จากวันนี้ วันที่ 15 กรกฏาคม 2551 นับไปจนถีงวันที่ 2 สิงหาคม 2551 วันปิดคดีที่ดินรัชดา เหลือเวลาอีกเพียง 18 วันเท่านั้น
เมื่อคู่ความจนสิ้นการสอบพยาน ศาลก็จะนัดวันพิพากษา ซึ่งตามปกติ ด้วยการทำงานของศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง การพิพากษาคดีที่เสร็จสิ้นการสอบพยานแล้ว ไม่น่าจะเกิน 1 เดือน
เวลาที่อาจจะยืดไปได้อีกนั้น ก็คือการส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความตามคำค้านของจำเลย ว่าด้วยกฏหมาย ปปช.ขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธณรมนูญหรือไม่ ซึ่งในเรื่องนี้คงไม่ต้องไปลุ้นให้เสียเวลา เพราะเป็นการค้านส่งเดช ถ่วงเวลาไปอย่างนั้นเอง และไม่น่าเชื่อว่าจะยื้อเวลาได้ เพราะการตีความข้อกฏหมายของศาลรัธรรมนูญ ทำแป๊บเดียวก็เสร็จ เหมือนเช่นกรณีตีความสถานะของ คตส.ซึ่งยากกว่าเป็นไหนๆ
ดังนัน แน่นอนว่าภายในเดือนกันยายน 2551 จำเลยในคดีที่ดินรัชดา ต้องตัดสินใจว่า จะมารับฟังคำพิพากษา หรือ หนีไปก่อน ซึ่งอย่างหลังคือการหลบหนีเช่น คดีคลองด่านของนายวัฒนา หรือคดีทุจริตยาของนายรักเกียรติ ก็จะต้องถูกออกหมายจับ และสุดท้ายศาลจะอ่านคำพิพากษาอยู่ดี หลังจากอ่านคำพิพากษาแล้ว ก็จบกัน เป็นนักโทษหนีคดีไปตลอดชีวิต
หนทางรอดทางเดียวที่เหลืออยู่ คือการล้มกระดาน หนทางนี้กลำบากเหลือแสน เพราะเงื่อนไขและเหตุผลในการปฏิวัติ มีไม่เพียงพอ
จึงต้องหาน้ำผึ้งหยดเดียวให้ได้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ดูจะจุดชนวนได้ง่ายที่สุดในเวลานี้ เพราะจะสร้างความขัดแย้งได้โดยง่าย จึงคาดว่าเมื่อเปิดสภา ญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญจะถูกส่งเข้าสภาทันที และก็นับวันปะทุได้ เพราะจะมีการต่อต้านอย่างดุเดือด อีกทั้งกองกำลังอันธพาลที่เตรียมไว้จัดการกับผู้ต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็พร้อมแล้ว
แต่ปาฏิหาร์ยนั้นเกิดขึ้นได้เสมอๆ ปาฏิหาร์ยอะไรที่จะหยุดยั้งการฆ่ากันเองของคนไทย หยุดยั้งโจรที่ครองเมือง ตอยดูกันไปอีกสักนิด ข่าวว่าปาฏิหาร์ยนั้นมากับฆ้อนไม้ค่ะ
