ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
25-04-2024, 19:41
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ข้อหา"ขายชาติ"จาก"ทักษิณ"ถึง"นพดล" 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ข้อหา"ขายชาติ"จาก"ทักษิณ"ถึง"นพดล"  (อ่าน 1595 ครั้ง)
eAT
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,066



« เมื่อ: 10-07-2008, 18:51 »

วันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 31 ฉบับที่ 11079

ข้อหา"ขายชาติ"จาก"ทักษิณ"ถึง"นพดล"

โดย นงนุช สิงหเดชะ

http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01act02100751&day=2008-07-10&sectionid=0130

ในยุคปัจจุบันหรือยุคร่วมสมัย หากจำไม่ผิด ยังไม่เคยมีนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีคนใดของไทย ถูกกล่าวหาว่า "ขายชาติ" หรือถูกชาวบ้านไปดักตะโกนต่อว่า ว่า "ขายชาติ" ยกเว้นบุคคลสองคนคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังจากขายชินคอร์ปให้เทมาเส็ก จากสิงคโปร์ โดยไม่เสียภาษี และที่สำคัญไปกว่านั้น การขายกิจการดาวเทียมไทยคม ซึ่งเป็นดาวเทียมที่ได้รับพระราชทานนามให้กับต่างชาติอย่างสิงคโปร์ ที่เกรงกันว่าจะสร้างปัญหาทางด้านความมั่นคงต่อไทย

หลังจากยุบสภาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2549 และกำหนดให้มีการเลือกตั้ง 2 เมษายนปีเดียวกัน พ.ต.ท.ทักษิณได้ลงพื้นที่ย่านสีลม หาเสียงช่วยนายจักรภพ เพ็ญแข ผู้ลงสมัคร ส.ส. (ซึ่งต่อมาสอบตก) ระหว่างเดินหาเสียงนั้นมีแม่ค้าย่านสีลมตะโกนใส่ว่า "ขายชาติ"

หลังจากนั้นศาลรัฐธรรมนูญก็มีคำสั่งให้การเลือกตั้งวันที่ 2 เมษายน 2549 เป็นโมฆะ ตามด้วยการเกิดรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายนปีเดียวกัน ต่อด้วยศาลรัฐธรรมนูญมีคำตัดสินให้ยุบพรรคไทยรักไทยฐานทำผิดกฎหมายเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤษภาคมในปีถัดมา

ล่าสุดกรณีปราสาทพระวิหาร ทำให้นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ อดีตทนายความส่วนตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกชาวบ้านบุกไปตะโกนด่าในทำนองเดียวกันถึงกระทรวงการต่างประเทศ ขณะที่นายนพดล วิ่งการกุศลร่วมกับทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย

ปัญหาปราสาทพระวิหารจะไม่ทำให้นายนพดลถูกกล่าวหาว่าขายชาติ หากได้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างโปร่งใส และเปิดเผยตั้งแต่ต้น แต่การงุบงิบเร่งรีบทำโดยไม่ผ่านการขอความเห็นชอบในวงกว้าง จึงทำให้เรื่องนี้บานปลายอย่างมาก

ทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณและนายนพดล อาจต้องตั้งคำถามกับตัวเองให้มากว่า เหตุใดจึงถูกประชาชนจำนวนไม่น้อยมองไปในทางที่ไม่รักษาผลประโยชน์ของชาติ ทำไมข้อหา "ขายชาติ" จึงคล้ายเป็นสิ่งติดตัวของคนทั้งสองชนิดสลัดไม่หลุด ถ้าเป็นภาษาของนักเลงรถเขาจะพูดกันว่า "สลัดไม่พ้นกระจกหลัง" ซึ่งหมายความว่ารถยนต์ของเรานั้นไม่แรงและไม่เร็วพอ จึงไม่อาจวิ่งทิ้งห่างจากรถยนต์คันหลังที่จี้มาติดๆ ได้ มองกระจกหลังทีไรรถยนต์คันนั้นก็ยังอยู่ในรัศมีของกระจกหลัง

นักเลงรถเขาจะหงุดหงิดมาก ที่หากเขาแซงรถคันใดแล้ว ไม่สามารถทิ้งขาดรถคันที่ตัวเองแซงได้ เพราะรู้สึกเสียฟอร์มว่ารถตัวเองไม่แรงพอ ถ้าเป็นภาษาของชาวบ้านหรือในทางศาสนาก็จะพูดกันว่า "หนีไม่พ้นกรรม" ซึ่งแปลว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราล้วนเป็นผลจากการกระทำของเรา

โดยปกติคนไทย โดยเฉพาะคนไทยในยุคปัจจุบัน ไม่จัดว่าอยู่ในกลุ่มพวกหัวรุนแรงคลั่งชาติหรือชาตินิยม แต่ไทยเป็นชาติหนึ่งที่เปิดกว้างยอมรับต่างชาติค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับอีกหลายประเทศ ดังนั้น ไทยจึงเป็นประเทศที่คนหลายเชื้อชาติหลายกลุ่มอยู่ร่วมกันได้อย่างค่อนข้างราบรื่น ดังนั้น เชื่อว่าถ้าไม่ใช่เรื่องที่ "เหลืออด" และไม่มากเกินไปแล้วจะมาปลุกกระแสคลั่งชาติในหมู่คนไทยได้ยาก โดยเฉพาะในยุคที่คนมีการศึกษามากขึ้น ยอมรับความเป็นโลกาภิวัตน์มากขึ้น

การจะนำกรณีปราสาทพระวิหารในขณะนี้ไปเปรียบเทียบกับความชาตินิยมเมื่อ 40-50 ปีที่แล้ว คงเป็นการเปรียบเทียบบนข้อมูลที่ไม่ทันสมัย

ที่จริงความเป็นชาตินิยมนั้น ทุกชาติจำเป็นต้องมีบ้าง การมีมากเกินไปก็ไม่ดีเพราะจะทำให้เราเบียดเบียนรังแกคนอื่น แต่การไม่มีเลยก็เป็นผลเสีย เพราะถ้าเราไม่มีความเป็นชาตินิยมหรือไม่เห็นแก่ชาติเลย เราก็จะทำทุกอย่างโดยเห็นแก่ตัว ไม่นึกถึงส่วนรวมและคนรุ่นหลัง

ในทางอุดมคตินั้น หลายคนไม่อยากให้โลกนี้มีเขตแดนหรือแบ่งเส้นประเทศกันเลย ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นได้ก็ยิ่งดีเพราะจะทำให้คนไม่ขัดแย้งสู้รบกัน แต่ในทางปฏิบัติเราทำได้หรือไม่ เพราะแม้แต่ในสังคมขนาดเล็ก ในชุมชนที่เราอยู่นั้นเรายังต้องมีการออกโฉนดปักปันเขตแดนระหว่างเรากับบ้านข้างๆ เพื่อให้มีความชัดเจนว่าเรามีสิทธิทำอะไรบนที่ดินแปลงนั้นบ้าง

นักวิชาการหัวเสรีสุดขั้วบางคน เขาถึงกับตำหนิว่าความเป็นชาตินิยมเรื่องปราสาทพระวิหาร ทำให้ไทยเสียความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านอย่างเขมร ไม่นึกถึงผลประโยชน์ที่จะได้จากความสัมพันธ์นั้น กล่าวในทำนองว่าไทยต้องเป็นฝ่ายอ่อนข้อเขมรจึงจะถูก โดยกล่าวอ้างถึงพระพุทธเจ้าหลวงว่าในสมัยถูกฝรั่งเศสรุกรานนั้น ไทยได้ใช้นโยบายการทูต การโอนอ่อนให้ฝรั่งเศสจึงรักษาดินแดนส่วนใหญ่ไว้ได้

แต่นักวิชาการคนนั้นคงไม่ทราบว่า เมื่อคราวจำใจยกที่ดินสยามบริเวณฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงกว่า 1 แสนตารางกิโลเมตร ให้ฝรั่งเศสนั้น พระองค์เสียพระทัยอย่างมากถึงกับประชวร

มาในยุคนี้หมดสมัยแล้วที่ประเทศซึ่งมีกำลังทางทหารมากกว่าจะมายึดครองประเทศใดได้ง่ายๆ ดังนั้น นักวิชาการในยุคปัจจุบันที่ยังอ้างพระพุทธเจ้าหลวงที่ทรงยอมเสียดินแดนเมื่อกว่า 100 ปีมาใช้ในกรณีปราสาทพระวิหาร จึงเป็นเรื่องน่าเศร้าและน่าเสียใจ หากพระพุทธเจ้าหลวงยังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่ก็คงจะเสียพระทัยอย่างมากอีกคำรบหนึ่ง

จริงอยู่การผูกมิตรกับเพื่อนบ้านเป็นเรื่องดี แต่ในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศนั้นสิ่งสำคัญที่สุดและเป็นหน้าที่หลักของทุกรัฐบาลก็คือปกป้องผลประโยชน์ของประเทศตัวเองให้ถึงที่สุด แม้ในทางโวหารหรือคำพูดทางการทูตจะพูดกันไว้สวยหรูว่าการเป็นพันธมิตรกับเพื่อนบ้านหรือชาติอื่นเป็นเรื่องดีที่จะส่งผลดีทางเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน

แต่ในทางปฏิบัติแล้วสิ่งที่ทุกชาติล้วนทำกันคือตัวเองต้องได้ประโยชน์มากที่สุดหรืออย่างน้อยก็ต้องเท่าเทียมไม่เสียเปรียบคู่เจรจานั่นเอง ถามว่ารัฐบาลไทยในยุคนี้รักษาผลประโยชน์ของไทยเพียงพอหรือไม่กรณีปราสาทพระวิหาร

บัดนี้คณะกรรมการมรดกโลกมีมติให้ปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกแล้ว ถามว่ารัฐบาลจะรับผิดชอบอย่างไร

-----------------

แปะแก้คิดถึง ถึงใครบางคน ที่อ้างว่าเป็นกลางเสียเหลือเกิน
ชอบตัดปะ "มติชน" เวลาเชียร์เหลืยม และ เวลาด่า "ฝ่ายตรงข้าม"
บันทึกการเข้า
อนัตตา (ไร้สี ไร้กลิ่น ไร้ฝ่าย)
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 620



« ตอบ #1 เมื่อ: 10-07-2008, 19:12 »

เขียนดีแฮะ

ผมก็ไม่เคยเห็นประเทศไหน ยก/ขาย สมบัติชาติง่ายๆ เท่ากับไทยยุคนี้

ทหารก็มี อาวุธก็ซื้อทุกปี แต่ทำไมยอมเขาไปหมด

แล้วอาวุธซื้อไว้สู้กะใคร

อ๋อลืมไป

ไว้ยิงคนไทยด้วยกันนั่นเอง
บันทึกการเข้า

คนไทยคนหนึ่ง
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 744


« ตอบ #2 เมื่อ: 10-07-2008, 19:20 »

อาวุธที่ซื้อมา ใช้การอะไรไม่ได้ครับ ที่ซื้อเพราะจะเอาค่าคอม อย่างเดียวครับ

ใครจำเรื่องกระสุนปืนครกที่ซื้อจากจีนได้บ้าง เป็นตัวอย่างที่นึกออกตอนนี้ครับ

ตอนนี้ ทหารรบไม่เป็นแล้ว เลยไม่อยากไปรบกับใครครับ  play golf and play save

ดีกว่าสบายกว่ากันเยอะเลย
บันทึกการเข้า
An.mkII
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,984


Out of kontrol....!!!!!


เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 10-07-2008, 19:23 »

เมื่อเช้า..เเวะไปที่ ห้องขายชาติ...

แหม....

เจอคารมของคุณ นงนุช เข้าไป แหมมมมันดิ้นนนนน 

 
บันทึกการเข้า
see - u
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,370


.......... I'm not Supergirl


« ตอบ #4 เมื่อ: 10-07-2008, 19:37 »

ถามว่ารัฐบาลจะรับผิดชอบอย่างไร  ?

    ตอบว่า ....  รัฐบาลจะไม่รับผิดชอบอะไรเลย นอกจากแถกไปวัน ๆ

    ยุคนี้... เป็นยุคที่อับจนไร้ซึ่งคนดีมาบริหารประเทศ และ ประชาชนก็ได้แต่ก่นด่า

    ด่า  จนไม่รู้จะสรรหาคำพูดไหนมาบรรยายแล้ว  .................

    และ  รัฐบาลก็จะไม่รับผิดชอบอะไร  ......  เช่นเคย  !!!


บันทึกการเข้า

    " I  will  unforgive  you  to  do  the  bad  thing  like  this. "   

                           

                        The  fox  changes  his  skin  but  not  his  habits.   *

                 Superman ( It's Not Easy )   >>  http://www.ijigg.com/songs/V2B7G4GPD
    
    
   "  กฏหมายต้องเดินหน้าเอาผิดต่อคนไม่ดี  ........  ไม่ใช่ปล่อยให้คนไม่ดีมากล่าวเอาโทษกฏหมาย  "

                                     
                                          
หน้า: [1]
    กระโดดไป: