ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
26-04-2024, 04:02
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  **ทุกข์ต้องดับที่เหตุ..เหตุที่ว่าไม่ใช่รธน.หรอก แต่เป็นตัวนายกนั่นแหละ** 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
**ทุกข์ต้องดับที่เหตุ..เหตุที่ว่าไม่ใช่รธน.หรอก แต่เป็นตัวนายกนั่นแหละ**  (อ่าน 1779 ครั้ง)
*bonny
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,459



« เมื่อ: 14-07-2008, 12:52 »

นายกสมัครยกอริยสัจ 4 ว่า ทุกข์ของท่านคือ รัฐบาลโดนมรสุมจากการพิพากษาของตุลาการภิวัฒน์  โดยยกสมุทัย คือ เหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ คือ รัฐะรรมนูญปี 2550  ดังนั้น..จึงต้องแก้

แต่ในความเป็นจริงแล้ว..

เหตุทั้งหลายทั้งปวงที่นำไปสู่วิกฤติของรัฐบาลชุดนี้ล้วนมาจากตัวนายกรัฐมนตรีเองเป็นสมุทัย

ผมจะยกเหตุผลที่ว่า ท่านนี่แหละคือ สมุทัยของทุกข์ของรัฐบาล มาให้ฟังดังนี้..

1) รมต.ในคณะนี้ ท่านนายกเป็นผู้คัดเลือกคนสุดท้ายมิใช่หรือว่าเหมาะสมหรือไม่ หาใช่รัฐธรรมนูญไม่  กรณีไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินของภรรยานายไชยา และนายวิรุฬ เป็นความบกพร่องส่วนบุคคล เกี่ยวอะไรกับรัฐธรรมนูญมิทราบ?

2) ท่านนายกเองเป็นผู้ยอมรับคนแรกเลยว่า รมต.ชุดนี้ขี้เหร่นิดหน่อย แล้วเมื่อ รมต.ชุดขี้เหร่นิดหน่อยนี้ ไม่มีความรู้ ความสามารถ และเอกภาพในการทำงาน จนทำไห้ไม่สามารถแก้ปัญหาทุกๆ ด้านของประเทศได้  เป็นเพราะรัฐะรรมนูญหรือเพราะตัวท่านล่ะครับ?

3) ท่านนายกบอกว่า จะปรับครม.ชุดใหญ่ เอาคนดีมีความสามารถมาทำงาน(ซะที)  อ้าว..ตกลงที่ผ่านมาท่านแต่งตั้งคนที่ด้อยความสามารถมาทำหน้าที่รัฐมนตรี หรือว่า รัฐธรรมนูญเป็นผู้แต่งตั้งกันแน่ครับ..งง?  แล้วทำไมไม่เอาคนดีมีความสามารถมาทำงานเสียแต่แรกล่ะ  เป็นความผิดของใครมิทราบ?

4) การออกมติครม.สนับสนุนให้เขมรขึ้นทะเบียนมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียว ออกจากที่ประชุมครม.แท้ๆ แต่ทำไมไปโทษเป็นความผิดของรัฐะรรมนูญได้?  รัฐธรรมนูญไปจับมือนายนพดลลงชื่อในแถลงการณ์ร่วมหรือครับ?

5) คดีที่จะทำให้นายกสมัครหลุดจากตำแหน่งนายกทั้งคดีหมิ่นประมาทนายสามารถ ราชพลสิทธิ์ ..การถอดถอนนายกในกรณีปราสาทพระวิหาร  ..ทำรายการชิมไปบ่นไป  ..อัยการญี่ปุ่นระบุว่า บ.นิชิมัตสึจ่ายสินบนให้เจ้าหน้าที่กทม.125ล้านบาท  ทั้งหมดนี้เป็นการกระทำที่เกิดขึ้นโดยฝีมือของท่านเองทั้งสิ้น หาได้เกี่ยวข้องใดๆ กับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่  โดยเฉพาะการทำผิดกฎหมายในคดีหมิ่นประมาท เป็นคดีที่มีมาก่อนการใช้ รธน.ฉบับนี้ด้วยซ้ำไป  ถ้าท่านจะหลุดจากตำแหน่งก็เพราะคดีนี้ที่เป็นเพราะปากของท่านเองแหละ

6) คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของนายจักรภพ เพ็ญแข  มีผู้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายจักรภพ แล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในการกำกับดูแลของรัฐบาลชุดนี้เองมิใช่หรือที่รับคดีแล้วแจ้งว่า มีมูล  ทำให้ต้องหลุดออกจากตำแหน่ง  คนในสนง.ตำรวจแห่งชาติที่รัฐบาลเป็นผู้กำกับดูแลเป็นผู้ชี้มูลความผิดเช่นนี้  เหตุใดไปกล่าวโทษรัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้มิทราบ?? และในรัฐธรรมนูญทุกฉบับก็มีบทบัญญัติห้ามผู้ใดกล่าววาจา หรือ แสดงการกระทำอันล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ มิใช่มีแต่ใน ระน.ปี50 ซะที่ไหนกัน

7) มือที่มองไม่เห็น ไอ้หัวหงอก ไอ้หัวเหม่ง ไอ้หน้าแหลม ที่จ้องล้มรัฐบาลนี้ แม้แต่การจะปฏิวัติอีกครั้ง ก็ล้วนออกมาจากปากของนายกรัฐมนตรี หามีผู้ใดจุดประเด็นข่าวนี้ขึ้นมาไม่ และจนป่านนี้..นายกก็ไม่ยอมเปิดเผยว่า คนๆ นี้เป็นใครกันแน่  ถ้ามีหลักฐานว่าบุคคลใดวางแผนล้มรัฐบาล ก็มีกฎหมายลงโทษหลายมาตรา  แทนที่จะพูดสองแง่ สามง่ามให้คิดกันไปเอง ทำไมไม่จับกุมดำเนินคดีเล่าครับ กฎหมายก็มีกำหนดโทษอยู่แล้ว
จะเห็นได้ว่า..กฎหมายเอาผิดกับฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลมี แต่ ท่านไม่นำมาใช้  แต่พอมีกฎหมายที่ฝายตรงข้ามนำมาใช้กับท่านและคณะที่ศาลพิพากษาว่าทำผิดจริง แทนที่จะแก้ที่คน ดันจะแก้ที่กฎหมายรัฐธรรมนูญ  เออ..แปลก?


สมุทัยที่ผมกล่าวมาทั้งหมดนี้ เป็นเหตุให้เกิดทุกขลาภต่อรัฐบาลชุดนี้ทั้งสิ้น ซึ่งจะว่าไปแล้ว ก็คือนายกรัฐมนตรีเป็นเหตุแห่งทุกข์ทั้งสิ้น

ระยะหลังๆ เห็นว่า ตัวท่านเองยังอาจเป็นทุกข์อันเนื่องมาจากสุขภาพจิตที่ไม่ปกติของท่านในการปฏิบัติต่อผู้อื่นทั้งกายและวาจาด้วย 
สมุทัยจึงเป็นที่ตัวท่านนายก มิใช่รัฐธรรมนูญ  ถ้าจะแก้ให้แก้ที่ตัวท่านนี่แหละ รับรองว่า ทุกข์ของรัฐบาลจะหายไปในทันที

ส่วนทุกข์ของประเทศชาติ ต้องแก้ที่สมุทัยอีกคนหนึ่งครับ นั่นคือ..สมุทัยทักษิณ ซึ่งเป็นสมุทัยที่ทำให้เกิดสมุทัยสมัครขึ้นมาด้วย  
บันทึกการเข้า

ประเทศชาติมีภัย  เสรีไทยร่วมกอบกู้
tigerfireback
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 57


« ตอบ #1 เมื่อ: 14-07-2008, 15:12 »

เห็น มาบอกว่า ในรายการ สนทนาประสาสมัคร

ไร้ยางอาย

สัตว์นรก

หน้าเหมือนหมูหมา 

แล้วเอามาบ่นทำไม บ่นทำไม เป็นคนจิตปกติหรือเปล่า 
บันทึกการเข้า
boonterm
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 265


โย่ว......


« ตอบ #2 เมื่อ: 14-07-2008, 15:59 »

 

บันทึกการเข้า

............................................................

เพื่อนฝัน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 493



« ตอบ #3 เมื่อ: 14-07-2008, 17:07 »

ตอนนี้ เราเป็นทุกข์ เพราะนายกของเราเป็นคนที่ทำให้เราเป็นทุกข์  ทั้งนี้เพราะนายกสมัครเป็นเหตุแห่งทุกข์ของเรา ดังนั้นก็ต้องดับนายกของเราซะ งั้นใช่หรือป่าวท่าน 

ว่าแต่ดับยังไงดี    ให้นายกออกไป แต่ว่ายังไม่พอนะ ต้องให้นายกติดคุกด้วย เพราะทำให้เราเสียดินแดน จะได้ดับทุกข์ของเราเองได้

บันทึกการเข้า

ใครสอนใครสั่ง ดูถูกประชาชน เป็นม็อบข้างถนน บิดเบือนเหมือนคนตกรุ่น
เรามาชุมนุม ใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ ขับไล่รัฐบาลหุ่น ที่เป็นสมุนของอาชญากร
*bonny
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,459



« ตอบ #4 เมื่อ: 14-07-2008, 17:31 »

ตอนนี้ เราเป็นทุกข์ เพราะนายกของเราเป็นคนที่ทำให้เราเป็นทุกข์  ทั้งนี้เพราะนายกสมัครเป็นเหตุแห่งทุกข์ของเรา ดังนั้นก็ต้องดับนายกของเราซะ งั้นใช่หรือป่าวท่าน 


ตอบ..
ใช่ครับ

ว่าแต่ดับยังไงดี    ให้นายกออกไป แต่ว่ายังไม่พอนะ ต้องให้นายกติดคุกด้วย เพราะทำให้เราเสียดินแดน จะได้ดับทุกข์ของเราเองได้


ดับทุกข์ครับ ไม่ใช่ขังคุก
เอาแค่ให้ลาออกไปก็พอ  เอานายกติดคุก ผมสงสารนักโทษในนั้น
บันทึกการเข้า

ประเทศชาติมีภัย  เสรีไทยร่วมกอบกู้
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #5 เมื่อ: 14-07-2008, 20:41 »

คนมันมีมิจฉาทิฏฐิอันเป็นทางที่ขวางนิพพานแล้วมันจะดับทุกข์ได้อย่างไร
บันทึกการเข้า
วิหค อัสนี
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 946



« ตอบ #6 เมื่อ: 14-07-2008, 21:06 »

ขอยกนิทานธรรมประยุกต์เรื่อง "หมาขี้เรื้อน" มาเล่าอีกซักรอบ น่าจะตรงมากกว่า 


*********

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว...

ยังมีหมาขี้เรื้อนอยู่ตัวหนึ่ง

มันจะไปนอนในกระต๊อบกับชาวบ้านก็คันยิบๆๆ ไม่สบายตัว

ไปอยู่ในคฤหาสน์หลังร้อยล้านพันล้านก็คันยิบๆๆ ไม่สบายตัว

ไปนอนเกลือกริมสระแถวเขาดินก็คันยิบๆๆ ไม่สบายตัว

ไปนั่งชูคออยู่ในสภาหินอ่อนก็คันยิบๆๆ ไม่สบายตัว

ไปเดินท่อมๆ อยู่ตัวเดียวนอกแผ่นดินเกิดก็คันยิบๆๆ ไม่สบายตัว

ถึงจะเดินกร่างอยู่ในถิ่นตัวเอง กลางบริวารฝูงใหญ่ที่แวดล้อม พากันเห่าหอนให้เอิกเกริก ก็ไม่สบายตัวอยู่ดี

ไปๆ มาๆ มันรำพึงรำพันกับชะตากรรมว่า โลกนี้เหวย ทำไมโลกนี้ช่างโหดร้ายทารุณนัก

ไป อยู่ที่ไหนก็ไม่ได้อยู่สบาย ถูกสายลม แสงแดด ต้นไม้ ใบหญ้าทิ่มแทง กลั่นแกล้งให้เจ็บคันตามเนื้อตัวอยู่ตลอดเวลา ถูกผู้คนรังเกียจขับไล่

ถึงจะมีคนอีกส่วนหนึ่งให้ความเอ็นดู ถึงแม้จะมีฝูงบริวารหมาๆ ที่ดูจงรักภักดีคอยห้อมล้อมเอาใจก็เหอะ

แต่เอาเข้าจริงก็ไม่รู้ว่า พวกฝูงหมาลิ่วล้อนั่น มันเคารพนับถือในตัวเราจริง หรือหวังผลแค่เศษเนื้อเศษกระดูกที่เราหามาได้เท่านั้น

อนิจจา...

เจ้าหมาขี้เรื้อน มันจะรู้มั๊ยว่า ปัญหาของมัน ที่ต้องเจ็บๆ คันๆ ตามตัว และถูกรังเกียจอยู่ทุกวันนี้

ต้นเหตุของปัญหาส่วนใหญ่อยู่ที่ตัวมัน อยู่ที่ขี้เรื้อนของมันเอง

ไม่ใช่โลกหรือสังคมที่มันอยู่ หรือคนที่ไม่ชอบมันแต่อย่างใด
บันทึกการเข้า

_______ดังนี้แล
__เปลวไฟจักลุกโชน
___หามีวันดับลงได้
_ตราบที่ในมือพวกสูเจ้า
ยังแต่น้ำมันเตาให้ราดรดไป
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #7 เมื่อ: 15-07-2008, 10:08 »

 
เอานิทานหมาขี้เรื้อนอีกเวอร์ชั่นมาให้อ่านกันครับ

ไอ้ตัวที่ชอบออกมาเห่าหอนทางทีวีทุกเช้าวันอาทิตย์ น่าจะหันหน้าเข้าวัดบวชเรียนจริงๆจังๆ ซะบ้าง

ก่อนจะออกมาสอนธรรมะชาวบ้าน Laughing





   
นิทานหมาขี้เรื้อน

--------------------------------------------------------------------------------

บางครั้งไม่ใช่ว่าสิ่งที่มันเป็นอยู่ที่จะต้องเปลี่ยนเท่านั้น อย่าคิดเปลี่ยนคนอื่น เพราะตัวเองนั่นแหละที่รู้ว่าพร้อมที่จะเปลี่ยนแล้วหรือยัง จงเริ่มที่ตัวเราเอง

*** รู้ไหมว่า หมาขี้เรื้อนมันคิดอะไร***

ลูกชายนักธุรกิจใหญ่มีชื่อเสียงระดับประเทศคนหนึ่งเพิ่งสำเร็จการศึกษากลับ มาจากเมืองนอก ยังไม่ทันทำงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอันก็ถูกผู้เป็นแม่ขอร้องให้บวชเรียนเสีย ก่อน เพื่อเห็นแก่แม่..บัณฑิตใหม่หมาดๆ จากเมืองนอกจึงบวชอย่างเสียไม่ได้


เมื่อบวชที่วัดใหญ่ในกรุงเทพฯ แห่งหนึ่งเสร็จแล้ว ผู้เป็นแม่จึงพาไปฝากให้จำพรรษาอยู่กับพระวิปัสสนาจารย์รูปหนึ่งที่วัดป่า แถวภาคอีสาน

พระหนุ่มการศึกษาสูงมาจากตระกูลผู้ดีมีแต่ความสุขสบาย เมื่อมาอยู่วัดป่า กว่าจะปรับตัวได้จึงใช้เวลานานเป็นแรมเดือน แต่ก็นั่นแหละกว่าจะนิ่งก็ทำเอาพระร่วมวัดหลายรูปพลอยอิดหนาระอาใจไปตามๆ กัน ปัญหาที่ทำให้พระทั้งวัดเหนื่อยหน่ายจนนึกระอาก็เพราะพระใหม่มีนิสัยชอบจับ ผิดและชอบอวดรู้ยกหู ชูหางตัวเองอยู่เป็นประจำ

วันแรกที่มาอยู่วัดป่าก็นึกเหยียดพระเจ้าถิ่นทั้งหลายว่าไม่ได้รับการศึกษา สูงเหมือนอย่างตน ออกบิณฑบาตได้อาหารท้องถิ่นมาก็ทำท่าว่าจะฉันไม่ลง เห็นที่วัดใช้ตะเกียงน้ำมันก๊าดแทนไฟฟ้า ก็วิพากษ์วิจารณ์เสียเป็นการใหญ่หาว่าล้าสมัยไม่รู้จักใช้เทคโนโลยี ตอนหัวค่ำมีการทำวัตรสวดมนต์เย็นก็บ่นว่าท่านรองเจ้าอาวาสทำวัตรนานเหลือ เกินกว่าจะสิ้นสุดยุติได้ก็นั่งจนขาเป็นเหน็บชา

ครั้นพอถึงเวรตัวเองล้างห้องน้ำเข้าบ้าง ก็ทำท่าจะล้างอย่างขอไปที ล้างไปบ่นไป ประเภทตูจบปริญญาโทมาจากเมืองนอกต้องมาเข้าเวรล้างห้องน้ำร่วมกับใครก็ไม่ รู้ โอ้ชีวิต! ความสำรวยหยิบโหย่งทำให้พระใหม่ไม่พอใจสิ่งนั้นสิ่งนี้ถือดีว่าตัวเองมี ชาติตระกูลสูง มีการศึกษาสูงกว่าใครในวัดนั้น ผิวพรรณก็ดูสะอาดสะอ้าน ชวนเจริญศรัทธากว่าพระรูปไหนทั้งหมด มองตัวเองเปรียบกับพระรูปอื่นแล้วช่างรู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่าทุกประตูนึก แล้วก็ยิ้มกระหยิ่มอยู่ในใจ กลับเข้ากุฏิเมื่อไหร่ก็เอาปากกามาขีดเครื่องหมายกากบาทบนปฏิทินนับถอยหลัง รอวันสึกด้วยใจจดจ่อ



อยู่มาได้พักใหญ่พระใหม่อดีตนักเรียนนอก ก็สังเกตเห็นว่าท่านเจ้าอาวาสวัดป่าแห่งนี้ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา ซ้ำนาน ๆ ครั้งจะออกมาให้โอวาทกับลูกศิษย์เสียทีหนึ่ง วัน ๆ ไม่เห็นท่านทำอะไรเอาแต่กวาดใบไม้ เก็บขยะ ซักผ้าเอง (เณรน้อยก็มีไม่รู้จักใช้) สอนก็ไม่สอน การบริหารวัดก็มอบให้ท่านรองเจ้าอาวาสเป็นคนจัดการไปเสียทุกอย่างเห็นแล้ว เลยนึกร้อนวิชาเสนอให้ปรับโน่นลดนี่สารพัดที่ตัวเองเห็นว่าไม่เข้าท่าล้า สมัย รวมทั้งให้เสนอให้วัดใช้ไฟฟ้าแทนตะเกียงด้วย
อีกข้อหนึ่งเพราะตนเห็นว่ายุคสมัยก้าวไกลมามากแล้วไม่ควรจะทำตนเป็นคนหลังเขาให้คนอื่นเขาดูถูก

อีกหนึ่งในข้อวิจารณ์จุดด้อยของวัดทั้งหลายเหล่านั้น พระใหม่เสนอให้หลวงพ่อเจ้าอาวาสมีปฏิสัมพันธ์กับพระลูกวัดให้มากขึ้นกว่านี้ สอนให้มากขึ้นเทศน์ให้มากขึ้น และแนะนำว่าคนระดับผู้บริหารไม่ควรจะทำงานอย่างการซักจีวรเองเป็นต้นด้วยตน เอง ควรจะกระจายอำนาจมอบงานให้คนอื่นทำดีกว่า


เย็นวันนั้นเป็นวันพระสิบห้าค่ำหลวง พ่อเจ้าอาวาสมานั่งทำวัตรที่โบสถ์ธรรมชาติกลางลานทราย ด้วยท่านไม่ลืมที่จะหยิบข้อเสนอแนะจากพระใหม่มาอ่านให้พระหนุ่มสามเณรน้อย ทั้งหลายฟัง แต่ท่านไม่บอกว่าพระรูปไหนเป็นคนเขียน อ่านจบแล้วหลวงพ่อก็ยิ้มอย่างมีเมตตาพลางหยิบไมโครโฟนขึ้นมา แล้วชี้ให้ภิกษุหนุ่มสามเณรน้อยทั้งหลายดูหมาขี้เรื้อนตัวหนึ่งที่นอนอยู่ ใต้ม้าหินอ่อนตัวหนึ่งจากใต้ต้นอโศกที่อยู่ใกล้ๆ

เธอทั้งหลายเห็นหมาขี้เรือนตัวนั้นหรือไม่ เจ้าหมาตัวนั้นน่ะมันเป็นขี้เรื้อน คันไปทั้งตัว ฉันเห็นมันวิ่งวุ่นไปมาทั้งวัน เดี๋ยวก็วิ่งไปนอนตรงนั้น เดี๋ยวก็ย้ายมานอนตรงนี้ อยู่ที่ไหนก็อยู่ไม่ได้นานเพราะมันคัน

แต่พวกเธอรู้ไหมเจ้าหมาตัวนั้นน่ะมันไปนอนที่ไหนมันก็นึกด่าสถานที่นั้น อยู่ในใจ หาว่าแต่ละที่ไม่ได้ดั่งใจตัวเองสักอย่าง นอนที่ไหนก็ไม่หายคัน สถานที่เหล่านั้นช่างสกปรกสิ้นดี คิดอย่างนี้แล้วมันจึงวิ่งหาที่ที่ตัวเองนอนแล้วจะไม่คัน แต่หาเท่าไหร่มันก็หาไม่พบสักที เลยต้องวิ่งไปทางนี้ทางโน้นอยู่ทั้งวัน

เจ้าหมาโง่ตัวนั้นมันหารู้สักนิดไม่ว่า..เจ้าสาเหตุแห่งอาการคันนั้นหาใช่ เกิดจากสถานที่เหล่านั้นแต่อย่างใดไม่ แต่สาเหตุแห่งอาการคันอยู่ที่โรคของตัวมันเองนั่นต่างหาก


พูดจบแล้วหลวงพ่อก็วางไมโครโฟนลงเป็นสัญญาณให้รู้ว่า ได้เวลาภาวนาหลังการทำวัตร สวดมนต์เย็นแล้ว

ขณะที่ทุกรูปนั่งหลับตาภาวนาอย่างสงบนั้นในใจของพระใหม่กลับร้อนเร่าผิดปกติ นอกสงบแต่ในวุ่นวาย นึกอย่างไรก็มองเห็นตัวเองไม่ต่างไปจากหมาขี้เรื้อนที่หลวงพ่อชี้ให้ดู ยิ่งนั่งสมาธินานๆ ยิ่งคันคะเยอในหัวใจ ทั้งอายทั้งสมเพชตัวเอง



นับแต่วันนั้นเป็นต้นมาพระใหม่อดีตนักเรียนนอกก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน จากคนพูดมากกลายเป็นคนพูดน้อย จากคนที่หยิ่งยโสกลายเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน จากคนที่ชอบจับผิดคนอื่นกลายเป็นคนที่หันมาจับผิดตัวเอง

เมื่อออกพรรษาแล้วโยมแม่มาขอให้ลาสิกขาเพื่อกลับไปสืบต่อธุรกิจจากครอบครัว ท่านก็ยังไม่ยอมสึก "อาตมาเป็นหมาขี้เรื้อนขออยู่รักษาโรคจนกว่าจะหายคันกับครูบาอาจารย์ที่นี่ อีกสักหนึ่งพรรษา"

โยมแม่ได้ฟังแล้วก็ได้แต่ยกมืออนุโมทนาสาธุการกราบลาพระลูกชาย แล้วก็เดินออกจากวัดไปขึ้นรถพลางนึกถามตัวเองอยู่ในใจว่าคำว่าหมาขี้เรื้อน ของพระลูกชายหมายความว่าอย่างไรกันแน่หนอ

ข้อควรคิด...ถ้าเรา ยังเป็นโรคอยู่ในใจ ไม่ว่าเราย้ายงาน ไปที่ไหน
เราก็บ่นว่าสถานที่เหล่านั้น สกปรก เลวสิ้นดี






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-07-2008, 19:00 โดย Cherub Rock » บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
เพื่อนฝัน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 493



« ตอบ #8 เมื่อ: 15-07-2008, 18:30 »



ขอตบมือให้ ชอบ ชอบ เรื่องหมาขี้เรือน
บันทึกการเข้า

ใครสอนใครสั่ง ดูถูกประชาชน เป็นม็อบข้างถนน บิดเบือนเหมือนคนตกรุ่น
เรามาชุมนุม ใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ ขับไล่รัฐบาลหุ่น ที่เป็นสมุนของอาชญากร
หน้า: [1]
    กระโดดไป: