อำมาตยาธิปไตยแข็งแกร่ง แต่ใช่จะไร้จุดอ่อน
โดย คุณเสรีชน
ที่มา เวบบอร์ด ประชาไท
14 กรกฎาคม 2551เห็นกระทู้แล้วกระทู้เล่า ออกมาทางท้อใจ แทบจะหมดหวัง ที่รัฐบาลถอย
หลายคนคิดว่ารัฐบาลใกล้จะแพแตกแล้ว
หลายคนคิดว่า พันธมิตรจะชนะ
หลายคนมองว่า ศาลจะทำให้พลังประชาชนพ่ายหมดรูป และอะไรต่อมิอะไร
ผมจะบอกพวกคุณตามจริง ไม่เหลวไหล พวกคุณอย่าเสียกำลังใจเลย ที่คิดว่าแข็งกลับอ่อน ที่คิดว่าแพ้ไม่ได้ ก็มีข้อบกพร่อง ที่เราอาจจะปราบเขาได้
ถ้าเขาแข็งจริง ทำไมเขาถึงเสียอำนาจให้รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวชล่ะ ในความแข็งย่อมมีจุดอ่อนเป็นธรรมดา
จุดอ่อนของพวกเขาคือ ความกลัว พวกเขาจึงต้องแสดงออก โดยการใช้อำนาจเพื่อเผด็จศึก แต่บนการใช้อำนาจที่ฟาดฟันใส่พลังประชาชน ลูกแล้วลูกเล่า ทำได้ไม่นานนักหรอก เพราะเขาออกอาวุธมาครบชุดแล้ว ยังจะมีอะไรให้น่ากลัวอยู่อีก
แต่เขากลับไม่รู้ว่า เราจะออกอาวุลูกไหน อาวุธที่เรามี เขาไม่มีคือ อำนาจและพลังประชาชนล้นหลาม ที่หนุนเรา
จุดอ่อนของคนพวกนี้ ที่เห็นชัดๆ คือศาลทั้งหลายแหล่
จุดสลบคือ ทหาร
ถ้ารัฐบาลยื้อได้จนฤดูโยกย้ายทหาร และเปลี่ยนขั้วอำนาจทหารมาเป็นฝ่ายประชาธิปไตยได้ แม้เพียงครึ่งเดียว ศาลจะเปลี่ยนท่าทีทันที เพราะโดยธรรมชาติ ศาลเคยแต่การออกคำสั่ง แต่ถ้าสั่งแล้ว ไม่มีคนปฎิบัติตาม ศาลนั่นแหล่ะจะตายเอง
เราต้องไม่ลืม ศาลไม่ได้บังคับกฎหมายเอง แต่คนบังคับกฎหมายคือ ตำรวจ และรัฐบาล
อีกประการหนึ่ง ปัญหาของศาลไทยคือ เงิน และวันเกษียณอายุราชการ รถประจำตำแหน่ง
ใช้การบัญชี ไม่อนุมัติให้รับเงินแทนรถตำแหน่ง ศาลก็หนาวแล้ว นี่ยังไม่ต้องแก้กฎหมายหรือ รธน.เลยด้วยซ้ำ ( เพื่อโยกย้าย เอาทหารของตัวเองเข้าไป)
อำมาตย์ ซ่อนตัวหลังฉาก แต่ใช้การประสานข้างหลัง เขากลัวสิ้นอำนาจ กลัวการเปิดโปง หากฤดูโยกย้ายทหาร นายสมัครไม่ใส่ใจอำมาตย์คนนี้ เขาจะหมดความสำคัญลงเรื่อยๆ
ซึ่งในปัจจุบัน เขาคนนี้ก็ต้องหลบๆ ซ่อนๆ ตัว ไม่กล้าออกมาเชียร์คนดี หรือเทศนาในสังคมอีก ต้องใช้ พีทีวี กระแสสังคม กดดันมารเฒ่าต่อไป โดยรัฐบาลแอบให้ท้าย ปปช. กกต. องค์กรอิสระทั้งหลาย ที่โดนครอบงำโดยอำมาตย์
พวกเขากลัวตกอำนาจ ถ้ารัฐบาลเปิดการตรวจสอบคนเหล่านี้ อาทิ ตรวจที่มาของเงินของนังจารุวรรณ เปิดเรื่องพิมพ์บัตรเลือกตั้ง สร้างกระแสกดดันกลับไปบ้าง คนพวกนี้จะอ่อนยวบ (ต้องการปล่อยข่าวเพื่อลดความน่าเชื่อถือ องค์กรณ์อิสระ)
สื่อ รัฐบาลคุมสื่อที่เขาครอบงำไม่ได้ แต่ถ้ารัฐบาลใช้สื่อฝ่ายรัฐ บวก อินเตอร์เน็ต และวิทยุชุมชนตอบโต้ full stream ออกข่าว กกต.โกงเลือกตั้ง ตรวจสอบ คตส. แฉโพยจารุวรรณ ใช้กระแสสื่อฝ่ายเรา ออกแลกหมัด สื่อเดลินิวส์ มติชน จะกลับไปตั้งรับบ้าง จะกลับมาตอบคำถามบ้าง แทนที่คำถาม จะต้องให้รัฐบาลต้องชี้แจงในฐานะจำเลยตลอดเวลา
ทหารหรือ ไม่ยาก ตำแหน่งมีน้อย ก็ต้องใช้วิชาของแมคเคียวรี่ ในหนังสือเรื่อง prince คือ ให้ประโยชน์กับคนฝ่ายเรา คนอีกฝ่ายอย่าให้โต สนับสนุนทหารประชาธิปไตย ต้านทหารเผด็จการ ต้องกล้าลงทัณฑ์บางคนให้เป็นตัวอย่าง อย่างปฐมพงษ์ ต้องให้กรมพระธรรมนูญ ดำเนิคดีจอมพลให้ดู หรือเสนอขั้นมาจาก ผบ.สส. รมว.กลาโหม ไม่ให้ขั้น ใครจะทำไม (อันนี้เลวมาก ทหารคนไหนไม่ยอมสยบใต้อำนาจพวกมัน มันจะกลั่นแกล้งทุกวีถีทาง)
พันธมาร ไม่ต้องให้ราคา ใช้ม็อบต่างจังหวัด จัดการดาวกระจาย นปก.ชุมนุมต้าน แต่อย่าปะทะ เพื่อให้มติมหาชนเขว (อันนี้ทำเพื่อที่จะให้ ปชช. ไม่กล้ามารวมกับพันธมิตร เพราะกลัวการปะทะ)
รัฐบาลต้องสร้างโพลล์ออกมาบ้าง เพื่อลดค่าเอแบคค์โพลล์ ที่ออกมาเพื่อทำลายรับบาล ต้องค้นหาว่า เอแบคค์ทายผิดมากี่หน มาประจานกลางทีวีช่อง NBT หรือเอาประวัติการศึกษาของ ดร กรรณิการ์ ผอ.สำนักฯ มาแจงว่า ไม่เก่งยังไง ไม่น่าเชื่อถืออย่างไร
ทุกคนต่างมีข้อแข็งและจุดอ่อนของตน แต่คนที่จะชนะคือ คนที่จับจุดอ่อนของฝ่ายตรงข้ามได้ และเข้าทำการโจมตีจุดนั้น
ผมหวังว่ารัฐบาลจะกล้าสู้ กล้าต้าน กล้าได้และกล้าเสีย มีแต่คนกล้าเท่านั้นที่จะชนะในสงครามครั้งนี้ ซึ่งผมเชื่อว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายของระบอบอำมาตยาธิปไตย
Posted by พยับหมอก at 7/14/2008 07:36:00 หลังเที่ยง
ดูแนวคิดของพวกมัน ว่ามันจะทำอะไรต่อไปสิครับ เฮ้อ มีทั้งหมิ่นศาล ทั้งจะยึดทหารเป็นฝ่ายตนให้ได้ ใครไม่ยอมสยบอยู่แนบเท้า ก็ต้องจัดการขั้นเด็ดขาดไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ตอนนี้ทหารไม่เล่นด้วยที่จะยอมให้ปฏิวัติตัวเอง แต่ถ้ายื้อเวลาให้ถึงฤดูโยกย้ายทหารได้สำเร็จ แล้วพวกมันย้ายคนของมันเข้าไปคุมกำลังได้เกินครึ่ง มันอาจจะปฏิวัติตัวเอง ได้ทุกเมื่อ เพื่อปลดล็อคทุกคดี และล้มองค์กรณ์อิสระให้หมด ถ้าแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่สำเร็จ เพราะพวกมันมีจุดศูนย์รวมอยูที่ คนๆเดียวคือทักษิณ ถ้าทักษิณติดคุก พวกมันจะขาดผู้นำ และศูนย์รวม เพราะกลุ่มพวกนี้มันต้องการโค่นล้ม....... และผู้ที่จะเป็นผู้นำและมีบารมีพอที่จะโค่นล้มได้ ก็คือทักษิณ ดังนั้นพวกมันจะทำทุกวิถีทางที่จะให้นายมันรอด แล้วอาจจะทำคล้ายๆกับ ประเทศฝรั่งเศษhttp://thaienews.blogspot.com/2008/07/blog-post_1637.html