยากรของคนทั้งชาติไปแบ่งผลประโยชน์กันเองในมือคนเพียงไม่กี่กลุ่ม แล้วก็โยนขนหวานที่ชื่อว่าประสิทธิภาพและความโปร่งใสในการดำเนินการมาหันเหความสนใจของเรา
บันทึกการเข้า
เพื่อนฝัน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 493



« ตอบ #12 เมื่อ: 17-07-2008, 09:26 »

เพราะว่าถ้าปตท เป็นบริษัทมหาชนแล้ว --- บริษัทคือทำอะไรให้ได้มาด้วยกำไร ---- กำไรทำให้ประชาชนเดือดร้อนหรือป่าว ---- แล้วถ้า ปตท ออกจาตลาดหลักทรัพย์แล้ว จะทำให้น้ำมันลดราคาจริงหรือป่าว
 
บันทึกการเข้า

ใครสอนใครสั่ง ดูถูกประชาชน เป็นม็อบข้างถนน บิดเบือนเหมือนคนตกรุ่น
เรามาชุมนุม ใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ ขับไล่รัฐบาลหุ่น ที่เป็นสมุนของอาชญากร
aiwen^mei
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,732



« ตอบ #13 เมื่อ: 17-07-2008, 09:36 »

ปตท.ปันผลไม่ต่ำ 11.50 บาทต่อหุ้น [17 ก.ค. 51 - 04:15]
 
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซล ด้วยการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมัน และการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย เป็นวิธีการที่ถูกต้องในสถานการณ์ราคาน้ำมันโลกที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง และในอีก 1-2 วันนี้ ปตท.จะลดราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินและดีเซล 40 สต.ต่อลิตร เนื่องจากราคาน้ำมันดิบตลาดโลกได้ปรับตัวลดลง และปีนี้ ปตท.ต้องรับภาระชดเชยราคาน้ำมันให้ประชาชน 10,000 ล้านบาท ชดเชยราคาก๊าซหุงต้ม 38,000 ล้านบาท ชดเชยราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์ 5,400 ล้านบาท การนำเข้าน้ำมันรัสเซียและการลดภาษีน้ำมัน ไม่มีผลกระทบต่อการทำธุรกิจของ ปตท. ยืนยันว่าการจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นของ ปตท.ปีนี้ ยังจะจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่าที่เคยจ่าย 11.50 บาทต่อหุ้น 

http://thairath.co.th/news.php?section=economic&content=97300

ส่วนตัวอยากให้เอาออกเหมือนกัน แต่ในทางปฏิบัติคง "ยาก" เพราะจะส่งผลกระทบอย่างที่หลายท่านว่าไว้ข้างต้น

ปีนี้จะปันผลอย่างน้อยที่สุดที่ 11.50 บาทต่อหุ้นเชียวนะ 



 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-07-2008, 09:38 โดย aiwen^mei » บันทึกการเข้า

有缘千里来相会,无缘对面不相逢。
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #14 เมื่อ: 17-07-2008, 10:17 »

เหอ เหอ แล้วยุบ รสพ. ทำไม  .. ถ้าตามตรรกของนายแถ เอา รสพ. เข้าตลาดลักทรัพย์

รสพ. ก็น่าจะกำไรเละแบบ ปตท.   

...

ถ้าจัดการให้เป็น ลอจิสติกระดับประเทศได้คงเป็นดาวเด่นในตลาด แต่เสียดายที่มันเป็นศพไปนานแล้ว หมดหวัง ฝังดีกว่า
บันทึกการเข้า
protecter
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 465


« ตอบ #15 เมื่อ: 17-07-2008, 10:26 »

เออออออ คุณ sleepless  ครับ

ผู้ถือหุ้นรายย่อยของ ปตท ส่วนมากเกือบทั้งหมดไม่ได้ซื้อในราคา 30 บาท (ราคาขายครั้งแรกของ ปตท) แต่จะซื้อในราคาที่สูงกว่ามากที่แตกต่างกัน เช่น 50บาท 200 บาท 300 บาท หรือ 400 บาท

ถ้าผมซื้อ ปตท จากตลาดในราคา 400บาทต่อหุ้น เป็น10000หุ้นก็คิแป็นเงิน 4000000(4ล้านบาท) แล้วรัฐจะซื้อคืนในราคาหุ้นละ30บาทเป็นเงิน 3 แสนบาทหรือครับ งั้นผมก็ขาดทุน 3.7 ล้านล่ะซิ........คงจะเจอคาร์บอมพลีชีพหลายลูกแน่เลยงานนี้

อีกอย่าง ถ้าเอา ปตท คืน จะไม่ทำให้ราคาน้ำมันลงเลย ราคาน้ำมันแพงเพราะราคาในตลาดโลกแพงครับ ทุกวันนี้เท่าที่ทราบ ปตท ขายน้ำมันในราคาขาดทุน(ข้อนี้เชื่อได้ เพราะราคาน้ำมันโลกเป็นที่เปิดเผยอยู่แล้ว)

ส่วนที่ ปตท ได้กำไรมากมายมหาศาลนั้น หลักๆมาจาก 2 แหล่ง...........
1. จากค่าการกลั่น ซึ่ง ปตท มีบริษัทย่อยโรงกลั่นน้ำมัน 3-4 แห่ง (เช่น pttar top)
2. เคมีภัณฑ์ (เช่น pttch )

ถ้ารัฐเอา ปตท คืน และต้องการช่วยเหลือประชาชนโดยการขายน้ำมันในราคาที่ขาดทุนมากๆ เช่น ลดอีกลิตรละ 5 บาท
ผลคือ ประชาชนได้ใช้น้ำมันถูก

ผลเสียคือ ประชาชนไม่ประหยัดน้ำมัน.....และบริษัทน้ำมันยี่ห้ออื่นๆเจ๊งหมด เพราะไม่สามารถทำราคาน้ำมันสู้กับ ปตท ได้....จะทำให้คนไทยทั้งประเทศซื้อแต่น้ำมันของ ปตท ซึ่งยิ่งจะทำให้ ปตท ขาดทุนมากๆๆๆยิ่งๆขึ้น (ขาดทุนลิตละ 5 บาท ขายยิ่งดียิ่งขาดทุน) แล้วเงินที่ ปตท ขาดทุน มาจากไหน ก็มาจากในส่วนกำไรของโรงกลั่นและเคมี คิดต่อไป ....แล้วเมื่อโรงกลั่นและเคมีทนไม่ได้ กิจการแย่ ก็ต้องขาดทุนปิดโรงงาน......แล้วไงต่อไป......เจ๊งทั้ง ปตท และบริษัทในเครือ.....ประชาชนก็กลับมาใช้น้ำมันในราคาแพงเหมือนเดิม

ผมมองว่า การที่เอา ปตท ออกจาตลาดหลักทรัพย์ จะไม่ทำให้ราคาน้ำมันถูกลง แต่ถ้าคิดว่า ปตท กำไรจากโรงกลั่นและเคมีมากไป ก็สามารถสั่งให้โรงกลั่นและเคมี จ่ายปันผลเกือบทั้งหมดที่กำไรในปีนั้นๆ เอาปันผลเหล่านี้มาเข้าคลัง แล้วคลังเอาเงินส่วนนี้คืนให้ประชาชนโดยการลดหรืองดภาษีน้ำมัน  แบบนี้จะไม่ดีกว่าหรอครับ.................

( อยากจะแนะนำ ....คลังซื้อหุ้น ปตท คืนบางส่วนในราคาถูก เช่นยามตลาดหุ้นตกต่ำมากๆ เพื่อเพิ่มสัดส่วนของกระทวงการคลังให้มากขึ้น จาก 51-70เบอร์เซ็น เป็น 70-90เบอร์เซ็น และเอากำไรของแต่ละปีจ่ายเป็นปันผลให้หมด เอาไปช่วยเหลือประชาชน)











« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-07-2008, 10:33 โดย protecter » บันทึกการเข้า
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #16 เมื่อ: 17-07-2008, 10:44 »

น่าเสียดายที่ซื้อหุ้นคืนในราคาที่ต่ำมากๆ ก็ยังแพงเกินไปอยู่ดี
(ยกเว้นจะเล่นเกมทุบราคาลงไปซัก 90%)
นอกจากนี้ยังขัดกับกฎระเบียบของตลาดหลักทรัพย์อีกด้วย
บันทึกการเข้า
sleepless
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 525


Sleepless


« ตอบ #17 เมื่อ: 17-07-2008, 12:48 »

การลงทุนมีความเสี่ยงนะ ผู้เข้าไปลงทุนซื้อหุ้นคิดว่าจะเอากำไรอย่างเดียว ไม่ยอมให้ขาดทุนเลยเหรอ
ตอนที่มีคนซื้อ 30 ขาย 400 รวยไม่ไม่รู้กี่ร้อยกี่พันล้านไม่เห็นมีคนบ่นสักคำ พอจะต้องขายขาดทุน คนเหล่านั้นทำไมถึงต้องบ่น ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจ
ตอนซื้อมันมีคนเอาปืนจ่อหัวบังคับให้ซื้อหรือครับ
คุณคิดดูหน่อยสิว่าหากเป็นธุรกิจธรรมดา มันจะมีมูลค่าเพิ่มจาก 30 เป็น 400 ได้ยังไง
ค่าการกลั่นมันเกิดจากการประดิษฐ์คิดค้นของพนักงาน ปตท หรือ? จึงทำให้บริษัทมีกำไรมหาศาลและมูลค่าเพิ่มจาก 30 เป็น 400 ได้
หากคุณให้สัมปทานผมขายอากาศแต่ผู้เดียวในเมืองไทยนะ คุณคิดว่าผมจะมีผลประกอบการแย่กว่า ปตท หรือเปล่า
มูลค่าเพิ่มมันมาจากไหน คิดออกแล้วยัง
กำไรมหาศาลควรจะกลับไปสู่ประชาชนผู้ใช้เชื้อเพลิง อาจจะเป็นในรูปอื่น ไม่ใช่กลับเช้าไปในกระเป๋าของคนเพียงไม่กี่คน

หรือว่าเหตุผลคือคุณ protector ต้องการให้ ปตท อยู่ในตลาดเพื่อให้คนไทยประหยัดน้ำมัน อันนี้สรุปถูกหรือเปล่าครับ Very Happy


PTT   26,132.50
PTTEP   8,904.70
SCC   7,115.70
SCB   6,787.20
PTTCH   5,715.20
BBL   5,625.90
ADVANC   5,123.70
KBANK   4,437.90
KTB   4,277.60
TOP   3,873.90
TRUE   2,738.20
DTAC   2,346.10
THAI   2,216.00
BANPU   2,073.90
SHIN   1,803.60
RATCH   1,703.80
TMB   1,590.10
GSTEEL   1,491.40
PTTAR   1,487.60
GLOW   1,429.60
SCIB   1,334.00
ESSO   1,131.00
CPALL   1,084.10
BAY   1,030.40
SCCC   1,014.00
PSL   1,009.90
TPIPL   917.3
SSI   877.3
BCP   852.8
DELTA   800.5
BIGC   767.1
MINT   750
IEC   727.7
LRH   718.6
BGH   696.9
TPC   689.9
LH   676.7
BEC   669.8
INOX   652.2
CPN   617.3
CCET   616.9
TVO   584.5
TUF   577.9
RCL   524.6
HEMRAJ   515.9
NSM   473.6
BLISS   471.1
KK   452.7
CPF   451.2
HANA   447.6
TISCO   429
MAKRO   390.2
TCB   372.1
STA   355.1
BECL   340.2
TCCC   338.2
SCNYL   324.3
SUC   319.3
BH   314.4
PS   308.2
QH   306.7
STPI   305.7
MAJOR   301.4
UVAN   286.4
CENTEL   270.7
BJC   266.4
AMATA   264
BKI   252.8
ROBINS   245
BSBM   238.8
SPI   237.5
MCOT   233.8
IRP   228.8
DCC   218.8
KTC   216.6
JAS   214.2
TFI   209.3
TYCN   207.4
LPN   204.3
TMT   201.2
ROJANA   199.8
ICC   198.8
HMPRO   186.8
SAT   185.9
OHTL   183.6
TF   174.7
SPALI   172.9
KEST   166.6
TIP   165.9
LANNA   164.9
PF   157.7
MINOR   156
SHANG   154.4
AP   151.5
SC   150.2
PLE   146.7
AH   145.4
SAMART   144.1
KH   142
BAFS   140.7
UMS   138
THRE   136.9
ASL   136.3
AI   134.8
LST   132.5
SIM   130.9
TIPCO   130.4
PHATRA   129.9
VNG   129.5
SVH   128.6
SF   128.3
DRT   127.2
OISHI   122
LOXLEY   121.5
RAM   119.1
ACL   119
SFP   118.8
SAUCE   118.2
SSSC   117.5
MJD   117.2
SPC   115.9
VNT   115.7
SVI   112.6
KCE   110.6
GFPT   109
UPOIC   108.9
MIDA   106.9
AIT   106.3
DTC   106.1
NWR   106
AYUD   105.6
GRAMMY   105.6
BAT3K   105
ALUCON   104.8
AMC   104
MODERN   101.7
TYM   98.6
CK   97.8
WACOAL   95.1
TAF   94.9
SSC   92.1
EWC   90.5
MCS   88.2
ROH   87.6
PHA   87.5
MDX   87.1
NNCL   86.7
RPC   86.1
ASIA   85.3
CSP   85.2
TNL   82.3
KGI   82
TK   80.5
PAP   79.9
ACAP   78.6
MILL   75.9
SAM   74.6
PRANDA   71.2
GFM   69.9
RAIMON   68.1
PB   67
SCG   66.9
ITD   66.8
CSL   66.2
SNC   66.1
SPG   66
RICH   64.2
ASK   62.2
SICCO   61.9
NOBLE   61.6
TSC   56.3
AJ   55.8
BSEC   55.5
TWP   55.2
UEC   55.2
BLS   53.9
KCAR   53.1
FMT   53.1
ASP   52.9
SE-ED   52.9
OGC   52
DSGT   52
IHL   51.7
TICON   51.6
SIS   51.4
CSC   51.3
GL   50.9
SMIT   49.6
JUTHA   49.6
KKC   49.4
BRC   48.7
SITHAI   47.9
DEMCO   46.9
PYT   46.8
STEC   45.7
TRUBB   45.1
FORTH   44.8
SMK   44.6
TASCO   43.4
SAFE   43.1
GYT   41.8
GC   40.6
MK   40.4
IT   40.4
TKS   40.4
SPACK   40.2
LVT   39.6
APRINT   39.4
WG   39.2
RANCH   39.2
PATO   38.9
SYNTEC   38.8
EPCO   37.4
TPCORP   37.1
GMMM   36.9
PG   36.7
VARO   36.7
UOBKH   36.2
TWFP   36.1
BFIT   36
NTV   34.4
SAMTEL   34.3
UTC   33.9
CPI   33.5
TMD   33.5
WORK   33.3
MEDIAS   33.1
CIG   33
TCP   32.9
MATI   32.9
UST   32.2
ZMICO   32.1
MILINK   31.1
MFEC   31.1
MILNK   31.1
KWH   29.5
S&J   28.5
TSTE   28.5
DRACO   28.5
TRT   28.5
PR   28.2
SPPT   28
KASET   27.9
THANI   27.6
MSC   27.5
LALIN   27.1
UFM   26.1
SAFARI   25.9
SCP   25.8
TOG   25.5
CI   24.5
UNIQ   24
LEE   23.9
JCT   23.5
HFT   23.3
HTC   22.8
MATCH   22.6
PAF   22.2
SKR   22
CSR   21.3
PPM   21.2
CNT   21
OCC   20.8
CHOTI   20.4
UV   20.4
EMC   20.3
PERM   20.2
ILINK   20.1
SWC   20.1
TBSP   19.8
TGPRO   19.4
SMPC   18.8
VIBHA   18.6
TPAC   18.6
TOPP   18.2
DVS   18.1
BROCK   18
ML   17.9
TRU   17.8
BOL   17.6
GENCO   17.4
TUCC   16.9
TNPC   16.8
YUASA   16.7
NKI   15.4
TT&T   15.4
SVOA   15.4
GOLD   15.3
NC   14.7
TNITY   14.6
SSF   14.3
TTTM   14.1
IFEC   13.7
TPA   13.6
TKT   13.4
EVER   13.4
UKEM   13.4
NEP   13.3
UBIS   13.3
SAICO   13.2
CHARAN   13.1
KC   13.1
L&E   13.1
BTC   13
SECC   12.9
MACO   12.6
SALEE   12
CPR   12
DM   12
EASON   11.3
SPORT   11.2
ETG   11
P-FCB   10.7
JTS   10.7
ECL   10.4
SINGER   10.4
TEAM   10.3
SSEC   10
PYLON   10
ASIMAR   9.9
SST   9.9
TIES   9.8
US   9
UP   8.9
MFC   8.8
BGT   8.7
SUSCO   8.2
BWG   8
THL   8
PREB   7.7
EIC   7.3
SYRUS   7.2
NIPPON   6.9
NMG   6.9
TCOAT   6.8
TRC   6.8
TCJ   6.7
BUI   6.6
AHC   6.6
BATA   6.5
SIMAT   6.5
NVL   6
DCON   6
M-CHAI   6
INET   5.3
YNP   5.2
KWC   5.1
CVD   4.8
PT   4.8
MALEE   4.6
TWZ   4.6
CRANE   4.6
NSI   4.5
TVI   4.4
TSI   4.3
STEEL   4.2
UTP   4.1
NPK   4
SORKON   3.7
UPF   3.7
BSM   3.6
BTNC   3.3
GEN   3.3
FE   3.3
RCI   2.9
SCAN   2.8
FNS   2.7
CAWOW   2.6
NEW   2.5
PE   2.3
TCC   2.2
MBAX   2.2
CM   2
TIC   2
BNC   1.7
KDH   1.2
STAR   1
POMPUI   0.9
TCMC   0.9
KTP   0.9
Q-CON   0.7
TONHUA   0.4
FOCUS   0.2
YCI   0.1
STRD   0.1
BROOK   0.1
FANCY   -0.5
TPP   -0.5
SLC   -1
SAWANG   -1.4
DTCI   -1.4
GBX   -1.6
TC   -1.7
INSURE   -1.8
F&D   -2.5
DISTAR   -2.6
UT   -3.1
MANRIN   -3.4
IRCP   -3.4
TLUXE   -3.5
THIP   -3.8
SEAFCO   -3.9
APC   -3.9
ASCON   -4
UMI   -5.7
PR124   -7.3
POST   -7.6
SAMCO   -7.8
MME   -7.8
TTI   -7.9
PA   -9.1
CHUO   -9.2
PPC   -9.8
RASA   -9.9
CPL   -10.4
NCH   -11.1
SPSU   -11.9
AKR   -11.9
CCP   -13.4
PRECHA   -15.4
D1   -18.3
SOLAR   -18.7
TDT   -19.2
SMC   -19.5
PRO   -20
CWT   -20.5
SINGHA   -21.3
CMO   -21.4
ROCK   -22.3
TFD   -22.4
SGF   -23.9
PRIN   -24
METRO   -25
SUPER   -25.9
SMM   -26.9
APURE   -27
KMC   -28
PAE   -30.2
STHAI   -33.1
CFRESH   -34.7
PDI   -36.8
TRAF   -37.1
SH   -38.8
CTW   -42.5
CPH   -42.7
NFC   -49
TRS   -54.8
GRAND   -64.1
RS   -66.9
DE   -70.6
ITV   -109.3
PATKL   -142.1
TGCI   -187.7
SIRI   -253.6
N-PARK   -337.4
BMCL   -358.2
BT   -2,088.20
บันทึกการเข้า
bangkaa
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 407



« ตอบ #18 เมื่อ: 20-07-2008, 03:48 »

หากจะพูดกันในแง่ที่ว่า หาก PTT เป็นของรัฐ 100% จะมีประโยชน์ชัดๆในเรื่องใดบ้าง...

เช่น...

ราคาน้ำมัน...สามารถลดได้ลงกว่านี้ทันที...เพราะรัฐสามารถยอมหั่นกำไรของตนเองลงได้...(เหมือนกับที่ รัฐบาลหมักลดรายได้ตัวเอง 50,000 ล้าน จาก 6 มาตรการนั่นล่ะ)
อย่างกรณีที่ลุงสนธิพูดว่าเขาสามารถลดราคานำมันทันที 10 บาทนั่น... อย่าคิดว่าโม้นะครับ... ทำได้จริงๆ...
ลดภาษีน้ำมัน 5 บาท
ลดค่าการตลาด...ลดค่าการกลั่น...ฯลฯ... รวมๆ 5 บาท
แต่วิธีการนี้เป็นการหักดิบไงครับ...ทำได้เมื่อ PTT เป็นของรัฐเท่านั้น...

ทั้งนี้ PTT ยังมีธุรกิจอื่น เช่น ปิโครเคมี...รวมแม้กระทั่ง PTTEP ด้วย ที่จะช่วยทำกำไรให้ได้... (ย่อมหมายถึงยังลดกำไรให้ประชาชนได้อีกเหมือนกัน)

ถามว่าถึงแม้ PTT จะเป็นของรัฐ แต่หากยอมเท่าทุนหรือกำไรน้อยมากๆนั้นดีหรือไม่...ก็ต้องตอบว่า ทางธุรกิจแล้วไม่ดี...
เพราะสินทรัพย์มีค่าเสื่อม...ธุรกิจต้องมีการลงทุนเพิ่ม... ต้องการเงินทุนรองรับ... ดังนั้นไม่ว่ายังไงตัว PTT ก็ต้องทำกำไรอยู่ดีถึงจะดูแลตัวเองได้

หากดูแลตัวเองไม่ได้ ก็จะเหมือน รฟท. ขสมก. ที่ยังโงหัวไม่ขึ้น...เป็นภาระแก่รัฐ ภาระภาษีประชาชนเหมือนเดิม...

แน่นอนว่าหาก PTT เป็นของรัฐ... ลดราคาพลังงานได้มากกว่าเป็นของเอกชนแน่นอน

แต่...การอยู่ในตลท. น่าจะมีความโปร่งใสในการตรวจสอบมากกว่ารัฐวิสาหกิจ... ทั้งยังช่วยตลาดทุน ตลาดการเงินของประเทศด้วย...

สรุป... ความเห็นผม ผมอยากให้ PTT อยู่ในตลาดเหมือนเดิม...ยังไงรัฐก็ยังถือหุ้นมากถึงกว่า 70% อยู่แล้ว... ปันผลของ PTT ที่รัฐได้ ก็เอามาชดเชยราคาพลังงานก็ได้นี่...
         ทั้งนี้ปัญหาพลังงานก็ยังแก้ด้วยวิธีอื่นๆได้อีก เช่น พลังงานทดแทน... การเก็บภาษีคนรวย (เช่นภาษีรถยนต์ ภาษีถนน ที่จอดรถ ฯลฯ)เพื่อมาชดเชยให้คนจนได้ใช้พลังงานถูก


 
บันทึกการเข้า

มาทำหน้าที่... ใช้หนี้แผ่นดิน...และมาทำบุญ...
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #19 เมื่อ: 20-07-2008, 07:28 »



แวะเอา กราฟราคาหุ้นปตท.ย้อนหลัง 6 ปี มาให้ดูเล่นครับ
เจอ entry ในบล็อก rivermoon ที่ oknation มีข้อมูลเข้าที

จะลองแวะไปอ่านก็ได้นะครับ 

แปรรูปรัฐวิสาหกิจ ..ปตท. เข้าตลาดหุ้น ชั่วไม่มีที่ติของอดีตนายก
http://www.oknation.net/blog/rivermoon/2008/07/10/entry-1
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
protecter
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 465


« ตอบ #20 เมื่อ: 20-07-2008, 09:19 »

คุณ...sleepless
ที่คุณบอกว่า    *ตอนที่มีคนซื้อ 30 ขาย 400 รวยไม่ไม่รู้กี่ร้อยกี่พันล้านไม่เห็นมีคนบ่นสักคำ พอจะต้องขายขาดทุน คนเหล่านั้นทำไมถึงต้องบ่น ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจ*

---------------------------

คนที่ซื้อ 30 ขายมากกว่า 50 หรือขาย 400 ไม่มีใครบ่นหรอกครับ
แต่คนที่ซื้อ 400 จะต้องขายคืนรัฐ 30 บาท ซิจะบ่น (อาจจะมากกว่าบ่น)
อย่าลืม... คนที่ซื้อหุ้น ปตท ในราครสูง กับ คนกลุ่มแรกที่ซื้อในราคาถูก ไม่จำเป็นต้องเป็นคนๆเดียวกันครับ
ฉนั้น ถ้าพันธมิตร ยังหาเหตุผลดีไม่เพียงพอ จะทำให้เสียพลังมวลชนบางส่วนครับ (โดยเฉพาะในส่วนที่สนับสนุนพันธมิตรอยุ่แล้ว)

กลุ่มพันธมิตร หรือ ผู้สนับสนุนพันธมิตร จะอยู่ในกลุ่มชนชั้นกลางมากสุด ซึ่งคนกลุ่มนี้ มีไม่น้อยที่ลงทุนในหุ้น
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: