ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
29-03-2024, 18:46
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  เอ้า... ไทยรัฐไม่กลัวหมาก --ดับทุกข์ด้วยสัมมาทิฐิ-- 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
เอ้า... ไทยรัฐไม่กลัวหมาก --ดับทุกข์ด้วยสัมมาทิฐิ--  (อ่าน 1337 ครั้ง)
eAT
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,066



« เมื่อ: 14-07-2008, 11:22 »

บทบรรณาธิการ
ดับทุกข์ด้วยสัมมาทิฐิ [14 ก.ค. 51 - 18:43]
 
เมื่อนายกรัฐมนตรีสมัคร สุนทรเวช ยืนยันต่อที่ประชุม ส.ส.พรรคพลังประชาชน อย่างหนักแน่นจะสู้อย่างไม่ถอย ไม่ผวา ไม่ปอดแหก “ไม่ลาออกและไม่ยุบสภา” ทางเลือกในการแก้ปัญหาวิกฤติการเมืองของรัฐบาลในขณะนี้ จึงน่าจะได้แก่การปรับปรุงคณะรัฐมนตรี และการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อหนีการยุบพรรคพลังประชาชน และพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆอีก 3 พรรค

แม้นายสมัครจะเคยประกาศว่าจะไม่ปรับคณะรัฐมนตรี หลังจากเสร็จสิ้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน ทั้งเยาะเย้ยว่าหนังสือพิมพ์ที่ชี้นำเรื่องนี้จะหน้าแตก แต่ บัดนี้จะต้องมีการปรับ ครม.อย่างแน่นอน เพราะรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่งไป 3 คน จ่อคิวอยู่อีก 1 คน ยังไม่แน่นอนอีก 3 คน อีกทั้งยังมีการยื่นถอดถอนโดยหลายฝ่าย และยื่นฟ้องคดีอาญา ครม.ทั้งคณะ โดย ส.ว.

นายกรัฐมนตรีจึงน่าจะฉวยโอกาสนี้ ปรับคณะรัฐมนตรีครั้งใหญ่ ตั้งทีมเศรษฐกิจที่น่าเชื่อถือขึ้นใหม่ เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้องของประชาชน เพื่อความเชื่อมั่น ของประชาชน และนักลงทุนทั้งภายในและต่างประเทศ โดยอาจจะนำคนนอกผู้มีความรู้ ความสามารถอย่างแท้จริง เข้ามาช่วยแก้ปัญหา ของประเทศอย่างเป็นเอกภาพ อย่างน้อยก็จะช่วยซื้อเวลาไปได้หลายเดือน

การที่มีรายงานข่าวว่า นายสมัครได้พูดถึงพุทธวิธีในการดับทุกข์ คือ อริยสัจ 4 อันได้แก่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค เป็นเรื่องที่น่าชื่นชม แต่จะต้องค้นหาต้นเหตุแห่งทุกข์คือ “สมุทัย” ที่ถูกต้อง จากนั้นจึงใช้ “มรรค” 8 ช่วยดับทุกข์ มรรค 8 เริ่มต้นด้วย “สัมมาทิฐิ” คือความเห็นที่ถูกต้อง มีปัญหาว่าการโทษมือที่มองไม่เห็น และโทษรัฐธรรมนูญ 2550 ว่าเป็นต้นเหตุแห่งทุกข์ เป็นความเห็นที่ถูกต้องหรือไม่?

ไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไรขึ้น คนของพรรคพลังประชาชน มักจะโทษมือที่มองไม่เห็นจ้องทำลาย และโทษรัฐธรรมนูญ ไม่เคยมีแม้แต่ครั้งเดียวที่โทษตัวเอง น่าจะถามตัวเองว่าทำไมนายยงยุทธ ติยะไพรัช จึงโดนใบแดงตามคำพิพากษาศาลฎีกา? ทำไมศาลรัฐธรรมนูญจึงชี้ขาดว่า แถลงการณ์ร่วมเรื่องเขาพระวิหารขัดต่อรัฐธรรมนูญ? และทำไมนักการเมืองจึงถูกดำเนินคดี และถูกยื่นถอดถอนมากมาย?

ความเห็นที่ว่ารัฐธรรมนูญเป็น ต้นเหตุแห่งทุกข์ เป็นสัมมาทิฐิหรือมิจฉาทิฐิ? รัฐมนตรีบางคนโวยวายว่าการยื่นถอดถอนรัฐมนตรี เป็นเรื่องที่ไม่เข้าท่า ทั้งๆที่เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ แม้แต่การเปิดโปงการงาบสินบนญี่ปุ่น 125 ล้านบาท ก็อ้างว่าเป็นการจ้องทำลายทางการเมือง น่าจะเป็นความเห็นที่ผิด และไม่อาจนำไปสู่การดับทุกข์

การเริ่มต้นดับทุกข์ด้วยการโทษมือที่มองไม่เห็น โทษรัฐธรรมนูญ ฝ่ายค้าน หรือสื่อมวลชน นอกจากจะดับทุกข์ได้ยากแล้ว ยังอาจนำไปสู่การก่อทุกข์ใหม่ซ้ำซาก ในที่สุดก็อาจจะต้องแก้รัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายอื่นๆ เช่น ห้ามยุบพรรค ห้ามถอดถอน และให้ถือว่าการซื้อเสียงไม่ผิด เป็นต้น แทนที่จะปรับพฤติกรรมของคนให้เข้ากับกฎหมาย แต่กลับกลายเป็นว่าต้องแก้กฎหมายให้เข้ากับพฤติกรรมของคน.
 
 
บันทึกการเข้า
eAT
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,066



« ตอบ #1 เมื่อ: 14-07-2008, 11:32 »

มติชน วันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 31 ฉบับที่ 11083

กฎหมายผิด คนไม่ผิด (ฮา)

คอลัมน์ สถานีคิดเลขที่ 12

โดย สมหมาย ปาริจฉัตต์
http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01col02140751&day=2008-07-14&sectionid=0116


หลังศาลรัฐธรรมนูญ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง พิพากษาลงโทษนักการเมืองทำผิดกรณีต่างๆ ติดต่อกันเป็นระลอก เสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ดังตามมาแม้บอกว่ายอมรับคำตัดสิน แต่ก็ยังคงแสดงความข้องใจต่อตัวบทกฎหมาย ตั้งแต่รัฐธรรมนูญจนถึงกฎหมายลูกทุกฉบับ กับกระบวนการรวบรวมพยานหลักฐานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่ากรรมการการเลือกตั้ง กรรมการตรวจสอบการกระทำอันก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ฯ ด้วยสายตาที่มองปัญหาแบบตัดตอน พูดความจริงครึ่งเดียว อยู่เหมือนเดิม คิดว่าต้นเหตุของปัญหา และทำให้ถูกลงโทษเป็นเพราะวรรคท้ายของมาตราโน้นบ้าง มาตรานี้บ้าง ถ้าไม่มีข้อความที่ว่าเสียแล้ว ทุกอย่างก็ไม่มีปัญหา ไม่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง พรรคไม่ถูกยุบ ทำข้อตกลงระหว่างประเทศใดๆ ไม่ต้องผ่านความเห็นชอบของสภา ก็ไม่ผิด อะไรทำนองนี้

ถ้าไม่มีกฎหมายเขียนไว้ให้เป็นความผิด ก็จะไม่ผิด แต่เพราะกฎหมายเขียนไว้เลยเป็นความผิด เอาสีข้างเข้าถู แก้ตัวน้ำขุ่นๆ แบบนี้ ก็แน่ซิครับ ถูกวันยังค่ำ ไม่ว่ากรณีอะไรก็ตาม ไม่มีทางผิดไปได้เลย ไม่ได้คิดให้ลึกลงไปถึงต้นตอเลยว่า เพราะพฤติกรรมบิดเบือนรัฐธรรมนูญ แทรกแซงการแต่งตั้งและการปฏิบัติงานขององค์กรตรวจสอบ ใช้อำนาจเงิน และเสียงที่มากกว่าแก้ไขกฎหมายเพื่อประโยชน์แห่งตนและพวกพ้อง นั่นเอง ถึงทำให้เกิดปัญหา

ครั้นจะแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับที่ถูกบิดเบือน ทั้งๆ ที่มีจำนวนมือมากมายก็ไม่ยอมเอาด้วย จนเกิดการอภิปรายนัดประวัติศาสตร์ "ส.ส.เป็นทาสในคอก" ของนายเสนาะ เทียนทอง มาแล้ว มาคราวนี้ อ้างว่ารัฐธรรมนูญ 2550 กลายเป็นปัญหา จะทบทวนกันใหม่ ไม่สนใจว่ารัฐธรรมนูญเกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้ง คณะผู้ร่างสรุปบทเรียนที่ผ่านมาว่าจะเกิดเหตุใช้เงินซื้อเสียง ทุจริตในการเลือกตั้งจึงได้เขียนแนวทางป้องกันไว้ ให้มีโทษทั้งคนและพรรค

ดังความวรรคท้ายมาตรา 237 ที่ว่า ถ้าการกระทำของบุคคลตามวรรคหนึ่ง ปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าหัวหน้าพรรคการเมืองหรือกรรมการบริหารของพรรคการเมืองผู้ใดมีส่วนรู้เห็น หรือปล่อยปละละเลย หรือทราบถึงการกระทำนั้นแล้วมิได้ยับยั้งหรือแก้ไขเพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ให้ถือว่าพรรคการเมืองนั้นกระทำเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญนี้

และในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ยุบพรรคการเมืองนั้น ให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของหัวหน้าพรรคการเมืองและกรรมการบริหารพรรคการเมืองดังกล่าวมีกำหนดเวลาห้าปีนับแต่วันที่มีคำสั่งให้ยุบพรรคการเมือง ครับ ถ้าไม่มีพฤติกรรมความผิดตามที่กฎหมายเขียนไว้เสียอย่าง การยุบพรรค การตัดสิทธิทางการเมืองก็ไม่มีทางเกิดขึ้น ประเด็นปัญหาจึงไม่ได้เป็นเพราะกฎหมายเขียนห้ามและกำหนดโทษไว้อย่างไร แต่อยู่ที่พฤติกรรมของคนไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติกฎหมาย ถูกจับได้ ถูกลงโทษแล้วออกมาโวยวาย กติกาไม่เป็นธรรม กระบวนการรวบรวมหลักฐานไม่เป็นกลาง เรียกร้องให้ลงโทษคน ไม่ให้ลงโทษพรรค อ้างว่า การทำผิดเป็นเรื่องของตัวบุคคลคนนั้น คนอื่นและพรรคไม่ได้ทำผิด ไม่ควรโดนไปด้วย

การที่กฎหมายบัญญติลงโทษพรรคด้วย เจตนารมณ์ก็เพื่อให้พรรคมีความรับผิดชอบ สอดส่อง ควบคุม ดูแลพฤติกรรมของผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคไม่ให้ทำผิดกฎหมาย และป้องกันไม่ให้กรรมการบริหารพรรคเป็นนายทุน หนุนหลังให้ผู้สมัครของพรรคทำผิด ถ้าถูกจับได้ก็รับกรรมไปคนเดียว หากจับไม่ได้พรรคก็ได้ประโยชน์เพราะเมื่อชนะเลือกตั้งจำนวนมือ ส.ส.โดยรวมเพิ่มขึ้น พรรคมีอำนาจต่อรองมากขึ้นตามไปด้วย แนวความคิดเกี่ยวกับการยุบพรรคจึงเป็นไปเพื่อให้พรรค เข้มงวดในกฎ ระเบียบของพรรค และเคารพกฎหมาย สอดคล้องกับหลักการตามรัฐธรรมนูญที่บัญญัติให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งต้องสังกัดพรรค เพื่อส่งเสริมให้พรรคเข้มแข็ง ให้การเมืองมีเสถียรภาพ

แต่พอมีบทบัญญัติให้พรรคทำหน้าที่ของความเป็นพรรค เพื่อความเป็นสถาบันอย่างแท้จริง กลับไม่ยอมรับ ฉะนั้นถ้าจะยกเลิกหลักการ ยุบพรรค ก็ควรจะกลับไปสู่หลักการผู้สมัคร ส.ส.สังกัดพรรคก็ได้ สมัครอิสระก็ได้ แต่ถ้ายังยืนยันหลักการ ส.ส.ต้องสังกัดพรรค พรรคต้องควบคุมกำกับ ดูแลพฤติกรรมของผู้สมัครด้วย อาจมีข้อโต้แย้งว่า การไม่ยุบพรรคต่างหาก ทำให้พรรคเข้มแข็ง มีอายุยืนยาวต่อไปจนกลายเป็นสถาบัน ถามว่ายืนยาวไปเพื่ออะไร และเพื่อใคร เมื่อเป็นที่รองรับคนทำผิด ไม่มีกลไก มาตรการจัดการกันเองภายใน แถมไม่ยอมให้มีกฎหมายควบคุมภายนอกอีก พรรคจะต่างอะไรไปจากกองโจร นั่นเอง

บันทึกการเข้า
เพื่อนร่วมชาติ
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 777


« ตอบ #2 เมื่อ: 14-07-2008, 11:36 »

เสียดายที่กลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่ของไทยรัฐไม่เคยอ่านบทบรรณาธิการ

หรือถ้าบังเอิญอ่าน ก็ไม่รู้จะเข้าใจรึเปล่า

ในหน้านี้ดูเหมือนจะมีสิ่งเดียวที่กลุ่มเป้าหมายพวกนี้เข้าใจ

คือการ์ตูนของไอ้เซีย

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-07-2008, 11:40 โดย เพื่อนร่วมชาติ » บันทึกการเข้า
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #3 เมื่อ: 14-07-2008, 11:39 »

วิเคราะห์ได้โง่เง่า สงสัยลืมอ่านบทวิเคราะห์ของตัวเองหลายวันก่อน

และก็ให้พอดีกับวงในที่ออกมาจากกองทัพ ขุนทหารได้ส่งเทียบเจรจาเงื่อนไข “ล้างไพ่” แต่จะไม่ใช้วิธีการปฏิวัติรัฐประหาร โดยจะปลดล็อกให้นักเลือกตั้งทั้งฝั่งเครือข่าย “ทักษิณ” และฝ่ายตรงข้าม ไปเจรจาหาทางลงกันเอง

การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง

แต่มีข้อแม้ว่า “นายใหญ่” กับ “นายหญิง” จะต้องล้างมือจริงๆ

ไม่ว่าทางแจ้งหรือทางลับ

โดยเงื่อนไขปลดล็อกที่ถูกยื่นออกมาจากฝ่ายคุมเกมเล่น และสัญญาณพร้อมสงบศึกที่ถูกปล่อยออกมาจากฝ่ายที่กำลังดิ้นสู้

ถ้าเปิดทางถอยให้พบกันครึ่งทาง

http://203.151.217.76/news.php?section=politics&content=96704

วิเคราะห์เองแท้ๆ ว่ามี ฝ่ายคุมเกมเล่น เป็นผู้ยื่นข้อเสนอ แถมสามารถปลดล็อคนักการเมือง
ที่โดนแบนได้ด้วย วันนี้ทำโง่บอกว่าทำไมสมัครไม่โทษตัวเอง จะโทษทำหอกอะไรในเมื่อ
ไทยรัฐยังเชื่อว่า มือที่มองไม่เห็น มีจริง ถุย
บันทึกการเข้า
H-edge
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 94


« ตอบ #4 เมื่อ: 14-07-2008, 12:25 »

ท่าทางนายสมัครจะแก่เพราะอยู่นาน เพียงอย่างเดียวจริงๆ  จะอ้างอะไรต่อสู้ก็ดูเหมือนมีความรู้งูๆ ปลาๆ

อ้างทางโลก เกี่ยวกับข้อกฎหมาย ก็ถูก ปปช. อย่างคุณกล้าณรงค์ กับคุณวิชา ตอกกลับสะหน้าหงาย

ว่าเป็นนักกฎหมายรุ่นเก่า สงสัยว่าไม่เคยอ่านรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จึงพูดโดยไม่รู้ หรือโดนคนพูดยุแยง

ตัวท่านได้แต่ว่าผู้อื่นว่าตั้งธงว่าจะทำลายล้าง ไม่ได้มองตัวเองเลยว่า ตัวเองก็ตั้งธง เป็นอคติกับเขาไปทั่ว

เหมือนกัน ยังไม่ทันได้รู้ข้อเท็จจริงอะไร ก็โวยวาย ว่านู่น ตำหนินี่ไปก่อน

หรืออุตสาห์จะอ้าง ทางพุทธเข้าข่ม เพราะคิดว่าตนเองก็ปูนนี้ ความรู้แก่กล้าทั้งทางโลก และทางธรรม

ก็ยังอุตสาห์ ดึงพระพุทธศาสนาเข้าข้างตนเองจนได้ พูดไปให้อายเด็กประถม ที่ได้เรียนได้รู้ วิชาพุทธศาสนา

น่าจะไล่คนแก่ปูนนี้ไปเรียนวิชาพุทธศาสนาใหม่เพื่อให้เข้าใจถึงเรื่องทุกข์มากขึ้น

จึงขอนำคำถามของพราหมณ์และคำตอบของพระพุทธเจ้า มาให้อ่าน เผื่อไอ้พวกหน้าแมว จะเข้าใจกันมากขึ้น

พราหมณ์ : ทุกข์เราเป็นคนทำเองหรือพระเจ้าข้า
พระพุทธองค์ : อย่ากล่าวอย่างนั้นเลย
พราหมณ์ : ทุกข์เกิดเพราะเราร่วมกับคนอื่นช่วยกันทำหรือพระเจ้าข้า
พระพุทธองค์ : อย่ากล่าวอย่างนั้นเลย
พราหมณ์ : ถ้าเช่นนั้นทุกข์เกิดขึ้นไม่ใช่จากเราและคนอื่นช่วยกันทำหรือพระเจ้าข้า
พระพุทธองค์ : อย่ากล่าวอย่างนั้นเลย
พราหมณ์ : ถ้าเช่นนั้นทุกข์เกิดขึ้นเพราะอะไรพระเจ้าข้า
พระพุทธองค์ : ทุกข์เกิดขึ้นเพราะความมีอวิชชาหลงยึดตัวตนของตนว่ามีอยู่


เหมือนผู้นำเห็นแก่ตัว มองแต่ทุกข์ของท่านผู้นำ ที่จะถูกยุบพรรค แต่ไม่ได้มองลึกลงไปจริงๆ เลยว่า

การที่นายยงยุทธทำทุกวิถึทางเพื่อให้ได้เป็น สส. เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจเพื่อทำการสิ่งต่างๆ ก็เพราะ

นายยงยุทธหลงยึดตัวตนของตนว่ามีอยู่ไม่ใช่หรือ  กลับกลายเป็นว่ามอง รัฐธรรมนูญซึ่งเป็นวิถีการดับทุกข์

ของชาติบ้านเมืองเพื่อกำจัดนักการเมืองชั่วๆ ที่คอยหาผลประโยชน์ จากความรู้น้อยของประชาชนด้วยการซื้อเสียง

มาเป็นทุกข์ของตนเอง

รัฐธรรมนูญ 50 เกิดขึ้นเพราะนักการเมืองเลวทรามที่คอยหาผลประโยชน์ทุกวีถีทาง เมื่อนักการเมืองคิดวิธีโกงกิน

ผิดกติกาได้มากมาย รัฐธรรมนูญถึงต้องคอยไปอุดรู ให้ไอ้พวกชั่วๆ ทำอะไรไม่ค่อยได้ หรืออย่างน้อย จะได้เกรงกลัวกัน

บ้าง  

คิดบ้างสิ    เพราะสิ่งนี้เกิด สิ่งนั้นจึงเกิด   และถ้าสิ่งนี้ดับ สิ่งนั้นจึงจะดับตาม


เหมือนเทศนาให้ควายฟังไหมเนี่ย   ฮ่าๆๆๆๆ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: