ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
27-04-2024, 04:00
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  คกก.พัฒนาระบบขนส่งฯอนุมัติให้เช่ารถ NGV 6 พันคัน,เสนอครม.15 ก.ค. 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
คกก.พัฒนาระบบขนส่งฯอนุมัติให้เช่ารถ NGV 6 พันคัน,เสนอครม.15 ก.ค.  (อ่าน 1907 ครั้ง)
XYLITOL
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 53


« เมื่อ: 11-07-2008, 15:40 »

Breaking News

14:54 น.


พล.ต.ท.วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบขนส่งทางรางและระบบขนส่งมวลชน(คกก.) มีมติให้เช่ารถปรับอากาศที่ใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์(NGV) จำนวน 6 พันคัน มูลค่า 1.1 แสนล้านบาท เพื่อทดแทนรถเมล์ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) 3 พันคันที่เก่าและทรุดโทรม

"นายกฯสั่งให้ทำเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ และวันอังคารหน้านี้ก็จะนำเข้าครม." พล.ต.ท.วิเชียรโชติ กล่าว

เขา กล่าวว่า หลังครม.อนุมัติโครงการเช่ารถดังกล่าว ก็จะมีการเปิดประกวดราคาด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิคส์(e-auction) โดยจะมีการกำหนดเงื่อนไขของผู้มีสิทธิยื่นประกวดราคา 26 ข้อ และขั้นสุดท้ายเมื่อบริษัทใดเสนอราคาต่ำสุด ก็จะเป็นผู้ชนะการประกวดราคาโครงการนี้

ทั้งนี้คาดว่า โครงการเช่ารถดังกล่าว จะทำให้ขสมก.ลดปัญหาการขาดทุนซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 6 พันล้านบาทได้ และคาดว่าขสมก.จะเริ่มมีกำไรจากการดำเนินงานตั้งแต่ปี 53 เป็นต้นไป

เขา กล่าวว่า สำหรับรถใหม่ที่จะนำมาวิ่งในโครงการนี้ จะใช้ตั๋วแบบอิเล็กทรอนิกส์กำหนดที่ราคา 15 บาทตลอดสาย และจะมีการขายตั๋วรายเดือน ในราคา 900 บาท/เดือน สำหรับประชาชนทั่วไป

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?lang=T&newsid=328777


    
บันทึกการเข้า
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #1 เมื่อ: 11-07-2008, 15:43 »

ครั้งก่อนรถดับเพลิงยังเคลียร์ไม่ได้ จะเอารถเมล์ไปเสริมอีก
บันทึกการเข้า
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #2 เมื่อ: 11-07-2008, 15:49 »

หุหุ จะไปแล้ว ต้องรีบกันหน่อย
บันทึกการเข้า
มารุจัง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,761


@^____^@


« ตอบ #3 เมื่อ: 11-07-2008, 15:52 »

ทำไมต้องรีบขนาดนั้นด้วยฟระ
เรื่องสำคัญเยอะแยะ ไม่ทำ
ทำแต่เรื่องพวกนี้ มันจำเป็นต้องรีบขนาดนั้นเลยหรือไง
หรือรัฐบาลนี้ลำดับเรื่องสำคัญก่อนหลังไม่เป็น

 
บันทึกการเข้า


ประชาธิปไตย มิได้จบอยู่แค่การเลือกตั้ง
ปล.รูปจากเวบ ผจก.
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 11-07-2008, 16:14 »

ทำไมต้องรีบขนาดนั้นด้วยฟระ
เรื่องสำคัญเยอะแยะ ไม่ทำ
ทำแต่เรื่องพวกนี้ มันจำเป็นต้องรีบขนาดนั้นเลยหรือไง
หรือรัฐบาลนี้ลำดับเรื่องสำคัญก่อนหลังไม่เป็น

 

ต้องรีบหน่อย ใกล้จะไปแล้ว ขืนไม่ทำ เดี๋ยวไม่มีตังค์ใช้
บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
มารุจัง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,761


@^____^@


« ตอบ #5 เมื่อ: 11-07-2008, 16:20 »

ต้องรีบหน่อย ใกล้จะไปแล้ว ขืนไม่ทำ เดี๋ยวไม่มีตังค์ใช้

อ้อ.. เป็นเช่นนี้นี่เอง
ไอ้ที่กิน ๆ ไปยังไม่อิ่ม ช่างเหมือนเปรตจริง ๆ
บันทึกการเข้า


ประชาธิปไตย มิได้จบอยู่แค่การเลือกตั้ง
ปล.รูปจากเวบ ผจก.
1ktip
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,457



« ตอบ #6 เมื่อ: 11-07-2008, 17:30 »

โดนเตะสกัดมารอบนึงยังไม่เข็ด ยังจะเข็นเข้ามาให้ได้
บันทึกการเข้า
กลายใต้
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 56



« ตอบ #7 เมื่อ: 12-07-2008, 00:12 »

ไม่ต้องพูดเรื่องความคุ้มค่าความเหมาะสมของรถ ... เอาแค่คิดคิดแก

เห็นแกเสนอเรื่องรถไฟความเร็วสูง หรือไม่สูงก็ได้ ที่เป็นรางคู่ เพื่อกระจายให้คนไปอยู่นอก ๆ เมื่อง มาแต่ตั้งสมัยหนุ่ม ๆ

ทำไมไม่สานฝันในสิ่งที่แกพูดไว้  แต่กลับเอาเงินแสนล้าน มาลงกับรถ 6000 คัน เพื่อมาติดแหงกกันในกทม.ต่อไป   
บันทึกการเข้า
XYLITOL
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 53


« ตอบ #8 เมื่อ: 12-07-2008, 09:48 »

หมัก” เคาะรถแอร์ฉาว 6 พันคันแล้ว! อ้างความชอบธรรมชนะศึกอภิปรายฯ

http://www.manager.co.th/StockMarket/ViewNews.aspx?NewsID=9510000081746

        หมัก” นั่งหัวโต๊ะคุมประชุมบอร์ดระบบขนส่ง ไฟเขียวโครงการเช่ารถ NGV จำนวน 6 พันคัน วงเงิน 1.1 แสนล้าน แม้จะถูกฝ่ายค้านแฉข้อมูลการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง อ้างความชอบธรรมเสียงข้างมาก ชนะศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ   
       
       วันนี้ (11 ก.ค.) มีรายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบขนส่งและระบบราง ที่มี นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน เห็นชอบโครงการเช่ารถโดยสารประจำทางปรับอากาศที่ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (เอ็นจีวี) จำนวน 6,000 คัน ด้วยการประมูลในวิธี International Bid ในอัตราค่าเช่า 5,100 บาท/คัน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 111,690 ล้านบาท ในระยะเวลา 10 ปี
       
       ทั้งนี้ ที่ประชุมมอบหมายให้กระทรวงคมนาคม กลับไปจัดทำรายละเอียดและเงื่อนไขการประมูลโครงการดังกล่าวให้ชัดเจน และจัดทำประชาพิจารณ์ผ่านเว็บไซต์ของกระทรวง
       
       อนึ่ง ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีได้ดึงเรื่องดังกล่าวออกจากการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยอ้างว่า ต้องการทบทวนรายละเอียดของโครงการให้เกิดความรอบคอบ หลังถูกฝ่ายค้านออกมาระบุว่า โครงการดังกล่าวส่อเค้าทุจริตเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้อง และนำมาเป็นประเด็นหนึ่งในการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ รมว.คมนาคม และ รมช.คมนาคม ที่มีขึ้นในปลายเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา
       
       สำหรับรถโดยสารเอ็นจีวีจะมีการติดตั้งระบบโทรทัศน์วงจรปิด ระบบจีพีอาร์เอส และปรับเส้นทางเดินรถให้เชื่อมโยงพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่วนค่าโดยสารกำหนดไว้ที่ 15 บาทตลอดสาย และมีตั๋วเดือนจำหน่ายสำหรับประชาชนทั่วไปในราคา 900 บาท/เดือน, นักเรียนและนักศึกษาราคา 300 บาท/เดือน, ผู้มีรายได้น้อย ได้แก่ สมาชิกประกันสังคม สมาชิก กบข.ราคา 600 บาท/เดือน, คนพิการและทหารผ่านศึกราคา 450 บาท/เดือน
       
       นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบโครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดของพนักงานองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จำนวน 7,000 คน โดยการจ่ายผลตอบแทนให้ 30 เท่าของเงินเดือน
       
      เปิดคำอภิปรายฝ่ายค้าน “หมัก” หวังฟันหัวคิวรถเมล์ 6,000 ล. 
     
        ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายถาวร เสนเนียม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการบริหารงานขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ที่จะเช่ารถปรับอากาศ NGV รวม 6,000 คัน คิดเป็นมูลค่าโครงการถึง 111,690 ล้านบาทนั้น ผลการตรวจสอบพบว่า เป็นโครงการที่ไม่โปร่งใส และพยายามรีบร้อนที่จะดำเนินโครงการด้วยการผลักดันเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยไม่คำนึงถึงการดำเนินการตาม พ.ร.บ.การเข้าร่วมงานหรือดำเนินงานในกิจการของรัฐ
       
       นายถาวร ระบุว่า โครงการดังกล่าวมีการตกแต่งตัวเลขผลกำไร ที่คาดว่า จะได้รับจากโครงการนี้อย่างเกินจริง เพื่อที่ต้องการให้ผ่านการอนุมัติจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี รวมทั้งยังมีกำไรส่วนเกินที่สามารถนำไปจ่ายเงินใต้โต๊ะให้แก่ใครก็ได้ที่มีอำนาจในการผลักดันโครงการ
       
       “เรื่องนี้อาจจะถึง ป.ป.ช.หรือกองปราบ อยู่ที่ท่านประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบขนส่งทางรางและขนส่งมวลชน ท่านรัฐมนตรีคมนาคม ทั้ง 2 คน จะคิดอ่านอย่างไร ถ้าเห็นกับประโยชน์พี่น้องประชาชน คิดว่า สิ่งที่ผ่านมารับผิดเสียว่าเป็นการปั้นตัวเลขเพื่อให้ได้โครงการ เพื่อให้ครม.คนอื่นเห็นชอบ ผ่านไปโดยง่ายๆ วันนี้หลอกกันไม่ได้ เมื่อเรื่องนี้ปรากฏต่อสาธารณะ ผมไม่ขอไว้วางใจ”
       
       อย่างไรก็ดี นายถาวร กล่าวว่า นับว่า ยังเป็นความโชคดีที่มีข้อกังขาจากรัฐมนตรีหลายคนในพรรคร่วมรัฐบาล ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีจึงทำแค่เพียงการรับทราบโครงการเท่านั้น ยังไม่ได้พิจารณาอนุมัติให้ดำเนินการ ซึ่งในท้ายสุดจึงต้องมีการถอนเรื่องนี้ออกจากการพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรีไปก่อน
       
       “ต้องขอบคุณรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลที่พยายามตั้งข้อสังเกต และเสียใจแทนรัฐมนตรีทั้ง 2 คน (นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม และ นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.คมนาคม) ที่โครงการนี้หยุดชะงัก” นายถาวร กล่าว
       
       นายถาวร ยอมรับว่า ในหลักการแล้วเห็นด้วยกับโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพของ ขสมก.ที่ปัจจุบันต้องมีภาระหนี้สินกว่า 7 หมื่นล้านบาท ด้วยการปรับเปลี่ยนรถที่ใช้น้ำมันมาเป็นใช้ก๊าซ NGV และเป็นรถปรับอากาศทั้งหมด แต่ไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกรถร้อน เพราะจะส่งผลกระทบต่อผู้มีรายได้น้อยที่ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากการต้องเสียค่ารถเมล์เป็น 15 บาทตลอดสาย
       
       ขณะที่ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบขนส่งทางรางและขนส่งมวลชน ชี้แจงว่า เป็นผู้ถอนเรื่องการเช่ารถปรับอากาศ NGV ดังกล่าวออกจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเอง เนื่องจากต้องการให้มีคำอธิบายในรายละเอียดของการเช่ารถมากกว่านี้
       
       “คณะรัฐมนตรี ไปถามดูเลยว่ามีใครมาออกความเห็นทักท้วงอะไรไหม ไม่มีหรอก ผมเป็นคนที่อธิบาย ครม.ว่า วาระที่ 14 ขอเอาออกไปก่อน เพราะต้องการจะให้มีคำอธิบายมากกว่านี้เวลาเอาเข้ามา ครม.เรื่องนี้ขอคำอธิบายเพราะการเขียนเอกสารว่าบริษัทเดียว เขาไม่ได้เลือกบริษัทเดียว แต่เขาเขียนว่าให้เอาบริษัทเดียวเป็นคนให้เช่า” นายกรัฐมนตรี กล่าวสรุป
       
       นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.คมนาคม ชี้แจงการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน ถึงแนวคิดในการเช่ารถ NGV จำนวน 6,000 คัน แทนการเปลี่ยนเครื่องยนต์ ว่า เป็นความตั้งใจดีที่จะไม่ให้ ขสมก.ต้องรับภาระในการบริหารจัดการมากเกินไป แต่จะผลักภาระความเสี่ยงให้กับผู้ให้เช่ารับภาระแทน โดยเห็นว่าจากการศึกษาพบว่า การเช่ารถยนต์จะเกิดประโยชน์มากกว่าการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ที่จะต้องปรับเปลี่ยนในส่วนอื่นๆ เพื่อรองรับเครื่องยนต์ด้วย และยังคงได้รถยนต์เก่าให้บริการกับประชาชน ซึ่งต้องเสียค่าบำรุงทำให้ ขสมก. มีภาระเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่ ขสมก.มีภาวะขาดทุนสะสมอยู่ที่ 70,000 ล้านบาท และหากยังไม่ได้รับการแก้ไขจะประสบภาวะล้มละลายภายใน 8 ปีข้างหน้า
       
       นอกจากนี้ รมช.คมนาคม ยังกล่าวอีกว่า แนวคิดในการเช่ารถยนต์ NGV จะทำให้ ขสมก.ประหยัดพลังงานได้ประมาณเดือนละ 537 ล้านบาท
บันทึกการเข้า
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 12-07-2008, 10:07 »

หมัก” เคาะรถแอร์ฉาว 6 พันคันแล้ว! อ้างความชอบธรรมชนะศึกอภิปรายฯ

http://www.manager.co.th/StockMarket/ViewNews.aspx?NewsID=9510000081746

        หมัก” นั่งหัวโต๊ะคุมประชุมบอร์ดระบบขนส่ง ไฟเขียวโครงการเช่ารถ NGV จำนวน 6 พันคัน วงเงิน 1.1 แสนล้าน แม้จะถูกฝ่ายค้านแฉข้อมูลการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง อ้างความชอบธรรมเสียงข้างมาก ชนะศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ   
       
       วันนี้ (11 ก.ค.) มีรายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบขนส่งและระบบราง ที่มี นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน เห็นชอบโครงการเช่ารถโดยสารประจำทางปรับอากาศที่ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (เอ็นจีวี) จำนวน 6,000 คัน ด้วยการประมูลในวิธี International Bid ในอัตราค่าเช่า 5,100 บาท/คัน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 111,690 ล้านบาท ในระยะเวลา 10 ปี
       
       ทั้งนี้ ที่ประชุมมอบหมายให้กระทรวงคมนาคม กลับไปจัดทำรายละเอียดและเงื่อนไขการประมูลโครงการดังกล่าวให้ชัดเจน และจัดทำประชาพิจารณ์ผ่านเว็บไซต์ของกระทรวง
       
       อนึ่ง ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีได้ดึงเรื่องดังกล่าวออกจากการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยอ้างว่า ต้องการทบทวนรายละเอียดของโครงการให้เกิดความรอบคอบ หลังถูกฝ่ายค้านออกมาระบุว่า โครงการดังกล่าวส่อเค้าทุจริตเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้อง และนำมาเป็นประเด็นหนึ่งในการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ รมว.คมนาคม และ รมช.คมนาคม ที่มีขึ้นในปลายเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา
       
       สำหรับรถโดยสารเอ็นจีวีจะมีการติดตั้งระบบโทรทัศน์วงจรปิด ระบบจีพีอาร์เอส และปรับเส้นทางเดินรถให้เชื่อมโยงพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่วนค่าโดยสารกำหนดไว้ที่ 15 บาทตลอดสาย และมีตั๋วเดือนจำหน่ายสำหรับประชาชนทั่วไปในราคา 900 บาท/เดือน, นักเรียนและนักศึกษาราคา 300 บาท/เดือน, ผู้มีรายได้น้อย ได้แก่ สมาชิกประกันสังคม สมาชิก กบข.ราคา 600 บาท/เดือน, คนพิการและทหารผ่านศึกราคา 450 บาท/เดือน
       
       นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบโครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดของพนักงานองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จำนวน 7,000 คน โดยการจ่ายผลตอบแทนให้ 30 เท่าของเงินเดือน
       
      เปิดคำอภิปรายฝ่ายค้าน “หมัก” หวังฟันหัวคิวรถเมล์ 6,000 ล. 
     
        ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายถาวร เสนเนียม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการบริหารงานขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ที่จะเช่ารถปรับอากาศ NGV รวม 6,000 คัน คิดเป็นมูลค่าโครงการถึง 111,690 ล้านบาทนั้น ผลการตรวจสอบพบว่า เป็นโครงการที่ไม่โปร่งใส และพยายามรีบร้อนที่จะดำเนินโครงการด้วยการผลักดันเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยไม่คำนึงถึงการดำเนินการตาม พ.ร.บ.การเข้าร่วมงานหรือดำเนินงานในกิจการของรัฐ
       
       นายถาวร ระบุว่า โครงการดังกล่าวมีการตกแต่งตัวเลขผลกำไร ที่คาดว่า จะได้รับจากโครงการนี้อย่างเกินจริง เพื่อที่ต้องการให้ผ่านการอนุมัติจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี รวมทั้งยังมีกำไรส่วนเกินที่สามารถนำไปจ่ายเงินใต้โต๊ะให้แก่ใครก็ได้ที่มีอำนาจในการผลักดันโครงการ
       
       “เรื่องนี้อาจจะถึง ป.ป.ช.หรือกองปราบ อยู่ที่ท่านประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบขนส่งทางรางและขนส่งมวลชน ท่านรัฐมนตรีคมนาคม ทั้ง 2 คน จะคิดอ่านอย่างไร ถ้าเห็นกับประโยชน์พี่น้องประชาชน คิดว่า สิ่งที่ผ่านมารับผิดเสียว่าเป็นการปั้นตัวเลขเพื่อให้ได้โครงการ เพื่อให้ครม.คนอื่นเห็นชอบ ผ่านไปโดยง่ายๆ วันนี้หลอกกันไม่ได้ เมื่อเรื่องนี้ปรากฏต่อสาธารณะ ผมไม่ขอไว้วางใจ”
       
       อย่างไรก็ดี นายถาวร กล่าวว่า นับว่า ยังเป็นความโชคดีที่มีข้อกังขาจากรัฐมนตรีหลายคนในพรรคร่วมรัฐบาล ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีจึงทำแค่เพียงการรับทราบโครงการเท่านั้น ยังไม่ได้พิจารณาอนุมัติให้ดำเนินการ ซึ่งในท้ายสุดจึงต้องมีการถอนเรื่องนี้ออกจากการพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรีไปก่อน
       
       “ต้องขอบคุณรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลที่พยายามตั้งข้อสังเกต และเสียใจแทนรัฐมนตรีทั้ง 2 คน (นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม และ นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.คมนาคม) ที่โครงการนี้หยุดชะงัก” นายถาวร กล่าว
       
       นายถาวร ยอมรับว่า ในหลักการแล้วเห็นด้วยกับโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพของ ขสมก.ที่ปัจจุบันต้องมีภาระหนี้สินกว่า 7 หมื่นล้านบาท ด้วยการปรับเปลี่ยนรถที่ใช้น้ำมันมาเป็นใช้ก๊าซ NGV และเป็นรถปรับอากาศทั้งหมด แต่ไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกรถร้อน เพราะจะส่งผลกระทบต่อผู้มีรายได้น้อยที่ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากการต้องเสียค่ารถเมล์เป็น 15 บาทตลอดสาย
       
       ขณะที่ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบขนส่งทางรางและขนส่งมวลชน ชี้แจงว่า เป็นผู้ถอนเรื่องการเช่ารถปรับอากาศ NGV ดังกล่าวออกจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเอง เนื่องจากต้องการให้มีคำอธิบายในรายละเอียดของการเช่ารถมากกว่านี้
       
       “คณะรัฐมนตรี ไปถามดูเลยว่ามีใครมาออกความเห็นทักท้วงอะไรไหม ไม่มีหรอก ผมเป็นคนที่อธิบาย ครม.ว่า วาระที่ 14 ขอเอาออกไปก่อน เพราะต้องการจะให้มีคำอธิบายมากกว่านี้เวลาเอาเข้ามา ครม.เรื่องนี้ขอคำอธิบายเพราะการเขียนเอกสารว่าบริษัทเดียว เขาไม่ได้เลือกบริษัทเดียว แต่เขาเขียนว่าให้เอาบริษัทเดียวเป็นคนให้เช่า” นายกรัฐมนตรี กล่าวสรุป
       
       นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.คมนาคม ชี้แจงการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน ถึงแนวคิดในการเช่ารถ NGV จำนวน 6,000 คัน แทนการเปลี่ยนเครื่องยนต์ ว่า เป็นความตั้งใจดีที่จะไม่ให้ ขสมก.ต้องรับภาระในการบริหารจัดการมากเกินไป แต่จะผลักภาระความเสี่ยงให้กับผู้ให้เช่ารับภาระแทน โดยเห็นว่าจากการศึกษาพบว่า การเช่ารถยนต์จะเกิดประโยชน์มากกว่าการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ที่จะต้องปรับเปลี่ยนในส่วนอื่นๆ เพื่อรองรับเครื่องยนต์ด้วย และยังคงได้รถยนต์เก่าให้บริการกับประชาชน ซึ่งต้องเสียค่าบำรุงทำให้ ขสมก. มีภาระเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่ ขสมก.มีภาวะขาดทุนสะสมอยู่ที่ 70,000 ล้านบาท และหากยังไม่ได้รับการแก้ไขจะประสบภาวะล้มละลายภายใน 8 ปีข้างหน้า
       
       นอกจากนี้ รมช.คมนาคม ยังกล่าวอีกว่า แนวคิดในการเช่ารถยนต์ NGV จะทำให้ ขสมก.ประหยัดพลังงานได้ประมาณเดือนละ 537 ล้านบาท


เหี้eพวกนี้มันก็อย่างนี้แหล่ะ ชอบอ้างจำนวนเข้าว่า

จำไม่ได้เหรอ ประโยค "เขาเลือกผมมาแล้ว ผมจึงมีสิทธิ์"
บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #10 เมื่อ: 12-07-2008, 10:12 »

ในความคิดผมก่อนจะตัดสินใจทำอะไรลงไปในเรื่องนี้
น่าจะให้ ขสมก. เปิดเผยต้นทุนแท้จริงต่อสาธารณะ

ว่าการขาดทุนที่ผ่านมามีภาระค่าใช้จ่ายอย่างไรบ้าง
จะได้รู้กันว่าค่าใช้จ่ายสมเหตุสมผลหรือไม่

ที่กล่าวกันว่ารถ ขสมก.กินน้ำมันมโหฬาร มีค่าซ่อม
ค่าอะไหล่สูงผิดปกติ เป็นความจริงหรือไม่

ถ้าบริหารจัดการอย่างถูกต้องจะไม่ขาดทุนขนาดนี้
เป็นความจริงหรือไม่

เพราะทำแบบนี้เท่ากับหมกเม็ดล้างปัญหาที่เกิดขึ้น
ให้กลายเป็นความลับดำมืดไปตลอดกาล


เรื่องนี้ก็เหมือนกับปัญหาราคาน้ำมัน ราคาปุ๋ย ฯลฯ
แน่จริงเปิดเผยต้นทุนมาให้หมด จะได้ชัดเจนสักที
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
NN
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 230


« ตอบ #11 เมื่อ: 12-07-2008, 10:26 »


เห็นด้วยกับคุณ jerasak

ขสมก เป็นรัฐบริการที่มีความลี้ลับมานาน ในด้านการประกาศผลประกอบการขาดทุน
การขนส่งในแบบอื่น ทั้งรถไฟฟ้า รถใต้ดิน ของร่วม และเอกชน เข้ามาแบ่งสัดส่วนไปจนต้องคิดว่า ..
เส้นทางบริการ ชั้นนอก-ชั้นใน ต่างๆ มีความคุ้มทุนที่จะยังบริการอยู่หรือไม่ที่จะเอารถมาจอดบนถนนไปวันๆ
และค่าบริการที่สมมุติขึ้นมา ดูเหมือนจะไม่ได้มีการแหกตาดูกับสภาวะเศรษฐกิจและรายได้ของผู้โดยสารได้ถูกต้องใกล้เคียง

จะไปเข้าคุกอยู่รอมร่อ ยังมีแก่ใจจัดสรรให้พรรคพวกมางาบ
น้ำใจงามจริงๆ 
บันทึกการเข้า
ฟ้าเข้ม
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 462


« ตอบ #12 เมื่อ: 12-07-2008, 10:28 »

ไม่น่าเชื่อเลยว่ายังกล้าดำเนินเรื่องต่ออีก อย่างหนาเลยแฮะ
บันทึกการเข้า
tigerfireback
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 57


« ตอบ #13 เมื่อ: 12-07-2008, 10:37 »

รีบๆเข้าหมัก
ทุกๆวันที่ผ่านไป มันคล้ายชูชก เข้าไปเรื่อยแล้ว

คงกลัวว่า ที่ผ่านมา ยังไม่พอที่จะไปอยู่ ปล่อยเปรตเขมร
เลยต้องทำให้มากเข้าไว้

งานนี้เขมร ยินดีต้อนรับ หมักชูชก
บันทึกการเข้า
H-edge
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 94


« ตอบ #14 เมื่อ: 12-07-2008, 11:31 »

เห็นด้วยกับคุณจี อย่างมาก   ทุกสิ่งทุกอย่างไม่เคยกระจ่างแจ้ง เงินเก่ายังไม่เคลีย จะขอเงินใหม่ไปเพิ่ม

มันยังไง ยังไงอยู่

ขอเพิ่มอีกอย่างนะคะ  ถ้าเอารถใหม่มาใช้แล้ว พนักงานเก็บค่าโดยสารของระบบเก่าจะทำยังไง

จะต้องมีคนตกงานอีกกี่ร้อย กี่พันคน  เศรษฐกิจก็ย้ำแย่อยู่แล้วยังจะซ้ำเติม

อาชีพพนักงานเก็บค่าโดยสาร เป็นอาชีพคลาสสิค น่าจะอนุรักษ์ไว้  ประเทศพัฒนาแล้วบางประเทศ

เขายังสงวนไว้เลย  คิดๆ แล้วอาชีพนี้ถ้าหายไป ก็คงใจหายเหมือนกันนะเนี่ย
บันทึกการเข้า
chaturant
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 499



« ตอบ #15 เมื่อ: 12-07-2008, 14:18 »

หุ่นเชิดกำลังโกงชาติอีก 60,000 ล้าน!

สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ได้เปิดเผยว่าโครงการซื้อรถก๊าซเอ็นจีวีของ ขสมก. สังกัดกระทรวงคมนาคมจำนวน 6,000 คันนั้นมีการจ่ายเงินใต้โต๊ะกันถึง 6,000 ล้านบาท แล้วแบ่งเป็น 3 ส่วนๆ ละ 2,000 ล้านบาท
       
        ชะงักไปกึกหนึ่ง แต่ขณะนี้กำลังเดินหน้าเต็มอัตราศึกแล้ว!
       
        ข้อมูลของพรรคประชาธิปัตย์ดังกล่าวเป็นเพียงส่วนเดียวคือส่วนผิวบนเท่านั้น แท้จริงแล้วโครงการนี้โกงชาติกว่า 60,000 ล้านบาท ดังนั้นทำความเข้าใจกันให้ดีๆ แล้วร่วมกันขัดขวางการโกงชาติเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด
       
        โครงการนี้ได้เริ่มต้นมาตั้งแต่กลางปี 2549 คราวนั้นมีจำนวนรถแค่ 2,000 คัน วางแผนการกันให้ ปตท. ซื้อรถจากบริษัทในประเทศจีน ราคาคันละประมาณ 3 ล้านบาทเศษ แล้วยกให้ฟรีแก่ ขสมก. แต่ ขสมก. ต้องซื้อก๊าซเอ็นจีวีจาก ปตท. ในราคาตลาดบวกด้วย 12 บาทต่อหน่วย ตลอดระยะเวลาที่ใช้รถ
       
        สิริรวมแล้ว ขสมก. จะต้องจ่ายค่ารถ ก๊าซเอ็นจีวี ภายใต้รูปแบบว่าจ่ายค่าก๊าซส่วนเกินจากราคาตลาด ตลอดระยะเวลาใช้รถรวมเป็นเงินถึง 12 ล้านบาทต่อคัน
       
        คิดเอาง่ายๆ ตัวเลขกลมๆ ว่าค่ารถคันละ 4 ล้านบาท แต่ ขสมก. จะต้องจ่ายเป็นเงินถึง 12 ล้านบาท เกินราคาปกติไปถึงคันละ 8 ล้านบาท จำนวนรถ 2,000 คัน ก็จะเป็นเงินถึง 16,000 ล้านบาท
       
        โชคดีที่คราวนั้นยังไม่ทันได้ตกลงทำเป็นสัญญากันก็เกิดการยึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 เสียก่อน โครงการนี้จึงพักไป
       
        ครั้นรัฐบาลหุ่นเชิดเข้ามามีอำนาจ ก็มีคนวิ่งเต้นเรื่องนี้ต่อไปอีก วิ่งไปเมืองจีนหลายครั้งหลายหน ในที่สุดก็ปรับแผนใหม่
       
        ทำเป็นโครงการให้ ขสมก. เช่ารถก๊าซเอ็นจีวี 6,000 คัน ซึ่งเป็นรถแบบเดียวกัน ผลิตจากที่เดียวกัน โดยเช่าเป็นเวลา 10 ปี ทั้งๆ ที่กำลังเร่งโครงการรถไฟฟ้าอีกหลายสาย และตั้งงบประมาณค่าเช่า ค่าซ่อมบำรุงรวมเป็นเงิน 110,000 ล้านบาทเศษ
       
        แล้วมาหลอกคนไทยตอบโต้ข้อกล่าวหาของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ว่าค่าเช่ารถวันละ 5,000 กว่าบาท จะมีเงินใต้โต๊ะถึง 6,000 ล้านบาทได้อย่างไร?
       
        หลอกแบบที่เห็นคนไทยโง่เป็นวัวควาย เพราะเด็กชั้นมัธยมที่บวกลบคูณหารเป็นก็คิดได้ดังต่อไปนี้
       
        คิดตัวเลขกลมๆ ว่าค่าซื้อรถก๊าซเอ็นจีวีคันละ 4 ล้านบาท จำนวน 6,000 คัน จะตกเป็นเงินค่าซื้อรถ 24,000 ล้านบาท หากจะเทียบกับงบประมาณค่าเช่าทั้งหมด 110,000 ล้านบาท ขสมก. ก็จะต้องจ่ายเงินมากกว่าค่าซื้อถึง 86,000 ล้านบาท
       
        แต่คิดอย่างนี้จะไม่เป็นธรรม เพราะว่ารถที่ซื้อมานั้นมีมาตรฐานการใช้งานในระยะ 5 ปี ดังนั้นเมื่อครบ 5 ปีก็ต้องเอารถที่เหลือใช้ไปบริจาคให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือหน่วยงานต่างๆ เอาไปปรับปรุงใช้สอย ก็จะทำให้ อบต. หรือ อบจ. หรือโรงเรียนต่างๆ ได้รถเก่าไปใช้ถึง 6,000 คัน
       
        ไม่ต้องคิดเป็นค่าขายรถเก่าให้ยุ่งยาก เอาเป็นว่ายกให้ไปฟรีๆ ก็ได้ จากนั้นก็ซื้อรถใหม่มาทดแทนรถเก่าในจำนวนเท่ากันคือ 6,000 คัน เป็นเงินอีก 24,000 ล้านบาท
       
        รวมเป็นเงินที่ซื้อรถ 6,000 คันสำหรับ 5 ปีแรก กับเงินที่ซื้อรถ 6,000 คันสำหรับ 5 ปีหลังก็จะเป็นเงินรวมทั้งสิ้น 48,000 ล้านบาท
       
        หมายความว่าในระยะเวลา 10 ปี ขสมก. ใช้เงินเพียง 48,000 ล้านบาทก็ซื้อรถก๊าซเอ็นจีวีได้ 2 ครั้งๆ ละ 6,000 คัน แล้วยังมีรถเก่าเอาไปบริจาคให้แก่โรงเรียนหรือ อบต. ได้ทั่วประเทศอีกต่างหาก
       
        ค่าซื้อ 2 รอบรวมเป็นเงิน 48,000 ล้านบาทนี้เมื่อเทียบกับค่าเช่าที่รัฐบาลหุ่นเชิดตั้งไว้ 110,000 ล้านบาทแล้ว ก็ยังถูกกว่าค่าเช่าถึง 62,000 ล้านบาท
       
        ก็ต้องโห่ดังๆ ว่าโครงการนี้คือโครงการโกงชาติ 62,000 ล้านบาท แต่คิดตัวเลขกลมๆ เป็นว่า 60,000 ล้านบาท
       
        ถ้าการแบ่งสัดส่วนเงินใต้โต๊ะ 6,000 ล้านบาทเป็นดังที่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เปิดเผย ก็คิดดูกันเอาเองว่าเงิน 62,000 ล้านบาทนี้ เมื่อแบ่งเป็น 3 ส่วนแล้ว จะได้ส่วนละเท่าใด?
       
        แล้วถามว่าใครเป็นคนจ่ายเงินที่โกงชาตินี้? ก็ต้องตอบว่าประชาชนทุกคนที่โดยสารรถ ขสมก.
       
        เพราะเขาบอกมาตั้งแต่ไก่โห่แล้วว่าจะปรับอัตราค่าโดยสารจากปกติที่ชาวบ้านเคยเสีย 7 บาท เป็น 15 บาท
       
        ดังนั้นคนที่เดือดร้อนจริงๆ ก็คือมวลชนคนรากหญ้าผู้มีรายได้น้อย หรือปานกลางที่ต้องพึ่งพาอาศัยบริการรถ ขสมก.
       
        ตอนนี้เขาล็อกสเป็ก ล็อกบริษัทผู้ขายไว้เรียบร้อยแล้ว เซ็นสัญญาวันไหนเงินใต้โต๊ะมหาศาลก็จะผ่านฉลุยออกมา
       
        แล้วถามว่าสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินและ ป.ป.ช. ตลอดจนฝ่ายค้านและวุฒิสภาจะไม่ชำเลืองดูและตรวจสอบโครงการนี้บ้างเลยหรือ?
บันทึกการเข้า
西施无情
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 456


ไซซีไ้ร้ใจ


« ตอบ #16 เมื่อ: 12-07-2008, 14:24 »

อ้าววววววววววว ไหนตอนแรกนายกท่านบอกว่าแค่คิดโีครงร่าง ขึ้นมาเฉยๆไง ยังไมไ่ด้ทำอะไรเป็นรูปเป็นร่าง ราคาค่าซ่อม ตั๋วรถอะไรก็กะกันแค่คร่าวๆ ไงคะ ??

แล้วไหงตอนนี้จะเสนอ ครม แล้วเหรอ ไวปานสายฟ้าแลบ !!

งั้น อภิปรายไม่ไว้วางใจของ ปชป ก็มีมูล น่ะสิ !!


 
บันทึกการเข้า

我愛你, 陈一冰,
หน้า: [1]
    กระโดดไป: