ถ้าผมเป็นนายกฯทักษิณ ชินวัตร ผมจะ.......................

[จูล่ง_j]

'สังศิต'ฉะอร์รัปชันสูงสุดรอบ100ปีค

"สังศิต" ชี้รัฐบาลปัจจุบันถูกพาดพิงคอร์รัปชันอย่างกว้างขวาง วงวิชาการชำแหละโกงมากที่สุดในรอบ 100 ปี เผยนักธุรกิจเป็นนายกฯ กระบวนการคอร์รัปชันเหลือ 2 ทอด ผิดกับนักวิชาชีพ ที่มีถึง 3 ทอด ทำให้ข้าราชการขยาดมากกว่าเผด็จการทหาร ส่วนการประมูลงานงาบหัวคิวกระฉูด 40%


งาน "วันต่อต้านคอร์รัปชันสากล ประจำปี 2547" ซึ่งจัดโดยองค์กรภาคีต้านคอร์รัปชัน ร่วมกับศูนย์ศึกษาเศรษฐศาสตร์การเมือง จุฬาฯ เครือข่ายธุรกิจเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม และโครงการสัมมนาวิชาการตามนโยบายสาธารณะ ได้เชิญนายสังศิต พิริยะรังสรรค์ รองประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สป.) มาเปิดงานโดยเขากล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้ถูกพาดพิงถึงการคอร์รัปชันอย่างกว้างขวาง นักวิชาการถึงกับระบุว่า รัฐบาลนี้คอร์รัปชันมากที่สุดในรอบ 100 ปี

สำหรับปัญหาคอร์รัปชันตั้งแต่ผู้นำรัฐบาลเริ่มเข้าสู่อำนาจในข้อหาซุกหุ้น และส่วนสำคัญที่ทำให้เขาหลุดพ้นคดีมาได้ ก็เพราะผู้นำประชาชนได้ขอฉันทานุมัติจากประชาชน

ทั้งนี้ จากประสบการณ์งานวิจัยพบว่า ผู้นำที่เป็นนักวิชาชีพกับนักธุรกิจนั้น มีระดับการคอร์รัปชันไม่เท่ากัน โดยนักธุรกิจโน้มเอียงจะคอร์รัปชันมากกว่า หากเรามีนักวิชาชีพเป็นนายกฯ รูปแบบคอร์รัปชันจะร่วมมือกัน 3 ฝ่าย คือ นักการเมือง ข้าราชการ นักธุรกิจ แต่เมื่อนักธุรกิจเป็นนายกฯ จะเหลือเพียง 2 ฝ่าย คือ นักการเมืองกับข้าราชการ

"สิ่งสำคัญคือนักธุรกิจไทยนิยามการคอร์รัปชันไม่เหมือนคนทั่วไป รวมทั้งนักวิชาการ โดยเฉพาะนักธุรกิจขนาดใหญ่นั้น เห็นว่าการจ่ายใต้โต๊ะไม่ถือว่าคอร์รัปชัน แต่เป็นการร่วมกันทำธุรกิจ และที่ผ่านมาการคอร์รัปชันไม่ใช่แค่เงินเท่านั้น แต่ยังมีในรูปแบบโยกย้ายข้าราชการตามอำเภอใจ โดยเฉพาะรัฐบาลนี้ข้าราชการกลัวมากที่สุดในรอบ 50 ปี มากกว่ารัฐบาลเผด็จการทหาร

โดยรัฐบาลนี้ยังได้ยักยอกเอาทรัพยากรของรัฐไปใช้อย่างกว้างขวาง การจัดงานจากรากหญ้าสู่รากแก้ว หรือการเอาเงินกองสลากฯ ไปให้นักการเมืองไปทอดกฐินวัดละ 3 หมื่นบาท เห็นได้ชัดว่านักการเมืองยุคนี้ ไม่รวยแค่ 10 หรือ 100 ล้าน แต่รวยเป็นหมื่นเป็นแสนล้าน”

นายสังศิต กล่าวด้วยว่า มีการคอร์รัปชันกันในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นแหล่งหาเงินเพื่อนำไปใช้ในการเลือกตั้ง ทั้งนี้ ยังพบว่าในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีการคอร์รัปชันสูงขึ้น 90 เปอร์เซ็นต์ สะท้อนว่าองค์กรภาคประชาชนยังเปลี่ยนความคิดเรื่องคอร์รัปชันไม่ได้ และเดี๋ยวนี้หน่วยงานรัฐหักค่าหัวคิวมากขึ้น ในอดีตเพียง 5-10 เปอร์เซ็นต์ แต่วันนี้หัก 20-40 เปอร์เซ็นต์

"สิ่งที่ทำให้การคอร์รัปชันรุนแรงมากขึ้น เพราะรัฐบาลมีอำนาจเบ็ดเสร็จเหนือองค์กรอิสระ และที่อันตรายที่สุดคือ องค์กรอิสระกลับมาคอร์รัปชันเสียเอง ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา มีเพียงองค์กรภาคประชาชนเท่านั้น ที่ยืนสู้กับการคอร์รัปชัน ส่วนที่รัฐบาลประกาศสงคราม ไม่สามารถคาดหวังได้ และในอนาคตการคอร์รัปชันจะรุนแรงเพิ่มมากขึ้น"

ขณะที่นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) ได้เสนอรายงานเรื่อง "สายสนกลโกง ใยโยงทุจริต" พบว่า รูปแบบการทุจริตคอร์รัปชันในปัจจุบัน คือ การคอร์รัปชันเชิงนโยบาย เกิดจากการใช้อำนาจรัฐและทุน ที่สร้างกระบวนการออกนโยบายเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้องอย่างเป็นระบบ จัดตั้งเป็นขบวนการตั้งแต่ต้นทางยันปลายทาง

ทั้งนี้ มีสาเหตุจากระบบธุรกิจการเมืองหรือระบอบทักษิณ ที่มีการรวมตัวของกลุ่มทุนขาประจำ 10 ตระกูลด้วยกัน คือ ชินวัตร จึงรุ่งเรืองกิจ หรือจุฬางกูร โพธารามิก มาลีนนท์ วงศ์สวัสดิ์ เจียรวนนท์ มหากิจศิริ สิมะโรจน์ เทพกาญจนา และชาญวีรกูล โดยทั้งหมด ผนึกกำลังเหนียวแน่น และมีแนวโน้มจะมากกว่าเดิม ซึ่งถ้าตรวจสอบรายได้กิจการของทั้ง 10 ตระกูล จะพบมูลค่ามากกว่ากึ่งหนึ่งของตลาดหลักทรัพย์ จึงเป็นไปได้ที่ทั้ง 10 ตระกูล อาจเข้าไปชี้นำตลาดหลักทรัพย์

“องค์กรภาคประชาชนขอเสนอแนวทาง แก้ปัญหาการคอร์รัปชันอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยการให้นายกฯ และรัฐมนตรี เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินของตัวเองและครอบครัวต่อสาธารณะผ่านเวบไซต์ และก่อนจะมาเป็นรัฐมนตรีต้องยกเลิกสัมปทานกับรัฐให้หมด รวมถึงการจัดทำงบประมาณประจำปีต้องให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมด้วย”

รายงานแจ้งว่า ในภาคบ่ายนายอานันท์ ปันยารชุน ประธาน สป. เป็นประธานมอบรางวัลให้บุคคลและหน่วยงาน ที่ต่อต้านการคอร์รัปชัน ได้แก่ นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ผอ.วิจัยด้านเศรษฐกิจสารสนเทศ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) นายประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ รองบรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์มติชน คณะกรรมการรณรงค์เพื่อการปฏิรูปสื่อ (คปส.) รวมถึงหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์

วันศุกร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2547 กรุงเทพธุรกิจ

[The Last Emperor]

"สังศิต" ชี้รัฐบาลปัจจุบันถูกพาดพิงคอร์รัปชันอย่างกว้างขวาง วงวิชาการชำแหละโกงมากที่สุดในรอบ 100 ปี เผยนักธุรกิจเป็นนายกฯ กระบวนการคอร์รัปชันเหลือ 2 ทอด ผิดกับนักวิชาชีพ ที่มีถึง 3 ทอด ทำให้ข้าราชการขยาดมากกว่าเผด็จการทหาร ส่วนการประมูลงานงาบหัวคิวกระฉูด 40%"


เอาอะไรมาวัดเอ่ยว่าโกงมากสุดใน 100 ปี? งาบหัวคิวกระฉูด 40%.....หลักฐานทางวิชาการหล่ะ?  เป็นนักวิชาการแต่ยกตัวเลขมาด่าคนอื่นเสียๆหายๆ

คนดีๆที่รู้ผิดชอบชั่วดีเค้าฟังแล้วก็วิเคราะห์ครับว่าข้อมูลดังกล่าวเชื่อถือได้หรือไม่ ยกเว้นพวกมีอคติและศรัทธาชนเท่านั้นที่พร้อมจะเชื่อทุกเม็ดที่มีการกล่าวหาลอยๆ

[boyboy]

เข้ามารอดูเรื่อง หมื่นล้าน

[Coolly_Jade]

ชอบที่อะไรจ๊ะพูดจัง ว่ารัฐบาลทักษิณเป็นรัฐบาลที่มีนโยบายที่ช่วยเหลือมากที่สุด
ก็จริงละนะ ถ้าจะถามว่าจริงใจแค่ไหนในนโยบายเหล่านั้น เดี๋ยวอะไรจ๊ะก็ต้องถามกลับว่า
เอาอะไรมาวัดความจริงใจ แล้วถ้าจะถามถึงผลของนโยบายเหล่านั้นละ อะไรจ๊ะจะพูดว่าอย่างไร
หรือจะเอาเคสคนจนที่ออกรายการว่ามีโอกาสได้รักษาตัวเพราะ30บาทมาพูดถึง โดยไม่พูดถึง
โรงพยาบาลเป็นอย่างไรจากผลของ30บาท ผู้ที่ไปรับการรักษาตัวจำนวนมากที่ใช้30บาทแล้ว
ไม่ประสบผล เอาเป็นว่าผมถามแบบนี้ดีกว่า
1.นโยบาย30บาท ประสบความสำเร็จแค่ไหนในสายตาของอะไรจ๊ะ
2.ผลกระทบของนโยบาย30บาทที่มีต่อสังคม คุมค่าไหมกับงบประมาณต่างๆที่ทุ่มลงไป
3.นโยบาย30บาทเป็นงบผูกพันที่จะต้องมีและยกเลิกไม่ได้แน่ๆ ปัญหาก็คือฐานะทางเศรษฐกิจ
  ของไทยเราจะประคองนโยบายนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน ตามสายตาของอะไรจ๊ะ
4.ความสำเร็จของกองทุนหมู่ต่างๆ อะไรจ๊ะคิดว่าเป็นที่น่าพอใจไหม
อ้อ อะไรจ๊ะไม่ต้องโยนให้ผมไปหาข้อมูลนะ ผมหาแล้ว จากเวปของรัฐบาลซะด้วยสิ
แต่ผลที่ได้คงไม่ถูกใจอะไรจ๊ะแน่ๆ ขนาดเป็นของรัฐยังบอกถึงผลมาในทางลบ ก็เลยอยากจะรู้ว่า
อะไรจีจะอธิบายอย่างไรให้เป็นไปในทางบวก

[ผู้ทำลาย]

อะไรจ๊ะ ยังไม่ไปหาตัวเลขบริจาค หมื่นล้านมาให้ดูอีกเหรอ

ผมหาดูมีแต่พันล้าน แต่มันให้ไปรึยัง ตอนไหน ให้ครบรึเปล่า ยังไม่มีใครทราบ

แล้วก็อย่าเอาทักษินไปเทียบกับคนที่เค้าทำธุรกิจ สุจริตเลยนะ

เพราะคนเหล่านั้นไม่มีอำนาจเบ็ดเสร็จในสภา ไม่สามารถแก้กฎหมายให้ธุรกิจตัวเองได้เปรียบได้

ถามนิดเดียวครับว่า ถ้าคุณทักษิณแกทุจริตเชิงนโยบายหรือผลประโยชน์ทับซ้อนอะไรนั่นจริง....ไฉนเลย Shin Corp ถึงมีอัตราขยายตัวเพียง 300 กว่าเปอร์เซนต์ ในขณะที่อัตราการขยายตัวของบริษัทใน SET อยู่ในอัตรากว่า 400% .....ใช้สามัญสำนึกตอบดีกว่ามั้ยครับ!?!

ทุจริตเชิงนโยบายของคุณทักษิณ ไม่ได้แปลว่า ทำให้หุ้นชินปรับราคาสูงขึ้นเท่านั้น

หลายเรื่องของนโยบายเป็นการทุจริต ทำให้พวกพ้องได้ประโยชน์มากกว่า

ข้อมูลที่กล่าวถึงเป็นเท็จ   ก่อนคุณทักษิณเป็นนายก  SET  อยู่ที่ประมาณ  400  จุด

ขึ้นสูงสุด ที่  ประมาณ750  จุด     การขยายตัวของบริษัท ไม่เท่ากัน  แล้วแต่ประเภทธุรกิจ

และไม่ใช่   400  เปอร์เซนต์   ตามที่กล่าวอ้าง  

หุ้น ชิน ราคาเท่าไหร่ไม่ใช่ประเด็น    ขายโดยซุกหุ้นและไม่เสียภาษีต่างหากคือความเลวร้ายครับ


อภินันทนาการคำตอบ จากคุณ .... ไม่บอก ^^" ....

[In The Name Of Justice.]

เปรียบเทียบง่ายๆละกันครับว่า

ทำไมกษัตริย์ถึงต้องมี ธรรม 10 ประการ

ทำไมคนไทยถึงรักในหลวงมากมายขนาดนี้ล่ะครับ

หรือว่ากฎหมายบอกไว้ว่าอย่างนั้น

กฎหมายกับคุณธรรมต้องไปด้วยกันถึงจะถูกต้องใช่หรือไม่ครับ?

การที่คุณบอกว่าคนนั้นคนนี้ ยกตัวเลขมาอ้าง

ผมก็จะบอกว่าคุณเองก็ยก ไอ GDP ไอเงินสำรองอะไรนั้นมาอ้างเช่นกันครับ...

เพื่อจะได้ไม่ต้องตรวจสอบ ใช่ไหมครับ?

[The Last Emperor]

ฮ่าๆๆๆ


กลับมาแล้วคร้าบ....พอดีเมื่อวานงานยุ่งทั้งวัน ไงๆจะทยอยตอบcommentของทุกๆท่านในวันนี้ให้หมดน๊ะครับ 

[The Last Emperor]

เปรียบเทียบง่ายๆละกันครับว่า

ทำไมกษัตริย์ถึงต้องมี ธรรม 10 ประการ

ทำไมคนไทยถึงรักในหลวงมากมายขนาดนี้ล่ะครับ

หรือว่ากฎหมายบอกไว้ว่าอย่างนั้น

กฎหมายกับคุณธรรมต้องไปด้วยกันถึงจะถูกต้องใช่หรือไม่ครับ?

การที่คุณบอกว่าคนนั้นคนนี้ ยกตัวเลขมาอ้าง

ผมก็จะบอกว่าคุณเองก็ยก ไอ GDP ไอเงินสำรองอะไรนั้นมาอ้างเช่นกันครับ...

เพื่อจะได้ไม่ต้องตรวจสอบ ใช่ไหมครับ?

ไม่เป็นการเหมาะสมด้วยประการทั้งปวงที่จะนำคุณทักษิณมาเปรียบเทียบกับในหลวง เพราะประการแรกคุณทักษิณเป็นนักการเมือง ส่วนในหลวงท่านอยู่เหนือการเมือง ประการต่อมา คุณทักษิณเป็นบุคคลที่สาธารณชนสามารถวิพากษ์วิจารย์ได้ ส่วนในหลวงท่านมีกฏหมายคุ้มครองห้าม และประการสุดท้าย พวกที่ไม่ชอบคุณทักษิณย่อมมีอคติในใจและมองว่าคุณทักษิณไม่มีคุณธรรมอยู่วันยังค่ำ

ทางที่ดีที่สุดและมีประสิทธิภาพสูงสุดในการวัดอะไรต่างๆนานาเกี่ยวกับตัวคุณทักษิณก็คือ ผลการเลือกตั้งนั่นเองครับ ใครดีใครชั่วถูกใจไม่ถูกใจ.....เอาผลการเลือกตั้งมาวัดกันเนื้อๆดีกว่ามั้ย ประเด็นสำคัญก็คือ พวกที่ไม่ชอบทักษิณมักกล่าวอ้างว่า กกต.ไม่เป็นธรรมบ้าง พรรคทรท.ใช้เงินหว่านบ้าง ซึ่งแสดงให้เห็นชัดเจนว่าพวกที่มีแนวคิดดังกล่าวไม่ยอมรับกติกา

[see - u]

อือหึ........  ดิฉัน  ไม่ได้อ่านความคิดแต่ละท่านเลย  (กลัวใจ...  ง่ะ )

ถ้า.. ดิฉัน.. เกิดเป็นน้าแม้ว นะ

ดิฉัน..จะไม่ฉวยโอกาส ..ในความรู้  ที่มีมากกว่าหลายคน

จะเอา.........  ความพร้อม  ที่เรามี   ไปให้คนอื่นบ้าง   !!

เพราะ.. ความเข้าใจ...คนเราไม่เท่ากัน

น้าแม้ว...เป็นคนฉลาดที่เห็นแก่ตัว.. โคตร ๆ  เลยค่ะ

จะเอาเปรียบทุกอย่าง ถ้า ..  คำว่า..กฏหมายคุ้มครอง  สิทธิ์  ตรงนั้น

เพื่อ........   ผลประโยชน์... ตัวเอง

น้าแม้ว... ต้องสร้างทุกอย่างจากใจ  ไม่ใช่ สร้างภาพ  อย่างที่เป็นอยู่ค่ะ





 

[In The Name Of Justice.]

สุดท้ายแล้ว คุณก็บอกได้แค่ว่า คนที่ Anti-Tucky เป็นพวกไม่ยอมรับกติกา เป็นพวกมีอัคติ แค่นั่นใช่ไหมครับ

ที่ผมเปรียบเรื่องคุณธรรม เพื่อให้คุณเห็นได้ชัดๆ ถ้าทักษิณมีคุณธรรสุมจริงๆก็ต้องเป็นที่ยอมรับ อย่างกว้างขวาง

ไม่ใช่เฉพาะกลุ่ม

สุดท้ายแล้วคุณก็ไม่มีหมัดเด็ดหรือไม้ตาย อะไรเลยที่จะทำให้ ผมยอมรับได้ว่า ทักษิณดี...จริง?

สุดท้ายแล้วก็จะกลายเป็นพายเรือวนในอ่างเหมือนเดิม ใช่ไหมครับ?

แล้วอะไรคือผลการเลือกตั้งครับ มันได้ยกเลิกไปแล้วนิครับ ตอนนี้ก็ต้องรอศาลสิครับ ไม่ใช่เลือกตั้ง

(หรือถ้าจะรอก็โน่น ตุลา)

[The Last Emperor]

สุดท้ายแล้ว คุณก็บอกได้แค่ว่า คนที่ Anti-Tucky เป็นพวกไม่ยอมรับกติกา เป็นพวกมีอัคติ แค่นั่นใช่ไหมครับ

ที่ผมเปรียบเรื่องคุณธรรม เพื่อให้คุณเห็นได้ชัดๆ ถ้าทักษิณมีคุณธรรสุมจริงๆก็ต้องเป็นที่ยอมรับ อย่างกว้างขวาง

ไม่ใช่เฉพาะกลุ่ม

สุดท้ายแล้วคุณก็ไม่มีหมัดเด็ดหรือไม้ตาย อะไรเลยที่จะทำให้ ผมยอมรับได้ว่า ทักษิณดี...จริง?

สุดท้ายแล้วก็จะกลายเป็นพายเรือวนในอ่างเหมือนเดิม ใช่ไหมครับ?

แล้วอะไรคือผลการเลือกตั้งครับ มันได้ยกเลิกไปแล้วนิครับ ตอนนี้ก็ต้องรอศาลสิครับ ไม่ใช่เลือกตั้ง

(หรือถ้าจะรอก็โน่น ตุลา)

งั้นขอความกรุณาช่วยบอกชื่อนักการเมืองสัก 1 คนได้ไหม.....ที่คนไทยทุกกลุ่มยอมรับ?

ส่วนผลการเลือกตั้งนั้น...ผมหมายถึงผลการเลือกตั้งในทุกครั้งไม่เฉพาะเจาะจงว่าครั้งไหน ประเด็นก็คือ ให้รู้จักแพ้-ชนะในเกมส์ให้เป็นครับ และแน่นอนว่าทุกฝ่ายต้องยอมรับผลการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นในอนาคต อย่าได้คิดเข้าข้างตัวเองเป็นอันขาดว่าใครเสียงดังกว่าชนะ....กติกาบอกว่าใครจำนวนมากกว่าชนะน๊ะครับ อย่าลืม!!

[In The Name Of Justice.]

จะบอกผมว่านักการเมืองไม่มีใครดีใช่ไหมครับ ทุกคนโกงกินหมดเลย

ผมได้ยินมาจนเซ็งแล้วครับ

ส่วนเรื่องการเลือกตั้งมันก็ต้องยอมรับกันอยู่แล้วครับ ผมไม่ได้บอกซะหน่อยว่าไม่รับ

แต่การเลือกตั้งที่ผ่านมาไม่โปร่งใส อย่างที่ศาลตัดสินมาแล้วครับ 

[The Last Emperor]

จะบอกผมว่านักการเมืองไม่มีใครดีใช่ไหมครับ ทุกคนโกงกินหมดเลย

ผมได้ยินมาจนเซ็งแล้วครับ

ส่วนเรื่องการเลือกตั้งมันก็ต้องยอมรับกันอยู่แล้วครับ ผมไม่ได้บอกซะหน่อยว่าไม่รับ

แต่การเลือกตั้งที่ผ่านมาไม่โปร่งใส อย่างที่ศาลตัดสินมาแล้วครับ 

ผมไม่เคยบอกว่านักการเมืองทุกคนต้องโกงกิน แต่ผมกำลังสนใจในสิ่งที่คุณบอกว่าไม่มีใครในโลกนี้หรอกครับที่เป็นที่ถูกใจกับทุกกลุ่มทุกคน หากคุณคิดว่าคุณทักษิณโกง....กรุณายืนยันด้วยครับ!!

[In The Name Of Justice.]

ผมยืนยันครับ 

[The Last Emperor]

ผมยืนยันครับ 

ดีครับที่พูดตรงไม่อ้อมค้อม


งั้นผมขอหลักฐานยืนยันทางกฎหมายแบบที่ใช้กันทั่วไปในสังคมที่พัฒนาแล้วทั่วโลกว่าด้วยเรื่อง การโกงของคุณทักษิณให้ดูเป็นขวัญตาเถิดครับ ถ้าคุณมี...ผมจะกราบเท้าคุณเลย!!

[In The Name Of Justice.]

ผมไม่มีครับ  แต่ผมเชื่อว่ามี... ไม่ต้องมากราบเท้าผม (ทำไปเพื่ออะไร?)

หลักฐานมีแน่นอน ว่าแต่จะตรวจสอบพบหรือไม่พบ

แล้วจะให้ตรวจสอบเมื่อไรล่ะครับ?

คุณจะมาถามหาหลักฐานอะไรครับ ถ้าไม่ให้ตรวจสอบ?

แทนที่ทักษิณจะเป็นสีขาว กลายเป็นสีเทา สีดำไปซะได้

แล้วเรื่องการโอนหุ้นซุกหุ้น ผมก็ว่ามีหลักฐานนะครับ

ไม่งั้นจะเอามาพูดกันเฉยๆได้ยังไงล่ะ?

อ่ะ...อย่างน้อยการขายหุ้นให้ต่างชาติ พ่วงด้วยดาวเทียมเนี้ย ประเทศไหนเขาทำกันหรอครับ?

[The Last Emperor]

ผมไม่มีครับ  แต่ผมเชื่อว่ามี... ไม่ต้องมากราบเท้าผม (ทำไปเพื่ออะไร?)

หลักฐานมีแน่นอน ว่าแต่จะตรวจสอบพบหรือไม่พบ

แล้วจะให้ตรวจสอบเมื่อไรล่ะครับ?

คุณจะมาถามหาหลักฐานอะไรครับ ถ้าไม่ให้ตรวจสอบ?

แทนที่ทักษิณจะเป็นสีขาว กลายเป็นสีเทา สีดำไปซะได้

แล้วเรื่องการโอนหุ้นซุกหุ้น ผมก็ว่ามีหลักฐานนะครับ

ไม่งั้นจะเอามาพูดกันเฉยๆได้ยังไงล่ะ?

อ่ะ...อย่างน้อยการขายหุ้นให้ต่างชาติ พ่วงด้วยดาวเทียมเนี้ย ประเทศไหนเขาทำกันหรอครับ?

ใจจริงผมทราบดีครับว่าคุณไม่มีหลักฐานใดๆที่จะพิสูจน์ได้ว่าคุณทักษิณโกง การตรวจสอบนักการเมืองนั้นมีหลายทางครับ เช่น คณะกรรมการ/อนุกรรมการต่างๆในสภาผู้แทน ศาลยุติธรรม ศาลปกครอง หรือแม้กระทั่ง สตง. ก็ตามแต่ เป็นต้น ตลอดระยะเวลา4-5ปีที่ผ่านมา....คุณไม่เฉลียวใจสักนิดหรือครับว่าองค์กรต่างๆที่กล่าวมานี้ทำไมไม่มีใครชี้ชัดจับคุณทักษิณได้สักครั้งเดียวว่าโกง โดยเฉพาะคุณหญิงจารุวรรณ....ที่คนไทยให้เครดิต ก็ไม่เคยมีหลักฐานที่บอกว่าคุณทักษิณโกง

โชคดีสำหรับประเทศไทยน๊ะครับที่คนแบบคุณมีไม่มาก...ไม่งั้นคงได้เกิดลัทธิกล่าวหากันอย่างมโหฬาร สังคมไทยเราคงไม่ต้องยึดกฎหมายกันแล้วมั้งถ้าเป็นแบบนั้น!?!

การขายหุ้นShin Corp ที่มีดาวเทียมพ่วงไปด้วยก็ไม่เห็นเป็นเรื่องวิติกจริตแต่อย่างใด ทำยังกับว่าประเทศไทยเราประกาศสงครามกับใครในแถวนี้ แปลกใจมากๆน๊ะครับที่ตอนคุณทักษิณเป็นเจ้าของShin Corp พวกคุณก็บอกว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อน แต่พอขายออกไปก็มากล่าวหาอีกว่าขายชาติ....บรรทัดฐานและหลักการของพวกคุณอยู่ตรงไหนเอ่ย? 

[The Last Emperor]

เอามาให้อ่านกันเพื่อบางคนจะรู้สึกมีสามัญสำนึกขึ้นมาบ้าง เป็นforward mailที่หลายท่านอาจเคยอ่านแล้วครับ

"ความจงรักภักดี ของสนธิ 
ความจงรักภักดีแบบ สนธิ ลิ้มทองกุล

อาวุธประการสำคัญที่ สนธิ ลิ้มทองกุล ใช้หมายประหัตประหาร ไล่ล่าทักษิณ ชินวัตร มาอย่างยาวนานและต่อเนื่อง เกือบ 1 ปีเต็ม ก็คือ “ความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์” ที่สนธิ อวดอ้างว่าเขามีมากกว่า ทักษิณ ชินวัตร

สนธิ ใช้ “ความจงรักภักดี” เป็นอาวุธ และ ประกาศจุดยืนแห่งชีวิตว่า จะทำทุกอย่างเพื่อกำจัดทักษิณ ชินวัตร ออกไปจากการเมืองไทย และประเทศไทย ไม่ให้ได้ผุดได้เกิดอีก เพื่อปกป้องในหลวง และสถาบันพระมหากษัตริย์ พร้อมทั้งกล่าวหาว่า ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้ไม่จงรักภักดี และ ไม่เคารพพระมหากษัตริย์

แต่ทว่าพฤติกรรมที่สำแดงออกถึงความจงรักภักดีของสนธิ ลิ้มทองกุล ในห้วงเวลา 8-9 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งสนธิ ก่อให้เกิดวิกฤต และความแตกแยกครั้งใหญ่ในประเทศไทย ปลุกระดมให้ประชาชนคนไทยแตกแยก ขัดแย้งกันเอง จนกระทั่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงต้องระงับเหตุด้วยพระองค์เอง ก่อนที่จะบานปลาย และประชาชนบางส่วนจะหลงผิด ไปมากกว่านี้ เป็นพฤติกรรมของผู้จงรักภักดีที่น่าศึกษาอย่างยิ่ง แต่สมควรจะกระทำตามหรือไม่ เป็นเรื่องที่ทุกคนพึงใช้วิจารณญาณของตนเอง เพราะขึ้นอยู่กับมโนสำนึก และสำนึกใฝ่ดี ใฝ่ต่ำของแต่ละคนว่ามีมากน้อยแตกต่างกันอย่างไร

เริ่มจาก....
1. ขายเสื้อ “เราจะสู้เพื่อในหลวง” เพื่อเป็นสัญลักษณ์การต่อสู้กับทักษิณ ชินวัตร ที่บังอาจถอดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ออกจากช่อง 9 อ.ส.ม.ท.

แหล่งข่าวจากโรงงานผลิตเสื้อ “เราจะสู้เพื่อในหลวง” เปิดเผยว่าสนธิ สั่งผลิตเสื้อจากหลายโรงงาน แต่รวมกันแล้วไม่น้อยกว่า 1 ล้านตัว ราคาต้นทุนแขนสั้น 40 บาท แขนยาว 60 บาท ราคาขายแขนสั้น 150 บาท แขนยาว 200 บาท ประมาณการกันว่ารายได้จากการขายเสื้อ “เราจะสู้เพื่อในหลวง” ไม่น่าจะน้อยกว่า 200 ล้านบาท ขณะนี้เงินจำนวนนี้ ไปนอนอยู่ในธนาคารแห่งหนึ่งในฮ่องกงแล้ว

สนธิ ผลิตเสื้อ “เราจะสู้เพื่อในหลวง” ออกมาขาย เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้ การแตกความสามัคคีของคนในชาติ ทั้งๆ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชประสงค์ให้คนไทยรู้รักสามัคคี และไม่เผชิญหน้ากัน นี่เป็นการอ้างความจงรักภักดีที่น่าประหลาดใจ

แต่ที่น่าประหลาดกว่านี้ก็คือ รายได้จากการขายเสื้อ “เราจะสู้เพื่อในหลวง” มีการทักท้วงกันมากว่า มีการแอบอ้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ผลิตสินค้าออกจำหน่าย เข้าข่ายหลอกหลวงผู้ซื้อ ว่าเป็นการสมทบทุน “สู้เพื่อในหลวง” แต่แท้จริงแล้วกลับเป็นการทำธุรกิจ หาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง ทั้งไม่ได้ขอพระบรมราชานุญาต ทั้งไม่ได้นำเงินทูลเกล้าถวายฯ ทั้งไม่ได้ตอบคำถามประชาชนว่าเงินที่ได้มานำไปใช้จ่ายอย่างไร จากการแอบอ้างสถาบัน
บางคนเปรียบกับเสื้อคุณทองแดง ที่มีการผลิตขึ้นมาขายโดยหน่วยงานบางหน่วยงาน ยังต้องขอพระบรมราชานุญาต และรายได้ที่เกิดขึ้น ก็นำขึ้นทูลเกล้าถวาย แต่สนธิ กลับทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ต่อคำถาม คำทักท้วง และคำทวงถาม เรื่องเงินที่ได้จากการขายเสื้อ เหมือนกับว่าไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น เพราะเงินอุดหู


2. เปิดประเด็นโจมตี ทักษิณ ชินวัตร ไม่เคารพสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยการทำตัวเสมอพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กรณีทำบุญประเทศไทย ในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือ วัดพระแก้ว ทำให้ประชาชนเข้าใจผิด และหลงเชื่อว่า นายกฯทักษิณ บังอาจทำตัวเสมอพระเจ้าอยู่หัว ทั้งๆที่เป็นการกล่าวหาใส่ร้าย โดยปราศจากข้อเท็จจริง และเป็นการกล่าวหาโดยที่ไม่รู้ระเบียบประเพณี หรือรู้แล้วแต่แสร้างทำเป็นไม่รู้ ปิดบังข้อมูลที่เป็นจริงไว้ นำเสนอข้อมูลที่เป็นเท็จ เพื่อให้ประชาชนคนไทย เกลียดชังเข้าใจผิด ต่อนายกฯทักษิณ

การแสร้งโง่และโกหกของสนธิ ในเรื่องนี้ ทำให้เดือดร้อนกันไปหมด และในที่สุดต้องเดือดร้อนไปถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หลังจากที่สำนักราชเลขาธิการ และสำนักพระราชวัง จัดทำหนังสือชี้แจงแล้ว แต่สนธิ ก็ยังคงนำเสนอข้อมูลเท็จ ที่คิดขึ้นมาเอง จินตนาการเอง ไม่ยอมรับฟังคำชี้แจงของสำนักพระราชวัง กระทั่งความเข้าใจผิดของประชาชนที่มีต่อนายกฯทักษิณ ลุกลามไปจนทั่วประเทศ

สุดท้ายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 4 ธันวาคม 2548 ว่า “ไม่ผิด” จึงทำให้ประชาชนคลายความคลางแคลงใจต่อนายกฯทักษิณ ลงได้
แต่ สนธิ หาได้นำพาต่อพระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ ทำเหมือนไม่ได้ยิน ไม่รู้ไม่ชี้กับพระราชดำรัส ไม่ทุกข์ ไม่ร้อนกับ ข้อกล่าวหาของตัวเอง ที่ใส่ร้ายผู้อื่น จนทำให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ลุกลามขยายวงกว้างไปทั่วประเทศ

ไม่มีคำขอโทษ ไม่มีคำชี้แจงจากสนธิ แม้แต่คำเดียวว่าเอาข้อมูลจากไหนมากล่าวหาให้ร้ายนายกฯทักษิณ มีแต่การสร้าวงประเด็นใหม่ๆ เพื่อขยายความบาดหมางใจ ความไม่พอใจในหัวใจประชาชนที่มีต่อนายกฯทักษิณ ให้เพิ่มขึ้นอีก


3. การชุมนุมใหญ่ เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2549 และการอ่านคำถวายฎีกาให้ทรงใช้พระอำนาจแก้ไขปัญหา ซึ่งมีตอนจบของคำถวายฎีกา ว่า

“ปวงข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขอกราบบังคมทูลถวายฎีกาต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท เพื่อทรงพระกรุณาปัดเป่าทุกข์ยากของอาณาประชาราษฎร์ อันเกิดจากน้ำมือของพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สุดแท้แต่พระองค์จะทรงพระกรุณาวินิจฉัย

ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายขอน้อมถวายชีวิตด้วยความจงรักภักดีต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ผู้ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจคนไทยทั้งชาติ และขอปฏิญาณตนว่าจะต่อสู้เพื่อปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พิทักษ์รักษาสิทธิผลประโยชน์ของคนไทยทั้งชาติ เพื่อมิให้อธรรมอ้างความชอบธรรมแสวงหาผลประโยชน์ จนกว่าชีวิตจะหาไม่”

สนธิ ทำให้ทุกคนที่ร่วมชุมนุมลานพระบรมรูปทรงม้า และผู้ที่ชมการถ่ายทอดเหตุการณ์ทางโทรทัศน์ ต้องตกตะลึงกับลีลาการอ่านคำถวายฎีกาด้วยท่าทางที่ไม่มีใครเคยพบเคยเห็นมาก่อน กล่าวคือ มีทั้ง ชี้นิ้ว ชี้หน้า ชี้กราด เท้าเอว ตะโกน ซึ่งเป็นอาการที่คนไทยทั่วไปไม่ใช้ และรับไม่ได้กับการถวายฎีกา ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงเกิดข้อวิพากษ์วิจารณ์มากมายถึงความไม่เหมาะสมของสนธิ ที่กระทำต่อเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อพิจารณาท้ายหนังสือถวายฎีกา กลับปรากฎว่ามีชื่อผู้ถวายฎีกา เพียง 2 คน คือ นายสนธิ ลิ้มทองกุล และ นางสาวสโรชา พรอุดมศักดิ์ แต่กลับประกาศว่าเป็นฎีกาของประชาชนคนไทยทั้งชาติทั้งแผ่นดินไม่พอใจและได้รับความเดือดร้อนจากการทำงานของนายกฯทักษิณ ชินวัตร

หลังจากการถวายฎีกา ที่หน้าบ้านพักพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ และ หน้าประตูพระบรมมหาราช วัง เสร็จสิ้นลง นักวิชาการ และประชาชนจำนวนมาก เสนอให้มีการสลายตัว และยุติการชุมนุมชั่วคราว เพื่อรอพระบรมราชวินิจฉัย

แต่สนธิ กลับไม่สนใจที่จะรอพระบรมราชวินิจฉัย กำหนดวันชุมนุมขับไล่รัฐบาต่อทันที เพราะเห็นว่ากระแสกำลังขึ้น ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์การถวายฎีกาของคนไทย ที่จะมีการดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อกดดันให้ทรงมีพระบรมราชวินิจฉัยทางใดทางหนึ่ง

ไม่ว่าจะมีผู้คัดค้าน ทัดทานอย่างไร สนธิ ก็ไม่ได้ยิน ไม่ได้ฟัง และเดินหน้าต่อ จนทำให้เกิดคำถามขึ้นมากมายว่าสนธิ ถวายฎีกาเพื่ออะไร ต้องการใช้การถวายเป็นฎีกา เป็นเครื่องมือสร้างข่าว และปลุกระดมมวลชน เพื่อให้เกิดสัญลักษณ์การเผชิญหน้าระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์กับ รัฐบาล แค่นั้นใช่หรือไม่ แท้จริงแล้วสนธิ ไม่ได้สนใจผลของการถวายฎีกาเลยแม้แต่น้อย จะทรงมีพระบรมราชวินิจฉัยหรือไม่ สนธิ ก็ไม่รู้สึกทุกข์ร้อน ขอแค่เพียงได้ถวายเป็นสัญลักษณ์ของการเปิดฉากต่อสู้ยกใหม่กับทักษิณ ชินวัตร ก็เพียงพอแล้ว
แต่ที่น่าสนใจก็คือ นับแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2549 ที่ได้มีการถวายฎีกาไป สนธิ ก็ไม่เคยกล่าวอ้างถึงฎีกานั้นอีกเลย และไม่สนใจติดตามด้วยว่าทรงมีพระบรมราชวินิจฉัยอย่างไร หรือไม่ ทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน

นึกอยากจะยื่นก็ยื่น นึกอยากจะเลิกก็เลิก ทำราวกับว่าการถวายฎีกาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีค่าเสมอเพียงการส่งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวันให้ผู้อ่านทั่วไป นึกอยากส่งก็ส่ง นึกอยากจะเลิกส่งก็เลิก นี่คือพฤติกรรมของผู้จงรักภักดีแบบสนธิ ลิ้มทองกุล


4. การสร้างกระแสเรียกร้องให้ทรงใช้พระราชอำนาจตามมาตรา 7 แห่งรัฐธรรมนูญ เพื่อเผด็จศึกทักษิณ ชินวัตร ให้พ้นจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ให้ได้ ทั้งๆ ที่การคัดค้าน ทัดทาน ทักท้วงจากนักวิชาการจำนวนมาก ว่าเป็นการไม่สมควรที่จะสร้างกระแส กดดัน เรียกร้องให้ใช้พระราชอำนาจ เพราะไม่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย และเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ แต่ สนธิ ลิ้มทองกุล ก็เพิกเฉยกับเสียงคัดค้านทุกเสียง และเดินหน้าต่อ ปลุกระดมประชาชน ให้เข้าชื่อ ให้ร่วมส่งเสียง ให้ทรงใช้พระราชอำนาจตามมาตรา 7 เพื่อโปรดเกล้าฯแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่

การเรียกร้องนายกรัฐมนตรีพระราชทาน ดังกระหึ่มไปทั่วฟ้าเมืองไทย เพราะสนธิ ชักนำให้ประชาชนเข้าใจผิด ว่าเป็นสิ่งที่ถูก และเป็นพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ที่จะทรงทำอะไรก็ได้ เนื่องจากรัฐธรรมนูญ มาตรา 7 ให้อำนาจมากมาย กว่าประชาชนทั่วประเทศจะรู้ว่าการเดินตามสนธิ เป็นสิ่งที่ผิด ขัดรัฐธรรมนูญ มิหนำซ้ำ ยังก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อพระมหากษัตริย์อีกด้วย ก็ต่อเมื่อ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัส ว่าการเรียกร้องมาตรา 7 เป็นการทำให้พระองค์ท่านทรงเดือดร้อน และไม่เป็นการปกครองระบอบประชาธิปไตย ท่านจะไม่พระราชทานนายกรัฐมนตรี นั่นล่ะ ประชาชนจึงเพิ่งรู้สึกตัวว่าเดินผิดทางมายาวไกลมาก

แต่สนธิ ก็ไม่ได้รู้ร้อนรู้หนาวกับพระราชดำรัส และความเดือดร้อนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และยังไม่ทันที่พระราชดำรัสจะถูกตีพิมพ์เป็นตัวหนังสือ เผยแพร่ต่อประชาชนทั่วไป สนธิ ให้สัมภาษณ์สวนทางพระราดำรัส ทันที ซึ่งคัดลอกมาจากเวปไซต์ผู้จัดการออนไลน์ ดังนี้

“ผู้สื่อข่าวถามว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงตรัสว่า มาตรา 7 เรื่องการ ขอนายกฯ พระราชทานไม่สามารถใช้ได้ นายสนธิ กล่าวว่า “มาตรา 7 พระองค์ท่านก็บอกว่าพระองค์ท่านใช้ยาก เพราะพระองค์ท่านเป็นพระมหากษัตริย์ แต่พระองค์ท่านก็ไม่ได้ บอกว่าพระองค์ท่านจะไม่ใช้

เมื่อถามต่อว่า แต่กระแสพระราชดำรัสของพระองค์ท่านไม่ต้องการที่จะทำเกินหน้าที่ นายสนธิ กล่าวว่า ถูกต้อง แต่ว่า ต้องมีคนรับสนองพระบรมราชโองการ ก็แสดงว่าถ้ามีคนรับสนองพระบรมราชโองการ พระองค์ก็พร้อมจะใช้

ต่อข้อถามถึงข้อเรียกร้องที่กลุ่มพันธมิตรเรียกร้องนายกฯพระราชทานจะเดินหน้าต่อหรือเปลี่ยนแปลงอย่างไรหรือไม่ นายสนธิ กล่าวว่า “เราก็เดินเหมือนเดิม เพราะเราก็ ยังยืนยันว่าการต่อสู้ครั้งนี้เรายืนหยัดเพราะการเลือกตั้งไม่เป็นประชาธิปไตย เราก็อยากรู้เหมือนว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะโมฆะหรือเปล่า

เมื่อถามว่า จะทบทวนบทบาทการชูเรื่องมาตรา7 หรือไม่ นายสนธิ กล่าวว่า “เรายังรวมอยู่ในทุกบทบาท เพราะตนคิดว่าถ้ามีคนรับสนองพระบรมราชโองการก็ชูได้ ทำไมจะชูไม่ได้”
ก่อนจะจบท้ายการสัมภาษณ์ว่า
"มันแข็งกร้าวตรงไหน และตนก็เห็นด้วยว่าที่จะให้ทุกอย่างอยู่ในระบอบรัฐสภา แต่ถ้า นายกฯ และรัฐบาลชุดนี้ลาออกก็ใช้มาตรา 7 ได้ เพราะมีผู้รับสนองพระบรมราชโองการ"
ก็อย่างนี้ล่ะ ถ้อยคำวาจา และการแสดงออกของผู้จงรักภักดีอย่างสนธิ ลิ้มทองกุล


5. การสร้างกระแสปฏิญญาฟินแลนด์ ให้ประชาชนหลงเชื่อและเข้าใจผิดว่า นายกฯทักษิณ วางแผนการที่จะแยกสถาบันพระมหากษัตริย์ ออกจากประชาชน ลดบาทบาทและอำนาจของพระ มหากษัตริย์ ด้วยการปะติดปะต่อเรื่องราวต่างๆ และเชื่อมโยงให้เป็นแผนการร้ายของนายกฯทักษิณ ชินวัตร และคณะผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย จำนวนหนึ่ง ที่ไปวางแผนการกันไกลถึงประเทศฟินแลนด์ ตั้งแต่ปี 2542 ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดที่ผูกโยงปะติดปะต่อกันขึ้นมานี้ เป็นการจินตนาการของสนธิ ลิ้มทองกุล ชัยอนันต์ สมุทวณิช ปราโมทย์ นาครทรรพ ซึ่ง สองคนหลังเป็นลูกจ้าง เขียนบทความแลกเงินค่าคอลัมน์ในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการของสนธิ ลิ้มทองกุล นั่นเอง แล้วก็ยังมี โสภณ สุภาพงษ์ อีกคนหนึ่ง ที่ร่วมกันจินตนาการสร้างแผนร้ายนี้ขึ้นมา แล้วก็โยนว่าเป็นความคิดของนายกฯทักษิณ ชินวัตร

กระแสปฏิญญาฟินแลนด์ ไม่ต่างจากกระแสพรรคคอมมิวนิสต์ ในอดีต คือมีการกล่าวหานักการเมืองกลุ่มหนึ่งจะล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ จนนำไปสู่การต่อสู้ และการทำลายล้างกันทางการเมืองอย่างรุนแรง
พฤติกรรมของสนธิ ในเรื่องปฏิญญาฟินแลนด์ ไม่แตกต่างจากเรื่องกรณีทำบุญประเทศไทย ในพระอุโบสถวัดพระแก้ว แต่เพิ่มความเข้มข้น และระดับความเกลียดชังคนชื่อทักษิณ ชินวัตร ในหัวใจของคนไทย ให้สูงขึ้นหลายเท่าตัว

แต่น่าเสียดายที่พฤติกรรมของสนธิ และ พวกพ้อง ลูกน้องค่ายผู้จัดการ ทำกันมาแล้วหลายครั้งหลายหน ถูกจับได้ครั้งแล้วครั้งเล่า ว่าเป็นความเท็จ ไม่ใช่ความจริง กรณีปฏิญญาฟินแลนด์ จึงปลุกไม่ขึ้น เพราะสื่อมวลชนส่วนใหญ่ไม่เล่นด้วย เนื่องจากเป็นเรื่องที่ยากจะเชื่อ และผู้กล่าวหาก็ไม่มีหลักฐานมาพิสูจน์ยืนยันคำพูดของตัวเอง ว่าเป็นเรื่องจริง

นี่ก็คือ พฤติกรรมของผู้จงรักภักดีของ สนธิ ลิ้มทองกุล ผู้จงรักภักดี ที่ใช้สถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นเครื่องมือทางการเมืองของตัวเองมาโดยตลอด และ ใช้ ความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ของคนไทย เป็นเหยื่อ เป็นเครื่องมือในการจุดประเด็น โหมไฟไล่นายกฯทักษิณ ชินวัตร มาครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ยังไม่สำเร็จ
การสร้างกระแสปฏิญญาฟินแลนด์ขึ้นมา ก็เป็นอีกครั้งของการจุดกระแสและโหมไฟไล่นายกฯทักษิณ แต่ครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่กุเรื่องไม่เคารพสถาบันพระมหากษัตริย์ หากแต่เกินเลยไปถึงขั้น คิดล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ กันเลยทีเดียว

เมื่อประมวลการพัฒนาทางความคิดของสนธิ ลิ้มทองกุล จากวันเริ่มต้นต่อสู้กับทักษิณ ชินวัตร จนถึงวันนี้ จึงไม่อาจสรุปเป็นอื่นได้ นอกจากว่า
“สนธิ กำลังใช้สถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นเครื่องมือหาประโยชน์ให้แก่ตัวเอง และเป็นอาวุธประหัตประหารศัตรูของตนเอง โดยหามีความจงรักภักดีอย่าแท้จริงไม่”
ความจงรักภักดีแบบสนธิ ลิ้มทองกุล จึงเป็นความจงรักภักดีจอมปลอม ที่ต้องเร่งกำจัดให้สิ้นซากจากแผ่นดินไทย ก่อนที่ประเทศไทยจะลุกเป็นไฟเพราะบุคคลผู้นี้" 

[จูล่ง_j]

อ้าว จนป่านนี้ ยังไม่เอาตัวเลขบริจาค หมื่นล้าน มาให้ดูอีกเหรอ นี่ผมถามรอบที่ 4 แล้ว คนรอดูก็อีกหลายคน

เคลียร์เรื่องนี้ก่อน อย่าเพิ่งไปตอบเรื่องนามธรรมกับคนอื่น เดี๋ยวผมจะมีโจทก์ เรื่องตัวเลขให้คุณตอบอีกหลายเรื่อง

เพราะ ของแบบนี้มันตอบน้ำขุ่นๆไม่ได้

[In The Name Of Justice.]

เจอมาหลายแล้วครับ ทั้งใน FW Mail ทั้งในพันทิพเองก็มี

คุณไปเอาหลักฐานเรื่องสนธิมาให้ผมดูด้วยสิครับว่า

เขาพิมพ์เสื้อเอง ขายเท่าไร อะไรเท่าไร?

ผมก็ดีใจครับที่เมืองไทยมีคนอย่างคุณไม่มาก (สรุปก็เลวทั้ง 2 คน)

คุณอาจจะคิดมากไปว่าถ้ามีพวกผมหลายคนจะกล่าวหากันมากมาย

เพราะอย่างผมคงไม่พูดถ้าไม่มีมูล

แล้วคนเป็นนายกต้องชี้แจงให้ได้ด้วยนะครับ

ผมจะบอกว่าผมสงสัย ขอตรวจสอบ ถ้าคุณไม่ให้คุณต้องบอกได้ว่าเพราะอะไร

และก็ตอบคำถามผมให้หมด ถ้าทำได้ก็ถือว่าคุณเป็นฝ่ายถูก ใช่/ไม่ใช่?

เพราะไม่อย่างงั้นคงจะซิกแซ็กกันแหลกลาน แล้วบอกว่า "ถูกกฏหมาย"

การที่ถือครองอยู่แล้วมีผลทับซ้อน มันก็ผิดอยู่แล้ว

ยิ่งขายให้ต่างชาติ ก็ยิ่งผิดเข้าไปอีก

คุณเอาหลักการอะไรคิดหรอครับที่ว่า เขามีผลประโยชน์ทับซ้อน แล้วผิดกฏหมาย

เลยต้องขายๆทิ้งไปซะเพื่อให้ไม่ถูกด่า รู้ทั้งรู้ว่าขายให้คนไทยไม่ได้เพราะไม่มีเงิน

ก็ขายให้ต่างชาติซะ

ผลประโยชน์ที่ติดพันมากับดาวเทียม เรื่องภาษี ก็เสมือนเอาเงินที่ รัฐแบ่งเบาภาระให้มาเป็นของตัว

นี้คือผลประโยชน์ทับซ้อนหรือเปล่า?

[In The Name Of Justice.]

ตอบ ท่าน จูล่ง_j ก่อนได้เลยครับ

ไม่ต้องสนใจผมมากก็ได้ครับ ผมมันตัวกระจอกๆ ตัวนึง

[Eakle]

จากการที่ผมนั่งไล่อ่านกระทู้ของทุกท่าน ที่มีการโำพสกันนั้นจับใจความสำคัญไม่ได้เลยครับ

มันดูเหมือนเป็นการยกหัวข้อมาโต้เถียงกันไป ซึ่งผิดวัตถุประสงค์ของเจ้าของกระทู้หมดเลย

ผมมีข้อสังเกตุจำนวนหนึ่งอยากเล่าให้ฟังครับ

1. ตอนนี้เ่สรีไทยของเราเริ่มเป็นที่รู้จักกันในเนทและมีสมาชิกมากขึ้นเรื่อย ซึ่งส่วนมากเกิิน 90% ไม่ชอบนาียก
2. ผู้ที่อ่านกระทู้นั้นไม่ว่าชอบนายกหรือไม่หาิกอ่านบทความที่บอร์ดนี้เยอะเข้า แลัวยอมรับความคิดเห็นของคนที่นี่
ย่อมต้องเริ่มไม่ชอบนายกขึ้นมานิดๆ
3. หากความไม่ชอบเนื่องจากเห็นด้วยกับบทความในบอร์ดนี้ขยายวงกว้างเข้าจะทำให้ความนิยมของนายกลดลงได้
4. แน่นอนว่าตอนนี้ที่นี่เริ่มเป็นที่รู้จัก "มากขึ้นๆ" อาจจะก่อให้เกิดกระแส "รู้ทันนายก" มา่กขึ้นเรื่อยๆ
5. จึงต้องมีการเข้ามาแก้ต่างให้กับนายก เำพื่อประโยชน์ 2 อย่างคือ ทำให้ผู้อ่านสับสน และ แก้ตัวให้นายก

6. จากข้อ 5. ดูเหมืิอนคุณ A-Rai-JA กำลังทำเช่นนี้อยู่ครับ ซึ่งอันนี้จะทำให้บอร์ดนี้จะเริ่มเหมือนราชดำเนินขึ้นเรื่อยๆ

นี่เป็นข้อสังเกตุของผมเท่านั้นครับ ไม่ได้มีเจตนาแอบแฝงใดๆครับ

[In The Name Of Justice.]

จากการที่ผมนั่งไล่อ่านกระทู้ของทุกท่าน ที่มีการโำพสกันนั้นจับใจความสำคัญไม่ได้เลยครับ

มันดูเหมือนเป็นการยกหัวข้อมาโต้เถียงกันไป ซึ่งผิดวัตถุประสงค์ของเจ้าของกระทู้หมดเลย

ผมมีข้อสังเกตุจำนวนหนึ่งอยากเล่าให้ฟังครับ

1. ตอนนี้เ่สรีไทยของเราเริ่มเป็นที่รู้จักกันในเนทและมีสมาชิกมากขึ้นเรื่อย ซึ่งส่วนมากเกิิน 90% ไม่ชอบนาียก
2. ผู้ที่อ่านกระทู้นั้นไม่ว่าชอบนายกหรือไม่หาิกอ่านบทความที่บอร์ดนี้เยอะเข้า แลัวยอมรับความคิดเห็นของคนที่นี่
ย่อมต้องเริ่มไม่ชอบนายกขึ้นมานิดๆ
3. หากความไม่ชอบเนื่องจากเห็นด้วยกับบทความในบอร์ดนี้ขยายวงกว้างเข้าจะทำให้ความนิยมของนายกลดลงได้
4. แน่นอนว่าตอนนี้ที่นี่เริ่มเป็นที่รู้จัก "มากขึ้นๆ" อาจจะก่อให้เกิดกระแส "รู้ทันนายก" มา่กขึ้นเรื่อยๆ
5. จึงต้องมีการเข้ามาแก้ต่างให้กับนายก เำพื่อประโยชน์ 2 อย่างคือ ทำให้ผู้อ่านสับสน และ แก้ตัวให้นายก

6. จากข้อ 5. ดูเหมืิอนคุณ A-Rai-JA กำลังทำเช่นนี้อยู่ครับ ซึ่งอันนี้จะทำให้บอร์ดนี้จะเริ่มเหมือนราชดำเนินขึ้นเรื่อยๆ

นี่เป็นข้อสังเกตุของผมเท่านั้นครับ ไม่ได้มีเจตนาแอบแฝงใดๆครับ

เราพายเรือเล่นกันอยู่ในอ่างน่ะครับ ไม่ไปไหนหรอกครับ

คือจริงๆแล้วผมอยากรู้น่ะว่าเขามีไม้เด็ดอะไรไหมที่จะมาแย้งผมน่ะ?

[p]

ตกลงจะให้ลูกหลานของเราเรียนรู้และคิดอย่างไร
ว่า"คนดี"ของสังคมไทยมีคุณสมบัติอย่างไรครับ
ก็เห็นมีแต่บอกว่า "คนนั้นเป็นอย่างนี้ คนนี้เป็นอย่างนั้นกันทั้งนั้น"

[The Last Emperor]

จากการที่ผมนั่งไล่อ่านกระทู้ของทุกท่าน ที่มีการโำพสกันนั้นจับใจความสำคัญไม่ได้เลยครับ

มันดูเหมือนเป็นการยกหัวข้อมาโต้เถียงกันไป ซึ่งผิดวัตถุประสงค์ของเจ้าของกระทู้หมดเลย

ผมมีข้อสังเกตุจำนวนหนึ่งอยากเล่าให้ฟังครับ

1. ตอนนี้เ่สรีไทยของเราเริ่มเป็นที่รู้จักกันในเนทและมีสมาชิกมากขึ้นเรื่อย ซึ่งส่วนมากเกิิน 90% ไม่ชอบนาียก
2. ผู้ที่อ่านกระทู้นั้นไม่ว่าชอบนายกหรือไม่หาิกอ่านบทความที่บอร์ดนี้เยอะเข้า แลัวยอมรับความคิดเห็นของคนที่นี่
ย่อมต้องเริ่มไม่ชอบนายกขึ้นมานิดๆ
3. หากความไม่ชอบเนื่องจากเห็นด้วยกับบทความในบอร์ดนี้ขยายวงกว้างเข้าจะทำให้ความนิยมของนายกลดลงได้
4. แน่นอนว่าตอนนี้ที่นี่เริ่มเป็นที่รู้จัก "มากขึ้นๆ" อาจจะก่อให้เกิดกระแส "รู้ทันนายก" มา่กขึ้นเรื่อยๆ
5. จึงต้องมีการเข้ามาแก้ต่างให้กับนายก เำพื่อประโยชน์ 2 อย่างคือ ทำให้ผู้อ่านสับสน และ แก้ตัวให้นายก

6. จากข้อ 5. ดูเหมืิอนคุณ A-Rai-JA กำลังทำเช่นนี้อยู่ครับ ซึ่งอันนี้จะทำให้บอร์ดนี้จะเริ่มเหมือนราชดำเนินขึ้นเรื่อยๆ

นี่เป็นข้อสังเกตุของผมเท่านั้นครับ ไม่ได้มีเจตนาแอบแฝงใดๆครับ

ฮ่าๆๆๆ

เผอิญว่าผมมีหน้าที่แก้เลี่ยนให้กับเว๊บนี้เท่านั้นอ่ะครับ...ฮ่าๆ

ผมคิดว่าทั้งฝ่ายAnti-Thaksin และ Pro-Thaksin ต่างก็ต้องพยายามหาเหตุและผลมาหักล้างความเชื่อซึ่งกันและกัน ประเด็นก็คือ ใครหล่ะที่มีเหตุผลในการนำเสนอความคิดมากกว่ากัน ตัวผมเองไม่เคยคิดที่จะให้กลุ่มAnti-Thaksinหันกลับมาสนับสนุนคุณทักษิณเลยเพราะรู้ว่ายากสสส์

ฉะนั้น เรามานำเสนอความเห็นที่แตกต่างกันอย่างสร้างสรรค์กันแบบนี้น๊ะดีแล้วครับ


อนึ่ง ผมใคร่ท้าทายความคิดของทุกท่านเลยน๊ะครับว่า หากคุณทักษิณเลวและโกง(ทั้งต่อหน้าและลับหลัง)จริง...ทำไม 'ท่านเจ้าของแผ่นดิน' ถึงไม่ส่งสัญญาณให้ผู้มีอำนาจอื่นๆจัดการกับคุณทักษิณซะ! น่าคิดไหมครับ??

[In The Name Of Justice.]

ตายแล้วครับ คุณ อะไรจ๊ะ เรื่องสัญญาณนั้นมีมาตั้งนานแล้วครับ

แล้วถ้าจะยึดมั่นสัญญาณนั้น ท่านก็รอดูคำตัดสินของศาลละกันครับ

[The Last Emperor]

ตายแล้วครับ คุณ อะไรจ๊ะ เรื่องสัญญาณนั้นมีมาตั้งนานแล้วครับ

แล้วถ้าจะยึดมั่นสัญญาณนั้น ท่านก็รอดูคำตัดสินของศาลละกันครับ

ครับ ไงๆก็อย่าเทหมดหน้าตักน๊ะครับ แล้วก็ขอให้ทุกฝ่ายน้อมรับคำตัดสินอย่างไม่มีข้อสงสัยด้วยล่ะกัน...ถ้าคำวินิจฉัยออกมาไม่ตรงใจใครบางคนบางกลุ่ม!!

[The Last Emperor]

อ้าว จนป่านนี้ ยังไม่เอาตัวเลขบริจาค หมื่นล้าน มาให้ดูอีกเหรอ นี่ผมถามรอบที่ 4 แล้ว คนรอดูก็อีกหลายคน

เคลียร์เรื่องนี้ก่อน อย่าเพิ่งไปตอบเรื่องนามธรรมกับคนอื่น เดี๋ยวผมจะมีโจทก์ เรื่องตัวเลขให้คุณตอบอีกหลายเรื่อง

เพราะ ของแบบนี้มันตอบน้ำขุ่นๆไม่ได้

ใจเย็นๆครับ ผมไม่ใช่ encyclopedia น๊ะครับ...ผมกำลังหาข้อมูลเรื่องดังกล่าวอยู่ ปรกติผมจะไม่ค่อยเสียเวลามากนัก แต่เห็นคุณเอาเอ็นเอาตายกับเรื่องตัวเลข ทำยังกับว่าถ้าคุณทักษิณบริจาค 1 หมื่นล้านจริง ...พวกคุณจะกลับใจหันมาสนับสนุนคุณทักษิณก็เปล่าสักนิด...หรือว่าคุณคิดว่าไม่จริง??

[The Last Emperor]

เอาไว้วันจันทร์มาคุยกันต่อน๊ะครับ ขออนุญาตไปดื่มเบียร์เย็นๆที่ร้านไม้เอกก่อนละกัน


โชคดีและมีความสุขทุกท่านน๊ะครับ

[In The Name Of Justice.]

ก็คงต้องยอมรับครับ คงทำอะไร หรือสงสัยไม่ได้ เพราะศาลถือเป็นที่สุดครับ

ไว้เจอกันวันทำงานครับ

[Eakle]

จากการที่ผมนั่งไล่อ่านกระทู้ของทุกท่าน ที่มีการโำพสกันนั้นจับใจความสำคัญไม่ได้เลยครับ

มันดูเหมือนเป็นการยกหัวข้อมาโต้เถียงกันไป ซึ่งผิดวัตถุประสงค์ของเจ้าของกระทู้หมดเลย

ผมมีข้อสังเกตุจำนวนหนึ่งอยากเล่าให้ฟังครับ

1. ตอนนี้เ่สรีไทยของเราเริ่มเป็นที่รู้จักกันในเนทและมีสมาชิกมากขึ้นเรื่อย ซึ่งส่วนมากเกิิน 90% ไม่ชอบนาียก
2. ผู้ที่อ่านกระทู้นั้นไม่ว่าชอบนายกหรือไม่หาิกอ่านบทความที่บอร์ดนี้เยอะเข้า แลัวยอมรับความคิดเห็นของคนที่นี่
ย่อมต้องเริ่มไม่ชอบนายกขึ้นมานิดๆ
3. หากความไม่ชอบเนื่องจากเห็นด้วยกับบทความในบอร์ดนี้ขยายวงกว้างเข้าจะทำให้ความนิยมของนายกลดลงได้
4. แน่นอนว่าตอนนี้ที่นี่เริ่มเป็นที่รู้จัก "มากขึ้นๆ" อาจจะก่อให้เกิดกระแส "รู้ทันนายก" มา่กขึ้นเรื่อยๆ
5. จึงต้องมีการเข้ามาแก้ต่างให้กับนายก เำพื่อประโยชน์ 2 อย่างคือ ทำให้ผู้อ่านสับสน และ แก้ตัวให้นายก

6. จากข้อ 5. ดูเหมืิอนคุณ A-Rai-JA กำลังทำเช่นนี้อยู่ครับ ซึ่งอันนี้จะทำให้บอร์ดนี้จะเริ่มเหมือนราชดำเนินขึ้นเรื่อยๆ

นี่เป็นข้อสังเกตุของผมเท่านั้นครับ ไม่ได้มีเจตนาแอบแฝงใดๆครับ

ฮ่าๆๆๆ

เผอิญว่าผมมีหน้าที่แก้เลี่ยนให้กับเว๊บนี้เท่านั้นอ่ะครับ...ฮ่าๆ

ผมคิดว่าทั้งฝ่ายAnti-Thaksin และ Pro-Thaksin ต่างก็ต้องพยายามหาเหตุและผลมาหักล้างความเชื่อซึ่งกันและกัน ประเด็นก็คือ ใครหล่ะที่มีเหตุผลในการนำเสนอความคิดมากกว่ากัน ตัวผมเองไม่เคยคิดที่จะให้กลุ่มAnti-Thaksinหันกลับมาสนับสนุนคุณทักษิณเลยเพราะรู้ว่ายากสสส์

ฉะนั้น เรามานำเสนอความเห็นที่แตกต่างกันอย่างสร้างสรรค์กันแบบนี้น๊ะดีแล้วครับ


อนึ่ง ผมใคร่ท้าทายความคิดของทุกท่านเลยน๊ะครับว่า หากคุณทักษิณเลวและโกง(ทั้งต่อหน้าและลับหลัง)จริง...ทำไม 'ท่านเจ้าของแผ่นดิน' ถึงไม่ส่งสัญญาณให้ผู้มีอำนาจอื่นๆจัดการกับคุณทักษิณซะ! น่าคิดไหมครับ??

อันที่จริงการที่มีผู้คนเข้ามาแก้เลี่ยนนี่ก็ดีนะครับทำให้บอร์ดไม่เลี่ยนจริงๆครับ ดูเป็นสีสันดีด้วย
แต่!!! อยากให้เข้ามาให้ตรงกระทู้ และ ตอบให้ตรงประเด็นของผู้ที่ตั้งกระทู้ด้วยครับ ไม่อยาก
ให้เปลี่ยนเรื่องในกระทู้ อันเป็นเหตุให้ผู้อ่านท่านอื่นๆ ที่มีความสนใจในกระทู้นั้นๆสับสน งงกับ
ตัวกระทู้นั้นๆได้ เช่น.... กระทู้นี้ที่จริงน่าจะพูดเรื่องหากเราเป็นนายกจะทำอย่างไร เราก็ควรจะ
ตอบเรื่องที่ถ้าเราเป็นนายกจะทำอย่างไร ไม่ใช่ เข้ามาแก้ต่าง คห. ของท่านอื่นๆที่มีความเห็น
ที่อาจจะไม่ได้มีความรู้สึกเป็นในทางที่ดีต่อนายกเท่าใดนักทุกๆ คห. ซึ่งผมมองว่ามันไม่ได้
เป็นการแก้เลี่ยนแล้วครับ มันเป็นการทำให้กระทู้นั้นมั่วไป แม้ว่าจะเป็นกระทู้ของคุณก็เถอะ
ไม่เป็นไปตามที่ควรจะเป็น ถ้าหากเป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ ผมเกรงว่าจะเป็นเหมือนราชดำเนินที่เมื่อมีคนมาตั้งกระทู้ที่
anti-taksin ขึ้นมาเมื่อไหร่ก็จะมีคนเข้ามาระดมแก้ตัว ต่อต้าน ด่า อีกฝ่ายทันที ดังจะเห็นได้จากราชดำเนินครับ

ตัวผมเองก็เจอเหตุการณ์เช่นนี้มามากๆเข้า จึงไม่ค่อยได้เข้าไปในราชดำเนินเท่าไร่ในระยะนี้ครับ

ฝากความเห็นส่วนตัวของผมด้วยครับ

ปล. ถ้าหากท่าน A-Rai-Ja ต้องการที่จะสร้างสีสันจริง น่าจะตั้งกระทู้ใหม่ในเรื่องนั้นๆเน้นๆไปเลยนะครับ เช่น
      "ท่านมีความเห็นอย่างไรที่นายกบริจาดเงิน 10000 ล้าน" อะไรทำนองนี้ครับ ในเวบบอร์ดของเรานี่แหละครับ
      ผมเชื่อว่าในที่นี้คงจะไม่มีใครเข้ามาว่าท่านว่าลิ่วล้อของ หน้าเหลี่ยม หรือ ด่าว่าท่านแต่อย่างไรครับ

แม้จะเห็นกระทู้ของท่านเอง แต่มันจะกลายเห็นตัวอย่างให้มีคนทำตามครับ

[INC.BKK]

กระทู้แกว่งหาเสี้ยน แต๊ๆ เฮ้อ ผมก็ถูกหลอกครับ ที่ผ่านมากา ทรท ทั้งสองครั้ง ตอนนี้ตาสว่างแล้วครับ

[The Tiger]

ถ้าผมเป็นทักษิณ ผมจะประกาศว่า
ข้าพเจ้า นายทักษิณ ชินวัตร ขอลา....บวช ตลอดชีวิต เพราะผมได้ทำบาปกรรมกับคนไทยไว้มากมาย หลอกพวกรากหญ้าให้หลงเชื่อ จนมีหนี้สินล้นพ้น หลอกประชาชนให้เลือกเข้ามา แล้วเอาเงินของประเทศไปถลุงเพื่อให้รากหญ้ารักข้าพเจ้ามากๆ ทำให้พระองค์ท่านไม่สบายพระทัยเพราะคนไทยแตกแยกกัน ถ้าข้าพเจ้ายังอยู่ประเทศอาจจะต้องถูกแบ่งเป็นไทยเหนือไทยใต้ ความชั่งของข้าพเจ้ายังมีที่ไม่ได้กล่าวอีกมากมาย เพราะข้าพเจ้ายังซุกซ่อนความชั่วของข้าพเจ้าไว้มากมายเหมือนซุกหุ้น ซุกเงินไว้ในประเทศต่างๆ  นอกจากนี้ข้าฯ ยังทำชั่วโดยการโกงหุ้นส่วนชาวต่างชาติที่ข้าฯหลอกมันมาลงทุนกับข้าฯ
หลังจากบวชแล้ว ข้าพเจ้าขอยกทรัพย์สมบัติของข้าพเจ้าทั้งหมดให้ตกเป็นของแผ่นดินทั้งหมด ไม่ให้ลูกเมียแม้แต่บาทเดียวเพราะมันร่วมกันทำชั่วกับข้าฯ เลยต้องลงโทษมันด้วย
ข้าพเจ้ามานั่งทบทวนการกระทำของข้าพเจ้า แล้วข้าพเจ้ายอมรับว่าข้าพเจ้าชั่วจริง ชั่วอย่างไร้เทียมทาน ไม่มีใครเสมอเหมือน
ท้ายนี้ข้าฯขอยืนยันลาบวชตลอดชีวิตเพื่อลบล้างความชั่ว ที่ก่อไว้

กระผม TIGER สดุ้งตื่นตอนตี 2 เลยได้ดูบอลต่อ เอ๊ะนี่ฝันไปนีหว่าว่าทักษิณจะลาหมาบวช
 

[ผู้ทำลาย]

อะไรจ๊ะ ยังไม่ไปหาตัวเลขบริจาค หมื่นล้านมาให้ดูอีกเหรอ

ผมหาดูมีแต่พันล้าน แต่มันให้ไปรึยัง ตอนไหน ให้ครบรึเปล่า ยังไม่มีใครทราบ

แล้วก็อย่าเอาทักษินไปเทียบกับคนที่เค้าทำธุรกิจ สุจริตเลยนะ

เพราะคนเหล่านั้นไม่มีอำนาจเบ็ดเสร็จในสภา ไม่สามารถแก้กฎหมายให้ธุรกิจตัวเองได้เปรียบได้

ถามนิดเดียวครับว่า ถ้าคุณทักษิณแกทุจริตเชิงนโยบายหรือผลประโยชน์ทับซ้อนอะไรนั่นจริง....ไฉนเลย Shin Corp ถึงมีอัตราขยายตัวเพียง 300 กว่าเปอร์เซนต์ ในขณะที่อัตราการขยายตัวของบริษัทใน SET อยู่ในอัตรากว่า 400% .....ใช้สามัญสำนึกตอบดีกว่ามั้ยครับ!?!

ทุจริตเชิงนโยบายของคุณทักษิณ ไม่ได้แปลว่า ทำให้หุ้นชินปรับราคาสูงขึ้นเท่านั้น

หลายเรื่องของนโยบายเป็นการทุจริต ทำให้พวกพ้องได้ประโยชน์มากกว่า

ข้อมูลที่กล่าวถึงเป็นเท็จ   ก่อนคุณทักษิณเป็นนายก  SET  อยู่ที่ประมาณ  400  จุด

ขึ้นสูงสุด ที่  ประมาณ750  จุด     การขยายตัวของบริษัท ไม่เท่ากัน  แล้วแต่ประเภทธุรกิจ

และไม่ใช่   400  เปอร์เซนต์   ตามที่กล่าวอ้าง  

หุ้น ชิน ราคาเท่าไหร่ไม่ใช่ประเด็น    ขายโดยซุกหุ้นและไม่เสียภาษีต่างหากคือความเลวร้ายครับ


อภินันทนาการคำตอบ จากคุณ .... ไม่บอก ^^" ....

มาตอบหน่อย ข้อมูลคุณ เท็จ รึเปล่า ??

[ผู้ทำลาย]

มาขุดกระทู้ครับ

หวังว่า คุณ อะไรว้า คงมาตอบนะ 

อยากรู้ว่า ข้อมูล เท็จ รึเปล่า

ของใคร ถูก

[katindork]

เอ่อ  กระทู้ไม่เสนอนาย ทักษิณ  ช่วยปราบคอรับชั่นหน่อยเหรอครับ   อะไรมันจุกอกอยู่หรือครับ


แค่มีมูลก็เล่นแล้วไม่ใช่หรือ   


ทำไมต้องกลัวเรื่องการเปิดเผยมากนักละครับ   นายทักษิณ

[The Last Emperor]

มาขุดกระทู้ครับ

หวังว่า คุณ อะไรว้า คงมาตอบนะ 

อยากรู้ว่า ข้อมูล เท็จ รึเปล่า

ของใคร ถูก

ต้องขออภัยด้วยครับ....จัดหั้ยไม่ได้เพราะว่า 'อะไรจ๊ะ' กำลังยิงมันส์มืออยู่ที่กระทู้ http://forum.serithai.net/index.php?topic=3403.0;all


จึงใคร่ขอปิดกระทู้นี้มา ณ ที่นี้ด้วยฮับ

[ผู้ทำลาย]

มาขุดกระทู้ครับ

หวังว่า คุณ อะไรว้า คงมาตอบนะ 

อยากรู้ว่า ข้อมูล เท็จ รึเปล่า

ของใคร ถูก

ต้องขออภัยด้วยครับ....จัดหั้ยไม่ได้เพราะว่า 'อะไรจ๊ะ' กำลังยิงมันส์มืออยู่ที่กระทู้ http://forum.serithai.net/index.php?topic=3403.0;all


จึงใคร่ขอปิดกระทู้นี้มา ณ ที่นี้ด้วยฮับ

เหอะ !!