วันนี้มีข่าวว่าคณะอนุกรรมการสอบสวน มีมติให้ กกต. นำคดีส่งศาลรัฐธรรมนูญนะครับ
และวันที่ 16 กค. นี้ ทาง กกต. มีกำหนดลงมติว่าจะส่งหรือไม่
------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อนุ กกต.เสนอส่งศาล รธน.ฟัน “หมัก”จัด“ชิมไปบ่นไป”โดย ผู้จัดการออนไลน์ 14 กรกฎาคม 2551 18:10 น.
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000082881อนุ กกต.สอบ “หมัก” ขาดคุณสมบัติ นายกฯ กรณีเป็นพิธีกร “ชิมไปบ่นไป” มีมติเสียงข้างมากชง กกต.
ยื่นศาล รธน.ฟัน เผยสรุปเป็นปัญหาข้อกฎหมาย โดยไม่ได้วินิจฉัยข้อเท็จจริง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่นาย เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ร้องเรียนต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
ขอให้ตรวจสอบว่าการที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เป็นพิธีกรรายการ “ชิมไปบ่นไป” เข้าข่ายขาดคุณสมบัติ
การเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ และคณะอนุกรรมการที่มี พล.อ.ยอดชาย เทพยสุวรรณ เป็นประธานฯ ได้สรุปผลการสอบสวน
โดย กกต.จะมีการพิจารณาในการประชุมวันที่ 16 ก.ค.นั้น มีรายงานว่า อนุกรรมการชุดดังกล่าวไม่ได้มีการวินิจฉัย
ในปัญหาข้อเท็จจริงว่าการเป็น พิธีกรรายการ ชิมไปบ่นไปของนายสมัคร ถือว่ามีความผิดหรือไม่ แต่มีความเห็น
ในข้อกฎหมายโดยเสียงข้างมาก เห็นควรที่ กกต.จะส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย เนื่องจากเป็นปัญหา
ข้อกฎหมาย
ขณะที่อนุกรรมการฯ เสียงข้างน้อย เห็นว่า กรณีดังกล่าว กกต.ไม่จำเป็นต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยอีก
เพราะจะเป็นการส่งสำนวนที่ซ้ำซ้อนกับกรณีที่สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.)ได้เข้าชื่อ กันตามรัฐธรรมนูญมาตรา 91 ส่งเรื่อง
การตรวจสอบคุณสมบัตินายกรัฐมนตรีให้ประธานวุฒิสภาส่งศาลรัฐธรรมนูญ เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ สำนวนร้องเรียนคุณสมบัตินายสมัครนั้น เคยมีประเด็นถกเถียงกันเรื่องอำนาจของ กกต. ในการสืบสวนสอบสวน
กรณีดังกล่าวมาแล้ว เนื่องจากมีการมองว่าเรื่องดังกล่าวไม่ใช่การร้องเรียนเกี่ยวกับคุณสมบัติ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง และการ
ร้องเรียนของนายเรืองไกร ก็มีช่องทางในการยื่นเรื่องผ่านประธานวุฒิสภาแทนการมาร้องต่อกกต.ได้อยู่ แล้ว แต่ในขณะนั้น
ที่ประชุม กกต.ก็มีมติด้วยคะแนนเสียง 4 ต่อ 1 เห็นว่า อนุกรรมการฯ มีอำนาจสืบสวนสอบสวนต่อไป โดยให้เพิ่มบทบัญญัติ
กฎหมายที่มีอยู่แล้วเข้าไปในคำสั่งเพื่อให้มีความ ชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งการสอบสวนอนุฯได้ขอขยายเวลาการสอบถึง 2 ครั้ง
โดยครั้งแรกขยายเวลา15 วัน ระหว่างวันที่ 7-21 มิถุนายน ครั้งที่ 2 ขยายเวลาออกไประหว่าง 21 มิ.ย.- 6 ก.ค.
อย่างไรก็ตามการจะพิจารณาของ กกต.ว่าจะส่งเรื่องดังกล่าวให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยหรือไม่ในวันที่ 16 ก.ค.
มีข้อสังเกตที่น่าสนใจว่า กกต.จะสามารถมีมติยืนตามอนุกรรมการเสียงข้างน้อยไม่ส่งเรื่องให้ศาลรัฐ ธรรมนูญวินิจฉัยได้หรือไม่
เพราะก่อนหน้านี้ กกต. เคยมีมติเสียงข้างมาก ส่งคำร้องกรณีคุณสมบัตินาย ไชยยา สะสมทรัพย์ รมว.สาธารณสุข ให้ศาล-
รัฐธรรมนูญวินิจฉัยแม้ว่าขณะนั้นประธานวุฒิสภาจะส่งคำร้องดังกล่าวที่ สมาชิกวุฒิสภาเข้าชื่อกันยื่นเรื่องไปให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญ
วินิจฉัยคุณสมบัติ แล้วก็ตาม โดยที่ประชุม กกต. ได้ให้เหตุผลว่าตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 182 วรรคท้าย ได้ให้อำนาจ กกต.
ในการส่งเรื่องคุณสมบัติไปยังศาลรัฐธรรมนูญได้ด้วย ดังนั้นจะเท่ากับว่า กกต. สร้างบรรทัดฐานไว้ก่อนหน้านี้แล้วหรือไม่ว่า
แม้มีองค์กรอื่นส่งเรื่องไปยัง ศาลรัฐธรรมนูญก่อน กกต. ก็สามารถส่งเรื่องเดียวกันไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้อีกเช่นกัน