ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
20-05-2025, 12:33
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  บังสนธินั่นเอง เป็นผู้ใช้อำนาจเทียบชั้นพระราชอำนาจ 0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
บังสนธินั่นเอง เป็นผู้ใช้อำนาจเทียบชั้นพระราชอำนาจ  (อ่าน 4348 ครั้ง)
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« เมื่อ: 14-07-2008, 21:28 »

อ้างถึง
ป.ป.ช.ชุดนี้ดำรงตำแหน่งโดยประกาศ คปค.ฉบับที่ 19 ซึ่งบัญญัติให้ พ.ร.บ.ป.ป.ช.2542 มีผลบังคับใช้ต่อไป โดยให้งดใช้บทบัญญัติที่เกี่ยวกับการสรรหา แต่หลังจากนั้นอีก 8 วัน คปค.มีประกาศฉบับที่ 31 ให้ยกเลิกข้อ 1 กับ 2 ของฉบับที่ 19 ซึ่งแสดงว่าให้นำ พ.ร.บ.ป.ป.ช.2542 กลับมาใช้ทั้งฉบับ ไม่งดเรื่องการสรรหาแล้ว และยังกำหนดให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่ได้รับแต่งตั้งตามประกาศฉบับดังกล่าว และมีวาระตาม พ.ร.บ.ป.ป.ช.2542 ซึ่งในมาตรา 12 ของ พ.ร.บ.นี้บัญญัติว่ากรรมการมีวาระดำรงตำแหน่ง 9 ปีนับแต่วันที่พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้ง และให้ดำรงตำแหน่งได้เพียงวาระเดียว

“ประเด็นก็คือยังไม่ปรากฎต่อสาธารณะว่าพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้ง ป.ป.ช.ชุดนี้ตาม พ.ร.บ.ป.ป.ช.2542 มาตรา 12 แต่ ป.ป.ช.ชุดนี้เป็นคณะกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งโดย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ซึ่งไม่ว่า พล.อ.สนธิ จะดำรงตำแหน่งใดก็ตาม ก็ไม่มีอำนาจที่จะแต่งตั้ง ป.ป.ช.ได้โดยที่พระมหากษัตริย์ไม่ได้ทรงแต่งตั้ง เพราะนี่คือพระราชอำนาจ แม้จะมีรัฐธรรมนูญบัญญัติให้ประกาศและคำสั่งของ คปค.ชอบด้วยกฎหมาย แต่เรื่องของพระราชอำนาจและประเพณีการปกครองประเทศตามระบอบประชาธิปไตยอันมีองค์พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขต้องถือว่าข้าราชการระดับสูงในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไม่ว่าประเทศจะอยู่ในห้วงการปกครองในรูปแบบใด ต้องได้รับพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งทั้งสิ้น แม้แต่การรัฐประหารก็ไม่ได้มีผลต่อพระราชอำนาจ ดังนั้นคงต้องถามว่ากรณีการแต่งตั้ง ป.ป.ช.ชุดนี้เป็นการก้าวล่วงพระราชอำนาจหรือเป็นเรื่องที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
เดลินิวส์

ไม่ผิดกฎหมายแค่เทียบชั้น บังแต่งตั้งแล้วคงเอาสองมือทุบอกบอกว่า
บังแต่งตั้งแล้ว แต่งตั้งได้ดี แต่งตั้งได้ถูกต้อง บังชอบมาก
บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #1 เมื่อ: 14-07-2008, 21:44 »

ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 299 บัญญัติรับรองสถานะของ ปปช. ชุดปัจจุบันไว้อย่างชัดเจน
รัฐธรรมนูญได้ผ่านประชามติ และผ่านการลงพระปรมาภิไธย อย่างสมบูรณ์

เท่ากับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ปปช. คณะนี้ พร้อมกับการประกาศใช้ รัฐธรรมนูญ 2550 แล้ว
ยังจะมาวนเวียนเปิดประเด็นแบบนี้ ชีวิตนี้เคยเข้าใจอะไรบ้างไหม? 
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #2 เมื่อ: 14-07-2008, 21:47 »

คุณสมบัติกรรมการป.ป.ช.

คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ประกอบด้วยประธานกรรมการคนหนึ่งและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอื่นอีกแปดคน ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งตามคำแนะนำของวุฒิสภา กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติต้องเป็นผู้ซึ่งมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม อาทิ

มีสัญชาติไทย เคยเป็นรัฐมนตรี กรรมการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา กรรม -การสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน หรือเคยรับราชการในตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองอัยการสูงสุด อธิบดี หรือเทียบเท่าหรือดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าศาสตราจารย์

ไม่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ข้าราชการการเมือง สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น ไม่เป็นหรือเคยเป็นสมาชิก หรือผู้ดำรงตำแหน่งอื่นของพรรคการเมืองในระยะ ๓ ปี ก่อนดำรงตำแหน่ง

ไม่อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ไม่อยู่ในระหว่างต้องห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เนื่องจากจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ

ไม่เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน เพราะร่ำรวยผิดปกติหรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ

ไม่เป็นกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตุลาการศาลปกครอง กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน


บอกแล้ว ไม่ผิด แค่ เทียบชั้น เหมือน นั่งวัดพระแก้ว ไม่ผิดก็โดนด่า
บันทึกการเข้า
ดอกฟ้ากับหมาวัด
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,042



« ตอบ #3 เมื่อ: 14-07-2008, 23:10 »

คุณสมบัติกรรมการป.ป.ช.

คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ประกอบด้วยประธานกรรมการคนหนึ่งและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอื่นอีกแปดคน ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งตามคำแนะนำของวุฒิสภา กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติต้องเป็นผู้ซึ่งมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม อาทิ

มีสัญชาติไทย เคยเป็นรัฐมนตรี กรรมการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา กรรม -การสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน หรือเคยรับราชการในตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองอัยการสูงสุด อธิบดี หรือเทียบเท่าหรือดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าศาสตราจารย์

ไม่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ข้าราชการการเมือง สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น ไม่เป็นหรือเคยเป็นสมาชิก หรือผู้ดำรงตำแหน่งอื่นของพรรคการเมืองในระยะ ๓ ปี ก่อนดำรงตำแหน่ง

ไม่อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ไม่อยู่ในระหว่างต้องห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เนื่องจากจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ

ไม่เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน เพราะร่ำรวยผิดปกติหรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ

ไม่เป็นกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตุลาการศาลปกครอง กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน


บอกแล้ว ไม่ผิด แค่ เทียบชั้น เหมือน นั่งวัดพระแก้ว ไม่ผิดก็โดนด่า



แถได้ใจจริงๆ...โครตะระ สุดยอด

...พี่แก๊ส...นับถือมากๆเลย....เพ่


หายาทา ขี้กลากที่ก้น ให้จ้าวนายทาถู...ทาถู ได้ยัง

ถ้ายังหาไม่ได้....ดอกฟ้าฯจัดให้ได้นะคร้า
บันทึกการเข้า

***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ

      น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
เพื่อนร่วมชาติ
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 777


« ตอบ #4 เมื่อ: 14-07-2008, 23:19 »

ไม่ผิดกฎหมายแค่เทียบชั้น บังแต่งตั้งแล้วคงเอาสองมือทุบอกบอกว่า
บังแต่งตั้งแล้ว แต่งตั้งได้ดี แต่งตั้งได้ถูกต้อง บังชอบมาก

แล้วจะมาฟูมฟายอยู่ทำไมฟระ

อยากฟ้องศาลก็ไปสิ

อย่าลืมหิ้วถุงขนมไปด้วยล่ะ
บันทึกการเข้า
boyk
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,477



« ตอบ #5 เมื่อ: 14-07-2008, 23:38 »

ไม่น่าจะเกี่ยวกับการเทียบชั้นอะไร คุณอาจเปรียบเทียบผิด หรือคนละเรื่องเลย

ทุกครั้งที่มีการยึดอำนาจ ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน ประเทศใดก็ตาม

ผู้ยึดอำนาจเป็นองค์อธิปัตย์ หรือรัฐถาธิปัตย์ มีอำนาจในการประกาศ ออกคำสั่งต่างๆ ซึ่งมีสถานะเทียบเท่ากับกฎหมาย

อันนี้ว่าด้วยเหตุผลทางรัฐศาสตร์นะคับ

ไม่เกี่ยวกับเทียบชั้นเลย

บันทึกการเข้า

ไล่งับคนโกง ตอกฝาโลงไม่ให้เกิด
mebeam
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 634


Fear can hold you prisoner. Hope can set you Free.


« ตอบ #6 เมื่อ: 14-07-2008, 23:54 »

ขาดพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง
ขาดความสง่างาม 



คำถาม ที่พวกท่านได้เป็นปปช ใครเป็นคนแต่งตั้ง ?
คำตอบ.............?

 
บันทึกการเข้า
อธิฏฐาน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,912


รักษาประเทศชาติ เป็นหน้าที่ของชาวไทยทุกคน


« ตอบ #7 เมื่อ: 15-07-2008, 00:10 »


รัฐบาลลูกกรอกพิกลพิการก็ไม่สง่างามเช่นกัน

ปปช.ใครแต่งตั้ง  แต่รัฐธรรมนูญรับรอง ใครจะใหญ่กว่ารัฐธรรมนูญหรือ
บันทึกการเข้า

หยุด...สัมปทานอุทยานแห่งชาติ
http://www.oknation.net/blog/sandstone
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #8 เมื่อ: 15-07-2008, 01:25 »

ขาดพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง
ขาดความสง่างาม 



คำถาม ที่พวกท่านได้เป็นปปช ใครเป็นคนแต่งตั้ง ?
คำตอบ.............?

 

เอามาให้อ่านซ้ำอีกครั้งนะครับ เผื่อว่าอาจหลงหูหลงตา.. 

ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 299 บัญญัติรับรองสถานะของ ปปช. ชุดปัจจุบันไว้อย่างชัดเจน
รัฐธรรมนูญได้ผ่านประชามติ และผ่านการลงพระปรมาภิไธย อย่างสมบูรณ์

เท่ากับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ปปช. คณะนี้ พร้อมกับการประกาศใช้ รัฐธรรมนูญ 2550 แล้ว
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
sensei
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 721



« ตอบ #9 เมื่อ: 15-07-2008, 01:37 »

อ่านที่จขกท.พิมพ์แล้วสมเพชพิกล แต่ไม่อยากเป่าปี่ใส่หูควายแล้ว 
บันทึกการเข้า

Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #10 เมื่อ: 15-07-2008, 01:41 »

มาตรา ๒๙๙ ให้ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา ซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ในวันประกาศ
ใช้รัฐธรรมนูญนี้ เป็นผู้ตรวจการแผ่นดินตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้ และให้คงดำรงตำแหน่ง
ต่อไปจนกว่าจะสิ้นสุดวาระ โดยให้เริ่มนับวาระตั้งแต่วันที่พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้ง
และให้ผู้ตรวจการแผ่นดินดังกล่าวเลือกกันเองให้คนหนึ่งเป็นประธานผู้ตรวจการแผ่นดินให้แล้วเสร็จ
ภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ และให้นำบทบัญญัติมาตรา ๒๔๒ วรรคสอง
และวรรคสาม มาใช้บังคับโดยอนุโลม

ให้กรรมการการเลือกตั้ง กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
และสมาชิก
สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ในวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ คงดำรง
ตำแหน่งต่อไปจนกว่าจะสิ้นสุดวาระ โดยให้เริ่มนับวาระตั้งแต่วันที่ได้รับแต่งตั้ง

ให้กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ในวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้
คงดำรงตำแหน่งต่อไปจนกว่าจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติตามบทบัญญัติ
แห่งรัฐธรรมนูญนี้ แต่ถ้าบุคคลดังกล่าวได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งยังไม่เกินหนึ่งปีนับถึงวัน
ประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ มิให้นำบทบัญญัติเกี่ยวกับการห้ามดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกินหนึ่งวาระมาใช้
บังคับกับบุคคลนั้นในการแต่งตั้งกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติขึ้นใหม่เป็นครั้งแรกตามรัฐธรรมนูญนี้

ให้บุคคลตามมาตรานี้ปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย
ที่เกี่ยวข้องที่ใช้บังคับอยู่ในวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ต่อไป จนกว่าจะมีการตราพระราชบัญญัติ
ประกอบรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายเพื่อให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญนี้ขึ้นใช้บังคับ เว้นแต่บทบัญญัติใด
ขัดหรือแย้งกับบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้ให้ใช้บทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้แทน
บันทึกการเข้า
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #11 เมื่อ: 15-07-2008, 02:23 »

ถ้าจำไม่ผิด ปปช ชุดนี้กว่าครึ่งติดรอบ 18 คนที่ผ่านการสรรหาเหลือแต่คัดเลือกจากวุฒิสภาให้เหลือ 9 คน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-07-2008, 02:30 โดย solidus » บันทึกการเข้า
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #12 เมื่อ: 15-07-2008, 06:52 »

"มาตรา 18 เงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และประโยชน์ตอบแทนอื่นของประธานกรรมการและกรรมการให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น"

นอกจากนี้ พระราชบัญญัติ เงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และประโยชน์อื่นของประธานศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ประธานกรรมการและกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา ประธานกรรมการและกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และประธานกรรมการและกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.2541 มาตรา 4 ให้ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ประธานกรรมการและกรรมการ ได้รับเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง ตามอัตราในบัญชีท้ายพระราชบัญญัตินี้

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่มีพระบรมราชโองการฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง

http://thaifreenews.com/?name=webboard&file=read&id=1762

อ้าว อ้าว ไม่ผ่านพระบรมราชโองการฯ แล้วเอาเงินเดือนจากไหนเนี่ย ยักยอกหรือเปล่า
ตรวจสอบตัวเองบ้างนะท่าน
บันทึกการเข้า
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #13 เมื่อ: 15-07-2008, 07:31 »

 
อยากเปลี่ยน ปปช. ว่างั้น


เห็นยื่นถอดถอนกันแล้ว Money in mouth






ล้มคดีๆๆๆ ท่องไว้
บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #14 เมื่อ: 15-07-2008, 07:55 »


อ้าว อ้าว ไม่ผ่านพระบรมราชโองการฯ แล้วเอาเงินเดือนจากไหนเนี่ย ยักยอกหรือเปล่า
ตรวจสอบตัวเองบ้างนะท่าน

เอามาให้อ่านซ้ำอีกครั้งนะครับ เผื่อว่าอาจหลงหูหลงตา.. 

ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 299 บัญญัติรับรองสถานะของ ปปช. ชุดปัจจุบันไว้อย่างชัดเจน
รัฐธรรมนูญได้ผ่านประชามติ และผ่านการลงพระปรมาภิไธย อย่างสมบูรณ์

เท่ากับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ปปช. คณะนี้ พร้อมกับการประกาศใช้ รัฐธรรมนูญ 2550 แล้ว
บันทึกการเข้า
p
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,264


« ตอบ #15 เมื่อ: 15-07-2008, 08:07 »


ปล่อยให้เขาดิ้นไปเถอะครับ
เป็นความสุขเล็กๆน้อยๆของเขาเอง
อีกหน่อยก็ "ตาย" อยู่แล้วครับ

 
บันทึกการเข้า

ถ้ามัวคิดแต่จะโกงและเอาเปรียบคนอื่น จะสอนลูกหลานให้เป็นคนดีได้อย่างไร
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #16 เมื่อ: 15-07-2008, 08:25 »

อ้างถึง
“ลิ่วล้อ” รับลูก “หมัก” เดินเกมเตะตัดขา ป.ป.ช.บุกสภายื่น กมธ.กิจการองค์กรอิสระ ที่มี “สุทิน คลังแสง” เป็นประธาน ให้สอบสวนกรรมการ ป.ป.ช.9 คน อ้างไม่ได้รับโปรดเกล้าฯ ทั้งยังออกระเบียบตั้ง จนท.จ่ายค่าตอบแทน ขัด กม. จี้ถอดถอน ฉุนโดนสื่อซักเนื้อหาหนังสือ ย้อนกลับไม่ได้มาชี้แจงนักข่าว
       
       ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 10.45 น.วันนี้ (14 ก.ค.) นายเยี่ยมยอด ศรีมันตระ ที่ปรึกษาสหภาพครูแห่งชาติ และนายมงคล สมกระบวน พันธมิตรสหภาพแรงงานประชาธิปไตย เข้ายื่นหนังสือต่อนายสุทิน คลังแสง ส.ส.สัดส่วนพรรคพลังประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการกิจการองค์กรตามรัฐธรรมนูญ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎร เพื่อตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แห่งชาติ (ป.ป.ช.)เนื่องจากการกระทำการจงใจฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือพฤติการณ์ที่เป็นการเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่งอย่าง ร้ายแรงและกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่
       
       นายเยี่ยมยอด อ้างว่า ป.ป.ช.ชุดนี้ไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งโดยพระมหากษัตริย์ และไม่มีการถวายสัตย์ปฏิญาณ เป็นการล่วงละเมิดต่อพระราชอำนาจ เป็นการจงใจฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ยังได้ทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการด้วยการออกระเบียบ ป.ป.ช.ลงวันที่ 23 พ.ย.2549 กำหนดให้มีตำแหน่งที่ปรึกษา เลขานุการ และผู้ช่วยเลขานุการของประธานและกรรมการ ป.ป.ช.แต่ละคน และยังได้กำหนดค่าตอบแทนลักษณะเป็นเงินเดือน เงินเพิ่มพิเศษ เป็นรายเดือนถือเป็นการกระทำที่ไม่มีอำนาจ จงใจฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งที่ผ่านมาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้เคย วินิจฉัยไว้ว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช.ไม่มีอำนาจออกระเบียบดังกล่าว ดังนั้นการกระทำของ ป.ป.ช.ทั้ง 9 คนจึงเป็นการทำผิดทางอาญาฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และกระทำผิดต่อหน้าที่ราชการ ขัดมาตรา 249 ของรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต มาตรา 16 และมาตรา 17 ขอให้ประธานคณะกรรมาธิการกิจการองค์กรตามรัฐธรรมนูญฯ ตรวจสอบหากพบว่าเป็นจริง ขอให้ถอดถอนประธานและกรรมการป.ป.ช.ต่อไป
       
       นายเยี่ยมยอด กล่าวว่า การมายื่นหนังสือเพื่อให้ตรวจสอบ ป.ป.ช.ครั้งนี้ขอยืนยันว่าไม่มีใครเข้ามาล้วงลูก และตนก็ได้ตรวจสอบเรื่องนี้มานานเป็นปีแล้วตั้งแต่ปี 2549 ซึ่งการตรวจสอบครั้งนี้ก็เพื่อให้สังคมได้ตรวจสอบว่ามีการพยายามโยงใยอำนาจ เดิมของ คมช.ไว้หรือไม่
       
       ด้าน นายสุทิน กล่าวว่า ตนจะนำเรื่องนี้บรรจุเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมาธิการฯ ในวันที่ 16 ก.ค.นี้เพื่อตรวจสอบถึงอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช. ซึ่งหากเห็นว่าผิดรัฐธรรมนูญจริงทางพรรคพลังประชาชนก็คงดำเนินการถอดถอนไม่ ได้ แต่จะนำเสนอข้อมูลข้อเท็จจริงให้สังคมรับรู้ ซึ่งการถอนถอนนั้นก็ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญคือประชาชนต้องเข้าชื่อกันถอด ถอน หรือว่าหาก ส.ส.เห็นว่าผิดก็อาจจะเข้าชื่อยื่นถอดถอนเองก็ได้ แต่ทางคณะกรรมาธิการฯ ขอไปตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายเยี่ยมยอดเกี่ยวกับเนื้อหาของหนังสือ ที่ได้ยื่นให้ทางคณะกรรมาธิการฯ ตรวจสอบ ปรากฏว่า นายเยี่ยมยอดไม่สามารถสรุปเนื้อหาสาระได้ พร้อมกล่าวด้วยอารมณ์ว่าตนทำหนังสือมาให้คณะกรรมาธิการฯ ตรวจสอบ ไม่ได้มายื่นหนังสือให้สื่อมวลชน ดังนั้นสื่อจะลงหรือไม่ลงข่าวก็เรื่องของสื่อ
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่านายเยี่ยมยอดเป็นคนสนิทของนักการเมืองคนหนึ่งในพรรคพลังประชาชน

http://manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000082919

นายเยี่ยมยอด ยื่นเอง งงเอง

รู้งี้ให้นายอยากประหยัดไปยื่นแทนก็สิ้นเรื่อง Laughing

บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #17 เมื่อ: 15-07-2008, 08:42 »

ประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 31 เรื่อง การดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ

ข้อ 1 การยกเลิกรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มิให้กระทบกระเทือนการบังคับใช้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและการปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 โดยพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ยังคงบังคับใช้ต่อไปจนกว่าจะมีกฎหมายแก้ไขเพิ่มเติม โดยยกเลิกและให้ถือว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติซึ่งได้รับการแต่งตั้งตามประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขฉบับที่ 19 ลงวันที่ 22 กันยายน พ.ศ.2549 ได้รับการสรรหาและแต่งตั้งโดยชอบตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542


 


บันทึกการเข้า
สมชายสายชม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,048


« ตอบ #18 เมื่อ: 15-07-2008, 09:28 »

ไอ้พวกหัวหมอพรรคเหี้eหลงหอตีความเก่งนัก พอศาลตัดสินทีไร แพ้ทุกเรื่อง

มีอยู่เรื่องเดียวที่ขนะ คือ คดีซุกหุ้นภาค ๑ ที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้ชนะด้วยเสียง 4+4 : 7

โดยให้เหตุผลว่า "กลัวประชาชนผู้มาให้กำลังใจจะเผาศาล"   

 
บันทึกการเข้า
portegasdace
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 23



« ตอบ #19 เมื่อ: 15-07-2008, 09:47 »

ที่มาพูดแบบนี้ไม่ใช่อะไรหลอก

ปปช อยู่ฝ่ายตรงข้าม + มีคดีเยอะ

รัฐบาลจะอยู่ไม่ได้ก็เลยจุดประเด็นแบบนี้ขึ้นมา

มันก็เหมือน หมาขี้เรื้อนหนะ ที่ชอบย้ายที่นอนบ่อยๆ เพราะมันคิดว่าพื้นมันคัน แต่ไม่เคยรู้เลย ว่าที่จริงคือตัวมันที่คัน คือตัวที่เป็นเรื้อน ไม่ใช้พื้น

ก็เหมือนคนบางจำพวก ยกตัวอย่าง จำพวกที่บอกว่าต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดคือ รธน 50 ต้องแก้ รธน

ทั้งๆที่มีมันสมองเยอะกว่าพวกหมาขี้เรื้อน แต่คิดได้แค่เหมือนหมาขี้เรื้อน 

หรือเจ้าของกระทู้ก็เป็นเหมือนที่ผมยกตัวอย่าง?
บันทึกการเข้า
สมชายสายชม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,048


« ตอบ #20 เมื่อ: 15-07-2008, 09:58 »

วันนั้น ที่ไอ้หมักพูดเรื่องจักรภพ กำลังเข้าตัวเองแล้ว

ไอ้หมักบอกว่า "จักรภพพูด(หมิ่น)เมื่อเก้าเดือนที่แล้ว เก็บเอาไว้ทำไม มาขุดเอาเรื่องกันวันนี้"

วันนี้ต้องถามไอ้หมักว่า "เรื่องแต่งตั้ง ปปช. เมื่อสองปีที่แล้ว เก็บเอาไว้ทำไม มาขุดเอาเรื่องกันวันนี้"

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-07-2008, 10:03 โดย สมชายสายชม » บันทึกการเข้า
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #21 เมื่อ: 15-07-2008, 10:13 »

แถมอีกหนึ่งมาตรา
รัฐธรรมนูญ 2550
มาตรา 202 เงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และประโยชน์ตอบแทนอื่นของผู้พิพากษาและ
ตุลาการ ให้เป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติ ทั้งนี้ จะนำระบบบัญชีเงินเดือนหรือเงินประจำตำแหน่งของ
ข้าราชการพลเรือนมาใช้บังคับมิได้
ให้นำความในวรรคหนึ่งมาใช้บังคับกับกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดิน กรรมการ
ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ด้วยโดยอนุโลม





เรื่องเงินเดือนก็เป็นอันว่ามีกฎหมายรองรับทั้งจากประกาศคณะปฏิรูปฯ และรัฐธรรมนูญ 2550 

เรื่องถวายสัตย์ฯ กฎหมายไม่ได้กำหนดให้ ป.ป.ช. ต้องถวายสัตย์ฯ เหมือน สส กับ สว 
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #22 เมื่อ: 15-07-2008, 10:16 »

จัดปายยยยยย....อย่าให้เสียยยย





"วิบากกรรมของ ป.ป.ช. เห็นทีจะต้องคืนเงิน อย่างนั้นหรือ?


โดย คุณ วาทตะวัน สุพรรณเภษัช
ที่มา เวบไซต์ ประชาทรรศน์
16 กรกฎาคม 2551

"คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ปัจจุบันนี้ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งแล้วหรือยัง?"

ที่ถามอย่างนี้ ผมจะยังไม่ตั้งเป็นประเด็นไปสู่ศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ชุดนี้นั้น เป็นคณะกรรมการที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่?

มีคนบอกผมว่า แม้จะไม่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่ "บังสนธิ" ก็ได้ใช้อาญาสิทธิ์ส่วนตน ในฐานะผู้นำการรัฐประหาร ได้โขกกะโหลก (แบบหลวงพ่อคูณ) ด้วยการออกคำสั่ง คปค. แต่งตั้งคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

คนที่บอกผม ชี้แจงว่า อาญาสิทธิ์ที่ว่านั้น คือ อำนาจ "รัฐาธิปัตย์" ที่หัวหน้าคณะรัฐประหารมีอยู่ในมือนั่นไงเล่า!

อยากจะถามท่านผู้รู้ว่า ไอ้อำนาจ "รัฐาธิปัตย์" ที่ชอบพูดกันนักหนา โดยเฉพาะตอนยึดอำนาจ ชอบพูดกันว่า "คณะรัฐประหารมีอำนาจรัฐาธิปัตย์" จริงๆ แล้วมันคืออะไรกันแน่?

พจนานุกรมไทยไม่บัญญัติคำนี้ไว้ แม้ในตำรับตำราของคณะรัฐศาสตร์แทบทุกมหาวิทยาลัย ชอบพูดกันถึงคำนี้นัก แต่พจนานุกรมไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ที่นักกฎหมายต้องยึดกันเป็นหลัก ในการแปลถ้อยคำกฎหมาย ตามแนวทางที่ศาลฎีกาท่านวางเอาไว้ กลับไม่มีคำนี้อยู่เลย แสดงว่า คำนี้ไม่ได้รับการ "ยอมรับ" ว่ามีอยู่ในภาษาไทย!!

ใครว่า "ไม่จริง" ก็ให้เขียนความเห็นเข้าไปต่อล้อต่อเถียงกับผมได้ ในเว็บไซต์ vattavan.com รับรองว่าตอบให้ถึงกึ๋น ทุกเม็ดและทุกดอกเลยทีเดียวเชียวครับ!!!

ยังจะไม่พูดถึงเรื่อง "อำนาจรัฐาธิปัตย์" แต่ผมมีประเด็นเกี่ยวกับ ป.ป.ช.ให้ท่านผู้อ่านได้ช่วยกันพิจารณาว่า

หากคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไม่ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแล้ว ปัญหาจะมีอย่างไรบ้าง?

ขอให้รายละเอียดท่านดังต่อไปนี้

ตามประกาศ คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 19 ลงวันที่ 22 กันยายน 2549 ข้อ 3 ให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 ประกอบด้วย

1. นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานกรรมการ
2. นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ
3. นายใจเด็ด พรไชยา กรรมการ
4. นายประสาท พงษ์ศิวาภัย กรรมการ
5. ศ.ภักดี โพธิศิริ กรรมการ
6. ศ.เมธี ครองแก้ว กรรมการ
7. นายวิชา มหาคุณ กรรมการ
8. นายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการ
9. น.ส.สมลักษณ์ จัดกระบวนพล กรรมการ

โดยได้รับการสรรหาและแต่งตั้ง ตามประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 31 ลงวันที่ 30 กันยายน 2549 ข้อ 1

ท่านผู้อ่านที่เคารพครับ เป็นเพราะคนที่ออกกฎหมายนั้นขาดความรอบคอบ หรืออย่างไรก็ไม่ทราบได้ เพราะประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 19 ลงวันที่ 22 กันยายน 2549 และฉบับที่ 31 ลงวันที่ 30 กันยายน 2549 นั้น ไม่ได้ระบุเกี่ยวกับเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และประโยชน์ตอบแทนอื่น ของประธานและกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติไว้แต่อย่างใด

เหลือเชื่อเลยว่า พวกเขาจะสะเพร่ากันได้ถึงขนาดนั้น!

นอกจากนี้แล้ว ตามประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 31 ลงวันที่ 30 กันยายน 2549 ข้อ 1 ยังคงให้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ.2542 ยังคงใช้บังคับต่อไป

ซึ่งก็หมายความว่า เงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และประโยชน์ตอบแทนอื่น ของประธานและกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ที่คณะปฏิรูปการปกครองฯ แต่งตั้งครั้งนี้ ก็จะต้องรับเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และผลประโยชน์ตอบแทนอื่น ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ.2542

มาตรา 18 เขาว่าเอาไว้อย่างนี้ครับ
"มาตรา 18 เงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และประโยชน์ตอบแทนอื่นของประธานกรรมการและกรรมการให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น"

นอกจากนี้ พระราชบัญญัติ เงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และประโยชน์อื่นของประธานศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ประธานกรรมการและกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา ประธานกรรมการและกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และประธานกรรมการและกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.2541 มาตรา 4 ให้ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ประธานกรรมการและกรรมการ ได้รับเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง ตามอัตราในบัญชีท้ายพระราชบัญญัตินี้

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่มีพระบรมราชโองการฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง

มาตรา 3 ในพระราชบัญญัตินี้
"กรรมการ" หมายความว่า กรรมการเลือกตั้ง กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน และให้หมายความรวมถึงผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภาด้วย
"ประธานกรรมการ" หมายความว่า ประธานกรรมการการเลือกตั้ง ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน

ขอกราบเรียนท่านผู้อ่านที่เคารพให้ทราบทั่วกันว่า

นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานกรรมการ กับพวกรวม 9 คน ที่ได้รับการแต่งตั้งครั้งนี้ ไม่ได้มีพระบรมราชโองการฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งแต่อย่างใด

ฉะนั้น นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานกรรมการ กับพวกรวม 9 คน จึงไม่สามารถรับเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และประโยชน์ตอบแทนอื่นในตำแหน่งประธานกรรมการ และ/หรือกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ตามนัยกฎหมายข้างต้นได้

จึงขอส่งบทความนี้ เป็นเสมือน "จดหมายเปิดผนึก" ไปถึง เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ในฐานะเป็นผู้จ่ายเงินให้แก่ นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ กับพวก ทราบตรงนี้ว่า

ท่านได้จ่ายเงินให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชุดปัจจุบันไป อย่างไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงให้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายด้วย กล่าวคือ

1. เรียกเงินที่ นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ กับพวกรวม 9 คน รับไปที่เป็นเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และประโยชน์ตอบแทนอื่นคืน

2. ระงับการจ่ายเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และประโยชน์ตอบแทนอื่น ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ครับ...

ทำมันซะให้ถูกต้อง ส่วนจะคิดอ่านแก้ไขกันอย่างไร ก็ทำไปเถิด แต่ผมขอบอกว่า คณะกรรมการทุกท่าน ล้วนแต่เป็นนักกฎหมาย และเป็นข้าราชการผู้หลักผู้ใหญ่มาก่อน อีกทั้งกรรมการคนหนึ่งคือ นายกล้านรงค์ จันทิก ก็เป็นเลขาฯ ป.ป.ช.เก่า ซึ่งเคยจ่ายเงินเดือนให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.มาก่อน จะมาบอกว่าไม่รู้กฎหมายเงินเดือนนั้น คงจะอ้างกันไม่ได้!

ขอเรียนให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ทุกท่านทราบว่า พวกท่านทั้ง 9 คน จะดำรงตำแหน่งต่อไปหรือไม่? นั้น คงไม่ใช่กงการอะไรของผม

แต่ตอนนี้ พวกท่านต้องส่งเงินคืนก่อน!

บ้านเมืองของเรานั้นมีขื่อแป มีกฎหมายและระเบียบที่จะต้องปฏิบัติตาม จะมาอ้างว่า บังสนธิ... เคาะกะโหลกแล้ว การแต่งตั้งเรียบร้อย ...แค่นั้นคงไม่พอหรอกครับ!!

นี่เงินของแผ่นดินนะ ไม่ใช่ของตาบัง-คนเมียแยะ ซะเมื่อไรกัน!!!"
บันทึกการเข้า
สมชายสายชม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,048


« ตอบ #23 เมื่อ: 15-07-2008, 10:33 »

   ขำกลิ้ง ควายกับแม้ว

พวกสาวกลิ่วล้อพรรคเหี้eหลงหอ หาช่องดิสเครดิตถ่วงเวลา แต่แพ้คดีทุกที เพราะไม่ต่อสู้ด้วยข้อกฏหมาย

เช่นคดียุบพรรค และล่าสุดคดีของนายยงยุทธ ที่ต่อสู้ว่า "ถูกล่อซื้อ"   
(คงจะทำรูปแบบเดียวกับที่คุณไทกร ถูกนายตำรวจหลอกไปบันทึกเทปที่ร้านอาหาร)

ถ้านายยงยุทธถูกล่อซื้อจริง แสดงว่า คนที่วางแผนนั้นสุดยอดชั้นเซียน คือ

ล่อซื้อโดยใช้ตั่วเครื่องบินไทยแอร์เอเชีย ของทักษิณ

ล่อซื้อโดยใช้รถตู้ของทางราชการไปรับกำนันที่สนามบิน

ล่อซื้อโดยจัดให้กำนันเข้าพักในโรงแรม SC ของทักษิณ

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-07-2008, 10:35 โดย สมชายสายชม » บันทึกการเข้า
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #24 เมื่อ: 15-07-2008, 10:35 »

จัดปายยยยยย....อย่าให้เสียยยย





"วิบากกรรมของ ป.ป.ช. เห็นทีจะต้องคืนเงิน อย่างนั้นหรือ?


โดย คุณ วาทตะวัน สุพรรณเภษัช
ที่มา เวบไซต์ ประชาทรรศน์
16 กรกฎาคม 2551

"คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ปัจจุบันนี้ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งแล้วหรือยัง?"

ที่ถามอย่างนี้ ผมจะยังไม่ตั้งเป็นประเด็นไปสู่ศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ชุดนี้นั้น เป็นคณะกรรมการที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่?

มีคนบอกผมว่า แม้จะไม่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่ "บังสนธิ" ก็ได้ใช้อาญาสิทธิ์ส่วนตน ในฐานะผู้นำการรัฐประหาร ได้โขกกะโหลก (แบบหลวงพ่อคูณ) ด้วยการออกคำสั่ง คปค. แต่งตั้งคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

คนที่บอกผม ชี้แจงว่า อาญาสิทธิ์ที่ว่านั้น คือ อำนาจ "รัฐาธิปัตย์" ที่หัวหน้าคณะรัฐประหารมีอยู่ในมือนั่นไงเล่า!

อยากจะถามท่านผู้รู้ว่า ไอ้อำนาจ "รัฐาธิปัตย์" ที่ชอบพูดกันนักหนา โดยเฉพาะตอนยึดอำนาจ ชอบพูดกันว่า "คณะรัฐประหารมีอำนาจรัฐาธิปัตย์" จริงๆ แล้วมันคืออะไรกันแน่?

พจนานุกรมไทยไม่บัญญัติคำนี้ไว้ แม้ในตำรับตำราของคณะรัฐศาสตร์แทบทุกมหาวิทยาลัย ชอบพูดกันถึงคำนี้นัก แต่พจนานุกรมไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ที่นักกฎหมายต้องยึดกันเป็นหลัก ในการแปลถ้อยคำกฎหมาย ตามแนวทางที่ศาลฎีกาท่านวางเอาไว้ กลับไม่มีคำนี้อยู่เลย แสดงว่า คำนี้ไม่ได้รับการ "ยอมรับ" ว่ามีอยู่ในภาษาไทย!!

ใครว่า "ไม่จริง" ก็ให้เขียนความเห็นเข้าไปต่อล้อต่อเถียงกับผมได้ ในเว็บไซต์ vattavan.com รับรองว่าตอบให้ถึงกึ๋น ทุกเม็ดและทุกดอกเลยทีเดียวเชียวครับ!!!

ยังจะไม่พูดถึงเรื่อง "อำนาจรัฐาธิปัตย์" แต่ผมมีประเด็นเกี่ยวกับ ป.ป.ช.ให้ท่านผู้อ่านได้ช่วยกันพิจารณาว่า

หากคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไม่ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแล้ว ปัญหาจะมีอย่างไรบ้าง?

ขอให้รายละเอียดท่านดังต่อไปนี้

ตามประกาศ คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 19 ลงวันที่ 22 กันยายน 2549 ข้อ 3 ให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 ประกอบด้วย

1. นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานกรรมการ
2. นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ
3. นายใจเด็ด พรไชยา กรรมการ
4. นายประสาท พงษ์ศิวาภัย กรรมการ
5. ศ.ภักดี โพธิศิริ กรรมการ
6. ศ.เมธี ครองแก้ว กรรมการ
7. นายวิชา มหาคุณ กรรมการ
8. นายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการ
9. น.ส.สมลักษณ์ จัดกระบวนพล กรรมการ

โดยได้รับการสรรหาและแต่งตั้ง ตามประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 31 ลงวันที่ 30 กันยายน 2549 ข้อ 1

ท่านผู้อ่านที่เคารพครับ เป็นเพราะคนที่ออกกฎหมายนั้นขาดความรอบคอบ หรืออย่างไรก็ไม่ทราบได้ เพราะประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 19 ลงวันที่ 22 กันยายน 2549 และฉบับที่ 31 ลงวันที่ 30 กันยายน 2549 นั้น ไม่ได้ระบุเกี่ยวกับเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และประโยชน์ตอบแทนอื่น ของประธานและกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติไว้แต่อย่างใด

เหลือเชื่อเลยว่า พวกเขาจะสะเพร่ากันได้ถึงขนาดนั้น!

นอกจากนี้แล้ว ตามประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 31 ลงวันที่ 30 กันยายน 2549 ข้อ 1 ยังคงให้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ.2542 ยังคงใช้บังคับต่อไป

ซึ่งก็หมายความว่า เงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และประโยชน์ตอบแทนอื่น ของประธานและกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ที่คณะปฏิรูปการปกครองฯ แต่งตั้งครั้งนี้ ก็จะต้องรับเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และผลประโยชน์ตอบแทนอื่น ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ.2542

มาตรา 18 เขาว่าเอาไว้อย่างนี้ครับ
"มาตรา 18 เงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และประโยชน์ตอบแทนอื่นของประธานกรรมการและกรรมการให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น"

นอกจากนี้ พระราชบัญญัติ เงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และประโยชน์อื่นของประธานศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ประธานกรรมการและกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา ประธานกรรมการและกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และประธานกรรมการและกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.2541 มาตรา 4 ให้ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ประธานกรรมการและกรรมการ ได้รับเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง ตามอัตราในบัญชีท้ายพระราชบัญญัตินี้

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่มีพระบรมราชโองการฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง

มาตรา 3 ในพระราชบัญญัตินี้
"กรรมการ" หมายความว่า กรรมการเลือกตั้ง กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน และให้หมายความรวมถึงผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภาด้วย
"ประธานกรรมการ" หมายความว่า ประธานกรรมการการเลือกตั้ง ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน

ขอกราบเรียนท่านผู้อ่านที่เคารพให้ทราบทั่วกันว่า

นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานกรรมการ กับพวกรวม 9 คน ที่ได้รับการแต่งตั้งครั้งนี้ ไม่ได้มีพระบรมราชโองการฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งแต่อย่างใด

ฉะนั้น นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานกรรมการ กับพวกรวม 9 คน จึงไม่สามารถรับเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และประโยชน์ตอบแทนอื่นในตำแหน่งประธานกรรมการ และ/หรือกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ตามนัยกฎหมายข้างต้นได้

จึงขอส่งบทความนี้ เป็นเสมือน "จดหมายเปิดผนึก" ไปถึง เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ในฐานะเป็นผู้จ่ายเงินให้แก่ นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ กับพวก ทราบตรงนี้ว่า

ท่านได้จ่ายเงินให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชุดปัจจุบันไป อย่างไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงให้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายด้วย กล่าวคือ

1. เรียกเงินที่ นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ กับพวกรวม 9 คน รับไปที่เป็นเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และประโยชน์ตอบแทนอื่นคืน

2. ระงับการจ่ายเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และประโยชน์ตอบแทนอื่น ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ครับ...

ทำมันซะให้ถูกต้อง ส่วนจะคิดอ่านแก้ไขกันอย่างไร ก็ทำไปเถิด แต่ผมขอบอกว่า คณะกรรมการทุกท่าน ล้วนแต่เป็นนักกฎหมาย และเป็นข้าราชการผู้หลักผู้ใหญ่มาก่อน อีกทั้งกรรมการคนหนึ่งคือ นายกล้านรงค์ จันทิก ก็เป็นเลขาฯ ป.ป.ช.เก่า ซึ่งเคยจ่ายเงินเดือนให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.มาก่อน จะมาบอกว่าไม่รู้กฎหมายเงินเดือนนั้น คงจะอ้างกันไม่ได้!

ขอเรียนให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ทุกท่านทราบว่า พวกท่านทั้ง 9 คน จะดำรงตำแหน่งต่อไปหรือไม่? นั้น คงไม่ใช่กงการอะไรของผม

แต่ตอนนี้ พวกท่านต้องส่งเงินคืนก่อน!

บ้านเมืองของเรานั้นมีขื่อแป มีกฎหมายและระเบียบที่จะต้องปฏิบัติตาม จะมาอ้างว่า บังสนธิ... เคาะกะโหลกแล้ว การแต่งตั้งเรียบร้อย ...แค่นั้นคงไม่พอหรอกครับ!!

นี่เงินของแผ่นดินนะ ไม่ใช่ของตาบัง-คนเมียแยะ ซะเมื่อไรกัน!!!"

เอาแต่ตัดแปะไม่ยอมอ่าน เอามาให้อ่านซ้ำอีกครั้งนะครับ เผื่อว่าอาจหลงหูหลงตา.. 

ประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 31 เรื่อง การดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ

ข้อ 1 การยกเลิกรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มิให้กระทบกระเทือนการบังคับใช้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและการปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 โดยพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ยังคงบังคับใช้ต่อไปจนกว่าจะมีกฎหมายแก้ไขเพิ่มเติม โดยยกเลิกและให้ถือว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติซึ่งได้รับการแต่งตั้งตามประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขฉบับที่ 19 ลงวันที่ 22 กันยายน พ.ศ.2549 ได้รับการสรรหาและแต่งตั้งโดยชอบตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542


 




แถมอีกหนึ่งมาตรา
รัฐธรรมนูญ 2550
มาตรา 202 เงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และประโยชน์ตอบแทนอื่นของผู้พิพากษาและ
ตุลาการ ให้เป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติ ทั้งนี้ จะนำระบบบัญชีเงินเดือนหรือเงินประจำตำแหน่งของ
ข้าราชการพลเรือนมาใช้บังคับมิได้
ให้นำความในวรรคหนึ่งมาใช้บังคับกับกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดิน กรรมการ
ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ด้วยโดยอนุโลม





เรื่องเงินเดือนก็เป็นอันว่ามีกฎหมายรองรับทั้งจากประกาศคณะปฏิรูปฯ และรัฐธรรมนูญ 2550 

เรื่องถวายสัตย์ฯ กฎหมายไม่ได้กำหนดให้ ป.ป.ช. ต้องถวายสัตย์ฯ เหมือน สส กับ สว 
บันทึกการเข้า
boyk
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,477



« ตอบ #25 เมื่อ: 15-07-2008, 10:41 »

ไม่น่าจะเกี่ยวกับการเทียบชั้นอะไร คุณอาจเปรียบเทียบผิด หรือคนละเรื่องเลย

ทุกครั้งที่มีการยึดอำนาจ ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน ประเทศใดก็ตาม

ผู้ยึดอำนาจเป็นองค์อธิปัตย์ หรือรัฐถาธิปัตย์ มีอำนาจในการประกาศ ออกคำสั่งต่างๆ ซึ่งมีสถานะเทียบเท่ากับกฎหมาย

อันนี้ว่าด้วยเหตุผลทางรัฐศาสตร์นะคับ

ไม่เกี่ยวกับเทียบชั้นเลย



คุณประพันธ์ คูณมี กำลังพูดเรื่องนี้พอดีเลยคับ รายการสภาท่าพระอาทิตย์
กรณีเดียวกับการแต่งตั้งคตส. ซึ่งเมื่อยืนให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ศาลฯก็รับรองสถานะว่าชอบด้วยรธฯ.
บันทึกการเข้า

ไล่งับคนโกง ตอกฝาโลงไม่ให้เกิด
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #26 เมื่อ: 15-07-2008, 12:15 »

และแล้วก็เข้าสู่หัวข้อกระทู้ได้อย่างสมบูรณ์ ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความได้เลย

ได้รับการสรรหาและแต่งตั้งโดยชอบตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542

บังสนธิแต่งตั้ง = ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งตามคำแนะนำของวุฒิสภา
อำนาจบังสนธิ = พระราชอำนาจ
ซึ่งไม่ต้องพิสูจน์แล้ว


มาตรา 18 เงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง....

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่มีพระบรมราชโองการฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง
----
รัฐธรรมนูญ 2550
มาตรา 202 เงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และประโยชน์ตอบแทนอื่นของผู้พิพากษาและ
ตุลาการ ให้เป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติ ทั้งนี้ จะนำระบบบัญชีเงินเดือนหรือเงินประจำตำแหน่งของ
ข้าราชการพลเรือนมาใช้บังคับมิได้
ให้นำความในวรรคหนึ่งมาใช้บังคับกับกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดิน กรรมการ
ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ด้วยโดยอนุโลม

เงินเดือนนับตั้งแต่วันที่มีพระบรมราชโองการฯ แต่พวกปปช. ไม่เคยได้รับพระบรมราชโองการฯ แต่งตั้ง ดังนั้น
คำสั่งบังสนธิแต่งตั้ง = พระบรมราชโองการฯ แต่งตั้ง
อำนาจบังสนธิ = พระราชอำนาจ
อีกตามเคย


ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 299 บัญญัติรับรองสถานะของ ปปช. ชุดปัจจุบันไว้อย่างชัดเจน
รัฐธรรมนูญได้ผ่านประชามติ และผ่านการลงพระปรมาภิไธย อย่างสมบูรณ์

รับประกันใช้ได้ตามรัฐธรรมนูญ 2550 ไม่ผิดกฎหมายแต่ประการใด
บังแต่งตั้ง = พระบรมราชโองการฯ แต่งตั้ง
อำนาจบังสนธิ = พระราชอำนาจ
ไม่ต่างกันเลย ใช้ได้ตามกฎหมายทั้งคู่

ตามหัวข้อกระทู้เรยยยยยยย สมเด็จบังสนธิมหาราช อำนาจเท่ากษัตริย์ประเทศไทย
บันทึกการเข้า
boyk
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,477



« ตอบ #27 เมื่อ: 15-07-2008, 16:54 »

บ้าไปอีกรายแล้วคับ 
บันทึกการเข้า

ไล่งับคนโกง ตอกฝาโลงไม่ให้เกิด
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #28 เมื่อ: 15-07-2008, 18:18 »

ตามความในมาตรา 36 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว พ.ศ. 2549 ได้ประกาศรับรองประกาศและคำสั่ง
ของ คปค. ทั้งหมดเอาไว้โดยชัดแจ้ง

รัฐธรรมนูญชั่วคราว พ.ศ. 2549 ตราขึ้นตามพระบรมราชโองการ และในหลวงทรงลงพระปรมาภิไธย
ดังนั้นสถานะของ ปปช. ได้รับการรับรองซ้ำไว้แล้วในรัฐธรรมนูญ 2549

...
มาตรา ๓๖ บรรดาประกาศและคําสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
อันมีพระมหากษัตริย ทรงเปนประมุขหรือคําสั่งของหัวหนาคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบ
ประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริยทรงเปนประมุขที่ไดประกาศหรือสั่งในระหวางวันที่ ๑๙ กันยายน
พุทธศักราช ๒๕๔๙ จนถึงวันประกาศใชรัฐธรรมนูญนี้ ไมวาจะเปนในรูปใดและไมวาจะประกาศหรือ
สั่งใหมีผลบังคับในทางนิติบัญญัติ ในทางบริหาร หรือในทางตุลาการ ใหมีผลใชบังคับตอไปและ
ใหถือวาประกาศหรือคําสั่ง ตลอดจนการปฏิบัติตามประกาศหรือคําสั่งนั้นไมวาการปฏิบัติตามประกาศ
หรือคําสั่ งนั้นจะกระทํากอนหรือหลังวันประกาศใชรัฐธรรมนูญนี้เปนประกาศหรือคําสั่งหรือการปฏิบัติ
ที่ชอบดวยกฎหมายและชอบดวยรัฐธรรมนูญ

...

ต่อมา...

ตามความในมาตรา 299 ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 ได้ประกาศรับรองสถานะของ ปปช.ไว้โดยชัดแจ้ง
อีกทั้งมาตรา 309 ก็รับรอง รัฐธรรมนูญชั่วคราว พ.ศ. 2549 เป็นส่วนหนึ่งของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550

รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2549 และ พ.ศ. 2550 ตราขึ้นตามพระบรมราชโองการและในหลวงทรงลงพระปรมาภิไธย

ฝ่ายรัฐบาลออกมาบิดเบือนว่า ปปช.ไม่ได้รับโปรดเกล้าฯ ทั้งที่ทรงลงพระปรมาภิไธยแล้ว
ถึง 2 ครั้ง ทั้งในรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2549 และ พ.ศ. 2550

เอาตอนต้นของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 มาให้ดูชัดๆ ว่าตราขึ้นตามพระบรมราชโองการ 

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

รัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย

สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร
ตราไว ณ วันที่ ๒๔ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๕๐
เปนปที่ ๖๒ ในรัชกาลปจจุบัน

ศุภมัสดุ พระพุทธศาสนกาลเปนอดีตภาค ๒๕๕๐ พรรษา ปจจุบั นสมัย จันทรคตินิยม
สูกรสมพัตสร สาวนมาส ชุณหปกษ เอกาทสีดิถี สุริยคติกาล สิงหาคมมาส จตุวีสติมสุรทิน ศุกรวาร
โดยกาลบริเฉท

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร
สยามินทราธิ ราชบรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกลาโปรดกระหมอมให ประกาศวา
ประธานสภานิติบัญญัติแหงชาติไดนําความกราบบังคมทูลวา การปกครองของประเทศไทยในระบอบ
ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริยทรงเปนประมุขไดดําเนินวัฒนามากวาเจ็ดสิบหาป ตลอดระยะเวลา
ที่ผานมา ไดมีการประกาศใช ยกเลิก และแกไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญหลายครั้ง เพื่อใหเหมาะสม
แกสภาวการณของบานเมืองและกาลสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป และโดยที่รัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย
(ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๔๙ ไดบัญญัติใหมีสภารางรัฐธรรมนูญและคณะกรรมาธิการ
ยกรางรัฐธรรมนูญขึ้น มีหนาที่จัดทําร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหมทั้งฉบับสําหรับเปนแนวทาง
การปกครองประเทศ โดยใหประชาชนมีสวนรวมแสดงความคิดเห็นอยางกวางขวางทุกขั้นตอน
และนําความคิดเห็นเหลานั้นมาเปนขอคํานึงพิเศษในการยกรางและพิจารณาแปรญัตติโดยตอเนื่อง
รางรัฐธรรมนูญฉบับที่จัดทําใหมนี้มีสาระสําคัญเพื่อใหบรรลุวัตถุประสงครวมกันของ
ประชาชนชาวไทย ในการธํารงรักษาไวซึ่งเอกราชและความมั่นคงของชาติ การทํานุบํารุงรักษาศาสนา
ทุกศาสนาใหสถิตสถาพร การเทิดทูนพระมหากษัตริยเปนประมุขและเปนมิ่งขวัญของชาติ การยึดถือ
ระบอบประชาธิปไตยอั นมีพระมหากษัตริย ทรงเปนประมุขเปนวิถีทางในการปกครองประเทศ
การคุมครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ใหประชาชนมีบทบาทและมีสวนรวมในการปกครอง
และตรวจสอบการใชอํานาจรัฐอยางเปนรูปธรรม การกําหนดกลไกสถาบันทางการเมืองทั้งฝายนิติบัญญัติ
และฝายบริหาร ใหมีดุลยภาพและประสิทธิภาพตามวิถีการปกครองแบบรัฐสภา รวมทั้งใหสถาบันศาล
และองคกรอิสระอื่นสามารถปฏิบัติหนาที่ไดโดยสุจริตเที่ยงธรรม

เมื่อจัดทํารางรัฐธรรมนูญเสร็จแลวสภารางรัฐธรรมนูญไดเผยแพรใหประชาชนทราบและ
จัดใหมีการออกเสียงประชามติเพื่อใหความเห็นชอบแกรางรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ การออกเสียงลงประชามติ
ปรากฏผลวา ประชาชนผูมีสิทธิเลือกตั้งโดยเสียงขางมากของผูมาออกเสียงประชามติเห็นชอบใหนําราง
รัฐธรรมนูญฉบับใหมมาใชบังคับ ประธานสภานิติบัญญัติแหงชาติจึงนํารางรัฐธรรมนูญขึ้นทูลเกลา
ทูลกระหมอมถวายเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย ใหประกาศใชเปนรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย
สืบไป ทรงพระราชดําริวาสมควรพระราชทานพระบรมราชานุมัติตามมติของมหาชน

จึงมีพระบรมราชโองการดํารัสเหนือเกลาเหนือกระหมอมใหตรารัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย
ฉบับนี้ขึ้นไวใหใช แทนรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๔๙
ซึ่งไดตราไว ณ วันที่ ๑ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๔๙ ตั้งแตวันประกาศนี้เปนตนไป


ขอปวงชนชาวไทย จงมีความสมัครสโมสรเปนเอกฉันทในอันที่จะปฏิบัติตามและพิทักษ
รักษารัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทยนี้ เพื่อธํารงคงไวซึ่งระบอบประชาธิปไตยและอํานาจอธิปไตย
ของปวงชนชาวไทย และนํามาซึ่งความผาสุกสิริสวัสดิ์พิพัฒนชัยมงคลอเนกศุภผลสกลเกียรติยศสถาพร
แกอาณาประชาราษฎรทั่วสยามรัฐสีมา สมดั่งพระบรมราชปณิธานปรารถนาทุกประการ เทอญ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-07-2008, 18:25 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
ball1010
น้องใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 15



« ตอบ #29 เมื่อ: 15-07-2008, 18:48 »

พวกเชียร์ ก้อเชียร์อย่างเดียวเย้ยนะไม่อ่านข้อมูลเย้ยหรือไง เถียงแต่ว่า อำนาจพลเอกสนธิ = พระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์  เอาอะไรมาคิดว่ามีหัวไว้กั้นหูอย่างเดียวหรือว่ะนั้น  ในหลวงท่านทรงลงพระปรมาภิไภย ประกาศใช้รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 แล้ว  หรือจะต้องให้พระองค์ท่านทรงเหนื่อยเพิ่มเป็น 2 - 3 เท่าหรือไง ต้องมาทรงลงพระปรมาภิไภยอีกกี่ฉบับกัน ถ้าจามาเล่นอาไรกันในจุดนี้อ่ะ ลองคิดดูให้ดี ๆ ก่อน (อย่าไปบ้าตามนายกคนปัจจุบัน  คิดได้ไงว่ะ ไฟฟรี น้ำฟรี นั่งรถเมล์ฟรี  ควายแท้ ๆ อย่าตามตูดเมืองนอกกันมากนักว่ะ เมืองไทยภาษีกี่ % ว่ะ  7 % ก้อบ่นกันชิปหายแล้ว  เมืองนอกที่เค้าใช้ฟรี นู้น 40 % จากรายได้นะโว้ย คิดมั้ง สมองอ่ะมีไว้คิด ไม่ใช่ให้เค้าจูงจมูก)   
บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #30 เมื่อ: 15-07-2008, 19:03 »

มีคนเก็บภาพ 2 หน้าแรกของ ราชกิจจานุเบกษา ฉบับรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 มาให้ดูครับ 

บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #31 เมื่อ: 15-07-2008, 19:55 »

เออ แฮะ อ่านภาษาไทยกันไม่รู้เรื่อง ภาษามันห่วยแบบนี้นี่เอง

ไม่ได้โปรดเกล้าก็ยังจะแถว่า ทรงเซ็นต์รัฐธรรมนูญคือโปรดเกล้า มั่วได้มันส์จริงๆ
ภาษาสนุ้กเค้าเรียกว่า ใช้บ๋อย นะนั่น ถามจริงเหอะ ตอนสมเด็จบังท่านโปรดเกล้า
เอ๊ยแต่งตั้ง ตอนนั้นท่านทรงเซ็นต์รับรองอะไรหรือยัง หรือว่า ทรงเซ็นต์รับรองแบบ
ภาษาสนุ้กว่าใช้บ๋อย ทีหลัง แบบนี้ไม่เรียกว่า อำนาจของบังยิ่งใหญ่เกริกฟ้าเหรอ
แบบว่า เซ็นต์แต่งตั้งแล้ว ไม่มีใครขัดได้
บันทึกการเข้า
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #32 เมื่อ: 15-07-2008, 20:09 »

ตามความในมาตรา 36 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว พ.ศ. 2549 ได้ประกาศรับรองประกาศและคำสั่ง
ของ คปค. ทั้งหมดเอาไว้โดยชัดแจ้ง

รัฐธรรมนูญชั่วคราว พ.ศ. 2549 ตราขึ้นตามพระบรมราชโองการ และในหลวงทรงลงพระปรมาภิไธย
ดังนั้นสถานะของ ปปช. ได้รับการรับรองซ้ำไว้แล้วในรัฐธรรมนูญ 2549

...
มาตรา ๓๖ บรรดาประกาศและคําสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
อันมีพระมหากษัตริย ทรงเปนประมุขหรือคําสั่งของหัวหนาคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบ
ประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริยทรงเปนประมุขที่ไดประกาศหรือสั่งในระหวางวันที่ ๑๙ กันยายน
พุทธศักราช ๒๕๔๙ จนถึงวันประกาศใชรัฐธรรมนูญนี้ ไมวาจะเปนในรูปใดและไมวาจะประกาศหรือ
สั่งใหมีผลบังคับในทางนิติบัญญัติ ในทางบริหาร หรือในทางตุลาการ ใหมีผลใชบังคับตอไปและ
ใหถือวาประกาศหรือคําสั่ง ตลอดจนการปฏิบัติตามประกาศหรือคําสั่งนั้นไมวาการปฏิบัติตามประกาศ
หรือคําสั่ งนั้นจะกระทํากอนหรือหลังวันประกาศใชรัฐธรรมนูญนี้เปนประกาศหรือคําสั่งหรือการปฏิบัติ
ที่ชอบดวยกฎหมายและชอบดวยรัฐธรรมนูญ

...

ต่อมา...

ตามความในมาตรา 299 ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 ได้ประกาศรับรองสถานะของ ปปช.ไว้โดยชัดแจ้ง
อีกทั้งมาตรา 309 ก็รับรอง รัฐธรรมนูญชั่วคราว พ.ศ. 2549 เป็นส่วนหนึ่งของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550

รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2549 และ พ.ศ. 2550 ตราขึ้นตามพระบรมราชโองการและในหลวงทรงลงพระปรมาภิไธย

ฝ่ายรัฐบาลออกมาบิดเบือนว่า ปปช.ไม่ได้รับโปรดเกล้าฯ ทั้งที่ทรงลงพระปรมาภิไธยแล้ว
ถึง 2 ครั้ง ทั้งในรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2549 และ พ.ศ. 2550

เอาตอนต้นของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 มาให้ดูชัดๆ ว่าตราขึ้นตามพระบรมราชโองการ 

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ยกมาลิ่วล้อแม้วมันก็ไม่อ่านหรอกครับ ขนาดกฎหมายมันยังเอามาตราคนละมาตราแถมคนละฉบับมายำรวมกันเลย แสดงว่าไม่ได้ดูเลยว่ากฎหมายระบุว่าอย่างไร

พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒
มาตรา ๑๘ เงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และประโยชน์ ตอบแทนอื่นของประธานกรรมการ และกรรมการ ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น

พระราชบัญญัติเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และประโยชน์ตอบแทนอื่นของประธานศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ประธานกรรมการและกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา ประธานกรรมการและกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และประธานกรรมการและกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๔๑
มาตรา ๔ ให้ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ประธานกรรมการและกรรมการได้รับเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งตามอัตรา ในบัญชีท้ายพระราชบัญญัตินี้ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่มีพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ ดำรงตำแหน่ง


แล้วมายำรวมกันเป็น



มาตรา 18 เงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง....

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่มีพระบรมราชโองการฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง

บันทึกการเข้า
soco
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,842



« ตอบ #33 เมื่อ: 15-07-2008, 20:20 »

ผมขอตอบประเด็นเดียว

คือคนคิดเรื่องประเด็นนี้ เฟ๊อะฟะ

ตลกอย่างยิ่ง

กฎหมายมี ต้องทำไปตามระเบียบซิครับ

หมักก็เกิดทันการปฎิวัติ รัฐประหาร หลายรอบ

ไอ้เหลิม ก็ใช่ย่อย ขนาดหนีตาย ก็เคยมาแล้ว

ทำไมจะไม่รู้ ถ้าแกล้งโง่อีก ผมว่ามันต้องเจออีกรอบนึง ไม่อยากคิดจริง ๆ
บันทึกการเข้า
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #34 เมื่อ: 15-07-2008, 20:24 »

มีคนเก็บภาพ 2 หน้าแรกของ ราชกิจจานุเบกษา ฉบับรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 มาให้ดูครับ 


น่าเอารัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2549 มาคู่กันเลยนะครับ 

บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #35 เมื่อ: 15-07-2008, 20:36 »

เออ แฮะ อ่านภาษาไทยกันไม่รู้เรื่อง ภาษามันห่วยแบบนี้นี่เอง

ไม่ได้โปรดเกล้าก็ยังจะแถว่า ทรงเซ็นต์รัฐธรรมนูญคือโปรดเกล้า มั่วได้มันส์จริงๆ
ภาษาสนุ้กเค้าเรียกว่า ใช้บ๋อย นะนั่น ถามจริงเหอะ ตอนสมเด็จบังท่านโปรดเกล้า
เอ๊ยแต่งตั้ง ตอนนั้นท่านทรงเซ็นต์รับรองอะไรหรือยัง หรือว่า ทรงเซ็นต์รับรองแบบ
ภาษาสนุ้กว่าใช้บ๋อย ทีหลัง แบบนี้ไม่เรียกว่า อำนาจของบังยิ่งใหญ่เกริกฟ้าเหรอ
แบบว่า เซ็นต์แต่งตั้งแล้ว ไม่มีใครขัดได้

คุณเป็นคน.. เหลือเชื่อจริงๆ  

การแต่งตั้งตำแหน่งต่างๆ ของ คปค. ไม่ได้รับการยอมรับในระดับสากล
เป็นการแต่งตั้งเองตามสถานะที่อ้างว่ายึดอำนาจรัฐบาลรักษาการได้

แต่การดำรงตำแหน่งต่างๆ ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการเมื่อมี
พระบรมราชโองการฯ ให้ประกาศใช้ รัฐธรรมนูญชั่วคราว พ.ศ. 2549

คิดว่าผมคงต้องอธิบายกระบวนการพวกนี้ ให้คุณเข้าใจอย่างละเอียด
ไม่อย่างนั้นก็จะแสดงความเห็นแบบสับสนไปเรื่อยๆ


...

ก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครอง อำนาจอธิปไตยเป็นของพระมหากษัตริย์
จนกระทั่ง รัชกาลที่ 7 พระราชทานรัฐธรรมนูญ (คือหนังสือมอบอำนาจ)
ระบุให้ "อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย" และพระมหากษัตริย์
เป็นผู้ทรงใช้อำนาจอธิปไตยนั้นผ่านทาง รัฐสภา คณะรัฐมนตรี และ ศาล

ต่อมาทุกครั้งเมื่อมีการปฏิวัติรัฐประหารก็จะมีการประกาศเลิกรัฐธรรมนูญ
(ยกเลิกหนังสือมอบอำนาจ) ทำให้เกิดสถานะสูญญากาศทางอำนาจขึ้น
เพราะในขณะนั้น อำนาจอธิปไตยไม่ได้เป็นของปวงชนชาวไทย แล้ว
ถ้าคิดง่ายๆ ก็คือต้องรอให้พระมหากษัตริย์พระราชทานรัฐธรรมนูญใหม่
เพื่อเริ่มต้นกระบวนการเดิม

ระหว่างนี้คณะรัฐประหารก็จะออกประกาศออกคำสั่งอะไรต่างๆ ไปพลางๆ
แต่ทั้งหมดจะยังไม่มีผลสมบูรณ์จนกว่าจะทำ หนังสือมอบอำนาจกันใหม่
สังเกตว่ารัฐธรรมนูญที่ออกหลังรัฐประหาร จะมีบทให้การรับรองประกาศ
และคำสั่งต่างๆ ของคณะรัฐประหารเสมอ ไม่อย่างนั้นก็เป็นคำสั่งเถื่อน

และถ้าบริหารโดยไม่มีรัฐธรรมนูญ ก็เป็นเพียงรัฐบาลเถื่อน

...

สรุปว่าขณะนี้ ปปช. ดำรงตำแหน่งตามที่ได้รับโปรดเกล้าฯ ใน รธน.50
ส่วนคำสั่งของ คปค. ก็ต้องอาศัยการรับรองจาก รธน.49 และ รธน.50

ประเด็นที่ตั้งกระทู้มาเป็นเรื่องฟุ้งซ่าน เลิกคิดแบบนั้นเถอะ  
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #36 เมื่อ: 15-07-2008, 20:46 »

คุณเป็นคน.. เหลือเชื่อจริงๆ 

การแต่งตั้งตำแหน่งต่างๆ ของ คปค. ไม่ได้รับการยอมรับในระดับสากล
เป็นการแต่งตั้งเองตามสถานะที่อ้างว่ายึดอำนาจรัฐบาลรักษาการได้

แต่การดำรงตำแหน่งต่างๆ ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการเมื่อมี
พระบรมราชโองการฯ ให้ประกาศใช้ รัฐธรรมนูญชั่วคราว พ.ศ. 2549

คิดว่าผมคงต้องอธิบายกระบวนการพวกนี้ ให้คุณเข้าใจอย่างละเอียด
ไม่อย่างนั้นก็จะแสดงความเห็นแบบสับสนไปเรื่อยๆ


...

ก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครอง อำนาจอธิปไตยเป็นของพระมหากษัตริย์
จนกระทั่ง รัชกาลที่ 7 พระราชทานรัฐธรรมนูญ (คือหนังสือมอบอำนาจ)
ระบุให้ "อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย" และพระมหากษัตริย์
เป็นผู้ทรงใช้อำนาจอธิปไตยนั้นผ่านทาง รัฐสภา คณะรัฐมนตรี และ ศาล

ต่อมาทุกครั้งเมื่อมีการปฏิวัติรัฐประหารก็จะมีการประกาศเลิกรัฐธรรมนูญ
(ยกเลิกหนังสือมอบอำนาจ) ทำให้เกิดสถานะสูญญากาศทางอำนาจขึ้น
เพราะในขณะนั้น อำนาจอธิปไตยไม่ได้เป็นของปวงชนชาวไทย แล้ว
ถ้าคิดง่ายๆ ก็คือต้องรอให้พระมหากษัตริย์พระราชทานรัฐธรรมนูญใหม่
เพื่อเริ่มต้นกระบวนการเดิม

ระหว่างนี้คณะรัฐประหารก็จะออกประกาศออกคำสั่งอะไรต่างๆ ไปพลางๆ
แต่ทั้งหมดจะยังไม่มีผลสมบูรณ์จนกว่าจะทำ หนังสือมอบอำนาจกันใหม่
สังเกตว่ารัฐธรรมนูญที่ออกหลังรัฐประหาร จะมีบทให้การรับรองประกาศ
และคำสั่งต่างๆ ของคณะรัฐประหารเสมอ ไม่อย่างนั้นก็เป็นคำสั่งเถื่อน

และถ้าบริหารโดยไม่มีรัฐธรรมนูญ ก็เป็นเพียงรัฐบาลเถื่อน

...

สรุปว่าขณะนี้ ปปช. ดำรงตำแหน่งตามที่ได้รับโปรดเกล้าฯ ใน รธน.50
ส่วนคำสั่งของ คปค. ก็ต้องอาศัยการรับรองจาก รธน.49 และ รธน.50

ประเด็นที่ตั้งกระทู้มาเป็นเรื่องฟุ้งซ่าน เลิกคิดแบบนั้นเถอะ 
นั่นสิ ประกาศคณะรัฐประหารมีศักดิ์เทียบเท่าพระราชบัญญัติ ไม่ได้เท่ารัฐธรรมนูญสักหน่อย 
บันทึกการเข้า
สมชายสายชม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,048


« ตอบ #37 เมื่อ: 15-07-2008, 22:05 »


ระหว่างนี้คณะรัฐประหารก็จะออกประกาศออกคำสั่งอะไรต่างๆ ไปพลางๆ
แต่ทั้งหมดจะยังไม่มีผลสมบูรณ์จนกว่าจะทำ หนังสือมอบอำนาจกันใหม่
สังเกตว่ารัฐธรรมนูญที่ออกหลังรัฐประหาร จะมีบทให้การรับรองประกาศ
และคำสั่งต่างๆ ของคณะรัฐประหารเสมอ ไม่อย่างนั้นก็เป็นคำสั่งเถื่อน


แบบเดียวกับที่พวกนักการเมืองพรรคเหี้eหลงหอชอบอ้างว่า "ประชาชนเลือกมาแล้ว(มอบอำนาจให้)

จะทำอะไรก็ได้ จะขาย ปตท. ก็ได้ .. จะขาย กฟผ. ก็ได้ .. จะขายคลื่นความถี่ดาวเทียมให้สิงคโปร์ ก็ได้

จะเซ็นมอบอธิปไตยเหนือดินแดนเขาพระวิหารให้เขมรก็ได้ ฯลฯ โดยไม่ต้องขออนุมัติจากรัฐสภา"

เข้าใจหรือยัง นายแก๊สแถ   

...
บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #38 เมื่อ: 16-07-2008, 08:33 »

แบบเดียวกับที่พวกนักการเมืองพรรคเหี้eหลงหอชอบอ้างว่า "ประชาชนเลือกมาแล้ว(มอบอำนาจให้)

จะทำอะไรก็ได้ จะขาย ปตท. ก็ได้ .. จะขาย กฟผ. ก็ได้ .. จะขายคลื่นความถี่ดาวเทียมให้สิงคโปร์ ก็ได้

จะเซ็นมอบอธิปไตยเหนือดินแดนเขาพระวิหารให้เขมรก็ได้ ฯลฯ โดยไม่ต้องขออนุมัติจากรัฐสภา"

เข้าใจหรือยัง นายแก๊สแถ   

...

ตอนนี้แถลงการณ์ร่วมฯ กลายเป็น "แถลงการเถื่อน" ไปแล้ว เพราะไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ 
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
หน้า: [1]
    กระโดดไป: