ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
29-03-2024, 05:39
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  **ผมกลับเห็นด้วยนะ เรื่องเช่ารถเมล์ NGV 6,000 คันเนี่ย..** 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
**ผมกลับเห็นด้วยนะ เรื่องเช่ารถเมล์ NGV 6,000 คันเนี่ย..**  (อ่าน 3346 ครั้ง)
*bonny
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,459



« เมื่อ: 12-07-2008, 11:37 »

ผมเกิดและโตที่กรุงเทพนี่เอง..

รู้ดีว่า ขืนปล่อยให้ ขสมก.บริหารรถเมล์ที่มีอยู่นี้ไปเรื่อยๆ มีแต่เจ๊งกับเจ๊ง ไม่ว่าจะขึ้นค่าโดยสารหรือไม่ก็ตาม ขึ้นก็เจ๊ง ไม่ขึ้นเจ๊งเร็วขึ้น มีเท่านั้นเอง

คน ขสมก. ไม่ได้คำนึงถึงผลขาดทุนกันแล้ว เพราะรู้ว่า ทำให้ตายยังไงก็ไม่มีโอกาสพลิกฟื้นมากำไรได้หรอก เนื่องจากเป็นขนส่งสาธารณะ มีข้อจำกัดมากกมาย อาทิ..

1) ขึ้นราคาไม่ได้ตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ไม่เหมือนสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป ครั้นจะใช้หลักเศรษฐศาสตร์ดีมานด์-ซัพพลายมากำหนดราคาก็ยิ่งไม่ได้ใหญ่  ต้องใช้หลัก การอดกลั้น เท่านั้น

2) ต้องยอมรับว่า องค์กรนี้ ไม่เป็นที่สนใจของนักการเมืองเกรดเอ ไม่มีใครอยากเข้ามาบริหาร จัดการ ดูแลหรอกครับ เพราะขาดทุนทั้งชาติ  จะซื้ออะไรใหม่ๆ ก็ตาม ล้วนต้องขอกู้เงินทั้งนั้น

3) ให้บริการเฉพาะคนกทม. ซึ่งเป็นชาวเมืองที่ความรู้สึกไวมากที่สุดในประเทศ อะไรนิด อะไรหน่อย บ่นดะ ฟ้องอุตลุต เอาใจยาก ขี้โวยวาย ขี้เหนียวโคตร  สารพัด  ถ้าขสมก.ให้บริการกับคนทั่วประเทศได้ ป่านนี้กำไรอู้ฟู่ไปแล้ว

4) เนื่องจากเป็นองค์กรที่ไม่มีกำไรมาช้านาน พนักงานที่มีความสามารถ มีการศึกษาดี มีอนาคต ไปทำงานในสังกัดอื่นๆ หมด  ผู้บริหารก็นั่งแคะขี้เล็บไปวันๆ ไม่ได้สนใจหรอกว่า มันจะกำไรหรือขาดทุนเพราะรู้อยู่แล้ว นั่งรอว่า วันหนึ่ง อาจมีราชรถมาเกย ได้ไปทำงานในหน่วยอื่นบ้าง


หวังว่า เพื่อนๆ คงจำ รสพ.ได้นะครับ สภาพของ ขสมก.ก้ไม่แตกต่างกันนัก รอวันที่จะมีคนกล้ามายุบทิ้งเท่านั้น

ผมจึงขอเป็นคนหนึ่งที่เห็นด้วยกับแนวทางการเช่ารถ NGV ของรัฐบาลนี้อย่างยิ่ง  แต่............ขอเงื่อนไขให้รัฐบาลไปดูแลด้วยดังนี้

1) การกำหนดสเปครถ ราคาค่าเช่า ระยะเวลาการเช่า และค่าใช้จ่ายในการซ่อมำรุง ต้องเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชนให้ชัดเจน

2) ต้องเปิดให้มีการประมูลแข่งขันจากผู้ให้บริการทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะบริษัทในประเทศจีนเท่านั้น

3) ต้องไม่ให้คณะผู้บริหารของ ขสมก. ชุดปัจจุบันเป็นผู้บริหารจัดการ แต่ต้องเปิดให้มีการคัดเลือกบุคคลภายนอกเข้ามารับบริหารในฐานะมืออาชีพ เหมือนเช่น ผอ.การท่าฯ  ผอ.อสมท.  ผอ.การบินไทย ขั้นตอนการคัดเลือกต้องโปร่งใส ไม่มีนักการเมืองเข้าไปแทรกแซงการคัดเลือก

4) เปิดเผยเงื่อนไขของสัญญาเช่าให้ประชาชนทั่วไปรับทราบก่อนทำการเซ็นสัญญา ป้องกันการหมกเม็ด



ถ้าทำได้ตามนี้ ก็รีบๆ ทำเถิดครับ ผมเชียร์เต็มที่..
บันทึกการเข้า

ประเทศชาติมีภัย  เสรีไทยร่วมกอบกู้
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 12-07-2008, 11:42 »

สิ่งที่คุณขอมามันจะกล้าทำเหรอ
บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
ฟ้าเข้ม
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 462


« ตอบ #2 เมื่อ: 12-07-2008, 11:55 »

เพราะว่าไอ้เงื่อนไขข้อที่คุณ bonny บอกมา มันไม่ยอมทำน่ะสิ เพราะนั่นเป็นช่องทางหากินของเค๊าเลยแหละ

จริงๆถ้ามันโปร่งใส เป็นประโยชน์จริง ข้อเสียน้อยกว่าข้อดี คนก็สนับสนุน

แต่สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่เป็นผลประโยชน์แอบแฝงอยู่ดี แถมกินทีก้อนใหญ่ซะด้วย
บันทึกการเข้า
เพื่อนฝัน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 493



« ตอบ #3 เมื่อ: 12-07-2008, 12:00 »

ถ้าทำตามที่คุณ bonny บอกได้ ก็ขอสนับสนุน อีกคน ถึงแม้ตอนี้จะทำงานอยู่ ต่างจังหวัดก็ตาม 
ถ้าไม่เอื้อประโยชน์ ต่อ คนบางกลุ่ม แต่ เอื้อประโยชน์กับคนกลุ่มใหญ่
บันทึกการเข้า

ใครสอนใครสั่ง ดูถูกประชาชน เป็นม็อบข้างถนน บิดเบือนเหมือนคนตกรุ่น
เรามาชุมนุม ใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ ขับไล่รัฐบาลหุ่น ที่เป็นสมุนของอาชญากร
katindork
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 369


« ตอบ #4 เมื่อ: 12-07-2008, 12:46 »

พูดถึง รสพ. เนี่ย  ผมยังรู้สึกเป็นหนี้อยู่เลย

เคยส่งของผ่านรสพ. เมื่อสิบกว่าปีก่อน2-3เที่ยว  แล้วไม่ได้จ่ายตังค์ Frown Frown

รอให้มาเก็บตังค์ก็ไม่มาเก็บ  โทรไปตามก็รับเรื่องแกนๆไปงั้น
แต่ใจคิดตามประสาคนทำมาหากินแบบชาวบ้านว่า
เงินอยู่นี่ ตัวฉันก็ไม่ได้ไปไหนปักหลักตรงนี้แหละ อยากได้มาเอาเอง

เดี๋ยวนี้เลิกไปแล้ว  เฮ้อหนี้ส่วนนี้จะไปจ่ายเป็นไรดี  แต่ยืนยันไม่เอาไปจ่ายหลวงแน่นอน จ่ายให้มีประโยชน์กะบ้านเมืองดีกว่า
อารยะขัดขืนแบบของป๋มมันเริ่มแล้ว มันขัดๆไงมิรู้
บันทึกการเข้า
protecter
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 465


« ตอบ #5 เมื่อ: 12-07-2008, 12:54 »

ผม คน กทม ขอสนับสนุนด้วยคน ถ้า...............

1.ค่ารถไม่ควรเกิน 10 บาทตลอดสาย เหตุเพราะใช้แก๊ส จะเก็บเท่ารถใช้น้ำมันได้อย่างไร และการเก็บค่ารถเมล์ในราคาที่ไม่สูง จะเป็นการช่วยคนระดับล่างจริงๆ ดีกว่าเอาเงินไปแจกคนละ 300-500 บาท

2.ค่าเช่ารถต่อวันต่อคันไม่ควรเกิน 2500 บาท เพราะเป็นการเช่าระยะยาวนับ 10  ปี (ถ้าเช่า 10 ปี วันละ 5100 บาท ตกรวมๆ 19 ล้านบาท ซื้อไม่คุ้มกว่าหรอ)

ถ้าทำได้ 2 ข้อตามที่ผมว่า ผมขอสนับสนุน
แต่ผมคิดว่าหมักทำไม่ได้แน่นอน เพราะถ้าทำตามที่ผมพูด........แล้วหมักจะกินอะไรรรรรรรรรรรรรรร

สรุป...ถ้าทำไม่ได้ 2 ข้อ ผมไม่สนับสนุนคราบบ
บันทึกการเข้า
almondflavor
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 320



« ตอบ #6 เมื่อ: 12-07-2008, 12:57 »

ถ้ามันทำตามที่คุณบอนนี่บอก เราก็เห็นด้วยคะ

แต่เชื่อได้ว่า..."พวกมัน" ไม่ทำแน่นอน

เพราะที่มันรีบชงเรื่องขนาดนี้เพราะจะเอาเงินที่เขาว่ากันว่าได้คัยละล้านแน่นอน

เพราะไอ้หน้าหมูปาก***สกปรกมันชอบกินสินบนอยู่แล้ว

เราก็เป็นคนกรุงเทพตั้งแต่เกิด วันที่รถแท็กซี่ขึ้นราคาวันแรก ต้องออกไปข้างนอก เลยนั่งรถเมล์

เลยได้รับประสบการณ์ระทึกกับรถร่วมบริการ ขับซิ่งมากทั้งๆที่รถติด และเบรคแรงมากจนแทบตกจากเก้าอี้

และมีเรื่องกับรถคันอื่นๆตลอดทาง พอถึงที่ลงดีใจมากที่ถึงซะที
บันทึกการเข้า
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 12-07-2008, 12:58 »

 


เดี๋ยวมันก็โดนเปิดแผลเหมือนที่ญี่ปุ่นอีกหรอก
บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
almondflavor
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 320



« ตอบ #8 เมื่อ: 12-07-2008, 13:22 »

ผม คน กทม ขอสนับสนุนด้วยคน ถ้า...............

1.ค่ารถไม่ควรเกิน 10 บาทตลอดสาย เหตุเพราะใช้แก๊ส จะเก็บเท่ารถใช้น้ำมันได้อย่างไร และการเก็บค่ารถเมล์ในราคาที่ไม่สูง จะเป็นการช่วยคนระดับล่างจริงๆ ดีกว่าเอาเงินไปแจกคนละ 300-500 บาท....

มันบอกแล้วคะ ว่าค่ารถต้อง 15 บาท ถึงไม่สนับสนุนไงคะ

คนที่เค้ามีรายได้วันละ 100 กว่าบาท ขึ้นรถไปกลับ ก็ 30 บาทแล้ว

แล้วเค้าจะอยู่กันอย่างไรคะ
บันทึกการเข้า
chaturant
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 499



« ตอบ #9 เมื่อ: 12-07-2008, 14:09 »

เรื่องนี้ใครๆก็สนับสนุนครับ เพราะว่า รถเมย์ปัจจุบันแย่เหลือเกิน และจะทำให้ความเป็นอยู่ ของ คน กทม ดีขึ้น แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่ เช่ารถเมย์แค่ 6 พันคันในเวลา 10 ปี ได้แค่เช่าน่ะครับ ขอย้ำ   แต่ใช้เงินและค่าดูแลรักษาถึง 110,000 ล้านบาท เศษ   เท่ากับสร้างรถไฟฟ้าบนดินได้อีก 2 สาย เท่ากับสร้างสุวรรณภูมิได้อีกแห่ง  แพงกว่าตอนขายหุ้น ปตท. ครั้งแรก ซึ่ง ปตท. ขายหุ้นทั้งหมดในราคาแค่ 30,000 กว่าล้าน   แต่ได้แค่เช่ารถ


หุ่นเชิดกำลังโกงชาติอีก 60,000 ล้าน!
สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ได้เปิดเผยว่าโครงการซื้อรถก๊าซเอ็นจีวีของ ขสมก. สังกัดกระทรวงคมนาคมจำนวน 6,000 คันนั้นมีการจ่ายเงินใต้โต๊ะกันถึง 6,000 ล้านบาท แล้วแบ่งเป็น 3 ส่วนๆ ละ 2,000 ล้านบาท
       
        ชะงักไปกึกหนึ่ง แต่ขณะนี้กำลังเดินหน้าเต็มอัตราศึกแล้ว!
       
        ข้อมูลของพรรคประชาธิปัตย์ดังกล่าวเป็นเพียงส่วนเดียวคือส่วนผิวบนเท่านั้น แท้จริงแล้วโครงการนี้โกงชาติกว่า 60,000 ล้านบาท ดังนั้นทำความเข้าใจกันให้ดีๆ แล้วร่วมกันขัดขวางการโกงชาติเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด
       
        โครงการนี้ได้เริ่มต้นมาตั้งแต่กลางปี 2549 คราวนั้นมีจำนวนรถแค่ 2,000 คัน วางแผนการกันให้ ปตท. ซื้อรถจากบริษัทในประเทศจีน ราคาคันละประมาณ 3 ล้านบาทเศษ แล้วยกให้ฟรีแก่ ขสมก. แต่ ขสมก. ต้องซื้อก๊าซเอ็นจีวีจาก ปตท. ในราคาตลาดบวกด้วย 12 บาทต่อหน่วย ตลอดระยะเวลาที่ใช้รถ
       
        สิริรวมแล้ว ขสมก. จะต้องจ่ายค่ารถ ก๊าซเอ็นจีวี ภายใต้รูปแบบว่าจ่ายค่าก๊าซส่วนเกินจากราคาตลาด ตลอดระยะเวลาใช้รถรวมเป็นเงินถึง 12 ล้านบาทต่อคัน
       
        คิดเอาง่ายๆ ตัวเลขกลมๆ ว่าค่ารถคันละ 4 ล้านบาท แต่ ขสมก. จะต้องจ่ายเป็นเงินถึง 12 ล้านบาท เกินราคาปกติไปถึงคันละ 8 ล้านบาท จำนวนรถ 2,000 คัน ก็จะเป็นเงินถึง 16,000 ล้านบาท
       
        โชคดีที่คราวนั้นยังไม่ทันได้ตกลงทำเป็นสัญญากันก็เกิดการยึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 เสียก่อน โครงการนี้จึงพักไป
       
        ครั้นรัฐบาลหุ่นเชิดเข้ามามีอำนาจ ก็มีคนวิ่งเต้นเรื่องนี้ต่อไปอีก วิ่งไปเมืองจีนหลายครั้งหลายหน ในที่สุดก็ปรับแผนใหม่
       
        ทำเป็นโครงการให้ ขสมก. เช่ารถก๊าซเอ็นจีวี 6,000 คัน ซึ่งเป็นรถแบบเดียวกัน ผลิตจากที่เดียวกัน โดยเช่าเป็นเวลา 10 ปี ทั้งๆ ที่กำลังเร่งโครงการรถไฟฟ้าอีกหลายสาย และตั้งงบประมาณค่าเช่า ค่าซ่อมบำรุงรวมเป็นเงิน 110,000 ล้านบาทเศษ
       
        แล้วมาหลอกคนไทยตอบโต้ข้อกล่าวหาของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ว่าค่าเช่ารถวันละ 5,000 กว่าบาท จะมีเงินใต้โต๊ะถึง 6,000 ล้านบาทได้อย่างไร?
       
        หลอกแบบที่เห็นคนไทยโง่เป็นวัวควาย เพราะเด็กชั้นมัธยมที่บวกลบคูณหารเป็นก็คิดได้ดังต่อไปนี้
       
        คิดตัวเลขกลมๆ ว่าค่าซื้อรถก๊าซเอ็นจีวีคันละ 4 ล้านบาท จำนวน 6,000 คัน จะตกเป็นเงินค่าซื้อรถ 24,000 ล้านบาท หากจะเทียบกับงบประมาณค่าเช่าทั้งหมด 110,000 ล้านบาท ขสมก. ก็จะต้องจ่ายเงินมากกว่าค่าซื้อถึง 86,000 ล้านบาท
       
        แต่คิดอย่างนี้จะไม่เป็นธรรม เพราะว่ารถที่ซื้อมานั้นมีมาตรฐานการใช้งานในระยะ 5 ปี ดังนั้นเมื่อครบ 5 ปีก็ต้องเอารถที่เหลือใช้ไปบริจาคให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือหน่วยงานต่างๆ เอาไปปรับปรุงใช้สอย ก็จะทำให้ อบต. หรือ อบจ. หรือโรงเรียนต่างๆ ได้รถเก่าไปใช้ถึง 6,000 คัน
       
        ไม่ต้องคิดเป็นค่าขายรถเก่าให้ยุ่งยาก เอาเป็นว่ายกให้ไปฟรีๆ ก็ได้ จากนั้นก็ซื้อรถใหม่มาทดแทนรถเก่าในจำนวนเท่ากันคือ 6,000 คัน เป็นเงินอีก 24,000 ล้านบาท
       
        รวมเป็นเงินที่ซื้อรถ 6,000 คันสำหรับ 5 ปีแรก กับเงินที่ซื้อรถ 6,000 คันสำหรับ 5 ปีหลังก็จะเป็นเงินรวมทั้งสิ้น 48,000 ล้านบาท
       
        หมายความว่าในระยะเวลา 10 ปี ขสมก. ใช้เงินเพียง 48,000 ล้านบาทก็ซื้อรถก๊าซเอ็นจีวีได้ 2 ครั้งๆ ละ 6,000 คัน แล้วยังมีรถเก่าเอาไปบริจาคให้แก่โรงเรียนหรือ อบต. ได้ทั่วประเทศอีกต่างหาก
       
        ค่าซื้อ 2 รอบรวมเป็นเงิน 48,000 ล้านบาทนี้เมื่อเทียบกับค่าเช่าที่รัฐบาลหุ่นเชิดตั้งไว้ 110,000 ล้านบาทแล้ว ก็ยังถูกกว่าค่าเช่าถึง 62,000 ล้านบาท
       
        ก็ต้องโห่ดังๆ ว่าโครงการนี้คือโครงการโกงชาติ 62,000 ล้านบาท แต่คิดตัวเลขกลมๆ เป็นว่า 60,000 ล้านบาท
       
        ถ้าการแบ่งสัดส่วนเงินใต้โต๊ะ 6,000 ล้านบาทเป็นดังที่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เปิดเผย ก็คิดดูกันเอาเองว่าเงิน 62,000 ล้านบาทนี้ เมื่อแบ่งเป็น 3 ส่วนแล้ว จะได้ส่วนละเท่าใด?
       
        แล้วถามว่าใครเป็นคนจ่ายเงินที่โกงชาตินี้? ก็ต้องตอบว่าประชาชนทุกคนที่โดยสารรถ ขสมก.
       
        เพราะเขาบอกมาตั้งแต่ไก่โห่แล้วว่าจะปรับอัตราค่าโดยสารจากปกติที่ชาวบ้านเคยเสีย 7 บาท เป็น 15 บาท
       
        ดังนั้นคนที่เดือดร้อนจริงๆ ก็คือมวลชนคนรากหญ้าผู้มีรายได้น้อย หรือปานกลางที่ต้องพึ่งพาอาศัยบริการรถ ขสมก.
       
        ตอนนี้เขาล็อกสเป็ก ล็อกบริษัทผู้ขายไว้เรียบร้อยแล้ว เซ็นสัญญาวันไหนเงินใต้โต๊ะมหาศาลก็จะผ่านฉลุยออกมา
       
        แล้วถามว่าสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินและ ป.ป.ช. ตลอดจนฝ่ายค้านและวุฒิสภาจะไม่ชำเลืองดูและตรวจสอบโครงการนี้บ้างเลยหรือ?
บันทึกการเข้า
西施无情
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 456


ไซซีไ้ร้ใจ


« ตอบ #10 เมื่อ: 12-07-2008, 14:20 »

ตั๋วขั้นต่ำ 15 บาทตลอดสาย ทั้งวันทั้งคืน ไม่ใช่หรือคะ ?? 

โครงการดีนะคะ แต่ดูจากค่าเช่ารถแล้ว จะคุ้มเหรอ

บันทึกการเข้า

我愛你, 陈一冰,
chaturant
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 499



« ตอบ #11 เมื่อ: 12-07-2008, 14:38 »

ตั๋วขั้นต่ำ 15 บาทตลอดสาย ทั้งวันทั้งคืน ไม่ใช่หรือคะ ?? 

โครงการดีนะคะ แต่ดูจากค่าเช่ารถแล้ว จะคุ้มเหรอ





มันดีครับ แต่ลองคำนวนตัวเลขดูสิครับ ซื้อไม่ถูกกว่าหรอครับ  รถใช้แล้ว ซัก5 ปี ก็ยังสามารถเอาไปบริจาคหรือขายต่อได้อีกด้วย  60,000 ล้าน นี้สามารถซื้อรถได้ 2 ชุดเลยน่ะ 5ปี 6 พันคัน  อีก 5 ปีอีก 6 พันคัน  ได้รถ ถึง 12,000 คัน แต่นี้มันล่อไป  แสนล้านบาท ได้รถแค่เช่า  ทั้งๆที่ซื้อถูกกว่าเยอะ
บันทึกการเข้า
西施无情
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 456


ไซซีไ้ร้ใจ


« ตอบ #12 เมื่อ: 12-07-2008, 14:56 »

ที่ไม่เข้าใจตั้งแต่แรกว่าทำไมต้องเช่าค่ะ แพงขนาดนั้น ประเทศเรารวยมากเลยนะเนี่ย 

ยอมผ่อนยังจะดีกว่าอีก 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-07-2008, 15:56 โดย 西施无情 » บันทึกการเข้า

我愛你, 陈一冰,
*bonny
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,459



« ตอบ #13 เมื่อ: 12-07-2008, 15:41 »

พูดถึง รสพ. เนี่ย  ผมยังรู้สึกเป็นหนี้อยู่เลย

เคยส่งของผ่านรสพ. เมื่อสิบกว่าปีก่อน2-3เที่ยว  แล้วไม่ได้จ่ายตังค์ Frown Frown

รอให้มาเก็บตังค์ก็ไม่มาเก็บ  โทรไปตามก็รับเรื่องแกนๆไปงั้น
แต่ใจคิดตามประสาคนทำมาหากินแบบชาวบ้านว่า
เงินอยู่นี่ ตัวฉันก็ไม่ได้ไปไหนปักหลักตรงนี้แหละ อยากได้มาเอาเอง


จริงๆ ตอนนั้นควรวิ่งไปจ่ายนะครับ ระบบราชการไม่มีการติดตามหนี้สินจำนวนไมมากเช่นนี้ ถ้าต้องวิ่งไล่เก็บ อาจขาดทุนมากกว่านี้อีกครับ

เป็นจิตสำนึกของพวกเราที่จะต้องช่วยเหลือทางราชการบ้างนะครับ  เหมือนกรณีขึ้นรถเมล์ ขสมก.แล้วกระเป๋านั่งหลับไม่มาเก็บค่าโดยสารเรา
ความรู้สึกด้านโลภบอกเราว่า "เออ..ดีว่ะ วันนี้ไม่เสียตังค์แล้ว"  แต่ความรู้สึกสำนึกรับผิดชอบต่อบ้านเมือง ต้องรีบไปปลุกมันขึ้นมาเก็บตังค์เราและคนอื่นๆ ที่กำลังจะขึ้น  "เฮ้ย !!! ตื่นๆ ๆ รถเมล์ขาดทุนก็เพราะเอ็งมานั่งหลับอยู่อย่างนี้แหละ  เอ้า..เอาไปสิบบาท"  ถ้าเราไม่ไปปลุก เงินไม่เข้าขสมก. รัฐก็ต้องเป็นคนจ่าย รัฐเอาเงินภาษีของทุกคนมาแชร์ค่าโดยสารที่คุณไม่จ่ายอยู่ดี  สรุป..คนขับกับกระเป๋าไม่ได้เดือดร้อนหรอกครับ

ผมคิดว่า พวกเราไม่มีใครคิดจะโกงรัฐหรอกครับ เราสงสารรัฐบาลด้วยซ้ำไป

ส่วนอารยะขัดขืน คงไม่ใช่กรณีที่คุณทำเป็นแน่ เพราะอารยะหมายถึง คนชั้นปัญญาชนที่คิดดีแล้วนะครับ

ขอประทานโทษนะครับ หากผมพูดไม่ถูกใจไปบ้าง

....................................................

ผม คน กทม ขอสนับสนุนด้วยคน ถ้า...............

1.ค่ารถไม่ควรเกิน 10 บาทตลอดสาย เหตุเพราะใช้แก๊ส จะเก็บเท่ารถใช้น้ำมันได้อย่างไร และการเก็บค่ารถเมล์ในราคาที่ไม่สูง จะเป็นการช่วยคนระดับล่างจริงๆ ดีกว่าเอาเงินไปแจกคนละ 300-500 บาท



อืมม์.. ถ้าคิดว่า 15 บาทโดยไม่ขึ้นราคาไปอีกสัก 3 - 5 ปี ผมก็ยังคิดว่า ดีกว่า 10 บาทตอนนี้ แล้วทนได้ปีเดียวต้องปรับราคาบ่อยๆ นะครับ

ตอนนี้ เงินเฟ้อสูงขนาดนี้ ให้เด็กเช็ดกระจกรถ 10 บาท บางทียังถูกมองหน้า

ถ้ารถไฟฟ้าเริ่มต้นที่ 15 บาท แล้ว บวก บวก ไปสถานีละ 5 บาทแบบนี้  ผมว่า 15 บาทตลอดสายเป็นราคาที่สมเหตุสมผลนะครับ

.............................................................

เรื่องนี้ใครๆก็สนับสนุนครับ เพราะว่า รถเมย์ปัจจุบันแย่เหลือเกิน และจะทำให้ความเป็นอยู่ ของ คน กทม ดีขึ้น แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่ เช่ารถเมย์แค่ 6 พันคันในเวลา 10 ปี ได้แค่เช่าน่ะครับ ขอย้ำ   แต่ใช้เงินและค่าดูแลรักษาถึง 110,000 ล้านบาท เศษ   เท่ากับสร้างรถไฟฟ้าบนดินได้อีก 2 สาย เท่ากับสร้างสุวรรณภูมิได้อีกแห่ง  แพงกว่าตอนขายหุ้น ปตท. ครั้งแรก ซึ่ง ปตท. ขายหุ้นทั้งหมดในราคาแค่ 30,000 กว่าล้าน   แต่ได้แค่เช่ารถ


หุ่นเชิดกำลังโกงชาติอีก 60,000 ล้าน!
สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ได้เปิดเผยว่าโครงการซื้อรถก๊าซเอ็นจีวีของ ขสมก. สังกัดกระทรวงคมนาคมจำนวน 6,000 คันนั้นมีการจ่ายเงินใต้โต๊ะกันถึง 6,000 ล้านบาท แล้วแบ่งเป็น 3 ส่วนๆ ละ 2,000 ล้านบาท
      
       

ผมว่า ปชป.ก็เกินไปหน่อย เป็นไปไม่ได้หรอกครับ โกงที 60,000ล้าน จากโครงการ 110,000ล้าน ซึ่งต้องใช้เวลาจ่ายอีก 10 ปี  โดยปกติค่าคอมจะจ่ายทีแรกเมื่อได้งาน กับอีกทีเมือส่งมอบของ พอเดินเครื่องแล้ว ตัวใครตัวมัน (เพราะถือว่า ได้งานแล้ว ไม่ต้องสนก็ได้)

งานนี้ผมถึงตั้งเงื่อนไขว่า ต้องเปิดประมูลไงครับ  เอาญี่ปุ่น เอายุโรป เอาแคนาดา เอาเกาหลี มาร่วมด้วย อย่าเอาจีนอย่างเดียว

สินค้าจีนก็รู้ๆ กันอยู่เรื่องย้อมคุณภาพขาย  ตรงนี้ไงครับที่เพื่อนๆ สงสัยว่า ทำไมค่าบำรุงรักษามันถึงตกเป็นภาระของผู้เช่าหว่า แทนที่จะเป็นผู้ให้เช่า

ก็เพราะมันมากมายมหาศาลน่ะสิครับ  อาจมากกว่าตัวรถด้วยซ้ำไป  ดังนั้น..บริษัทจีนเองยังไม่กล้ารับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนนี้เลย แต่ผลักให้เรารับไป

ตรงนี้ก็อยู่ที่เงื่อนไขที่กท.คมนาคมกำหนด  ถ้าเรายืนยันว่า ค่าซ่อมบำรุง ทางผู้ให้เช่าต้องรับภาระ เขาก็ต้องไปปรับปรุงตัวเลขมานำเสนอใหม่  ถ้าไม่พอใจ เราต้องสามารถเลือกเจ้าอื่นๆ ได้ ไม่ใช่ถูกมัดมือชก

ส่วนประเด็นที่คุณ 西施无情สงสัยว่า ทำไมไม่ซื้อ ถ้าเช่าแพงขนาดนั้น

ส่วนตัวผมคิดว่า น่าจะเป็นการให้บริการเปลี่ยนรถมาวิ่งแทนรถที่เสียได้ทุกวันครับ  คือ เขาจะต้องมีรถสแตนบายให้เรา เวลาที่รถเสีย  ตรงนี้ก็ถือว่า สะดวกดี ไม่ต้องรอรถซ่อม

แต่ตรงนี้ก็สามารถเจรจาได้อีก  ถ้าไม่เช่า เป็นเช่าซื้อได้ไหม  หมดสัญญา 10 ปี รถน่าจะยังมีสภาพใช้งานได้นะครับ  อายุรถที่มีการบำรุงรักษาดีๆ ตามตาราง สามารถใช้งานได้ 15 ปีเป็นอย่างต่ำ  ถ้าเราเช่าซื้อ 10 ปี พอหมดสัญญา รถก็ตกเป็นของเรา ไม่เอามาวิ่งในกทม. ก็เอาไปวิ่งในจังหวัดใหญ่ๆ ได้ต่อ  ส่วนกทม.ก็เช่าซื้อล็อตใหม่ น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เช่าอย่างเดียว

ทุกอย่างอยู่ที่การเจรจาครับ  สำคัญว่า รัฐบาลอย่าเพิ่งด่วนสรุปเร็วเกินไปโดยอ้างความเดือดร้อนของประชาชนโดยรัฐยอมเสียเปรียบนายทุนต่างชาติ  ตรงนี้..ระบอบทักษิณทำบ่อยครับ  ชอบอ้างความจำเป็นเร่งด่วน ใช้วิธีพิเศษในการจัดซื้อจัดจ้าง  ชงกันเอง กินกันเอง

ที่ยกข้อติติงมาทั้งหมดก็เพราะไม่ใช่อยากให้โครงการดีๆ ล้มไปนะครับ  เรื่องโกงกินชาติ ขอเอาไว้สักเรื่องไม่ได้หรือ?


หมายเหตุ..
ถ้าเป็นรัฐบาลปชป.เป็นแกนนำ ผมก็ยังไม่ค่อยไว้วางใจอยู่ดีครับ  ไม่รู้ว่า ใครดูแลคมนาคม ถ้าเป็นพรรคเติ้ง พรรคสุวิทย์  พรรคสุวัจน์  พอชงเรื่องขึ้นมาในครม. ผมก็ยังคิดว่า ปชป.ไม่กล้าค้านอยู่ดีน่ะแหละ  เพราะเกรงใจพรรคร่วม กลัวเขาจะถอนตัว ยิ่งเสียงปริ่มน้ำอยู่

เชื่อผมเหอะ..ใครทำก็กินทั้งนั้นครับ มากหรือน้อยเท่านั้นเอง  แต่ยุคนี้ พลังแม้วทำ ก็ต้องกินมากหน่อยเพราะรู้ว่าเวลามันสั้น ต้องเร่งทำเป้า
บันทึกการเข้า

ประเทศชาติมีภัย  เสรีไทยร่วมกอบกู้
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #14 เมื่อ: 12-07-2008, 16:10 »

1. ปกติถ้ารถเสียทางบริษัทที่ให้เช่าต้องเอาไปซ่อมแล้วหารถใหม่มาให้ใช้แทนไม่ใช่ให้เช่ามาจอดทิ้งไว้แล้วบอกว่าสำรองเผื่อเสีย
2. ราคาดูแล้วเช่าชื้อถูกกว่าอีกขนาดรวมค่าซ่อมบำรุงแล้ว
3. คนใช้เท่าเดิม ต่อให้เพิ่มรถ คนก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นแถมยังอาจลดลงอีก เพิ่มรถมาจะให้วิ่งซดก๊าซเล่นรึ หรือจะเอารถมาจอดทิ้งไว้เล่น ๆ ไปแก้เรื่องเส้นทางที่วิ่งซ้อนทับกันกับพัฒนาระบบขนส่งมวลชนให้เชื่อมต่อกันก่อนจะดีกว่ากระมัง
บันทึกการเข้า
เอกราช
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 826


กับคนที่ไร้ซึ่งจริยธรรม ยังจะสามารถสมาคมด้วยหรือ


« ตอบ #15 เมื่อ: 12-07-2008, 16:19 »

นโยบายดีแต่พฤติกรรมเลว
 
บันทึกการเข้า

สภาพดินฟ้าอากาศที่ได้เปรียบมิสู้มีชัยภูมิที่มั่นคง
ชัยภูมิที่เป็นเลิศมิอาจเทียบได้กับความมีน้ำหนึ่งใจเดียวของผู้คน
天时不如地利,地利不如人和
1ktip
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,457



« ตอบ #16 เมื่อ: 12-07-2008, 16:24 »

เริ่มโครงการมาก็ผิดแล้วครับ ถ้าใส่ใจจะแก้ปัญหาจริง ต้องเริ่มจากรื้อสัมปทานทั้งหมดก่อน แล้วกำหนดเส้นทางวิ่งไม่ให้ทับซ้อนกัน

ร่วมกับการวางแผนแม่บทการจราจรใหม่ เชื่อมต่อเส้นทางขนส่งมวลชนอื่นๆ

ถึงจะประเมินได้ว่าควรจะจัดซื้อหรือเช่ารถกี่คัน สำรองกี่คัน เล่นเอาตัวเลขจากจำนวนรถที่วิ่งจากเส้นทางในขณะนี้มาประเมิน

สุดท้ายก็กลายเป็นแค่เปลี่ยนรถคันใหม่ลงไปติดที่เดิม
บันทึกการเข้า
*bonny
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,459



« ตอบ #17 เมื่อ: 12-07-2008, 18:02 »

เริ่มโครงการมาก็ผิดแล้วครับ ถ้าใส่ใจจะแก้ปัญหาจริง ต้องเริ่มจากรื้อสัมปทานทั้งหมดก่อน แล้วกำหนดเส้นทางวิ่งไม่ให้ทับซ้อนกัน

ร่วมกับการวางแผนแม่บทการจราจรใหม่ เชื่อมต่อเส้นทางขนส่งมวลชนอื่นๆ

ถึงจะประเมินได้ว่าควรจะจัดซื้อหรือเช่ารถกี่คัน สำรองกี่คัน เล่นเอาตัวเลขจากจำนวนรถที่วิ่งจากเส้นทางในขณะนี้มาประเมิน

สุดท้ายก็กลายเป็นแค่เปลี่ยนรถคันใหม่ลงไปติดที่เดิม


แก้เส้นทางทับซ้อน หรือ แก้สัมปทานใดๆ ก็แล้วแต่ ก็คงไม่ได้ช่วยเรื่องต้นทุนน้ำมันแพงหรอกครับ  ที่เขาแก้กันด้วยวิธีนี้ ก็เพราะเลี่ยงการติดตั้ง NGV ให้รถขสมก.ทั้ง 4000 คันซึ่งเป็นรถเก่าต่างหาก

เชื่อเหอะ..ถ้ายังเป็นขสมก.ทำ  ต่อให้ติดตั้ง NGV แล้วและให้ขึ้นราคา ยังไงก็ยังขาดทุนครับ เพราะการบริหารงานไม่มีประสิทธิภาพ ทำแค่พอให้ไม่ถูกปลด ถูกด่า 30 ปีมาแล้ว องค์กรนี้ไม่ได้มีการพัฒนาด้านใดๆ ขึ้นมาเลย ต้องยุบ-เลิกไปได้แล้ว
บันทึกการเข้า

ประเทศชาติมีภัย  เสรีไทยร่วมกอบกู้
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #18 เมื่อ: 12-07-2008, 18:14 »

การจัดหารถใหม่มาทดแทนรถเก่า เป็นเรื่องที่ต้องทำค่ะ อันนี้ยอมรับได้  แต่อย่างที่หลายท่านว่ามา นั่นคือต้องโปร่งใสและตรวจสอบได้ ต้องมีการประมูลแข่งขันกันอย่างเสรี สเป็กต้องไม่ล็อค

และจะให้ดีที่สุด ขสมก. เป็นหน่วยงานของคนกรุงเทพ ควรจะให้คนกรุงเทพดูแลเอง ดังนั้นย้ายมาสังกัด กทม.เสียก่อน แล้วเอางบประมาณมาให้ กทม.ดูแลเองค่ะ 
บันทึกการเข้า
qazwsx
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


นักธุรกิจและตำรวจ ต้องออกไปจากการเมือง


« ตอบ #19 เมื่อ: 12-07-2008, 19:02 »


รูปแบบ + แนวคิดเรื่องการเดินรถของ ขสมก.ผิดมาตั้งแต่ต้นและตั้งหน้าตั้งตา "ด้น" ผิดไปเรื่อย ๆ จนบานเบอะสุดที่จะเยียวยาแก้ไข

ไม่ต่างจากคนมีอาการกล่องเสียงอักเสบ ( อ.จอนฟังไว้นะ )  ที่มั่ว ๆ ซั่ว ๆ รักษาตัวไปตามเรื่องตามราว - ตามมีตามเกิด
...หมอคนนี้ว่า ก็ว่าตาม  เปลี่ยนหมอก็ว่ากันไปเรื่อย  ญาติคนโน้น - เพื่อนคนนี้แนะนำก็มั่วเชื่อมั่วหลงไปหมด
...ทำบ้างไม่ทำบ้าง  ทำครบ  ทำขาด  สรุปแล้วก็คือเมื่อใครมาถามก็บอกว่า
"โอ๊ย  ลองมาหมดทุกวิธีแล้ว  ไม่มีอะไรดีขึ้นหรอก  สงสัยจะเป็นเพราะเวรกรรม"

จนในที่สุดอาการกล่องเสียงอักเสบก็ลุกลาม - ขยายตัวเป็นมะเร็ง

ซึ่งถ้าเป็นคนปกติ - สติสัมปชัญญะดี ๆ ก็คงจะต้อง "หยุดบ้า" แล้วหันมา "รักษามะเร็ง" อย่างจริงจัง
...แต่คนไข้งี่เง่ารายนี้กลับไม่ใช่ 
ปล่อยไว้จนเซลล์มะเร็งกระจายเข้ากระแสโลหิต เข้าไปเปลี่ยนแปลงเกล็ดเลือด น้ำเหลือง
...กระทั่งมะเร็งลุกลามไปทั่วตัว


ถ้าจะให้ผมเห็น "ด้วยของสมัคร" ในครั้งนี้  ผมเลือกที่จะ "เห็นช่องทางรับประทานอีกอย่างหนึ่งของสมัคร" จะง่ายกว่า
เพราะสิ่งทีีสมัครทำในครั้งนี้ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่า "การก่อภาระหนี้สินให้คนรุ่นหลัง ( อย่างเคย )" ที่ไม่มีอะไรรับประกันว่าประเทศชาติจะไม่เสียหาย
...ทุกอย่าง "ขายฝัน" อยู่บนเลื่อนไขหมกเม็ด ( ก็กรูไม่ได้ขายเงื่อนไข...กรูขายแต่ฝันนี่หว่า )
เหมือนเซลล์ขายประกันที่ไม่่พูดถึงเงื่อนไข "การไม่ให้ความคุ้มครอง" ในเอกสารลายลักษณ์อักษร 20 หน้า
และไม่ได้บอกว่าจะต้องรับผิดชอบ "คำพูดพร่ำโฆษณา" ที่ตนพล่ามพ่นออกไปเพื่อให้ Prospect จรดปากกายอมรับสภาพ "ลูกค้าหน้าโง่"


เหมือนโครงการบ้านเอื้ออาทร
เหมือนโครงการเกษตรเมืองกาญจน์
เหมือนโครงการป่าสักทอง
เหมือนโครงการสบู่ดำ
เหมือน OTOP
ฯลฯ

กะอีแค่สูตรยาผีบอก ( งานนี้ตำรับ "หมอจีน" ) อีกขนานที่ตั้งหน้าตั้งตายัดเยียดให้คนไข้โรคมะเร็งกล่องเสียงระยะสุดท้าย
...ซึ่งผู้จัดยา "ใคร่ปรารถนา" ที่จะเอาเงินในกระเป๋าของ "ลูกหลานคนไข้" ด้วยอาการมือไม้สั่นเต็มที่
บันทึกการเข้า

Puggi
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 182


« ตอบ #20 เมื่อ: 12-07-2008, 19:34 »

ส่วนตัวเห็นด้วย กับนโยบาย แต่ว่า ต้องโปร่งใสจริงๆ

ในส่วนตัวรถ  แม้ว่า จะได้จากจีน   ก้เชื่อว่าไม่เลวร้าย หรือแย่  เพราะจากที่เดินทางก้เห็นหลายประเทศ เค้าก็ใช้รถจีน ได้อย่างดี

แต่ยังติดใจเรื่องค่าเช่าต่อวัน 5000กว่าบาท ค่อนข้างแพง หากลดลงได้สักครึ่ง คงยอมรับได้
บันทึกการเข้า
1ktip
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,457



« ตอบ #21 เมื่อ: 12-07-2008, 20:36 »

แก้เส้นทางทับซ้อน หรือ แก้สัมปทานใดๆ ก็แล้วแต่ ก็คงไม่ได้ช่วยเรื่องต้นทุนน้ำมันแพงหรอกครับ  ที่เขาแก้กันด้วยวิธีนี้ ก็เพราะเลี่ยงการติดตั้ง NGV ให้รถขสมก.ทั้ง 4000 คันซึ่งเป็นรถเก่าต่างหาก

เชื่อเหอะ..ถ้ายังเป็นขสมก.ทำ  ต่อให้ติดตั้ง NGV แล้วและให้ขึ้นราคา ยังไงก็ยังขาดทุนครับ เพราะการบริหารงานไม่มีประสิทธิภาพ ทำแค่พอให้ไม่ถูกปลด ถูกด่า 30 ปีมาแล้ว องค์กรนี้ไม่ได้มีการพัฒนาด้านใดๆ ขึ้นมาเลย ต้องยุบ-เลิกไปได้แล้ว


อ่า ผมไม่ได้คัดค้านการโละรถเก่านะครับ เฮียบอนนี่

แต่การวิ่งเส้นทางซ้อนกัน ทำให้เปลืองรถ เปลืองพนักงาน เปลืองเที่ยววิ่ง เปลืองน้ำมัน เปลืองงบประมาณแบบสูญเปล่า

ประเมินคร่าวๆ ก็ไม่น่าจะน้อยหรอกครับ เกินกว่า 20% แน่นอน แทนที่จะต้องเปลี่ยนรถใหม่ 6,000 คัน อาจจะเหลือแค่ 5,000 คัน

หรืออาจจะน้อยกว่านั้นก็ได้ เป็นการประหยัดงบประมาณไปอีกหลายหมื่นล้าน และลดการใช้พลังงานตรงๆ เลย

จะยกเครื่อง ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง รูปแบบการบริการ การทำงานส่วนอื่นใด ผมเห็นด้วยอยู่แล้ว มิมีปัญหาครับ

อย่างบริษัทโลจิสติกใหญ่ๆ เขามีซอฟท์แวร์คำนวณ มีรถอยู่กี่คัน รถเล็ก รถใหญ่ แต่ละคันจะต้องวิ่งเส้นทางไหน แวะส่งสินค้าจุดไหนบ้าง

ติด GPS เก็บสถิติการวิ่งละเอียดยิบ บริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพที่สุด น่าแปลก ที่ ขสมก. องค์กรใหญ่โตมโหฬาร กลับไม่มีการพัฒนาในด้านนี้
บันทึกการเข้า
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #22 เมื่อ: 12-07-2008, 20:51 »

ผมเกิดและโตที่กรุงเทพนี่เอง..

รู้ดีว่า ขืนปล่อยให้ ขสมก.บริหารรถเมล์ที่มีอยู่นี้ไปเรื่อยๆ มีแต่เจ๊งกับเจ๊ง ไม่ว่าจะขึ้นค่าโดยสารหรือไม่ก็ตาม ขึ้นก็เจ๊ง ไม่ขึ้นเจ๊งเร็วขึ้น มีเท่านั้นเอง

คน ขสมก. ไม่ได้คำนึงถึงผลขาดทุนกันแล้ว เพราะรู้ว่า ทำให้ตายยังไงก็ไม่มีโอกาสพลิกฟื้นมากำไรได้หรอก เนื่องจากเป็นขนส่งสาธารณะ มีข้อจำกัดมากกมาย อาทิ..

1) ขึ้นราคาไม่ได้ตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ไม่เหมือนสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป ครั้นจะใช้หลักเศรษฐศาสตร์ดีมานด์-ซัพพลายมากำหนดราคาก็ยิ่งไม่ได้ใหญ่  ต้องใช้หลัก การอดกลั้น เท่านั้น

2) ต้องยอมรับว่า องค์กรนี้ ไม่เป็นที่สนใจของนักการเมืองเกรดเอ ไม่มีใครอยากเข้ามาบริหาร จัดการ ดูแลหรอกครับ เพราะขาดทุนทั้งชาติ  จะซื้ออะไรใหม่ๆ ก็ตาม ล้วนต้องขอกู้เงินทั้งนั้น

3) ให้บริการเฉพาะคนกทม. ซึ่งเป็นชาวเมืองที่ความรู้สึกไวมากที่สุดในประเทศ อะไรนิด อะไรหน่อย บ่นดะ ฟ้องอุตลุต เอาใจยาก ขี้โวยวาย ขี้เหนียวโคตร  สารพัด  ถ้าขสมก.ให้บริการกับคนทั่วประเทศได้ ป่านนี้กำไรอู้ฟู่ไปแล้ว

4) เนื่องจากเป็นองค์กรที่ไม่มีกำไรมาช้านาน พนักงานที่มีความสามารถ มีการศึกษาดี มีอนาคต ไปทำงานในสังกัดอื่นๆ หมด  ผู้บริหารก็นั่งแคะขี้เล็บไปวันๆ ไม่ได้สนใจหรอกว่า มันจะกำไรหรือขาดทุนเพราะรู้อยู่แล้ว นั่งรอว่า วันหนึ่ง อาจมีราชรถมาเกย ได้ไปทำงานในหน่วยอื่นบ้าง


หวังว่า เพื่อนๆ คงจำ รสพ.ได้นะครับ สภาพของ ขสมก.ก้ไม่แตกต่างกันนัก รอวันที่จะมีคนกล้ามายุบทิ้งเท่านั้น

ผมจึงขอเป็นคนหนึ่งที่เห็นด้วยกับแนวทางการเช่ารถ NGV ของรัฐบาลนี้อย่างยิ่ง  แต่............ขอเงื่อนไขให้รัฐบาลไปดูแลด้วยดังนี้

1) การกำหนดสเปครถ ราคาค่าเช่า ระยะเวลาการเช่า และค่าใช้จ่ายในการซ่อมำรุง ต้องเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชนให้ชัดเจน

2) ต้องเปิดให้มีการประมูลแข่งขันจากผู้ให้บริการทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะบริษัทในประเทศจีนเท่านั้น

3) ต้องไม่ให้คณะผู้บริหารของ ขสมก. ชุดปัจจุบันเป็นผู้บริหารจัดการ แต่ต้องเปิดให้มีการคัดเลือกบุคคลภายนอกเข้ามารับบริหารในฐานะมืออาชีพ เหมือนเช่น ผอ.การท่าฯ  ผอ.อสมท.  ผอ.การบินไทย ขั้นตอนการคัดเลือกต้องโปร่งใส ไม่มีนักการเมืองเข้าไปแทรกแซงการคัดเลือก

4) เปิดเผยเงื่อนไขของสัญญาเช่าให้ประชาชนทั่วไปรับทราบก่อนทำการเซ็นสัญญา ป้องกันการหมกเม็ด



ถ้าทำได้ตามนี้ ก็รีบๆ ทำเถิดครับ ผมเชียร์เต็มที่..



ผมก็ยอมรับ พตท.ทักษิณ ชินวัตรเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดีนะ
ถ้าทักษิณจะไม่ซุกหุ้น ภาคหนึ่ง และภาคสอง ไม่แก้ไขพรบ.โทรคมนาคม ไม่ต้องคดีที่ดินรัชดา
เสียภาษีอย่างโปร่งใส ไม่เกี่ยวข้องการทุจริต CTX 9000 ไม่ทุจริตทางนโยบาย
ไม่เล่นพรรค เล่นพวก ไม่สั่งการให้ อดีต รมว.นพดล ขายที่ดินเขาพระวิหารให้เขมร ฯลฯ.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-07-2008, 20:54 โดย ปุถุชน » บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
THX
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 569



« ตอบ #23 เมื่อ: 12-07-2008, 20:55 »

ใช้ระบบแบบเดียวกับฮ่องกง จะได้ประหยัด  Octopus card ใบเดียว ขึ้นได้ทั้ง รถเมล์ รถไฟฟ้า รถใต้ดิน  Taxi และจ่ายค่าสินค้าได้ทุกร้านทั่วเกาะไม่ต้องจ้างกระเป๋ารถเมล์ ไม่ต้องมีคนตรวจ มีแต่คนขับ ลดรายจ่ายได้อีกเพียบ แล้วยังได้เงินไปหมุนก่อนอีก เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ขสมก. มันไปดูงานที่ฮ่องกง เพื่ออะไรฟร่ะจนปัจจุบันยังคิดไม่ออก
บันทึกการเข้า



พวกเรา..เรารู้สึกว่าจะมีสายลับปลอมมาในหมู่ของพวกเราโดยไม่รู้ตัว=__='



( づ ̄ 3 ̄ )づ~~~♡♡♡ ~~
qazwsx
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


นักธุรกิจและตำรวจ ต้องออกไปจากการเมือง


« ตอบ #24 เมื่อ: 12-07-2008, 21:10 »



ผมก็ยอมรับ พตท.ทักษิณ ชินวัตรเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดีนะ
ถ้าทักษิณจะไม่ซุกหุ้น ภาคหนึ่ง และภาคสอง ไม่แก้ไขพรบ.โทรคมนาคม ไม่ต้องคดีที่ดินรัชดา
เสียภาษีอย่างโปร่งใส ไม่เกี่ยวข้องการทุจริต CTX 9000 ไม่ทุจริตทางนโยบาย
ไม่เล่นพรรค เล่นพวก ไม่สั่งการให้ อดีต รมว.นพดล ขายที่ดินเขาพระวิหารให้เขมร ฯลฯ.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า




 
บันทึกการเข้า

protecter
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 465


« ตอบ #25 เมื่อ: 13-07-2008, 08:28 »

จากการฟังปราศัยหาเสียงตอนเลือกตั้งของ พปช ที่ผ่านมา

มันคุยโวว่าจะสร้าง รถไฟฟ้า และ รถไฟฟ้าใต้ดิน ในราคา 15 บาทตลอดสาย

แต่นี่ แค่รถเมล์ มันยังเก็บขั้นต่ำ 15 บาท แล้วรถไฟฟ้ามันจะเก็บ 15 บาทตลอดสายได้หรอ

 คนกรุงกลุ่มใหญ่ที่อาศัยรถเมล์ คือคนรายได้ต่ำ เฉลี่ยมแล้วต้องขึ้นรถเมล์ 2 ต่อ ไปกลับเพื่อทำงาน คือขึ้นรถ 4 ครั้ง ยังไม่นับมอเตอร์ไซจากบ้านถึงปากซอย เฉพาะค่ารถเมล์ตกราวๆวันละ 60-80 บาท ต่อวัน.......แล้วคนที่มีรายได้วันละไม่ถึง 300 บาทจะอยู่ได้อย่างไร

ผมว่าถ้าค่าเช่า 5100 ต่อวันต่อคันแพงไปครับ เช่า10 19 ล้าน
ซื้อไม่ดีกว่าหรอ ประมาณคันละ 3 ล้าน +ค่าบุงรุงอีก 5 ล้าน + ค่าอื่นๆอีก 2 ล้าน ทั้งหมดก็แค่ 10 ล้าน
ภายใน 10ปี ประหยัด 9 ล้านบาทต่อคัน .......6000 คัน ประหยัดเงิน5.4 หมื่นล้านบาก...........
ข่าวที่วัน งานนี้ ได้คันละ 1 ล้าน ก็ไม่เกินเลย เพราะ 6000คันก็ 6000 ล้าน ส่วนที่เกินไป 540000-6000 เท่ากับ 480000ล้าน เป็นกำไรของเอกชนผู้ให้เช่ารถ

ขอเรียกร้องให้ค่าเช่ารถไม่เกิน 2500 ต่อวันต่อคัน และค่ารถไม่เกิน 10 บาทตลอดสาย

บันทึกการเข้า
katindork
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 369


« ตอบ #26 เมื่อ: 13-07-2008, 11:27 »

เรียน พี่ bonny

ขอบคุณที่ช่วย กระตุกซ้ำอีกที   ถึงแม้ผมจะรู้สึกขัดๆกับหนี้ก้อนนี้  ก็สิบกว่าปีมาแล้ว  ตอนนั้นไม่ได้มีจิตสำนึกแบบนี้ครับ

ที่แน่ๆ
คนที่เป็นหนี้ใครแล้ว  มันลืมไม่ลงหรอกครับ   
หนีไปที่ไหนก็ยังรู้ว่าตัวเองเป็นหนี้อยู่ดี

คุณนักการเมืองครับ  ทักษิณและลูกน้องทั้งหลายครับ  หนีใจตัวเองไม่พ้นหรอกครับ 
อย่ามัวแต่ปลอบใจตัวเองอยู่เลย
บันทึกการเข้า
*bonny
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,459



« ตอบ #27 เมื่อ: 13-07-2008, 11:55 »



ผมว่าถ้าค่าเช่า 5100 ต่อวันต่อคันแพงไปครับ เช่า10 19 ล้าน
ซื้อไม่ดีกว่าหรอ ประมาณคันละ 3 ล้าน +ค่าบุงรุงอีก 5 ล้าน + ค่าอื่นๆอีก 2 ล้าน ทั้งหมดก็แค่ 10 ล้าน
ภายใน 10ปี ประหยัด 9 ล้านบาทต่อคัน .......6000 คัน ประหยัดเงิน5.4 หมื่นล้านบาก...........
ข่าวที่วัน งานนี้ ได้คันละ 1 ล้าน ก็ไม่เกินเลย เพราะ 6000คันก็ 6000 ล้าน ส่วนที่เกินไป 540000-6000 เท่ากับ 480000ล้าน เป็นกำไรของเอกชนผู้ให้เช่ารถ

ขอเรียกร้องให้ค่าเช่ารถไม่เกิน 2500 ต่อวันต่อคัน และค่ารถไม่เกิน 10 บาทตลอดสาย



ถ้าทำแบบคุณว่า ปชช.อาจอยู่ได้ แต่รัฐบาลนี้จะเอาอะไรกินล่ะครับ

เรียน พี่ bonny

ขอบคุณที่ช่วย กระตุกซ้ำอีกที   ถึงแม้ผมจะรู้สึกขัดๆกับหนี้ก้อนนี้  ก็สิบกว่าปีมาแล้ว  ตอนนั้นไม่ได้มีจิตสำนึกแบบนี้ครับ

ที่แน่ๆ
คนที่เป็นหนี้ใครแล้ว  มันลืมไม่ลงหรอกครับ  
หนีไปที่ไหนก็ยังรู้ว่าตัวเองเป็นหนี้อยู่ดี

คุณนักการเมืองครับ  ทักษิณและลูกน้องทั้งหลายครับ  หนีใจตัวเองไม่พ้นหรอกครับ 
อย่ามัวแต่ปลอบใจตัวเองอยู่เลย


แค่รู้สึกว่า ผิดอยู่ตลอดมา ผมก็คิดว่า คุณเป็นคนดีคนหนึ่งแล้วครับ
บันทึกการเข้า

ประเทศชาติมีภัย  เสรีไทยร่วมกอบกู้
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #28 เมื่อ: 13-07-2008, 12:02 »

ถ้าทำแบบคุณว่า ปชช.อาจอยู่ได้ แต่รัฐบาลนี้จะเอาอะไรกินล่ะครับ

ที่ไมีมีกินน่าจะเป็นนักการเมืองพันธุ์ชั่วและผู้ให้เช่าโก่งราคามากกว่าครับ
เพราะถ้าลดค่าเช่าลงมาได้ ค่าโดยสารประมาณนั้นก็สมเหตุสมผล
ลดค่าเช่า 2500 เท่ากับลดค่าโดยสารได้ 500 คน/คัน/วันเชียวนะ


แค่รู้สึกว่า ผิดอยู่ตลอดมา ผมก็คิดว่า คุณเป็นคนดีคนหนึ่งแล้วครับ

บังเอิญว่านักการเมืองพันธุ์ชั่วไม่เคยมีสำนึกอย่างนั้นในสมอง
ไม่มีขนาดที่ว่าคนธรรมดาสามัญจิตนาการไม่ออกว่า ทำไมมันถึงคิดได้ชั่วขนาดนั้น


บันทึกการเข้า
XYLITOL
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 53


« ตอบ #29 เมื่อ: 13-07-2008, 16:42 »

ผมเเห็นด้วยกับการ ปรับปรุงประสิทธิภาพระบบขนส่งมวลชน ในกรุงเทพ  เหมือนกันครับ แต่โครงการเช่ารถเมล์ NGV 6000 คันที่รัฐ
กำลังทำอยู่นี้ ผมกลับไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะว่า แนวคิดไม่ได้คำนึงถึงผลประโยชน์ ของประชาชนและ ขสมก  แต่เป็นแนวคิดที่คิดถึง
ผลประโยชน์ของบริษัท ที่ให้เช่ารถมากกว่า  ราคาค่าเช่า 5000 กว่าบาทต่อหนึ่งวันต่อคันนั้น ผมว่ามันแพงเกินไป   เพราะรถที่เช่ามานั้น 
ไม่สามารถออกวิ่งทำเงินได้ทั้ง 6000 คัน ตลอด 24ชม  แต่ราคาค่าเช่ากลับต้องจ่ายเต็มในราคา วันล่ะ 5000 กว่าบาท ต่อคัน 
แล้วตอนกลางวัน ช่วงเวลา 10.00-15.00น (สิบโมงเช้าถึงบ่ายสาม)  อาจจะได้วิ่งแค่ 3000 คัน เท่านั้น เพราะถ้าวิ่งไป เต็ม 6000 คัน 
ก็ไม่มีคนขึ้น   แล้วเวลากลางคืนอีก  เวลา 23.00- 4.00น (ห้าทุ่มถึงตีสี่) ก็อาจจะวิ่งทำเงินให้ ขสมก ได้แค่ 2000 คัน   แต่ ขสมก 
กลับต้องจ่ายค่าเช่าเต็มเวลา 24 ชม ต่อคัน  แล้วช่วงเวลากว่า10 ชม ดังกล่าว ต้องจอดรถในอู่ 3-4000 คัน โดยไม่สามารถทำเงินให้
ขสมกได้  ที่ต้องจอดรถในอู่ เพราะถึงออกมาวิ่ง  ก็ไม่คุ้มค่า แก๊สกับค่าคนขับ

ถาม : แล้วทำไมต้องจ่ายเต็มเวลา24ชม ทำไมไม่คิดเป็น กะ   เหมือนแท็กซี่   
ถาม : เวลาที่รถจอดอยู่เฉยๆ  ขสมก เสียเปรียบ เท่าไหร่ ให้กับบริษัทให้เช่ารถ

 

ถ้าจะคิดค่าเช่าต่อวัน(24ชม) ราคา 5000 กว่าบาท ผมว่าแพงไป น่าจะลดลงได้อีก  หรือไม่งั้น ก็คิดเป็น กะ เหมือนแท็กซี่ อาจยุ่งยากหน่อย
แต่ ขสมก จะคุ้มกว่าที่จะเช่ามาจอดไว้ในบางช่วงเวลา  จริงๆ ก็ไม่น่ายุ่งยากนะ อู่แท็กซี่ บางอู่มีหลายพันคันเหมือนกัน  เค้าก็จัดระบบได้ ดีนี่
แท็กซี่ใน กทม มี 70000 กว่าคัน ส่วนนึงก็เป็นบุคคล  แต่ก็มี ที่เช่าจากอู่ มาขับก็มีเยอะแยะ  เค้าก็ คิดเป็น กะ คนเช่ารถมาขับไม่เสียเปรียบ
กะ นึงประมาณ 800-1200 (ไม่แน่ใจครับเคยได้ยินมาประมาณนี้ ถ้าไม่ถูกต้องก็ขออภัยด้วย)  แล้วแต่สภาพรถรุ่นรถ   เค้าก็จัดระบบ เป็น กะ เหมือนกัน
ผมจึงคิดว่า ไม่น่าจะยุ่งยากอะไร ที่จะให้ คิดเป็น กะ  ขสมก จะได้ไม่เสียเปรียบที่ต้องจอดรถในอู่  ในช่วงเวลาที่ไม่มีคนขึ้น 

ถ้าทำได้ ผมก็คิดว่า น่าสนับสนุนให้ทำ  แต่ก็ต้องมีเงื่อนไข หนึ่ง สอง สาม สี่ ตามที่คุณ bonny ว่ามา  แล้วขอเถอะครับ บริษัท ไอ้เหยียนปิง จากจีนอ่ะครับ
อย่าเอาเลยมันจะทำให้ดูว่าโครงการนี้ เอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้อง (แล้วเสือกเป็นพวกพ้องคนต่างชาติอีก)  แล้วที่คนเค้าว่ากันว่าจ่ายให้คันล่ะล้านจะดูมีน้ำหนักมากขึ้น

แล้วไม่ต้องรีบเร่งโครงการ จนดูเหมือนว่ารัฐ จะยุบสภา ในหนึ่งหรือสองเดือน แล้วไม่มีกระสุนดินดำ ไว้ใช้ใการเลือกตั้งครั้งต่อไป   โครงการนี้เป็นผลประโยชน์ของ
รัฐ, ขสมก และ ประชาชน คิดให้รอบคอบสักนิด  ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นผลประโยชน์ของบริษัทที่ให้เช่ารถและนักการเมือง     
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-07-2008, 16:51 โดย XYLITOL » บันทึกการเข้า
chaturant
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 499



« ตอบ #30 เมื่อ: 13-07-2008, 16:43 »

แก้เส้นทางทับซ้อน หรือ แก้สัมปทานใดๆ ก็แล้วแต่ ก็คงไม่ได้ช่วยเรื่องต้นทุนน้ำมันแพงหรอกครับ  ที่เขาแก้กันด้วยวิธีนี้ ก็เพราะเลี่ยงการติดตั้ง NGV ให้รถขสมก.ทั้ง 4000 คันซึ่งเป็นรถเก่าต่างหาก

เชื่อเหอะ..ถ้ายังเป็นขสมก.ทำ  ต่อให้ติดตั้ง NGV แล้วและให้ขึ้นราคา ยังไงก็ยังขาดทุนครับ เพราะการบริหารงานไม่มีประสิทธิภาพ ทำแค่พอให้ไม่ถูกปลด ถูกด่า 30 ปีมาแล้ว องค์กรนี้ไม่ได้มีการพัฒนาด้านใดๆ ขึ้นมาเลย ต้องยุบ-เลิกไปได้แล้ว


ผมไม่ได้อยากให้โครงการนี้ไม่ทำน่ะครับ โครงการดี ทุกคนเห็นชอบกันหมดแหละ เปลี่ยนรถใหม่ยกแผง คุณภาพชีวิตดีขึ้น
แต่ปัญหามันคือ ทำไมไม่ซื้อรถเองละครับ มันตั้งราคามาโดดๆมา 110,000 กว่าล้านเศษ แพงขนาดสร้างรถไฟฟ้าได้อีก 2 สายเลย สร้างสุวรรณภูมิได้อีกแห่ง แพงกว่าปตท ด้วยซ้ำ  อย่างรถสีเหลืองตัวใหม่ที่ทุกคนเห็นๆกัน ตกคันละไม่ถึง 4 ล้านด้วยซ้ำ ยิ่งเราซื้อเยอะขนาดนี้ มันต้องมีส่วนลดด้วย  ถ้าเราซื้อรถใหม่มา 6 พันคัน ใช้งาน  ซัก 5 ปี รถมันไม่พังง่ายๆหรอกครับ ใช้งานแค่ 5 ปี  รถ 6,000 พันคัน ผมตั้งคันละ 4.5 ล้านเลยอ่ะ   ราคายังไงก็ไม่น่าเกิน 27,000 ล้าน ยังมีเงินเหลือกว่า 80,000 ล้าน ถ้าเครื่องมีปัญหา บริษัทก็ต้องรับผิดชอบ อันนี้มันตายตัวอยู่แล้ว ซื้อสินค้าถ้าผู้ผลิตไม่รับผิดชอบมันไม่ได้ (เฉพาะตัวเครื่องไม่เกี่ยวกับเฉี่ยวชนน่ะ)  แล้วอีกอย่างถ้าเฉี่ยวชนเรื่องซ่อมบำรุง ขสมก. ก็ต้องซ่อมเอง บำรุงเอง ทำให้เป็นระบบ จ้างช่างมา จัดการบริหารเอง ตั้งหน่วยงานมาก็ได้ ประหยัดกว่าเยอะ  แถมรถที่ใช้แล้ว 5 ปี เราสามารถโละทิ้งหมดเลยก็ได้ เอาไปขาย มือ 2 ให้ ตำบล ต่างจังหวัด ได้อีก 6 พันคัน หรือให้ฟรีๆเลยก็ได้  แล้วซื้อมาใช้ใหม่ได้อีก 6 พันคัน ใช้เงินอีก 27,000 ล้าน  รวมเบร็ดเสร็จ 10 ปี ใช้งบประมาณ ให้เต็มๆเลย ไม่น่าเกิน 60,000 ล้านบาท (อะผมแถมให้เผื่อกินอีก 10,000ล้าน ก็เป็น 70,000 ล้าน) เงินยังเหลืออีก 40,000 ล้านได้ ตัวเลขกลมๆน่ะ แต่นี้มันล่อไป 110,670 ล้านบาท  มันเกินไปมากๆๆๆ
   

ส่วนเรื่องรถติดบ้านเราและสิ้นเปลืองพลังงาน
มันเกิดจากรถเมย์วิ่งทับซ้อนกันครับ ถนนเส้นนึง รถเมย์กี่สายครับวิ่งมั่วไปหมด รถเมย์จอดทับกันถึง 2-3 เลน รถก็ระบายไม่ได้ แล้วต่างคนต่างไป มั่วไปหมด แถมเจอพวกรถกระป๋อง สองแถวอีก  ปชช. ก็จะรอสายที่ผ่านบ้านตัวเอง คันไหนวิ่งไม่ผ่านรถก็ต้องวิ่งรถเปล่าไปเปลืองน้ำมันไป  สรุปง่ายๆครับ ต้องมาศึกษาการเดินรถใหม่ ปรับแก้เช่น ถนนสายใดใช้รถเมย์สายเดียวเลย แล้วใช้ขนส่งขนาดเล็กเช่น รถกระป๋อง สองแถว เอามาป้อนสายใหญ่ ตามป้ายรถเมย์ อย่างเช่น ถนน เพชรเกษม ก็รถเมย์สายเพชรเกษม ถนนจรัญก็รถเมย์สายจรัญ ถนนลาดพร้าวก็รถเมย์สายลาดพร้าว วิ่งสายเดียวเลย แล้วต้องมาตลอดทุก 3-5 นาที พอจะเปลี่ยนเส้นทางก็ต่ออีกสาย คือลงปุ๊บต่อไปได้เลย และจุดเชื่อมต่อก็ทำเป็นสถานนีปลายทางจัดระบบให้มันดีๆ สร้างสถานีติดแอร์ไปเลยก็ได้ ให้ทันสมัย   อย่างเช่นรถไฟฟ้าปัจจุบัน วิ่งสายสุขุมวิทมา จะต่อไปสะพานตากสินก็เปลี่ยนไปขึ้นอีกขบวน  
       
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-07-2008, 16:52 โดย chaturant » บันทึกการเข้า
เล่าปี๋
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,417


ทำดีได้ดีมีไฉน ทำชั่วได้ดีมีถมไป


« ตอบ #31 เมื่อ: 13-07-2008, 17:49 »

ที่จริงก็เห็นด้วยครับ แต่สำหรับประเทศ สาราขันธุ์

สำหรับประเทศไทย  พูดง่ายๆกลัวผมกลัวครับ......
บันทึกการเข้า

ขงเบ้งดูดาว เฮอะเอ่อเอ้ย เมื่อดาวตก เสียวในหัวอกเมือเห็นดาว
ไม่พราวไสว  หรือว่าตัวเราจะหมดบุญ จึงเป็นไป
ดาวที่สดใสเมื่อก่อนนั้น  พลันมืดมัว....
*bonny
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,459



« ตอบ #32 เมื่อ: 13-07-2008, 21:15 »

มุมมองของคุณXYLITOL และคุณchaturant น่าสนใจนะครับ

1..กลางวันและหลังสองทุ่มไปแล้วรถไม่จำเป็นต้องเต็มกำลัง 4 พันกว่าคันก็ได้  มีเต็มพิกัดอยู่แค่ช่วงเร่งด่วน  ดังนั้น ค่าเช่าคิด 5000 ก็อาจแพงไปหน่อย

ส่วนการจัดระเบียบเส้นทางทับซ้อนนั้น..
ความจริงมีการจัดใหม่หลายรอบแล้วนะครับ  โละเส้นทางที่ทับซ้อนและผู้โดยสารน้อย  แต่กระนั้นก็ยังไม่พอให้บริการประชาชนนะครับ  ต้องอาศัยเมล์เล็กและรถตู้ช่วยตลอด

ถ้าอย่างคุณว่า มีรถเมล์วิ่งทับเส้นกันหลายคันอยากให้น้อยสายลง ถ้าทำเช่นนั้น ผู้โดยสารอาจต้องเดินทางหลายคันหลายต่อนะครับ  เพราะต่างคนต่างที่มา แต่มาชุมนุมที่จุดเดียวกัน  เช่น สยามสแควร์  อนุสาวรีย์ชัย  วงเวียนใหญ่  มีรถวิ่งผ่านหลายสายก็จริง  แต่ทุกสายวิ่งมาจากทุกมุมเมือง อาจมาทับเส้นทางกันบ้างก็ต้องยอม เป็นความจำเป็นของคนหลายคนที่ไม่ต้องต่อรถหลายรอบ  มันเหนื่อยนะครับ ถ้าเป็นรถไฟฟ้าไม่เหนื่อยเพราะรถมาตรงเวลาและติดแอร์ตลอด  แต่รถเมล์คงไม่ไหวครับ  สงสารเด็กและผู้หญิง คนชรา

ทับเส้นทางที่เป็นชุมนุมชนคงต้องให้อภัยและอย่าปรับลดเลยครับ แค่นี้ก็ไม่พออยู่แล้ว

ถ้าผมเป็นนายกเมื่อไร ผมจะสร้างถนนลอยฟ้าและมุดดินให้รถเมล์และรถสาธารณะวิ่งโดยเฉพาะเลยครับ  ตรงไหนเจอสะพานลอยหรือทางรถไฟฟ้าก็มุดดินวิ่ง  ตรงไหนโล่งโจ้งก็ให้ลอยฟ้าไปเลย

ตกลงจะเลือกผมเป็นนายกรัฐมนตรีไหมล่ะ

บันทึกการเข้า

ประเทศชาติมีภัย  เสรีไทยร่วมกอบกู้
XYLITOL
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 53


« ตอบ #33 เมื่อ: 13-07-2008, 21:48 »

อีกประเด็นที่ผมสนใจ  คือตอนนี้รถร่วมบริการ(รวมมินิบัสด้วย) มีอำนาจต่อรองอยู่มาก  ขอขึ้นราคาค่าโดยสาร โดยเป็นธรรมหรือไม่ ว่ากันไป   แต่ถ้าไม่ขึ้นตามที่รถร่วมขอ พวกนั้นก็จะขู่ว่าจะหยุดวิ่ง ทำให้ ขสมก  แทบไม่มีอำนาจต่อรองเลย  แล้วถ้าเผื่อว่า  เอาบริษัทให้เช่ารถ มาให้ ขสมก เช่า  แล้วให้เช่าไปสักปีสองปี  แล้วบอกขอขึ้นค่าเช่าเป็นเท่าไหร่ก็แล้วแต่  ถ้า ขสมก  ไม่ให้ แล้ว เค้าขู่ว่าจะไม่ให้เช่าอีก  รถที่ให้ประขาชน โดยสาร หายไป 6000คัน  แล้วจะทำกันอย่างไร   มีอะไรที่จะรับประกันว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ เช่นนั้น  การใช้บริษัท เดียวในการให้เช่า  ถือเป็นการผูกขาดหรือไม่ แล้วอำนาจต่อรองของ  ขสมก  จะมีหรือเปล่า  เป็นเรื่องที่ต้องดูให้ดีๆ 

 
บันทึกการเข้า
ดอกฟ้ากับหมาวัด
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,042



« ตอบ #34 เมื่อ: 13-07-2008, 22:04 »

ไม่เคยมีอะไร...ที่เคยทำเพื่อประเทศไทยด้วยใจอันบริสุทธิ์ของนักการเมืองไทย

ทุกสิ่งอย่างที่ประชาชนคนไทยได้บริโภค...มักจะจะมีค่าต๋ง...ติดปลายนวม...ให้กับพวกคนเหล่านี้เสมอมา....

ขึ้นอยู่กับว่า ตะกละมากน้อยขนาดไหน


ขอแสดงความอนาถใจ....กับประเทศไทยที่น่าสงสาร

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-07-2008, 22:14 โดย ดอกฟ้ากับหมาวัด » บันทึกการเข้า

***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ

      น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
เล่าปี๋
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,417


ทำดีได้ดีมีไฉน ทำชั่วได้ดีมีถมไป


« ตอบ #35 เมื่อ: 13-07-2008, 23:45 »



ผมก็ยอมรับ พตท.ทักษิณ ชินวัตรเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดีนะ
ถ้าทักษิณจะไม่ซุกหุ้น ภาคหนึ่ง และภาคสอง ไม่แก้ไขพรบ.โทรคมนาคม ไม่ต้องคดีที่ดินรัชดา
เสียภาษีอย่างโปร่งใส ไม่เกี่ยวข้องการทุจริต CTX 9000 ไม่ทุจริตทางนโยบาย
ไม่เล่นพรรค เล่นพวก ไม่สั่งการให้ อดีต รมว.นพดล ขายที่ดินเขาพระวิหารให้เขมร ฯลฯ.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า






                        


บันทึกการเข้า

ขงเบ้งดูดาว เฮอะเอ่อเอ้ย เมื่อดาวตก เสียวในหัวอกเมือเห็นดาว
ไม่พราวไสว  หรือว่าตัวเราจะหมดบุญ จึงเป็นไป
ดาวที่สดใสเมื่อก่อนนั้น  พลันมืดมัว....
moon
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 780


« ตอบ #36 เมื่อ: 14-07-2008, 01:02 »

"มินิบัสไฮบริด" ต้นแบบรถพลังงานไฟฟ้า-แสงอาทิตย์ รับ-ส่งคนเมือง
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 26 ธันวาคม 2549 15:35 น.
 

  สภาวิจัยแห่งชาติเปิดตัว “มินิบัสไฮบริดไฟฟ้า-แสงอาทิตย์” เผยชาร์จไฟ 50 บาทแล่นได้ทั้งวัน ขณะที่มีต้นทุนต่ำ ตัวต้นแบบใช้ทุนไม่เกิน 3 ล้านบาท ด้านหัวหน้าทีมพัฒนาเชื่อหากได้ลองวิ่งให้บริการในกรุงเทพฯ จะคืนทุนได้ใน 1 ปี แถมไร้เสียง-ควันรบกวน ต่อไปจะทำให้มีต้นทุนต่ำกว่า 2 ล้านบาท วอนกรุงเทพฯ - ขสมก พิจารณา ส่วนยานยนต์ต้นแบบเตรียมตบแต่งเพิ่มเติมก่อนทูลเกล้าถวายฯ ฉลองราชย์ – 80 พรรษา
       
       ภายหลังให้การสนับสนุนการสร้างต้นแบบยานยนต์สาธารณะพลังงานแสงอาทิตย์มาได้ประมาณครึ่งปี สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ก็ได้ฤกษ์จัดงานแถลงข่าวเปิดตัว “รถเมล์พลังงานแสงอาทิตย์” แล้ววันนี้ (26 ธ.ค.) ณ อาคารสำนักงานสภาวิจัยแห่งชาติ บางเขน กรุงเทพฯ โดยเป็นการวิจัยพัฒนาของ พล.อ.ท.มรกต ชาญสำรวจ ประธานบริษัท คลีนฟูเอล เอ็นเนอยี เอ็นเตอร์ไพร้ส์ จำกัด ในฐานะหัวหน้าโครงวิจัยและคณะ
       
       พล.อ.ท.มรกต เปิดเผยว่า หลังจากทางโครงการได้รับการสนับสนุนเงินทุนการวิจัยพัฒนารถโดยสารประจำทางขนาดเล็ก หรือ “รถเมล์มินิบัส” ที่ทำงานด้วยพลังงานแสงอาทิตย์มาเป็นจำนวนเงิน 8.5 ล้านบาท เมื่อประมาณ 7 เดือนก่อน เวลานี้นักวิจัยสามารถพัฒนาต้นแบบยานยนต์ที่พร้อมใช้งานได้แล้ว โดยมีต้นทุนการผลิตเพียงประมาณ 3 ล้านบาท/คัน เท่านั้น
       
       ทั้งนี้ รถยนต์ต้นแบบดังกล่าวเป็นรถมินิบัสขนาด 20 ที่นั่ง กว้าง 2 ม. ยาว 7 ม. และสูง 2.7 ม. ติดตั้งเครื่องปรับอากาศขนาด 18,000 บีทียู หรือเครื่องปรับอากาศที่ใช้กันอยู่ตามบ้าน พร้อมจอโทรทัศน์ขนาด 42 นิ้ว เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับข่าวสารและความบันเทิงไปพร้อมๆ กัน โดยรถยนต์ต้นแบบนี้จะทำงานด้วยระบบจ่ายพลังงานแบบลูกผสมหรือ “ไฮบริด” คือ พลังงานไฟฟ้าที่ต้องชาร์จไฟทุกวันๆ ละ 8 ชั่วโมงภายหลังจากแล่นให้บริการมาตลอดวันแล้ว หรือคิดเป็นค่าไฟฟ้าต่อการชาร์จประมาณ 50 บาท/ครั้ง[/b]
       
       ขณะที่แหล่งจ่ายพลังงานอีกระบบหนึ่งคือพลังงานแสงอาทิตย์ที่ได้จากโซลาร์เซลล์บนหลังคารถจำนวน 10 แผง ซึ่งมีขนาดกว้าง 0.66 ม. ยาว 1.5 ม. โดยเป็นเซลล์แสงอาทิตย์แบบมัลติคริสตัลไลท์ (Multi crystallize) ที่มีประสิทธิภาพการแปลงแสงแดดเป็นพลังงานได้สูงสุด 18% รถดังกล่าวแล่นได้ด้วยความเร็วสูงสุด 50-60 กม./ชม. และเพื่อให้เกิดความมั่นใจแก่ผู้โดยสาร ทางทีมวิจัยยังได้ติดตั้งระบบขับเคลื่อน ระบบเบรก ระบบบังคับเลี้ยว และระบบกันสะเทือนไว้อย่างรัดกุมและผ่านการทดสอบแล้วในทุกระบบ
       
       ส่วนข้อดีของรถเมล์แสงอาทิตย์ต้นแบบดังกล่าว พล.อ.ท.มรกต ชี้ว่าได้แก่ การวิจัยพัฒนาเซลล์แสงอาทิตย์ให้กักเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ได้มากขึ้น การออกแบบวิศวกรรมยานยนต์ที่สอดคล้องกับการใช้งาน รวมถึงสอดคล้องกับกระแสการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้ดี เนื่องจากรถมินิบัสพลังงานแสงอาทิตย์จะไม่ทำให้เกิดก๊าซพิษ ฝุ่นควัน แถมเครื่องยนต์ยังทำงานได้เงียบ จึงไม่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศและทางเสียง จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่กรุงเทพมหานคร และองค์การขนส่งมวลชน (ขสมก) ได้พิจารณาต่อไป โดยจากการคำนวณเบื้องต้นแล้ว รถยนต์พลังงานแสงอาทิตย์นี้จะสามารถคืนทุนได้ภายใน 1 ปี หลังจากนั้นในปีที่ 2 และปีที่ 3 ของการใช้งานก็จะเป็นผลกำไรที่ผู้ประกอบการจะได้รับทั้งหมด
       
       จากคุณสมบัติที่กล่าวมา รถยนต์ต้นแบบนี้จึงเหมาะสมกับการแล่นให้บริการด้วยระยะที่ไม่ยาวนักได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกับตัวเมืองที่มีการจราจรคับคั่งอย่างในกรุงเทพฯ อาทิ ถนนในย่านสุขุมวิท เยาวราช สาธร พระราม 9 ฯลฯ เนื่องจากระหว่างที่รถแล่นไปด้วยความเร็วไม่สูงนักก็จะทำให้แผงโซลาร์เซลล์ดูดซับพลังงานแสงอาทิตย์ได้มากเพียงพอกับการใช้งานตลอดทั้งวัน ขณะนี้ได้มีเอกชนบางรายให้ความสนใจติดต่อสั่งขอแล้วในราคาคันละ 5 ล้านบาท ทว่าจุดอ่อนของรถยนต์นี้คือระบบพลังงานแสงอาทิตย์อาจจ่ายไฟได้ไม่ทุกวัน โดยเฉพาะในบางวันที่ไม่มีแสงแดดหรือมีฝนตก ซึ่งต้องหันไปพึ่งพลังงานไฟฟ้าแทน
       
       ขณะที่ในด้านการถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ภาคการผลิตนั้น พล.อ.ท.มรกต เผยว่า ทาง วช.ได้เปิดกว้างให้ผู้ประกอบการที่สนใจรับไปขยายผลต่อในเชิงพาณิชย์ได้ทันที โดยเอกชนนั้นๆ จะต้องมีการแบ่งปันผลประโยชน์กับ วช.เพื่อนำเงินรายได้ที่ได้เข้าสมทุบกองทุนการวิจัยพัฒนาของ วช. บ้างราว 30% ของผลกำไรทั้งหมด ส่วนอีก 70% จะตกเป็นของผู้ประกอบการ ซึ่งจากการผลิตยานยนต์ดังกล่าวด้วยเทคโนโลยีของตัวเองและใช้วัสดุการผลิตในประเทศแล้ว ก็เชื่อว่าหากมีการผลิตในปริมาณมากแล้วก็จะทำให้รถมินิบัสดังกล่าวมีราคาต่ำลงได้ถึงคันละ 1.8 ล้านบาท
       
       ส่วนรถมินิบัสต้นแบบไฮบริดที่ได้นำมาแถลงข่าวในครั้งนี้ ทาง วช.และทีมวิจัย จะได้ตบแต่งและเปลี่ยนแปลงอีกเล็กน้อย เพื่อนำทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต่อไป เนื่องในวโรกาสมหามงคลที่ทรงครองราชย์ครบ 60 ปี ในปี 2549 และเพื่อเฉลิมฉลองพระชนมายุครบ 80 พรรษา ในปี 50 ที่จะถึงนี้
       
       อย่างไรก็ตาม การวิจัยพัฒนารถมินิบัสต้นแบบพลังงานทางเลือกดังกล่าวก็ยังไม่หยุดเพียงเท่านั้น แต่ทางหัวหน้าทีมวิจัยยังได้บอกเพิ่มเติมว่า ทางทีมวิจัยยังได้ศึกษาไปถึงการนำเซลล์เชื้อเพลิง (fuel cell) แบบที่ใช้พลังงานไฮโดรเจนมาปรับใช้เป็นแหล่งพลังงานทางเลือกให้กับรถเมล์แสงอาทิตย์ขนาดเล็กนี้ด้วย เวลานี้ทางคณะได้มีเทคโนโลยีการใช้พลังงานจากไฮโดรเจนแล้ว โดยเฉพาะกับเทคโนโลยีถังกักเก็บก๊าซไฮโดรเจนที่ต้องมีความปลอดภัยสูง ทว่าก็ต้องรอการสนับสนุนจากภาครัฐที่เห็นควรพิจารณาให้การสนับสนุนด้วย
 
http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9490000158113

ลองพิจารณาอันนี้ดูด้วยดีไหมครับ ของคนไทยด้วย ส่วนตรงย่อหน้าสุดท้าย ได้วิจัยเสร็จแล้ว http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9510000081788
บันทึกการเข้า
ริวเซย์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,637


Worrior in The Blue Armor


เว็บไซต์
« ตอบ #37 เมื่อ: 14-07-2008, 01:29 »

คิดโปรเจ็คมาก็โกงอยู่แล้ว

สันด-นพวกนี้ไม่ควรไว้ใจอย่างยิ่งครับ

ต้องทำให้โปร่งใสทุกโครงการ เผยให้เห็นทุกขั้นตอน ตรวจสอบได้ทุกอย่างถึงจะยอมรับ
บันทึกการเข้า

ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^


Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #38 เมื่อ: 14-07-2008, 02:01 »

มุมมองของคุณXYLITOL และคุณchaturant น่าสนใจนะครับ

1..กลางวันและหลังสองทุ่มไปแล้วรถไม่จำเป็นต้องเต็มกำลัง 4 พันกว่าคันก็ได้  มีเต็มพิกัดอยู่แค่ช่วงเร่งด่วน  ดังนั้น ค่าเช่าคิด 5000 ก็อาจแพงไปหน่อย

ส่วนการจัดระเบียบเส้นทางทับซ้อนนั้น..
ความจริงมีการจัดใหม่หลายรอบแล้วนะครับ  โละเส้นทางที่ทับซ้อนและผู้โดยสารน้อย  แต่กระนั้นก็ยังไม่พอให้บริการประชาชนนะครับ  ต้องอาศัยเมล์เล็กและรถตู้ช่วยตลอด

ถ้าอย่างคุณว่า มีรถเมล์วิ่งทับเส้นกันหลายคันอยากให้น้อยสายลง ถ้าทำเช่นนั้น ผู้โดยสารอาจต้องเดินทางหลายคันหลายต่อนะครับ  เพราะต่างคนต่างที่มา แต่มาชุมนุมที่จุดเดียวกัน  เช่น สยามสแควร์  อนุสาวรีย์ชัย  วงเวียนใหญ่  มีรถวิ่งผ่านหลายสายก็จริง  แต่ทุกสายวิ่งมาจากทุกมุมเมือง อาจมาทับเส้นทางกันบ้างก็ต้องยอม เป็นความจำเป็นของคนหลายคนที่ไม่ต้องต่อรถหลายรอบ  มันเหนื่อยนะครับ ถ้าเป็นรถไฟฟ้าไม่เหนื่อยเพราะรถมาตรงเวลาและติดแอร์ตลอด  แต่รถเมล์คงไม่ไหวครับ  สงสารเด็กและผู้หญิง คนชรา

ทับเส้นทางที่เป็นชุมนุมชนคงต้องให้อภัยและอย่าปรับลดเลยครับ แค่นี้ก็ไม่พออยู่แล้ว

ถ้าผมเป็นนายกเมื่อไร ผมจะสร้างถนนลอยฟ้าและมุดดินให้รถเมล์และรถสาธารณะวิ่งโดยเฉพาะเลยครับ  ตรงไหนเจอสะพานลอยหรือทางรถไฟฟ้าก็มุดดินวิ่ง  ตรงไหนโล่งโจ้งก็ให้ลอยฟ้าไปเลย

ตกลงจะเลือกผมเป็นนายกรัฐมนตรีไหมล่ะ


พวกชุมสายนี่ยังไม่นับว่าวิ่งทับเส้นทางกันหรอกครับ ที่วิ่งทับกันต้องแบบสาย 510 รังสิต-อยุสาวรีย์ กับ 29 รังสิต-อยุสาวรีย์ แบบนี้ครับถึงจะเรียกว่าวิ่งทับเส้นทาง ถ้าเลาเร่งด่วนไม่มีปัญหาหรอก แต่เวลาอย่างช่วงกลางวันนี่สิ เห็นบางครั้งวิ่งมารถโล่งเลย
บันทึกการเข้า
karasu
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 21


« ตอบ #39 เมื่อ: 14-07-2008, 03:32 »

อ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆหลายๆอันน่าสนใจมากครับ

แต่พอย้อนกลับมาคิดดูแล้วถึงเราจะเสนอมุมมองแนวความคิดหรือวิธีการทำงานที่ดูดีแค่ไหน

แต่ให้ตายยังไง รัฐบาล ก็คงจะไม่สนใจเอาไปปรับปรุงแก้ไขหรือปฏิบัติอยู่ดี ^^"
 
ดูอนาคตมันมืดมนยังไงไม่รู้นะ มันน่าจะมีวิธีอะไรที่ดีกว่านี้นะครับ ที่เราจะสามารถทำอะไรที่มันเป็นรูปธรรมในเชิงวิเคราะห์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลน่ะครับ

มันจะเป็นไปได้ไหมหนอ

 Idea

ป.ล. แอบอ่านมานานพึ่งรู้ว่าเวบใช้ดาต้าเบสตัวเดิม ^^"
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: